ตามรอยพ่อหลวง กับ 9 โครงการหลวงน่าเที่ยว

 

โครงการหลวงอันเกิดจากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งที่ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในเขตพื้นที่ต่างๆ ได้เล็งเห็นถึงความยากลำบากของราษฎร จึงเกิดแนวพระราชดำริจัดตั้งโครงการหลวงขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงพัฒนาพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรให้ดียิ่งขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงวางรากฐานเอาไว้จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

ปัจจุบันหลายพื้นที่โครงการหลวงในประเทศไทยได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทุกฤดูกาล ท่ามกลางป่าเขา ทุ่งนา น้ำตก ลำธาร และดอกไม้ ทำให้โครงการหลวงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจและเหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อน ชื่นชมทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงดงาม วันนี้จึงได้รวบรวม 9 โครงการหลวงมาฝากกัน

 

1. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงอินทนนท์ ได้ก่อกำเนิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์จัดตั้ง เพื่อช่วยเหลือชาวเขาให้มีพื้นที่ทำมาหากินเป็นหลักแหล่ง ส่งเสริมการปลูกพืชแทนการปลูกฝิ่น ลดการทำไร่เลื่อนลอย ปรับปรุงความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น รวมถึงส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร ถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรแผนใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิตทางด้านการเกษตรให้สูงขึ้น นอกจากนี้สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ยังเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยให้ได้มาเยี่ยมชมและศึกษาความงดงามของพื้นที่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้จัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้น อาทิเช่น

  • พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
  • น้ำตกสิริภูมิ หรือ สวนหลวงสิริภูมิ ที่ตั้งอยู่ภายในสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ โดยบริเวณหน้าน้ำตกสิริภูมิมีสวนธรรมชาติตกแต่งด้วยพรรณไม้ต่างๆ นานาตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
  • ชมวิถีชีวิต, การแต่งกาย, การละเล่นของชาวเขาเผ่าม้ง และเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่น งานหัตถกรรมที่ตลาดม้ง
  • โรงเรือนรวบรวมและจัดแสดงพืชกินสัตว์ที่เหมาะกับสภาพอากาศบนพื้นที่สูง เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง พิงกุย ซาราซีเนียชนิดต่างๆ เป็นต้น
  • โรงเรือนจัดแสดงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ เฟิร์นหายาก พืชกินสัตว์ และพืชกินแมลง ตลอดจนโรงเรือนผักไฮโรโปนิกส์ ผักเมืองหนาวประเภทสลัดด้วยวิธีปลูกแบบไร้ดิน
  • ชมสวน 80 พรรษา  ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และเป็นสถานที่จัดแสดงขึ้นเพื่อรองรับการศึกษาดูงานเกี่ยวกับพรรณไม้ดอกเมืองหนาว โดยพรรณไม้ที่อยู่ในสวนเป็นการนำพรรณไม้ดอก ไม้ยืนต้นออกมาสาธิตในรูปแบบของการจัดภูมิทัศน์ให้สวยงาม ภายในสวนตกแต่งด้วยไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด
  • ชมสวนกุหลาบพันปี ที่ถือว่าเป็นราชินีบนยอดดอยซึ่งหาชมได้ยาก โดยสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ได้ทำการศึกษาและขยายพันธุ์กุหลาบฟันปีจำนวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 Rhododendron สีแดง, สีขาว กลุ่มที่ 2 Azalea เป็นพืชกลุ่มหนึ่งในตระกูล Rhododendron เป็นลูกผสมจากงานศึกษาค้นคว้า และทดสอบพันธุ์ และกลุ่มที่ 3 Vireyas เป็นพันธุ์ลูกผสม ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย

 

1-1

1-2

1-3

1-4

1-6

1-7

1-8

1-9

1-10

1-11

 

2. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปีสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,400 เมตร เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงกาหลวง จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “ให้ช่วยเขา ช่วยตัวเอง” มีพระราชประสงค์ให้ชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ตามดอยต่างๆ ทางภาคเหนือเลิกปลูกฝิ่น และเลิกทำไร่เลื่อนลอย อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ป่าไม้และต้นน้ำลำธารของประเทศถูกทำลาย จากเดิมที่เป็นดอยหัวโล้นได้แปรสภาพเป็นขุนเขาใหม่แห่งความอุดมสมบูรณ์ โดยทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด ไม้ผลกว่า 12 ชนิด และดอกไม้เมืองหนาวกว่า 20 ชนิด บนพื้นที่ 1,800 ไร่ บริเวณโดยรอบสถานีเกษตรหลวงอ่างขางแห่งนี้มีหมู่บ้านชาวเขากว่า 9 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านขอบด้ง บ้านนอแล บ้านหลวง บ้านปางม้า บ้านป่าคา บ้านคุ้ม บ้านผาแดง บ้านถ้ำง้อบ และบ้านสินชัย เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าจีนยูนนาน ไทใหญ่ มูเซอดำ และปะหล่อง อาศัยอยู่รวมกันในพื้นที่ โดยสถานีเกษตรหลวงอ่างขางได้เปิดให้เที่ยวชมศึกษาธรรมชาติและวิถีชีวิตในท้องถิ่น อาทิเช่น

  • สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาหมู่บ้านต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขออนุญาตเจ้าของบ้านเข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิดได้
  • แวะชิมชาท้องถิ่น และวิธีการสาธิตชงชา ได้ที่สถานที่แปรรูป
  • ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ชมกุหลาบพันปี จะเบ่งบานพร้อมกันในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยห่างจากสถานีประมาณ 4.5 กิโลเมตร
  • ชมสวนแปดสิบ เป็นสวนกลางแจ้งที่ตกแต่งสไตล์อังกฤษ มีดอกไม้ ไม้ประดับปลูกหมุนเวียนตลอดทั้งปี ด้านบนยังมีลานต้นซากุระญี่ปุ่นที่พร้อมเบ่งบานช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม
  • ชมสวนหอม เป็นสวนที่รวบรวมพันธุ์ไม้ที่มีกลิ่นหอมทั้งในและต่างประเทศ เช่น ต้นหอมหมื่นลี้ มะลิเนปาล ลาเวนเดอร์ ถ้าได้เดินผ่านสวนจะรู้สึกได้กลิ่นหอมจากพรรณไม้เหล่านั้นในสวน
  • ชมสวนบอนไซอ่างขาง ที่จัดแสดงพันธุ์ไม้หลากชนิดตั้งแต่ยุคแรกเริ่มก่อตั้งสถานีในรูปแบบการปลูกเลี้ยงในกระถางแบบบอนไซ นอกจากนี้ยังมีพืชทนแล้ง พืชกินแมลง และสวนหินธรรมชาติจุดชมวิวภายในสถานี
  • ชมแปลงไม้ผลตามฤดูกาลหลากหลายตลอดทั้งปี เช่น พีช พลับ สาลี กีวี่ เป็นต้น
  • ชมแปลงบ๊วย โดยต้นบ๊วยที่ปลูกตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโครงการหลวงปัจจุบันได้แตกกิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาเย็นสบาย
  • ชมโรงเรือนดอกไม้ สวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว โรงเรือนกุหลาบตัดดอกซึ่งรวบรวมกุหลาบชนิดตัดดอกสายพันธุ์ต่าง ๆ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ โรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผัก ผักเมืองหนาวหลากหลายชนิด รวมถึงพืชสมุนไพรของโครงการหลวงต่างๆ มากมาย
  • ชมหิ่งห้อยยามค่ำคืนที่แปลงพีชฝั่งตรงข้ามสวนบอนไซตลอดจนถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ โดยสามารถชมได้ทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม

 

2-1

2-2

2-3

2-4

2-5

2-6

2-7

2-8

2-9

2-10

2-11

 

3. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 17 หมู่บ้าน 1,061 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยง ซึ่งก่อตั้งหมู่บ้านมานานกว่า 50 ปี ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน พื้นที่ราบอยู่ตามหุบเขา มีต้นน้ำสายสำคัญไหลผ่านคือ ลำน้ำแม่หยอดและลำน้ำปางเกี๊ยะ นอกจากธรรมชาติที่สวยงดงามแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถเรียนรู้และใกล้ชิดกับวิถีชีวิตที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋งได้อีกด้วย อาทิเช่น

  • ชมแปลงปลูกมันฝรั่ง แครอท อะโวกาโด แปลงสาธิตกาแฟอาราบิก้า แปลงสาธิตองุ่นไร้เมล็ด แปลงสาธิตพืชผัก เช่น มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ฯลฯ
  • ชมวิถีชีวิตและการละเล่นของชาวเขาเผ่าม้ง เช่น ลูกข่างไม้ โยนลูกช่วง ตีลูกข่าง ล้อเลื่อนไม้ เป่าแคนม้ง เป็นต้น
  • ชมทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม ห่างจากที่ตั้งศูนย์ฯประมาณ 40 กิโลเมตร โดยดอกบัวตองจะบานช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
  • แอดเวนเจอร์กับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติดอยหมื่อกาโด่ เป็นเส้นทางชมพรรณไม้ป่า กุหลาบพันปี ดูนก เลียงผา และจุดชมวิวทะเลหมอกที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,927 เมตร

 

 3-1

3-2

3-3

3-4

3-5

 

4. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522 ด้วยแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เล็งเห็นถึงปัญหาอันเกิดจากความขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีพและขาดการสนับสนุนด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านอาชีพที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลให้ความรู้ทางด้านเกษตรกรรม จึงได้มีการมุ่งเน้นการพัฒนาด้านอาชีพทางด้านการเกษตร เพื่อนำรายได้เข้าสู่ชุมชน ยับยั้งการปลูกฝิ่นและลดปัญหาการบุกรุกป่าทำไรเลื่อนลอย โดยศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา มีทัศนีภาพที่สวยงดงามเป็นพิเศษเหมาะแก่การทำนาและปลูกพืช ส่วนพื้นที่ลาดเชิงเขาเหมาะแก่การปลูกพืชไร่และผลไม้ ประชากรในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้ง นับถือศาสนาพุทธและคริสต์ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิเช่น

  • ชมแปลงสาธิตการผลิตพืชผัก ไม้ดอก ไม้ผลตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี ผักกาดหอมห่อ แครอท เบบี้แครอท องุ่น กีวี พลับ พลัม เป็นต้น
  • เที่ยวชมน้ำตกห้วยกระแส ซึ่งจะได้สัมผัสกับป่าสนเขา ถึงแม้จะมีปริมาณน้ำไม่มากแต่ก็มีน้ำไหลรินชุ่มชื่นตลอดทั้งปี โดยเดินทางจากศูนย์ฯประมาณ 5 กิโลเมตร และเดินเท้าอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
  • เที่ยวน้ำตกบ้านโป่งสมิต ที่ต้องเดินเท้าผ่านทุ่งนาเพื่อชมวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง การทำนา และปลูกพืชแบบนาขั้นบันได หรือไหว้พระที่วัดพระธาตุศรีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ สามารถไปนมัสการพระธาตุได้ตลอดทั้งปี และชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ
  • เที่ยวปางช้างแม่วิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมการล่องแพ ขี่ช้างตามลำน้ำแม่วาง ซึ่งตั้งห่างจากศูนย์ฯประมาณ 15 กิโลเมตร

 

4-1

4-2

4-3

4-4

4-5

 

5. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก จ.เชียงใหม่

หมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลความเจริญ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รายได้น้อย ความเป็นอยู่ค่อนข้างยากลำบาก จนกระทั่งปี พ.ศ. 2524 สายพระเนตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยราษฎร พระองค์ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อใช้เป็นทุนทรัพย์ในการก่อตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก โดยมีเป้าหมายให้เป็นศูนย์สาธิตและส่งเสริมการเพาะเห็ดและกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ให้แก่ราษฎรนอกเหนือจากการปลูกเมี่ยง การรับรู้รับฟังตลอดจนสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้าน ร่วมกันสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดำรงชีวิต ทำให้ชาวบ้านก้าวสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขาและป่าเบญจพรรณ ครอบคลุมพื้นที่ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านป๊อก บ้านแม่ลาย บ้านแม่กำปอง และบ้านธารทอง ประชากรเป็นคนเมืองทั้งสิ้น ผู้ที่ได้เดินทางมาที่นี่สามารถชื่นชมธรรมชาติและเพลิดเพลินกับกิจกรรมภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก อาทิเช่น

  • ชมโรงเรือนกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสหมากสีสัน
  • ชมแหล่งผลิตกาแฟอาราบิก้าคุณภาพดีของโครงการหลวงฯ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติป่าไม้ และลำน้ำจากน้ำตก
  • ชมชุมชนคนเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน “บ้านแม่กำปอง” ซึ่งเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงกันดีว่าเป็นบริการที่พักแบบ Home Stay ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศไทย
  • ชมวิถีชีวิตพื้นเมืองหมู่บ้าน ชมการทำสวนเมี่ยง หมัก-นึ่งเมี่ยงแบบดั้งเดิม และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ รวมถึงสวนสมุนไพรต่างๆ ในท้องถิ่น
  • ชมวิวดอยม่อนล้าน ชื่นชมธรรมชาติป่าไม้ ต้นกฤษณา กล้วยไม้ป่า และจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งบานและทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาว พร้อมทั้งสามารถศึกษาเส้นทางที่เชื่อมไปถึงอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง ได้อีกด้วย

 

5-1

5-2

5-3

5-4

5-5

5-6

5-7

 

6. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง ตั้งอยู่บนพื้นที่ของเทือกเขาสลับซับซ้อน สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 – 1,400 เมตร โดยศูนย์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังบ้านขุนวางเป็นครั้งแรก ได้ทอดพระเนตรเห็นว่า บริเวณแห่งนี้ยังมีการปลูกฝิ่นเป็นอย่างมาก ควรจะส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นที่มีรายได้ดีกว่าหรือทัดเทียมกับการปลูกฝิ่น จึงได้รับส่งให้หน่วยงานในพื้นที่ช่วยกันพิจารณา ปรับปรุง และพัฒนาพื้นที่ โดยเริ่มดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาด้านไม้ผลเป็นลำดับแรก ต่อมาจึงได้ขยายผลการดำเนินงานด้านไม้ดอก และส่งเสริมพัฒนาด้านสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่ ในปัจจุบันศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง มีพื้นที่รับผิดชอบดำเนินงานถึง 499 ไร่ ครอบคลุมถึง 7 หมู่บ้านคือ บ้านขุนวาง  บ้านป่ากล้วย  บ้านโป่งลมแรง  บ้านโป่งน้อยเก่า  บ้านห้วยยาว และบ้านขุนแม่วาก นอกจากนี้ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวางยังมีบ้านพัก แคมป์ไฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้ให้บริการสำหรับผู้ที่จะเดินทางมารับการเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตร วิถีชีวิตชนเผ่า และเยี่ยมชมธรรมชาติในพื้นที่ อาทิเช่น

  • ชมโรงเรือนปลูกดอกเบญจมาศหลากหลายสีสัน ทั้งแบบดอกเดี่ยว ดอกช่อ และดอกลิเซียทัส คาร์เนชั่น ลิลลี่
  • ชมโรงเรือนสาธิตการปลูกวานิลลา โดยจะออกฝักพร้อมเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนมีนาคม โรงเรือนเห็ดเมืองหนาว เช่น เห็ดโพโตเบลโล เห็ดแชมปิญอง เป็นต้น
  • ชมแปลงปลูกชาจีนเบอร์ 12 พันธุ์หยวนจืออู่หลง พร้อมดูขั้นตอนการผลิตชาและลิ้มลองชิมชาอร่อยๆ
  • ชมแปลงไม้ผล เช่น องุ่นไร้เมล็ด สตรอว์เบอร์รี่ พีช กีวี และบ๊วย รวมถึงแปลงปลูกผักเมืองหนาว เช่น บล็อกโคโลนี บล๊อคโคลี่ หอมญี่ปุ่น มะเขือเทศดอยคำ ผักกาดหวาน ถั่วหวาน เป็นต้น

 

6-1

6-2

6-3

6-4

6-5

6-6

6-7

6-8

 

7. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮ จ.เชียงใหม่

หมู่บ้านแม่แฮและหมู่บ้านใกล้เคียง ในเขตตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง และตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ม้ง และจีนยูนนาน ประกอบอาชีพทำนาทำไรแบบเลื่อนลอย ปลูกข้าวโพด ปลูกฝิ่น เลี้ยงสัตว์ตามธรรมชาติ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาอาชีพของชาวเขาหมู่บ้านแม่แฮและหมู่บ้านใกล้เคียงขึ้น โดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี  ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ได้ขอให้สำนักเกษตรภาคเหนือเป็นผู้ดำเนินงานภายใต้ “โครงการหลวงพัฒนาเกษตรที่สูงแม่แฮ” ภายหลังก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮ” โดยภายในศูนย์ฯ แห่งนี้ได้มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายจุดรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านให้ได้แวะมาเยี่ยมเยือนกัน อาทิเช่น

  • ชมแปลงสาธิตการผลิตพืชผักเมืองหนาว ได้แก่ กะหล่ำปลีแดง ผักกาดหวาน ผักกาดหอมห่อ และสาธิตการเพาะกล้าผักเมืองหนาวชนิดต่างๆ ชมแปลงสาธิตการผลิตไม้ผล ได้แก่ องุ่น สาลี่ กีวี พลับ เคพกูสเบอร์รี เป็นต้น
  • ชมสวนสตอเบอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้ที่บ้านบ่อแก้ว โดยจะเก็บผลผลิตได้ช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม ของทุกปี
  • ชมดอกซากุระบาน หรือที่เรียกอีกชื่อว่า นางพญาเสือโคร่ง ภายในพื้นที่ศูนย์ฯ ตลอดช่วงฤดูหนาวของทุกปี รวมถึงในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี สามารถชื่นชมดอกบัวตองบานริมถนนตลอดสายแม่เตียน-แม่แฮ-ป่าเกี๊ยะน้อย และถนนสายแม่แฮ-ห้วยขมิ้นนอก การเดินทางสะดวกสบายสามารถเดินทางโดยรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ได้
  • ชมรอยพระบาท ที่คนในชุมชนเชื่อว่าเป็นรอยพระบาทของคนยุคสมัยโบราณซึ่งเห็นรอยมือและรอยเท้าได้อย่างชัดเจน พร้อมชมบ่อน้ำแร่จากธรรมชาติ
  • ชมวิวทิวทัศน์จากศูนย์ฯ และยอดดอยที่เป็นจุดที่สูงที่สุดของพื้นที่คือ ดอยม่อนยะ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบ้านห้วยน้ำจางและม่อนยะใต้ ตลอดเส้นทางสู่ยอดดอยนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่สวยงดงาม

 

7-1

7-2

7-3

7-4

7-5

 

8. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 19 หมู่บ้าน และพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 หมู่บ้าน โดยมีพื้นที่รวมถึง 153,592 ไร่ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าปกากะญอ ซึ่งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์แห่งนี้ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชผัก และผลไม้เมืองหนาว เนื่องจากพื้นที่ภูมิประเทศเป็นพื้นที่ป่าสนและป่าเต็งรังขนาดใหญ่ จุดเด่นคือ ป่าสนธรรมชาติที่กว้างใหญ่กว่าแสนไร่ ถือเป็นป่าสนอายุกว่าร้อยปีผืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งสนสองใบและสนสามใบ และสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 ชมป่าสนสองใบ เป็นป่าสนธรรมชาติ มีกล้วยไม้ป่าและนกประจำถิ่นหลายชนิด และเส้นทางที่ 2 ชมป่าสนสามใบ มีพรรณไม้ป่าและนกหายากหลายชนิดอีกด้วย นอกจากนี้ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ยังมีกิจกรรมให้ได้ชื่นชมและสัมผัสกับธรรมชาติอีกมากมาย อาทิเช่น

  • แปลงสาธิตผักของเกษตรกร เช่น ฟักทองมินิ ผักกาดขาว ซุกินี่ ไม้ผลเมืองหนาวตามฤดูกาล เช่น พลับ พลัม พีช บ๊วย สาลี่ เป็นต้น
  • ชมงานส่งเสริมปศุสัตว์บนพื้นที่สูง เช่น กวาง แพะ กระต่าย ไก่หลากหลายสายพันธุ์ เป็นต้น
  • ชมวิวทะเลหมอก ซึ่งอยู่ช่วงต่อระหว่างบ้านเด่น อำเภอกัลยานิวัฒนา กับบ้านห้วยตอง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
  • ชมต้น “หยาดน้ำค้าง” เป็นพืชกินแมลง มีต้นที่สวยงาม และหาพบได้ยาก

 

8-1

8-2

8-3

8-4

8-5

8-6

 

9. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า จ.พะเยา

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่าสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 640 เมตร โดยจัดตั้งศูนย์ฯขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 ดำเนินการบุกเบิกพื้นที่จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ การจัดสรรพื้นที่ทำกิน และการส่งเสริมให้คนในพื้นที่ปลูกไม้ผลเมืองหนาว เนื่องจากลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงและเนินเขาสลับไปมา จึงมีลำน้ำสายสำคัญคือ ลำน้ำแม่คะ และลำน้ำเงิน ในการหล่อเลี้ยงชางเขาเผ่าเย้าและม้ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับแปลงสาธิตการปลูกผักในโรงเรือน อาทิเช่น มะเขือเทศโทมัส, พริกหวาน, คะน้าฮ่องกง, คะน้ายอด, เบบี้ฮ่องเต้ ฯลฯ หรือชมแปลงสาธิตการปลูกไม้ผล อาทิเช่น อะโวคาโด, เสาวรสหวาน, มะม่วงนวลคำ, เคฟกูสเบอรรี่, แมคคาดีเมีย เป็นต้น

 

9-1

9-2

9-3

9-4

9-5

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

รีวิว คอร์สรักสุขภาพโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์&บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์

 

สำหรับคนรักสุขภาพ ต้องรักเลยที่นี่ LIFESTYLES ON 26 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นศูนย์ดูแลสุขภาพที่ได้ทั้งความฟิตแอนด์เฟิร์ม ผ่อนคลายความเครียด ที่นี่มีให้บริการทั้งฟิตเนส เครื่องออกกำลังกายทันสมัย ได้บริหารทั้งแขน ขา ไหล่ หลัง หรือจะเลือกออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง ที อาร์ เอ็กซ์, คิกบ็อกซิ่ง และโยคะ ฟลาย ทั้งหมดนี้ภายใต้การดูแลของเทรนเนอร์มืออาชีพ และล่าสุดที่นี่ยังมีคลาสเรียนซุมบ้าให้ได้มาลองเต้นกันด้วย ฝึกสอนโดย ครูตั๋ง ชัชวาล สิงหเสนี หนึ่งในโค้ชที่ได้รับสิทธิ์การสอนซุมบ้าในประเทศไทย ซึ่งการเต้นซุมบ้าไม่เพียงแต่ช่วยกระชับสัดส่วนแต่ยังช่วยปรับรูปร่างให้ดูดีขึ้น ทั้งยังเสริมบุคลิกภาพการเคลื่อนไหวให้น่ามอง ครูตั๋งยังบอกด้วยว่า ซุมบ้าเป็นการบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอ สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 800-1000 กิโลแคลอรี่ใน 1 ชั่วโมง ใน 1 ชั่วโมงนี้จะมีเพลงหลากสไตล์ทั้งเพลงที่มีกลิ่นอาย ดนตรีเทคโนแดนซ์ ฮิปฮอป แซมบ้า อินเดีย ท่าเต้นจะเป็นจังหวะช้า-เร็ว ทุกส่วนได้เคลื่อนไหวทั้งแขน ขา หน้าอก เอว สะโพก และ กล้ามเนื้อ รับรองว่าสนุกจนลืมเหนื่อยเลยทีเดียว

 

IMG_6256

IMG_6264

IMG_6262

IMG_6248

Fitness

 

เติมเต็มความสมบูรณ์แบบของวันพักผ่อนด้วยสปา เซ็นวารี สปาหรูท่ามกลางบรรยากาศสุดผ่อนคลาย ปรนนิบัติคุณด้วยเทอราพีสผู้เชี่ยวชาญ มีทรีทเมนท์หลากหลายให้เลือกผ่อนคลาย ซึ่งตัวแนะนำอีกตัวหนึ่งคือ Kati Basti เป็นศาสตร์การนวดที่ช่วยผ่อนคลายมากขึ้นไปอีกระดับเทียบกับการนวดแบบอโรม่า เป็นการนวดแบบ Ayurvedic ผสมผสานการนวดน้ำมัน โดยน้ำมันที่ใช้จะเป็น Shirodhara น้ำมันพิเศษสำหรับนวดอายุรเวช มีกลิ่นหอมของสมุนไพร ซึ่งตรงนี้จะไม่เหมือนน้ำมันนวดอโรม่าทั่วไป โดยมีความผ่อนคลายมากกว่า จุดเด่นอยู่ที่การใช้แป้งโดว์อุ่นๆ มีลักษณะวงกลมแบบโดนัทวางลงบนแผ่นหลัง จากนั้นเทอราพีสจะค่อยๆรินน้ำมัน Shirodhara อุ่นๆลงในวงกลมของแป้งโดว์ จากนั้นทิ้งไว้สักครู่ ให้ความอุ่นของน้ำมันซึมไปทั่วแผ่นหลัง ผู้นวดจะรู้สึกผ่อนคลาย ความเครียดและความเมื่อยล้าที่เผชิญมาทั้งวันพลันหายไปทันที สำหรับราคาอยู่ที่ 2,500 บาท++ (ไม่รวมอัตราภาษีและค่าบริการ) ระยะเวลา  75 นาที

 

spa3

IMG_6201

IMG_6209

spa1

IMG_6203

IMG_6238

IMG_6213

IMG_6225

IMG_6223

IMG_6232

IMG_6236

IMG_6233

spa 2

IMG_6228

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองห้องสำหรับทำทรีทเม้นท์ได้ที่สปาเซ็นวารี โทร. 02100 1234 ต่อ 6511, 6516 หรืออีเมล์: spacgcw@chr.co.th

 

เรียงเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

รีวิว รีสอร์ทอัญมณีเม็ดงามบนเกาะสมุย “บุรี รสา วิลเลจ”

 

บุรี รสา วิลเลจ อัญมณีเม็ดงามบนเกาะสมุย เชิญคุณมาค้นพบสรวงสวรรค์แห่งวันพักผ่อนระดับ 5 ดาว ท่ามกลางป่าโอเอซิสเขียวขจีอันมีท้องทะเลสีฟ้าครามทอดยาวอยู่เบื้องหน้า ผ่อนคลายให้เต็มที่กับที่พักหรูบนหาดเฉวง ชายหาดที่คึกคักที่สุดบนเกาะสมุย แต่ทว่าสีสันและความครื้นเครงมิอาจรบกวนความสงบของคุณได้ เนื่องด้วยที่พักได้ถูกออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว ปลูกสร้างท่ามกลางหมู่ไม้เมืองร้อนให้ความร่มรื่นหลีกเร้นจากสิ่งรบกวนภายนอก ทั้งยังมีรั้วไม้สไตล์ทรอปิคอลแบ่งแยกสัดส่วนให้ความเป็นส่วนตัวอย่างชัดเจน บุรี รสา วิลเลจ เกาะสมุยออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานระหว่างการตกแต่งแบบตะวันออกและแบบไทย เจือกลิ่นอายวันพักผ่อนบนเกาะเมืองร้อน หรูหราด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องพักให้บริการเริ่มตั้งแต่ห้องดีลักซ์ ห้องดีลักซ์ พรีเมี่ยม ห้องดีลักซ์ การ์เด้นท์ คอร์ท วิธ ดิป พูล และห้องดีลักซ์ แฟมิลี่ สวีท เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบคู่รัก เพื่อนและครอบครัว

 

activities-in-samui-2

deluxe-12

 

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆในโรงแรม บุรี รสา วิลเลจ เกาะสมุย ได้จัดเตรียมห้องอาหารแบบ Open air ริมหาด The Beach Club ให้บริการอาหารไทยและเมนูปิ้งย่างซีฟู้ด เลือกใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงสดใหม่ ปรุงโดยเชฟมากฝีมือ และมี The Beach Bar สำหรับเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นๆท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกริมหาดเฉวง สำหรับใครที่ต้องการวันหยุดพักผ่อนอย่างแท้จริงทางรีสอร์ทได้แนะนำสปาหรูอย่าง Nam Thai Herbal Spaที่บริการต้อนรับคุณดั่งแขกคนพิเศษ ให้ผู้มาเยือนได้พักเข้าสู่ช่วงแสนสบายไร้กังวล กระตุ้นให้ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า คืนความสดใสอ่อนเยาว์สู่คุณนอกจากนี้คุณยังสามารถสนุกสนานไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกอีกหลายหลายในโรงแรม รวมถึงกิจกรรมหลากหลายบนเกาะสมุย ที่มีพนักงานต้อนรับให้ความช่วยเหลือและวางแผนวันหยุดของคุณบนเกาะสมุยแห่งนี้ ค้นพบช่วงเวลาแสนสุข และกลับไปพร้อมความความทรงจำประทับใจที่ บุรี รสา วิลเลจ เกาะสมุย

 

deluxe-11

deluxe-10

deluxe-9

deluxe-garden-pool-1

deluxe-family-suite-1

deluxe-1

deluxe-2

deluxe-3

deluxe-4

deluxe-family-suite-3

deluxe-family-suite-5

deluxe-premium-4

deluxe-6

deluxe-8

deluxe-5

activities-in-samui-6

11016104_358462821021307_7262573982025874526_o

samui-beach-dining-1

activities-in-samui-8

samui-beach-dining-5

samui-herbal-spa-1

samui-herbal-spa-10

samui-herbal-spa-11

samui-beach-dining-9

samui-beach-dining-8

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทร : 077 230 222
เว็บไซต์ : www.burirasa.com/samui
Email: reservation@burirasa.com

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

หนาวนี้ไปเที่ยวเชียงรายกับเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3

 

เชิญชวนเที่ยวงาน “เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3” กับแนวคิดที่ว่า ความสุขในบ้านสมเด็จย่า ความสุขในป่าดอยตุง โดยในงานเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3 นี้จัดขึ้นบนถนนคนเดินสายวัฒนธรรมที่สูงที่สุดในประเทศไทย ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม 2559 – 29 มกราคม 2560 ณ โครงการพัฒนาดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

 

14292479_1157434184295524_6794871501901853296_n

 

 

สำหรับเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา วัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อเป็นเวทีในการเสริมศักยภาพ สร้างความภาคภูมิใจให้ชาวบ้าน และที่สำคัญคือ การสืบสานพระราชปณิธาน “ช่วยให้เขาช่วยตัวเอง” ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในการส่งเสริมให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

 

โดยในปีนี้จัดขึ้นภายในแนวคิด ความสุขในบ้านสมเด็จย่า ความสุขในป่าดอยตุง นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมกับความงามของพระตำหนักดอยตุง หรือ บ้านที่ดอยตุง ของสมเด็จย่า ท่ามกลางป่าที่เขียวขจีแวดล้อมด้วยความสุขของคนในท้องถิ่น นำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตชนเผ่าในมุมใหม่และถ่ายทอดประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่อัดแน่นไปด้วยสาระ นอกจากถนนคนเดินที่สะท้อนเรื่องราวแล้ว สวนแม่ฟ้าหลวงและแหล่งท่องเที่ยวบนดอยตุงยังคงความพิเศษต่างจากฤดูอื่นทั่วไป หลากหลายไปด้วยกิจกรรมมากมาย ภายในงานยังมีอาหารท้องถิ่นนานาชนเผ่า อาหารเหนือที่นำวัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่นมาปรุงรส และไฮไลท์ที่สำคัญขาดไม่ได้คือ กาแฟดอยตุง ที่สดใหม่หอมกรุ่นจากไร่ พร้อมทั้งสาธิตการคั่วกาแฟให้ชมกันสดๆ อีกทั้งยังมีร้านค้านับร้อยร้านที่ภูมิใจนำเสนอสินค้าเฉพาะในงานนี้เท่านั้น เช่น การปั้นและเพ้นท์เซรามิก การเย็บสมุดกระดาษสา รวมถึงการสาธิตเทคนิคการยิงพรมโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญศิลปะ

 

11098_825919864113626_2848065259934408169_n

 

สำหรับความพิเศษในงานปีนี้ด้วยการแสดงนิทรรศการศิลปะจัดวางสร้างสรรค์ขึ้นเฉพาะงาน “เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3” โดยสถาปนิกชื่อดังอาทิ ปิตุพงษ์ เชาวกุล, สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ และกลุ่มศิลปินจาก “ขัวศิลปะ” เชียงราย การละเล่นพื้นเมือง ซิ่ง “ฟอร์มูล่าดอย” สุดสนุก และชมการแสดงจากชนเผ่าที่หาชมได้ยาก อาทิ แคนลาหู่ สะบ้าอาข่า และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยกิจกรรม “เปลี่ยน เท่ากับ ปลูก” โดยการเติมความหมายให้กับการมาเยี่ยมเยือนดอยตุง กิจกรรมและร้านค้าในเทศกาล “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3” เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. และมีบริการรถรับ-ส่งภายในงานตลอดวัน สามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของเทศกาลสีสันแห่งดอยตุงครั้งที่ 3 ได้ที่  doitung.org

 

12079497_962615190444092_5607750564429511279_n

12106796_959712947400983_2871873000857993302_n

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

มนต์เสน่ห์ปลายฝนต้นหนาวที่ต้องไปสัมผัสกันสักครั้ง

 

ฤดูกาลท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้งสำหรับปลายฝนต้นหนาวที่ใกล้จะมาถึง การท่องเที่ยวช่วงนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รักการเดินทางชื่นชมธรรมชาติ ท่ามกลางอากาศที่ไม่ร้อนหรือหนาวเย็นเกินไป วันนี้จึงได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวสำหรับปลายฝนต้นหนาวนี้มาฝากกันมาเริ่มกันที่…

 

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาท่องเที่ยวดอยอ่างขางคือ ปลายฝนต้นหนาว เพราะสภาพอากาศกำลังเย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่งใส ป่าเขียวชอุ่ม แถมผลไม้เมืองหนาวเริ่มทิ้งใบเตรียมออกดอกออกผล ซึ่งภายในสถานีทดลองยังปลูกพืชผลไม้เมืองหนาวต่างๆ มากมายอาทิเช่น สวนท้อ สวนบ๊วย พลับ สาลี่ กีวี่ เป็นต้น รวมถึงยังมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พระตำหนักอ่างขาง เรือนดอกไม้ โรงเรือนกุหลาบ ซากุระ และอื่นๆ อีกมากมาย การมาสัมผัสบรรยากาศที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางในช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ จึงให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปจากฤดูอื่น และนักท่องเที่ยวได้มีเวลาดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัวมากยิ่งขึ้น

 

1-1

1-2

1-3

1-4

1-5

1-6

1-7

1-8

 

 

ดอยปุย จ.เชียงใหม่

ด้วยพื้นที่ภูเขาสูงสลับซับซ้อนบนดอยปุยประกอบกับสภาพภูมิอากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่เย็นชุ่มฉ่ำ จากละอองไอน้ำเมฆหมอกช่วงฤดูฝนที่กำลังจะผ่านไป นอกจากบนดอยปุยจะมีบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นหมู่บ้านชาวม้ง หรือ แม้ว ที่ตั้งถิ่นฐานการดำรงชีพอยู่ด้วย ภายในหมู่บ้านแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ม้ง ร้านจำหน่ายของที่ระลึกท้องถิ่น สวนดอกไม้ต่างๆ นานาพันธุ์ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้สัมผัสชื่นชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย

 

2-1

2-2

2-3

2-4

2-5 

 

 

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี

นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้ป่านานาพันธุ์ เช่น กระดุมเงิน หญ้าข้าวก่ำน้อย ดอกหญ้าสีเหลือง เป็นต้น ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวด้วยแล้วอุทยานแห่งชาติผาแต้มจะเกิดปรากฎการณ์มหัศจรรย์ประจำฤดูที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด โดยที่เหล่าดอกไม้ป่าดอกเล็กดอกใหญ่จะพากันโผล่พ้นดิน ผลิดอกชูช่อไสวราวกับกำลังเต้นระบำทักทายลมหนาวที่กำลังจะมาเยือน

 

3-1

3-2

3-3

3-4

3-5

3-6 

 

 

เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้นับเป็นโอกาสดีสำหรับการมาชมทะเลหมอก สายลมหนาวที่พัดเบาๆ เหมือนกำลังเตือนให้รู้ตัวว่า ฤดูหนาวกำลังจะมาเยือนแล้ว หลังจากที่สายฝนบ่มเพาะพื้นดินจนชุ่มฉ่ำแล้ว พืชสวนพืชไร่บนเขาค้อก็เริ่มเติบโตออกดอกออกผลกันอย่างเต็มที่ แม้ว่าอากาศจะยังไม่หนาวมากนักเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงละอองความเย็นบางๆ ที่กระทบความชื้นจนกลั่นตัวเป็นละอองหมอกขาวโพลนตัดผ่านแสงแดดอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวยิ่งนัก

 

4-1

4-2

4-3

4-4

4-5

4-6

4-7

 

 

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.พิษณุโลก

ผู้ที่รักการท่องเที่ยวต้องไปสัมผัสบรรยากาศป่าหน้าฝนที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จะพบกับดอกหงอนนาคสีม่วงที่เบ่งบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง ซึ่งใครไปที่นี่จะต้องถ่ายภาพเก็บไว้อย่างแน่นอน ด้วยความพิเศษของดอกหงอนนาคคือจะหุบในช่วงเช้าและจะบานก็ต่อเมื่อโดนแสงแดดสางส่อง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวยังถือว่าเป็นจุดที่มีดอกหงอนนาคใหญ่ที่สุดของประเทศอีกด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถกางเต็นท์เพื่อชื่นชมความงดงามของทุ่งดอกหงอนนาคอย่างใกล้ชิดได้อีกด้วย โดยทางอุทยานมีเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

 

 5-1

5-2

5-3

5-4

5-5

 

 

นาขั้นบันไดแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

นาขั้นบันไดแม่แจ่ม เป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่นาข้าวกำลังออกรวงเป็นสีเหลืองทอง พร้อมรอเก็บเกี่ยว กลิ่นไอดินที่ลอยฟุ้งเข้าจมูกเมื่อไปถึง รวมถึงละอองหมอกที่เคล้าคลอเคลียต้นข้าว นักท่องเที่ยวที่มาเยือนในช่วงนี้จะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงามของทุ่งนาสีทองลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ตามไหล่เขาให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติ

 

6-1

ผมหลงอยู่ในโลกตัวคนเด

6-3

6-4

6-5

6-6

6-7

 

 

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ถูกยกให้เป็นทุ่งดอกไม้ 1 ใน 10 ของประเทศที่สวยที่สุด ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวด้วยแล้วป่าไม้จะมีความอุดมสมบูรณ์มากเป็นพิเศษ  เพราะช่วงเวลาที่ฝนตกพื้นดินได้สะสมเอาตะกอนดินซึ่งถือได้ว่าเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเหล่าบรรดาดอกไม้ป่า เมื่อดอกไม้ป่าชูช่อพ้นดินก็จะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งลานทุ่งโนนสน “เหลืองพิศมร” หรือ “เอื้องนวลจันทร์” ถือว่าเป็นนางเอกประจำทุ่งโนนสน นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ป่าที่บานชูช่อตลอดสองข้างทางให้ศึกษาธรรมชาติอีกด้วยทั้งกุหลาบพันปี จุกนกยูงกระดุมเงิน กระดุมทองดุสิตา สิงโตกลอกตา สิงโตรวงข้าว เป็นต้น

 

7-1

7-3

7-4

7-5

7-6

 

 

ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย

ด้วยวิวทิวทัศน์ที่กำลังเย็นสบาย ดอยแม่สลองในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตและสัมผัสวัฒนธรรมชุมชนชาวจีนแถบมณฑลยูนนาน ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกชาและพืชผักเมืองหนาว ตลอดจนนักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองรสชาติอาหารที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารต้นตำรับอาหารจีนแถบตอนใต้ ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงดงาม อากาศเย็นสบาย ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบๆ ตัวพร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมชาวเขานักเดินทางไม่ควรพลาดที่จะมาสัมผัสกัน

 

8-1

8-2

8-3

8-4

8-5

 

 

ภูกระดึง จ.เลย

ช่วงปลายฝนตกหนาวภูกระดึงเป็นช่วงเวลาที่น้ำตกบนภูสวยงามที่สุด ผู้พิชิตยอดภูกระดึงต้องไปทดสอบสภาพร่างกายกัน ด้วยท่ามกลางแมกไม้อันเขียวขจี สายน้ำที่ไหลเต็มผา จุดชมวิวผาต่างๆ ที่สามารถเฝ้าดูผ่านสายหมอกทอดยาวเบื้องหน้า ช่วงปลายฝนตกหนาวแบบนี้จึงเป็นช่วงที่ป่าไม้บนภูกระดึงฟื้นฟูและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เพื่อรอต้อนรับนักเดินทางให้มาพิสูจน์และทดสอบร่างกายชื่นชมความงดงามบนภูแห่งนี้

 

9-1

9-2

9-3

9-4

9-5

9-6

 

 

น้ำตกกรุงชิง จ.นครศรีธรรมราช

ช่วงปลายฝนต้นหนาวน้ำตกกรุงชิงถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าหลังจากที่ได้รับน้ำฝนอย่างเต็มที่ก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านฤดู ทำให้กระแสน้ำในธารน้ำตกแผ่ออกเป็นผืนกว้าง กระจายตัวคล้ายกับละอองน้ำฝนในอากาศ ความอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่ที่ราบต่ำถึงเชิงเขาด้านบนทำให้ที่นี่เป็นแหล่งศึกษาดูนกที่ได้รับความสนใจแห่งหนึ่งของภาคใต้ และยิ่งไปกว่านั้นยามเช้าในช่วงปลายฝนต้นหนาวนักท่องเที่ยวจะได้พบกับทะเลหมอกที่สวยงดงาม นับว่าหาดูได้ยากมากในภาคใต้ของประเทศ นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

 

10-1

10-2

10-3

10-4

 

 

น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณ ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงดงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นมีความงดงามที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งช่วงปลายฝนตกหนาวด้วยแล้วป่าไม้ที่อาศัยอยู่รอบๆ น้ำตกแห่งนี้จะมีความสวยงามเป็นพิเศษ ทั้งกล้วยไม้ป่า เถาวัลย์ที่ต่างแย่งกันเลื้อยจับจองพื้นที่ รวมถึงสายธารน้ำที่ไหลซัดซ่านคลอเคล้าไปด้วยเสียงหมู่นกป่าที่บินออกหากิน เผยให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของน้ำตกเอราวัณในช่วงปลายฝนต้นหนาวได้เป็นอย่างดี

 

11-1

11-2

11-3

 

 

ก่อนสายลมอากาศหนาวเย็นจะมาเยือน ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในรอบปีที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ การเติบโตของหมู่แมกไม้นานาพันธุ์ และสายน้ำในธารน้ำตกที่จะกลับมาใสสะอาดอีกครั้งหลังจากที่ขุ่นในช่วงหน้าฝน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการปรับสมดุลของธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัว ปลายฝนต้นหนาวปีนี้ลองเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปกัน

 

ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจากทุกท่าน

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

รีวิว โรงแรมศิลป์กลางเมืองเชียงใหม่ ที่ อาร์ตไหม แกลอรี่

 

เอาใจคนมีศิลปะในหัวใจกับที่พักสุดแนวใจกลางย่านถนนนิมานเหมินท์ จังหวัดเชียงใหม่ ไปเสพย์งานศิลป์ผ่านที่พักแสนเก๋ที่ ART MAI GALLERY HOTEL

 
ART MAI GALLERY HOTEL โดดเด่นด้านการดีไซน์ โดยยกผลงานศิลปะฝีมือของศิลปินมีชื่อชาวไทยถ่ายทอดผ่านการออกแบบตกแต่ง ซึ่งแต่ละชั้นของตัวอาคารจะมีความพิเศษด้วยการตกแต่งไม่เหมือนกัน แต่ละแบบต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายใต้ธีมต่างๆไม่ว่าจะเป็น

 

re_IMG_4701

re_Picture-2

 

– ธีม Nude Art ห้องพักแสนเก๋ที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ออกแบบโดยคุณศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี
– ธีม Op Art ห้องพักศิลปะลวงตา ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะในท้องถนนหรือสตรีทอาร์ตโดยคุณจิตต์สิงห์ สมบูรณ์
– ธีมAbstract Art ที่ออกแบบโดยคุณธนชัย อุชชิน (ป๊อด โมเดิร์นดอก)
– ธีม Pop Art ที่ออกแบบโดยคุณชลิต นาคพะวัน และธีม Surrealist Art, Impressionist Art, Lanna Romantic ที่ออกแบบโดยศิลปินท่านอื่นอีกมากมาย

 

ภายในห้องพักทุกห้องตกแต่งด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม อีกทั้งทางโรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Wi-Fi และอาหารเช้าสไตล์ล้านนาจากห้องอาหารจริต

 

re_IMG_4829

13173661_1153978944668993_2715512587256061397_n

13100828_1153979028002318_1814677062317466318_n

13164260_1153978844669003_2535063256136710100_n

13164343_1153978928002328_5643217494753003415_n

re_IMG_4834

13177809_1153979101335644_8292004769373979255_n

13173759_1153979268002294_104140528825930092_n

13124619_1153978654669022_4009814440097092603_n

10295672_1153978591335695_4415063629729737400_n

13095982_1153979351335619_3836723403485718886_n

13119020_1153979018002319_148144156407080018_n

13124537_1153978934668994_8019336091714606713_n

13124610_1153979034668984_6083115267941912938_n

13133285_1153979124668975_5548742922776035701_n

13133217_1153978894668998_6761672003389108200_n

13177406_1153979308002290_7657775892763196454_n

13178620_1153979324668955_5898683111879833133_n

13151629_1153978858002335_1794015578865971470_n

13179402_1153979144668973_1494500016490318649_n

13174159_1153978491335705_6641874172046942355_n

 

เมื่อเข้าพักที่ ART MAI GALLERY HOTELพลาดไม่ได้กับการลิ้มลองอาหาร จากห้องอาหารจริตที่ตกแต่งแบบร่วมสมัย เป็นเหมือน Art Gallery ขนาดย่อมที่โดดเด่นในด้านอาหารไทยฟิวชั่นและอาหารนานาชาติ พร้อมกับเมนูพิเศษของ6ศิลปินชื่อดังที่ร่วมออกแบบอาหารจานหลักของตนเองสำหรับโรงแรมอาร์ตไหมแกลเลอรี ห้องอาหารจริตยังโดดเด่นในเรื่องของไวน์ท้องถิ่นและไวน์ชั้นนำจากต่างประเทศ

 

ที่ล็อบบี้โรงแรมยังมี Modern Art Collection ไว้สำหรับผู้ที่อยากเก็บสะสมของที่ระลึกได้เลือกซื้อ เพื่อเก็บความทรงจำและซึบซับความเป็นศิลปะจากการมาพักกับ ArtMai Gallery Hotel ให้คุณได้เลือกสรรค์ หากคุณกำลังมองหาที่พักชิคๆใจกลางนิมมานฯ  Hotelandresortthailand ขอแนะนำเลยว่าไปสัมผัสความเก๋ ความแนว และโดดเด่นไม่ซ้ำใครที่ ART MAI GALLERY HOTEL

 

13177708_1153978804669007_4302071273076563820_n

13174044_1153978501335704_4029273086346717915_n

13103317_1153978498002371_5458310088822842623_n

13178040_1153978711335683_8618607075447109706_n

13119075_1153978754669012_6191253646712195384_n

13124936_1153978698002351_8928501265118328238_n

re_IMG_5862

re_IMG_6028

re_IMG_6033

13179465_1153978598002361_2474139885593854785_n

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 053-894-888
E-mail : enquiryartmaigalleryhotel.com
เว็บไซต์ : www.artmaigalleryhotel.com

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

1. ล่องแก่งลำน้ำว้า

หากใครที่ชอบกิจกรรมผจญภัยท้าทาย การไปเยือนลำน้ำว้า เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ตื่นเต้นที่คุณจะไม่มีวันลืม ‘ลำน้ำว้า’ นับว่าเป็นที่สุดของสายน้ำสำหรับการล่องแก่งในเมืองไทย พบกับความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจกับการพายเรือยางฝ่าแก่งหินนับร้อยแก่ง โดยการล่องแก่งจะแบ่งเป็น 3 ช่วงเริ่มจากลำน้ำว้าตอนบน 35 กิโลเมตร ผ่านโขดหินใหญ่น้ำวน และน้ำตกเป็นระยะๆ ลำน้ำว้าตอนกว่า 80 กิโลเมตร ใช้เวลาล่องถึง 2 วัน ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยเกาะแก่งและวังน้ำน้อยใหญ่ไหลผ่านหุบเขากระแสน้ำแรงบางช่วงน้ำวนจึงเหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์ล่องแก่งเท่านั้น ส่วนลำน้ำว้าตอนล่างมีความยาว12 กิโลเมตร สามารถล่องได้ทั้งปี ทั้งยังเป็นช่วงล่องแก่งที่เล็กและเบาที่สุด เหมาะกับคนทั่วไปที่อยากล่องแก่ง เพราะเรือยางจะไหลไปเอื่อยๆตามกระแสน้ำ ชมวิวทิวทัศน์สองฝากฝั่งลำน้ำที่อุดมสมบูรณ์

 

ช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแก่ง

เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน

เป็นฤดูกาลเปิดแก่ง ฝนจะเริ่มตกเรื่อยๆ น้ำเพิ่มสูงขึ้นในระดับที่ไม่มาก หากคุณมาล่องแก่งในเดือนนี้ อาจจะได้ล่องแก่งท่ามกลางสายฝนและน้ำที่ถือว่ายังไม่เชี่ยวกรากเต็มที่

เดือนกรกฎาคม

ใครที่ชอบความหวาดเสียว ต้องมาเลยเดือนกรกฎาคม เพราะเดือนนี้น้ำขึ้นสูง มีระดับคลื่นที่คอยโยกแพยางขึ้นลง ได้ความสนุกสะใจหลายเท่านัก

เดือนสิงหาคม

ระดับน้ำเชี่ยวกรากและสูงมาก และด้วยปริมาณฝนที่ตกหนัก จึงต้องระมัดระวังอันตรายสำหรับการล่องแก่งในเดือนนี้

เดือนกันยายน

ระดับน้ำในเดือนนี้เริ่มลดลงจากเดือนสิงหาคม นับว่าเป็นเดือนที่เหมาะกับการล่องแพมาก เพราะน้ำจะไหลเร็วและแรง มีคลื่นสูงๆให้แพยางโต้เล่น อาจมีฝนตกบ้างประปราย

เดือนตุลาคม

เดือนนี้ฝนไม่ค่อยมีแล้ว น้ำไม่ขุ่นข้น ไหลแรง มีคลื่นสูงบ้าง ที่สำคัญเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศจึงเย็นๆ ยามเช้าจะมีหมอกขาวปกคลุมทั่วบริเวณ

เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม

เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว เดือนนี้น้ำไหลค่อนข้างแรง เหมาะสำหรับการมาแค้มป์ปิ้งสัมผัสอากาศหนาว

 

1-1

1-2

1-3

1-4

1-5

1-6

 

2. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก

ลำน้ำเข็กเป็นลำน้ำขนาดกลาง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ด้านอำเภอเขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง บริเวณหน่วยหนองแม่นา จ.พิษณุโลก และไหลขนานไปกับถนนทางหลวง หมายเลข 12 (พิษณุโลก – หล่มสัก) เส้นทางลัดเลี้ยวของ ลำน้ำเข็ก ประกอบไปด้วยน้ำตกมากมาย อาทิ น้ำตกศรีดิษฐ์ จ.เพชรบูรณ์, น้ำตกแก่งโสภาที่เลื่องชื่อของจ.พิษณุโลก, น้ำตกปอย, น้ำตกแก่งซอง, น้ำตกวังนกแอ่น ทั้งยังมีแก่งมากมายในลำน้ำสายนี้ ในช่วงฤดูฝน ลำน้ำใสสงบสายนี้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มข้น เชี่ยวกรากรุนแรง  ซึ่งแม้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเสี่ยงที่จะเล่นน้ำ ในช่วงนี้ แต่นับว่าฤดูฝนจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมามากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เหมาะแก่การล่องแก่งที่สนุกเร้าใจ ช่วงที่เหมาะสม กับการล่องแก่งลำน้ำเข็กมากที่สุดคือ เดือนมิถุนายน – ตุลาคม

 

2-1

2-2

2-3

2-4

2-5

2-6

2-7

2-8

 

 

3. ล่องแก่งลำน้ำนครนายก

แม่น้ำนครนายกเป็นสายน้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลลงมากลายเป็น น้ำตกนางรอง ไหลมาบรรจบกับ แม่น้ำนครนายก ซึ่งไหลมาจากน้ำตกเหวนรก ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กระแสน้ำไหลแรงในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม จุดเริ่มต้นของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกอยู่ที่บริเวณสะพานท่าด่านระดับความยากง่ายในการล่องแก่งขึ้นอยู่กับฤดูกาลดังต่อไปนี้
เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม ระดับ 2-3

ระยะเวลาในการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

จุดเด่นของการล่องแก่งสายนี้
จุดเด่นของแม่น้ำสายนี้ คือ ตัวแก่งหินสามชั้น กระแสน้ำจะมีลักษณะไหลลดหลั่นกันลงมา คล้ายขั้นบันได เป็นแก่งที่สร้าง ความตื่นเต้น เร้าใจ ได้พอสมควร แก่งหินสามชั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการพายเรือแคนูหรือเรือคยัค นอกจากแก่งหินสามชั้นแล้ว ยังมีแก่งโขดคุ้ง และเกาะแก่ง หลังจากผ่านแก่งต่าง ๆ แล้ว ความรุนแรงของกระแสน้ำจะลดลงเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายก คือลำน้ำที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทาง การล่องทำให้เราได้มีโอกาส ฝึกการพายบังคับเรือยางหรือแคนูหรือเรือคยัคให้เลี้ยวซ้ายขวาได้อย่างสนุกสนาน จนสิ้นสุดการล่องแก่งที่บริเวณวังยาว

แก่งต่างๆ ที่จะล่องผ่าน
– แก่งโขดคุ้ง มีลักษณะเป็นโขดหินโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในช่วงฤดูร้อน แต่จะจมลงไปในน้ำยามฤดูฝน
– เกาะแก่ง มีลักษณะเช่นเดียวกันกับแก่งโขดคุ้งถ้าในช่วงฤดูร้อนจะมองเห็นเกาะแก่งนี้ แต่ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝน กระแสน้ำจะท่วมเกาะแก่งนี้จนไม่สามารถมองเห็นได้
– แก่งหินสามชั้น ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการล่องแก่งนางรองนครนายก ก่อนจะถึงตัวแก่งสามชั้นระยะทางไม่กี่เมตรจะถึงโค้งหักศอกก่อน นักล่องแก่งควรระมัดระวังตัวตั้งใจพายให้ดีเมื่อถึงโค้งหักศอกนี้ เพราะต่อไปจะเป็นแก่งสามชั้น ซึ่งมีลักษณะเป็นชั้นหินสามชั้น เทลาดเอียง ลงมาเป็นขั้นบันได ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร กระแสน้ำจะไหลวนลงมากระทบกับโขดหินน้อยใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำ จนเกิดเป็นลูกคลื่นม้วนตัวเข้าหาหินสูงประมาณหนึ่งเมตร เป็นจุดท้าทายของนักพายเรือคยัคและแคนู ซึ่งจะมาประลองกำลังความสามารถกันที่บริเวณ แก่งสามชั้นแห่งนี้ แก่งสามชั้นสร้างความตื่นเต้นเร้าใจในการล่องแก่งนี้ได้พอสมควร การล่องแก่งนางรองนครนายก จะไปสิ้นสุดการล่องที่บริเวณบ้านวังยาว

เรียบเรียงจาก  www.tat8.com

 

3-1

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

3-4

3-5

3-6

 

 

4. ล่องแก่งแม่น้ำปาย

แม่น้ำปายไหลผ่าน 3 อำเภอของแม่ฮ่องสอนคือ อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า และอำเภอเมือง สองฝั่งแม่น้ำยังอุดมสมบูรณ์ คงสภาพป่าที่ไร้การบุกรุกทำลาย การล่องแก่งในแม่น้ำปายนั้นดึงดูดนักล่องแก่งด้วยจุดเด่นที่แม่น้ำมีลักษณะน้ำวน มีคลื่นสูงบางจุด สร้างความสนุกสนานตื่นเต้นเป็นอย่างมาก การล่องแก่งแม่น้ำปายจะมีระยะทางรวมประมาณ 70 กิโลเมตร ผู้ร่วมกิจกรรมมักจะพักค้างแรมในป่า 1 คืน ซึ่งจะมีที่พักในลักษณะแคมป์ให้บริการ ระดับความยากของแก่งมีตั้งแต่ระดับ 1-4 ช่วงฤดูฝนอาจถึงระดับ 5 ซึ่งมีความยากมากและระดับน้ำรุนแรง ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่งคือ เดือนมิถุนายน – กุมภาพันธ์ของทุกปี

 

4-1

4-2

4-3

 

 

5. ล่องแก่งหนานมดแดง

แก่งหนานมดแดง ตั้งอยู่ที่ ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ที่นี่สามารถทำการล่องแก่งได้ทั้งปี บรรยากาศสองฝั่งคลองนั้นยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้นาๆ พันธุ์ และนกประจำถิ่นนาๆ ชนิด ในขณะล่องแก่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นเต้นกับบรรยากาศตลอดเส้นทางแล้ว ยังได้สัมผัสกับ น้ำที่เย็นและใสจนสามารถมองเห็นตัวปลาและสาหร่ายเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีบริการเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรมค้างคืนอีกด้วย

 

5-1

5-2

5-3

5-4

5-5

5-6

5-7

5-8

5-9

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

รีวิว รีสอร์ทติดทะเล..โรงแรมระยอง รีสอร์ท

 

โรงแรมระยอง รีสอร์ท ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนแหลมตาล อำเภอบ้านเพ จังหวัดระยอง มอบวันหยุดพักผ่อนที่เงียบสงบริมหาดส่วนตัว รายล้อมด้วยทัศนียภาพงดงามของขุนเขา ท้องทะเล และวิวเกาะเสม็ดที่มองเห็นลิบๆอยู่เบื้องหน้า ที่ระยอง รีสอร์ท มีจุดเด่นหลากหลายที่จะทำให้วันพักผ่อนของคุณเป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำ ด้วยทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก สามารถเดินทางโดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง 30 นาที เพียงเท่านี้คุณก็จะได้สัมผัสบรรยากาศวันพักผ่อนริมทะเลได้อย่างเต็มอิ่ม รีสอร์ทมีหลากหลายมุมสำหรับถ่ายภาพ อีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมคือสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวลงไปในทะเล เป็นทั้งจุดชมวิวแสนโรแมนติก และเป็นจุดเก็บภาพสวยๆไว้เตือนความทรงจำ

 

14492378_1269384503128436_3809368063601124459_n

 

ระยอง รีสอร์ท เปิดให้บริการห้องพักทั้งหมด 158 ห้อง มีทั้งห้องพักและห้องสวีท แบ่งออกเป็นสองส่วนคือตึกเมนวิง และตึกเคปวิง ทุกห้องมองเห็นวิวทะเล เหมาะทั้งสำหรับการมาพักผ่อนแบบครอบครัว คู่รัก หรือมาแบบกลุ่มสัมมนา สำหรับการตกแต่งที่นี่จะตกแต่งแบบร่วมสมัยเจือกลิ่นอายความเป็นไทยเล็กน้อยด้วยผ้าทอสำหรับประดับตกแต่ง บรรยากาศในห้องเงียบสงบน่าพักผ่อนแฝงความหรูหราคลาสสิคจากเฟอร์นิเจอร์ไม้  และด้วยโรงแรมมีขนาดใหญ่ ระยอง รีสอร์ทจึงพร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับรองรับวันพักผ่อนให้สมบูรณ์แบบ เริ่มต้นด้วยห้องอาหารที่เสิร์ฟเมนูอาหารหลากหลายเช่น อาหารไทย อาหารยุโรป อาหารทะเลจากอ่าวเพ ระยอง รวมไปถึงสเต๊กซ์และล็อบสเตอร์ และอีกหนึ่งบริการที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์อย่าง ดาวดึงส์ สปา มีบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ ให้บริการนวดน้ำมัน นวดสวีดิช นวดแผนไทย นวดเท้า นวดหน้า และบริการนวด “วารีบำบัด” ที่ใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ อีกหนึ่งไฮไลท์ของการพักผ่อนที่ระยอง รีสอร์ท คือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้าทะเล เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศแสนผ่อนคลายและวิวทะเลแบบไร้สิ่งบดบัง

 

14470464_1269384299795123_8424336502277774605_n

14440768_1269383813128505_598468449918419581_n

14449811_1269384486461771_7917801227256835180_n

14457320_1269385066461713_4998271468723556408_n

14517499_1269384593128427_6428110213399158597_n

14522836_1269383333128553_9070022830405996480_n

14570413_1269383439795209_8877805878959214300_n

14563342_1269385089795044_8786043634137474455_n

14523191_1269384839795069_7478664127731490746_n

14520614_1269384916461728_6727939564587815487_n

14522731_1269384116461808_1170166272394203878_n

 

นอกจากนี้ทางโรงแรมมีศูนย์ประชุมริมทะเลให้บริการห้องประชุมขนาด 10-500 ท่าน สำหรับการจัดสัมมนา สังสรรค์ และมาพักผ่อนแบบหมู่คณะ วันพักผ่อนของคุณที่ระยอง รีสอร์ท จะเต็มไปด้วยความสนุกสนานจากหลากหลายกิจกรรมอย่าง วิ่งออกกำลังกาย วอร์คแรลลี่ กีฬาสัมพันธ์ บนพื้นที่สีเขียวริมทะเล ตกปลา เรือเร็ว ดำน้ำดูปะการัง ฟิตเนส ปิงปอง ชมภาพยนตร์ สนุ๊กเกอร์ เครื่องดื่ม และมุมอ่านหนังสือ เลือกพักผ่อนสบายๆกับธรรมชาติที่โรงแรม ระยอง รีสอร์ท

 

14572179_1269382646461955_7900108548079980812_n

14563441_1269383626461857_7612453686483235592_n

14517534_1269383106461909_3666169738798135337_n

14572838_1269382799795273_7756546121804650236_n

14479624_1269382806461939_289339414811128891_n

14572838_1269385189795034_4686926273915860470_n

14522818_1269384039795149_8144725938986769081_n

14522820_1269383086461911_2640532898949539212_n

14522836_1269382379795315_6674019980619790579_n

14570406_1269383553128531_5276704777614975125_n

14479754_1269385323128354_3526928531615197160_n

14463142_1269383793128507_6008012989155927319_n

14449766_1269382879795265_3421696556982092655_n

14570336_1269383403128546_3461727007868294541_n

14492380_1269383209795232_2594534419206978639_n

14441170_1269382433128643_6980995294897185442_n

14445976_1269382703128616_8989819343285474874_n

14470534_1269383279795225_2780956789742463228_n

14570274_1269383276461892_3881622394458493365_n

 

สำรองห้องพักและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Rayong Resort

ที่อยู่ : 186 หมู่ที่1 ต.เพ จ.ระยอง 21160

โทร. : 0 3301 2440 มือถือ 08 8590 2500

Email: Rayongresort@rayongresort.com

Website : www.rayongresort.com

Facebook : https://www.facebook.com/rayongresortthailand

Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/rayongresort

IG: Rayongresort

Line id : RayongresortThailand

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

10 ที่พักน่ารักสวนผึ้ง ไม่ไปไม่ได้แล้ว

1. บ้านปองธารา

บ้านปองธารา รีสอร์ท ตั้งอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี บนถนนท่องเที่ยว เพียง 700 เมตรจาก Scenery Farm เพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพมหานคร พบกับบ้านพักตากอากาศปลูกสร้างอิงกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน โดยเลือกใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ด้วยวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ข้างรีสอร์ทมีลำธารเล็กๆให้เล่น แถมสวนของที่นี่ก็ยังน่ารักมากๆ

 

ตำแหน่งที่ตั้ง : 58/5 หมู่7 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 095-342-1789

 

1-1

1-2

1-3

1-4

1-5

1-6

1-7

 

 

2. เทอรัว เมน เท็น วิลล่า การ์เด้นท์

เทอรัว เมน เท็น วิลล่า การ์เด้นท์ รีสอร์ทเปิดใหม่ใจกลางพื้นที่ 7 ไร่ ที่ตำบลป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง เปิดให้บริการวิลล่าแสนน่ารักจำนวน 5 หลัง ท่ามกลางบรรยากาศน่ารื่นรมย์ของสวนและทุ่งกว้าง ทั้งยังเงียบสงบเป็นส่วนตัวอีกด้วย เทอรัว เมน เท็น วิลล่า ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งที่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสบรรยากาศสวนผึ้งได้อย่างเต็มที่เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ วิลล่าทั้ง 5 หลังปลูกสร้างในสไตล์วินเทจจากวัสดุจำพวกไม้เพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติโดยรอบ ตกแต่งด้วยโทนสีขาว เขียวและน้ำตาล ให้ความรู้สึกผ่อนคลายน่าพักผ่อน วิลล่าแต่ละหลังมีพื้นที่โดยรวมมากกว่า 100 ตารางเมตร จึงทั้งปลอดโปร่ง อยู่สบายเหมือนพักผ่อนในบ้านของคุณเอง และหากใครต้องการพื้นที่สำหรับจัดปาร์ตี้พบปะเพื่อนฝูงในบรรยากาศส่วนตัวทางรีสอร์ทได้มีบริการให้เช่าทั้งรีสอร์ทแบบเหมาหลัง

 

ตำแหน่งที่ตั้ง :  66 หมู่ 5 ซ.สามัคคี ล็อค 3 ต.ป่าหวาย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 095-836-9565

 

2-1

2-2

2-3

2-4

2-5

2-6

2-7

 

 

3. พอเพลิน ฮิบรีสอร์ท@สวนผึ้ง

รีสอร์ทเปิดให้บริการห้องพัก 8 สไตล์วิลล่าโดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์เมดิเตอร์เรเนี่ยนเป็นวิลล่าแสนสวยน่ารัก และอีก 12 ห้องพักสไตล์โรงแรมที่มีสไตล์การตกแต่งที่โดดเด่นไม่ซ้ำแบบ คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมผจญภัยสนุกๆอย่างปั่นจักรยาน หรือเยี่ยมชมแปลงพัก เดินเล่นชิลๆชมธรรมชาติ ฟังเสียงน้ำในคลองไหลเอื่อยๆ หรือสังสรรค์ปาร์ตี้บาร์บีคิวเล็กๆ

 

ตำแหน่งที่ตั้ง : 333 หมู่ 6 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 086-099-4803

 

3-1

3-2

3-3

3-4

3-5

3-6

3-7

 

 

4. บ้านอ้อมกอดขุนเขา

บ้านอ้อมกอดขุนเขาโดดเด่นอยู่บนพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ ห่างจากกรุงเทพฯ 170 กม.โดยประมาณ ที่นี่คุณสามารถอิ่มเอมใจไปกับวิวขุนเขาที่โอบล้อมดังชื่อของรีสอร์ท ห้องพักของบ้านอ้อมกอดขุนเขาจะเป็นหลังขนาดกะทัดรัด สีขาวสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนผสมผสานศิลปะบาหลี บริเวณรีสอร์ทมีลำธาร บ่อน้ำขนาดใหญ่ และธารน้ำตกจำลอง สระว่ายน้ำและร้านอาหาร นับเป็นรีสอร์ทที่ตกแต่งมีรายละเอียดน่ารักๆไว้ถ่ายรูปเล่น ทั้งอากาศและบรรยากาศก็ดีมากอีกด้วย

 

ตำแหน่งที่ตั้ง : 47/2 หมู่ 2 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 032-711-244 , 032-711-255 , 032-711-266 , 084-751-2323 , 081-881-6680 , 081-752-9696

 

4-1

4-2

4-3

4-4

4-5

4-6

4-7

 

 

5. สวิส วัลเลย์ ฮิพ รีสอร์ท

สวิส วัลเลย์ ฮิพ รีสอร์ท สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี รอต้อนรับผู้มาเยือนด้วยบรรยากาศฟาร์มน่ารักๆ ท่ามกลางขุนเขา เนินดิน และทุ่งหญ้าเขียวขจี ทั้งยังมีเหล่าน้องแกะน่ารักๆให้คุณได้ถ่ายรูปเล่น มีที่พักแสนเก๋สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน โดดเด่นเรื่องการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ราวกับเมืองในจินตนาการ ทั้งบ้านพักสีขาวขนาดกะทัดรัดที่ปลูกสร้างเรียงรายไปตามเนินเล็กๆ กังหันลมขนาดย่อมและสระว่ายล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งปลูกสร้างทางฝั่งชนบทยุโรปอย่างฝรั่งเศสและสเปน บรรยากาศภายในรีสอร์ทนั้นสงบและส่วนตัว บ้านพักแต่ละหลังปลูกสร้างให้มองเห็นวิวสวนของขุนเขาที่สลับซับซ้อนและธรรมชาติบริสุทธิ์โดยรอบ

 

ตำแหน่งที่ตั้ง : 7/7 หมู่ 7 อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 087-773-3950 , 081-995-6162

 

5-1

5-2

5-3

5-4

5-5

5-6

5-7

 

 

6. ฮาร์โมนี่ รีสอร์ท

ฮาร์โมนี่ รีสอร์ท รีสอร์ทสไตล์วินเทจน่ารัก แวดล้อมด้วยสายธารใส ทุ่งหญ้า และต้นไม้ใหญ่ประหนึ่งภาพวาดอันวิจิตรบรรจงของดินแดนในฝันอันสวยงาม โดยเฉพาะในยามรุ่งอรุณที่สายหมอกสีขาวพาดผ่านรีสอร์ท ล้วนเป็นภาพที่ติดตราตรึงใจแก่ผู้มาเยือนอย่างมิรู้ลืม บริเวณรีสอร์ทร่มรื่น เงียบสงบ ห่างไกลจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ และความเรียบง่ายในบรรยากาศชนบท

 

ตำแหน่งที่ตั้ง : 1/4 ม.2 ต.ป่าหวาย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 092-735-5578

 

6-1

6-2

6-3

6-4

6-5

6-6

6-7

 

 

7. แสตมป์ฮิลล์ รีสอร์ท แอนด์ เรสเตอรองท์

สแตมป์ ฮิลล์ รีสอร์ท แอนด์ เรสเตอรองท์ รีสอร์ทเล็กๆ น่ารักภายใต้การโอบล้อมของเทือกเขาเขียวขจี อากาศบริสุทธิ์เย็นสบาย สแตมป์ ฮิลล์ รีสอร์ท แอนด์ เรสเตอรองท์เปิดให้บริการวิลล่าขนาดกะทัดรัดปลูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรป เสมือนได้พักผ่อนในเมืองน่ารักแถบอิตาลี

 

ตำแหน่งที่ตั้ง : 163/3 หมู่ 3 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 081-256-3656

 

7-1

7-2

7-3

7-4

7-5

7-6

7-7

 

8. เดอะ รีสอร์ท แอท สวนผึ้ง

ไม่เพียงแต่ให้บริการที่พักสีสันสดใสแสนอบอุ่น เดอะ รีสอร์ท แอท สวนผึ้งยังพร้อมนำคุณดำดิ่งสู่โลกของการผจญภัยในปราสาทสวนน้ำ สนุกสนานและตื่นตาตื่นใจไปกับสวนน้ำขนาดใหญ่ใจกลางสวนผึ้ง ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่นมีชีวิตชีวาของสระน้ำสีฟ้าใส ห้อมล้อมด้วยวิวขุนเขา สวนน้ำมีทั้งสไลด์เดอร์ อุปกรณ์เล่นน้ำ ที่นั่งพักผ่อนริมสระ เหมาะสำหรับวันพักผ่อนของครอบครัว

 

ตำแหน่งที่ตั้ง : 546 หมู่ 8 อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 081- 763-9336 , 081-763-9031

 

8-1

8-2

8-3

8-4

8-5

8-6

8-7

 

 

9. ไฮซีน รีสอร์ท

ไฮ ซีน รีสอร์ท รีสอร์ทแสนน่ารักโดดเด่นบนเนินเขาเล็กๆ แวดล้อมด้วยธรรมชาติงดงามของสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี รีสอร์ทปลูกสร้างท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขาเขียวขจีที่ทอดตัวยาวสลับซับซ้อน บริเวณรีสอร์ทร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ไฮ ซีน รีสอร์ท ให้บริการบ้านพักสไตล์วิลล่าที่เน้นความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ พร้อมระเบียงส่วนตัวและดาดฟ้าสำหรับชมวิวทิวทัศน์ บ้านพักมีทั้งหมด 13 หลัง 16 ห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

 

ตำแหน่งที่ตั้ง : 250 หมู่ 2 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 084-343-7434

 

9-1

9-2

9-3

9-4

9-5

9-6

9-7

 

 

10. ธีรมา คอทเทจ

ธีรมา คอทเทจให้บริการที่พักแปลกใหม่ในรูปแบบของเรือนไม้ บ้านตอไม้ และบ้านรูปขอนไม้ เหมาะกับวันพักผ่อนสบายๆท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ ผู้มาเยือนจะได้เพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นชมเขาที่ล้อมรอบรีสอร์ท หรือเดินเล่นริมสระน้ำ นอกจากนี้ยังให้บริการห้องอาหาร ร้านกาแฟและห้องจัดเลี้ยงที่รองรับได้ถึง 250 ท่าน

 

ตำแหน่งที่ตั้ง : 263 หมู่ที่ 2 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180

เบอร์โทร : 080-711-0505

 

10-1

10-2

10-3

10-4

10-5

10-6

10-7

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com