ออกไปเที่ยว นอนฟินรับลม ชมทะเลใกล้กทมฯ เพิ่มระดับความสุข ที่ “The Zign Hotel Pattaya”

สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวทะเล แต่มีเวลาน้อย จะเดินทางไกลก็เสียเวลาวันหยุดพักไปอีก เราแนะนำเมืองพัทยาเลยค่ะ ใกล้กทมฯ เดินทางง่ายๆ ยิ่งได้นอนพักในที่บรรยากาศสวยๆ เป็นส่วนตัว ริมหาดแล้วด้วย ยิ่งแฮปปี้ วันนี้เราเลือกพัก “The Zign Hotel Pattaya” ตั้งอยู่ริมทะเลอ่าวนาเกลือ ซอยนาเกลือ 12 ซอยเดียวกับปราสาทสัจธรรมเลยค่ะ บอกเลยว่าที่นี่สวยงาม ยิ่งใหญ่อลังการ มีห้องพักทั้งหมดพันกว่าห้อง บรรยากาศดีน่าพักผ่อนนอนตีพุงสุดๆ

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48208

แค่ก้าวแรกที่ได้สัมผัส “The Zign Hotel Pattaya” ก็รู้สึกแฮปปี้มากเลยนะ สวยน่าถ่ายรูปทุกมุม ซึ่งภายในโรงแรมจะมีการแบ่งห้องพักออกเป็น 2 ส่วน คือห้องพักในส่วนที่เป็น Villa ตกแต่งแบบบ้านพักสไตล์รีสอร์ท และโซนทาวเวอร์ ที่เหมาะสำหรับใครที่ชอบความชิคเก๋ ทันสมัย โดยทั้ง 2 ส่วนนี้จะแยกออกจากกันนะคะ

ห้องพักที่ “The Zign Hotel Pattaya” ตกแต่งสวยเรียบง่าย แฝงไว้ด้วยดีไซด์เก๋ๆ เฟอร์นิเจอร์ใหม่เอี่ยม ชอบการตกแต่งสไตล์คอนเทมโพรารี่ของที่นี่มากกก มีการนำเอาศิลปะ และงานหัตถกรรมแบบไทยๆมาผสมเข้ากับความโมเดิร์นสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวสุดๆ เราพักห้อง Superior Sea View แต่แอบเก็ภาพห้องแบบอื่นๆมาให้ดูกันด้วยน้า

ภายในห้องกว้างขวาง พื้นที่ใช้สอยจัดมาได้ลงตัวสุดๆ สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้พร้อม เรียกว่ามาแต่ตัวก็ได้เลยจ้า แถมยังมีห้องให้เลือกหลายแบบ เลือกได้ตามสไตล์เราเลย

จุดเด่นที่ต้องไม่พลาดคือระเบียงห้อง Sea View วิวทะเล เห็นทะเลแบบสุดลูกหูลูกตา แถมยังเห็นฝั่งแหลมฉบัง อยู่ลิบๆสายตาด้วยค่ะ บรรยากาศสวยจริงอะไรจริง ปลื้มมมค่ะ

อีกหนึ่งไฮไลท์คือสระว่ายน้ำสระใหญ่มหึมา สระว่ายน้ำจะมีสองชั้น ตกแต่งแบบสวนป่าเมืองนอกเก๋ๆ น่าว่ายเล่นทั้งชั้นบน ชั้นล่างเลยค่ะ เด็กๆก็เล่นได้ปลอดภัยนะคะ มีการ์ดคอยดูแลบริเวณรอบๆ หายห่วงเลยค่ะ รอบๆสระก็มีที่นั่งริมสระ และมุมพักผ่อนเยอะมากกก เดินเล่นยังไงให้ทั่วดีนะ เพราะที่นี่เค้าใหญ่มากจริงๆค่ะ

นอกจากสระว่ายน้ำสุดอลังแล้ว ใครที่ชื่นชอบความสนุก ที่นี่มีสนามฟุตบอล และวอลเล่ย์บอลริมชายหาด แถมมีที่นั่งไว้รับลมทะเลชิลๆ หรือจะเดินเล่น ถ่ายรูปชิคๆริมหาดก็ฟินนะ

ใครกำลังหิวๆ เตรียมท้องร้องได้เลยจ้า เพราะเช้านี้ที่ห้องอาหารเช้า Dessin (เดสซิน) ใหญ่โต หรูหรา ไลน์อาหารจัดเต็มมาก

จะของคาว หรือของหวาน “The Zign Hotel Pattaya” ก็มีมาให้ครบเลยจ้า

ที่นี่เค้าครบเครื่องจริงๆ นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วก็ยังมี ห้องฟิตเนต สปาริมหาด บีชคลับมินิมอลล์ และบริการสุดประทับใจอื่นๆ

ได้มาพักผ่อนในวันหยุดสั้นๆ ที่ “The Zign Hotel Pattaya” เดินทางสะดวก พักสบาย อาหารอร่อย มีรูปลงอวดเพื่อนทั้งปี มาพัทยาทริปหน้า มาพักที่นี่อีกแน่นอนค่ะ

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ หมายเลขโทรศัพท์: 03890-9800-20
❀ อีเมลล์: info@thezignhotel.com
❀ เวปไซต์: www.thezignhotel.com
❀ เฟซบุ๊ค: The Zign Hotel & The Zign Premium Villa

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

เทใจให้ “เลย”

เที่ยวสนุกบุกอีสาน ไปชาร์จแบตให้ชีวิตที่ “เลย” กันหน่อย! จังหวัด “เลย” ตั้งอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีหลากหลายสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะขึ้นภู ลงห้วย ใช้ชีวิตช้าๆที่เชียงคาน หรือจะไหว้พระ ก็เที่ยวได้ครบรสจริงๆ รับรองเลยว่าแค่ได้ไปสัมผัสก็ไม่อยากจะเลยไปไหนอีกเลย ซึ่งวันนี้ Hotelandresort อยากจะขอแนะนำกิจกรรม และสถานที่สวยๆในจังหวัด “เลย” สักเล็กน้อย..ไว้เป็นไกด์นำทางเวลาไปเที่ยวนะจ๊ะ

┈┈┈ L O E I ┈┈┈

“วัดมหาธาตุ” วิหารเก่าแก่ คู่เมืองเชียงคาน •

หากมาพักผ่อนในเชียงคาน แวะมาไหว้พระที่ “วัดมหาธาตุ” วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองเชียงคาน ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2197 ภายในวัดมีพระอุโบสถไม้เก่าแก่รูปแบบสถาปัตยกรรมล้านช้างเป็นที่ประดิษฐาน ‘หลวงพ่อใหญ่’ บริเวณหน้าจั่วมีภาพเขียนบอกเล่าเรื่องราวประวัติเมืองเชียงคาน ข้างโบสถ์มีเจดีย์ก่ออิฐที่เชื่อกันว่าสร้างทับรูเป็นปากทางเข้าเมืองพญานาคซึ่งจะขึ้นมาบูชาหลวงพ่อใหญ่ ด้านหน้าเจดีย์มีอูบซึ่งเป็นหิ้งสำหรับใส่ของบูชา ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีพระอุโบสถหลังใหม่ที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านช้างที่สวยงาม

✻ สถานที่ตั้ง : ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย

┈┈┈ L O E I ┈┈┈

• ถนนสายศิลปะ ริมแม่น้ำโขง “ถนนคนเดินเชียงคาน” •

ถนนคนเดินเชียงคาน จะมีวันเสาร์และอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 17.00 – 22.00 น. คับคั่งไปด้วยร้านต่างๆ มากมายมีสินค้าขายหลากหลายชนิด ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และของที่ระลึกซึ่งอีกมากมายที่ประดิษฐ์ขึ้นมาจากไอเดียสุดเก๋ นอกจากนี้ตลอดเส้นทางยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟคลาสสิคน่ารักๆ เยอะแยะมากมาย ถือได้ว่าเป็นถนนสายศิลปะที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาท่ามกลางบรรยากาศอันเรียบง่ายและเก่าแก่

✻ สถานที่ตั้ง : ถนนชายโขง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย

┈┈┈ L O E I ┈┈┈

• แก่งหินกลางโขง “แก่งคุดคู้” สุดแดนสยาม •

 “แก่งคุดคู้” เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ประกอบด้วยหินก้อนใหญ่ๆ จำนวนมากอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินต่างๆมีสีสันแตกต่างกันไป ตัวแก่งกว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง มีเพียงกระแสน้ำที่ไหลผ่านช่องแคบๆ ทางฝั่งไทยเท่านั้นเอง บริเวณแก่งมีร้านอาหารจำหน่ายอยู่มากมาย ช่วงเวลาที่เหมาจะชม “แก่งคุดคู้” ที่สุดคือ เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน

✻ สถานที่ตั้ง : บ้านน้อย อ.เชียงคาน จ.เลย

┈┈┈ L O E I ┈┈┈

• จุดชมวิวทะเลหมอก “ภูทอก” 

“ภูทอก” จุดชมวิวทะเลหมอกของเชียงคาน มีลักษณะเป็นภูเขาสูง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง บนยอดภูเป็นที่ตั้งของสถานีโทรคมนาคมเชียงคาน และเป็นจุดชมวิวทิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถชมความงามของแม่น้ำโขง เมืองสานะคาม และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน ส่วนทะเลหมอกนั้นจะเจอมากน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน

✻ สถานที่ตั้ง : ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

┈┈┈ L O E I ┈┈┈

• เรียนรู้ วิถีชีวิตดั้งเดิมลาวโซ่ง “หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ” บ้านพิพิธภัณฑ์หนึ่งเดียวในอีสาน •

“หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ” ตั้งอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว เดิมชาวไทดำอพยพมาจากเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2448 มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านนาป่าหนาด ปัจจุบันยังมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทดำ มีบ้านที่สร้างขึ้นตามแบบเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชาวไทดำ

ในชุมชนไทดำบ้านนาป่าหนาดยังคงรักษาหลายสิ่งหลายอย่างเอาไว้ได้ เช่น การทอผ้าสวยงามลักษณะต่างๆ ผ้าเปียวหรือผ้าสไบใช้ในการทำภารกิจหลากหลาย ผ้าซิ่น ผ้านุ่งลวดลายของชาวไทดำ ตุ้มนก ตุ้มหนู บ้านอนุรักษ์ทรงไทดำ เครื่องประดับประกอบพิธีกรรมซึ่งสามารถเอาไปทำเป็นโมบายประดับตกแต่งได้หลากหลาย พิธีกรรมต่างๆ ก็ยังคงพยายามรักษาเอาไว้ และสิ่งที่น่าชื่นชมอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ‘แซปาง’ การละเล่นสนุกสนานของขาวไทดำที่ในประเทศไทยมีอยู่ในพื้นที่นี้แห่งเดียวเท่านั้น

✻ สถานที่ตั้ง : บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

┈┈┈ L O E I ┈┈┈

• “ห้วยกระทิง” อ่างเก็บน้ำกลางขุนเขาเมืองเลย •

“อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง” เป็นอ่างเก็บน้ำสันเขื่อนดิน มีครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,500 ไร่ สันเขื่อนยาว 800 เมตร บรรยากาศสวยงามโอบล้อมด้วยขุนเขาสูงต่ำ และป่าไผ่เขียวขจี บริเวณอ่างเก็บน้ำจะมีเรือนแพตั้งอยู่มากมาย มีบริการร้านอาหารให้เลือก โดยจะสามารถทานอาหารบนแพ หรือจะให้ลากแพไปกลางแม่น้ำ ได้นั่งเล่นพักผ่อน หรือเล่นน้ำก็ยังได้

✻ สถานที่ตั้ง : บ้านห้วยกระทิง หมู่ 1 ต.กกทอง อ.เมืองเลย จ.เลย

┈┈┈ L O E I ┈┈┈

• แหล่งดูดอกนางพญาเสือโคร่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย “ภูลมโล” •

ชมซากุระเมืองไทยทางฝั่งอีสาน “ภูลมโล” ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ฝั่ง จ.เลย ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินเขาติดกันหลายลูก และมีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นตามธรรมชาติอยู่ทั่วไป ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี เนินเขาจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอย่างอลังการจากดอกไม้ที่เบ่งบานพร้อมกัน

สำหรับการขึ้นไป “ภูลมโล” ไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ เพราะเส้นทางขรุขระ และลาดชัน จึงมีบริการรถสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งสามารถขึ้นทาง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยเช่ารถชุมชนหมู่บ้านขึ้นไปบนภู

✻ สถานที่ตั้ง : ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย

┈┈┈ L O E I ┈┈┈

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

เที่ยวเชียงราย ใกล้ชิดขุนเขา พร้อมวิวที่สวยจนต้องตะลึง “คาทิลิยา เมาท์เทน รีสอร์ท แอนด์ สปา”

นึกจะไปเที่ยวเชียงราย ที่พักแรกเลยที่นึกถึง คือ “คาทิลิยา เมาท์เทน รีสอร์ท แอนด์ สปา” รีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับขุนเขาได้มากสุดๆ เรียกได้ว่าอยู่บนเขาล้อมรอบแบบพาโนราม่าเลย อยากสูดอากาศให้เต็มปอด ใกล้ชิดเขาจนเต็มอิ่มก็ต้องที่นี่แหละ “คาทิลิยา เมาท์เทน รีสอร์ท แอนด์ สปา

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48204

คาทิลิยา เมาท์เทน รีสอร์ท แอนด์ สปา” เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ ที่เน้นความเป็นส่วนตัว ตัวโรงแรมอยู่ห่างจากถนนหลักพอสมควร แต่ถนนการเดินทางเข้าไปแม้จะลึก แต่ไม่ลำบาก ถึงแล้วจะร้องว้าว หายเหนื่อยทันที สวนของที่นี่สวยมากได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อาคารที่พักและล็อบบี้โอ่โถง

ก่อนอื่นอยากบอกว่าไฮไลท์ใหม่ของ “คาทิลิยา เมาท์เทน รีสอร์ท แอนด์ สปา” คือ “คาทิลิยา ปาร์ค” ที่จะเรียกได้ว่าเป็น Animal Santuary หรือที่พักพิงของเหล่าสัตว์น่ารักๆ เป็นสวนกว้าง มีสระ ต้นไม้เยอะๆ ที่เหล่าสัตว์อยู่ไดอย่างสงบ คือมีการรักษาถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของสัตว์เหล่านี้ไว้ให้คงเดิมได้มากที่สุด พิกัดของ “คาทิลิยา ปาร์ค” จะอยู่ตรงทางขึ้นก่อนไปถึงตัวรีสอร์ท มีป้ายบอกไว้ แวะชมก่อนขึ้น check in ได้ หรือ check in ก่อนแล้วให้ทางโรงแรมมาส่งดูได้ โครงการกว้างแบบนี้เลย

หงส์ขาว หงส์ดำ ห่านและเป็ด ว่ายน้ำอย่างอิสระเสรีในนี้

มีนกแก้วมาคอร์หายาก หลากสี พวกนกหงส์ยกก็มีให้ดู ซึ่งเค้าจะสร้างกรงขนาดใหญ่ โดยมีต้นไม้ขึ้นอยู่ภายใน นกสามารถบินโผจากกิ่งไม้ต้นนู้นไปต้นนี้ได้

อีกจุดหนึ่งที่เราชอบมากคือ กวางดาวตัวน้อยที่เพิ่งคลอด แล้วเค้าเชื่องมากๆ วิ่งเล่นอย่างมีความสุข พอเรามีนมมาป้อนก็เข้าหาเลย เชื่องมาก

จุดตรงนี้หน้าหนาวสามารถจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวได้ด้วยนะ

กระต่ายน่ารัก ไม่กลัวคนเลยถ้ามีแครอท

ใช้เวลา 1 ชั่วโมงที่ คาทิลิยา ปาร์ค ก็ทั่วแล้วสำหรับการชมสัตว์และธรรมชาติ แต่หากอยากเดินป่า หรือวิ่ง ที่นี่ก็เหมาะมาก แต่อาจจะใช้เวลานานหน่อย สำหรับตอนนี้เราอยากไปชมห้องพักแล้วหล่ะ ห้องพักของเราคือห้อง คาทิลิยา สวีท เป็นห้องที่เน้นวิวเขา และขนาดของห้องกว้างมาก 90 ตารางเมตร รวมระเบียง ซึ่งที่นี่มีจุดขายคือขนาดของห้องที่กว้าง และวิวภูเขาแบบไร้สิ่งบดบัง อีกอย่างที่ชอบคือห้องน้ำกว้าง แยกส่วนอ่างอาบน้ำ เรนชาวเวอร์ ห้องน้ำ และอ่างล้างหน้าออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน

มาพักที่คาทิลิยา หากไม่ได้มาลองห้องอาหาร “เดอะ เทอเรซ” เราจะถือว่าพลาดมาก นอกจากวิวที่สวยแบบต้องตะลึงแล้ว รสชาติของอาหารก็เยี่ยมมากทั้งอาหารคาวและหวาน มาดูบรรยากาศกันก่อน ว่ากินขาดแค่ไหน

เมนูอาหารเด็ดสุดๆคือ คาทิลิยา พิซซ่า แนะนำว่าต้องสั่ง คือเป็นพิซซาที่แป้งจะคล้ายแป้งนาโช่ บางและกรอบ ซอสที่ทาพิซซ่าก็เข้มข้น อบเตาฟืน เป็นโฮมเมดพิซซ่าที่อร่อยจริงๆ

ลาบเมืองคั่ว ใครชอบทานให้สั่งเป็นลาบคั่วที่รสชาติเข้มข้นแบบคนเหนือ หอมกลิ่นพริกแห้งคั่วและเครื่องเทศ รสชาติอาจไม่คุ้นลิ้น แต่ทานไปเรื่อยๆจะถูกใจคนชอบกลิ่นเครื่องเทศ เพราะใส่มาแบบจัดเต็ม หมูก็ไม่มีมัน เผ็ดเล็กน้อยพอประมาณ

ของหวานอร่อยทั้งคู่ช็อกโกแลตลาวาไอศครีม และสตรอเบอรี่ชีสเค้กกับไอศครีมวนิลลา

เชียงรายเย็นหน่อยๆ ก็จะมีจุดเตาผิงที่ล็อบบี้ให้ด้วย

ตื่นเช้ามาหมอกลงหนา แม้จะยังไม่ได้เข้าหน้าหนาวเต็มตัว

เราเลยได้ทานข้าวท่ามกลางไอหมอกแบบนี้ สดชื่น เย็นสบาย

สำหรับอาหารเช้ามีความหลากหลาย อาหารไทย อาหารตะวันตก มีขนมด้วย

กาแฟตอนเช้าเสิร์ฟกาแฟจากเมล็ดกาแฟของเชียงราย น่าจะถูกใจคอกาแฟที่อยากชิมกาแฟ local

ขากลับแวะเที่ยวไร่ชาฉุยฟงนะคะ อยู่ห่างจากโรงแรมแค่ 1-2 กิโลเท่านั้นเอง

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ ที่ตั้ง : 388/1 หมู่ 4  ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย
❀ โทรศัพท์: 053-603000, 082-6946988
❀ อีเมลล์: info@katiliya.com 
❀ เว็บไซต์: www.katiliya.com
❀ เฟซบุ๊ค: KATILIYA MOUNTAIN RESORT & SPA CHIANG RAI
❀ อินสตาแกรม: katiliyamountainchiangrai

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

พักหรู ริมหาดกะหลิม เพิ่มความสุขสุดขีด ที่ “เดอะ เนเชอร์ ภูเก็ต”

เรียกได้ว่าครบเครื่อง เมื่อมาเที่ยวที่หาดป่าตอง ทั้งที่พัก ร้านอาหารจำนวนมากคอยให้บริการ นับว่าเป็นย่านที่คึกคักที่สุดของเกาะภูเก็ตเลยก็ว่าได้ เพราะยามค่ำคืนก็มีทั้งตลาดนัด ถนนคนเดิน กิจกรรมแน่นไม่มีเบื่อ หรืออยากนั่งชิลล์ๆเงียบๆ กับเหล่าแก๊งค์เพื่อนก็มีให้เลือกหากันได้ทุกรูปแบบ ที่พักบริเวณหาดป่าตองก็มีหลากหลาย แต่หากได้มาพักที่ “เดอะ เนเชอร์ ภูเก็ต” แล้วล่ะก็..ได้ทั้งนอนชิดทะเล สัมผัสบรรยากาศสุดหรู โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติฉากหลังเป็นภูเขา ขอบอกเลยว่าครบสูตรในที่เดียวค่ะ

“เดอะ เนเชอร์ ภูเก็ต” ตั้งอยู่บนหาดกะหลิมใกล้กับหาดป่าตองเพียงไม่กี่เมตร ความสุขสุดขีดเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอน Check in ที่นี่เป็นโรงแรม 5 ดาว ขนาดใหญ่ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม เรียบหรู ในสไตล์โมเดิร์นทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง  บรรยากาศภายในที่พักเงียบสงบ เป็นส่วนตัว

ในส่วนของห้องพักที่ “เดอะ เนเชอร์ ภูเก็ต” มีมากถึง 300 ห้อง สามารถเลือกเข้าพักได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ เพราะมีห้องพักให้เลือกถึง 8 แบบ

Deluxe Room

Deluxe Pool View

Deluxe Seaview

Deluxe Pool Access

Deluxe Private Jacuzzi ขนาดห้อง 36 ตร.ม.

Junior Suite ขนาดห้อง 62 ตร.ม. ภายในกว้างขวาง ห้องถูกแบ่งโซนอย่างชัดเจน มีอ่างจากุซซี่ไว้แช่ฟินๆ

หรืออยากเพิ่มออฟชั่นอีกนิด เลือกพักห้อง Junior Suite Pool Access เพียงแค่เลื่อนบานกระจกก็สามารถลงสระน้ำได้ทันที

และยังมีห้อง Grand Suite Two-Bedrooms ห้องสวีท 2 ห้องนอน ขนาดห้อง 100 ตร.ม. แบ่งพื้นที่ใช้สอยชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน 2 ห้องนอน ห้องน้ำ และระเบียงส่วนตัว

ห้องพักทุกห้องที่ “เดอะ เนเชอร์ ภูเก็ต” ดีไซด์โดดเด่น ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ใหม่เอี่ยม สวยหรูหรา ทันสมัย และพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันค่ะ

นอกจากนี้ที่ “เดอะ เนเชอร์ ภูเก็ต” ยังมีห้องอาหารสุดหรู บาร์สุดเก๋ริมสระ  สปาครบวงจร ฟิตเนส ห้องประชุม ห้องจัดสัมนา คิดส์คลับ และมุมพักผ่อนท่ามกลางสวนสวยๆ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการมาพักเที่ยวจริงๆค่ะ

ห้องอาหารสุดหรู

บาร์ Rooftopสุดเก๋

สปาครบวงจร

ฟิตเนส

ห้องประชุม ห้องจัดสัมนา

คิดส์คลับ

สระว่ายน้ำ

จุดเด่น “เดอะ เนเชอร์ ภูเก็ต” อยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่เรียกว่าทำเลทองค่ะ เพราะที่นี่อยู่ห่างจากหาดป่าตองเพียงไม่กี่เมตร หากท่านไหนต้องการไปช้อปปิ้งที่ห้างจังซีลอนหรือหาดป่าตอง โซนถนนบางลาก็ไม่ต้องกังวลเพราะโรงแรมมี Free Shuttle Bus ถึง 8 รอบต่อวันเลย และมีตลาดกะหลิมยามเย็นให้นักชิมได้มาลิ้มรสอาหารสไตล์ Street Food ได้ด้วย แถมยังห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวอย่างศูนย์การค้าจังซีลอน และสนามมวยป่าตองเพียง 3 กม.

อีกทั้งที่นี่ยังมีสภาพแวดล้อม และทัศนีย์ภาพที่สวยงาม ไม่แปลกใจเลยที่ “เดอะ เนเชอร์ ภูเก็ต” ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย มาทำวันหยุดธรรมดาให้เป็นวันพิเศษ ตอบโจทย์ความต้องการทุกรูปแบบของคุณได้ที่นี่ค่ะ

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ ที่ตั้ง : 322 ถนน พระบารมี ตำบล ป่าตอง อำเภอ กะทู้ จังหวัด ภูเก็ต
❀ โทรศัพท์: 076-681789
❀ อีเมลล์: rsvn@thenaturephuket.com
❀ เว็บไซต์: www.thenaturephuket.com
❀ เฟซบุ๊ก: The Nature Phuket
❀ อินสตาแกรม: thenaturephuket

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

หนาวนี้ เชียงใหม่เที่ยวสนุก นอนสบายจนไม่อยากกลับบ้าน “วินทรี ซิตี้ รีสอร์ท”

ใครมีแพลนไปเชียงใหม่ยกมือขึ้น อ่านรีวิวนี้อาจจะได้ทริคเด็ดๆไปเที่ยวได้แบบหนุกๆเลยน้า ก่อนอื่นหลังจากจองตั๋วแล้ว ก็เลือกโรงแรมก่อนเลย โรงแรมเชียงใหม่มีเยอะมากๆ เราก็เลยจำกัดความแคบลงมาหน่อยคือ อยากได้ที่พักราคากลางๆ โรงแรมใหม่หน่อย อยู่ใจกลางเมือง แต่งสวยๆ ชิคๆ เน้นถ่ายรูปสวย สุดท้ายเลยเลือกได้ที่ “วินทรี ซิตี้ รีสอร์ท” เป๊ะอย่างที่อยากได้ทุกอย่างเลย

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48198

การเดินทางจะบอกว่าเดี๋ยวนี้รถเช่าราคาถูกแนะนำให้เช่ารถดีกว่านะ หลังรับรถก็ยังไม่ถึงเวลา check in เราเลยไปเที่ยวที่ใกล้ๆโรงแรมก่อน หาอะไรทานที่ห้างเมย่า จากนั้นเดินเล่น One Nimman

ถึงเวลาเช็คอินน์แล้ว ที่พักที่เราเลือกอยู่ในทำเลเดียวกับห้องเมย่าเลย สะดวกสบาย ที่พักน่ารักมากๆ ตกแต่งโทนสีขาวฟ้า ทันสมัย ล็อบบี้ก็กินขาดแล้ว ยังกะคาเฟ่แน่ะ

ห้องพัก Duplex Suite Room คือห้องที่เราพัก เป็นห้องที่ใหญ่มากๆ ด้านล่างเป็นห้องนั่งเล่น ที่มีเทอเรซเชื่อมกับสระว่ายน้ำ ส่วนด้านบนเป็นห้องนอน มีอ่างอาบน้ำ และระเบียง แต่งห้องสวยอลังการ

เป็นเรื่องปกติของคนติดชาไข่มุก ที่ไหนก็จะไป และเราก็ได้มาพบคาเฟ่ชานมไข่มุกที่อร่อยมากๆๆๆๆ คือส่วนตัวคิดว่าอร่อยกว่าชาไข่มุกเจ้าดังหลายเจ้าในกทม. แล้วก็ราคาไม่แพงด้วย Nakama Cafe คาเฟ่เล็กๆ ตกแต่งแบบญี่ปุ่น ไปตั้งแต่ก่อนร้านเปิด

ที่นี่ไปเป็นเส้นทางที่ไปเที่ยวแม่ริมได้ง่ายด้วยนะ ก็เลยแวะไปเที่ยวแม่ริม ไร่สตรอเบอว์รี่ และน้ำตก

ช่วงที่ไปคือควันหลงลอยกระทง กลางคืนเลยเปิดไฟ ประดับโคมล้านนาสวยงาม เย็นๆช่วง 6 โมงเย็น จนถึง 3 ทุ่ม มีโปรดื่มเบียร์ไม่อั้น 399 บาท/ท่าน รับฟรีของทานเล่น หรือบาร์บีคิว 1 จาน

อาหารเช้าน่าทาน จะบอกเลยว่าห้องพักน่านอน อาหารเช้าเยอะอีก คุ้มมากพักที่นี่

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกก็จะมีสระว่ายน้ำ และฟิตเนส

วันอาทิตย์มีถนนคนเดินท่าแพ มากี่ครั้งก็คลาสสิคเหมือนเดิม

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ ที่ตั้ง : เลขที่ 72 ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
❀ โทรศัพท์: 052-081377
❀ อีเมลล์: rsvn@wintreecityresort.com
❀ เว็บไซต์: www.wintreecityresort.com
❀ เฟซบุ๊ค: Wintree City Resort Chiang Mai
❀ อินสตาแกรม: wintreecityresort

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

ปักหมุดด่วน! 100 จุดเช็คอิน ไม่มีเอาท์ในไทย

เที่ยวต่อไม่รอแล้วจ้า HotelandresortThailand ขออัพเดตที่เที่ยวต้อง ปักหมุดด่วน! 100 จุดเช็คอิน ไม่มีเอาท์ในไทย กันซะหน่อย ลองได้เช็คอินไม่มีตกเทรนด์แน่นอน มีทั้งทะเล ภูเขา แม่น้ำ เกาะต่างๆ ตลาดน้ำ คอมมูนิตี้มอลล์ สตรีทอาร์ท วัด หรือจะแนวธรรมชาติสวยๆ ครบทุกไลฟ์สไตล์เลยจ้า มาดูกันดีกว่าว่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวไหน ที่เพื่อนๆได้ไปสัมผัสกันมาแล้วบ้าง มาอวดกันได้น้า…

 1.บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่ 

ที่เที่ยวเชียงใหม่ที่เปิดให้ชื่นชมศิลปะจากนาข้าวขั้นบันไดของชาวบ้านในอำเภอแม่แจ่ม พร้อมกับชมดวงอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้า วิวสวยมากก ที่นี่ยังเปิดเป็นโฮมสเตย์สามารถพักผ่อนนอนหลับ และทานอาหารเด็ดๆ เป็นอาหารชาวถิ่นของอำเภอแม่แจ่ม รับรองความฟินนนน

การเดินทาง : จากฝั่งดอยอินทนนท์ขับไปจนถึงด่านของอุทยาน เลี้ยวไปยังทางแยกที่จะไปอำเภอแม่แจ่ม ขับไปอีก 12 กิโลเมตร จะพบป้ายน้ำตกแม่ปาน เลี้ยวขวาลงไปตามป้ายนั้น ในระหว่างจะผ่านน้ำตกห้วยทรายเหลือง, น้ำตกแม่ปาน จะถึงลานจอดรถ สามารถติดต่อรถเช่าได้จากที่พักโฮมสเตย์ที่จองไว้
ที่ตั้ง : ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07:00 น. – 17.00 น.

❀ 2.ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ 

จุดชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่สลับซับซ้อนกันไปมาในเชียงใหม่ ห่างจากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย ประมาณ 12 กิโลเมตร สำหรับที่นี่ถ้ามาเช้ามากๆก็จะได้ปะทะกับทะเลหมอกสวยๆ และยังเป็นที่ตั้งขอ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริม และพัฒนาอาชีพเกษตรกร นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตการปลูกพืชเมืองหนาวอย่าง ไร่สตรอว์เบอร์รี่ หรือไร่ชาอีกด้วยนะจ๊ะ มาม่อนแจ่มเหมาะกับนั่งจิบกาแฟ ชมวิวเนินเขา และสูดอากาศดีๆเข้าปอด ชิลเวอร์ๆ ฟินมากๆจ้า

◉ การเดินทาง : การเดินจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข ( พหลโยธิน ) แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ( สายเอเซีย ) ผ่านอยุธยา, อ่างทอง, นครสวรรค์, หลังจากนั้นก็ใช้ทางหลวงหมายเลข 117 ไปยัง จังหวัดพิษณุโลก ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านลำปาง ลำพูน ถึงเชียงใหม่ระยะทางประมาณ 695 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ถนนสาย 1096 อยู่ห่างจากตัวเมือง เชียงใหม่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดตลอด 24 ชม.

❀ 3.อุทยานแห่งชาติออบหลวง จ.เชียงใหม่ 

ที่นี่เป็นช่องแคบเขาขาดที่มีหน้าผาหินขนาบลำน้ำ ทำให้เกิดหุบผาลึกลงไป ความลึกของหน้าผาวัดจากสะพานออบหลวงถึงระดับน้ำปกติประมาณ 32 เมตร ส่วนแคบสุด 2 เมตร ความยาวของช่องแคบประมาณ 300 เมตร ขอบอกเลยว่าธรรมชาติได้สร้างสรรความน่าพิศวงไว้ให้กับพื้นที่ส่วนนี้อย่างน่ามหัศจรรย์ค่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ตามทางหลวงหมายเลข 108 สายฮอด-แม่สะเรียง ตรงหลักกม.ที่ 17 รวมระยะทางประมาณ 105 กม. ขับไปเรื่อยๆก็จะถึงก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบหลวงแล้วค่ะ
◉ ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติออบหลวง ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ 50240
◉ เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 18.00 น.

❀ 4.ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ 

บรรยากาศโรแมนติก ดินแดนแห่งความรัก ต้องยกให้ที่ “ดอยอ่างขาง” อีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ยอดฮิต โดยเฉพาะคู่รักคู่ฮันนีมูนที่นี่ที่ตั้งอยู่บนภูเขาแดนลาวไม่ไกลจากจุดชมวิวม่อนสน ห่างไปเพียง 220 เมตร เดินชิล ขึ้นดอยไม่นานก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงามหยดย้อย มีทั้งทะเลหมอกให้ได้สัมผัสกับความหนาวเย็น ชมวิวแจ่มๆ และดอกไม้ พืชไม้เมืองหนาวที่หาชมได้ยากในเมืองกรุงค่ะ

◉ การเดินทาง : จากจ.เชียงใหม่โดยใช้ทางหลวง 107 จนถึง อ.เชียงดาว เลี้ยวซ้ายที่แยกเมืองงายเชื่อมกับทางหลวงหมายเลข1178 (1340เดิม) ขึ้นอ่างขาง ได้ตามปกติเหมือนเดิมเลยค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ทางหลวงหมายเลข 1249 เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 17.00 น.

❀ 5.ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ 

ดอยหลวงเชียงดาวตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ห่างจากถ้ำเชียงดาวประมาณ 9 กิโลเมตรค่ะ นอกจากจะได้สัมผัสทะเลหมอก และวิวธรรมชาตสวยสดงดงามแล้ว ยังสามารถนอนกางเต็นท์มองดาว ชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ส่องสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย และในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวก็มีบ่อน้ำพุร้อนสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ไปแช่น้ำ สร้างความอบอุ่นให้ร่างกายอีกเช่นกันค่ะ

◉ การเดินทาง : เส้นทางเด่นหญ้าขัด-อ่างสลุง เดินสบายที่สุดแต่ต้องเช่ารถขึ้นไปส่ง ค่อนข้างไกลใช้เวลานั่งรถไปถึงจุดเริ่มเดินเท้าประมาณชั่วโมงครึ่ง การเดินเท้าเริ่มที่เด่นหญ้าขัด(หน่วยฯขุนห้วยแม่กอก) มีจุดพักแรมระหว่างทางที่ดงท้อ และปลายทาง ที่อ่างสลุงระหว่างทางจะมีทั้งพันธุ์ไม้ทั่วไป และพันธุ์ไม้หายาก หลังจากนั้นเดินต่อไปยังเส้นทางเดียวกันไปอ่างสลุงซึ่งเป็นจุดกางเต้นท์ค่ะ
◉ ที่ตั้ง : เส้นทางหลวงหมายเลข 107 ระยะทางประมาณ 72 กิโลเมตร
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดเฉพาะเดือน พ.ย. –  มี.ค. ของทุกปี

6.ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ 

เป็นถ้ำที่น่าสนใจอีกถ้ำหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่เลยค่ะ อยู่ในเขตอำเภอเชียงดาว ตั้งอยู่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาว ด้านในมีความงามจากการเสกสรรปั้นแต่งของธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ของหินงอกหินย้อย ที่ก่อให้เกิดเป็นรูปร่างต่างๆ เป็นถ้ำขนาดใหญ่ เมื่อฉายไฟเข้าไปจะมีประกายระยิบระยับ สามารถจินตนาการเป็นรูปต่างๆได้มากมาย เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่อยู่ตรงที่มีน้ำใสไหลเย็นจากในถ้ำ ไหลออกมาที่บริเวณหน้าถ้ำค่ะ และไหลมารวมกันเป็นสระน้ำมีปลาน้อยใหญ่ว่ายวนไปมา ทำให้บรรยากาศสดชื่น ร่มรื่นสุดๆ และบริเวณปากถ้ำจะเป็นที่ตั้งของวัดเชียงดาวอันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปทันใจอีกด้วย เตรียมแวะเวียนไปสักการะ ขอพรกันได้เลยนะเจ้า

◉ การเดินทาง : ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 77 กิโลเมตร การเดินทางจากเชียงใหม่ไปยังอําเภอเชียงดาว ระยะทาง 72 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปจนถึงถ้ำอีก 5 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ทางหลวงชนบท ชม. 3024 เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 7.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ 

ดอยอินทนนท์ดอยที่สูงที่สุดของประเทศไทย หนึ่งในที่เที่ยวเชียงใหม่ยอดฮิต ที่นอกจากจะได้ทั้งความหนาว และความหวาดเสียวแล้ว ที่นี่ยังมีพืชพรรณไม้ ไม้ดอก แม่น้ำ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และน้ำตกให้ได้พบความงามของธรรมชาติอีกด้วย ถัดจากที่นี่ไปไม่ถึง 5 กิโลเมตร ยังมีที่เที่ยวเชียงใหม่ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้เมืองหนาวอยู่เยอะมากๆด้วยค่ะ อะๆ ถ่ายรูปรัวๆเลยจ้า

◉ การเดินทาง : ระยะทางจากตัวเมืองขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ประมาณ 106 กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ไป ตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-จอมทอง ถึงหลักกิโลเมตรที่ 57 ก่อนถึงอำเภอจอมทอง 1 กิโลเมตร แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง-อินทนนท์ ระยะทาง 48 กิโลเมตร ถึงยอดดอยอินทนนท์
◉ ที่ตั้ง : แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง – อินทนนท์ ระยะทาง 48 กิโลเมตรถึงยอดดอยอินทนนท์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 8.กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่ 

อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตรง กม.ที่ 42 เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง ที่นี่จะมีมอสสีเขียวขึ้นปกคลุมตามโคนต้นไม้ และบริเวณริมห้วย สันกิ่วแม่ปานจะมีแสงแดดจ้า ลมพัดแรงมากๆเมื่อถึงจุดชมวิวสูงสุด และถัดจากจุดชมวิวไป จะเป็นทางเดินเลียบไปตามสันเขาเลียบหน้าผา มีความกว้างประมาณ 1 เมตร ซึ่งจะสามารถเดินได้เพียงคนเดียว ระหว่างทางจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ชมอย่างเพลินตาเพลินใจเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางโดยใช้เส้นทางถนนสายเชียงใหม่ -ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอ หางดงและอำเภอสันป่าตอง ไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามถนนสายจอมทอง- อินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่กิโลเมตรที่ 8 (น้ำตกแม่กลาง) และ ตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์
◉ ที่ตั้ง : ยอดดอยอินทนนท์ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30 น. – 16.30 น.

❀ 9.ไร่สตรอว์เบอร์รี่ จ.เชียงใหม่ 

ตั้งแต่เดือน พ.ย.-ก.พ.ถือได้ว่าเป็นช่วงที่สะเมิงเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเต็มตัว ความหนาวเหน็บ หมอกจางๆเริ่มมีให้เห็นกันทุกๆเช้าที่สะเมิงค่ะ ช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่สตรอว์เบอร์รีกำลังแข่งขันกันออกมามากมาย ผลผลิตของแต่ละไร่ทยอยออกจากไร่กันมาเรื่อยๆ ถือว่าเป็นช่วงทองของนักท่องเที่ยวที่สามารถจะเข้าไปเก็บสตรอว์เบอร์รีสดๆภายในไร่เองได้ เพราะนอกจากจะได้ทั้งบรรยากาศหนาวๆเย็นๆที่ไร่แล้ว เรายังได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนทำไร่สตรอว์เบอร์รีด้วยตัวเองอีกด้วย

◉ การเดินทาง : จากอำเภอเมืองเชียงใหม่ สามารถเข้าถึงได้ 2 ทาง คือ ทางแม่ริม-สะเมิง ตามทางหลวงหมายเลข 1196 ระยะทาง 52 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ต.สะเมิง อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน

❀ 10.วัดบ้านเด่น จ.เชียงใหม่ 

เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ และใต้เนินนั้นเป็นถ้ำศักสิทธิ์ที่ชาวบ้านพากันนับถือ จึงเรียกวัดนี้กันว่า “วัดบ้านเด่น” นอกจากจะแวดล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามแล้ว ที่ตั้งของวัดยังอยู่ในเขตเมืองเก่าโบราณที่เรียกว่าเมืองแกน ชาวบ้านเลยเรียกชื่อวัดนี้เต็มๆว่า “วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน” สร้างด้วยศิลปะแบบไทยที่มีกลิ่นอายของศิลปะล้านนาซ่อนอยู่ ไหว้พระขอพรให้เป็นศิริมงคลกันได้เลยจ้า

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่-สะเมิง หรือเชียงใหม่-ฝาง ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 107 ผ่านแยกแม่มาลัย ไปถึงอำเภอแม่แตง เลี้ยวขวาทางไปเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล วัดบ้านเด่นอยู่ทางซ้ายเลี้ยวไปตามทางอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดแล้วค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ถนนเชียงใหม่-ฝาง ทางหลวงหมายเลข 107
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 น. – 17.00 น.

❀ 11.อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ 

เป็นที่อยู่ของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และป่าสน และดอกไม้เมืองหนาวที่ชาวเขาปลูกไว้ ถ้ามาในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคมดอกนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกสีชมพูสวยงาม บนดอยปุยมีอากาศหนาวเย็น และชื้นเกือบตลอดทั้งปี มีจุดที่ยังสามารถมองเห็นดอยอินทนนท์เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจนอีกด้วยนะคะ แถมยังมีที่เที่ยวต่างๆ ร้านขายของฝากให้เลือกซื้อกันอีกด้วย

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางถนนห้วยแก้วผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สวนสัตว์เชียงใหม่ ตรงขึ้นไปทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ ผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย พระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ห่างจากพระตำหนักฯ 4 กิโลเมตร จะถึงดอยปุยค่ะ
◉ ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 น. – 18.00 น.

❀ 12.เขื่อนแม่งัด จ.เชียงใหม่ 

เขื่อนแม่งัด หรือเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา นอกจากเป็นเขื่อนที่ใช้เพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทานแล้ว ด้วยวิวของเขื่อนที่สวยมากกก โอบล้อมด้วยภูเขาสีเขียวสวย เขื่อนแม่งัดจึงกลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตอีกที่ที่คนรักธรรมชาติ และต้องการพักผ่อนแบบสงบ ท่ามกลางสายน้ำ พายเรือเล่น ดูหมอก มองเขา ต้องมาที่เขื่อนนี้กันค่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข107 สายเชียงใหม่-ฝาง  ผ่านอำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง ผ่านที่ว่าการอำเภอแม่แตง(อยู่ซ้ายมือ)จะเจอ3แยกไฟแดงให้เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆจะมีป้ายบอกทางเขื่อนแม่งัดเป็นระยะ
◉ ที่ตั้ง : อำเภอแม่แตง ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 น. – 17.00 น.

❀ 13.I love flower Farm จ.เชียงใหม่ 

ฟาร์มดอกไม้ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่ฮอตฮิตสุดๆ กับ I love flower Farm สวนดอกไม้นานาชนิดบนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ ถ่ายรูปสวยๆรัวๆเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นดอกคัตเตอร์สีขาวหรือดอกมากาเร็ตสีม่วงก็มีให้เลือกถ่ายกันหลายมุม เตรียมพร็อบให้พร้อม คิดท่าเก๋ๆไว้ แล้วไปแชะภาพถ่ายอวดลงโซเชี่ยลกันได้เลยจ้า แต่ถ้าใครคิดว่ายังไม่พอ เราต้องมีพร็อพอีก ทางฟาร์มเขาก็มีบริการจัดเซ็ตน้ำชากลางทุ่งไว้อีกด้วยนะ สวยสมเป็นจุดเช็คอินใหม่ต้อนรับปี 2020 จริงๆ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองวิ่งตรงมาทางแม่ริม เลี้ยวขวาตรงอุโมงค์ดอนแก้ว จะผ่านเทศบาลชุมชนเหมืองแก้ว ฟาร์มอยู่ไม่ไกลจากเทศบาลชุมชนเหมืองแก้ว ฟาร์มอยู่ไม่ไกลจากเทศบาล ห่างเพียง 300 เมตรเท่านั้นค่ะ
◉ ที่อยู่ : ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 14.ฮิโนกิแลนด์ จังหวัดเชียงใหม่ 

เที่ยวญี่ปุ่นใกล้ๆ แค่ไชยปราการ ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่น ต้องที่นี่เลย ฮิโนกิแลนด์ อาณาจักรไม้ฮิโนกิแห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นเลย เพราะเขายกมาไว้ที่เชียงใหม่แล้วนั้นเอง ยิ่งช่วงหน้าเที่ยวสบายๆแบบนี้ อากาศต้องดีแน่ๆเลยค่ะ เหมาะกับการไปเที่ยว และเป็นถ่ายรูปมากๆนะ

◉ การเดินทาง : มุ่งหน้าจากเชียงใหม่มา อ.ไชยปราการ ด้วยเส้นทาง 107 ผ่านด่านตรวจผาหงษ์(ไชยปราการ)ประมาณ 3 กิโลเมตร อยู่ติดถนนทางด้านขวา
◉ ที่อยู่ : อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 15.ห้างสรรพสินค้า เมญ่า (MAYA) จ.เชียงใหม่ 

ห้างเมญ่า หรือ  MAYA ห้างนี้อยู่ติดกับแยกรินคำ บริเวณจุดเริ่มต้นของถนนนิมมานเหมินทร์ ถนนที่นับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ที่กินหลากหลาย  คึกคักทั้งในตอนกลางวันและกลางคืนค่ะ ห้างเมญ่านับเป็นศูนย์รวมแฟชั่น ผลิตภัณฑ์ความงามแบรนด์ดังระดับเวิลด์คลาสจากทั่วทุกมุมโลก เปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2556 เป็นแลนด์มาร์กใหม่ในย่านนี้เลยล่ค่ะ

◉ ที่ตั้ง : สี่แยกรินคำ-นิมมานเหมินทร์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 10.00 – 22.00 น.

❀ 16.ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย 

เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยอดภูชี้ฟ้ามีลักษณะเป็นผาที่มีแหลมยื่นขึ้นไปบนฟ้าจึงเรียกว่าภูชี้ฟ้าค่ะ มีจุดชมวิวยอดนิยมอยู่ 2 จุด คือบริเวณ ยอดภู และบริเวณลานก่อนถึงยอด ไฮไลต์สำคัญของการมาเที่ยวภูชี้ฟ้ คือ มาเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกสุดอลังการค่ะ

◉ การเดินทาง : การเดินทางจากจังหวัดเชียงรายระยะทางประมาณ 108 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางเชียงราย – เทิง ระยะทาง 64 กิโลเมตร และจากเทิง – ปางค่า ระยะทาง 24 กิโลเมตร จากนั้นเป็นทางลูกรังถึงภูชี้ฟ้า ระยะทาง 19 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07:00 – 16:30 น.

❀ 17.ภูชี้ดาว จ.เชียงราย 

วิวของยอดเขาที่เชิดชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า จึงเป็นที่มาของชื่อภูชี้ดาวค่ะ  สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นจากจุดชมวิวภูชี้ดาวคือ การได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่คลอเคลียตามเทือกเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนในยามเช้า และรอบยอดภูที่ชี้ขึ้น ถือเป็นภาพที่สวยงามมากๆค่ะ วิวทิวทัศน์ของภูชี้ดาวนั้นมองเห็นได้ 360 ค่ะ

◉ การเดินทาง : ทางขึ้นภูชี้ดาวจะอยู่เส้นทางเดียวกับภูชี้ฟ้าห่างกันประมาณ  12 กม. หากมาทางภูชี้ฟ้า อำเภอเทิง หรือเชียงคำ จะถึงภูชี้ฟ้าก่อน แต่ถ้ามาทางดอยผาตั้งหรืออำเภอเวียงแก่นจะถึงภูชี้ดาว
◉ ที่ตั้ง : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07:00 – 16:30 น.

18.ไร่ชา 101 จ.เชียงราย 

ไร่ชา 101 ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดสุดยอดชาของโลกบนดอยแม่สลอง มีต้นชาเรียงรายเป็นแถวยาวตามขั้นบันได ชิมรสชาติชาอร่อย สูดกลิ่นหอมๆ อีกทั้งบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยหุบเขา ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป้นอย่างมากค่ะ หากมาในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะปกคลุมด้วยสีชมพูหวานๆของดอกนางพญาเสือโคร่งอีกด้วยจ้า

◉ การเดินทาง : จากศาลากลางจังหวัดเชียงราย ผ่านชุมชนบ้านใหม่ ออกไปจนถึงเส้นทางถนนพหลโยธิน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข1) ขับตรงไปบนถนนดังกล่าว ซึ่งเป็นถนนสายเชียงราย-แม่สาย ผ่านกิ่วทัพยั้งเข้าเขตพื้นที่อำเภอแม่จัน จะมีป้ายเลี้ยวซ้ายตรงแยกไฟแดง (แยกแม่สลอง) ใช้เส้นทาง1089 ผ่านตำบลแม่สลองใน จนไปถึงสามแยกอีก้อ ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงรายแล้วเลี้ยวซ้ายอีก 17 กิโลเมตร ก็จะถึงไร่ชา 101 แล้วค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ดอยแม่สลอง ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 7.00 – 17.00 น.

❀ 19.ดอยเสมอดาว จ.น่าน 

สถานที่สุดโรแมนติกแห่งเมืองน่าน เวลาลมหนาวพัดมาแบบนี้ ยิ่งทำให้ดอยเสมอดาวมีเสน่ห์ ท้องฟ้าไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็จะปลอดโปร่ง มองเห็นสายหมอก ดอกหญ้า และทะเลดาวได้อย่างชัดเจน อากาศเย็นๆ บรรยากาศเงียบสงบ ไฮไลท์ของที่นี่ คือการไปที่เดียวแต่ดูได้ทั้งทะเลหมอก ทะเลดาว พระอาทิตย์ขึ้น และตกดินแบบสวยๆปังๆที่นี่เราสามารถเดินทางได้สบายใจ นั่งทั้งวันได้ไม่รู้เบื่อเลยล่ะ

◉ การเดินทาง : อุทยานแห่งชาติศรีน่านอยู่ห่างจากตัวอำเภอนาน้อย 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1083 สายนาน้อย-ปางไฮ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 20.อำเภอปัว .น่าน 

เป็นอำเภอที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก วิวสวยสะกด อากาศดีมากๆ  ผู้คนน่ารักสุดๆ มีที่เที่ยวมากมาย  ทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ วัดวาอาราม  ปัวเป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีนะคะ แต่ถ้าอยากเห็นเมืองปัวในแบบที่งามที่สุดควรมาหน้าฝน หรืออยากรับอากาศดีๆกฌมาหน้าหนาว เรียกว่าเที่ยวได้ตลอดปีเลยค่ะ และใครอยากเห็นวิวทุ่งนาเขียวขจี พร้อมกับจิบกาแฟรสเยี่ยมสักแก้ว “ร้านกาแฟไทลื้อ” บรรยากาศสวย ดีงามมากกกจ้า

◉ การเดินทาง : จากตัวอำเภอเมืองน่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 ถึงอำเภอปัว รวมระยะทางประมาณ 728 กิโลเมตรค่ะ
◉ ที่ตั้ง : อำเภอปัว จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 18.30 น.

❀ 21.อำเภอบ่อเกลือ .น่าน 

ที่บ่อเกลือแห่งนี้มีถนนเข้าสู่อำเภอที่โดดเด่นสวยงาม มีที่พักท่ามกลางสายน้ำ และธรรมชาติที่สงบ มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยนะคะ บ่อเกลือนี้มีมาแต่สมัยโบราณ ผู้คนที่นี่ก็น่ารักมากๆค่ะ มาแล้วตกหลุมรักความเรียบง่าย แต่อบอุ่นของที่นี่อย่างแน่นอน

◉ การเดินทาง : จากจังหวัดน่าน ไปทางอำเภอสันติสุข ก่อนถึงอำเภอสันติสุขประมาณ 2 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้นขับตรงไปแล้วเลี้ยวขวา เข้าสู่อำเภอบ่อเกลือค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.30 – 18.00 น

❀ 22.เสาดินนาน้อย คอกเสือ .น่าน 

ที่นี่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานศรีน่าน เสาดินนาน้อยเกิดจากการที่ดินตะกอนทับถม ถูกเลื่อนตัวสูงขึ้นจากผิวดิน ผ่านเวลานานหลาล้านปี ถูกน้ำฝนกัดเซาะจนทำให้เกิดรูปร่าง แปลกตา มีอายุประมาณ 30,000-10,000 ปี และอาจเคยเป็นก้นทะเลมาก่อนค่ะ จากเสาดินนาน้อยประมาณ 300 ม. จะพบกับคอกเสือ ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งลึกจากเนินดินด้านบนประมาณ 10 ม. มีทางลงไปชมปฎิมากรรมดินที่อยู่ด้านล่าง  เมื่อลงไปจะพบว่าบริเวณรอบ ๆ มีลักษณะเป็นหุบผาเป็นฉากม่านขนาดใหญ่มีริ้วลายเป็นร่องยาว รวมถึงมีแท่งดินรูปร่างต่างๆ เรียกว่าเป็นปรากฏการธรรมชาติที่น่าทึ่ง และควรต้องไปถ่ายรูปเช็คอินชิคๆกันค่ะ

◉ การเดินทาง : จากอำเภอเวียงสาไป อำเภอนาน้อย มีทางแยกไปตามเส้นทางหมายเลข 1083 ขับเข้ามาประมาณ 10 กว่า กม. จะพบป้ายให้ไปทาง เสาดินนาน้อย เลี้ยวขวามาอีกประมาณ 10 กม. ก็จะถึงเสาดินนาน้อยค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลเชียงของ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 23.วัดภูมินทร์.น่าน 

หากได้มาจ.น่านแล้วไม่ได้แวะมาที่วัดภูมินทร์ ก็จะเรียกว่ามาไม่ถึงน่านนะจ๊ะ  วัดชื่อดังซึ่งมีภาพวาดฝาผนังปู่ม่าน ย่าม่าน กระซิบรักบรรลือโลก เป็นภาพวาดที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่านไปแล้ว  ความสวยแปลกของวัดภูมินทร์ที่ไม่มีใครเหมือน คือพระอุโบสถทรงจตุรมุขที่มีบันไดนาคทั้งสี่ทิศ ข้างในประดิษฐานพระประธานจตุรพักตร์ 4 ด้าน ไม่ว่าจะเดินขึ้นบันไดทิศไหนก็จะพบพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกด้านค่ะ

◉ การเดินทาง : จากทางหลวงหมายเลข 1080 เข้าสู่ตัวเมืองน่าน ตามถนนมหายศ เมื่อผ่านวัดสวนตาล แยกขวาเข้าถนนผากอง ผ่าน เทศบาลเมืองน่าน วัดภูมินทร์อยู่ทางด้านขวามือค่ะ
◉ ที่ตั้ง : บ้านภูมินทร์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

24.วัดพระธาตุเขาน้อย จ.น่าน 

วัดพระธาตุเขาน้อย อยู่ในตัวเมืองน่านเลยค่ะ องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่านได้แบบเต็มๆตา และที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม ในยามเช้าบางวันสามารถมองเห็นหมอกจางๆบางๆปกคลุมอยู่อีกด้วยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองน่านใช้เส้นทางเดียวกับวัดพญาวัด แต่เลยไปอีกราว 2 ม. ขึ้นเขาไป ก็จะถึงยอดเขาน้อยซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด
◉ ที่ตั้ง : ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 25.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน .น่าน 

ที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครน่าน เรียกว่า “หอคำ” ภายในจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุต่างๆทางประวัติศาสตร์ และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองภาคเหนือ ชาวเขาเผ่าต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “งาช้างดำ” ถือเป็นของคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน นอนจากนี้บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมีซุ้มต้นลีลาวดียอดฮิตที่เหมือนเป็นจุดขายของพิพิธภัณฑ์ฯค่ะ

◉ การเดินทาง : ตามเส้นทางหลวง หมายเลข 101 ก่อนเข้าตัวเมือง จะมีทางแยกซ้ายมือ ไปสู่พิพิธภัณฑ์
◉ ที่ตั้ง : ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมือง จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – อังคาร ปิดทำการ พุธ – อาทิตย์ 09.00 – 16.00 

❀ 26.ดอยปุยหลวง จ.แม่ฮ่องสอน 

ยอดดอยปุยหลวง ในอุทยานแห่งชาติแม่เงา เป็นการค้นหาภาพทะเลหมอกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย  ยิ่งได้ไปช่วงฤดูหนาวภาพของทะเลหมอกที่เกาะตัวกันแน่น รวมถึงทุ่งหญ้าสีทองสดสวย พระอาทิตย์ดวงกลมโต  และความหนาวเย็นที่เป็นบรรยากาศของการเดินทางท่องเที่ยวป่า  ที่นี่เป็นความอลังการแห่งขุนเขาในรูปแบบทะเลหมอก และทุ่งหญ้าสีทอง  เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติแห่งใหม่ที่ยังรอให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัสด้วยตนเอง รับรองว่าทะเลหมอกงามแท้ๆ งามจริงๆจ้า

◉ การเดินทาง : มาทางแม่สอด-ท่าสองยาง- บ้านแม่เงา-อช.แม่เงา หรือจะใช้เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด-แม่สะเรียง- อ.สบเมย-บ้านแม่เงา-อช.แม่เงาก็ได้ค่ะ
◉ ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแม่เงา บ้านแม่เงา อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : 06.00 – 18.00 น.

❀ 27.บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน 

บ้านดินที่สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจของเจ้าของ ที่ต้องการรีโนเวทไร่ชาเก่าให้กลายเป็นบ้านพักกลางไร่ชาค่ะ ที่นี่สวยน่าไปมากกกไม่ว่าจะฤดูกาลไหนๆ มนต์เสน่ห์ไร่ชากลางขุนเขา พร้อมกับความสดชื่นของแม่น้ำ  และอากาศอันบริสุทธิ์ก็ไม่เคยจางไป แถมมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ อาทิ ปางอุ๋ง หมู่บ้านรักไทย น้ำตกผาเสื่อ ถ้ำปลา และพระตำหนักปางตอง ให้ได้เก็บภาพความสนุกสนาน รับรองว่าจะต้องติดใจ จนอยากกลับมาเที่ยวอีกหลายครั้งค่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ตรงไปทางหมู่บ้านรักไทย ประมาณ 45 กิโลเมตร เจอสี่แยกปางหมูให้เลี้ยวซ้ายตรงไปจะเห็นหมู่บ้านรักไทยค่ะ
◉ ที่ตั้ง : บ้านรักไทย อำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

28.ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน 

ปางอุ๋ง หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆว่า “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ยอดฮิตสุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของ จ.แม่ฮ่องสอนเลยนะคะ ได้รับฉายาเก๋ๆว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ยิ่งตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสน และไอหมอกจางๆบางๆ ยิ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับใจแบบสวยสุดๆเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากเมืองแม่ฮ่องสอนสู่ปางอุ๋ง ตามเส้นทางสู่ แม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้า-ปาย ผ่านหมู่บ้านรวมไทย ก็เข้าถึงจุดหมายโครงการสวนป่าในพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
◉ ที่ตั้ง : อำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 04.00 – 18.00 น.

❀ 29.ถ้ำลอด จ.แม่ฮ่องสอน 

เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ ปัจจุบันอยู่ ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำปาย  ซึ่งมีลำห้วยชื่อ น้ำลางไหลลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม จากการพบเครื่องมือเครื่องใช้ โบราณในถ้ำสันนิษฐานได้ว่ามีอายุประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว ถ้ำลอด สามารถเที่ยวได้ทั้งปีค่ะ

◉ การเดินทาง : การท่องเที่ยวถ้ำลอดต้องนั่งแพไม้ไผ่เข้าชมในแต่ละจุด
◉ ที่อยู่ : อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 30.เจดีย์พระธาตุแม่เย็น จ.แม่ฮ่องสอน 

เป็นเจดีย์ที่สร้างสมัยใดไม่ปรากฏ ตั้งอยู่บนเนินสูง บริเวณวัดพระ ธาตุแม่น้ำเย็นเงียบสงบ เหมาะสำหรับชมทัวิวของอำเภอปายได้อย่างเต็มตา ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมคือช่วงยามเช้า และยามพระอาทิตย์ตก โดยประวัติของวัดพระธาตุแม่เย็นไม่มีปรากฏว่าสร้างขึ้นในสมัยใด ภายในบริเวณวัดมีเพียงโบสถ์ และเจดีย์ทรงระฆังสีขาวฐานกลม สูงประมาณ 3 เมตร โดดเด่นที่ยอดฉัตรแบบเจดีย์พม่า นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางขึ้นมาชม และกราบไหว้ค่ะ

◉ การเดินทาง : จากอ.ปาย สามารถออกมาเส้นทางไปต.แม่ฮี้ ข้ามแม่น้ำปาย ตรงมาตามทางเรื่อยๆ จะเจอป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไปพระธาตุแม่เย็น
◉ ที่อยู่ : บ้านแม่เย็น ตำบลแม่ฮี้ จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.30 – 18.30 น.

❀ 31.กาดกองต้า .ลำปาง 

ถนนคนเดินที่จะมีทุกเสาร์-อาทิตย์ นอกจากอาหารพื้นเมือง เสื้อผ้าพื้นเมือง ของเก่าวินเทจ ย้อนยุค และสิ่งของแบบร่วมสมัยให้ช้อปปิ้งแล้ว ย่านนี้บ้านเรือนสองข้างก็เป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากถนนเส้นนี้ในอดีตเป็นย่านเส้นเศรษฐกิจของภาคเหนือ มีท่าเรือจอด มีการขนส่งท่อนซุงล่องไปยังภาคกลาง จึงมีชาวอังกฤษ ชาวพม่า ชาวไทยใหญ่ และชาวจีนมาทำการค้าขายจำนวนมาก บ้านเรือนจึงสร้างตามความนิยมและเชื้อชาติของเจ้าของ มีทั้งอาคารตกแต่งแบบขนมปังขิงในรูปแบบยุควิคตอเรียน อาคารที่ได้รับอิทธิพลจากพม่ามัณฑะเลย์ อาคารแบบจีน ซึ่งเป็นงานฝีมือแบบเก่าที่หาดูได้ยาก เส้นนี้มีให้เดินแวะเที่ยวได้ตลอด ทั้งสะพานรัษฎาและวัดเกาะวาลุการาม

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองลำปางขับรถมายังเส้นถนนรัษฎาข้ามสะพานรัษฎาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเส้นชุมชนเก่ากาดกองต้า หากต้องการมาเที่ยวถนนคนเดินกาดกองต้า จะปิดไม่ให้รถเข้ามาสัญจรตั้งแต่ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป
◉ ที่ตั้ง : ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์ – อาทิตย์ 17.00 – 22.00 น.

❀ 32.หล่มภูเขียว จ.ลำปาง 

สระมรกตใจกลางป่าในอำเภองาว ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ซึ่งภูมิประเทศแถบนี้ในอดีตครั้งหนึ่งเคยเป็นภูเขาไฟ น้ำในแอ่งลึกมากจนมองเห็นเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม น้ำใสจนมองเห็นปลาแหวกว่ายไปมา ซึ่งสระตรงนี้ไม่อนุญาติให้ว่ายเล่นนะคะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ถ้ำผาไทที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม น้ำตก และเขื่อนกิ่วลมก็อยู่ใกล้ๆ

◉ การเดินทาง : จากเส้นทางสายลำปาง-พะเยา เข้าไปสู่ ต.บ้านอ้อน อ.งาว เข้าไปเป็นระยะทาง 14 กม. และแยกไปหล่มภูเขียวอีกประมาณ 3.5 กม. (อยู่ห่างจากที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอ้อนมาทางทิศตะวันตกเป็นระยะทาง 6 กม.)
◉ ที่ตั้ง : ตำบลบ้านอ้อน อำเภองาว จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 33.เหมืองแม่เมาะ.ลำปาง 

เหมืองแม่เมาะไม่ได้มีแต่โรงไฟฟ้านะจ๊ะ เดี๋ยวนี้มีทั้งทุ่งดอกบัวตอง ดอกคอสมอส สะพานไม้ Sky Walk จุดชมวิว มีลานล้อเลื่อน สไลด์เดอร์ มีอะไรให้ดูให้ชมเยอะแยะเลย ยิ่งถ้าวันไหนโชคดีไปแล้วมีโอกาสเจอหมอกลอยละล่องด้วยนะ

◉ การเดินทาง : ใช้ถนนสายลำปาง – เด่นชัย เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประมาณ 26 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : อังคาร-อาทิตย์  จันทร์ปิดทำการ เปิดให้เข้าชมวันละ 4 รอบ เวลา 09.00 น., 10.30 น., 13.00 น. และ 14.30 น.

❀ 34.อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง 

ลองแช่น้ำพุร้อนหน่อยดีไหม ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน บริเวณอุทยานฯมีธารน้ำแร่ ที่เต็มไปด้วยโขดหินธรรมชาติ ที่สวยงามแทรกกอยู่ท่ามกลางแอ่งน้ำร้อน น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูง ถึง 70 – 80 องศาเซลเซียส ห้องแช่น้ำพุร้อนที่นี่ถือว่าดีเลย มิดชิด ส่วนตัว ราคาไม่แพง แช่แล้วดีต่อสุขภาพเลือดลมหมุนเวียน แช่น้ำเสร็จออกไปรับอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติต่อได้อีกจ้า

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองลำปางไปตามทางหลวงหมายเลข 1035 เส้นลำปาง-แจ้ห่ม ไปจนถึงประมาณกิโลเมตรที่ 58 เลี้ยว ซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1287 ซึ่งเป็นทางเข้าไปอำเภอเมืองปาน แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยก ใช้ทางหลวง หมายเลข1252 เส้น ข่วงกอม-ปางแฟน ป่ระมาณ 11กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานฯ ตามถนน รพช. อีก 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลวังเงิน ถนนลำปาง-เดินชัย จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.

❀ 35.วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง 

วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง “วัดพระธาตุลำปางหลวง” พระธาตุประจำนักษัตรคนเกิดปีฉลู ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะคา ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 30 นาที วัดพระธาตุลำปางหลวง มีขนาดใหญ่ สง่างามและโดดเด่นบนเนินสูง ซึ่งเป็นเนินดินที่ถมก่อขึ้น จากภูมิปัญญาของคนในสมัยก่อน ทั้งการวางผังออกแบบวัด และศิลปะการปลูกสร้างก็งดงาม ควรค่าแก่การไปชมสักครั้ง

◉ การเดินทาง : ตำบลลำปางหลวง ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 18 กิโลเมตร ตามทางหลวงสายลำปาง-เถิน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 586 เลี้ยวเข้าไปจนถึงที่ว่าการอำเภอเกาะคา จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร ถึงทางแยกเข้าอีก 1 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา  จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.30 – 17.00 น.

❀ 36.วัดเฉลิมพระเกียรติลำปาง จ.ลำปาง 

“วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” หรือวัดเฉลิมพระเกียรติลำปาง ตั้งอยู่ในอำเภอแจ้ห่ม แหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่ยุคหลังๆมาแรง และมีทีท่าว่าแรงดีไม่มีตก ด้วยวิวจากมุมสูงที่สวยตะลึง บางครั้งมีหมอกล้อมรอบทิวเขาสูง นอกจากเป็นจุดชมวิวสวยๆ นมัสการพระเจดีย์บนยอดเขา ที่ตรงนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท สำหรับทางขึ้นค่อนข้างหลังบาก และต้องใช้พละกำลังกันมากทีเดียว แต่รับรองว่าถึงปลายทางแล้วคุ้มแน่นอน

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองลำปางใช้ทางหลวงหมายเลข 1035 ไปแจ้ห่ม จากตัวเมืองแจ้ห่มเลยไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรเศษๆ จะมีทางแยกซ้ายมือ อยู่ตรงทางโค้งพอดี ซุ้มประตูเขียนว่าเข้าหมู่บ้านใหม่เหล่ายาว ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตร จะมีแยกซ้ายมือเขียนว่าไป วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นทางคอนกรีตอย่างดีไปจนถึงวัด
◉ ที่ตั้ง : ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 17.00 น.

❀ 37.ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง 

ศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า และเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่าน ตรงเข้าสู่จังหวัดลำปาง
◉ ที่ตั้ง : ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : การแสดงช้างซึ่งมี 3 รอบ เวลา 10.00 น. 11.00 น. และ 13.30 น. สำหรับวันธรรมดา และเวลา 13.15 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
◉ ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท – ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 170 บาท เด็ก 110 บาท ส่วนช้างแท็กซี่ หรือขี่ช้างชมธรรมชาติ ขี่ช้างท่องไพร มีทุกวัน เวลา 08.00-15.30 น. 

❀ 38.น้ำตกทีลอซู จ.ตาก 

ได้รับคำกล่าวขานถึงว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย ได้กำหนดให้น้ำตกทีลอซู เป็นหนึ่งในเก้าตะวัน ตามโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน โดยมีจุดเด่นคือมหัศจรรย์รุ้งกินน้ำที่น้ำตกทีลอซู ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ ล้อมรอบด้วย ป่าดงดิบที่สมบูรณ์

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน)เดินทางสู่ จ.ตาก โดยก่อนถึงตัวเมืองตาก 7 กม.ให้เลี้ยว ซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 5(ตาก-แม่สอด) สู่ อ.แม่สอด แล้วก็จะเจอทางหลวงหมายเลข 1090 สุดทางสาย 1090 ที่อุ้มผาง *คนขับควรมีฝีมือในการขับรถที่ชำนาญ*
◉ ที่ตั้ง : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
◉ เวลาเปิด – ปิด : 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี (แต่บางปีช่วง ต.ค. ยังมีฝนตกหนัก อาจเลื่อนวันเปิดเส้นทางถนนเป็น 1 พ.ย.)

❀ 39.ภูลังกา จ.พะเยา 

เป็นภูเขาสูงชันอยู่ใน เทือกเขาสันปันน้ำ มีลำห้วยที่สำคัญคือ น้ำแม่คะไหลผ่านด้านทิศใต้ ห้วยน้ำต้ม และน้ำแม่รูไหลลงน้ำแม่รูทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ห้วยคะแนง และห้วยป่ายางไหลลงน้ำแม่ลาวทางทิศเหนือ ลำห้วยทั้งหมดจะไหลลงสู่แม่น้ำยมต่อไป เป็นจุดชมทะเลเมฆหมอก ดวงอาทิตย์ขึ้น-ลง และดอกไม้ป่าสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว

◉ การเดินทาง : มาจากน่าน ใช้เส้น 1080 สู่อำเภอท่าวังผา แล้วเข้าเส้น 1148 ต่อมายังอำเภอสองแควและเข้าสู่ภูลังการีสอร์ท อำเภอปง จ.พะเยา
◉ ที่ตั้ง : อ.ปง จังหวัดพะเยา
◉ เวลาเปิด – ปิด : 06.00 – 16.00 น.

❀ 40.นาบุญวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม
จังหวัดกำแพงเพชร 

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และการปฏิบัติธรรม ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นชมวิวสวย ๆ อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งศิลปวัฒนธรรมอย่างแท้จริง ตลอดทั้งปีจะมีประเพณีบุญให้เที่ยวชมทั้ง 12 เดือน แต่จะมีบุญใหญ่ๆ ประจำฤดูกาลทั้ง 3 ฤดู อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของที่นี่ก็คือหอชมทุ่งที่ทางวัดจัดทำไว้รองรับนักท่องเที่ยวให้ได้ชมความสวยงามของทุ่งนาผืนนี้จากมุมสูง หรือใครอยากจะมาสัมผัสบรรยากาศทุ่งนาแบบใกล้ชิด สามารถมานอนกางเต็นท์บนเถียงนาได้อีกด้วย

◉ การเดินทาง : http://ow.ly/sjrT30pXu51
◉ ที่อยู่ : บ้านทุ่งสนุ่นเหนือ อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 41.ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ 

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยมากๆค่ะ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย อู้วหูววว สูงมากๆเลยนะคะ อากาศก็เลยดี๊ดีมากแบบนี้นี่เอง จุดเด่นที่น่าสนใจ และเป็นที่ดึงดูดใจของหลายๆท่านก็คือ การได้เห็นหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่งบริเวณ และการได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า”ดอกหงอนนาค” และดอกไม้หลากสีสันสลับให้เห็นอยู่ทั่วลานสน บอกแล้วว่า ธรรมชาติสวยๆไม่ต้องไปเมืองนอกเลยจ้า อยู่เที่ยวในเมืองไทยนี่แหละ ฟินนน

◉ การเดินทาง : จากจังหวัดอุตรดิตถ์ใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1047 (อุตรดิตถ์-น้ำปาด) จนถึงอำเภอน้ำปาดแล้วเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1239 ไปอีก 47 กิโลเมตร จึงเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1268 ไปอีก 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  08.00 – 14.30 น.

❀ 42.ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง 

ทุ่งโปรงทองมีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ซึ่งแต่เดิม เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำการประมง เลี้ยงกุ้ง ทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ และพัฒนามาเป็นป่าชายเลนผืนที่ใหญ่ที่สุดของจ.ระยอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และศึกษาเรียนรู้ควบคู่กันไป โดยสร้างสะพานเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ทุ่งโปรงทองจึงถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลน ได้เห็นความสวยงามตามธรรมชาติของป่าโกงกาง ไม้โปรง และไม้ริมชายฝั่ง จุดเด่น คือต้นโปรงที่ขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่สะท้อนสีเขียวอ่อน จนกลายเป็นทุ่งโปรงทองที่สวยงาม ถ่ายรูปรัวๆ!กันไปเล่ย

◉ การเดินทาง : เมื่อเข้ามาภายในบริเวณชุมชนปากน้ำประแส ผ่านวัดตะเคียนงาม จะต้องนำรถไปจอดไว้ที่จุดจอดรถ ซึ่งมีให้บริการ 2 แห่ง จากนั้นนั่งรถสามล้อชาวบ้านเข้าไปยังจุดเริ่มเดินเท้าเข้าชมทุ่งโปรงทอง
◉ ที่ตั้ง : ชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส อำเภอแกลง จ.ระยอง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 6.00 – 18.00 น.

❀ 43.เกาะมันนอก จังหวัดระยอง 

เกาะมันนอก เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ริมนอกชายฝั่งมากที่สุด และเป็นเกาะที่คู่รักใฝ่ฝันอยากไปนอนติดเกาะ ดื่มด่ำธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ เหมือนได้อยู่บนเกาะส่วนตัว ฟังเสียงคลื่น และชมทะเลสวยๆ หาดทรายขาว ที่เกาะมันนอกมีปะการังน้ำตื้นให้เห็นตั้งแต่บริเวณริมชายหาด ที่สามารถดำน้ำดูได้หน้าหาด หรือเช่าเรือดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นบริเวณรอบเกาะ หรือ เช่าเรือแคนนูพายเล่น เป็นอีกเกาะยอดฮิตของคู่ฮันนีมูนเพราะเป็นเกาะส่วนตัว หรือเกาะปิด ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติของท้องทะเล และชายหาดเอาไว้อยู่ค่ะ

◉ การเดินทาง : จากถนนสุขุมวิท ช่วงบ้านวังหิน ตำบลวังหว้า อำเภอแกลง ให้เลี้ยวเข้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3161 ขับไปเรื่อย ๆ จนไปตัดกับถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3164 ตรงวัดวังหว้า เลี้ยวขวามุ่งหน้าแหลมแม่พิมพ์ พอถึงตำบลกร่ำจะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน อบจ.รย.0214 มีป้ายบอกทางไปท่าเรือเกาะมัน ขับเข้าซอยเล็กๆ ไปเรื่อยๆ จะเจอกับท่าเรือ
◉ ที่ตั้ง : เกาะมันนอก จังหวัดระยอง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 44.เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง 

เป็นเกาะขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ตั้งอยู่ในอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ตำบลบ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ห่างจากชายฝั่งบ้านเพ ราว ๆ 6.5 กิโลเมตร ลักษณะของเกาะมีรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยม ชายหาดมีทรายขาวละเอียดอยู่รอบเกาะ และมีท้องทะเลที่สวยงาม เกาะเสม็ดเปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ อากาศปลอดโปร่ง

◉ การเดินทาง : จากท่าเรือบ้านเพ ถึงเกาะเสม็ด ท่าเรือที่ตำบลเพนั้น มีให้เลือกหลากหลายเจ้า โดยทั้งหมดจะอยู่ในบริเวณริมทะเลบ้านเพ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลบ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 45.เกาะพยาม จังหวัดระนอง 

เกาะพยามเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยอ่าว และรีสอร์ทที่มีวิวท้องทะเลสวยมากมาย แต่ละอ่าวก็จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น อ่าวกวางปีบ เป็นอ่าวที่เงียบสงบ น้ำทะเลใสราวกระจก หาดทรายสวยที่สุดบนเกาะพยามเลยก็ว่าได้ อ่าวใหญ่ เป็นอ่าวที่มีน้ำทะเลสีเทอร์ควอส หาดทรายกว้าง หรือ อ่าวแม่หม้าย อ่าวที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกแบบสวยสุดๆ เกาะพยามยังมีอีกหลากหลายอ่าวที่น่าสนใจให้คุณได้ไปสัมผัส คู่รักที่หลงใหลความเป็นส่วนตัว ชอบธรรมชาติอันสมบูรณ์ ติดใจเสียงคลื่นซัดซาด แนะนำว่าเกาะแห่งนี้จะเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขให้คุณได้อย่างแน่นอนค่ะ

◉ การเดินทาง : ขับรถไปที่ระนอง นั่งรถทัวร์ หรือนั่งเครื่องบินไปลงที่ระนองก็ได้ แล้วต่อเรือไปที่เกาะพยาม ส่วนสายการบินที่ไประนองปัจจุบันมีอยู่ 2 สายการบินได้แก่นกแอร์ และแฮปปี้แอร์ สายการบินนกแอร์มีบินไประนองวันละ 2 เที่ยวบิน (ไป 2 กลับ 2) และแฮปปี้แอร์มีบิน 4 เที่ยว / สัปดาห์
◉ ที่ตั้ง : ฝั่งทะเลอันดามัน จ.ระนอง
◉ เบอร์ติดต่อท่าเรือเกาะพยาม : 081-2704801

❀ 46.เกาะกำตก จ.ระนอง 

เกาะกำตกหรือเกาะอ่าวเขาควาย มีชายหาดที่โค้งมาติดกันเป็นรูปวงกลมตามแนว เหนือ-ใต้ ด้วยธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์นี้เอง ชาวเรือจึงเรียกเกาะนี้ว่า อ่าวเขาควาย ตามแนวชายหาดมีต้นหูกวาง และต้นจิกทะเลคอยให้ร่มเงา บนหาดมีปูเสฉวนอาศัยอยู่จำนวนมาก ในตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงของปูเสฉวนที่ออกมาหากิน ธรรมชาติที่นี่งดงามมากๆค่ะ

◉ การเดินทาง : ใช้บริการเรือนำเที่ยว โดยโปรแกรมนำเที่ยวหมู่เกาะกำแบบไปเช้าเย็นกลับ เนื่องจากบนเกาะไม่มีที่พัก
◉ ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแหลมสน จ.ระนอง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 16.00 น.

❀ 47.สามพันโบก จ.อุบลราชธานี 

มีลักษณะเป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง ในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งเกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ จนทำให้แก่งหินเหล่านี้กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง และคำว่า “แอ่ง” ในภาษาอีสานหรือภาษาลาวจะเรียกว่า “โบก” จึงเป็นที่มาของคำว่า “สามพันโบก” ในช่วงฤดูแล้งน้ำแห้งขอด “สามพันโบก” จะโพล่ขึ้นมาเหนือพื้นน้ำให้เห็นคล้ายเป็นภูเขากลางลำน้ำโขง เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติสุดอลังการกลางลำน้ำโขง ทำให้หลายคนขนานนามให้ที่นี่เป็น “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” เลยทีเดียวหากอยากเที่ยว“สามพันโบก”แบบเต็มอิ่ม แนะนำให้ล่องเรือตามลำน้ำโขงที่หาดสลึง ซึ่งเป็นท่าเรือสำหรับพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวยังจุดต่าง ๆ

◉ การเดินทาง : ขับไปตามถนนทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2050 มุ่งหน้าไปยังอำเภอโพธิ์ไทร เมื่อไปถึงอำเภอโพธิ์ไทร ให้เข้าถนนทางหลวงหมายเลข 2112 แล้วจะมีทางแยกออกไปยังสามพันโบก หากใครอยากล่องเรือให้ขับไปทางหาดสลึง
◉ ที่ตั้ง : ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 48.Viva Foresta Farm จังหวัดจันทบุรี 

เพลิดเพลินไปกับความน่ารักของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย และสัตว์แปลก ๆ ที่หาดูได้ยาก แห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดจันทบุรี เช่น ลามะ, เต่าซูลคาต้า, ม้าแคระ, แพะแคระ, หมูแคระพ็อตเบลลี่เวียดนาม, กระต่ายเนเธอร์แลนด์ดวอฟ, เป็ดวู้ดดั๊ก, นกอีมู และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงยังมีกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย เช่น กิจกรรมป้อนอาหารสัตว์เลี้ยง, นั่งรถม้าแคระ, ขี่ม้าแคระ และวาดภาพระบายสี เป็นต้น ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติสวย ๆ ต้นไม้ร่มรื่น ยิ่งเที่ยวก็ยิ่งชิล

◉ การเดินทาง : มาทางบ้านบึง ให้เลี้ยวซ้ายที่สามแยกแกลง วิ่งมาทางจังหวัดจันทบุรี จะเจอ โรงเรียนนายายอามพิทยาคม เลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่อยู่ติดกับปั้มบางจาก เข้ามาจากถนนสุขุมวิทประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะมาถึงฟาร์ม
◉ ที่อยู่ : อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 49.เมืองรัตติยา จังหวัดนครปฐม 

สำหรับใครที่อยากเที่ยวแบบย้อนยุคหน่อยๆ ก็ขอแนะนำที่นี่เลย เมืองรัตติยา ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยว และตลาดร่วมสมัย เป็นที่จำลองบรรยากาศเหมือนให้เราเข้าไปอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นเองค่ะ มีโซนถ่ายรูปหลากหลาย และยังสามารถปั่นจักรยานเพลินๆ ชมวิวในตัวเมืองจำลองได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหาร กาแฟ ให้ได้แวะมาพักเหนื่อยสักหน่อย แถวริมน้ำ บรรยากาศดีสุดๆ ใครไปใครมาสามารถแวะมาเที่ยวกันได้นะคะ เพราะที่นี่ให้เข้าชมกันฟรีๆจ้า

◉ การเดินทาง : วิ่งออกไปทางอำเภอบางใหญ่ ผ่านสามแยกไทรน้อย เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนปทุมธานี-บางเลน มุ่งตรงเข้าอำเภอบางเลนอีก ประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดหมาย
◉ ที่อยู่ : อ.บางเลน จ.นครปฐม
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 08.00 – 17.30 น.

❀ 50.ตลาดเช้าริมธาร โอ๊ะป่อยจ.ราชบุรี 

ตลาดเช้าริมน้ำ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ของธรรมชาติ โดยคำว่า “โอ๊ะป่อย” มีที่มาจากภาษากะเหรี่ยง แปลว่า ผ่อนคลาย และนี่คือความรู้สึกแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้รับเมื่อไปเยือนตลาดแห่งนี้ ของขายส่วนใหญ่ของที่นี่เน้นเป็นของกินพื้นเมืองหากินยาก แต่อร่อยอย่าบอกใคร รวมถึงยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการใส่บาตรพระที่ล่องแพมารับบาตร และการรดน้ำต้นผึ้ง เอาเป็นว่าลิสต์ที่นี่ไว้เป็นที่เที่ยวเช็กอินชิลๆ สำหรับวันหยุดกันได้เลย

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองราชบุรี ประมาณ 60 กม.
◉ ที่อยู่ : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 7.00 – 14.00 น.

❀ 51.ทุ่งดอกไม้ Gap Organic จ.นครราชสีมา 

อีกหนึ่งที่เที่ยวทุ่งดอกไม้สวยๆ ใกล้กรุงเทพฯ พร้อมกับสัมผัสธรรมชาติสวยแบบเต็มๆตา เต็มอิ่มกับทุ่งดอกปอเทืองและคอสมอส ที่ต่างผลิกลีบดอกบานสวย ทั้งยังมีสะพานไม้ไผ่ให้ได้เดินเล่นถ่ายรูปชิลๆ ยิ่งถ้ามากับเพื่อน บอกเลยว่าถ่ายรูปได้ไม่มีเบื่อ และถ้ามาในวันที่อากาศดีๆ มีลมพัดเย็นๆ มาให้ชื่นใจ บอกเลยว่าคุณจะต้องประทับใจมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว

◉ การเดินทาง : เลี้ยวทางเข้าเดียวกับโรงคั่วกาแฟ ทางอ.วังน้ำเขียว
◉ ที่อยู่ : อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 -16.00 น.

❀ 52.เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชาสีมา 

เขื่อนลำตะคองจุดเด่นอยู่ที่ริมสันเขื่อน ต้องไม่พลาดแวะชมวิวทิวทัศน์ที่ฉากหลังเป็นภูเขาลูกใหญ่ เบื้องหน้าเป็นน้ำของเขื่อนที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เรียกว่าเป็นเสน่ห์ของที่นี่เลยแหละ และขอบอกเลยว่าเขื่อนลำตะคองการเดินทางสะดวกมากกก เหมาะจะมานอนพักชื่นชมบรรยากาศดีๆ ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ถ่ายภาพคู่กับหมอกยามเช้า หรือแวะมาเดินเล่นรับอากาศบริสุทธิ์ โอ๊ยยยฟิน..ต้องไปกันให้ได้แล้วล่ะ

◉ การเดินทาง : จากอำเภอปากช่องใช้ถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2)มุ่งหน้าโคราชระหว่าง กม.184-193
◉ ที่อยู่ : ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 53.ทุ่งพราวตะวัน จ.นครราชสีมา 

ดอกทานตะวันสีเหลืองๆ ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าคราม ชวนให้ลงรถมาแวะแชะถ่ายภาพเหลือเกิ๊นน ขอแนะนำที่ “ทุ่งพราวตะวัน” ที่เขาใหญ่บนพื้นที่ถึง 70 ไร่ ซึ่งเปิดให้บริการปีนี้เป็นปีแรก อยู่ใกล้กับทอสคาน่า วัลเล่ย์ เขาใหญ่ เส้นทางไปวังน้ำเขียว เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท ด้านหน้ามีร้านขายอาหาร และร้านขายของที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีทุ่งปอเทืองสวยๆไว้ถ่ายรูปเล่นกันอีกด้วยนะ

◉ การเดินทาง : อยู่ตรงข้ามกับ ทอสคาน่า วัลเล่ย์ เขาใหญ่
◉ ที่ตั้ง : ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 54.ตลาดน้ำคลองลัดมะยม 

เป็นตลาดน้ำ ที่เรียกได้ว่าโด่งดังมากๆอีกที่หนึ่งเลยค่ะ เนื่องจากตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมอาหารไทย ขนมไทย ที่หาทานได้ยาก แต่หากมาที่นี่รับรองว่าได้ทานอย่างแน่นอนค่ะ และที่นี่ยังมีของที่ระลึกให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังมีร้านที่คนนิยมหลากหลายร้าน รวมไปถึงยังมีบริการนั่งเรือชมวิถีชีวิตชาวบ้านคลองลัดมะยม ไหว้พระ แวะชมสวนกล้สวยไม้ที่ปลูกด้วยวิถีชาวบ้านค่ะ จึงไม่แปลก ที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมตลาดแห่งนี้เป็นจำนวนมากค่ะ

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก ทางเข้าตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะอยู่ตรงข้าม สมาคมชาวปักษ์ใต้ จุดสังเกตุที่ปากซอยจะเป็นเต้นท์รถคุณหญิง และมีป้ายของตลาดน้ำฯ ชัดเจนค่ะ
◉ ที่อยู่ : เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00 – 15.00 น.

❀ 55.ไร่ชมอิน เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี 

หากใครที่ชื่นชอบ และอยากสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง ลองไปเที่ยวไร่ชมอิน อำเภอด่านช้างกันค่ะ เพราะที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ และสามารถพักค้างแรมแนวแคมปิ้งกันได้ด้วย มีทั้งเต็นท์ให้เช่าสะดวกสบาย และบ้านให้เช่าอีกด้วย  ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบเต็มปอด ถือว่าเป็นการพักผ่อนแบบธรรมชาติที่อบอุ่นมากสำหรับไร่ชมอินนี้ นอกจากการนอนเต็นท์แล้ว ยังมีบริการนำเที่ยวรอบเขื่อนกระเสียว ชมสันเขื่อนด้วยนะ

◉ การเดินทาง : มาตามทางเส้น 340 เข้าสู่ตัวเมืองสุพรรณบุรี
◉ ที่อยู่ : เขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 11.00 – 21.00 น.

❀ 56.ตลาดน้ำสะพานโค้ง จ.สุพรรณบุรี 

เป็นตลาดน้ำบนสะพานไม้ไผ่สุดเก๋ค่ะ สองฝั่งของสะพานไม้ไผ่ ขนาบด้วยร้านค้าพ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาขายกันเยอะเลยค่ะ ได้สนุกไปกับการเดินเลือกซื้อของท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติริมน้ำสวย ๆ อาหาร และขนมต่างๆที่ทำมาขาย ก็มาจากพืชในชุมชน ซึ่งชาวบ้านเป็นคนปลูกเองอีกด้วยนะคะ ราคาก็ถูกแสนถูกค่ะ นอกจากนี้ปลายทางเดินของตลาดสะพานโค้ง จะมองเห็น “สุ่มปลายักษ์” อีกหนึ่งที่เที่ยวเด็ดของที่นี่ค่ะ ทางเดินไม้ไผ่ ตัดผ่านทุ่งผักบุ้งที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปเป็นจำนวนไม่น้อย โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวของอำเภอสองพี่น้องบนสุ่มปลายักษ์นี้ได้อีกด้วย

◉ การเดินทาง : สามารถจอดรถได้ 2 จุด คือ ฝั่งตลาดน้ำสะพานโค้ง ซึ่งต้องจอดริมถนน และมีที่จอดรถในพื้นที่นิดหน่อย หรือจะมาที่ วัดทองประดิษฐ์  ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามมีที่จอดรถกว้างขวางค่อนข้างสะดวกค่ะ
◉ ที่อยู่ : อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ 07.00 – 15.00 น.

❀ 57.ภูลมโล จังหวัดเลย 

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงามของวิวทิวทัศน์ เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่กว่า 1,000 ไร่ ท่ามกลางเนินเขาน้อยใหญ่สลับซ้อนกันไปมา ซึ่งการออกดอกของนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกบานสะพรั่งกระจายกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นตามบนภูเขา หรือตามหลืบของซอกเขาต่างๆ

◉ การเดินทาง : ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ถึงตัวเมืองพิษณุโลก จากตัวเมืองพิษณุโลก เส้นทางที่สะดวกที่สุด คือใช้ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 สายพิษณุโลก – หล่มสัก มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
◉ ที่ตั้ง : เขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตำบลกกสะทอน  จังหวัดเลย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 05.00 – 16.00 น.

❀ 58.เชียงคาน จ.เลย 

เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ภาพบ้านเก่าๆที่เรียงรายติดกันอยู่ริมถนนชายโขง ดึงดูดใจสายเที่ยว นิยมมาปั่นจักรยานชมบรรยากาศ ถ่ายรูปเล่น ชมบ้านไม้สมัยเก่า บางส่วนก็ถูกดัดแปลงให้เป็น ที่พักแบบโฮมสเตย์  ร้านค้า ร้านกาแฟ เป็นความเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ที่ต้องมาสัมผัสค่ะ

◉ การเดินทาง : ไปตามทางหลวง หมายเลข 201 สู่เขต จ.เลยอีกที ที่ภูผาม่าน ผ่านภูกระดึง วังสะพุง ถึงตัวเมืองเลย สุดท้ายแยกขวาสู่อ.เชียงคาน รวมระยะทางประมาณ 597 ก.ม.ค่ะ
◉ ที่ตั้ง : เชียงคาน จ.เลย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 10.00 – 23.00 น และ ถนนคนเดินเชียงคาน 17.00 – 20.00 น.

❀ 59.ฟลาวเวอร์แลนด์ พัทยา จ.ชลบุรี 

เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดของเมืองพัทยากันเลยสำหรับตอนนี้ ถูกใจคนที่รักดอกไม้ และความสวยงาม ที่นี่ถือว่าเป็นดินแดนดอกไม้ และไม้ยืนต้น บนพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ มีการสร้างสรรค์ให้กลายเป็นวิมานแห่งดอกไม้เมืองหนาวที่หาชมได้ยากในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศเราอีกด้วย รับรองว่าไปเที่ยวแล้วถ่ายรูปกันไม่หวั่นไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ

◉ การเดินทาง : ออกจากถนนมอเตอร์เวย์ที่จังหวัดชลบุรี แล้วใช้ถนนสุขุมวิทต่อไปจนถึงเมืองพัทยาก็ได้
◉ ที่อยู่ : อ.หนองปรือ พัทยา จ.ชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์ – อาทิตย์ 08.00 – 20.00 น.

60.ตลาดน้ำ 4 ภาค จ.ชลบุรี 

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม และเป็นศูนย์รวมของ กิจกรรม ความหลากหลายเกี่ยวกับ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม เป็นการนำของดีทั้ง 4 ภาค มาไว้ที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ และสีสันแห่งใหม่ในเมืองพัทยาค่ะ มีทั้งสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน จุมชมเที่ยว เช่น ทุ่งทานตะวัน พิพิธภัณฑ์ไม้แกะสลัก รวมไปถึงการแสดงกิจกรรมวิถีชีวิตประเพณี วัฒนธรรมไทย หรือจะเป็นการล่องเรือพายชมทัศนียภาพตลาดน้ำ ย้อนรำลึกประวัติศาสตร์การกสิกรรมไทย ที่แปลงเกษตรสาธิต และสมุนไพรไทย เป็นการท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ค่ะ มาที่นี่คุ้มค่าวันหยุด ครบจบในที่เดียวเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ขับผ่านทางเลี้ยวเข้าพัทยาเหนือ – กลาง -ใต้ เลยทางเลี้ยวเข้าพัทยาใต้ไปสักหน่อยทาง เดียวกับมิโมซ่าจะเห็นเรือน ไทยโดดเด่นไม่ต้องกลัวหลงเพราะจะมีป้ายบอกตอดทาง
◉ ที่อยู่ : อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 10.00 – 24.00 น.

❀ 61.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี 

เป็นเกาะใหญ่กลางทะเลที่น่าท่องเที่ยว ในบรรยากาศแบบท้องถิ่น การเดินทางมาก็ง่ายแสนง่าย ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ เกาะมีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก มีวิวสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปเล่นอัพโหลดลงโซเชียล และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆหลายที่ให้แวะ เช่น ช่องเขาขาด หาดถ้ำเขาพัง มณฑปรอยพระพุทธบาท พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน และอีกมากมายเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายบางนา – ตราด มุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี มุ่งหน้าสู่บางแสน ขับตรงไปประมาณ 13 กิโลเมตรจากนั้นให้ เลี้ยวขวาตรง ห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะสีชังประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงท่าเรือ
**หากต้องการค้างคืนสามารถจอดรถไว้ที่ฝั่งเกาะลอยได้**
◉ ที่อยู่ : เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 19.00 น.

❀ 62.ตลาดน้ำสามวัง จ.ชลบุรี 

ตลาดน้ำเปิดใหม่ไฉไลเวอร์ๆจ้า อยู่แถวอำเภอพนัสนิคม ตลาดน้ำสามวัง เป็นตลาดน้ำสไตล์บ้านๆ บรรยากาศดี ร่มรื่นอยู่ริมคลอง รายล้อมไปด้วยกอไผ่ขนาดใหญ่ ขอบอกเลยว่ามีมุมถ่ายรูปสวยๆเพียบ! ในส่วนของกินก็มีเยอะหลากหลายไม่แพ้กัน พ่อค้าแม่ค้าต่างมาตั้งซุ้มขายส้มตำ ไก่ย่าง ผักผลไม้ และอาหารท้องถิ่นแบบจัดเต็ม แถมมีบริการซุ้มให้นั่งกินข้าวริมน้ำชิลๆ อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีบริการนั่งเรือชมธรรมชาติสองฝั่งคลองด้วยนะ

◉ การเดินทาง : แนะนำว่าให้ปักหมุดที่วัดใหม่นาวังหินไว้ได้เลยจ้า
◉ ที่อยู่ : หลังวัดใหม่นาวังหิน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ 08.00 – 21.00 น.

❀ 63.เกาะแสมสาร สัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

เป็นเกาะที่เรียกว่าได้มาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะเป็นทะเลใกล้กรุงที่ยังคงความธรรมชาติเอาไว้อยู่  เกาะนี้จึงเหมาะมากสำหรับเที่ยวชิลล์ๆ ใครที่เวลาน้อยแต่อยากไปชมทะเลสวยๆ ที่นี่ตอบโจทย์เพราะเที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ ไฮไลท์ของเกาะแสมสารอยู่ที่น้ำทะเลใสแจ๋ว ใสม๊ากมากจริงๆค่ะ หาดทรายขาว ปะการังมีเยอะมาก ใต้ท้องทะเลก็สวย ใครที่ได้ไปรับรองเลยว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เดินเล่นเพลินๆ หรือจะปั่นจักรยานชมเส้นทางธรรมชาติได้ทั้งวันค่ะ ถึงแม้เกาะแสมสารจะไม่มีที่พักแต่มีกิจกรรม และมีอาหารอร่อยๆให้ชิมนะคะ ใครยังไม่เคยไปต้องไปเลยค่ะ ทะเลสวยอยู่ใกล้ๆแค่นี้เองนะ

◉ การเดินทาง : ค่าตั๋วเกาะแสมสาร ราคานี้รวมเรือไป-กลับแล้วนะจ๊ะ เด็ก 220 บาท และ ผู้ใหญ่ 300 บาทค่ะ เป็นเกาะที่เที่ยวได้ทั้งปี ไม่มีวันปิดเกาะ เรือออก 09.00 – 13.00 น.
◉ ที่ตั้ง : เกาะแสมสาร สัตหีบ จังหวัดชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.

❀ 64.วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา 

วัดมหาธาตุ สิ่งที่โดดเด่นคือ  เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีในรากไม้  โดยเศียรพระพุทธรูปเป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้หล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความงดงามแปลกตา จนเลื่องลือกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติค่ะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เข้าตัวเมืองอยุธยา แล้วข้ามสะพานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตรงไปจนถึงสี่แยกไฟแดงที่ 2 เลี้ยวขวาตรงไปไม่ไกล ผ่านบึงพระราม จะเห็นวัดมหาธาตุอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
◉ ที่อยู่ : ตำบลท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.30 – 17.00 น.

❀ 65.ตลาดชะโด จ.พระนครศรีอยุธยา 

เป็นอีกหนึ่งตลาดเก่าแก่ของอยุธยาที่มีอายุกว่า 100 ปี มีพัฒนาการมาจากตลาดน้ำที่มีเรือนแพค้าขายของชาวจีน จากนั้นได้เริ่มมีการก่อสร้างตลาดริมน้ำและบนบกขึ้นให้กว้างใหญ่กว่าร้อยคูหา ปัจจุบันยกจากน้ำขึ้นบกกลายเป็นตลาดวิถีชีวิตริมน้ำ นอกจากนี้ที่ตลาดลาดชะโดยังเป็นโลเคชั่นหลักของภาพยนตร์-ละครหลายเรื่องที่เคยยกกองมาถ่ายทำอย่าง บุญชู, รักข้ามคลอง, ดงดอกเหมย และความสุขของกะทิ และนักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือชมวิถีชีวิตริมคลองลาดชะโด การยกยอ ทอดแห บ้านเรือนไทยริมน้ำค่ะ

◉ การเดินทาง : จากอำเภอผักไห่ ใช้เส้นทาง 3454 เลยตัวตัวอำเภอไปประมาณ 500 เมตร มีทางแยกเลี้ยวซ้ายไปตลาดลาดฃะโดเป็นระยะทางอีกประมาณ 2 กิโลเมตร และก่อนถึงตลาดลาดชะโดมีท่าเรือที่สามารถเช่าเรือไปตลาดลาดชะโดได้ค่ะ
◉ ที่อยู่ : ตำบลหนองน้ำใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00-16.00 น.

❀ 66.ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม
จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

เป็นตลาดน้ำที่ใหญ่มีพื้นที่กว่า 100 ไร่ ภายในมีทั้งร้านค้า และเรือขายสินค้าริมน้ำ มีเรือให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมบรรยกาศโดยรอบ มีรถไฟให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมโดยรอบตลาดได้อีกด้วย การตกแต่งของตลาดน้ำหัวหินสามพันนามเป็นแนวย้อนยุค เป็นตลาดน้ำที่เน้นความธรรมชาติ มีมุมสำหรับถ่ายรูปหลากหลาย และที่สำคัญที่มีกิจกรรมต่างๆเยอะมากค่ะ นอกจากช๊อปของทานอร่อยๆแล้วก็ยังมี ปั่นจักรยานน้ำ ให้นมน้องแพะ โล้ชิงช้า “ชิงช้าปลายหาด” (แบบชาวเขา) ขี่ม้าถ่ายรูป ขี่ม้ารอบตลาดน้ำ เลี้ยงช้าง (ให้อาหารช้าง) ให้อาหารปลา เรียกว่าเป็นตลาดที่ครบเครื่องมากๆ มาแล้วได้ครบทุกอย่างกันไปเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางเดียวกับวัดห้วยมงคล โดยปากทางเข้า จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยปากทางเข้าวัดห้วยมงคล ไม่ต้องกลัวหลงเพราะจะมีป้ายบอกตลอดทาง
◉ ที่อยู่ : อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : วันธรรมดา 09.00-18.00 น.  /  วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00-21.00 น.

❀ 67.เขาตะเคียนโง๊ะ จ.เพชรบูรณ์ 

จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองทิวทัศน์ของตำบลหนองแม่นาได้แบบ 360 องศา มีลานกางเต็นท์ พร้อมเต็นท์นอน ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะคะ ขอบอกว่าความสวยเกินจะบรรยายเลยค่ะ บรรยากาศดีมากกก รับรองว่านั่งมองหมอกเพลินๆ ฟินๆแน่นอน

◉ การเดินทาง : จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมวิวริมทางหลวง 2258 บ้านหนองแม่นา จากสี่แยกรื่นฤดี ใช้เส้นทางไปยังอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
◉ ที่ตั้ง : ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  08.00 – 18.00 น.

❀ 68.ทุ่งกังหันลม จ.เพชรบูรณ์ 

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ใหม่ล่าสุดบนเขาค้อที่สวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านเพชรดำ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อเข้ามาในบริเวณแคมป์สนเพื่อ ไปยังเส้นทางท่องเที่ยวหลักบนเขาค้อ จะสามารถมองเห็นกำหันลมโดดเด่นได้อย่างง่ายได้ ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายรูปกัน อยู่เมืองไทยแต่ใครๆก็คิดว่าอยู่เมืองนอก ต้องแวะมาเช็คอินที่นี่กันให้ได้น้า

◉ การเดินทาง : จากถนนสายหลัก 2196 หากมาจากแคมป์สนก็เลยแยกทุ่งสมอไป 3 กม. จะมีป้ายหมู่บ้านเพชรดำ ให้เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 10 กม.ก็จะถึงทุ่งกังหันลม
◉ ที่ตั้ง : หมู่บ้านเพชรดำ ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  06.00 – 18.00 น.

 69.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์ 

ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่มีความสวยงามวิจิตรตระการตา อยู่ท่ามกลางภูเขาที่สูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบด้านได้ 360 องศาสวยงามจนเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand

◉ การเดินทาง : พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว อยู่ปากซอยทางเข้า หมู่บ้านทางแดง ซึ่งอยู่ด้านข้าง อบต.แคมป์สน เลี้ยวซ้ายเข้าไป ตรงตลอดจนเห็นสะพานทางเข้าวัด เลี้ยวขวาข้ามสะพานและจอดรถ ณ บริเวณที่จัดไว้
◉ ที่ตั้ง : ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 70.ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ 

เป็นจุดสูงสุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ อากาศบริสุทธ์ เย็นสบายตลอดปี ในตอนเช้ามีหมอก และกลุ่มเมฆตัดกับยอดภูสีเขียว มีไร่กะหล่ำปลีที่ปลูกลดหลั่นไปตามไหล่เขา ภูทับเบิกเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมากที่หนึ่ง เพราะเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว ยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม และอลังการอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีสายหมอกลอยคลอกเคลียตามไหล่เขาให้ได้ชมแทบทุกจุด

◉ การเดินทาง : จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวง หมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสักตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทาง ไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าตามทางหลวง 2011 และ 2331 ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจาก ตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชัน และคดเคี้ยวมาก
◉ ที่ตั้ง : ต.วังบาล จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 18.00 น.

❀ 71.น้ำตกศรีดิษฐ์ จ.เพชรบูรณ์ 

เป็นน้ำตกชั้นเดียว สายน้ำไหลผ่านหน้าผาหินกว้าง มองเห็นคล้ายม่านน้ำตกลงสู่เบื้องล่างกระทบหินน้ำกระเชนสวยงาม มีลานกว้างสำหรับเล่นน้ำ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ บริเวณน้ำตกยังมีศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว ร้านบริการอาหารเครื่องดื่มโดยเฉพาะ ไก่ย่างส้มตำ รวมทั้งของที่ระลึกพวกเสื้อผ้าพื้นเมืองด้วยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากสามแยกหนองแม่นา บ้านหนองแม่นา ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 2325 ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร จะเห็นป้ายทางเข้าน้ำตกศรีดิษฐ์ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ถึงลานจอดรถ เดินเข้าไปประมาณ 100 เมตร จะถึงตัวน้ำตกค่ะ
◉ ที่อยู่ : เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 72.เมืองศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ 

เป็นเมืองโบราณในยุคทวารวดีที่มีความยิ่งใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก landmark เด็ดคือ เขาคลังนอก “พีระมิด” หนึ่งเดียวในไทย ปรางค์ศรีเทพ ปรางค์ประธานเมืองโบราณ และ ปรางค์สองพี่น้อง เป็นสถาปัตยกรรมเนื่องในวัฒนธรรมเขมร กรมศิลปากร พบว่า มีความเก่าตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ 2,500 ปี และขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ มีอายุเก่าแก่ถึง 1,800 ปี และยุคทวารวดีที่มีความเก่าแก่ถึง 1,400 ปี และนี่เป็นที่ถกเถียงกันว่าอาจจะเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรทวารวดีหรือเปล่า แม้จะยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทรงคุณค่า ที่ควรค่ากับการไปเที่ยวชมมากๆค่ะ

◉ การเดินทาง : อยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ประมาณ 130 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 102 แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2211 ไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตรจะเห็นป้ายบอกทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
◉ ที่อยู่ : อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30-16.30 น.

❀ 73.บานาน่าฟาร์ม จังหวัดกาญจนบุรี 

แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีทั้งคาเฟ่อยู่กลางดงสวนกล้วยกันเลยทีเดียว ทุกคนจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ โดยจะมีสะพานยอดกล้วยให้ได้เดินเล่น และชมวิวกันอย่างสบายใจ นอกจากนี้ต้องบอกเลยว่าเรื่องของอาหารก็ไม่แพ้ใคร นอกจากจะอยู่กลางสวนแล้ว รสชาติอาหารก็อร่อย แบบออร์แกนิคอีกด้วยค่ะ กินอิ่มแถมมีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมายเหมาะสำหรับการพักผ่อนมากๆเลยค่ะ

ขอบคุณรูปภาพ : https://www.siam-banana.com

◉ การเดินทาง : ริมถนนพนมทวน-กาญจนบุรี  แถวทุ่งสมอ
◉ ที่อยู่ : อ.พรมทวน จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : อังคาร – อาทิตย์  08.00 – 20.30 น.

❀ 74.เขื่อนศรีนครินทร์
จังหวัดกาญจนบุรี 

เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ใช้ประโยชน์ทั้งด้านการชลประทาน การผลิตไฟฟ้า ปัจจุบันเขื่อนศรีนครินทร์ได้กลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิต ยิ่งบริเวณสันเขื่อนมีที่จอดรถให้บริการ เดินชมวิวชิลๆ มีมุมถ่ายรูปเพียบเลยล่ะ มีรีสอร์ทสวยๆ แพริมเขื่อนเก๋ๆเปิดให้บริการมากมาย ยิ่งไปช่วงกรีนซีซั่นนะ หมอกเอย รุ้งเอย น้ำใสๆสีฟ้าครามเอย ฟินกระจายยย เป็นอีกเขื่อนสวยรวยเสน่ห์ ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางง่ายๆ เหมาะกับแวะพักผ่อนหย่อนกาย บรรยากาศก็ดีต่อใจ รีบเก็บกระเป๋าไปเขื่อนศรีนครินทร์กันเล่ยย

◉ การเดินทาง : จากเส้นเพชรเกษม หรือถนนบรมราชชนนี เข้าสู่นครชัยศรี มุงหน้าไปยังนครปฐม บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง และเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรี
◉ ที่อยู่ : ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.

❀ 75.วัดถ้ำเสือ จ.กาญจนบุรี 

สิ่งที่สะดุดตาของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมวัด เพื่อกราบนมัสการพระธาตุ ก็คือ ความใหญ่โตกว้างขวางของวัด และพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ตัวองค์พระสวยงาม ประดับด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ มองไปด้านล่างเห็นเป็นทุ่งนาเขียวขจี สวยงามอลังการมากค่ะ

◉ การเดินทาง : วัดถ้ำเสืออยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลองประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าวัดต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลองแล้วจะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไป ประมาณ 2 กิโลเมตรแล้ว เลี้ยวซ้ายประมาณ 200 เมตร
◉ ที่อยู่ : อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 76.บ้านอีต่อง ปิล็อก จ.กาญจนบุรี 

ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก ปัจจุบันหมู่บ้านอีต่องได้เป็นที่พักโฮมสเตย์ แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อว่า บรรยากาศสวยอีกที่ของจังหวัดค่ะ ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ ชอบอากาศดีๆ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร เรียกว่าเป็นเมืองที่ร่ำรวยด้วยหมอกเลยค่ะ เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการมาสัมผัส ต้องเดินทางผ่าน 399 โค้ง และยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆ คือ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เนินช้างศึก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โอ้โหคือมาดูหมอกเสร็จก็ไปเที่ยวที่ใกล้ๆได้อีกทั้งเส้นทางเลยนะคะ

◉ การเดินทาง : จากตลาดทองผาภูมิ ไปหมู่บ้านอิต่อง ระยะทาง 70 กม.
◉ ที่ตั้ง : ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  05.30 – 18.30 น.

❀ 77.เนินช้างศึก จ.กาญจนบุรี 

เนินช้างศึกหรือยอดดอยปิล๊อก ตั้งอยู่ใน ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นจุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่งของชายแดนไทย-พม่า เป็นที่ตั้งฐานของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 สถานที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,053 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากๆอีกจุดของกาญฯ ก็ว่าได้ค่ะ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขา สาบหมอกเต็มแบบเห็นได้ 360 องศาค่ะ มีสถานที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งที่นี่ยังเปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวันด้วยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากอำเภอเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ไปตามทางสายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ (ทางหลวงหมายเลข 323) เลี้ยวซ้ายไปตามทางหมายเลข 3272
◉ ที่ตั้ง : ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  05.30 – 18.30 น.

❀ 78.เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี 

เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มีจุดไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่ “สันคมมีด” สันเขาที่สวยงาม และน่าหวาดเสียวไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกให้ที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 10 Dream Destinations ที่นักท่องท่องเที่ยวควรไปเยือนมากที่สุดจ้า

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 สายกาญจนบุรี – ทองผาภูมิ จากตัวอำเภอทองผาภูมิ ใช้เส้นทางหมายเลข 3272 สายทองผาภูมิ – บ้านไร่-ปิล๊อก ถึงสามแยกบ้านไร่เลี้ยวซ้ายไปตาม เส้นทางคดเคี้ยวบนเขา ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิซึ่งจะตั้งอยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 21 – 22
◉ ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เดือนพฤศจิกายน  ถึง เดือนมกราคม ของทุกปี

❀ 79.ตลาดน้ำกวางโจว จ.เพชรบุรี 

เป็นตลาดน้ำที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านต่างพากันพายเรือนำของมาวางขายกันอย่างคึกคัก ทำให้เห็นถึงวิถีชีวิตสมัยก่อน ดุแปลกตาสร้างบรรยากาศแห่งการท่องเที่ยวให้แก่พื้นที่บริเวณนี้ค่ะ ภายในตลาดน้ำแห่งนี้จะมีสินค้า และอาหารหลากหลายมาขายมากมาย เป็นของที่ชาวบ้านทำกันมาขายเอง ราคาเป็นมิตร พ่อค้าแม่ค้าน่ารักมาก ยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนค่ะ อีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ และมุมร่มรื่นๆให้ได้พักอีกด้วยค่ะ ใครมีโอกาสได้มาเพชรบุรีลองแวะมาสัมผัสที่นี่ดูนะคะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางเพชรเกษม มุ่งหน้าเพชรบุรี ผ่านเขาย้อย จะเห็นป้ายไปตลาดน้ำกวางโจวติดไว้ เลี้ยวไปตามป้าย มุ่งหน้าอำเภอหนองหญ้าปล้อง
◉ ที่อยู่ : อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์  09.30 – 17.00 น.

❀ 80.สะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 

เป็นเขื่อนที่เชื่อมระหว่างเกาะเล็กๆในเขื่อน มีความยาวประมาณ 500 เมตร ใครที่รู้สึกคุ้นตาว่าเคยเห็นสะพานที่ไหน ขอบอกเลยว่าสะพานเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กชื่อดังของเขื่อนเลย ใครไปใครมาต้องมาถ่ายรูป โพสท่าเป็นนางเอกภาพยนตร์กันทั้งนั้นจ้า

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 35 ถึงอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านแยกเข้าตัวเมืองเพชรบุรี จะถึงสี่แยกท่ายาง เลี้ยวขวาเข้าอำเภอท่ายาง แล้ววิ่งไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน ตามทางหลวงหมายเลข 3499
◉ ที่ตั้ง : เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 17.00 น.

❀ 81.ทุ่งสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด ทั้งนกประจำถิ่น และนกอพยพตามฤดูกาล นับเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ บริเวณเชิงเขามีศูนย์ศึกษาธรรมชาติทุ่งสามร้อยยอด โดยมีเส้นทางเดิ ศึกษาพันธุ์ไม้น้ำให้ได้เดิน เป็นสะพานไม้ที่ ยกระดับให้สูงขึ้นมาจากท้องทุ่ง และทอด ตัวเป็นแนวยาวเข้าไปในทุ่ง ตลอดทางที่เดินเราจะได้ เห็นถึงความหลากหลาย ของพันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่ในทุ่ง สารพัดพืชพันธุ์เลยจ้า

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 จะเห็นป้ายบอกทางไปอุทยานฯ ให้เลี้ยวขวา ไปตามถนน รพช. ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ
◉ ที่ตั้ง : ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 18.00 น.

❀ 82.เขาล้อมหมวก จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

เป็นจุดชมวิวที่สวยงามสามารถมองเห็นทะเลได้ถึง 3 อ่าว คือ อ่าวน้อย อ่าวประจวบฯ และอ่าวมะนาว บรรยากาศข้างบนเขาลมพัดเย็นสบาย และมีรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้ายให้กราบไหว้ ซึ่งพระพุทธบาทนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 และบริเวณเชิงเขามีศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกไว้ให้ท่านสักการะบูชา และมีค่างแว่น สามารถให้อาหารค่างแว่นได้ ค่างแว่นเมื่อเข้ามารับอาหารจะไม่แย่งชิงจากมือนักท่องเที่ยว และเลือกอาหารกินอย่างพิถีพิถันเป็นที่น่าประทับใจของนักท่องเที่ยวค่ะ

◉ การเดินทาง : จะต้องเข้าไปภายในกองบิน แล้วจะมีทางแยกไปเขาล้อมหมวกก่อนที่จะถึงอ่าวมะนาว เมื่อเลี้ยวเข้าทางแยกในกองบินก็ให้ขับตรงไปจนถึงตีนเขา แล้วก็หาที่จอดรถบริเวณนี้ได้เลย
◉ ที่ตั้ง : กองบิน 5 ต.เกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้ขึ้นเฉพาะวันหยุดเทศกาล  06.00 – 12.00 น.

❀ 83.เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ 

เกาะพีพีเป็นเกาะที่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ต้องบอกเลยว่าฟินขั้นสุด เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เป็นหมู่เกาะกลางทะเลอันดามัน แบ่งออกเป็น 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอน และ เกาะพีพีเล เกาะพีพี ขึ้นชื่อว่าเป็น“มรกตแห่งอันดามัน” เต็มไปด้วยความสดใสของน้ำทะเล ชาดหาดสีขาวนวล และเป็นอีกเกาะที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จุดเด่นของเกาะพีพี คือ น้ำทะเลสีเขียวมรกตใส อ่าวมาหยาที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาหินปูน และเป็นจุดดำน้ำลึก-น้ำตื้นที่มีปะการังสวยงาม

◉ การเดินทาง : ท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ
สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะพีพีแบบไปเช้าเย็นกลับจากบริษัททัวร์ที่ให้บริการในจังหวัด กระบี่ท่าเรืออ่าวนาง และภูเก็ต บริเวณอ่าวฉลอง โดนเรือเร็วจากบริษัททัวร์ที่คอยให้บริการ มากมายซึ่งมี โปรแกรมทัวร์ให้เลือกหลากหลายแล้วแต่ความชอบ โปรแรมท่องเที่ยว ที่เป็นที่นิยม คือ เริ่มจาก เกาะพีพีเล ได้แก่ อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ อ่าวโละซะมะ และไปแวะรับประทานอาหารกลางวันที่เกาะพีพีดอน หลักจากนั้นก็เริ่มท่องเที่ยวไปยังจุดต่างๆ ก็เกาะพี่พีดอน ได้แก่ อ่าวต้นไทร อ่าวโละดาลัมและจุดชมวิวเกาะพีพีดอน
◉ การเดินทาง : ท่องเที่ยวแบบไปค้างคืน
จากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ2 เที่ยว เวลา 10.00 น. และ 14.30 น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 น.เมื่อมาถึงเกาะพีพี นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือหางยาวไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ของเกาะพีพี บริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพีดอน มีเรือหางยาวให้เช่าไปเที่ยว ตามชายหาด ต่างๆรวมถึงเกาะพีพีเลด้วย
(ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
◉ ที่ตั้ง : เกาะพีพี จังหวัดกระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 84.ทะเลแหวก จ.กระบี่ 

อีกหนึ่งสถานที่สุด Unseen Thailand จุดสวยงามอย่างมหัศจรรย์ ที่สามารถเดินเหยียบทรายขาวละเอียด จากเกาะหนึ่งได้เวลาน้ำลด ทะเลแหวกเกิดจาก สันทรายจากเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ ทั้งสามเกาะนี้เป็น 3 เกาะเด่นอยู่ใน หมู่เกาะปอดะ เกาะไก่เป็นเกาะที่สามารถหยุดเรือแล้วลงไปเล่นน้ำแล้วให้อาหารปลาด้วยการ ให้ขนมปังโรยไว้รอบๆตัว แล้วปลาจะมาอยู่ล้อมรอบตัวเรา ต่อด้วยเกาะทับ เกาะที่เราสามารถมองเห็นปะการังน้ำตื้นได้ จากนั้นมาจบด้วยเกาะจำปาดะ เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนและเล่นน้ำมากกว่าที่จะมาดำน้ำชมปะการัง ทะเลแหวกควรมาชมในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุด ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมค่ะ

◉ การเดินทาง : จากจังหวัดกระบี่ใช้ทางหลวงหมายเลข 4034 แล้วเลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 4202 ไปอ่าวนาง สามารถเช่าเรือลำละ 800-1,000 บาท นั่งได้ 8-10 คน หรือใช้บริการ One day trip ของบริษัทต่างๆ ราคา One day trip เกาะไก่ เกาะปอดะ ทะเลแหวก หาดถ้ำพระนาง ไปด้วยเรือหางยาว 450 บาท / คน ไปด้วยเรือ Speedboat 850 บาท / คน
(ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
◉ ที่ตั้ง : ทะเลแหวก จ.กระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 85.เกาะลันตา จ.กระบี่ 

เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกระบี่ ประกอบด้วยเกาะลันตาใหญ่  และเกาะลันตาน้อย แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่บนเกาะลันตาใหญ่ และเกาะลันตาน้อยเป็นที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา ด้วยระยะทางที่ห่างไกลจากตัวเมือง เกาะลันตาจึงยังคงความสวยงามของหาดทราย และน้ำทะเลสะอาด มีจุดดำน้ำดูประการังน้ำลึกบริเวณปลายสุดแหลมเป็นที่ตั้งของเกาะหม้อ อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตของชาวเกาะแบบดั้งเดิม ที่เกาะลันตาคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว การมาที่นี่จึงได้เที่ยงหลายบรรยากาศในคราวเดียวกัน ฤดูท่องเที่ยวเกาะลันตาคือช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนพฤษภาคมค่ะ

◉ การเดินทาง : เข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ อำเภอ เหนือคลอง อำเภอคลองท่อม ถึงประมาณหลักกิโลเมตรที่ 64 แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4206 สู่บ้าน หัวหิน ซึ่งเป็นจุดลงแพขนานยนต์ไปยังเกาะลันตาใหญ่
◉ ที่ตั้ง : เกาะลันตา จ.กระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 86.สระมรกต จังหวัดกระบี่ 

สระมรกต ธารน้ำอุ่นเปล่งประกายสีเขียวสดใส ผืนน้ำที่สามารถมัดใจให้หลงใหลในอีกบรรยากาศหนึ่ง สระมรกต ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม ป่าเขานอจู้จี้ ป่าดินที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็น Unseen Thailand ของกระบี่แห่งนี้ จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นด้วยอากาศบริสุทธิ์ที่คัดกรองออกซิเจนด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ถ้าอยากสัมผัสธรรมชาติอย่างดื่มด่ำยิ่งขึ้นราวกับท่องเที่ยวแดนในฝัน ควรมาถึงที่นี่ตอน 9 โมงเช้าในวันธรรมดา เพราะอากาศกำลังดี บรรยากาศก็แสนเงียบเนื่องจากยังไม่มีนักท่องเที่ยว ถ้าไปเที่ยวยามหน้าฝน ผืนป่าที่โอบล้อมเขียวชอุ่มดูชุ่มฉ่ำ มีกล้วยไม้ป่าผลิดอกสะพรั่ง ส่วนช่วงฤดูหนาวย่างเข้าฤดูร้อน ป่าของที่นี่จะเปลี่ยนสี ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดในภาคใต้เลยทีเดียว แต่ฤดูที่จะได้สัมผัสความใสของสระอย่างดีที่สุดน่าจะเป็นฤดูร้อนที่ท้องฟ้ากระจ่าง

◉ การเดินทาง : อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ตามถนนเพชรเกษม (กระบี่-ตรัง) แยกเข้า ถนนสุขาภิบาล 2 สังเกตจากป้ายบอกทางตรงที่ว่า การอำเภอคลองท่อมไปอีกประมาณ 15ไปตามทางหลวง หมายเลข 4038 แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนรพช. และตามป้ายบอกทางไปจะพบน้ำตกร้อน และสระมรกต
◉ ที่ตั้ง : สระมรกต จังหวัดกระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30 – 17.00 น.

❀ 87.อ่าวมาหยา จ.กระบี่ 

อ่าวที่งดงามที่สุดของเกาะพีพีเล ลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวใหญ่ล้อมรอบด้วยหน้าผา จะคล้ายกับทะเลในลากูน ภายในอ่าวน้ำทะเลเป็นสีมรกตใส มีหาดทรายขาวที่ละเอียด และอ่อนนุ่มราวกับผงแป้ง ใครๆได้มาที่นี่ต่างก็หลงรักในความงามของที่นี่ ฤดูกาลที่ดีที่สุดที่มาเที่ยวอ่าวมาหยา คือในช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนเมษายน เพราะจะไม่มีลมเข้าทางด้านหลังของเกาะพีพี น้ำในอ่าวมาหยาจะนิ่งสนิท และใสเหมือนกระจกเงา

◉ การเดินทาง : รายละเอียดการเดินทางที่ลิงค์
https://www.atsiamtour.com/gallery/141
◉ ที่ตั้ง : ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30 – 17.30 น.

❀ 88.เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล 

เกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะเล็ก ๆในจังหวัดสตูล ตั้งอยู่ในอาณาเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา เกาะที่ขึ้นชื่อว่าน้ำทะเลใส หาดทรายขาวละเอียด มีปะการังหลากสี อุดมไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด และมีเวิ้งอ่าวที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ เกาะหลีเป๊ะยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “มัลดีฟส์เมืองไทย” ด้วยค่ะ หาดยอดนิยม คือ หาดพัทยา เป็นหาดที่มีความสวยงามที่สุด อยู่บริเวณด้านหน้าของหมู่บ้านชาวเล , หาดซันไรท์ อยู่ทางทิศตะวันออก ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านชาวเล เป็นบริเวณที่สามารถรับชมพระอาทิตย์ขึ้น จัดว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ และหาดซันเซ็ทเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งามที่สุดแห่งหนึ่ง

◉ การเดินทาง : สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
– ซีแอท ฮอลิเดย์  086-655707, 084-4072587, 074-782222
– อาดัง ซี แอดเวนเจอร์ ทัวร์  074-7833338, 089-735 7637, 081-6092604
– บริษัท ไทเกอร์ ไลน์ ทราเวล จำกัด โทร. 074 732 510
– บริษัท หลีเป๊ะ เฟอรี่ แอนด์ สปีดโบ๊ท จำกัด โทร. 081 909 1413
◉ ที่ตั้ง : เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 89.ตลาดน้ำคลองแห จ.สงขลา 

จำลองวิถีชีวิตดั้งเดิมคือการค้าขายทางน้ำของชาวบ้านคลองแห มีมีเรือพายหลายลำพายมาจอดเรียงรายนำสินค้ามาขาย และมีร้านค้าที่ริมฝั่งมากมายให้เดินเลือกชมอย่างเพลิดเพลิน ทั้งอาหารไทยพื้นบ้านหลากหลาย อาหารมุสลิม รวมทั้งผลไม้ และสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด ภาชนะที่ใส่อาหารใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง กะลา กระบอกไม้ไผ่ หม้อดินเผา เป็นตลาดน้ำเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกและแห่งเดียวของภาคใต้ ผสมผสานระหว่างตลาดที่จำหน่ายสินค้าในเรือ และตลาดโบราณจำหน่ายสินค้าบนบก

◉ การเดินทาง : สามารถจอดรถได้ที่วัดคลองแห และจุดจอดรถตรงข้ามตลาด
◉ ที่ตั้ง : วัดคลองแห ตำบลคลองแห จ.สงขลา
◉ เวลาเปิด – ปิด : วันศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ 16.00 – 20.00 น.

❀ 90.เสม็ดนางชี จังหวัดพังงา 

เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลาง ภูเขาหินปูนน้อย ใหญ่ของอ่าวพังงา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมุมมองที่สุดอันซีนที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นมาทักทายขอบฟ้า พร้อมแทรกตัวอยู่ระหว่างภูเขาน้อยใหญ่ นอกจากจากนี้ในยามค่ำคืนยังสามารถมองเห็นดาวเต็มท้องฟ้าอีกด้วย

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางพังงา-โคกลอย หรือโคกลอย-พังงา หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางบ้านท่าอยู่-คลองเคียน ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จะพบกับทางขึ้นจุดชมวิว และหลังจากจากรถเรียบร้อย ก็เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวอีกประมาณ 500-700 เมตรเท่านั้น
◉ ที่ตั้ง : บ้านหินร่ม ตำบลคลองเคียน จังหวัดพังงา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 04.00 – 10.00 น.

❀ 91.เกาะเจมส์บอนด์ จ.พังงา 

เกาะเจมส์บอนด์หรือเกาะตะปู เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ในปี 1974 เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำในฉากหนึ่งของหนังเรื่องเจมส์ บอนด์ เกาะเจมส์บอนด์ไม่มีดินแดนชายฝั่ง แต่จะมีเป็นอ่าวที่มีลักษณะถูกโอบล้อมด้วยผา และภูเขาหินสูงชัน ซึ่งคุณสามารถดูได้จากเกาะเขาพิงกันที่ตั้งอยู่ในทำเลสะดวกตรงข้ามเรือผ่าน เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ซึ่งจะต้องมีการจ่ายเงินค่าบริการสำหรับการเข้าชม

◉ การเดินทาง : รายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมที่ลิงค์  http://ow.ly/WSca30pUoWy
◉ ที่ตั้ง : เกาะเจมส์บอนด์ จ.พังงา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 92.แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต 

หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวภูเก็ต แล้วไม่ได้มาชมอาทิตย์อัสดงที่ แหลมพรหมเทพ ถือว่ายังมาไม่ถึงจ้า แหลมพรหมเทพจัดเป็นหนึ่งในจุดชมอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในเมืองไทย  เป็นแหลมที่อยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ต  มีลักษณะเป็นแหลมโค้งไล่ระดับทอดตัวสู่ท้องทะเล รอบข้างแวดล้อมด้วยต้นตาล ท้องฟ้าเปิด มีเมฆน้อย บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพจะสวยงามมาก หากมาในฤดูร้อนมีทุ่งหญ้าสีทองขึ้นปกคลุม ในฤดูฝนจะเป็น เป็นสีเขียวรอบๆ แหลมพรหมเทพเป็นโขดหินขนาดใหญ่ยามคลื่นลมแรงจะเห็นฟองคลื่นสีขาว กระทบโขดหินสวยจนต้องกรีดร้องเลยล่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองภูเก็ตไปตามทางหลวงหมายเลข 4027 และ 4024 ผ่านหาดราไวย์และหาดในยะ จากนั้นตรงไปตาม ทางหลวงหมายเลข 4233 อีกประมาณ 650 ม. ก็ถึงลานจอดรถของแหลมพรหมเทพ ต้องเดินขึ้นบันได ไปบน เนินสูง เพื่อไปจุดชมวิว ถ้าต้องการชมทิวทัศน์ที่ปลายแหลมพรหมเทพ ต้องเดินต่อไปตามทางดินอีกประมาณ 1 กม. หรือจะชม
◉ ที่ตั้ง : แหลมพรหมเทพ ราไวย์ จ.ภูเก็ต
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 93.เมืองเก่า จ.ภูเก็ต 

ภูเก็ตสิ่งแรกที่รู้สึกสะดุดตาก็คือตึกเก่า สัมผัสกับความสวยงามของบ้านเรือนเก่าแก่ ของภูเก็ต และสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส ที่สวยงาม พร้อมๆกับได้ สัมผัสวัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนภูเก็ต ที่สำคัญอาหารอร่อยเลื่องชื่อ การเดินชมเมืองเก่า เสน่ห์แห่งชิโน-โปรตุกีส เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การศึกษายิ่งค่ะ

◉ การเดินทาง : เริ่มจากตัวเมืองภูเก็ตหากไม่มีรถส่วนตัว สามารถนั่งมอเตอร์ไซต์ราคาประมาณ 40-50 บาท ให้มาส่งที่ย่านเก่า หลังจากนั้นก็เดิน ชมเมืองต่างๆ ด้วยเท้าไปเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่มีรถส่วนตัวสามารถจอดรถในจุดไหนที่สะดวกใน บริเวณเวณใกล้เคียงแล้วค่อยเดินมา เพราะหากจอดรถแถวย่านเก่าอาจจะหาที่จอดยาก
◉ ที่ตั้ง : เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 94.อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี 

อุทยานแห่งชาติเขาสกติดอันดับในเรื่องธรรมชาติสมบูรณ์ สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวสไตล์คนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง มีสภาพป่าเป็นป่าดงดิบชื้นและป่าเขาหินปูนที่สมบูรณ์มาก มีกิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่ การล่องแก่ง เดินป่า นั่งช้าง ดูนก และเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดสำหรับท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสก คือระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองสุราษฎร์ฯ วิ่งเส้น 401 ถึง อ.บ้านตาขุน ทางเข้าจะอยู่ระหว่าง กม.ที่ 57-58 ก่อนถึงโรงพยาบาลบ้านตาขุน เลี้ยวเข้าไปอีก 12 กม. ถึงเขื่อนรัชชประภา
◉ ที่ตั้ง : อำเภอพนม และ อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.30 น.

❀ 95.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี 

เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอ่าวไทย มีสภาพธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เป็นสวรรค์ของเหล่านักดำน้ำ การดำน้ำเป็นกิจกรรมไฮไลท์ของการมาเกาะเต่า เพราะโลกใต้ทะเลที่เกาะเต่ามีความสวยงามมาก ติด 1 ใน 10 จุดดำน้ำที่สวยที่สุดในประเทศไทย

◉ การเดินทาง : บริษัทท่าเรือเร็วลมพระยา มีบริการตั้งแต่กรุงเทพถึงเกาะเต่า รถ + เรือ โดยไปขึ้นรถได้ที่ถนนข้าวสาร รถออกเวลา 21.00 น. ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 11.45 ชั่วโมง ค่าโดยสารคนละ 1,050 บาท
*หมายเหตุ: เวลาเดินเรือ และค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง
◉ ที่ตั้ง : ตำบลเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 96.เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ถือเป็นเขื่อนยอดนิยมลำดับต้นๆในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหนึ่งในเขื่อนที่สวยงามที่สุดในของเมืองไทย น้ำสีเขียวมรกตใสสะกดตา ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างก็อยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง เพราะแบบนี้แค่ภาพถ่ายทางอินเตอร์คงยังไม่ฟิน อยากอินคงต้องมาสัมผัสความสวยของเขื่อนเชี่ยวหลานด้วยตัวเองสักครั้งแล้วล่ะ

◉ การเดินทาง : เข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขับมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 จนถึงแยกอำเภอพุนพิน ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลย 401 ขับไปเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกทางไปเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)
◉ ที่อยู่ : เขื่อนรัชชประภา ต.เขาพัง จ.สุราษฎร์ธานี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 16.00 น.

❀ 97.เกาะขาม จังหวัดตราด 

เป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเกาะหมาก ลักษณะเด่นของเกาะขามธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ หาดทรายขาว(สันทราย) ทอดยาวออกไปในทะเลประมาณ 300 ม. และหมู่หินภูเขาไฟตั้งอยู่เรียงรายกับแนวปะการังหลากชนิดรอบๆเกาะ น้ำทะเลใสตลอดปี จนได้ฉายาว่า “ไข่มุกมรกต แห่งทะเลตราด” บริเวณรอบๆเกาะขามยังอุดมไปด้วยหมู่ปะการังนานาชนิดดอกไม้ทะเลสีสดใส ปลาสวยงาม หอยมือเสือ เป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ แต่มีธรรมชาติยิ่งใหญ่ไม่แพ้เกาะอื่นๆในทะเลตราดเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : ผ่านจังหวัดจันทบุรีจนถึงจังหวัดตราด รวมระยะทาง 315 กิโลเมตร ก่อนถึงท่าเรือแหลมงอบ จะมีร้านค้าตรงข้ามอนุสาวรียฺ์กรมหลวงชุมพร มีบริการรับฝากรถ คืนละ 50 บาท เป็นเต้นท์อย่างดี
◉ ที่ตั้ง : เกาะขาม จังหวัดตราด
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 16.30 น. (เวลาเรือไปเกาะ)

❀ 98.เกาะหมาก จังหวัดตราด 

เที่ยวเกาะหมาก แบบชิลล์ๆสไตล์จ้า เกาะหมากเป็นอีกหนึ่งเกาะในจ.ตราดที่ได้รับความนิยม เพราะมีแหล่ง ปะการังที่สวยงาม มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ยังคงอุมสมบูรณ์ บริเวณรอบๆเกาะจะเต็มไปด้วยสวนมะพร้าว สวนผลไม้ สวนยางของชาวบ้าน เป็นเกาะที่เงียบสงบ เรียบง่าย ไม่พลุกพล่าน ไม่มีร้านนั่งบันเทิงหวือหวา แต่วิวบนเกาะนี้สวยหลักล้าน น้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายสะอาดสีขาวนวลเนียน นับว่าเป็นเสน่ห์ของเกาะหมากเลยนะคะ เกาะนี้จึงเหมาะสำหรับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง เรียกได้ว่าเป็นเกาะที่สวยเหมือนเป็นของขวัญจากธรรมชาติ ที่ทุกคนควรต้องไปเกาะหมากสักครั้งให้ได้ค่ะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ไปจ.ตราดจะมีแค่สายการบิน บางกอก แอร์เวย์ สายการบินเดียวค่ะ ที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ การต่อเรือไปยังเกาะหมาก สามารถขึ้นได้ 2 ท่าเรือ คือท่าเรือแหลมศอก และท่าเรือแหลมงอบค่ะ (ราคาจะขึ้นอยู่กับบริษัทเรือค่ะ)
◉ ที่ตั้ง : เกาะหมาก จังหวัดตราด
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 17.00 น.

❀ 99.ป่าชายเลนบ้านนาใน เกาะช้าง จังหวัดตราด 

เป็นโครงการฟื้นฟูป่าชายเลนป่าชายเลนบ้านสลักเพชร เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และระบบนิเวศป่าชายเลน ซึ่งได้จัดทำเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวเพื่อชมความสวยงามของป่าโกงกาง ตลอดสองข้างทาง ในระยะทางราว 2 กิโลเมตร จุดไฮไลท์มีทุ่งโปรงทองค่อนข้างสวยงาม มีอาณาบริเวณกว้าง ประกอบกับฉากหลังที่เป็นทิวเขาทอดยาว สวยธรรมชาติมากๆค่ะ

◉ การเดินทาง : ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับวัดสลักเพชร โดยเมื่อมาถึงวัดให้ขับเลยไปมีซอยทางเข้าเล็กๆ อยู่ด้านซ้ายมือ ไม่มีป้ายบอกทางและ Google map สอบถามชาวบ้านได้ค่ะ เมื่อเจอซอยทางเข้าแล้วก็ให้ขับตรงไปเรื่อยๆ เส้นทางแคบ และเป็นดินแดงลูกรังในบางช่วง
◉ ที่ตั้ง : อ่าวสลักเพชร เกาะช้าง จังหวัดตราด
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 16.00 น.

❀ 100.เกาะกูด จังหวัดตราด 

มีหาดทรายขาวสะอาดสวยงาม เต็มไปด้วยอ่าวต่างๆ เช่น อ่าวตะเภา อ่าวคลองเจ้า อ่าวง่ามโข่ อ่าวคลองหิน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขา เชิงเขามีสวนมะพร้าวตระหง่านเรียงราย  และป่าชายเลนสวยงามและสมบูรณ์มาก หาดส่วนใหญ่อยู่ทางด้านตะวันตก หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด มีคลองเจ้าเป็นธารน้ำสายสำคัญหล่อเลี้ยงชีวิตบนเกาะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (บางนา-ตราด) ผ่านชลบุรี ระยอง จันทบุรี เลยไปจนถึง จังหวัด ตราดรวมระยะทางทั้งสิ้น 385 กิโลเมตร รีสอร์ทส่วนใหญ่จะมีบริการรับฝากรถให้ บริเวณท่าเรือของแต่ละรีสอร์ท ในกรณีที่ซื้อแพ็คเกจทัวร์ไป
◉ ที่ตั้ง : เกาะกูด จังหวัดตราด
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

ริมคูเมือง บรรยากาศล้านนา กับความสงบใจกลางเชียงใหม่ “โรงแรม เดอะ ริม รีสอร์ท”

หายากนะที่พักบรรยากาศล้านนาแท้ๆ ในทำเลริมคูเมือง แต่เราก็พบแล้วจนได้ “โรงแรม เดอะ ริม รีสอร์ท” ที่พักที่คงความคลาสสิคสไตล์ล้านนา ผสมผสานไทยลื้อ ซ่อนตัวอิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติ ที่นี่ทำเราทึ่งพอเดินเข้าประตูไปเหมือนหลุดไปอีกโลกหนึ่ง ที่ความวุ่นวาย เสียงรถรา ผู้คน ไม่สามารถตามเราเข้าไปได้ แต่พอเดินออกพ้นจากประตู ก็มีบรรยากาศคูเมืองเชียงใหม่อันน่าตื่นตาตื่นใจ แหล่งช้อปปิ้ง คาเฟ่เก๋ๆ และร้านอาหารก็อยู่ใกล้รายล้อม หากอยากได้ที่พัก feel ประมาณนี้ ที่ “โรงแรม เดอะ ริม รีสอร์ท” นี่แหละที่ตอบโจทย์

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48193

ล็อบบี้ต้อนรับ และทางเดินไปสู่ห้องพัก สง่างาม คลาสสิค

บรรยากาศกรุ่นกลิ่นล้านนา สระว่ายน้ำบริเวณนี้เงียบสงบมาก น่าพักผ่อน

บ่ายๆ สามารถสั่ง high tea มานั่งจิบริมสระได้ High Tea เซ็ทนี้มีขนมหลากหลาย เค้ก Red Velvet อร่อยมากๆเลย ทานคู่กับชาหอมๆ ฟินเลย แซนวิช เปาะเปี๊ยะกุ้งทอด ครัวซอง ลาวาช็อกโกแลต ก็ถูกใจ

ห้องพัก “โรงแรม เดอะ ริม รีสอร์ท” มี 3 แบบ โดยแบบที่เป็นไฮไลท์ คือ ดาหลา จูเนียร์ สวีท ห้องพักกว้าง พร้อมอ่างจากุซซี่ ตกแต่งแบบล้านนา แยกส่วนชัดเจนระหว่างห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น และระเบียง หรูหรา น่านอน

ชอบที่สุดเลยกับการได้นั่งพักชิลๆบนระเบียงไม้ มองต้นไม้ไปเพลินๆเรื่อยๆ เป็นวันพักผ่อนที่มีความสุข

อีกสองรูปแบบจะเป็นห้องดีลักซ์ มองเห็นวิวสระน้ำหรือวิวสวน มีอ่างอาบน้ำ เตียงเป็นเตียงทวินส์และเตียงเดี่ยว โดยห้องนี้เป็นห้อง Type เริ่มต้น

ห้อง Grand Deluxe ก็จะกว้างขึ้นมาอีกหน่อย เห็นวิวสระเช่นกัน

ตอนบ่ายๆ “โรงแรม เดอะ ริม รีสอร์ท” จะมีกิจกรรมให้แขกที่เข้าพักทำ วันนี้เป็นสอนพับผ้าเช็ดปาก ทำง่ายๆ ใช้ได้จริง

หากใครเคยเดินผ่านแถวคูเมือง ก็คงสะดุดตากับห้องอาหาร “เดอะคาแนล” เป็นห้องอาหารของโรงแรม ตกแต่งแบบล้านนา หรูหรา แต่ก็จับต้องได้ ให้บริการทั้งอาหารไทยแบบดั้งเดิม อาหารนานาชาติ และยังมีกาแฟสดไว้บริการอีกด้วย วันนี้เราทานซี่โครงหมูอบ และข้าวผัดสับปะรด

ห้องอาหาร “เดอะคาแนล” เป็นห้องอาหารเช้าด้วย อาหารเช้าที่นี่ไม่เยอะล้นหลาม แต่ก็ไม่น้อย มีหลากหลายพอสมควรสไตล์บุฟเฟต์นานาชาติ ที่สำคัญคุณภาพดี

หนาวนี้ใครอยากลองบรรยากาศล้านนา ริมคูเมืองละก็ รีบ book น้า เพราะห้องเค้ามีแค่ 36 ห้องเท่านั้นเองค่ะ เรียกว่ากะทัดรัด ดูแลกันแบบคนสนิท แขกติดใจ เต็มไวมาก

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ ที่ตั้ง : 51/2 ถนน อารักษ์ ตำบล พระสิงห์ อำเภอ เมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
❀ โทรศัพท์: 053-903999, 053-903996, 053-903997
❀ อีเมลล์: butler@therimchiangmai.com
❀ เว็บไซต์: www.therimchiangmai.com
❀ เฟซบุ๊ค: The Rim Resort Chiangmai
❀ อินสตาแกรม: therimresort

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

ไปนอนพูล วิลล่า แช่สระน้ำอุ่น เที่ยวครั้งนี้ สุขไปอีกยาว “The Private Pool Villas at Civilai Hill Khao Yai”

เข้าหน้าหนาวแล้วที่เที่ยวเขาใหญ่คือเป้าหมายหลักของคนเวลาน้อยที่อยากสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอด สำหรับที่พักในเขาใหญ่มีเยอะแยะให้เลือก แต่ถ้าอยากทำทริปให้พิเศษ เอาใจคนที่ไปด้วย “ The Private Pool Villas at Civilai Hill Khao Yai” นี่คือตอบโจทย์มาก ที่พักหรู อลังการ มีความเงียบสงบ ที่สำคัญเป็นพูลวิลล่าที่สระใหญ่อลังการ มันดียังไงเดี๋ยว hotelandresort พาไปดูกันค่ะ

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48189

คนรักความสงบจะต้องหลงรักที่นี่ มันเป็นการใช้เวลาพักผ่อนที่เรียกว่า exclusive เลยจริงๆ ห้องพักตกแต่งสวยหรู จุดเด่นอยู่ที่เพดานสูงโปร่ง ห้องกว้างที่มาพร้อมกับฟังชั่นการใช้งานที่สะดวกสบาย ห้องน้ำในตัว สระส่วนตัว ซาวน่า อ่างแช่น้ำ อ่างอาบน้ำ หรูหราสมราคา และนี่คือห้อง Pool Villa เป็นห้องพักเริ่มต้นที่ป๊อบสุดๆ

อ่างแช่น้ำหลังทำซาวน่าเสร็จ มันคือความฟินสุดๆ

เคยไหมเวลาไปพักพูลวิลล่า อยากลงสระนะ แต่น้ำเย็นมาก เลยตัดสินใจไม่ลงสระ แต่ถ้าเป็นที่ The Private Pool Villas at Civilai Hill Khao Yai ปัญหานี้จะหมดไป เพราะของเค้าคือสระน้ำควบคุมอุณหภูมิ อันนี้คือดีมากๆ มาหน้าหนาวก็ไม่ต้องกลัว ลงน้ำได้สบายๆเลย

ที่นี่เรื่องเซอร์วิสสร้างความประทับใจหลายครั้งหลายครา เริ่มเลยคือ welcome drink เป็นความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ สำหรับน้ำดื่มแก้วนี่ อัญชัญมะนาว แกล้มด้วยมะม่วงหาวมะนาวโห่แช่อิ่ม แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร แถมดื่มแล้วหายเหนื่อย

พอเข้าไปในห้อง minibar ในห้องพักทานได้ทุกอย่างเลย ไม่ชาร์จเพิ่ม

เราสามารถสั่ง High Tea มาทานในห้องได้ด้วย จะมีที่ไหนที่ให้เราได้นั่งเพลินทานขนมชมวิว ได้สุขสุดๆเท่าวิลล่าสุดหรูของเรา

สำหรับอาหารเช้า จะเลือกไปทานที่ห้องอาหาร The Pavillion หรือสั่งมาทานในห้องก็ได้ เมนูอาหารเช้า ตอน check inจะมีเมนูให้เราเลือกว่าอยากทานอะไรในวันรุ่งขึ้น สั่งได้มากกว่า 1 นะคะ แนะนำว่าสั่งมาทานในวิลล่าดีกว่าค่ะ บรรยากาศทานอาหารเช้าริมสระมันคือฟินจริงๆ

นอกจาก Pool Villa สำหรับ 2 ท่านที่เราพัก ยังมีห้องไฮไลท์อีกห้องหนึ่ง นั่นคือ 2 Bedroom Pool Villa วิวสวยลืมหายใจ

วิลล่าหลังนี้ก็มีสระควบคุมอุณหภูมิได้เช่นเดียวกัน ห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำมาสเตอร์ เบดรูมมีทั้ง rain shower และ plung pool ห้องรับแขกกว้างโล่งโปร่ง ดีไซน์เฉียบสุดๆ

วิลล่าหลังใหญ่ มีความเป็นส่วนตัว ด้านบนเป็นดาดฟ้าที่จัดปาร์ตี้ ปิ้งย่าง หรือดินเนอร์เก๋ๆได้เลย

อาหารเมนูเด็ดๆของที่นี่ต้องเป็นเนื้ออิมพอร์ต ดื่มคู่กับไวน์แดงดีๆสักขวด เมนูที่เราลองแล้วชอบคือ ไก่ต้มโค้กสูตรพิเศษของที่นี้ ริปอายออสเตรเลีย เมี่ยงปลาสลิดโรล ข้าวผัดแจ่วบองแกล้มเนื้อชั้นดี

ของหวานจานโปรดของเรา มะม่วงทอดซอสคาราเมล และบราวนีย์กับไอศครีม บราวนีย์ที่นี่หนึบอร่อย เคี้ยวมันส์มาก

ห้องอาหาร “The Pavillion” ยามค่ำคืนเหมาะกับนั่งจิบไวน์หรูๆ จบทริปอลังการครั้งนี้ แฮปปี้ไปอีกยาว

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ ที่ตั้ง : 495 หมู่ 7 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
❀ โทรศัพท์: 092-2595240
❀ Line ID : civilaihill
❀ อีเมลล์: info@civilaihillkhaoyai.com
❀ เว็บไซต์: www.civilaihillkhaoyai.com
❀ เฟซบุ๊ค: The Private Pool Villas at Civilai Hill
❀ อินสตาแกรม: civilaihill

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com