อ่าวมาหยา
อ่าวที่งดงามที่สุดของเกาะพีพีเล ลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวใหญ่ล้อมรอบด้วยหน้าผา จะคล้ายกับทะเลในลากูน ภายในอ่าวน้ำทะเลเป็นสีมรกตใส มีหาดทรายขาวที่ละเอียด และอ่อนนุ่มราวกับผงแป้ง ใครๆได้มาที่นี่ต่างก็หลงรักในความงามของที่นี่ ฤดูกาลที่ดีที่สุดที่มาเที่ยวอ่าวมาหยา คือในช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนเมษายน เพราะจะไม่มีลมเข้าทางด้านหลังของเกาะพีพี น้ำในอ่าวมาหยาจะนิ่งสนิท และใสเหมือนกระจกเงา
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://wetravelphuket.com, www.activityfan.com, asiatravel.services
ทะเลแหวก
อีกหนึ่งสถานที่สุด Unseen Thailand จ.กระบี่มีจุดสวยงามอย่างมหัศจรรย์ ที่สามารถเดินเหยียบทราบขาวละเอียด จากเกาะหนึ่งได้เวลาน้ำลด ทะเลแหวกเกิดจาก สันทรายจากเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ ทั้งสามเกาะนี้เป็น 3 เกาะเด่นอยู่ใน หมู่เกาะปอดะ เกาะไก่เป็นเกาะที่สามารถหยุดเรือแล้วลงไปเล่นน้ำแล้วให้อาหารปลาด้วยการ ให้ขนมปังโรยไว้รอบๆตัว แล้วปลาจะมาอยู่ล้อมรอบตัวเรา ต่อด้วยเกาะทับ เกาะที่เราสามารถมองเห็นปะการังน้ำตื้นได้ จากนั้นมาจบด้วยเกาะจำปาดะ เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนและเล่นน้ำมากกว่าที่จะมาดำน้ำชมปะการัง ทะเลแหวกควรมาชมในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุด โดยเฉพาะก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวทะเลแหวกคือ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://www.krabiview.com
เกาะพีพี
หมู่เกาะพีพี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เกาะพีพีประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ๆ คือเกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล และเกาะเล็กๆข้างเคียง คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะพีพีส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้ทะเลและปลาหลากสีสันที่สวยงาม
ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://www.phiphi.phuket.com/, www.klook.com
เกาะลันตา
เกาะลันตา เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกระบี่ ประกอบด้วยเกาะลันตาใหญ่ และเกาะลันตาน้อย แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่บนเกาะลันตาใหญ่ และเกาะลันตาน้อยเป็นที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา ด้วยระยะทางที่ห่างไกลจากตัวเมือง เกาะลันตาจึงยังคงความสวยงามของหาดทราย และน้ำทะเลสะอาด มีจุดดำน้ำดูประการังน้ำลึกบริเวณปลายสุดแหลมเป็นที่ตั้งของเกาะหม้อ อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตของชาวเกาะแบบดั้งเดิม ที่เกาะลันตาคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว การมาที่นี่จึงได้เที่ยงหลายบรรยากาศในคราวเดียวกัน ฤดูท่องเที่ยวเกาะลันตาคือช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนพฤษภาคม
ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://www.lilianpang.com, http://thedivebible.com, http://www.krabiandamanrealestate.com
วัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่
วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกระบี่ ประมาณ 5-6 กิโลเมตร ชื่อวัดนี้มีการสันนิษฐานว่าในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปากฏหินธรรมชาติ เป็นรูปของอุ้งเท้าเสือ สภาพทั่วไปของวัดถ้ำเสือมีลักษณะ เป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผา และแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนอาถรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ เป็นต้น สิ่งสำคัญในวัดถ้ำเสือ ที่ดูโดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุด คือการได้มาสักการะขอพรจาก เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งมีความสูงใหญากว่า 5 เมตร ตั้งประดิษฐานอยู่ภายในวัดถ้ำเสือ แล้วยังสามารถแวะกราบไหว้ พระพุทธรูปหยกขาว ศิลปะพม่าอายุนับร้อยปี และพระพุทธบาทจำลอง ได้อีกด้วย ที่นี่ยังมีฝูงลิงอาศัยอยู่จำนวนมาก สามารถแวะทักทายและนำอาหารให้ฝูงลิงเหล่านี้ได้ ใครที่มาเที่ยววัดถ้ำเสือ ถ้ายังไม่เคยพิชิตบันได้ 1,200 ขั้น ถือว่ามาไม่ถึงวัด สาเหตุที่ต้องเดินขึ้นไปนั้น เพื่อไปสักการะ พระธาตุเจดีย์ระฆังใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขายั่นเอง วัดถ้ำเสือถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวกระบี่
ขอขอบคุณรูปภาพจาก phuketairportthai.com
น้ำตกร้อนคลองท่อม
น้ำตกร้อนคลองท่อม เป็นธารน้ำพุร้อนจากแหล่งน้ำแร่ใต้ดินที่มีอุณภูมิกำลังสบายท 42 องศาเซลเซียส จะไม่ร้อนเกินไป ทำให้สามาถแช่น้ำได้เป็นเวลานาน แถมมีทิวทัศน์รอบด้านให้เพลินตา น้ำตกร้อนคลองท่อมจะพิเศษกว่าบ่อน้ำร้อนทั่วไป ด้วยเหตุที่ว่าพื้นที่ที่สายน้ำไหลรินผ่านนั้นลาดเอียงเป็นชั้น ก่อนจะไหลลงสู่แอ่งน้ำ ทำให้ไม่ต้องแค่นั่งแช่อยู่เฉยๆ แต่ได้สนุกสนานกับการเล่นน้ำตกไปด้วย และยังได้สัมผัสน้ำแร่ที่ดีต่อสุขภาพ การเยือนน้ำตกร้อนแห่งนี้ในช่วงวันธรรมดา หรือช่วงเช้าตรู่ก่อนสิบโมงเช้า ที่คนยังไม่เยอะมาก เพราะช่วงอื่นหลังจากนั้นที่นี่จะคึกคักอยู่ตลอดเวลา
ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://woodychannel.com, http://phuketairportthai.com, http://dmiceplanner.businesseventsthailand.com
อ่าวนาง
หาดอ่าวนาง เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงของของจังหวัดกระบี่ มีพื้นที่ชายหาดยาว 2 กิโลเมตร น้ำทะเลจะไม่ใสเท่าไหร่นักแต่ก็สามารถเล่นน้ำได้ แนะนำว่าควรเล่นน้ำทางฝั่งซ้ายของหาด ตรงกลางหาดจะเป็นที่จอดเรือหางยาว ที่บริเวณหาดอ่าวนางชาวต่างชาตินิยมมานอนอาบแดด และออกกำลังกายริมชายหาด ที่หาดอ่าวนางถือว่าเป็นจุดต่อเรือของ One day trip ที่ไปยังเกาะ และหาดต่างๆ เช่น เกาะไก่ เกาะปอดะ เกาะทับ ทะเลแหวก เกาะห้อง เกาะพีพี อ่าวมาหยา หาดไร่เลย์ หาดถ้ำพระนาง หาดนพรัตน์ เป็นต้น
ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://www.krabiandamantour.com, homeiswhereyourbagis.com, www.lonelyplanet.com
สระมรกต จังหวัดกระบี่
สระมรกต ธารน้ำอุ่นเปล่งประกายสีเขียวสดใส ผืนน้ำที่สามารถมัดใจให้หลงใหลในอีกบรรยากาศหนึ่ง สระมรกต ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม ป่าเขานอจู้จี้ ป่าดินที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็น Unseen Thailand ของกระบี่แห่งนี้ จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นด้วยอากาศบริสุทธิ์ที่คัดกรองออกซิเจนด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ถ้าอยากสัมผัสธรรมชาติอย่างดื่มด่ำยิ่งขึ้นราวกับท่องเที่ยวแดนในฝัน ควรมาถึงที่นี่ตอน 9 โมงเช้าในวันธรรมดา เพราะอากาศกำลังดี บรรยากาศก็แสนเงียบเนื่องจากยังไม่มีนักท่องเที่ยว ถ้าไปเที่ยวยามหน้าฝน ผืนป่าที่โอบล้อมเขียวชอุ่มดูชุ่มฉ่ำ มีกล้วยไม้ป่าผลิดอกสะพรั่ง ส่วนช่วงฤดูหนาวย่างเข้าฤดูร้อน ป่าของที่นี่จะเปลี่ยนสี ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดในภาคใต้เลยทีเดียว แต่ฤดูที่จะได้สัมผัสความใสของสระอย่างดีที่สุดน่าจะเป็นฤดูร้อนที่ท้องฟ้ากระจ่าง
ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://phuketairportthai.com, backpackerlee.wordpress.com
เกาะห้อง
เกาะห้อง มีอีกชื่อเรียกว่า เกาะเหลาบิเละ มีทัศนียภาพที่สวยงามมาก ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีคราม มีกัลปังหาและปะการังรอบเกาะ จุดที่น่าสนใจของที่นี่คือ อ่าวบิเละ มีหาดทรายโค้งเป็นรูปนกบิน ทรายสะอาด น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต มีฝูงปลาเล็กๆ แหวกว่ายให้เห็น ชายทะเลเหมาะแก่การเล่นน้ำ ถือเป็นแหล่งพายเรือคายัค แหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่สวยงาม จนได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 เกาะที่น่าเที่ยวและสะอาดที่สุดในโลก และมีจุดที่น่าสนใจอีกที่คือ อ่าวห้อง เปรียบเสมือนสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีผนังเป็นหน้าผาชันโดยรอบลักษณะคล้ายห้อง มีประตูทางเข้าเพียงทางเดียว กว้างประมาณ 10 เมตร สามารถนำเรือเข้าไปได้ พื้นเป็นหาดทรายขาวสะอาด น้ำตื้นและใสมาก เหมาะแก่การเล่นน้ำ เกาะห้องสามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี ฤดูกาลที่เหมาะสมคือ กลางเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
เกาะปอดะ
เกาะปอดะ เป็นหนึ่งไฮไลท์ของการเที่ยวทะเลกระบี่ ตั้งอยู่ในทะเลด้านหน้าอ่าวนาง มีชายหาดล้อมรอบทั้งสามด้าน เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด นุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าใส เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนชมวิวเล่นน้ำ มากกว่าที่จะมาดำน้ำชมปะการัง การมาชมทะเลแหวก ควรมาชมในช่วงเวลาน้ำลงต่ำที่สุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวันก่อน และหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาเที่ยวทะเลแหวกคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงต้นพฤษภาคม
ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.justgola.com, http://th.luxfv.com, http://www.krabi-hotels.com
เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com