โดนใจกันไปเต็มๆ กับวันพักผ่อนที่ “The River Life Resort” กาญจนบุรี เพราะไม่ใช่แค่ความสวยงามของธรรมชาติที่ดึงดูด แต่ห้องพัก อาหาร และการบริการก็ยังเยี่ยมอีกด้วย

 “The River Life Resort” ตั้งอยู่บนโค้งแม่น้ำแคว ในมุมที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทรโยค บรรยากาศรอบๆรีสอร์ทนั้นสดชื่น ด้านหน้ามีแม่น้ำแควไหลผ่าน ล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวสด เดิมทีรีสอร์ทนั้นสร้างเพื่อไว้เป็นที่พักผ่อนของเจ้าของ แต่ด้วยทำเลสวยๆแบบนี้หากเปิดเป็นรีสอร์ท คนอื่นๆก็จะได้มีโอกาสชื่นชมและพักผ่อนท่ามกลางวิวธรรมชาติที่สวยสะกดแบบนี้ นั่นจึงถือเป็นต้นกำเนิดของ “The River Life Resort”

“The River Life Resort” สร้างแบบสไตล์ Loft ที่ดีไซน์การออกแบบและการเลือกใช้วัสดุตกแต่งได้กลมกลืนกับธรรมชาติ ห้องพักมีสี่ประเภทคือ Raft Zone, Building Zone, Loft Zone และ Family Villa   

 โดยห้องพักแต่ละแบบจะมีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่นห้องพักแบบแพลอยน้ำ หรือ Raft Zone ซึ่งมีทั้งหมด 16 ห้อง เรียงตัวอยู่บนโค้งน้ำแควพอดิบพอดี มีเทอเรสยื่นลงสู่น้ำ มองเห็นวิวแม่น้ำได้ในมุมที่สวยที่สุด แล้วยังได้พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งหากใครกังวลว่าพักบนแพพักจะรู้สึกวิงเวียน หรือโยกเยกไปมา ขอบอกว่าหายห่วงได้เลย เพราะแพของ “The River Life Resort” มีคอนเซปต์หลักว่า แพจะไม่โอนเอนโยกไปตามกระแสน้ำ ต้องแข็งแรง พักแล้วไม่เวียนหัว ส่วนภายในตกแต่งทันสมัยมีกลิ่นอายแบบ Loft ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบ ให้ได้พักผ่อนกันสบายๆ คุณสมบัติเยี่ยมแบบนี้ ห้องพักแบบแพลอยน้ำจึงเต็มแทบตลอด ซึ่งหากใครวางแผนจะไป จองก่อนล่วงหน้ายาวๆเลยนะคะ

 ห้องพักในโซน Building Zone บนอาคารสองชั้น ห้องพักในโซนนี้เป็นห้องพักแบบเท่ๆ แนว Industrial loft โดดเด่นด้วยผนังปูนขัดมัน และ อิฐเปลือย พร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้ตกแต่ง ภายในห้องพักแต่ละชั้นนั้นตกแต่งเหมือนกัน โดยจะแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยที่ขนาดของระเบียงหน้าห้อง ซึ่งที่พักบนชั้นสองจะมีบ่อน้ำขนาด 8×16 เมตร และลานโล่งพร้อมที่นอนขนาดเล็กหน้าห้องสำหรับนั่งชมวิว

 ห้องพักบนตัวอาคารสไตล์ลอฟ (Loft Zone) โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย ชิคๆ เก๋ๆ มีทั้งหมด 8 ห้องพัก ใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งแบบพรีเมียม ห้องพักมีระเบียงกว้าง มีพื้นที่สำหรับนั่งเล่น สามารถชมวิวได้จากมุมสูง เหมาะกับมาพักแบบกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวขนาดใหญ่ หรือหากมีเด็กเล็กมาพักด้วยผู้ปกครองอาจเป็นกังวลกับที่พักที่ใกล้น้ำแบบแพพัก ห้องพักบนตัวอาคารก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดีทีเดียว

   และยังมีอีกหนึ่งห้องที่มาใหม่ล่าสุดพักแบบ Family Villa  ไว้บริการสำหรับกลุ่มที่มากันแบบครอบครัวด้วยค่ะ

 และใครที่ได้ลองต้องเป็นติดใจทุกรายไปคือ เมนูอาหารไทยรสชาติเข้มข้นซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ “The River Life Resort” มีให้หลากหลายรายการ รับประทานไปชมวิวแม่น้ำแควไป รับรองเพลินจริงๆ

สำหรับกิจกรรมที่นี่มีให้บริการกิจกรรมล่องแพเปียก และลานกว้างสำหรับพักผ่อน  รับรองว่ามาพักที่ “The River Life Resort” จะได้ความสุขความสดใสกลับไปเต็มๆ

 สามารถติดตามโปรโมชั่นข่าวสารได้ที่: www.facebook.com/theriverliferesort.kanchanaburi

รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมที่
เดอะ ริเวอร์ ไลฟ์ รีสอร์ท (The River Life Resort) 
ที่ตั้ง: 34/5หมู่ 6. ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 71150
Tel: 081-830-5630 
E-Mail: theriverliferesort@hotmail.com  

▶▶ ได้ยินมาว่าติ่มซำและอาหารจีนที่ ห้องอาหารจีนไดนาสตี้ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นอาหารจีนรสชาติแบบกวางตุ้งแท้ๆ และมีหลากหลายเมนูให้เลือก แบบนี้แล้วไม่รอช้าแล้วค่ะ ต้องไปลองตามประสาคนชอบทาน

✦✦✦ พิกัดก็อยู่ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 24 ค่ะ ออกจากลิฟท์มาก็เจอเลย ✦✦✦

➜ บรรยากาศห้องอาหารตกแต่งแบบร่วมสมัย มีกลิ่นอายที่บ่งบอกถึงศิลปะจีนอย่างเด่นชัดผ่านห้องอาหาร เป็นห้องกระจกโดยรอบ มองเห็นวิวกรุงเทพจากมุมสูงด้วย เหมาะสำหรับพาผู้ใหญ่หรือเพื่อนๆมาทานกันค่ะ รองรับได้ทั้งกลุ่มใหญ่และกลุ่มเล็ก

➜ มาดูที่เซ็ตติ่มซำกันค่ะ มี 2 ราคา คือ 850 บาท++ และ 1,250 บาท++ แตกต่างที่ความหลากหลายของรายการเมนูอาหาร ซึ่งเราเลือกทานเมนู 1,250 บาท++ กันค่ะ เพราะว่ามีเป็ดปักกิ่งด้วย

● เมนูมาแล้วเป็ดปักกิ่ง

● ตามมาด้วย appitizer ต่างๆ มีทั้งแมงกะพรุนน้ำมันงา เป็ดย่างฮ่องกง หมูแดง กระเพาะปลาผัดแห้ง ปลาทิพย์ทอด

● เมนูในภาพนี้ “ไก่ทอดราดซอสมะนาว” เป็น เมนู a la carte ค่ะ

● ●  มาดูเมนูติ่มซำกันต่อ ● ●

● ปลาหิมะนึ่งไข่ปลาคาเวียร์ ปลาสดดีค่ะ

● ขนมจีบไข่กุ้ง

● ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง

● ปอเปี๊ยะรังนกทอดไส้กุ้ง อันนี้อร่อยติดใจมากค่ะ แนะนำๆ เนื้อกุ้งสดเด้งๆ กรุบๆ ห่อด้วยแป้งทอดบางกรอบ จิ้มน้ำจิ้มหวานๆ อยากทานสัก 10 ชิ้น แต่ว่าต้องเผื่อท้องชิมอันอื่นต่อค่ะ

● ปอเปี๊ยะ

● ขาไก่นึ่งเครื่องเทศ อันนี้รสชาติกลางๆ ค่ะ

● เกี๊ยวกุ้งมังกรกับเห็ดชิเมจิตุ๋นยาจีน

● ชอบมากอันนี้ ซาลาเปาไส้ครีมชาเขียว จุดเด่นอยู่ที่แป้งนุ่มๆ รสชาเขียว บิออกมีลาวาคัสตาร์ดสีเหลืองทะลักมา อร่อยมากๆ แต่ตัดกำลังน่าดูนะคะ

● ซาลาเปาไส้หมูแดง ตัดกำลังเช่นกัน

● ● รายการอาหารที่สั่งไป ราคารวมในบุฟเฟ่ต์แล้วนะคะ ● ●

● ราดหน้า โกยซีหมี่ ข้าวผัด

● ทั้งหมดทานกันไม่เยอะหรอกค่ะ เท่านี้เอง 3 คน

● ซูมๆ ●

● ตบท้ายด้วยของหวาน เลือกทานได้คนละ 1 อย่างค่ะ

➽➽ สรุปว่าราคาเริ่มต้นที่ 850 บาท++ คุ้มมากค่ะ กับคุณภาพ เมนูอาหาร และบรรยากาศ ต้องมาลองค่ะ

บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 น. – 14.30 น. นอกจากนี้ ยังมีเมนู a la carte และบะหมี่เส้นสด
โฮมเมด ที่รอคุณมาพิสูจน์ความอร่อย

ห้องอาหารจีนไดนาสตี้ ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์

โทร. 02-100-6255

www.centarahotelsresorts.com/centaragrand/cgcw/restaurant/dynasty

Facebook: https://www.facebook.com/DynastyCGCW/

Instagram: Dynasty CGCW

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

 รวมก๊วนกันให้ครบ แล้วไปพบความสนุกที่เขาใหญ่แฟนตาซี รีสอร์ท นอนพักสบายในบ้านทรงโดม เพดานสูง แล้วสูดโอโซนสดชื่นให้เต็มปอดกันเถอะ

 ใครๆก็อยากไปเขาใหญ่แฟนตาซี รีสอร์ท ที่นี่เป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวว่าเป็นรีสอร์ทน่ารักๆในเขาใหญ่ บนทำเลทองแวดล้อมด้วยขุนเขาและสถานที่ท่องเที่ยว มีที่พักแปลกตาสร้างเป็นรูปทรงโดม โล่งโปร่ง ภายใต้คอนเซปต์เก๋ๆ “เราเป็นหมีจำศีลในถ้ำสุดหรู” ซึ่งบ้านโดมจะมีอยู่ 2 แบบ คือบ้านโดม (Junior Suite Cottage) และบ้านโดม VIP (VIP Terrace Cottage ) ซึ่งบ้านโดมจะมีขนาด 45 ตารางเมตร ห้องน้ำ 2 ห้องพร้อมอ่างอาบน้ำ ส่วนบ้านโดมวีไอพี จะเพิ่มความหรูหราในเรื่องการตกแต่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้นอย่าง เตียงนอนขนาดใหญ่ 7 ฟุต ชุดโซฟาพักผ่อน ห้องน้ำขนาดใหญ่ 2 ห้อง อ่างอาบน้ำดีไซน์พิเศษและที่จอดรถ รวมถึงทำเลที่ตั้งที่สามารถมองเห็นวิวภูเขา ทั้งมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าบ้านพักเลยทีเดียว

 ขับรถใกล้ๆ ไปทะเลกันเถอะ มีวันหยุดไม่กี่วันไม่เป็นไรเพราะ “เจ้าหลาวทอแสงบีช” อยู่ใกล้ๆแค่จันทบุรีนี้เอง ขับรถแค่สามชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้วค่ะ

 “เจ้าหลาวทอแสงบีช” เป็นรีสอร์ทติดทะเลที่ป๊อบปูลาร์มากๆในเพจเรา มีโปรมาทีไรลูกค้าแย่งกันแทบไม่ทัน เพราะที่นี่ดีจริงอะไรจริง ไม่เพียงแต่ทำเลที่ติดชายหาดเจ้าหลาว หาดอันดับ 1 ของจันทบุรี บรรยากาศของรีสอร์ทยังน่าพักผ่อน นอนเล่นมากๆ ยิ่งตอนนี้ “เจ้าหลาวทอแสงบีช” รีโนเวทใหม่ ไฉไลกว่าเก่า มีความทันสมัยผสมกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียน ได้บรรยากาศริมชายหาดที่เก๋เป็นที่สุด

 เริ่มตั้งแต่ห้องพักที่มีการปรับปรุงใหม่น่าพักกว่าเดิม

➤ ห้องดีลักซ์ ห้องพักบนตัวอาคารสีฟ้า-ขาว มองเห็นวิวทะเลจากห้องพัก

➤ บ้านฟ้าคราม บ้านพักเป็นหลังขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น สำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มเล็กๆและอยากพักผ่อนแบบส่วนตัว บ้านฟ้าครามกว้างถึง 69 ตารางเมตร ตกแต่งใหม่แบบบูทีค มีเทอเรซพักผ่อนส่วนตัวที่มองเห็นวิวทะเลได้ด้วย

➤ ใกล้ชิดกับทะเลได้แบบเต็มอิ่ม บ้านส่องตะวัน ตั้งอยู่หน้าหาดมองเห็นทะเลได้จากเตียงนอน และลงจากเตียงไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเลแล้ว ภายในตกแต่งเรียบหรู มีระเบียงเล็กๆพร้อมชุดเก้าอี้สำหรับนั่งเล่น

➤ ห้องระเบียงดาว บ้านพักที่สร้างเป็นเรือนแถว 2 ชั้น ตกแต่งแบบบูทีค มีระเบียงหันหน้าสู่ทะเล

➤ บ้านเก็บตะวัน บ้านพักสไตล์เรือนแถวใกล้ชายหาด ตกแต่งใหม่ให้มีความโรแมนติก ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำอีกด้วย

 อีกหนึ่งความฟินที่จัดมาให้กันคือสระว่ายน้ำกว้างตั้งอยู่ตรงกลางรีสอร์ท พร้อมสระเด็ก ว่ายไปชมทะเลไป ไม่มีอะไรเพลินไปกว่านี้อีกแล้ว หรือกิจกรรมก็มีให้เลือกเล่นตั้งแต่ บานาน่า โบ้ท ปั่นจักรยาน ดำน้ำ เล่นน้ำทะเล และห้องเล่นเกมส์  

 ห้องอาหาร Sea Thru Restaurant โฉมใหม่ในสไตล์โมเดิร์นชิคๆ โล่งโปร่งด้วยกระจกบานใหญ่ มองเห็นวิวทะเลและบริเวณรีสอร์ทได้โดยรอบ เสิร์ฟอาหารไทย อาหารพื้นถิ่น และซีฟู้ด ตอนเช้าเป็นสถานที่รับประทานอาหารเช้าของโรงแรม นับเป็นอีกมุมให้คุณได้พักผ่อน ชิมเมนูอร่อยๆ นั่งเล่นเพลินๆ แถมยังเป็นโลเคชั่นสวยๆให้ได้ชักภาพถ่ายรูปอีกด้วย

 ใครสนใจไปตอนนี้ “เจ้าหลาวทอแสงบีช” มีโปรดีๆรออยู่ รีบคว้า รีบจองนะคะ เพราะว่าห้องพักช่วงนี้จะเต็มเร็วมากๆเลยค่ะ

 พิเศษ Countdown ปีใหม่ 2561
ห้องระเบียงดาว (Superior) คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560 พร้อมอาหารเช้า และกาล่าดินเนอร์ 2 ท่าน : ราคา 5,200 บาท
เริ่มจองได้ตั้งแต่ วันนี้ – 20 พฤศจิกายน 2560 **
ราคาพิเศษนี้ สำหรับผู้ที่แจ้งรีสอร์ทให้ทราบตอนจอง…
“ว่ารู้จักโรงแรมเจ้าหลาว ทอแสงบีช จากเพจ HotelAndResortThailand” หรือแคปหน้าจอ  โพสนี้แจ้งรีสอร์ททาง Inbox Facebook www.facebook.com/tosangbeach ก็ได้

 ——————————————————–

 มาทีเดียว กินเที่ยวคุ้ม…เจ้าหลาว
 โปรโมชั่นห้องระเบียงดาว (Superior) ตกหมึก: ราคา 2,799 / ท่าน
– ห้องระเบียงดาว (Superior) (3วัน 2คืน) ห้องละ 2 ท่าน

 มาทีเดียว กินเที่ยวคุ้ม…ยกก๊วน
 โปรโมชั่นห้องระเบียงดาว (Superior) ดำน้ำ: ราคา 3,199 / ท่าน
– แพคเกจนี้ สำหรับจอง 8 คนขึ้นไป
– ห้องระเบียงดาว (Superior) (3วัน 2คืน) ห้องละ 2 ท่าน

**ข้อมูลรายละเอียดกิจกรรมสามารถดูรูป Artwork ในอัลบั้มโพสนี้ได้เลย**

 เงื่อนไขโปรโมชั่น
– ราคานี้ใช้ได้เฉพาะวันธรรมดา *วันศุกร์-เสาร์ ชำระเพิ่มท่านละ 200 บาท
– เริ่มจองได้ตั้งแต่ วันนี้ – 31 มีนาคม 2561
– จองด่วน!! โทร 039-433-191 และ 081-996-9077

 ——————————————————–

โรงแรมเจ้าหลาวทอแสงบีช – Chaolao Tosang Beach Hotel
44/4 หมู่ 5 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 22120
Tel: 039-433191-7, 081-996-9077
E-mail: tosangbeach@gmail.com
Website: www.tosangbeach.com

สวนผึ้ง

เป็นอำเภอบนพื้นที่สูง ของจังหวัดราชบุรี โอบล้อมของขุนเขาชิดชายแดนไทย-พม่า มีแม่น้ำชีไหลผ่าน จึงมีสภาพอากาศที่เย็นสบายคล้ายกับภาคเหนือ และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ใช้เวลาในการขับรถ ประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางด้านตะวันตกที่มี ภูมิประเทศหลากหลาย จากพื้นที่ ที่ราบต่ำ ลุ่มแม่น้ำแม่กลองอันอุดม แหล่งเพาะปลูกพืชผักผลไม้เศรษฐกิจนานาชนิด สู่พื้นที่สูง ทิวเทือกเขาตะนาวศรีทอดตัวยาวทางทิศตะวันตกจรดชายแดนไทย-พม่า มีคำขวัญที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอสวนผึ้งว่า “สาวกะเหรื่ยงเคียงถิ่นตะนาวศรี ลำภาชี แก่งส้มแมวแนวหินผา ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรึงติดตา น้ำผึ้งป่าหวานซึ้ง ตรึงใจ” ที่มาของคำว่า “สวนผึ้ง” เนื่องจากพื้นที่โดยทั่วไปของอำเภอมีสภาพแวดล้อมประกอบ ด้วย ธรรมชาติ ป่าไม้ เทือกเขา และมีต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า “ต้นผึ้ง” ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีสีขาวนวลไม่มีเปลือกกะเทาะ หรือลอกให้เห็น และที่สำคัญคือจะมีผึ้งจำนวนนับแสนนับล้านตัวมาอาศัยทำรังบนต้นผึ้งเท่านั้น
นอกจากความสวยงามและอากาศที่บริสุทธิ์เย็นสบาย ได้ไปท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามใน อำเภอสวนผึ้ง อย่างเช่น ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ไร่กุหลาบอุษาวดี เขากระโจม แก่งส้มแมว แล้ว การได้มาพักผ่อน และถ่ายรูปในสถานที่ฮิบๆ อย่างเช่นเดอะ ซีนเนอรี่ , บ้านหอมเทียน ก็สร้างความสนุกสนานในวันหยุดพักผ่อนได้ไม่น้อยเลย

โป่งยุบ

ตั้งอยู่ที่บ้านท่าเคย ก่อนถึงตัวอำเภอสวนผึ้ง 5 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร เกิดจากยุบตัวของ แผ่นดิน ทำให้เกิดลักษณะหน้าผาสูงชัน มีลักษณะคล้ายกับแพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่ หรือ ฮ่อมจ๊อม อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน โป่งยุบนี้มีอาณาบริเวณกว้างกว่า 10 ไร่ ซึ่งแต่เดิมท้องที่นี้เคยเป็นไร่นามาก่อน นับเป็นสถานที่น่า สนใจแห่งหนึ่ง เส้นทางเป็นถนนราดยางตลอด จนถึงแยกเข้าโป่งยุบเป็นทางลูกรังอัดเรียบ เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.00 – 18.00 น

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง

จากตัวอำเภอสวนผึ้งไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบแยกเข้าสู่ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรงไปอีก 10 กิโลเมตร บ่อคลึงเป็นธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี จะมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นน้ำร้อนบริสุทธิ์ อุณหภูมิของน้ำประมาณ 120-136 องศาฟาเรนไฮด์ ในช่วงฤดูหนาวยามเช้าไอน้ำร้อนจะลอยกรุ่นเป็นหมอกสวย งาม มีบ่อน้ำร้อนและสระน้ำสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ

น้ำตกเก้าโจน , น้ำตกเก้าชั้น

ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผาก หมู่ 7 ตำบลผาผึ้ง เลยจากธารน้ำร้อนบ่อคลึงไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีความสูง 9 ชั้น ตกจากหน้าผาสูงกลางหุบเขา มีน้ำตลอดปี ปริมาณน้ำจะมากในชั้นบนๆ หินบริเวณน้ำตกเป็นหิน แกรนิต แต่เดิมน้ำตกนี้รู้จักกันเฉพาะในกลุ่มชาวกะเหรี่ยง ต่อมาบริษัทต่างชาติเข้ามารับสัมปทาน เหมืองแร่ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2484 เมื่อหมดสัมปทาน ทางอำเภอและกลุ่มองค์กรท้องถิ่นจึงได้เข้ามาดูแลพื้นที่

ไร่กุลาบอุษาวดี

ไร่กุหลาบอุษาวดี ตั้งอยู่ที่ตำบลสวนผึ้ง อยู่เลยจากน้ำตกเก้าชั้นไปอีก โดยเดินทางจากตัวอำเภอสวนผึ้งประมาณ 19 กิโลเมตร เป็นไร่เอกชนซึ่งปลูกกุหลาบต่างประเทศพันธุ์ต่าง ๆ และพันธุ์ไม้ดอกหลายชนิดกลางหุบเขา สามารถเที่ยวชมได้ตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะงดงามเป็นพิเศษ และสามารถเดินเที่ยวชมน้ำตกผาเตย ซึ่งอยู่ห่างจากแปลงกุหลาบประมาณ 1 กิโลเมตร เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

แก่งส้มแมว (ศูนย์ศึกษาพรรณไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์)

ห่างจากอำเภอสวนผึ้ง 25 กิโลเมตร เป็นลำธาร มีเกาะแก่งกลางน้ำภาชี เหมาะสำหรับเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง อยู่ในพื้นที่ สวนป่าสิริกิติ์ภายในสวนป่ามีสวนหย่อม ศูนย์จำหน่ายเครื่องเซรามิคจากคนในบริเวณหมู่บ้านสวนป่าแห่งนี้สร้างขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ เป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้นานาชนิดอันมีค่าทางเศรษฐกิจและเป็นแหล่งศึกษาทางธรรมชาติที่ดีเยี่ยม

เขากระโจม

เป็นจุดชมวิวสุดเขตประเทศไทยแดนตะวันตกอีกแห่งใน อ.สวนผึ้ง ตั้งอยู่ชายแดนไทย – พม่า ด้านอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี มีเทือกเขาตระนาวศรี กั้นพรมแดน ระหว่างทั้งสองประเทศ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ในอดีต พื้นที่นี้มีความเสี่ยง เนื่องจากมีชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมบรรยากาศทะเลหมอกที่สวยงามยามเช้าคล้ายกับ ยอดภูทางภาคเหนือในช่วงเวลา ประมาณ 05.00-06.00 น. พื้นที่ป่าส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์ บริเวณน้ำตกผาแดง มีกล้วยไม้หายาก ตลอดเส้นทาง สามารถเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ใช้เส้นทางเดียวกับทางไป บ่อน้ำร้อนบ่อคลึง น้ำตกเก้าชั้นได้ อุณหภูมิหนาวเย็นทั้งปี

น้ำตกบ่อหวี (น้ำตกตะนาวศรี)

เป็นน้ำตกขนาดกลางเพิ่งพบใหม่ มี 7 ขั้น มีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ทางเข้าผ่านหมู่บ้าน และวัดบ้านบ่อหวีไปอีกประมาณ 2 กม. มีถนนลาดยางตลอดถึงทางเข้าตัวน้ำตก มีลานจอดรถจากนั้นเดินเท้าประมาณ 150 เมตร จะถึงน้ำตกชั้นที่ 1 สายน้ำมีความใสมากกว่าน้ำตกเก้าโจน เหนือขึ้นไปบนน้ำตกจะเป็นชายแดนไทย-พม่ามีฐาน ทหารรักษาการอยู่

พิพิธภัณฑ์ภโวทัย

พิพิธภัณฑ์ภโวทัย หรือ สวนภูมิปัญญาชาวบ้านจากหน้าสถานีตำรวจสวนผึ้งแยก ซ้าย ไปประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านวัดสวนผึ้งแล้วแยกขวาข้ามสะพานไปก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่ทางขวามือ ลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ รวบรวมวัตถุโบราณในอดีต รถม้า รวมทั้งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับของไทยชนิดต่างๆ เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00 น.- 17.00 น.

จุดชมวิวห้วยคอกหมู

สูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตร เดิมเป็นช่องทางการค้าไม้ที่รับการสัมปทานการค้าระหว่าง ไทย-พม่า ปัจจุบันนี้ การค้าระหว่าง ไทย-พม่า ได้ถูกยกเลิกไปหลายปีแล้ว เส้นทางนี้ซึ่งเป็นเส้นทางที่อยู่ติดกับชายแดน ไทย-พม่า จึงได้มีการพัฒนาปรับปรุงเป็นเส้นทาง
การท่องเที่ยวชมวิว ภูเขา และชายแดนไทย-พม่า สามารถมองเห็น ภูมิประเทศของชายแดนพม่าอย่างสวยงาม สามารถมองเห็นต้นไม้
ใหญ่ป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์รวมทั้งนกนานาชนิดอีกมากมายถ้าไปท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมสวยงาม
ไม่แพ้ภาคเหนือ

บ่อน้ำพุร้อนโป่งกระทิง

บ่อพุน้ำร้อนโป่งกระทิง เดินทางไปใช้เส้นทางหมายเลข 3206 ตามถนนสายโป่งกระทิง-พุน้ำร้อนประมาณ 1 กิโลเมตรจะเห็นป้ายเลี้ยวเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร เป็นบ่อพุน้ำร้อนขนาดเล็ก กว้างประมาณ 5 เมตร เมื่อยืน ล้อม รอบบ่อและช่วยกันปรบมือหรือเคาะทำเสียงดัง น้ำในบ่อจะผุดเป็นฟองขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ใกล้กันมีบ่อน้ำเล็ก ๆ สำหรับอาบน้ำร้อนได้

บ้านหอมเทียน

เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของอำเภอสวนผึ้ง ตั้งอยู่หลักกิโลเมตรที่ 33 บ้านหอมเทียน เป็นทั้ง ร้านอาหารและ ที่พัก แต่ที่น่าสนใจเป็นพิเศษก็คือ ที่นี่ขายเทียนหอมหลากสีหลายแบบ ซึ่งทำกันเอง มีโรงงาน ขนาดย่อม ๆ อยู่ด้านหลัง และที่มีแบบและสีสันหลากหลายต่างจากที่อื่นก็เพราะว่าออก
แบบเอง ทำเอง ไม่ได้ เลียนแบบใคร เจ้าของคือคุณรัชนิกร เมื่อก่อนเป็นดีไซเนอร์ออกแบบเซรามิคมาก่อน จุดเด่นของเทียนสีสวยกลิ่นหอมในบ้าน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://travel.sanook.com/

“อาคารกาญจนวงศ์” บ้านขนมปังขิงแสนหวาน

อาคารอายุ 100 กว่าปีที่สร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2451 เดิมทีเป็นบ้านพ่อค้าชาวพม่าซึ่งได้สร้างเป็นที่อยู่อาศัยและทำเป็นร้านเย็บผ้า เป็นอาคารปูนทั้งหลัง ประดับตกแต่งด้วยไม้ฉลุและเทคนิคปูน ลวดลายที่ใช้เป็นลายพรรณพฤกษาและลายประดิษฐ์เป็นส่วนใหญ่ ลวดลายปูนปั้นนูนรังสรรค์ด้วยช่างจากมัณฑะเลย์ ตัวอาคารและลายฉลุไม้ทาด้วยสีขาวทั้งหมด

“บ้านสินานนท์” งามอย่างอาร์ตเดโค

สร้างเมื่อ พ.ศ. 2462 มีอายุราว 90 กว่าปีมาแล้ว บ้านสินานนท์เป็นบ้านพักอาศัยหลังแรกในลำปางที่ใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบตะวันตก แต่ว่าสร้างด้วยชาวจีนกวางตุ้ง ชื่อว่า ซุย หลีซัง ใช้เงินจำนวน 14,000 บาท มีจุดน่าสนใจคือระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านโดยไม่มีเสาหรือค้ำยันมารองรับ ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทเคหสถานและบ้านเรือนเอกชน จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ปี 2548

“อาคารหม่องโง่ยซิ่น” บ้านขนมปังขิงแสนงาม

อาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีแห่งนี้ โดดเด่นและงดงามจนกระทั่งศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์อย่าง น. ณ ปากน้ำ ยกย่องว่าเป็นอาคารขนมปังขิงริมถนนที่งดงามที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นประจำปี 2550 ประเภทอาคารอนุรักษ์สถาปัตยกรรมล้านนา อาคารหม่องโง่ยซิ่นเป็นเรือนขนมปังขิงหลังคาทรงมะนิลา ลักษณะครึ่งปูนครึ่งไม้ห้องบนสุดคือห้องพระประดับด้วยกระจกสี ขึ้นไปถึงได้โดยใช้บันไดลับที่ซ่อนไว้อย่างแยบยล ความพิเศษอยู่ลายฉลุไม้ ทาสีขาวแบบเรือนขนมปังขิงทั่วไป โดยส่วนใหญ่ลวดลายเป็นลากพรรณพฤกษา ลายก้านขด ลายประดิษฐ์มีลายสัตว์และลายสัญลักษณ์ที่หน้าจั่ว ประดับตกแต่งแทบทุกส่วนของอาคาร ดูแล้วหรูหรา พริ้วไหว ที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ หน้าจั่วมีการประดับสะระไนอันเป็นลักษณะเด่นของเรือนแบบมนิลา ฝ้าเพดานบุด้วยแผ่นดีบุกดุนลายเหมือนอย่างวัดในพม่า ซุ้มโค้งเหนือประตูด้านในปรุงแต่งด้วยกระจกสีเหมือนดวงอาทิตย์กำลังแผ่รัศมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในบ้านแล้วมองออกมาจะเห็นชัดเจนมาก

ช่างจากพม่าเป็นผู้รังสรรค์ความงามนี้ให้อาคารหม่องโง่ยซิ่น ซึ่งเราจะเห็นตัวอักษารภาษาอังกฤษ Moung Ngwa Zin ติดอยู่ที่ระเบียงไม้ฉลุ สำหรับหม่องโง่ยซิ่นนั้นเป็นบุตรชายหม่องส่วยอัตถ์ ชาวพม่า เฮดแมนคนแรกของบริษัททำไม้ในลำปาง

“บ้านบริบูรณ์” งามงด หมดจด

เป็นเรือนปูนครึ่งไม้ มีลวดลายฉลุที่ยังคงสมบูรณ์ ชั้นสองไม่มีระเบียงแต่จะมีหน้าต่างโดยรอบเป็นแบบบานเกล็ดไม้บาดเปิดคู่ จุดเด่นของอาคารนี้คือลายฉลุที่ตัวเรือนส่วนลางของชั้นสองมีไว้เพื่อระบายอากาศส่วนใหญ่เป็นลวดลายพรรณพฤกษาและลายประดิษฐ์ มีอายุมากกว่า 80 ปี

“อาคารฟองหลี” คลาสสิค รุ่มรวยประวัติศาสตร์

น. ณ ปากน้ำได้ชมอาคารฟองหลีว่าเป็นอาคารที่มีศิลปะลวดลายฉลุแบบขนมปังขิงที่ฝีมือประณีตมาก โดยเฉพาะลายเท่าแขนตรงมุมหัวเสาและลายช่องลมโค้งของขอบประตู ซึ่งแปลกกว่าที่อื่นมาก ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทเคหสถานและบ้านเรือนเอกชน จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชนูปถัมภ์

“บ้านจันทรวิโรจน์” เรือนปั้นหยา สีฟ้าขาว

บ้านหลังนี้อายุราว 90 ปี มีกลิ่นอายของศิลปะแบบฝรั่ง พม่าและจีนผสมผสานกัน เป็นเรือนแฝดสร้างด้วยปูนทั้งหลัง ด้านหน้ามีประตูบานเฟี้ยมยาวติดถนน ประตูด้านหน้าไม่ได้ใช้งาน แต่จะใข้ประตูด้านหลังแทนในการเข้าออก ส่วนด้านข้างมีบันไดขึ้นไปชั้นสอง มีการประดับกระจกสีเหนือหน้าต่างบานเกล็ดแบบตะวันตก มีกันสาดหน้าต่าง ใช้เทคนิคหล่อปูนใช้ลายเรขาคณิตอย่างตะวันตกเป็นส่วนใหญ่

“บ้านคมสัน” เมื่อตะวันออกพบตะวันตก

สร้าง พ.ศ. 2460 เป็นบ้านฝรั่งชั้นเดียว ยกใต้ถุนสูง ผนังบ้านและเสาใช้คอนกรีตผสมกับหินกรวดจากแม่น้ำวัง ที่น่าสนใจคือใต้ถุนบ้านหลังนี้ถูกออกแบบให้อยู่ในระดับเดียวกับตัวสะพานรัษฎาพิเศก น้ำจึงไม่ท่วมตัวบ้านเลยสักครั้ง

“อาคารเยียนซีไท้ลีกี” ตึกฝรั่ง หัวใจจีน

อาคารพาณิชย์สร้างด้วยปูนทั้งหลัง ตกแต่งแบบตะวันตกแบบเต็มรูปแบบ ตรงกลางอาคารด้านบนมีจั่ว บอกถึงปีที่สร้าง และมีรูปหนูตามปีเกิดผู้เป็นเจ้าของ และลายสัญลักษณ์ลูกโลกพร้อมทั้งลายไม้ ดอกโบตั๋น ลายต้นไผ่และลายประดิษฐ์รูปโบว์ บ้านหลังนี้มีตู้เซฟโบราณเจาะฝังในกำแพงคล้ายห้องลับขนาดเล็ก โดยฝาตู้เซฟนำเข้ามาจากเยอรมัน ในอดีตถ้ามีเหตุการณ์ล่อแหลมชาวบ้านจะนำของมีค่ามาฝากไว้ที่นี่

“หอศิลป์ลำปาง” ทรงคุณค่าแห่งสถาปัตยกรรมล้านนา

บ้านไม้สักทั้งหลังแบบล้านนา หลังเดียวที่อยู่ในกาดกองต้า ปัจจุบันเป็นที่แสดงงานศิลปะ โดดเด่นงดงามด้วยกาแลคู่ และเป็นระเบียงพักระหว่างกึ่งกลางบันได โดดเด่นด้วยศาลารับแขกหน้าบ้าน

“บ้านแม่แดง” อดีตร้านเกากี่ที่รุ่งเรือง

เป็นเรือนปั้นหยาสองชั้น บ้านปูนทั้งหลัง ไม่มีรั่ว ประตูบานเฟี้ยมแบ่งเป็นสามประตูใหญ่ ชั้นบนมีการตกแต่งราวระเบียงเป็นลวดลายเรขาคณิตสวยงามและโดดเด่นรับกับใต้ชายคาที่นำไม้แกะสลักและฉลุลายมาตกแต่ง

“บ้านอนุรักษ์” แสนกล ซ่อนหลังคา

เป็นอาคารแบบตึกฝรั่ง แต่มีลักษณะผังพื้นแบบร้านค้าชาวจีน มีสองชั้น ชั้นล่างมีทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารที่มีเสาเรียงกันเป็นแถวและมีหลังคาคลุม ชั้นสองมีระเบียงยาวเชื่อมต่อกันไปตลอดชั้น บนสุดมีระเบียงบนหลังคาหลอกให้คนเข้าใจว่าเป็นดาดฟ้า

“บ้านเลขที่ ๒๑๐” เรียบง่าย ทรงเสน่ห์

เป็นบ้านเรือนปั้นหยาสองขั้นที่งามแบบเรียบง่าย สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง โดดเด่นและดูมีเสน่ห์ที่หลังคา ซึ่งเป็นกระเบื้องดินขอที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน เป็นอาคารที่มีห้องแถวสามห้อง ไม่มีการตกแต่งลวดลายใดๆ ราวระเบียงเป็นซี่ไม้ธรรมดา มีประตูบานเฟี้ยมยาวเหยียด

ขอขอบคุณรูปภาพภาพจาก สมาชิก Pantip : Splendour , www.khopjaithailand.com , Facebook : เทศบาลนครลำปาง เว็บเพจ

☞ เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com