วันสบายๆอยากหาคาเฟ่น่ารักๆ นั่งจิบชา ทานขนม ชมธรรมชาติเพลินๆ ในย่านเกษตรนวมินทร์ ต้องที่ “Portobello & Désiré” หรือ (พอร์ทโทเบลโล่ แอนด์ เดเซเร) คาเฟ่สไตล์วินเทจท่ามกลางสวนร่มรื่น ดีไปอีกหากได้เครื่องดื่มแก้วโปรดสักแก้ว เบเกอรี่ดีๆสักคนละชิ้นสองชิ้น หิวสั่งเมนูมาทาน นั่งกันนานๆได้ทั้งวันไปเลย

แว๊บแรกที่มาถึง Portobello & Désiré” ก็สัมผัสได้ถึงฟีลแบบว่านี่แหละเป็นวันสบายๆของเรา ลมพัดเย็นๆ ต้นไม้เขียวๆ ด้านนอกไม่รู้สึกร้อนเลยแม้เป็นเวลากลางวัน จึงเลือกที่จะนั่งในสวนด้านนอก แม้ที่ร้านจะมีโซน indoor ในห้องปรับอากาศเย็นฉ่ำให้ด้วยก็ตาม

โซนด้านในคาเฟ่ mood & tone จะเป็นแบบอบอุ่น ผ่อนคลาย มีความวินเทจน่ารักๆ

ถ้าอยากซื้อกลับบ้านก็มีเบเกอรี่แบบ take away ด้วยนะ

อาหารจานหลักที่สั่งมี 3 ชนิด Spaghetti Black Ink Seafood หรือสปาเกตตี้เส้นดำซีฟู้ดนั่นเอง จานนี้จุดเด่นอยู่ที่อาหารซีฟู้ดที่สด ได้รสชาติเหมือนไปทานที่ทะเลเลยทีเดียว

และด้วยที่ร้านเป็นสไตล์อังกฤษ จะไม่สั่ง Signature จานนี้ได้อย่างไร Fish & Chips อาหารประจำชาติของอังกฤษ มีเสิร์ฟที่นี่ด้วย ปลาทอดกรอบนอกนุ่มใน ปลาสดไม่คาว และมันฝรั่งทอดก็ทอดมาแบบกัดลงไปได้ texture มันฝรั่งเลย ปลาบีบมะนาวลงไปนิด อร่อยค่ะ แต่ทานเยอะติดๆกันใครไม่ชอบของทอดๆก็มีเลี่ยนได้บ้าง ต้องพักดื่มน้ำ หรือตักอย่างอื่นทานไปบ้าง

จานนี้เลยดีงาม ไว้ทานสลับกับ Fish & Chips นะ Grilled Scallop with Salsa and Rocket Salad หอยเชลล์ตัวเบ้ง ย่างมาแบบพอสุก ราดด้วยซอส Salsa เสิร์ฟพร้อม Rocket Salad เมนูนี้ตัวชูโรงคือหอยเชลล์ที่อวบ ใหญ่ สด หวาน กรุบกรอบมาก ด้วยรสชาติของวัตถุดิบเกรดเอที่ดีอยู่แล้ว บวกกับซอส Salsa ที่ปรุงมาแบบที่ไม่เข้มเกินจนตัดรสอร่อยตามธรรมชาติของหอยเชลล์ แต่กลับไปเพิ่มสีสันให้กับรสชาติของตัวหอยเอง สั่งเลยไม่มีผิดหวัง

เครื่องดื่มเติมความสดชื่นกันหน่อย

แก้วแรก Mixed Berry Soda สูตรของทางร้านเอง แค่ดื่มก็สดชื่นแล้ว ด้วยกลิ่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั่นเองที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ boost พลัง เย็นๆ หอมๆ รสเปรี้ยวหวานจากรสชาติของผลไม้ และความซ่าของโซดาเพิ่มความอร่อยไปอีก

Earl Grey Lemon Iced Tea ดื่มแล้วรู้สึกได้ถึงความเข้มข้นของชาเอิร์ลเกรย์ เป็นรสชาติของชาที่ชัดเจน กลิ่นเลมอนหอมๆ ตัวนี้แตกต่างจากทั่วไปที่มักจะหวานเพียงอย่างเดียว

อีกแก้วคือ Rose Soda ใครชอบกลิ่นกุหลาบ ชากุหลาบต้องลอง

อีกอย่างที่สั่งมาคือชาร้อน Rose with French Vanilla มาเป็นกาเลย เอาไว้ทานคู่กันกับสโคน มันก็จะเข้ากันมาก ทานไปจิบชาไป นี่คือนิพพานของการมาที่นี่เลย

สโคน เป็น Scone Serve with Clotted Cream and Homemade Jam แยมเป็นแยมสตรอว์เบอรี่ และบลูเบอรี่ มีสตรอว์เบอรี่สดมาด้วย ส่วน clotted cream ที่ทานกับสโคนจะเป็นสูตรพิเศษใกล้เคียงกับที่คนอังกฤษทานคู่กับสโคน

Strawberry Pana Cotta อร่อย ไม่หวานมากจึงทานได้เรื่อยๆ จานนี้สตรอว์เบอรี่มาเยอะมาก ซอสรสชาติเปรี้ยวอมหวาน พอทานกับสตรอว์เบอรี่และ Pana Cotta คือดีงาม หน้าตาก็สวยงาม ถ่ายรูปกันไปรัวๆ

เป็นบ่ายที่เพลินมากๆ การเดินทางไม่ยากเลย ตั้ง GPS มาที่ซอยประเสิรฐมนูกิจ 22 เข้ามานิดเดียวจะเจอป้าย ก็ตามป้ายไปเลยค่ะ

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
🕑 เปิดบริการ: วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 11.00 น. – 21.00 น. และวันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. – 22.00 น.
📍 พิกัด: ซอยประเสริฐมนูกิจ 22 (สุคนธสวัสดิ์ 11) ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
☎ หมายเลขโทรศัพท์: 098-289-8703
▶ เฟซบุ๊ค: www.facebook.com/portobelloanddesire/

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

 

วันนี้เรามีนัดเดทกับบรรดาน้องหมีสุดคิวท์ที่ “คาเฟ่บ้านหมี” ย่านพุทธมณฑลสาย 2 คาเฟ่&เรสเตอรองท์ที่มีมุมถ่ายรูปเพียบ เอาใจสายหวานที่ชื่นชอบตุ๊กตาหมีและผองเพื่อนสัตว์น่ารักๆ และที่เรามาสาขานี้เพราะว่าเป็นสาขาแรก เป็นจุดเริ่มต้นของ “คาเฟ่บ้านหมี” ที่เพิ่มมาอีก 2 สาขา คือ สาขา The Crystal SB ราชพฤกษ์ และสาขาพระราม 5 ตรงข้ามโรงเรียนเด่นหล้า

ที่นี่ถือเป็นคาเฟ่ขนาดใหญ่รองรับที่นั่งได้เป็นหลักร้อย มีทั้งที่นั่งแบบ indoor outdoor ห้องส่วนตัว มีโซนดนตรีสดด้วยซึ่งจะเล่นตอนเย็นๆ

น้องหมีมารอพี่ๆแล้ว ทุกโต๊ะจะมีตุ๊กตาหมีวางไว้ แถมของตกแต่งยังน่ารักไปอีก บรรยากาศร้านโล่งโปร่ง พอตกกลางคืนเปิดไฟสวยมาก ได้กลิ่นอายบรรยากาศงานเลี้ยงเฉลิมฉลองคริสมาสต์นิดๆ ร้านเปิดตั้งแต่ 11 โมงเช้า ไปจนถึง 5 ทุ่ม

“คาเฟ่บ้านหมี” มีเมนูที่เป็น Signature อันโด่งดังขึ้นชื่อเลื่องลือในโลก social ดังนั้นมาถึงที่แล้วต้องสั่งทาน ข้าวไข่ระเบิดราดลงบนกะเพรา ตอนนี้มีโปรโมชั่นจาก 299 ลดเหลือ 259 บาท เป็นกะเพราจานใหญ่ที่คุ้มค่าสุดๆ แบบที่ว่าข้าวมาเป็นหม้อ หมูครึ่งโลเป็นอย่างน้อย และไข่ดาว 5 ฟอง จานนี้ทาน 5 คนก็อิ่มได้ และที่สำคัญรสชาติแซ่บสมเป็นเมนูกะเพรา ใครที่ชอบกะเพราไม่ผิดหวังแน่นอน

จานเบ้อเร่อมาอีก 1 ข้าวไข่ข้นโป๊ะแตก ทะเลเดือดมีทั้งหอยแมลงภู่ กุ้ง ปลาหมึก ปูม้า ปรุงมารสเข้มข้น เหมือนได้ทานต้มยำน้ำคลุกคลิก

ปลากระพงลุยสวน จัดจ้านด้วยเครื่องสมุนไพร เข้ากันได้ดีกับเนื้อปลาทอดกรอบ

สเต็กลาวหมู เนื้อหมูติดมันนิดๆ ให้ texture ชุ่มฉ่ำไม่แห้งจนเกินไป ใครชอบติดมันเล็กๆน่าจะถูกใจเลยกับจานนี้

ตำปลาร้ากุ้งสด คงคอนเซปต์รสแซ่บ ถึงเครื่อง ส้มตำโรยด้วยเม็ดกระถิน กุ้งกรอบและสด

จานนี้ชอบที่สุดสปาเกตตี้ขี้เมาทะเล ผัดมาได้แซ่บมาก รสชาติคล้ายผัดฉ่า กุ้ง หอย ปู หมึก สดและให้เยอะ

เครื่องดื่มมันม่วงนมสด แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร รสชาตินุ่มๆ ฟองนมให้มาค่อนข้างหนา อีกแก้วเป็นน้ำสตรอเบอว์รี่โซดา ออกเปรี้ยวนิด ไม่หวานเกินไป ดื่มแล้วสดชื่น

“คาเฟ่บ้านหมี” เหมาะกับการมาทานกันเป็นก๊วน เพราะอาหารแต่ละจานบิ๊กเบิ้มมาก ถ้ามาแค่ 2 คน อาจจะสั่งเป็นจานเล็ก แต่คิดว่าถ้าอยากได้ความแกรนด์ จัดจานใหญ่มาเลย ได้แย่งกันทานกับเพื่อนสนุกดี ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณที่ได้รับ คุ้มค่าน่าฝากท้อง แน่นอน ที่ “คาเฟ่บ้านหมี”

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
🕑 เปิดบริการ: ทุกวัน เวลา 11.00 น. – 23.00 น.
📍 พิกัด: 989 ถนน สวนผัก แขวง ศาลาธรรมสพน์ เขต ทวีวัฒนากรุงเทพมหานคร
☎ หมายเลขโทรศัพท์: 083-9790099
◍ เวปไซต์: https://cafebanmee.business.site/
▶ เฟซบุ๊ค: www.facebook.com/CafeBanmee/

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

จิบเครื่องดื่มเรียกความสดชื่น แกล้มด้วยอาหารรสร้อนแรง ที่ “Ahh Kard D” หรือ “อากาศดี”  คาเฟ่ & เรสเตอรองท์สุดคูล ย่านอารีย์ ในซอยพิบูลวัฒนา 1คาเฟ่แห่งนี้เป็นให้คุณได้หลายอย่าง ทั้งโฮมคาเฟ่ในสวนแสนร่มรื่นใจกลางป่าคอนกรีต ที่นั่งพักเงียบๆละเลียดเครื่องดื่มแก้วโปรด ที่แฮงเอาท์ไว้ชวนเพื่อนทานข้าว ไปจนถึงที่จัดปาร์ตี้เล็กๆแบบส่วนตัวในบรรยากาศแสนอบอุ่นไม่เหมือนใคร

ต้อนรับด้วยป้าย “Ahh Kard D” Thai design CAFE เดินเข้าไปปุ๊ป! เหมือนโดนกับดักปั๊บ! จากอาคารทรงกล่องสี่เหลี่ยมสไตล์โมเดิร์นและบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้น้อยใหญ่ทำให้ต้องรัวชัตเตอร์และถ่ายรูปไปไม่ยั้ง

เมื่อได้เข้ามาในร้าน การออกแบบและจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นการผสมผสานหลอมรวมความเป็นไทยจากวัสดุเฟอร์นิเจอร์ไม้ เครื่องเรือนเครื่องใช้โบราณอย่างปิ่นโตและถ้วยชามมาไว้ในบ้านทรงโมเดิร์นได้แบบไม่เคอะเขิน มีทั้งความวินเทจย้อนยุค บรรยากาศร่วมสมัย ในสไตล์ less is more เลือกนั่งได้ทั้งโซน indoor และ outdoor เชื่อมโยงกับคอนเซปต์ของ “อากาศ” ในแต่ละฤดูกาล ที่นั่งจึงรองรับได้หลายอารมณ์ความสวยงามของ “อากาศ” ทั้งในห้องแบบกลาสเฮ้าส์เย็นฉ่ำที่มีหน้าต่างบานกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน โถงยกระดับที่ว่ากันว่ายามฝนตกแล้วนั่งโซนนี้มัน feel good จริงๆนะ และด้านนอกในสวนแสนร่มรื่นให้เราได้นั่งสูดอากาศดีๆ

มาถึงเหนื่อยๆสั่งเครื่องดื่มเลยดีกว่า เมนูที่มีดียิ่งกว่าหน้าตา  Cold Brew Frep Set กาแฟสกัดเย็นนำไปปั่นเป็นน้ำแข็งเกล็ดหิมะ เสิร์ฟพร้อมน้ำลำไย ท้อปปิ้งด้วยวุ้นมะพร้าวและแป๊ะก๊วย ด้วยรสชาติไม่คุ้นลิ้นเป็นความแปลกใหม่ที่ลองแล้วจะติดใจ เพราะดื่มแล้วสดชื่นจริงๆ

แก้วนี้ Espresso Ball กาแฟ shot เข้ม จากลาว บราซิล และไทย ชงใส่ box แช่น้ำแข็งไว้ เวลาทานจะมีนมสดร้อนมาคู่กัน เพียงค่อยๆเทลงไปในแก้ว Espresso Ball แค่นี้ก็ได้ลิ้มรสความนุ่มละมุนของกาแฟผสมนมร้อน

แก้วนี้ Fresh Expresso Tripple Sec แก้วนี้ก็เช่นกันเป็นกาแฟที่ดื่มแล้วได้กลิ่นและส่วนผสมของเปลือกส้ม น้ำผึ้งและน้ำมะนาว

Melon กรองเอาแต่น้ำ ผสมในชาแดงสไตล์ไทย เป็นเมนูใหม่ที่บาริสต้าคิดสูตรวันนี้วันแรกเลย

Pie Apple Cold Brew ใครที่ไม่ชอบรสเข้มของกาแฟ หันมาทางนี้เลย สั่งแก้วนี้ ได้ความหอมหวานสดชื่นของเนื้อสับปะรดและมะนาว ดื่มแล้วเจอ texture ของเนื้อสับปะรด ดีต่อใจ

สำหรับอาหารต้องบอกเลยว่าเด็ดขาดมาก ชอบรสจัดรสเจ็บ เครื่องเทศไม่ยั้ง ต้องที่ “อากาศดี” ไม่มีผิดหวัง เริ่มที่อาหารฟิวชั่นที่ใส่ความเผ็ดร้อนแบบไทยๆเข้าไปเต็มที่ “สปาเกตตี้สตอ” “สปาเก็ตตี้คอหมูย่าง” “สปาเก็ตตี้ใส้อั่ว” สามจานนี้รักมาก สปาเกตตี้ที่ทานยังไงก็ไม่เลี่ยน มีแต่ความเข้มข้น กลมกล่อมของเครื่องเทศและวัตถุดิบแบบไทยๆ

จานนี้มีเสิร์ฟวันที่เราไปวันแรก “ยำผักชี” รสชาติจัดจ้านแบบไม่หวงเครื่อง ใส่ใส้อั่ว โรยด้วยหอมเจียวทอดกรอบ จานนี้ได้เปรี้ยว เค็ม เผ็ด เป็นเมนูจี๊ดๆที่หาทานที่ไหนไม่ได้

“ยำสะเดาเนื้อกุ้งย่าง” เมนูนี้มีเป็น seasonal เมนู มีเฉพาะหน้าหนาว เพราะเราจะหาสะเดาได้ในหน้าหนาวเท่านั้น รสขมของสะเดาเรียกได้ว่าเข้ากันได้ดีเป็นหยินหยางกะน้ำยำที่เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน ครบรส

ปลากะพงทอดผัดพริกกระเทียม ความโดดเด่นอยู่ที่เนื้อปลากระพงที่ผัดเคล้ากับกระเทียมเจียวและพริกขี้หนูสวนบุบ​  ปรุงรสจัดจ้านสามรสถึงใจ

ยำปลาทูใส่ขนมจีน รสชาติจัดๆ แซ่บๆ

อีกจานชะอมผัดกะปิ ใส่ปลาทู โรยด้วยกากหมู

มาทานข้าวกัน บรรยากาศดีๆแบบนี้ย่านอารีย์ ต้องที่ “Ahh Kard D”

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
🕑 เปิดบริการ: วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 11.30 น. – 21.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
📍 พิกัด: ซอยพิบูลวัฒนา 1 แขวงสามเสนใน เขต พญาไท กรุงเทพมหานคร
☎ หมายเลขโทรศัพท์: 065-5875595
✉ อีเมลล์: ahhkardd@gmail.com
▶ เฟซบุ๊ค: www.facebook.com/ahhkardd/

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

เปลี่ยนบรรยากาศจากป่าคอนกรีต มาพักผ่อนริมน้ำชิลๆกันเถอะ แถมไม่พอเย็นๆก่อนกลับบ้านยังได้ช้อปปิ้งตลาดน้ำคลองขุดอีก วันหยุดนี้มีเพลินแน่นอน ก่อนอื่นตื่นสายๆไปหาอะไรยามเที่ยงทานกันที่ “Cafe De Canal” พิกัดอยู่ที่ซอยสุขสวัสดิ์ 66 จังหวัดสมุทรปราการ จอดรถได้ที่ลานจอดหน้าตลาดน้ำคลองขุดเลย จากนั้นเดินตามป้ายบอกทางไปสู่ “Cafe De Canal” ร้านตกแต่งแบบเรียบง่ายในกลาสเฮ้าส์ โล่งโปรงมองเห็นวิวคลอง ธรรมชาติโดยรอบร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และเฟิร์นประดับที่แขวนอยู่หลายจุดภายในร้าน

ที่นั่งมีให้เลือก 2 แบบ ในร่ม หรือกลางแจ้ง หากนั่งในร่มมีกลาสเฮ้าส์ 2 แห่ง ส่วนกลางแจ้งได้บรรยากาศมากเลยเป็นแพต่อขยายออกมาริมน้ำ เลือกนั่งได้หลายบรรยากาศตามใจชอบ

มาเหนื่อยๆขอจิบเครื่องดื่มให้ชื่นใจ กาแฟคาปูชิโน่เย็นและชามะนาว กาแฟที่นี่เป็นกาแฟแบบคั่วกลาง รสจะนุ่ม ติดเปรี้ยวนิดหน่อย รสชาติไม่เข้มเกินไป ส่วนชามะนาวดื่มแล้วสดชื่นดี

อาหารเป็นสไตล์ฟิวชั่น รสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย ต้องขอบอกว่าเชฟคนปรุงอาหารเคยเป็นเชฟโรงแรมดัง 5 ดาวมาก่อนด้วย เริ่มจานแรกสปาเกตตี้ครีมซอสกุ้ง อร่อยแบบไม่กลัวอ้วนเลย ครีมซอสเข้มข้น รสชาติกลมกล่อม ส่วนกุ้งสดกรอบเด้ง

ซุปเห็ด ซิกเนเจอร์ของร้าน เป็นอีกเมนูที่มาถึง คาเฟ่ เดอ คานาล แล้วต้องลอง

เบรคความอินเตอร์ เข้าสู่โหมดแซ่บๆกันบ้าง ข้าวผัดต้มยำทะเล รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน อร่อยมากๆค่ะ วัตถุดิบใช้กุ้งและปลาหมึกตัวใหญ่ สดๆ

ต่อด้วยสปาเกตตี้เส้นดำผัดฉ่าทะเล รสชาติร้อนแรงเครื่องถึง วัตถุดิบสด

สลัดปูอัดซอสงาคั่วญี่ปุ่นก็ดีงามนะคะ เป็นเมนูเบาๆที่ทานได้ไม่เบื่อ

ของหวานจานนี้คือ Signature ของทางร้าน เค้กช็อกโกแลต

ที่ร้านมีบริการเรือถีบให้ปั่นเล่นด้วย

ปลาเยอะ ว่ายมาให้เห็นเลย มีร้านขายอาหารปลาที่ตลาดน้ำคลองขุดที่อยู่ใกล้ๆกันด้วย

นั่งเล่นเพลินๆเวลาผ่านไปเร็วมาก ตอนเย็นก่อนกลับแวะเดินเล่นตลาดน้ำคลองขุดดูนะคะ มีอาหารเยอะแยะ และด้วยแถบนี้เป็นชุมชนอิสลามจึงไม่ได้มีแค่อาหารไทย ยังมีอาหารฮาลาลอีกด้วย มีลานเบียร์ริมคลอง เย็นๆมีดนตรีสดมาเล่น บรรยากาศสุดจะชิล

อาหารราคาย่อมเยาว์ และมาในปริมาณที่เยอะมาก เช่นกระเพราจานนี้ 50 บาทเท่านั้น ของทะเลกุ้งปลาหมึกจัดเต็ม มีไข่ดาวด้วย หรือจะสั่งเป็นกะเพราะถาดก็ได้

และอันนี้ลูกชิ้นหมูกะทิเจ้าดัง ใครมาก็ต้องมาลอง

ข้าวเกรียบปลาทู ไม่เกินไปเลยถ้าจะบอกว่าเป็นข้าวเกรียบปลาทูที่อร่อยที่สุด ชอบมาก ซื้อเป็นของฝากคนรับติดใจแน่ๆ

ของเยอะแยะ น่าทานทั้งนั้นเลย ยำปูม้าสดๆ ตัวละ 25 บาทเท่านั้น

เสาร์อาทิตย์ยังไม่มีแพลนลองไปได้เลยค่ะ รับรองเพลินๆ อิ่มอร่อยสายจรดเย็น

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
🕑 เปิดบริการ: วันเสาร์ – วันพฤหัสบดี เวลา 10.00 น. – 19.00 น. (ปิดทุกวันศุกร์)
📍 พิกัด: ตลาดน้ำยามเย็นคลองขุดเจ้าเมือง สุขสวัสดิ์ 66 พระประแดง
☎ หมายเลขโทรศัพท์: 086-5328676
▶ เฟซบุ๊ค: www.facebook.com/cafedecanal/

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

✿✿ โรงแรมน่ารัก น่าพักผ่อน เค้าเสิร์ฟอะไรเป็นอาหารเช้ากันบ้างน้าาาา…

จะดีไหมคะถ้าเราพักโรงแรมที่เราถูกใจห้องพักและบรรยากาศ แถมตอนเช้ายังมีของอร่อยๆให้เราทาน ไม่ว่าจะเป็นบุฟเฟต์อลังการ ไปจนถึงเซ็ทเมนูสุดอร่อย ที่ได้ทานแล้วเป็นติดใจ
วันนี้ HotelandResort รวบรวมมาให้แล้ว ว่าเราไปทานที่ไหนแล้วติดใจกันบ้างในเรื่องของรสชาติ คุณภาพ และบรรยากาศของห้องอาหาร ตามไปดูกันดีกว่า กับ 8 ที่พักที่เสิร์ฟอาหารเช้าที่เราเลิฟ ❤

     🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳

ทานอาหารเช้าพร้อมพระอาทิตย์ขึ้นที่ “Coral Tree Villa Huahin”

ღ ღ เช้านี้เรามีนัดที่ห้องอาหาร “Coral Vine” ห้องอาหารของ “Coral Tree Villa Huahin” ที่ที่เราจะสามารถชมแสงเช้าได้จากโต๊ะทานข้าวเลยทีเดียว “Coral Vine” เสิร์ฟเมนูอาหารเช้าให้แขกที่มาพักทุกเช้าเวลา 7.00 น. ซึ่งแขกที่พักวันธรรมดาอาหารเช้าจะเสิร์ฟแบบ a la cart ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์จะเสิร์ฟเมนูอาหารแบบบุฟเฟต์ สำหรับวันนี้เราจะพาไปดูไลน์อาหารบุฟเฟต์ของ “Coral Tree Villa Huahin” ว่ามีอะไรที่น่าทานและอะไรที่เราทานแล้วชอบสุดๆ

✎ อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ http://hotelandresortthailand.com/read/?p=17187

🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳

ส่องไลน์บุฟเฟต์อาหารเช้าที่ “ธารามันตรา ชะอำรีสอร์ท” โรงแรมหรูริมหาดชะอำ

ღ ღ ถ้าพูดถึงโรงแรมหรูริมหาดชะอำต้องมีที่นี่ติดอยู่ใน list รายชื่อแน่นอน “ธารามันตรา ชะอำรีสอร์ท” และด้วยความที่เป็นโรงแรมขนาดบิ๊ก เรื่องอาหารเช้าก็ต้องจัดใหญ่อยู่แล้ว วันนี้เราขอพามาดูอย่างเจาะลึกถึงไลน์อาหารเช้าของห้องอาหาร “คอฟฟี่ช็อป” ว่ามีอะไรน่าทาน และเมนูไหนต้องทานแบบพลาดไม่ได้กันบ้าง

✎ อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ http://hotelandresortthailand.com/read/?p=15230

🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳

อิ่มเพลินยามเช้าที่ “ฮาเว่น รีสอร์ท หัวหิน”

ღ ღ “Sea Soul by Haven” ห้องอาหารบรรยากาศดีริมหาด ตอนเย็นเหมาะจิบค็อกเทลทานข้าวชมวิวทะเล ส่วนยามเช้าเป็นที่ตั้งไลน์อาหารบุฟเฟต์ของ “ฮาเว่น รีสอร์ท หัวหิน” ในห้องปรับอากาศเย็นฉ่ำ โล่งโปรงสไตล์กลาสเฮ้าส์ ความประทับใจแรกที่มีต่อ “Sea Soul by Haven” คือเมนูและรสชาติที่ถูกใจคนไทย มีเมนูน่าทานหลายอย่างที่เราอยากให้คุณชิม

✎ อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ http://hotelandresortthailand.com/read/?p=17139

🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳

มื้อแรกของวันจะทานเมื่อไหร่ก็ได้ ที่ “Chocolate Box Huahin”

ღ ღ มีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์ที่ “Chocolate Box Huahin” ที่พักเปิดใหม่ใน Seenspace Huahin แหล่งแฮงเอาท์สุดชิลริมหาดที่เอาใจ life style คนรุ่นใหม่ เปลี่ยนทุกกฎของการเข้าพักในโรงแรมแบบเดิมๆ เพราะที่นี่นอกจากเป็นที่พักบรรยากาศสุดคูล เท่ห์ๆสไตล์โมเดิร์น ลอฟท์ ผู้เข้าพักยังไม่ต้องรีบตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าอีกด้วย

✎ อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ http://hotelandresortthailand.com/read/?p=16422

🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳

อาหารเช้าริมหาด บรรยากาศวินเทจ ที่ “Living room bistro Hua Hin” กรีน แกลอรี หัวหิน

ღ ღ ท่านหญิงท่านชายทั้งหลาย ตื่นเช้าแต่งองค์ทรงเครื่องแต่งตัวย้อนยุค ใส่กระโปรงพริ้วๆบานๆ มาทานอาหารเช้า จะหยิบหมวกมาสักใบไว้ใส่ถ่ายรูปริมหาดก็เก๋นะ ที่ “Living room bistro Hua Hin” ของกรีน แกลอรี หัวหิน ห้องอาหารสไตล์วินเทจประยุกต์อยู่ติดริมทะเล ได้ฟีลทานไปชมทะเลไปอย่างแท้จริง ห้องอาหารแบ่งเป็น 2 โซน คือ indoor และ out door

✎ อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ http://hotelandresortthailand.com/read/?p=14993

🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳

“The Traveller’s” เสิร์ฟจานต่อจาน ได้ทานริมทะเล ที่ “วาฏิกา รีโซวิลล่า กุยบุรี”

ღ ღ อาหารเช้าที่นี่สั่งปุ๊บได้ทานปั๊บ ทำกันใหม่ๆ ชอบรสชาติแบบไหนจัดให้ได้แน่นอน “The Traveller’s” ห้องอาหารหลักของ “วาฏิกา รีโซวิลล่า กุยบุรี” เสิร์ฟอาหารเช้าแบบ Set Menu ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเซ็ทเมนูที่มองดูเหมือนบุฟเฟต์ขนาดย่อม โดยแบ่งประเภทอาหารให้เลือกเป็น Set Munu อาหารไทย อาหารยุโรป และอเมริกันเบรคฟัสท์

✎ อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ http://hotelandresortthailand.com/read/?p=16928

🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳

อิ่มอร่อยก่อนไปผจญภัยที่ “วาฏิกา แอดเวนเจอร์ รีทรีทติค รีสอร์ท กุยบุรี”

ღ ღ มาเที่ยว “วาฏิกา แอดเวนเจอร์ รีทรีทติค รีสอร์ท กุยบุรี” มันก็ต้องใช้พลังงานเยอะหน่อยนะคะ ก็ชื่อเค้าบอกถึงว่าที่นี่เป็นที่พักที่มากด้วยกิจกรรม ผจญภัยฐานต่างๆ ยิงธนู ยิงปืน โรยตัว โหนสลิง ปีนผา สะพานอากาศ หรือปั่นจักรยาน ทำกิจกรรมเหนื่อยๆ พักผ่อนเสร็จตื่นเช้ามาหาอะไรอร่อยๆทานดีกว่า ที่ห้องอาหารของ “วาฏิกา แอดเวนเจอร์ รีทรีทติค รีสอร์ท กุยบุรี” เสิร์ฟอาหารเช้าตั้งแต่ 07.00-10.30 น. เป็นการให้บริการอาหารแบบ Menu Set ทำใหม่เสิร์ฟจานต่อจาน

✎ อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ http://hotelandresortthailand.com/read/?p=16955

🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳

มื้อเบรคฟัสท์กินลมชมวิว ที่ “เดอะ เฮน หัวหิน”

ღ ღ “เดอะ เฮน หัวหิน” ที่พักวินเทจขนาดเล็กริมหาดหัวหินแห่งนี้ คือที่หลีกเร้นจากความวุ่นวายภายนอกได้เป็นอย่างดี การที่ได้พักที่นี่เราจึงพบความสงบ ชาร์จพลังตัวเองได้จนเต็ม ห้องอาหารของ “เดอะ เฮน หัวหิน” แม้ไม่ได้หวือหวาแฟนตาซี แต่เราพบจุดเด่นของที่นี่ที่ต้องบอกกับตัวเองว่าสะกดเราจนอยู่หมัด นั่นคือบรรยากาศความเป็นส่วนตัว ความวินเทจที่แสนคลาสสิค และข้างหน้านั่น ทะเลสีสีฟ้าเงียบสงบ พัดพาคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอก จนเราอยากนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ลุกไปไหน

✎ อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ http://hotelandresortthailand.com/read/?p=17112

🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳 🍳

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

เช้านี้เรามีนัดที่ห้องอาหาร “Coral Vine” ห้องอาหารของ “Coral Tree Villa Huahin” ที่ที่เราจะสามารถชมแสงเช้าได้จากโต๊ะทานข้าวเลยทีเดียว  “Coral Vine” เสิร์ฟเมนูอาหารเช้าให้แขกที่มาพักทุกเช้าเวลา 7.00 น. ซึ่งแขกที่พักวันธรรมดาอาหารเช้าจะเสิร์ฟแบบ a la cart ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์จะเสิร์ฟเมนูอาหารแบบบุฟเฟต์ สำหรับวันนี้เราจะพาไปดูไลน์อาหารบุฟเฟต์ของ  “Coral Tree Villa Huahin” ว่ามีอะไรที่น่าทานและอะไรที่เราทานแล้วชอบสุดๆ

“Coral Vine” เป็นห้องอาหารริมทะเล หันหน้าสู่ทิศตะวันออก จึงเห็นพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นทั่วท้องฟ้ากลายเป็นสีชมพูสวยงามมาก ส่วนตอนเย็นห้องอาหารก็เปิดให้บริการด้วยนะคะ “Coral Vine” บรรยากาศจะเป็นแบบชิลๆโรแมนติกหน่อย

ไลน์อาหารแยกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคืออาหารตะวันตกและอาหารเอเชีย ที่นั่งมี 2 โซนคือ indoor และ outdoor

แนะนำ station ต่างๆ เริ่มต้นด้วยก๋วยเตี๋ยวและโจ๊กอยู่รวมเป็น Station เดียวกันเลย ก๋วยเตี๋ยวที่ทานวันนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ซึ่งเมนูแต่ละอาทิตย์สลับสับเปลี่ยนกันไป ส่วนโจ๊กเป็นเมนูขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งที่เสิร์ฟที่คอรัล ไวน์ ข้าวชั้นดีที่ใช้ทำโจ๊กไม่ข้นกำลังพอเหมาะและนุ่มมาก อร่อยยิ่งขึ้นเมื่อทานกับไข่ลวก เครื่องในและหมูสับ

ข้างๆมีข้าวเหนียวหมูปิ้ง หมูฝอยและไก่ทอดด้วย มุมนี้ popular มากแขกทุกคนชอบ

ขนมปังนึ่งทานกับสังขยารสใบเตยและชาไทย อร่อยมากๆ

Egg Station ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่แดงสุกไม่สุก สั่งได้เลย

ปาท่องโก๋แบบเกลียวยาว ไม่อมน้ำมัน กรอบนอกนุ่มใน น้ำเต้าหู้มีเสิร์ฟพร้อมเครื่องอย่างเม็ดแมงลัก ถั่วแดง วุ้นและลูกเดือย

ด้านข้างมีโถซีเรียลวางไว้ด้วย เราจะตักถั่วแดงหรือเม็ดแมงลักใส่ชามซีเรียลด้วยก็ได้

เครื่องดื่มมีน้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล นม ชา-กาแฟ และ Infused Water

ซุปมิโซะของเค้าอร่อยมาก มีเส้นบะหมี่ ต้นหอม เต้าหู้และสาหร่ายเป็น topping ให้ใส่ลงไปด้วย มีไลน์ซูชิเล็กๆด้วย

ไส้กรอกต่างๆและแฮมใช้ของคุณภาพดี

หมูอบ พร้อมซอสจิ้มเป็นซอสแอปเปิ้ลและสปิแนช

มีกล้วยทอดด้วย ทอดให้ดูสดๆเลย เท่าที่สังเกตุดูเค้าใช้น้ำมันใหม่ กล้วยเลยกรอบไม่อมน้ำมัน ซึ่งช่วงที่เราไปเป็นช่วงทานเจ ก็เลยมีเผือกทอด มันทอดด้วย รวมถึงผัดเห็ดรวม ผัดกระเพราเจ เต้าหู้ทอด

ซาลาเปาไส้หมูสับ ไส้ครีม ขนมจีบและฮะเก๋าพร้อมทาน อุ่นเสมอในตู้อบ

ไลน์เบเกอรี่ที่นี่รับจากเจ้าดังในหัวหิน ขนมปังแผ่น พาย เดนิช ครัวซองท์ การันตีสดใหม่จากเตาทุกวัน

สลัดบาร์เน้นผักสดกรอบ ปลอดสารพิษ พร้อมน้ำเดรสซิ่งรสเข้มข้น มีเปาะเปี๊ยะผักใส่ในแก้วค็อกเทลเล็กๆพอคำ

เนยแข็งและชีส

อาหารเอเชียมีข้าวต้มใบเตย และเครื่องที่ทานกับข้าวต้มจะมีหมูหวาน ปลากรอบ และยำผักกาดดอง

ใครชอบจัดหนักจัดเต็มยามเช้าก็มีเมนูรสจัดๆให้ทานอย่างแกงเขียวหวานหมู สปาเกตตี้ขี้เมาทะเล ปลาผัดคื่นช่าย และข้าวผัดแฮม

ตบท้ายด้วยโยเกิร์ต ฟรุตสลัด และผลไม้ ที่ลองแล้วประทับใจคือกล้วยไข่หอมหวาน

ทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว มื้อเย็นไม่ต้องแพลนไปทานที่ไหนไกลเลย เราติดใจอยู่แต่ที่ “Coral Vine” นี่แหละ ก็บรรยากาศมันน่ารับลมทะเลมาก แถมอาหารเช้าของเค้ารสชาติก็อร่อยแบบนี้ การันตีมื้อเย็นได้เลยว่าคงอร่อยไม่แพ้กัน แม้ไม่ได้พักที่นี่ ใครผ่านเห็นป้ายร้านอาหาร “Coral Vine” ลองเลี้ยวเข้ามาทานได้ เป็นร้านอาหารในโรงแรม  “Coral Tree Villa Huahin” รับรองว่าได้ประทับใจกับอาหารเย็นบรรยากาศรีสอร์ทสุดชิล

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
☎ หมายเลขโทรศัพท์: 032-527790, 032-527800
✉ อีเมลล์: rsvn@coraltreevilla.com, sm1@coraltreevilla.com
◍ เวปไซต์: www.coraltreevilla.com
▶ เฟซบุ๊ค: www.facebook.com/coraltreevilla/

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

“Sea Soul by Haven” ห้องอาหารบรรยากาศดีริมหาด ตอนเย็นเหมาะจิบค็อกเทลทานข้าวชมวิวทะเล ส่วนยามเช้าเป็นที่ตั้งไลน์อาหารบุฟเฟต์ของ “ฮาเว่น รีสอร์ท หัวหิน” ในห้องปรับอากาศเย็นฉ่ำ โล่งโปรงสไตล์กลาสเฮ้าส์ ความประทับใจแรกที่มีต่อ “Sea Soul by Haven” คือเมนูและรสชาติที่ถูกใจคนไทย มีเมนูน่าทานหลายอย่างที่เราอยากให้คุณชิม

ทักทายด้วย Egg Station หน้าทางเดินเข้าห้องอาหาร ไข่ไก่ฟองโตๆ เอาไปทำไข่ดาว ไข่เจียว หรือออมเล็ท ปรุงสดๆให้ดูเลย

เบเกอรี่มีหลายประเภทให้เลือก บัตเตอร์เค้กลายหินอ่อน และช็อกโกแลตมัฟฟินเอาใจไปเลย นอกจากนี้มีขนมปังโฮลวีท เดนิชหลากรส

แยมทาขนมปังและน้ำผึ้ง

ไส้กรอกมีให้เลือก 2 รส มาพร้อมกับเบคอนทอด แฮมและชีส

สปาเกตตี้ครีมซอสรสชาติดี ใกล้ๆกันคือแพนเค้ก

สำหรับเมนูต่อไปคือซีฟู้ดผัดพริก ปลาหมึกตัวใหญ่และกุ้งสดกรอบ และปีกไก่ซอสน้ำแดง ผัดบะหมี่เหลืองซีฟู้ด อาหารไทยอร่อยทุกอย่าง

ข้าวต้มไก่ และซุป

สลัดบาร์มีผักสลัด เดรสซิ่ง และเครื่องเคียงให้เลือกตามชอบ

โยเกิร์ต topping ด้วยฟรุตสลัดและเสาวรส

เครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้ชากาแฟ และนมสำหรับใส่ซีเรียลด้วย

ผลไม้แตงโม สับปะรด มะละกอ

อาหารแต่ละวันเมนูจะสลับสับเปลี่ยนกันไปนะคะ แต่ถ้าหากมาวันไหนแล้วคุณเจอปีกไก่น้ำแดง และซีฟู้ดผัดพริก จะพลาดไม่ได้นะคะ แม้อิ่มก็ต้องชิม ถือว่าเป็นจานเด็ดของที่นี่ค่ะ สำหรับเบเกอรี่ยกให้มัฟฟินช็อกโกแลต ชิ้นเดียวไม่พอจริงๆ

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
☎ หมายเลขโทรศัพท์: 032 653 154
📱: 088-227-2229 / 088-227-2228
✉ อีเมลล์: rsvn@haven-huahin.com
◍ เวปไซต์: www.haven-huahin.com
▶ เฟซบุ๊ค: www.facebook.com/haven.huahin

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

“เดอะ เฮน หัวหิน” ที่พักวินเทจขนาดเล็กริมหาดหัวหินแห่งนี้ คือที่หลีกเร้นจากความวุ่นวายภายนอกได้เป็นอย่างดี การที่ได้พักที่นี่เราจึงพบความสงบ ชาร์จพลังตัวเองได้จนเต็ม ห้องอาหารของ “เดอะ เฮน หัวหิน” แม้ไม่ได้หวือหวาแฟนตาซี แต่เราพบจุดเด่นของที่นี่ที่ต้องบอกกับตัวเองว่าสะกดเราจนอยู่หมัด นั่นคือบรรยากาศความเป็นส่วนตัว ความวินเทจที่แสนคลาสสิค และข้างหน้านั่น ทะเลสีสีฟ้าเงียบสงบ พัดพาคลื่นกระทบฝั่งเป็นระลอก จนเราอยากนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ลุกไปไหน

บรรยากาศห้องอาหารเรียบง่าย ได้ฟีลวันพักผ่อนริมทะเล

ห้องอาหาร เปิดบริการอาหารเช้า เริ่มตั้งแต่ 8.00 น. – 10.00 น. ความพิเศษของห้องอาหารเช้าที่นี่ไม่มีใครเหมือนเสียด้วยสิ นั่นคือว่าทางห้องอาหารจะไปต่อแถวแทนคุณเพื่อซื้ออาหารเช้าร้านดังมาให้ทานนั่นก็คือร้าน “เจ๊กเปี๊ยะ” ร้านขายอาหารเช้าในตำนานของหัวหินนั่นเอง 1 ท่านเลือกได้ 1 เมนูเซ็ท เริ่มจากปาท่องโก๋ ทานคู่กับโจ๊กและไข่ลวก สำหรับตะกร้าขนมปังจะเสิร์ฟมาให้เป็นออร์เดิร์ฟอยู่แล้ว มาพร้อมกับแยมและเนยทาขนมปัง ส่วนเครื่องดื่มเลือกได้ว่าจะเป็นนม น้ำผลไม้ หรือกาแฟดำ

จานต่อมาข้าวมันไก่ น้ำจิ้มเด็ดมาก ไก่ก็เนื้อล้วนแน่นๆเลย ซดพร้อมน้ำซุป

ต้มเลือดหมูใส่ใบตำลึงหมูสับที่อร่อยที่สุด ซดน้ำหมดชามเลย

เมนูอเมริกันเบรคฟัสท์ก็มีให้เลือกเช่นกัน เสิร์ฟมาพร้อมไส้กรอก เบคอนและแฮม

เป็นอาหารเช้ามื้อง่ายๆ แต่รสชาติอร่อยเด็ดขาดไปเลย ทานเสร็จแล้วนั่งกินลมชมวิวต่อไปยาวๆ หรือเดินเล่นชมบรรยากาศหัวหินแบบวินเทจคลาสสิคก็เพลินดี

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
☎ หมายเลขโทรศัพท์: 032-531331 , 085-9155662
✉ อีเมลล์: info@thehenhuahin.com
◍ เวปไซต์: www.thehenhuahin.com
▶ เฟซบุ๊ค: www.facebook.com/The-Hen-Hua-Hin

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

🌧 เริ่มฤดูกาลปลายฝนต้นหนาวกันแล้ว เลยหาเรื่องเที่ยวพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติชื้นๆ กับลมเย็นนิดๆให้พอหนาวกาย นั่งชมไอหมอกยามเช้า นึกขึ้นได้ว่า “โก๋ เมืองกาญจน์ พาราไดซ์ วิว รีสอร์ท” นี่แหละตอบโจทย์สุดๆ ทั้งธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทั้งบรรยากาศดี และไม่ไกลจากกรุงเทพฯอีกด้วย ว่ากันแล้วก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋ามุ่งตรงไปที่จังหวัดกาญจนบุรีกันเลย ไปครั้งนี้ถ้าเดินทางคนเดียวคงจะเหงาแย่ เลยพกแก๊ง Hotelandresort ไปด้วยกันเลย

เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ มุ่งตรงไปที่ “โก๋ เมืองกาญจน์ พาราไดซ์ วิว รีสอร์ท” ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง แต่เชื่อว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่ามาก เมื่อไปถึงที่รีสอร์ทต้องร้องว้าว เพราะบรรยากาศที่นี่ให้อารมณ์แบบธรรมชาติจริงๆ รีสอร์ทโอบล้อมด้วยภูเขาสูงใหญ่ มีสายน้ำจากแม่น้ำแควไหลผ่าน พวกเรายังคิดกันว่าโชคดีจังที่ได้มาพักที่นี่

พอมาถึงก็เช็คอินเข้าห้องพักกันก่อนเลย สำหรับห้องพักของพวกเราวันนี้จะเป็นแพพักริมน้ำ ซึ่งจะต้องเดินลงไปข้างล่าง และระหว่างทางเดินลงมีที่เขียนป้ายไม้สุดคลาสสิคไว้เป็นที่ระลึก เห็นแล้วก็รู้เก๋ไปอีกแบบ

และแล้วเราก็มาถึงห้องพัก เมื่อไขกุญแจห้องและเปิดประตูเข้าไปก็ต้องร้องว้าวเป็นครั้งที่ 2 เมื่อเห็นสายน้ำไหลผ่าน และธรรมชาติจากทางหน้าห้อง มันช่างสวยจริงๆเลย ขนาดห้องกำลังพอเหมาะ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเตียงใหญ่ ทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และห้องน้ำในตัว พร้อมฝักบัวแบบ rain shower เครื่องทำน้ำอุ่น และไฮไลท์ของห้องนี้คงจะเป็นระเบียงด้านหน้า มีเตียงขนาดพอดีสำหรับนอนเล่น เก้าอี้ และโต๊ะ สำหรับนั่งชิลๆ ดูแม่น้ำไหลผ่าน สูดกลิ่นไอธรรมชาติเพลินๆกันไปเลย

ทางรีสอร์ทใจดีให้ไปดูห้องพักโซนอื่นๆด้วยนะคะ เริ่มด้วยแพริมน้ำแบบครอบครัว พักได้ 4 ท่านค่ะ

ส่วนอีกโซนจะชื่อบ้านริมผา ตั้งอยู่ด้านบนฝั่ง พักได้ทั้งหมด 4 ท่าน จากบ้านพักสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำไหลผ่าน เหมาะสำหรับการมาพักแบบครอบครัวค่ะ

ชื่นชมห้องพักกันได้สักพัก พวกเราก็ต้องไปลุยกิจกรรมต่างๆของทางรีสอร์ท เริ่มต้นด้วยล่องแพเปียก เป็นกิจกรรมที่สนุกมากๆ เปียกสมชื่อจริงๆค่ะ เรียกน้ำย่อยความสนุกได้ดีทีเดียว ก่อนไปล่องแพเปียกต้องสวมเสื้อชูชีพกันทุกคนนะคะ

เมื่อแพเริ่มเคลื่อนพวกเราทุกคนเริ่มสนุก มีน้ำไหลผ่านแพที่พวกเรานั่งทำให้น้ำพุ่งออกมาตามซอกแพ เปียกกันถ้วนหน้าเลยเจ้าค่ะ

บรรยากาศเบื้องหน้าเป็นภูเขาสูงใหญ่ ท้องฟ้าโปร่งใส

ทุกคนเลยลองลุกขึ้นยืนในขณะที่แพวิ่งไปข้างหน้า ให้อารมณ์ตื่นเต้นไปอีกแบบ เพราะไม่รู้จะตกแพกันตอนไหน 555

เค้าจะนำแพของเราไปวนเกาะเล็กๆ ซึ่งอยู่กลางน้ำ ไม่ไกลจากรีสอร์ทเลย พวกเราร้องขอลงไปเกาะเล็กๆนั่น

บนเกาะเล็กๆ เป็นหินที่ถูกถมกันจนเป็นเกาะกลางน้ำ เมื่อไปยืนบนเกาะ พวกเราเหมือนคนเล็กๆคนนึงเลยค่ะ

เสร็จจากเกาะกลางน้ำ ก็นั่งแพกลับไปที่รีสอร์ท แต่ความสนุกยังไม่หมดเท่านี้นะคะ ทางรีสอร์ทใจดีนำแพใหญ่ของทางรีสอร์ท พาพวกเราล่องแพชมธรรมชาติ

ภายในแพใหญ่จะมีเก้าอี้ และโต๊ะสำหรับนั่งเล่น จัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย มีห้องน้ำอีกด้วยนะคะ

เมื่อแพเริ่มเคลื่อนทุกคนรีบหยิบโทรศัพท์มาเซลฟี่กันใหญ่ เพราะบรรยากาศรอบข้างสวยด้วยธรรมชาติเกินคำบรรยาย จนต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ

หลังจากนั้นทุกคนเริ่มหาจับจองที่นั่ง เพื่อนั่งชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ

แพใหญ่นั้นพาเราไปถึงใกล้ๆกับช่องเขาขาด และหันหัวกลับไปที่รีสอร์ท

ระหว่างทางกลับนั้นจะผ่านน้ำตกเล็กๆ มีความสวยงามไปอีกแบบ ทุกคนหยิบมือถือมาถ่ายรูปรัวๆ

ล่องแพชมธรรมชาติขอบอกว่า ถ้ามาพักที่นี่ต้องมานั่งเลยนะคะ ธรรมชาติสองข้างทางระหว่างไปคือดีจริงๆค่ะ

และเมื่อกลับมาถึงรีสอร์ท ตัวพวกเราก็เปียกกันแล้ว เลยรีบวิ่งตรงไปที่จุดเล่นน้ำที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ (ต้องใส่เสื้อชูชีพเล่นน้ำด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราค่ะ)

จุดเล่นน้ำ จะมีสไลเดอร์สีฟ้าขนาดพอดี ให้เราได้เล่นอย่างสนุกสนาน สำหรับตัวเราเองเล่นไป 4 รอบ สนุกมากๆค่ะ

มีห่วงยาง และแผ่นยางสีดำให้ได้ปีนขึ้นไปนั่งด้วยนะคะ ปีนกว่าจะขึ้นแอบเมื่อยเหมือนกัน 555

สายน้ำที่นี่ค่อนข้างไหลแรง ถ้ามีเด็กๆมาด้วยแนะนำให้ดูแลอย่างใกล้ชิดนะคะ

เล่นกันพอสนุก เผลอแปปเดียวก็ 18.00 น. เย็นมากๆแล้ว (ทางรีสอร์ทให้ลงเล่นน้ำถึง 18.00 น. นะคะ เผื่อความปลอดภัยของตัวเราเองค่ะ) พวกเราก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัว และไปรับประทานอาหารเย็นที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ

มาแล้วมื้อเย็นของเรา มื้อเย็นของรีสอร์ทสำหรับลูกค้าที่จองกับทางรีสอร์ทจะรวมมื้อเย็นเรียบร้อยแล้วค่ะ อยากจะบอกว่าหิวมากๆ เห็นอะไรน่าทานไปหมด สงสัยจะหมดพลังไปเยอะ

มาดูหน้าตามื้อเย็นของเรา เริ่มต้นด้วยต้มจืดฟักใส่กระดูกหมูและเห็ด กระดูกหมูเปื่อยกำลังดี รสชาติซดแล้วโล่งคอเลยค่ะ

มัสมั่นไก่ ไก่นุ่มลิ้นหอมกลิ่นเครื่องเทศมากค่ะ

ผัดพริกหยวกใส่ไก่ รสชาติกำลังดี ไม่เผ็ดจนเกินไป

ปลาราดพริก เนื้อปลาชิ้นกำลังดีราดซอสหวานอมเปรี้ยว เผ็ดน้อยๆ คนไม่ทานเผ็ดยังบอกว่าอร่อยค่ะ

ผัดกะหล่ำปลีน้ำปลา รสชาติพอดี กะหล่ำปลีสดกรอบ ยกนิ้วให้เลยค่ะ

น้ำพริกเผาผสมกากหมู เมนูนี้ให้ความเผ็ดแซ่บถึงใจ มีผักแกล้มให้ด้วย กินกันเพลินเลยค่ะ และท้ายสุดมีผลไม้ไว้เตรียมให้ นั่นคือส้มโอนั่นเอง

เมื่อพวกเราทุกคนอิ่มแล้ว แอบเหลือบไปเห็นบาร์เล็กๆ จึงสั่งเหล้าปั่นมานั่งกินกัน

มาแล้วๆ แก้วใหญ่มาก แต่สุดท้ายก็หมดนะคะ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน เพื่อลุยต่ออีกทีพรุ่งนี้เช้า

ตัวเราเองตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 07.00 น. พอนาฬิกาดังปุ๊บรีบเด้งตัวออกจากที่นอนเปิดประตูตรงระเบียง แล้วก็ต้องร้องว้าวเป็นครั้งที่ 3 บรรยากาศเย็นกำลังดี ภูเขาสูงๆที่เราเห็นเมื่อวานนี้กับหายไป เพราะมีหมอกหนามาบดบังแทน บรรยากาศเช้านี้ดีจริงๆ อยากหยุดเวลาตรงนี้ไว้เลยค่ะ

หลังจากแปรงฟัน ล้างหน้าแล้ว เราก็ออกไปทานอาหารเช้า เวลาทานอาหารเช้าคือ 07.30 น. – 08.30 น. นะคะ ที่รับประทานอาหาเช้า ก็คือที่เดิม เพิ่มเติมคือบรรยากาศที่ใช่เลยค่ะ

มาดูเมนูอาหารเช้ากันบ้าง เริ่มต้นด้วย ข้าวผัดไก่ รสชาติอร่อยกำลังดี เหมาะสำหรับมื้อเช้ามากค่ะ ข้าวต้มหมูร้อนๆ ทุกคนออกปากชมว่าอร่อยจริงๆ ตักกันคนละชาม สองชามเลยค่ะ ขนมปังปิ้ง มีเนยและแยมสตอเบอรี่ ไว้ให้ทากับขนมปังด้วยนะคะ มีกาแฟและโอวัลตินร้อนๆ ไว้บริการด้วยนะคะ และน้ำส้มหวานชื่นใจอีกด้วยค่ะ

หลังจากเติมพลังกันอิ่มแล้ว เตรียมตัวเพื่อไปลุยกิจกรรมกันต่อเลย กิจกรรมที่เราจะทำเป็นอันสุดท้ายนั้นคือพายเรือคายัค โดยมีรถกระบะมารับเราไปยังจุดที่เราต้องเริ่มพาย ไกลจากทางรีสอร์ทค่อนข้างมากนะคะ

ระหว่างทางไปที่จุดพายเรือ สองข้างทางมีภูเขาโอบล้อมมีหมอกปกคลุม สวยจนมองข้างทางเพลินไปเลยค่ะ

ก่อนจะพายเรือ เจ้าหน้าที่จะพาเราไปสวมเสื้อชูชีพ และหมวก พร้อมแนะนำการพายเรือ และเล่าถึงประวัติของแม่น้ำแคว เจ้าหน้าที่น่ารักมากค่ะ ให้ความรู้และความสนุกกับพวกเราค่ะ

เมื่อถึงจุดพายเรือเพิ่งจะรู้ว่า ระยะทางที่เราต้องพายเรือนั้นระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตร ตอนแรกก็ถอดใจค่ะ แต่เห็นแม่น้ำกว้างใหญ่ กับธรรมชาติล้วนๆ ใจก็สู้ขึ้นมาเลยค่ะ

ระหว่างทางที่เราพายเรือ ธรรมชาติสองข้างทางสวยจนเกินบรรยาย

พายไปได้สักพัก แต่ก็เกือบสองชั่วโมง ก็ถึงจุดหมายปลายทางของเราแล้วค่ะ เป็นการพายเรือที่คุ้มค่าจริงๆค่ะ ได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย สำหรับตัวเราเองเพิ่งได้พายครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และพายไปกับเราด้วย สำหรับคนที่ชอบชมธรรมชาติแนะนำกิจกรรมนี้เลยนะคะ

เมื่อกลับถึงรีสอร์ทก็ต้องเก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯแล้ว ในใจไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ต่ออีกวันสองวัน การได้มาพักผ่อนที่ “โก๋ เมืองกาญจน์ พาราไดซ์ วิว รีสอร์ท” พวกเราทุกคนต่างพูดกันว่า คุ้มค่ามากๆ ทั้งบรรยากาศของรีสอร์ท และธรรมชาติรอบๆรีสอร์ท ทำให้พวกเราได้มาชาร์จแบตร่างกายได้เต็มอิ่ม พร้อมที่จะกลับไปลุยกับวันต่อๆไป พนักงานที่นี่ต้อนรับเราแบบอบอุ่นมากๆ ยิ้มแย้มแจ่มใสบริการดีเยี่ยม หากใครกำลังมองหาที่พักแบบธรรมชาติจริง ไม่ต้องเดินทางไกล ลองไปที่ “โก๋ เมืองกาญจน์ พาราไดซ์ วิว รีสอร์ท” แล้วจะร้องว้าวถึง 3 ครั้ง แบบพวกเราเลยค่ะ

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

มาเที่ยว “วาฏิกา แอดเวนเจอร์ รีทรีทติค รีสอร์ท กุยบุรี” มันก็ต้องใช้พลังงานเยอะหน่อยนะคะ ก็ชื่อเค้าบอกถึงว่าที่นี่เป็นที่พักที่มากด้วยกิจกรรม ผจญภัยฐานต่างๆ ยิงธนู ยิงปืน โรยตัว โหนสลิง ปีนผา สะพานอากาศ หรือปั่นจักรยาน ทำกิจกรรมเหนื่อยๆ พักผ่อนเสร็จตื่นเช้ามาหาอะไรอร่อยๆทานดีกว่า ที่ห้องอาหารของ “วาฏิกา แอดเวนเจอร์ รีทรีทติค รีสอร์ท กุยบุรี” เสิร์ฟอาหารเช้าตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 10.30 น. เป็นการให้บริการอาหารแบบ Menu Set ทำใหม่เสิร์ฟจานต่อจาน

อาหารมีให้เลือกแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ อาหารเอเชีย และอาหารฝรั่ง สั่งได้คนละ 1 เมนู

เสิร์ฟขนมปังแผ่น แยม เนย และผลไม้มาใน station เดียวกัน ผลไม้มีมะละกอ สับปะรด แตงโม มีขนมปังแผ่น ครัวซอง และเดนิช ทานกับแยมบลูเบอรี่ แยมกีวี หรือทาเนย

อย่างแรกจัดมาในหน้าตาที่สวยงาม American Breakfast ไข่ดาวในขนมปังแผ่น แฮมม้วนไส้กรอก เบคอน ผักและน้ำเดรสซิ่งสลัด

เมนูนี้อร่อยมาก ข้าวผัด เชฟผัดข้าวได้แห้งมาก มีกลิ่นกระทะไม้นิดๆหอมชูรสข้าวผัดได้เป็นอย่างดี ข้าวที่ใช้เป็นข้าวหอมมะลิเรียงเม็ดสวย ข้าวไม่แฉะและไม่แข็ง

ซีเรียลมีเสิร์ฟให้ด้วยอันนี้จะอยู่ในเมนูอาหารแบบ continental เสิร์ฟนมแยกมาต่างหาก

กาแฟเลือกได้ สำหรับแก้วนี้คาปูชิโน่ หรือไม่ดื่มกาแฟก็สามารถสั่งน้ำผลไม้ได้ค่ะ พวกน้ำส้มหรือน้ำฝรั่ง

ข้าวต้มทรงเครื่องใส่หมูสับ ถ้าได้สักถ้วยร้อนๆตอนเช้า จะไม่ขออะไรเลย เค้าเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องปรุง แต่ไม่ปรุงก็รสชาติดีอยู่แล้วนะ

อีกจานขวัญใจไปที่ไหนก็หากคิดอะไรไม่ออกก็ต้อง ผัดกะเพรา

สำหรับบรรยากาศห้องอาหาร ที่นี่แม้ไม่ติดทะเลแต่งร่มรื่น ตกแต่งใช้สีสันร้อนแรง คาดว่าน่าจะให้เข้ากับคอนเซปต์ผจญภัย ที่จะสดใส สนุกสนาน จึงตกแต่งโทนห้องอาหารและสระว่ายน้ำโดยใช้สีสด

สรุปอาหารที่ “วาฏิกา แอดเวนเจอร์ รีทรีทติค รีสอร์ท กุยบุรี” เราให้ในเรื่องของรสชาติ และความสดใหม่ในการทำ ทุกจานปรุง cook to order เป็นมื้ออาหารเช้าเรียบง่ายที่แสนอร่อย

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
☎ หมายเลขโทรศัพท์: 032-820180, 089-8877539
✉ อีเมลล์: rsvn@vartikakuiburi.com
◍ เวปไซต์: www.vartikaadventure.com
▶ เฟซบุ๊ค: www.facebook.com/vartikaadventure

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com