5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน
1. ล่องแก่งลำน้ำว้า
หากใครที่ชอบกิจกรรมผจญภัยท้าทาย การไปเยือนลำน้ำว้า เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ตื่นเต้นที่คุณจะไม่มีวันลืม ‘ลำน้ำว้า’ นับว่าเป็นที่สุดของสายน้ำสำหรับการล่องแก่งในเมืองไทย พบกับความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจกับการพายเรือยางฝ่าแก่งหินนับร้อยแก่ง โดยการล่องแก่งจะแบ่งเป็น 3 ช่วงเริ่มจากลำน้ำว้าตอนบน 35 กิโลเมตร ผ่านโขดหินใหญ่น้ำวน และน้ำตกเป็นระยะๆ ลำน้ำว้าตอนกว่า 80 กิโลเมตร ใช้เวลาล่องถึง 2 วัน ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยเกาะแก่งและวังน้ำน้อยใหญ่ไหลผ่านหุบเขากระแสน้ำแรงบางช่วงน้ำวนจึงเหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์ล่องแก่งเท่านั้น ส่วนลำน้ำว้าตอนล่างมีความยาว12 กิโลเมตร สามารถล่องได้ทั้งปี ทั้งยังเป็นช่วงล่องแก่งที่เล็กและเบาที่สุด เหมาะกับคนทั่วไปที่อยากล่องแก่ง เพราะเรือยางจะไหลไปเอื่อยๆตามกระแสน้ำ ชมวิวทิวทัศน์สองฝากฝั่งลำน้ำที่อุดมสมบูรณ์
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแก่ง
เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน
เป็นฤดูกาลเปิดแก่ง ฝนจะเริ่มตกเรื่อยๆ น้ำเพิ่มสูงขึ้นในระดับที่ไม่มาก หากคุณมาล่องแก่งในเดือนนี้ อาจจะได้ล่องแก่งท่ามกลางสายฝนและน้ำที่ถือว่ายังไม่เชี่ยวกรากเต็มที่
เดือนกรกฎาคม
ใครที่ชอบความหวาดเสียว ต้องมาเลยเดือนกรกฎาคม เพราะเดือนนี้น้ำขึ้นสูง มีระดับคลื่นที่คอยโยกแพยางขึ้นลง ได้ความสนุกสะใจหลายเท่านัก
เดือนสิงหาคม
ระดับน้ำเชี่ยวกรากและสูงมาก และด้วยปริมาณฝนที่ตกหนัก จึงต้องระมัดระวังอันตรายสำหรับการล่องแก่งในเดือนนี้
เดือนกันยายน
ระดับน้ำในเดือนนี้เริ่มลดลงจากเดือนสิงหาคม นับว่าเป็นเดือนที่เหมาะกับการล่องแพมาก เพราะน้ำจะไหลเร็วและแรง มีคลื่นสูงๆให้แพยางโต้เล่น อาจมีฝนตกบ้างประปราย
เดือนตุลาคม
เดือนนี้ฝนไม่ค่อยมีแล้ว น้ำไม่ขุ่นข้น ไหลแรง มีคลื่นสูงบ้าง ที่สำคัญเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศจึงเย็นๆ ยามเช้าจะมีหมอกขาวปกคลุมทั่วบริเวณ
เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม
เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว เดือนนี้น้ำไหลค่อนข้างแรง เหมาะสำหรับการมาแค้มป์ปิ้งสัมผัสอากาศหนาว
2. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก
ลำน้ำเข็กเป็นลำน้ำขนาดกลาง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ด้านอำเภอเขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง บริเวณหน่วยหนองแม่นา จ.พิษณุโลก และไหลขนานไปกับถนนทางหลวง หมายเลข 12 (พิษณุโลก – หล่มสัก) เส้นทางลัดเลี้ยวของ ลำน้ำเข็ก ประกอบไปด้วยน้ำตกมากมาย อาทิ น้ำตกศรีดิษฐ์ จ.เพชรบูรณ์, น้ำตกแก่งโสภาที่เลื่องชื่อของจ.พิษณุโลก, น้ำตกปอย, น้ำตกแก่งซอง, น้ำตกวังนกแอ่น ทั้งยังมีแก่งมากมายในลำน้ำสายนี้ ในช่วงฤดูฝน ลำน้ำใสสงบสายนี้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มข้น เชี่ยวกรากรุนแรง ซึ่งแม้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเสี่ยงที่จะเล่นน้ำ ในช่วงนี้ แต่นับว่าฤดูฝนจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมามากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เหมาะแก่การล่องแก่งที่สนุกเร้าใจ ช่วงที่เหมาะสม กับการล่องแก่งลำน้ำเข็กมากที่สุดคือ เดือนมิถุนายน – ตุลาคม
3. ล่องแก่งลำน้ำนครนายก
แม่น้ำนครนายกเป็นสายน้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลลงมากลายเป็น น้ำตกนางรอง ไหลมาบรรจบกับ แม่น้ำนครนายก ซึ่งไหลมาจากน้ำตกเหวนรก ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กระแสน้ำไหลแรงในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม จุดเริ่มต้นของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกอยู่ที่บริเวณสะพานท่าด่านระดับความยากง่ายในการล่องแก่งขึ้นอยู่กับฤดูกาลดังต่อไปนี้
เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม ระดับ 2-3
ระยะเวลาในการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
จุดเด่นของการล่องแก่งสายนี้
จุดเด่นของแม่น้ำสายนี้ คือ ตัวแก่งหินสามชั้น กระแสน้ำจะมีลักษณะไหลลดหลั่นกันลงมา คล้ายขั้นบันได เป็นแก่งที่สร้าง ความตื่นเต้น เร้าใจ ได้พอสมควร แก่งหินสามชั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการพายเรือแคนูหรือเรือคยัค นอกจากแก่งหินสามชั้นแล้ว ยังมีแก่งโขดคุ้ง และเกาะแก่ง หลังจากผ่านแก่งต่าง ๆ แล้ว ความรุนแรงของกระแสน้ำจะลดลงเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายก คือลำน้ำที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทาง การล่องทำให้เราได้มีโอกาส ฝึกการพายบังคับเรือยางหรือแคนูหรือเรือคยัคให้เลี้ยวซ้ายขวาได้อย่างสนุกสนาน จนสิ้นสุดการล่องแก่งที่บริเวณวังยาว
แก่งต่างๆ ที่จะล่องผ่าน
– แก่งโขดคุ้ง มีลักษณะเป็นโขดหินโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในช่วงฤดูร้อน แต่จะจมลงไปในน้ำยามฤดูฝน
– เกาะแก่ง มีลักษณะเช่นเดียวกันกับแก่งโขดคุ้งถ้าในช่วงฤดูร้อนจะมองเห็นเกาะแก่งนี้ แต่ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝน กระแสน้ำจะท่วมเกาะแก่งนี้จนไม่สามารถมองเห็นได้
– แก่งหินสามชั้น ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการล่องแก่งนางรองนครนายก ก่อนจะถึงตัวแก่งสามชั้นระยะทางไม่กี่เมตรจะถึงโค้งหักศอกก่อน นักล่องแก่งควรระมัดระวังตัวตั้งใจพายให้ดีเมื่อถึงโค้งหักศอกนี้ เพราะต่อไปจะเป็นแก่งสามชั้น ซึ่งมีลักษณะเป็นชั้นหินสามชั้น เทลาดเอียง ลงมาเป็นขั้นบันได ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร กระแสน้ำจะไหลวนลงมากระทบกับโขดหินน้อยใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำ จนเกิดเป็นลูกคลื่นม้วนตัวเข้าหาหินสูงประมาณหนึ่งเมตร เป็นจุดท้าทายของนักพายเรือคยัคและแคนู ซึ่งจะมาประลองกำลังความสามารถกันที่บริเวณ แก่งสามชั้นแห่งนี้ แก่งสามชั้นสร้างความตื่นเต้นเร้าใจในการล่องแก่งนี้ได้พอสมควร การล่องแก่งนางรองนครนายก จะไปสิ้นสุดการล่องที่บริเวณบ้านวังยาว
เรียบเรียงจาก www.tat8.com
4. ล่องแก่งแม่น้ำปาย
แม่น้ำปายไหลผ่าน 3 อำเภอของแม่ฮ่องสอนคือ อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า และอำเภอเมือง สองฝั่งแม่น้ำยังอุดมสมบูรณ์ คงสภาพป่าที่ไร้การบุกรุกทำลาย การล่องแก่งในแม่น้ำปายนั้นดึงดูดนักล่องแก่งด้วยจุดเด่นที่แม่น้ำมีลักษณะน้ำวน มีคลื่นสูงบางจุด สร้างความสนุกสนานตื่นเต้นเป็นอย่างมาก การล่องแก่งแม่น้ำปายจะมีระยะทางรวมประมาณ 70 กิโลเมตร ผู้ร่วมกิจกรรมมักจะพักค้างแรมในป่า 1 คืน ซึ่งจะมีที่พักในลักษณะแคมป์ให้บริการ ระดับความยากของแก่งมีตั้งแต่ระดับ 1-4 ช่วงฤดูฝนอาจถึงระดับ 5 ซึ่งมีความยากมากและระดับน้ำรุนแรง ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่งคือ เดือนมิถุนายน – กุมภาพันธ์ของทุกปี
5. ล่องแก่งหนานมดแดง
แก่งหนานมดแดง ตั้งอยู่ที่ ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ที่นี่สามารถทำการล่องแก่งได้ทั้งปี บรรยากาศสองฝั่งคลองนั้นยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้นาๆ พันธุ์ และนกประจำถิ่นนาๆ ชนิด ในขณะล่องแก่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นเต้นกับบรรยากาศตลอดเส้นทางแล้ว ยังได้สัมผัสกับ น้ำที่เย็นและใสจนสามารถมองเห็นตัวปลาและสาหร่ายเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีบริการเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรมค้างคืนอีกด้วย
เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com