ปักหมุดด่วน! 100 จุดเช็คอิน ไม่มีเอาท์ในไทย

เที่ยวต่อไม่รอแล้วจ้า HotelandresortThailand ขออัพเดตที่เที่ยวต้อง ปักหมุดด่วน! 100 จุดเช็คอิน ไม่มีเอาท์ในไทย กันซะหน่อย ลองได้เช็คอินไม่มีตกเทรนด์แน่นอน มีทั้งทะเล ภูเขา แม่น้ำ เกาะต่างๆ ตลาดน้ำ คอมมูนิตี้มอลล์ สตรีทอาร์ท วัด หรือจะแนวธรรมชาติสวยๆ ครบทุกไลฟ์สไตล์เลยจ้า มาดูกันดีกว่าว่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวไหน ที่เพื่อนๆได้ไปสัมผัสกันมาแล้วบ้าง มาอวดกันได้น้า…

 1.บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่ 

ที่เที่ยวเชียงใหม่ที่เปิดให้ชื่นชมศิลปะจากนาข้าวขั้นบันไดของชาวบ้านในอำเภอแม่แจ่ม พร้อมกับชมดวงอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้า วิวสวยมากก ที่นี่ยังเปิดเป็นโฮมสเตย์สามารถพักผ่อนนอนหลับ และทานอาหารเด็ดๆ เป็นอาหารชาวถิ่นของอำเภอแม่แจ่ม รับรองความฟินนนน

การเดินทาง : จากฝั่งดอยอินทนนท์ขับไปจนถึงด่านของอุทยาน เลี้ยวไปยังทางแยกที่จะไปอำเภอแม่แจ่ม ขับไปอีก 12 กิโลเมตร จะพบป้ายน้ำตกแม่ปาน เลี้ยวขวาลงไปตามป้ายนั้น ในระหว่างจะผ่านน้ำตกห้วยทรายเหลือง, น้ำตกแม่ปาน จะถึงลานจอดรถ สามารถติดต่อรถเช่าได้จากที่พักโฮมสเตย์ที่จองไว้
ที่ตั้ง : ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07:00 น. – 17.00 น.

❀ 2.ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ 

จุดชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่สลับซับซ้อนกันไปมาในเชียงใหม่ ห่างจากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย ประมาณ 12 กิโลเมตร สำหรับที่นี่ถ้ามาเช้ามากๆก็จะได้ปะทะกับทะเลหมอกสวยๆ และยังเป็นที่ตั้งขอ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริม และพัฒนาอาชีพเกษตรกร นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตการปลูกพืชเมืองหนาวอย่าง ไร่สตรอว์เบอร์รี่ หรือไร่ชาอีกด้วยนะจ๊ะ มาม่อนแจ่มเหมาะกับนั่งจิบกาแฟ ชมวิวเนินเขา และสูดอากาศดีๆเข้าปอด ชิลเวอร์ๆ ฟินมากๆจ้า

◉ การเดินทาง : การเดินจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข ( พหลโยธิน ) แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ( สายเอเซีย ) ผ่านอยุธยา, อ่างทอง, นครสวรรค์, หลังจากนั้นก็ใช้ทางหลวงหมายเลข 117 ไปยัง จังหวัดพิษณุโลก ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านลำปาง ลำพูน ถึงเชียงใหม่ระยะทางประมาณ 695 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ถนนสาย 1096 อยู่ห่างจากตัวเมือง เชียงใหม่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดตลอด 24 ชม.

❀ 3.อุทยานแห่งชาติออบหลวง จ.เชียงใหม่ 

ที่นี่เป็นช่องแคบเขาขาดที่มีหน้าผาหินขนาบลำน้ำ ทำให้เกิดหุบผาลึกลงไป ความลึกของหน้าผาวัดจากสะพานออบหลวงถึงระดับน้ำปกติประมาณ 32 เมตร ส่วนแคบสุด 2 เมตร ความยาวของช่องแคบประมาณ 300 เมตร ขอบอกเลยว่าธรรมชาติได้สร้างสรรความน่าพิศวงไว้ให้กับพื้นที่ส่วนนี้อย่างน่ามหัศจรรย์ค่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ตามทางหลวงหมายเลข 108 สายฮอด-แม่สะเรียง ตรงหลักกม.ที่ 17 รวมระยะทางประมาณ 105 กม. ขับไปเรื่อยๆก็จะถึงก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบหลวงแล้วค่ะ
◉ ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติออบหลวง ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ 50240
◉ เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 18.00 น.

❀ 4.ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ 

บรรยากาศโรแมนติก ดินแดนแห่งความรัก ต้องยกให้ที่ “ดอยอ่างขาง” อีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ยอดฮิต โดยเฉพาะคู่รักคู่ฮันนีมูนที่นี่ที่ตั้งอยู่บนภูเขาแดนลาวไม่ไกลจากจุดชมวิวม่อนสน ห่างไปเพียง 220 เมตร เดินชิล ขึ้นดอยไม่นานก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงามหยดย้อย มีทั้งทะเลหมอกให้ได้สัมผัสกับความหนาวเย็น ชมวิวแจ่มๆ และดอกไม้ พืชไม้เมืองหนาวที่หาชมได้ยากในเมืองกรุงค่ะ

◉ การเดินทาง : จากจ.เชียงใหม่โดยใช้ทางหลวง 107 จนถึง อ.เชียงดาว เลี้ยวซ้ายที่แยกเมืองงายเชื่อมกับทางหลวงหมายเลข1178 (1340เดิม) ขึ้นอ่างขาง ได้ตามปกติเหมือนเดิมเลยค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ทางหลวงหมายเลข 1249 เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 17.00 น.

❀ 5.ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ 

ดอยหลวงเชียงดาวตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ห่างจากถ้ำเชียงดาวประมาณ 9 กิโลเมตรค่ะ นอกจากจะได้สัมผัสทะเลหมอก และวิวธรรมชาตสวยสดงดงามแล้ว ยังสามารถนอนกางเต็นท์มองดาว ชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก ส่องสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย และในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวก็มีบ่อน้ำพุร้อนสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ไปแช่น้ำ สร้างความอบอุ่นให้ร่างกายอีกเช่นกันค่ะ

◉ การเดินทาง : เส้นทางเด่นหญ้าขัด-อ่างสลุง เดินสบายที่สุดแต่ต้องเช่ารถขึ้นไปส่ง ค่อนข้างไกลใช้เวลานั่งรถไปถึงจุดเริ่มเดินเท้าประมาณชั่วโมงครึ่ง การเดินเท้าเริ่มที่เด่นหญ้าขัด(หน่วยฯขุนห้วยแม่กอก) มีจุดพักแรมระหว่างทางที่ดงท้อ และปลายทาง ที่อ่างสลุงระหว่างทางจะมีทั้งพันธุ์ไม้ทั่วไป และพันธุ์ไม้หายาก หลังจากนั้นเดินต่อไปยังเส้นทางเดียวกันไปอ่างสลุงซึ่งเป็นจุดกางเต้นท์ค่ะ
◉ ที่ตั้ง : เส้นทางหลวงหมายเลข 107 ระยะทางประมาณ 72 กิโลเมตร
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดเฉพาะเดือน พ.ย. –  มี.ค. ของทุกปี

6.ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ 

เป็นถ้ำที่น่าสนใจอีกถ้ำหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่เลยค่ะ อยู่ในเขตอำเภอเชียงดาว ตั้งอยู่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาว ด้านในมีความงามจากการเสกสรรปั้นแต่งของธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ของหินงอกหินย้อย ที่ก่อให้เกิดเป็นรูปร่างต่างๆ เป็นถ้ำขนาดใหญ่ เมื่อฉายไฟเข้าไปจะมีประกายระยิบระยับ สามารถจินตนาการเป็นรูปต่างๆได้มากมาย เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่อยู่ตรงที่มีน้ำใสไหลเย็นจากในถ้ำ ไหลออกมาที่บริเวณหน้าถ้ำค่ะ และไหลมารวมกันเป็นสระน้ำมีปลาน้อยใหญ่ว่ายวนไปมา ทำให้บรรยากาศสดชื่น ร่มรื่นสุดๆ และบริเวณปากถ้ำจะเป็นที่ตั้งของวัดเชียงดาวอันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปทันใจอีกด้วย เตรียมแวะเวียนไปสักการะ ขอพรกันได้เลยนะเจ้า

◉ การเดินทาง : ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 77 กิโลเมตร การเดินทางจากเชียงใหม่ไปยังอําเภอเชียงดาว ระยะทาง 72 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปจนถึงถ้ำอีก 5 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ทางหลวงชนบท ชม. 3024 เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 7.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ 

ดอยอินทนนท์ดอยที่สูงที่สุดของประเทศไทย หนึ่งในที่เที่ยวเชียงใหม่ยอดฮิต ที่นอกจากจะได้ทั้งความหนาว และความหวาดเสียวแล้ว ที่นี่ยังมีพืชพรรณไม้ ไม้ดอก แม่น้ำ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และน้ำตกให้ได้พบความงามของธรรมชาติอีกด้วย ถัดจากที่นี่ไปไม่ถึง 5 กิโลเมตร ยังมีที่เที่ยวเชียงใหม่ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้เมืองหนาวอยู่เยอะมากๆด้วยค่ะ อะๆ ถ่ายรูปรัวๆเลยจ้า

◉ การเดินทาง : ระยะทางจากตัวเมืองขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ประมาณ 106 กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ไป ตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-จอมทอง ถึงหลักกิโลเมตรที่ 57 ก่อนถึงอำเภอจอมทอง 1 กิโลเมตร แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง-อินทนนท์ ระยะทาง 48 กิโลเมตร ถึงยอดดอยอินทนนท์
◉ ที่ตั้ง : แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง – อินทนนท์ ระยะทาง 48 กิโลเมตรถึงยอดดอยอินทนนท์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 8.กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่ 

อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตรง กม.ที่ 42 เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง ที่นี่จะมีมอสสีเขียวขึ้นปกคลุมตามโคนต้นไม้ และบริเวณริมห้วย สันกิ่วแม่ปานจะมีแสงแดดจ้า ลมพัดแรงมากๆเมื่อถึงจุดชมวิวสูงสุด และถัดจากจุดชมวิวไป จะเป็นทางเดินเลียบไปตามสันเขาเลียบหน้าผา มีความกว้างประมาณ 1 เมตร ซึ่งจะสามารถเดินได้เพียงคนเดียว ระหว่างทางจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ชมอย่างเพลินตาเพลินใจเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางโดยใช้เส้นทางถนนสายเชียงใหม่ -ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอ หางดงและอำเภอสันป่าตอง ไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามถนนสายจอมทอง- อินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่กิโลเมตรที่ 8 (น้ำตกแม่กลาง) และ ตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์
◉ ที่ตั้ง : ยอดดอยอินทนนท์ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30 น. – 16.30 น.

❀ 9.ไร่สตรอว์เบอร์รี่ จ.เชียงใหม่ 

ตั้งแต่เดือน พ.ย.-ก.พ.ถือได้ว่าเป็นช่วงที่สะเมิงเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเต็มตัว ความหนาวเหน็บ หมอกจางๆเริ่มมีให้เห็นกันทุกๆเช้าที่สะเมิงค่ะ ช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่สตรอว์เบอร์รีกำลังแข่งขันกันออกมามากมาย ผลผลิตของแต่ละไร่ทยอยออกจากไร่กันมาเรื่อยๆ ถือว่าเป็นช่วงทองของนักท่องเที่ยวที่สามารถจะเข้าไปเก็บสตรอว์เบอร์รีสดๆภายในไร่เองได้ เพราะนอกจากจะได้ทั้งบรรยากาศหนาวๆเย็นๆที่ไร่แล้ว เรายังได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนทำไร่สตรอว์เบอร์รีด้วยตัวเองอีกด้วย

◉ การเดินทาง : จากอำเภอเมืองเชียงใหม่ สามารถเข้าถึงได้ 2 ทาง คือ ทางแม่ริม-สะเมิง ตามทางหลวงหมายเลข 1196 ระยะทาง 52 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ต.สะเมิง อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน

❀ 10.วัดบ้านเด่น จ.เชียงใหม่ 

เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ และใต้เนินนั้นเป็นถ้ำศักสิทธิ์ที่ชาวบ้านพากันนับถือ จึงเรียกวัดนี้กันว่า “วัดบ้านเด่น” นอกจากจะแวดล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามแล้ว ที่ตั้งของวัดยังอยู่ในเขตเมืองเก่าโบราณที่เรียกว่าเมืองแกน ชาวบ้านเลยเรียกชื่อวัดนี้เต็มๆว่า “วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน” สร้างด้วยศิลปะแบบไทยที่มีกลิ่นอายของศิลปะล้านนาซ่อนอยู่ ไหว้พระขอพรให้เป็นศิริมงคลกันได้เลยจ้า

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่-สะเมิง หรือเชียงใหม่-ฝาง ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 107 ผ่านแยกแม่มาลัย ไปถึงอำเภอแม่แตง เลี้ยวขวาทางไปเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล วัดบ้านเด่นอยู่ทางซ้ายเลี้ยวไปตามทางอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดแล้วค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ถนนเชียงใหม่-ฝาง ทางหลวงหมายเลข 107
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 น. – 17.00 น.

❀ 11.อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ 

เป็นที่อยู่ของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และป่าสน และดอกไม้เมืองหนาวที่ชาวเขาปลูกไว้ ถ้ามาในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคมดอกนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกสีชมพูสวยงาม บนดอยปุยมีอากาศหนาวเย็น และชื้นเกือบตลอดทั้งปี มีจุดที่ยังสามารถมองเห็นดอยอินทนนท์เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจนอีกด้วยนะคะ แถมยังมีที่เที่ยวต่างๆ ร้านขายของฝากให้เลือกซื้อกันอีกด้วย

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางถนนห้วยแก้วผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สวนสัตว์เชียงใหม่ ตรงขึ้นไปทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ ผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย พระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ห่างจากพระตำหนักฯ 4 กิโลเมตร จะถึงดอยปุยค่ะ
◉ ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 น. – 18.00 น.

❀ 12.เขื่อนแม่งัด จ.เชียงใหม่ 

เขื่อนแม่งัด หรือเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา นอกจากเป็นเขื่อนที่ใช้เพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทานแล้ว ด้วยวิวของเขื่อนที่สวยมากกก โอบล้อมด้วยภูเขาสีเขียวสวย เขื่อนแม่งัดจึงกลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตอีกที่ที่คนรักธรรมชาติ และต้องการพักผ่อนแบบสงบ ท่ามกลางสายน้ำ พายเรือเล่น ดูหมอก มองเขา ต้องมาที่เขื่อนนี้กันค่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข107 สายเชียงใหม่-ฝาง  ผ่านอำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง ผ่านที่ว่าการอำเภอแม่แตง(อยู่ซ้ายมือ)จะเจอ3แยกไฟแดงให้เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆจะมีป้ายบอกทางเขื่อนแม่งัดเป็นระยะ
◉ ที่ตั้ง : อำเภอแม่แตง ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 น. – 17.00 น.

❀ 13.I love flower Farm จ.เชียงใหม่ 

ฟาร์มดอกไม้ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่ฮอตฮิตสุดๆ กับ I love flower Farm สวนดอกไม้นานาชนิดบนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ ถ่ายรูปสวยๆรัวๆเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นดอกคัตเตอร์สีขาวหรือดอกมากาเร็ตสีม่วงก็มีให้เลือกถ่ายกันหลายมุม เตรียมพร็อบให้พร้อม คิดท่าเก๋ๆไว้ แล้วไปแชะภาพถ่ายอวดลงโซเชี่ยลกันได้เลยจ้า แต่ถ้าใครคิดว่ายังไม่พอ เราต้องมีพร็อพอีก ทางฟาร์มเขาก็มีบริการจัดเซ็ตน้ำชากลางทุ่งไว้อีกด้วยนะ สวยสมเป็นจุดเช็คอินใหม่ต้อนรับปี 2020 จริงๆ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองวิ่งตรงมาทางแม่ริม เลี้ยวขวาตรงอุโมงค์ดอนแก้ว จะผ่านเทศบาลชุมชนเหมืองแก้ว ฟาร์มอยู่ไม่ไกลจากเทศบาลชุมชนเหมืองแก้ว ฟาร์มอยู่ไม่ไกลจากเทศบาล ห่างเพียง 300 เมตรเท่านั้นค่ะ
◉ ที่อยู่ : ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 14.ฮิโนกิแลนด์ จังหวัดเชียงใหม่ 

เที่ยวญี่ปุ่นใกล้ๆ แค่ไชยปราการ ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่น ต้องที่นี่เลย ฮิโนกิแลนด์ อาณาจักรไม้ฮิโนกิแห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นเลย เพราะเขายกมาไว้ที่เชียงใหม่แล้วนั้นเอง ยิ่งช่วงหน้าเที่ยวสบายๆแบบนี้ อากาศต้องดีแน่ๆเลยค่ะ เหมาะกับการไปเที่ยว และเป็นถ่ายรูปมากๆนะ

◉ การเดินทาง : มุ่งหน้าจากเชียงใหม่มา อ.ไชยปราการ ด้วยเส้นทาง 107 ผ่านด่านตรวจผาหงษ์(ไชยปราการ)ประมาณ 3 กิโลเมตร อยู่ติดถนนทางด้านขวา
◉ ที่อยู่ : อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 15.ห้างสรรพสินค้า เมญ่า (MAYA) จ.เชียงใหม่ 

ห้างเมญ่า หรือ  MAYA ห้างนี้อยู่ติดกับแยกรินคำ บริเวณจุดเริ่มต้นของถนนนิมมานเหมินทร์ ถนนที่นับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ที่กินหลากหลาย  คึกคักทั้งในตอนกลางวันและกลางคืนค่ะ ห้างเมญ่านับเป็นศูนย์รวมแฟชั่น ผลิตภัณฑ์ความงามแบรนด์ดังระดับเวิลด์คลาสจากทั่วทุกมุมโลก เปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2556 เป็นแลนด์มาร์กใหม่ในย่านนี้เลยล่ค่ะ

◉ ที่ตั้ง : สี่แยกรินคำ-นิมมานเหมินทร์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 10.00 – 22.00 น.

❀ 16.ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย 

เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ด้านที่ติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยอดภูชี้ฟ้ามีลักษณะเป็นผาที่มีแหลมยื่นขึ้นไปบนฟ้าจึงเรียกว่าภูชี้ฟ้าค่ะ มีจุดชมวิวยอดนิยมอยู่ 2 จุด คือบริเวณ ยอดภู และบริเวณลานก่อนถึงยอด ไฮไลต์สำคัญของการมาเที่ยวภูชี้ฟ้ คือ มาเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกสุดอลังการค่ะ

◉ การเดินทาง : การเดินทางจากจังหวัดเชียงรายระยะทางประมาณ 108 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางเชียงราย – เทิง ระยะทาง 64 กิโลเมตร และจากเทิง – ปางค่า ระยะทาง 24 กิโลเมตร จากนั้นเป็นทางลูกรังถึงภูชี้ฟ้า ระยะทาง 19 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07:00 – 16:30 น.

❀ 17.ภูชี้ดาว จ.เชียงราย 

วิวของยอดเขาที่เชิดชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า จึงเป็นที่มาของชื่อภูชี้ดาวค่ะ  สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นจากจุดชมวิวภูชี้ดาวคือ การได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกที่คลอเคลียตามเทือกเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนในยามเช้า และรอบยอดภูที่ชี้ขึ้น ถือเป็นภาพที่สวยงามมากๆค่ะ วิวทิวทัศน์ของภูชี้ดาวนั้นมองเห็นได้ 360 ค่ะ

◉ การเดินทาง : ทางขึ้นภูชี้ดาวจะอยู่เส้นทางเดียวกับภูชี้ฟ้าห่างกันประมาณ  12 กม. หากมาทางภูชี้ฟ้า อำเภอเทิง หรือเชียงคำ จะถึงภูชี้ฟ้าก่อน แต่ถ้ามาทางดอยผาตั้งหรืออำเภอเวียงแก่นจะถึงภูชี้ดาว
◉ ที่ตั้ง : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07:00 – 16:30 น.

18.ไร่ชา 101 จ.เชียงราย 

ไร่ชา 101 ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดสุดยอดชาของโลกบนดอยแม่สลอง มีต้นชาเรียงรายเป็นแถวยาวตามขั้นบันได ชิมรสชาติชาอร่อย สูดกลิ่นหอมๆ อีกทั้งบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยหุบเขา ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป้นอย่างมากค่ะ หากมาในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะปกคลุมด้วยสีชมพูหวานๆของดอกนางพญาเสือโคร่งอีกด้วยจ้า

◉ การเดินทาง : จากศาลากลางจังหวัดเชียงราย ผ่านชุมชนบ้านใหม่ ออกไปจนถึงเส้นทางถนนพหลโยธิน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข1) ขับตรงไปบนถนนดังกล่าว ซึ่งเป็นถนนสายเชียงราย-แม่สาย ผ่านกิ่วทัพยั้งเข้าเขตพื้นที่อำเภอแม่จัน จะมีป้ายเลี้ยวซ้ายตรงแยกไฟแดง (แยกแม่สลอง) ใช้เส้นทาง1089 ผ่านตำบลแม่สลองใน จนไปถึงสามแยกอีก้อ ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงรายแล้วเลี้ยวซ้ายอีก 17 กิโลเมตร ก็จะถึงไร่ชา 101 แล้วค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ดอยแม่สลอง ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 7.00 – 17.00 น.

❀ 19.ดอยเสมอดาว จ.น่าน 

สถานที่สุดโรแมนติกแห่งเมืองน่าน เวลาลมหนาวพัดมาแบบนี้ ยิ่งทำให้ดอยเสมอดาวมีเสน่ห์ ท้องฟ้าไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็จะปลอดโปร่ง มองเห็นสายหมอก ดอกหญ้า และทะเลดาวได้อย่างชัดเจน อากาศเย็นๆ บรรยากาศเงียบสงบ ไฮไลท์ของที่นี่ คือการไปที่เดียวแต่ดูได้ทั้งทะเลหมอก ทะเลดาว พระอาทิตย์ขึ้น และตกดินแบบสวยๆปังๆที่นี่เราสามารถเดินทางได้สบายใจ นั่งทั้งวันได้ไม่รู้เบื่อเลยล่ะ

◉ การเดินทาง : อุทยานแห่งชาติศรีน่านอยู่ห่างจากตัวอำเภอนาน้อย 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1083 สายนาน้อย-ปางไฮ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 20.อำเภอปัว .น่าน 

เป็นอำเภอที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก วิวสวยสะกด อากาศดีมากๆ  ผู้คนน่ารักสุดๆ มีที่เที่ยวมากมาย  ทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ วัดวาอาราม  ปัวเป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีนะคะ แต่ถ้าอยากเห็นเมืองปัวในแบบที่งามที่สุดควรมาหน้าฝน หรืออยากรับอากาศดีๆกฌมาหน้าหนาว เรียกว่าเที่ยวได้ตลอดปีเลยค่ะ และใครอยากเห็นวิวทุ่งนาเขียวขจี พร้อมกับจิบกาแฟรสเยี่ยมสักแก้ว “ร้านกาแฟไทลื้อ” บรรยากาศสวย ดีงามมากกกจ้า

◉ การเดินทาง : จากตัวอำเภอเมืองน่าน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 ถึงอำเภอปัว รวมระยะทางประมาณ 728 กิโลเมตรค่ะ
◉ ที่ตั้ง : อำเภอปัว จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 18.30 น.

❀ 21.อำเภอบ่อเกลือ .น่าน 

ที่บ่อเกลือแห่งนี้มีถนนเข้าสู่อำเภอที่โดดเด่นสวยงาม มีที่พักท่ามกลางสายน้ำ และธรรมชาติที่สงบ มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยนะคะ บ่อเกลือนี้มีมาแต่สมัยโบราณ ผู้คนที่นี่ก็น่ารักมากๆค่ะ มาแล้วตกหลุมรักความเรียบง่าย แต่อบอุ่นของที่นี่อย่างแน่นอน

◉ การเดินทาง : จากจังหวัดน่าน ไปทางอำเภอสันติสุข ก่อนถึงอำเภอสันติสุขประมาณ 2 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้นขับตรงไปแล้วเลี้ยวขวา เข้าสู่อำเภอบ่อเกลือค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.30 – 18.00 น

❀ 22.เสาดินนาน้อย คอกเสือ .น่าน 

ที่นี่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานศรีน่าน เสาดินนาน้อยเกิดจากการที่ดินตะกอนทับถม ถูกเลื่อนตัวสูงขึ้นจากผิวดิน ผ่านเวลานานหลาล้านปี ถูกน้ำฝนกัดเซาะจนทำให้เกิดรูปร่าง แปลกตา มีอายุประมาณ 30,000-10,000 ปี และอาจเคยเป็นก้นทะเลมาก่อนค่ะ จากเสาดินนาน้อยประมาณ 300 ม. จะพบกับคอกเสือ ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งลึกจากเนินดินด้านบนประมาณ 10 ม. มีทางลงไปชมปฎิมากรรมดินที่อยู่ด้านล่าง  เมื่อลงไปจะพบว่าบริเวณรอบ ๆ มีลักษณะเป็นหุบผาเป็นฉากม่านขนาดใหญ่มีริ้วลายเป็นร่องยาว รวมถึงมีแท่งดินรูปร่างต่างๆ เรียกว่าเป็นปรากฏการธรรมชาติที่น่าทึ่ง และควรต้องไปถ่ายรูปเช็คอินชิคๆกันค่ะ

◉ การเดินทาง : จากอำเภอเวียงสาไป อำเภอนาน้อย มีทางแยกไปตามเส้นทางหมายเลข 1083 ขับเข้ามาประมาณ 10 กว่า กม. จะพบป้ายให้ไปทาง เสาดินนาน้อย เลี้ยวขวามาอีกประมาณ 10 กม. ก็จะถึงเสาดินนาน้อยค่ะ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลเชียงของ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 23.วัดภูมินทร์.น่าน 

หากได้มาจ.น่านแล้วไม่ได้แวะมาที่วัดภูมินทร์ ก็จะเรียกว่ามาไม่ถึงน่านนะจ๊ะ  วัดชื่อดังซึ่งมีภาพวาดฝาผนังปู่ม่าน ย่าม่าน กระซิบรักบรรลือโลก เป็นภาพวาดที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่านไปแล้ว  ความสวยแปลกของวัดภูมินทร์ที่ไม่มีใครเหมือน คือพระอุโบสถทรงจตุรมุขที่มีบันไดนาคทั้งสี่ทิศ ข้างในประดิษฐานพระประธานจตุรพักตร์ 4 ด้าน ไม่ว่าจะเดินขึ้นบันไดทิศไหนก็จะพบพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกด้านค่ะ

◉ การเดินทาง : จากทางหลวงหมายเลข 1080 เข้าสู่ตัวเมืองน่าน ตามถนนมหายศ เมื่อผ่านวัดสวนตาล แยกขวาเข้าถนนผากอง ผ่าน เทศบาลเมืองน่าน วัดภูมินทร์อยู่ทางด้านขวามือค่ะ
◉ ที่ตั้ง : บ้านภูมินทร์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

24.วัดพระธาตุเขาน้อย จ.น่าน 

วัดพระธาตุเขาน้อย อยู่ในตัวเมืองน่านเลยค่ะ องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่านได้แบบเต็มๆตา และที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม ในยามเช้าบางวันสามารถมองเห็นหมอกจางๆบางๆปกคลุมอยู่อีกด้วยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองน่านใช้เส้นทางเดียวกับวัดพญาวัด แต่เลยไปอีกราว 2 ม. ขึ้นเขาไป ก็จะถึงยอดเขาน้อยซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด
◉ ที่ตั้ง : ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 25.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน .น่าน 

ที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครน่าน เรียกว่า “หอคำ” ภายในจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุต่างๆทางประวัติศาสตร์ และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองภาคเหนือ ชาวเขาเผ่าต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “งาช้างดำ” ถือเป็นของคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน นอนจากนี้บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมีซุ้มต้นลีลาวดียอดฮิตที่เหมือนเป็นจุดขายของพิพิธภัณฑ์ฯค่ะ

◉ การเดินทาง : ตามเส้นทางหลวง หมายเลข 101 ก่อนเข้าตัวเมือง จะมีทางแยกซ้ายมือ ไปสู่พิพิธภัณฑ์
◉ ที่ตั้ง : ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมือง จ.น่าน
◉ เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – อังคาร ปิดทำการ พุธ – อาทิตย์ 09.00 – 16.00 

❀ 26.ดอยปุยหลวง จ.แม่ฮ่องสอน 

ยอดดอยปุยหลวง ในอุทยานแห่งชาติแม่เงา เป็นการค้นหาภาพทะเลหมอกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย  ยิ่งได้ไปช่วงฤดูหนาวภาพของทะเลหมอกที่เกาะตัวกันแน่น รวมถึงทุ่งหญ้าสีทองสดสวย พระอาทิตย์ดวงกลมโต  และความหนาวเย็นที่เป็นบรรยากาศของการเดินทางท่องเที่ยวป่า  ที่นี่เป็นความอลังการแห่งขุนเขาในรูปแบบทะเลหมอก และทุ่งหญ้าสีทอง  เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติแห่งใหม่ที่ยังรอให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัสด้วยตนเอง รับรองว่าทะเลหมอกงามแท้ๆ งามจริงๆจ้า

◉ การเดินทาง : มาทางแม่สอด-ท่าสองยาง- บ้านแม่เงา-อช.แม่เงา หรือจะใช้เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด-แม่สะเรียง- อ.สบเมย-บ้านแม่เงา-อช.แม่เงาก็ได้ค่ะ
◉ ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแม่เงา บ้านแม่เงา อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : 06.00 – 18.00 น.

❀ 27.บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน 

บ้านดินที่สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจของเจ้าของ ที่ต้องการรีโนเวทไร่ชาเก่าให้กลายเป็นบ้านพักกลางไร่ชาค่ะ ที่นี่สวยน่าไปมากกกไม่ว่าจะฤดูกาลไหนๆ มนต์เสน่ห์ไร่ชากลางขุนเขา พร้อมกับความสดชื่นของแม่น้ำ  และอากาศอันบริสุทธิ์ก็ไม่เคยจางไป แถมมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ อาทิ ปางอุ๋ง หมู่บ้านรักไทย น้ำตกผาเสื่อ ถ้ำปลา และพระตำหนักปางตอง ให้ได้เก็บภาพความสนุกสนาน รับรองว่าจะต้องติดใจ จนอยากกลับมาเที่ยวอีกหลายครั้งค่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ตรงไปทางหมู่บ้านรักไทย ประมาณ 45 กิโลเมตร เจอสี่แยกปางหมูให้เลี้ยวซ้ายตรงไปจะเห็นหมู่บ้านรักไทยค่ะ
◉ ที่ตั้ง : บ้านรักไทย อำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

28.ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน 

ปางอุ๋ง หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆว่า “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ยอดฮิตสุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของ จ.แม่ฮ่องสอนเลยนะคะ ได้รับฉายาเก๋ๆว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ยิ่งตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสน และไอหมอกจางๆบางๆ ยิ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับใจแบบสวยสุดๆเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากเมืองแม่ฮ่องสอนสู่ปางอุ๋ง ตามเส้นทางสู่ แม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้า-ปาย ผ่านหมู่บ้านรวมไทย ก็เข้าถึงจุดหมายโครงการสวนป่าในพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
◉ ที่ตั้ง : อำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 04.00 – 18.00 น.

❀ 29.ถ้ำลอด จ.แม่ฮ่องสอน 

เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ ปัจจุบันอยู่ ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำปาย  ซึ่งมีลำห้วยชื่อ น้ำลางไหลลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม จากการพบเครื่องมือเครื่องใช้ โบราณในถ้ำสันนิษฐานได้ว่ามีอายุประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว ถ้ำลอด สามารถเที่ยวได้ทั้งปีค่ะ

◉ การเดินทาง : การท่องเที่ยวถ้ำลอดต้องนั่งแพไม้ไผ่เข้าชมในแต่ละจุด
◉ ที่อยู่ : อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 30.เจดีย์พระธาตุแม่เย็น จ.แม่ฮ่องสอน 

เป็นเจดีย์ที่สร้างสมัยใดไม่ปรากฏ ตั้งอยู่บนเนินสูง บริเวณวัดพระ ธาตุแม่น้ำเย็นเงียบสงบ เหมาะสำหรับชมทัวิวของอำเภอปายได้อย่างเต็มตา ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการชมคือช่วงยามเช้า และยามพระอาทิตย์ตก โดยประวัติของวัดพระธาตุแม่เย็นไม่มีปรากฏว่าสร้างขึ้นในสมัยใด ภายในบริเวณวัดมีเพียงโบสถ์ และเจดีย์ทรงระฆังสีขาวฐานกลม สูงประมาณ 3 เมตร โดดเด่นที่ยอดฉัตรแบบเจดีย์พม่า นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางขึ้นมาชม และกราบไหว้ค่ะ

◉ การเดินทาง : จากอ.ปาย สามารถออกมาเส้นทางไปต.แม่ฮี้ ข้ามแม่น้ำปาย ตรงมาตามทางเรื่อยๆ จะเจอป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไปพระธาตุแม่เย็น
◉ ที่อยู่ : บ้านแม่เย็น ตำบลแม่ฮี้ จ.แม่ฮ่องสอน
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.30 – 18.30 น.

❀ 31.กาดกองต้า .ลำปาง 

ถนนคนเดินที่จะมีทุกเสาร์-อาทิตย์ นอกจากอาหารพื้นเมือง เสื้อผ้าพื้นเมือง ของเก่าวินเทจ ย้อนยุค และสิ่งของแบบร่วมสมัยให้ช้อปปิ้งแล้ว ย่านนี้บ้านเรือนสองข้างก็เป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากถนนเส้นนี้ในอดีตเป็นย่านเส้นเศรษฐกิจของภาคเหนือ มีท่าเรือจอด มีการขนส่งท่อนซุงล่องไปยังภาคกลาง จึงมีชาวอังกฤษ ชาวพม่า ชาวไทยใหญ่ และชาวจีนมาทำการค้าขายจำนวนมาก บ้านเรือนจึงสร้างตามความนิยมและเชื้อชาติของเจ้าของ มีทั้งอาคารตกแต่งแบบขนมปังขิงในรูปแบบยุควิคตอเรียน อาคารที่ได้รับอิทธิพลจากพม่ามัณฑะเลย์ อาคารแบบจีน ซึ่งเป็นงานฝีมือแบบเก่าที่หาดูได้ยาก เส้นนี้มีให้เดินแวะเที่ยวได้ตลอด ทั้งสะพานรัษฎาและวัดเกาะวาลุการาม

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองลำปางขับรถมายังเส้นถนนรัษฎาข้ามสะพานรัษฎาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเส้นชุมชนเก่ากาดกองต้า หากต้องการมาเที่ยวถนนคนเดินกาดกองต้า จะปิดไม่ให้รถเข้ามาสัญจรตั้งแต่ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป
◉ ที่ตั้ง : ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์ – อาทิตย์ 17.00 – 22.00 น.

❀ 32.หล่มภูเขียว จ.ลำปาง 

สระมรกตใจกลางป่าในอำเภองาว ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ซึ่งภูมิประเทศแถบนี้ในอดีตครั้งหนึ่งเคยเป็นภูเขาไฟ น้ำในแอ่งลึกมากจนมองเห็นเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม น้ำใสจนมองเห็นปลาแหวกว่ายไปมา ซึ่งสระตรงนี้ไม่อนุญาติให้ว่ายเล่นนะคะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ถ้ำผาไทที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม น้ำตก และเขื่อนกิ่วลมก็อยู่ใกล้ๆ

◉ การเดินทาง : จากเส้นทางสายลำปาง-พะเยา เข้าไปสู่ ต.บ้านอ้อน อ.งาว เข้าไปเป็นระยะทาง 14 กม. และแยกไปหล่มภูเขียวอีกประมาณ 3.5 กม. (อยู่ห่างจากที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านอ้อนมาทางทิศตะวันตกเป็นระยะทาง 6 กม.)
◉ ที่ตั้ง : ตำบลบ้านอ้อน อำเภองาว จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 33.เหมืองแม่เมาะ.ลำปาง 

เหมืองแม่เมาะไม่ได้มีแต่โรงไฟฟ้านะจ๊ะ เดี๋ยวนี้มีทั้งทุ่งดอกบัวตอง ดอกคอสมอส สะพานไม้ Sky Walk จุดชมวิว มีลานล้อเลื่อน สไลด์เดอร์ มีอะไรให้ดูให้ชมเยอะแยะเลย ยิ่งถ้าวันไหนโชคดีไปแล้วมีโอกาสเจอหมอกลอยละล่องด้วยนะ

◉ การเดินทาง : ใช้ถนนสายลำปาง – เด่นชัย เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประมาณ 26 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : อังคาร-อาทิตย์  จันทร์ปิดทำการ เปิดให้เข้าชมวันละ 4 รอบ เวลา 09.00 น., 10.30 น., 13.00 น. และ 14.30 น.

❀ 34.อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง 

ลองแช่น้ำพุร้อนหน่อยดีไหม ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน บริเวณอุทยานฯมีธารน้ำแร่ ที่เต็มไปด้วยโขดหินธรรมชาติ ที่สวยงามแทรกกอยู่ท่ามกลางแอ่งน้ำร้อน น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูง ถึง 70 – 80 องศาเซลเซียส ห้องแช่น้ำพุร้อนที่นี่ถือว่าดีเลย มิดชิด ส่วนตัว ราคาไม่แพง แช่แล้วดีต่อสุขภาพเลือดลมหมุนเวียน แช่น้ำเสร็จออกไปรับอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติต่อได้อีกจ้า

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองลำปางไปตามทางหลวงหมายเลข 1035 เส้นลำปาง-แจ้ห่ม ไปจนถึงประมาณกิโลเมตรที่ 58 เลี้ยว ซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1287 ซึ่งเป็นทางเข้าไปอำเภอเมืองปาน แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยก ใช้ทางหลวง หมายเลข1252 เส้น ข่วงกอม-ปางแฟน ป่ระมาณ 11กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานฯ ตามถนน รพช. อีก 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลวังเงิน ถนนลำปาง-เดินชัย จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.

❀ 35.วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง 

วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง “วัดพระธาตุลำปางหลวง” พระธาตุประจำนักษัตรคนเกิดปีฉลู ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะคา ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 30 นาที วัดพระธาตุลำปางหลวง มีขนาดใหญ่ สง่างามและโดดเด่นบนเนินสูง ซึ่งเป็นเนินดินที่ถมก่อขึ้น จากภูมิปัญญาของคนในสมัยก่อน ทั้งการวางผังออกแบบวัด และศิลปะการปลูกสร้างก็งดงาม ควรค่าแก่การไปชมสักครั้ง

◉ การเดินทาง : ตำบลลำปางหลวง ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 18 กิโลเมตร ตามทางหลวงสายลำปาง-เถิน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 586 เลี้ยวเข้าไปจนถึงที่ว่าการอำเภอเกาะคา จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร ถึงทางแยกเข้าอีก 1 กิโลเมตร
◉ ที่ตั้ง : ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา  จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.30 – 17.00 น.

❀ 36.วัดเฉลิมพระเกียรติลำปาง จ.ลำปาง 

“วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” หรือวัดเฉลิมพระเกียรติลำปาง ตั้งอยู่ในอำเภอแจ้ห่ม แหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่ยุคหลังๆมาแรง และมีทีท่าว่าแรงดีไม่มีตก ด้วยวิวจากมุมสูงที่สวยตะลึง บางครั้งมีหมอกล้อมรอบทิวเขาสูง นอกจากเป็นจุดชมวิวสวยๆ นมัสการพระเจดีย์บนยอดเขา ที่ตรงนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท สำหรับทางขึ้นค่อนข้างหลังบาก และต้องใช้พละกำลังกันมากทีเดียว แต่รับรองว่าถึงปลายทางแล้วคุ้มแน่นอน

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองลำปางใช้ทางหลวงหมายเลข 1035 ไปแจ้ห่ม จากตัวเมืองแจ้ห่มเลยไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรเศษๆ จะมีทางแยกซ้ายมือ อยู่ตรงทางโค้งพอดี ซุ้มประตูเขียนว่าเข้าหมู่บ้านใหม่เหล่ายาว ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตร จะมีแยกซ้ายมือเขียนว่าไป วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นทางคอนกรีตอย่างดีไปจนถึงวัด
◉ ที่ตั้ง : ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 17.00 น.

❀ 37.ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง 

ศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า และเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่าน ตรงเข้าสู่จังหวัดลำปาง
◉ ที่ตั้ง : ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จ.ลำปาง
◉ เวลาเปิด – ปิด : การแสดงช้างซึ่งมี 3 รอบ เวลา 10.00 น. 11.00 น. และ 13.30 น. สำหรับวันธรรมดา และเวลา 13.15 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
◉ ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท – ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 170 บาท เด็ก 110 บาท ส่วนช้างแท็กซี่ หรือขี่ช้างชมธรรมชาติ ขี่ช้างท่องไพร มีทุกวัน เวลา 08.00-15.30 น. 

❀ 38.น้ำตกทีลอซู จ.ตาก 

ได้รับคำกล่าวขานถึงว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย ได้กำหนดให้น้ำตกทีลอซู เป็นหนึ่งในเก้าตะวัน ตามโครงการมหัศจรรย์เมืองไทย 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน โดยมีจุดเด่นคือมหัศจรรย์รุ้งกินน้ำที่น้ำตกทีลอซู ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ ล้อมรอบด้วย ป่าดงดิบที่สมบูรณ์

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน)เดินทางสู่ จ.ตาก โดยก่อนถึงตัวเมืองตาก 7 กม.ให้เลี้ยว ซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 5(ตาก-แม่สอด) สู่ อ.แม่สอด แล้วก็จะเจอทางหลวงหมายเลข 1090 สุดทางสาย 1090 ที่อุ้มผาง *คนขับควรมีฝีมือในการขับรถที่ชำนาญ*
◉ ที่ตั้ง : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
◉ เวลาเปิด – ปิด : 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี (แต่บางปีช่วง ต.ค. ยังมีฝนตกหนัก อาจเลื่อนวันเปิดเส้นทางถนนเป็น 1 พ.ย.)

❀ 39.ภูลังกา จ.พะเยา 

เป็นภูเขาสูงชันอยู่ใน เทือกเขาสันปันน้ำ มีลำห้วยที่สำคัญคือ น้ำแม่คะไหลผ่านด้านทิศใต้ ห้วยน้ำต้ม และน้ำแม่รูไหลลงน้ำแม่รูทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ห้วยคะแนง และห้วยป่ายางไหลลงน้ำแม่ลาวทางทิศเหนือ ลำห้วยทั้งหมดจะไหลลงสู่แม่น้ำยมต่อไป เป็นจุดชมทะเลเมฆหมอก ดวงอาทิตย์ขึ้น-ลง และดอกไม้ป่าสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว

◉ การเดินทาง : มาจากน่าน ใช้เส้น 1080 สู่อำเภอท่าวังผา แล้วเข้าเส้น 1148 ต่อมายังอำเภอสองแควและเข้าสู่ภูลังการีสอร์ท อำเภอปง จ.พะเยา
◉ ที่ตั้ง : อ.ปง จังหวัดพะเยา
◉ เวลาเปิด – ปิด : 06.00 – 16.00 น.

❀ 40.นาบุญวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม
จังหวัดกำแพงเพชร 

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และการปฏิบัติธรรม ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นชมวิวสวย ๆ อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งศิลปวัฒนธรรมอย่างแท้จริง ตลอดทั้งปีจะมีประเพณีบุญให้เที่ยวชมทั้ง 12 เดือน แต่จะมีบุญใหญ่ๆ ประจำฤดูกาลทั้ง 3 ฤดู อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของที่นี่ก็คือหอชมทุ่งที่ทางวัดจัดทำไว้รองรับนักท่องเที่ยวให้ได้ชมความสวยงามของทุ่งนาผืนนี้จากมุมสูง หรือใครอยากจะมาสัมผัสบรรยากาศทุ่งนาแบบใกล้ชิด สามารถมานอนกางเต็นท์บนเถียงนาได้อีกด้วย

◉ การเดินทาง : http://ow.ly/sjrT30pXu51
◉ ที่อยู่ : บ้านทุ่งสนุ่นเหนือ อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 41.ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ 

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยมากๆค่ะ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย อู้วหูววว สูงมากๆเลยนะคะ อากาศก็เลยดี๊ดีมากแบบนี้นี่เอง จุดเด่นที่น่าสนใจ และเป็นที่ดึงดูดใจของหลายๆท่านก็คือ การได้เห็นหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่งบริเวณ และการได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า”ดอกหงอนนาค” และดอกไม้หลากสีสันสลับให้เห็นอยู่ทั่วลานสน บอกแล้วว่า ธรรมชาติสวยๆไม่ต้องไปเมืองนอกเลยจ้า อยู่เที่ยวในเมืองไทยนี่แหละ ฟินนน

◉ การเดินทาง : จากจังหวัดอุตรดิตถ์ใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1047 (อุตรดิตถ์-น้ำปาด) จนถึงอำเภอน้ำปาดแล้วเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1239 ไปอีก 47 กิโลเมตร จึงเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1268 ไปอีก 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  08.00 – 14.30 น.

❀ 42.ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง 

ทุ่งโปรงทองมีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ซึ่งแต่เดิม เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำการประมง เลี้ยงกุ้ง ทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ และพัฒนามาเป็นป่าชายเลนผืนที่ใหญ่ที่สุดของจ.ระยอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และศึกษาเรียนรู้ควบคู่กันไป โดยสร้างสะพานเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ทุ่งโปรงทองจึงถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลน ได้เห็นความสวยงามตามธรรมชาติของป่าโกงกาง ไม้โปรง และไม้ริมชายฝั่ง จุดเด่น คือต้นโปรงที่ขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่สะท้อนสีเขียวอ่อน จนกลายเป็นทุ่งโปรงทองที่สวยงาม ถ่ายรูปรัวๆ!กันไปเล่ย

◉ การเดินทาง : เมื่อเข้ามาภายในบริเวณชุมชนปากน้ำประแส ผ่านวัดตะเคียนงาม จะต้องนำรถไปจอดไว้ที่จุดจอดรถ ซึ่งมีให้บริการ 2 แห่ง จากนั้นนั่งรถสามล้อชาวบ้านเข้าไปยังจุดเริ่มเดินเท้าเข้าชมทุ่งโปรงทอง
◉ ที่ตั้ง : ชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส อำเภอแกลง จ.ระยอง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 6.00 – 18.00 น.

❀ 43.เกาะมันนอก จังหวัดระยอง 

เกาะมันนอก เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ริมนอกชายฝั่งมากที่สุด และเป็นเกาะที่คู่รักใฝ่ฝันอยากไปนอนติดเกาะ ดื่มด่ำธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ เหมือนได้อยู่บนเกาะส่วนตัว ฟังเสียงคลื่น และชมทะเลสวยๆ หาดทรายขาว ที่เกาะมันนอกมีปะการังน้ำตื้นให้เห็นตั้งแต่บริเวณริมชายหาด ที่สามารถดำน้ำดูได้หน้าหาด หรือเช่าเรือดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นบริเวณรอบเกาะ หรือ เช่าเรือแคนนูพายเล่น เป็นอีกเกาะยอดฮิตของคู่ฮันนีมูนเพราะเป็นเกาะส่วนตัว หรือเกาะปิด ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติของท้องทะเล และชายหาดเอาไว้อยู่ค่ะ

◉ การเดินทาง : จากถนนสุขุมวิท ช่วงบ้านวังหิน ตำบลวังหว้า อำเภอแกลง ให้เลี้ยวเข้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3161 ขับไปเรื่อย ๆ จนไปตัดกับถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3164 ตรงวัดวังหว้า เลี้ยวขวามุ่งหน้าแหลมแม่พิมพ์ พอถึงตำบลกร่ำจะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน อบจ.รย.0214 มีป้ายบอกทางไปท่าเรือเกาะมัน ขับเข้าซอยเล็กๆ ไปเรื่อยๆ จะเจอกับท่าเรือ
◉ ที่ตั้ง : เกาะมันนอก จังหวัดระยอง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 44.เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง 

เป็นเกาะขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ตั้งอยู่ในอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ตำบลบ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ห่างจากชายฝั่งบ้านเพ ราว ๆ 6.5 กิโลเมตร ลักษณะของเกาะมีรูปร่างคล้ายสามเหลี่ยม ชายหาดมีทรายขาวละเอียดอยู่รอบเกาะ และมีท้องทะเลที่สวยงาม เกาะเสม็ดเปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ อากาศปลอดโปร่ง

◉ การเดินทาง : จากท่าเรือบ้านเพ ถึงเกาะเสม็ด ท่าเรือที่ตำบลเพนั้น มีให้เลือกหลากหลายเจ้า โดยทั้งหมดจะอยู่ในบริเวณริมทะเลบ้านเพ
◉ ที่ตั้ง : ตำบลบ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 45.เกาะพยาม จังหวัดระนอง 

เกาะพยามเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยอ่าว และรีสอร์ทที่มีวิวท้องทะเลสวยมากมาย แต่ละอ่าวก็จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น อ่าวกวางปีบ เป็นอ่าวที่เงียบสงบ น้ำทะเลใสราวกระจก หาดทรายสวยที่สุดบนเกาะพยามเลยก็ว่าได้ อ่าวใหญ่ เป็นอ่าวที่มีน้ำทะเลสีเทอร์ควอส หาดทรายกว้าง หรือ อ่าวแม่หม้าย อ่าวที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกแบบสวยสุดๆ เกาะพยามยังมีอีกหลากหลายอ่าวที่น่าสนใจให้คุณได้ไปสัมผัส คู่รักที่หลงใหลความเป็นส่วนตัว ชอบธรรมชาติอันสมบูรณ์ ติดใจเสียงคลื่นซัดซาด แนะนำว่าเกาะแห่งนี้จะเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขให้คุณได้อย่างแน่นอนค่ะ

◉ การเดินทาง : ขับรถไปที่ระนอง นั่งรถทัวร์ หรือนั่งเครื่องบินไปลงที่ระนองก็ได้ แล้วต่อเรือไปที่เกาะพยาม ส่วนสายการบินที่ไประนองปัจจุบันมีอยู่ 2 สายการบินได้แก่นกแอร์ และแฮปปี้แอร์ สายการบินนกแอร์มีบินไประนองวันละ 2 เที่ยวบิน (ไป 2 กลับ 2) และแฮปปี้แอร์มีบิน 4 เที่ยว / สัปดาห์
◉ ที่ตั้ง : ฝั่งทะเลอันดามัน จ.ระนอง
◉ เบอร์ติดต่อท่าเรือเกาะพยาม : 081-2704801

❀ 46.เกาะกำตก จ.ระนอง 

เกาะกำตกหรือเกาะอ่าวเขาควาย มีชายหาดที่โค้งมาติดกันเป็นรูปวงกลมตามแนว เหนือ-ใต้ ด้วยธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์นี้เอง ชาวเรือจึงเรียกเกาะนี้ว่า อ่าวเขาควาย ตามแนวชายหาดมีต้นหูกวาง และต้นจิกทะเลคอยให้ร่มเงา บนหาดมีปูเสฉวนอาศัยอยู่จำนวนมาก ในตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงของปูเสฉวนที่ออกมาหากิน ธรรมชาติที่นี่งดงามมากๆค่ะ

◉ การเดินทาง : ใช้บริการเรือนำเที่ยว โดยโปรแกรมนำเที่ยวหมู่เกาะกำแบบไปเช้าเย็นกลับ เนื่องจากบนเกาะไม่มีที่พัก
◉ ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแหลมสน จ.ระนอง
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 16.00 น.

❀ 47.สามพันโบก จ.อุบลราชธานี 

มีลักษณะเป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง ในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งเกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ จนทำให้แก่งหินเหล่านี้กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง และคำว่า “แอ่ง” ในภาษาอีสานหรือภาษาลาวจะเรียกว่า “โบก” จึงเป็นที่มาของคำว่า “สามพันโบก” ในช่วงฤดูแล้งน้ำแห้งขอด “สามพันโบก” จะโพล่ขึ้นมาเหนือพื้นน้ำให้เห็นคล้ายเป็นภูเขากลางลำน้ำโขง เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติสุดอลังการกลางลำน้ำโขง ทำให้หลายคนขนานนามให้ที่นี่เป็น “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” เลยทีเดียวหากอยากเที่ยว“สามพันโบก”แบบเต็มอิ่ม แนะนำให้ล่องเรือตามลำน้ำโขงที่หาดสลึง ซึ่งเป็นท่าเรือสำหรับพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวยังจุดต่าง ๆ

◉ การเดินทาง : ขับไปตามถนนทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2050 มุ่งหน้าไปยังอำเภอโพธิ์ไทร เมื่อไปถึงอำเภอโพธิ์ไทร ให้เข้าถนนทางหลวงหมายเลข 2112 แล้วจะมีทางแยกออกไปยังสามพันโบก หากใครอยากล่องเรือให้ขับไปทางหาดสลึง
◉ ที่ตั้ง : ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 48.Viva Foresta Farm จังหวัดจันทบุรี 

เพลิดเพลินไปกับความน่ารักของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย และสัตว์แปลก ๆ ที่หาดูได้ยาก แห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดจันทบุรี เช่น ลามะ, เต่าซูลคาต้า, ม้าแคระ, แพะแคระ, หมูแคระพ็อตเบลลี่เวียดนาม, กระต่ายเนเธอร์แลนด์ดวอฟ, เป็ดวู้ดดั๊ก, นกอีมู และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงยังมีกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย เช่น กิจกรรมป้อนอาหารสัตว์เลี้ยง, นั่งรถม้าแคระ, ขี่ม้าแคระ และวาดภาพระบายสี เป็นต้น ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติสวย ๆ ต้นไม้ร่มรื่น ยิ่งเที่ยวก็ยิ่งชิล

◉ การเดินทาง : มาทางบ้านบึง ให้เลี้ยวซ้ายที่สามแยกแกลง วิ่งมาทางจังหวัดจันทบุรี จะเจอ โรงเรียนนายายอามพิทยาคม เลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่อยู่ติดกับปั้มบางจาก เข้ามาจากถนนสุขุมวิทประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะมาถึงฟาร์ม
◉ ที่อยู่ : อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 49.เมืองรัตติยา จังหวัดนครปฐม 

สำหรับใครที่อยากเที่ยวแบบย้อนยุคหน่อยๆ ก็ขอแนะนำที่นี่เลย เมืองรัตติยา ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยว และตลาดร่วมสมัย เป็นที่จำลองบรรยากาศเหมือนให้เราเข้าไปอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นเองค่ะ มีโซนถ่ายรูปหลากหลาย และยังสามารถปั่นจักรยานเพลินๆ ชมวิวในตัวเมืองจำลองได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหาร กาแฟ ให้ได้แวะมาพักเหนื่อยสักหน่อย แถวริมน้ำ บรรยากาศดีสุดๆ ใครไปใครมาสามารถแวะมาเที่ยวกันได้นะคะ เพราะที่นี่ให้เข้าชมกันฟรีๆจ้า

◉ การเดินทาง : วิ่งออกไปทางอำเภอบางใหญ่ ผ่านสามแยกไทรน้อย เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนปทุมธานี-บางเลน มุ่งตรงเข้าอำเภอบางเลนอีก ประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดหมาย
◉ ที่อยู่ : อ.บางเลน จ.นครปฐม
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 08.00 – 17.30 น.

❀ 50.ตลาดเช้าริมธาร โอ๊ะป่อยจ.ราชบุรี 

ตลาดเช้าริมน้ำ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ของธรรมชาติ โดยคำว่า “โอ๊ะป่อย” มีที่มาจากภาษากะเหรี่ยง แปลว่า ผ่อนคลาย และนี่คือความรู้สึกแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้รับเมื่อไปเยือนตลาดแห่งนี้ ของขายส่วนใหญ่ของที่นี่เน้นเป็นของกินพื้นเมืองหากินยาก แต่อร่อยอย่าบอกใคร รวมถึงยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการใส่บาตรพระที่ล่องแพมารับบาตร และการรดน้ำต้นผึ้ง เอาเป็นว่าลิสต์ที่นี่ไว้เป็นที่เที่ยวเช็กอินชิลๆ สำหรับวันหยุดกันได้เลย

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองราชบุรี ประมาณ 60 กม.
◉ ที่อยู่ : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 7.00 – 14.00 น.

❀ 51.ทุ่งดอกไม้ Gap Organic จ.นครราชสีมา 

อีกหนึ่งที่เที่ยวทุ่งดอกไม้สวยๆ ใกล้กรุงเทพฯ พร้อมกับสัมผัสธรรมชาติสวยแบบเต็มๆตา เต็มอิ่มกับทุ่งดอกปอเทืองและคอสมอส ที่ต่างผลิกลีบดอกบานสวย ทั้งยังมีสะพานไม้ไผ่ให้ได้เดินเล่นถ่ายรูปชิลๆ ยิ่งถ้ามากับเพื่อน บอกเลยว่าถ่ายรูปได้ไม่มีเบื่อ และถ้ามาในวันที่อากาศดีๆ มีลมพัดเย็นๆ มาให้ชื่นใจ บอกเลยว่าคุณจะต้องประทับใจมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว

◉ การเดินทาง : เลี้ยวทางเข้าเดียวกับโรงคั่วกาแฟ ทางอ.วังน้ำเขียว
◉ ที่อยู่ : อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 -16.00 น.

❀ 52.เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชาสีมา 

เขื่อนลำตะคองจุดเด่นอยู่ที่ริมสันเขื่อน ต้องไม่พลาดแวะชมวิวทิวทัศน์ที่ฉากหลังเป็นภูเขาลูกใหญ่ เบื้องหน้าเป็นน้ำของเขื่อนที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เรียกว่าเป็นเสน่ห์ของที่นี่เลยแหละ และขอบอกเลยว่าเขื่อนลำตะคองการเดินทางสะดวกมากกก เหมาะจะมานอนพักชื่นชมบรรยากาศดีๆ ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น ถ่ายภาพคู่กับหมอกยามเช้า หรือแวะมาเดินเล่นรับอากาศบริสุทธิ์ โอ๊ยยยฟิน..ต้องไปกันให้ได้แล้วล่ะ

◉ การเดินทาง : จากอำเภอปากช่องใช้ถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2)มุ่งหน้าโคราชระหว่าง กม.184-193
◉ ที่อยู่ : ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 53.ทุ่งพราวตะวัน จ.นครราชสีมา 

ดอกทานตะวันสีเหลืองๆ ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าคราม ชวนให้ลงรถมาแวะแชะถ่ายภาพเหลือเกิ๊นน ขอแนะนำที่ “ทุ่งพราวตะวัน” ที่เขาใหญ่บนพื้นที่ถึง 70 ไร่ ซึ่งเปิดให้บริการปีนี้เป็นปีแรก อยู่ใกล้กับทอสคาน่า วัลเล่ย์ เขาใหญ่ เส้นทางไปวังน้ำเขียว เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท ด้านหน้ามีร้านขายอาหาร และร้านขายของที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีทุ่งปอเทืองสวยๆไว้ถ่ายรูปเล่นกันอีกด้วยนะ

◉ การเดินทาง : อยู่ตรงข้ามกับ ทอสคาน่า วัลเล่ย์ เขาใหญ่
◉ ที่ตั้ง : ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 54.ตลาดน้ำคลองลัดมะยม 

เป็นตลาดน้ำ ที่เรียกได้ว่าโด่งดังมากๆอีกที่หนึ่งเลยค่ะ เนื่องจากตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมอาหารไทย ขนมไทย ที่หาทานได้ยาก แต่หากมาที่นี่รับรองว่าได้ทานอย่างแน่นอนค่ะ และที่นี่ยังมีของที่ระลึกให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังมีร้านที่คนนิยมหลากหลายร้าน รวมไปถึงยังมีบริการนั่งเรือชมวิถีชีวิตชาวบ้านคลองลัดมะยม ไหว้พระ แวะชมสวนกล้สวยไม้ที่ปลูกด้วยวิถีชาวบ้านค่ะ จึงไม่แปลก ที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมตลาดแห่งนี้เป็นจำนวนมากค่ะ

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก ทางเข้าตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะอยู่ตรงข้าม สมาคมชาวปักษ์ใต้ จุดสังเกตุที่ปากซอยจะเป็นเต้นท์รถคุณหญิง และมีป้ายของตลาดน้ำฯ ชัดเจนค่ะ
◉ ที่อยู่ : เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00 – 15.00 น.

❀ 55.ไร่ชมอิน เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี 

หากใครที่ชื่นชอบ และอยากสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง ลองไปเที่ยวไร่ชมอิน อำเภอด่านช้างกันค่ะ เพราะที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ และสามารถพักค้างแรมแนวแคมปิ้งกันได้ด้วย มีทั้งเต็นท์ให้เช่าสะดวกสบาย และบ้านให้เช่าอีกด้วย  ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบเต็มปอด ถือว่าเป็นการพักผ่อนแบบธรรมชาติที่อบอุ่นมากสำหรับไร่ชมอินนี้ นอกจากการนอนเต็นท์แล้ว ยังมีบริการนำเที่ยวรอบเขื่อนกระเสียว ชมสันเขื่อนด้วยนะ

◉ การเดินทาง : มาตามทางเส้น 340 เข้าสู่ตัวเมืองสุพรรณบุรี
◉ ที่อยู่ : เขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 11.00 – 21.00 น.

❀ 56.ตลาดน้ำสะพานโค้ง จ.สุพรรณบุรี 

เป็นตลาดน้ำบนสะพานไม้ไผ่สุดเก๋ค่ะ สองฝั่งของสะพานไม้ไผ่ ขนาบด้วยร้านค้าพ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาขายกันเยอะเลยค่ะ ได้สนุกไปกับการเดินเลือกซื้อของท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติริมน้ำสวย ๆ อาหาร และขนมต่างๆที่ทำมาขาย ก็มาจากพืชในชุมชน ซึ่งชาวบ้านเป็นคนปลูกเองอีกด้วยนะคะ ราคาก็ถูกแสนถูกค่ะ นอกจากนี้ปลายทางเดินของตลาดสะพานโค้ง จะมองเห็น “สุ่มปลายักษ์” อีกหนึ่งที่เที่ยวเด็ดของที่นี่ค่ะ ทางเดินไม้ไผ่ ตัดผ่านทุ่งผักบุ้งที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปเป็นจำนวนไม่น้อย โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวของอำเภอสองพี่น้องบนสุ่มปลายักษ์นี้ได้อีกด้วย

◉ การเดินทาง : สามารถจอดรถได้ 2 จุด คือ ฝั่งตลาดน้ำสะพานโค้ง ซึ่งต้องจอดริมถนน และมีที่จอดรถในพื้นที่นิดหน่อย หรือจะมาที่ วัดทองประดิษฐ์  ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามมีที่จอดรถกว้างขวางค่อนข้างสะดวกค่ะ
◉ ที่อยู่ : อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ 07.00 – 15.00 น.

❀ 57.ภูลมโล จังหวัดเลย 

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงามของวิวทิวทัศน์ เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่กว่า 1,000 ไร่ ท่ามกลางเนินเขาน้อยใหญ่สลับซ้อนกันไปมา ซึ่งการออกดอกของนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกบานสะพรั่งกระจายกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นตามบนภูเขา หรือตามหลืบของซอกเขาต่างๆ

◉ การเดินทาง : ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ถึงตัวเมืองพิษณุโลก จากตัวเมืองพิษณุโลก เส้นทางที่สะดวกที่สุด คือใช้ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 สายพิษณุโลก – หล่มสัก มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
◉ ที่ตั้ง : เขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตำบลกกสะทอน  จังหวัดเลย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 05.00 – 16.00 น.

❀ 58.เชียงคาน จ.เลย 

เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ภาพบ้านเก่าๆที่เรียงรายติดกันอยู่ริมถนนชายโขง ดึงดูดใจสายเที่ยว นิยมมาปั่นจักรยานชมบรรยากาศ ถ่ายรูปเล่น ชมบ้านไม้สมัยเก่า บางส่วนก็ถูกดัดแปลงให้เป็น ที่พักแบบโฮมสเตย์  ร้านค้า ร้านกาแฟ เป็นความเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ที่ต้องมาสัมผัสค่ะ

◉ การเดินทาง : ไปตามทางหลวง หมายเลข 201 สู่เขต จ.เลยอีกที ที่ภูผาม่าน ผ่านภูกระดึง วังสะพุง ถึงตัวเมืองเลย สุดท้ายแยกขวาสู่อ.เชียงคาน รวมระยะทางประมาณ 597 ก.ม.ค่ะ
◉ ที่ตั้ง : เชียงคาน จ.เลย
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 10.00 – 23.00 น และ ถนนคนเดินเชียงคาน 17.00 – 20.00 น.

❀ 59.ฟลาวเวอร์แลนด์ พัทยา จ.ชลบุรี 

เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดของเมืองพัทยากันเลยสำหรับตอนนี้ ถูกใจคนที่รักดอกไม้ และความสวยงาม ที่นี่ถือว่าเป็นดินแดนดอกไม้ และไม้ยืนต้น บนพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ มีการสร้างสรรค์ให้กลายเป็นวิมานแห่งดอกไม้เมืองหนาวที่หาชมได้ยากในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศเราอีกด้วย รับรองว่าไปเที่ยวแล้วถ่ายรูปกันไม่หวั่นไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ

◉ การเดินทาง : ออกจากถนนมอเตอร์เวย์ที่จังหวัดชลบุรี แล้วใช้ถนนสุขุมวิทต่อไปจนถึงเมืองพัทยาก็ได้
◉ ที่อยู่ : อ.หนองปรือ พัทยา จ.ชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์ – อาทิตย์ 08.00 – 20.00 น.

60.ตลาดน้ำ 4 ภาค จ.ชลบุรี 

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม และเป็นศูนย์รวมของ กิจกรรม ความหลากหลายเกี่ยวกับ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม เป็นการนำของดีทั้ง 4 ภาค มาไว้ที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ และสีสันแห่งใหม่ในเมืองพัทยาค่ะ มีทั้งสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน จุมชมเที่ยว เช่น ทุ่งทานตะวัน พิพิธภัณฑ์ไม้แกะสลัก รวมไปถึงการแสดงกิจกรรมวิถีชีวิตประเพณี วัฒนธรรมไทย หรือจะเป็นการล่องเรือพายชมทัศนียภาพตลาดน้ำ ย้อนรำลึกประวัติศาสตร์การกสิกรรมไทย ที่แปลงเกษตรสาธิต และสมุนไพรไทย เป็นการท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้ ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ค่ะ มาที่นี่คุ้มค่าวันหยุด ครบจบในที่เดียวเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ขับผ่านทางเลี้ยวเข้าพัทยาเหนือ – กลาง -ใต้ เลยทางเลี้ยวเข้าพัทยาใต้ไปสักหน่อยทาง เดียวกับมิโมซ่าจะเห็นเรือน ไทยโดดเด่นไม่ต้องกลัวหลงเพราะจะมีป้ายบอกตอดทาง
◉ ที่อยู่ : อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 10.00 – 24.00 น.

❀ 61.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี 

เป็นเกาะใหญ่กลางทะเลที่น่าท่องเที่ยว ในบรรยากาศแบบท้องถิ่น การเดินทางมาก็ง่ายแสนง่าย ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ เกาะมีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก มีวิวสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปเล่นอัพโหลดลงโซเชียล และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆหลายที่ให้แวะ เช่น ช่องเขาขาด หาดถ้ำเขาพัง มณฑปรอยพระพุทธบาท พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน และอีกมากมายเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายบางนา – ตราด มุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี มุ่งหน้าสู่บางแสน ขับตรงไปประมาณ 13 กิโลเมตรจากนั้นให้ เลี้ยวขวาตรง ห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะสีชังประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงท่าเรือ
**หากต้องการค้างคืนสามารถจอดรถไว้ที่ฝั่งเกาะลอยได้**
◉ ที่อยู่ : เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 19.00 น.

❀ 62.ตลาดน้ำสามวัง จ.ชลบุรี 

ตลาดน้ำเปิดใหม่ไฉไลเวอร์ๆจ้า อยู่แถวอำเภอพนัสนิคม ตลาดน้ำสามวัง เป็นตลาดน้ำสไตล์บ้านๆ บรรยากาศดี ร่มรื่นอยู่ริมคลอง รายล้อมไปด้วยกอไผ่ขนาดใหญ่ ขอบอกเลยว่ามีมุมถ่ายรูปสวยๆเพียบ! ในส่วนของกินก็มีเยอะหลากหลายไม่แพ้กัน พ่อค้าแม่ค้าต่างมาตั้งซุ้มขายส้มตำ ไก่ย่าง ผักผลไม้ และอาหารท้องถิ่นแบบจัดเต็ม แถมมีบริการซุ้มให้นั่งกินข้าวริมน้ำชิลๆ อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีบริการนั่งเรือชมธรรมชาติสองฝั่งคลองด้วยนะ

◉ การเดินทาง : แนะนำว่าให้ปักหมุดที่วัดใหม่นาวังหินไว้ได้เลยจ้า
◉ ที่อยู่ : หลังวัดใหม่นาวังหิน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ 08.00 – 21.00 น.

❀ 63.เกาะแสมสาร สัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

เป็นเกาะที่เรียกว่าได้มาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะเป็นทะเลใกล้กรุงที่ยังคงความธรรมชาติเอาไว้อยู่  เกาะนี้จึงเหมาะมากสำหรับเที่ยวชิลล์ๆ ใครที่เวลาน้อยแต่อยากไปชมทะเลสวยๆ ที่นี่ตอบโจทย์เพราะเที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ ไฮไลท์ของเกาะแสมสารอยู่ที่น้ำทะเลใสแจ๋ว ใสม๊ากมากจริงๆค่ะ หาดทรายขาว ปะการังมีเยอะมาก ใต้ท้องทะเลก็สวย ใครที่ได้ไปรับรองเลยว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เดินเล่นเพลินๆ หรือจะปั่นจักรยานชมเส้นทางธรรมชาติได้ทั้งวันค่ะ ถึงแม้เกาะแสมสารจะไม่มีที่พักแต่มีกิจกรรม และมีอาหารอร่อยๆให้ชิมนะคะ ใครยังไม่เคยไปต้องไปเลยค่ะ ทะเลสวยอยู่ใกล้ๆแค่นี้เองนะ

◉ การเดินทาง : ค่าตั๋วเกาะแสมสาร ราคานี้รวมเรือไป-กลับแล้วนะจ๊ะ เด็ก 220 บาท และ ผู้ใหญ่ 300 บาทค่ะ เป็นเกาะที่เที่ยวได้ทั้งปี ไม่มีวันปิดเกาะ เรือออก 09.00 – 13.00 น.
◉ ที่ตั้ง : เกาะแสมสาร สัตหีบ จังหวัดชลบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.

❀ 64.วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา 

วัดมหาธาตุ สิ่งที่โดดเด่นคือ  เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีในรากไม้  โดยเศียรพระพุทธรูปเป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้หล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความงดงามแปลกตา จนเลื่องลือกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติค่ะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เข้าตัวเมืองอยุธยา แล้วข้ามสะพานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตรงไปจนถึงสี่แยกไฟแดงที่ 2 เลี้ยวขวาตรงไปไม่ไกล ผ่านบึงพระราม จะเห็นวัดมหาธาตุอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
◉ ที่อยู่ : ตำบลท่าวาสุกรี จ.พระนครศรีอยุธยา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.30 – 17.00 น.

❀ 65.ตลาดชะโด จ.พระนครศรีอยุธยา 

เป็นอีกหนึ่งตลาดเก่าแก่ของอยุธยาที่มีอายุกว่า 100 ปี มีพัฒนาการมาจากตลาดน้ำที่มีเรือนแพค้าขายของชาวจีน จากนั้นได้เริ่มมีการก่อสร้างตลาดริมน้ำและบนบกขึ้นให้กว้างใหญ่กว่าร้อยคูหา ปัจจุบันยกจากน้ำขึ้นบกกลายเป็นตลาดวิถีชีวิตริมน้ำ นอกจากนี้ที่ตลาดลาดชะโดยังเป็นโลเคชั่นหลักของภาพยนตร์-ละครหลายเรื่องที่เคยยกกองมาถ่ายทำอย่าง บุญชู, รักข้ามคลอง, ดงดอกเหมย และความสุขของกะทิ และนักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือชมวิถีชีวิตริมคลองลาดชะโด การยกยอ ทอดแห บ้านเรือนไทยริมน้ำค่ะ

◉ การเดินทาง : จากอำเภอผักไห่ ใช้เส้นทาง 3454 เลยตัวตัวอำเภอไปประมาณ 500 เมตร มีทางแยกเลี้ยวซ้ายไปตลาดลาดฃะโดเป็นระยะทางอีกประมาณ 2 กิโลเมตร และก่อนถึงตลาดลาดชะโดมีท่าเรือที่สามารถเช่าเรือไปตลาดลาดชะโดได้ค่ะ
◉ ที่อยู่ : ตำบลหนองน้ำใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00-16.00 น.

❀ 66.ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม
จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

เป็นตลาดน้ำที่ใหญ่มีพื้นที่กว่า 100 ไร่ ภายในมีทั้งร้านค้า และเรือขายสินค้าริมน้ำ มีเรือให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมบรรยกาศโดยรอบ มีรถไฟให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมโดยรอบตลาดได้อีกด้วย การตกแต่งของตลาดน้ำหัวหินสามพันนามเป็นแนวย้อนยุค เป็นตลาดน้ำที่เน้นความธรรมชาติ มีมุมสำหรับถ่ายรูปหลากหลาย และที่สำคัญที่มีกิจกรรมต่างๆเยอะมากค่ะ นอกจากช๊อปของทานอร่อยๆแล้วก็ยังมี ปั่นจักรยานน้ำ ให้นมน้องแพะ โล้ชิงช้า “ชิงช้าปลายหาด” (แบบชาวเขา) ขี่ม้าถ่ายรูป ขี่ม้ารอบตลาดน้ำ เลี้ยงช้าง (ให้อาหารช้าง) ให้อาหารปลา เรียกว่าเป็นตลาดที่ครบเครื่องมากๆ มาแล้วได้ครบทุกอย่างกันไปเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางเดียวกับวัดห้วยมงคล โดยปากทางเข้า จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยปากทางเข้าวัดห้วยมงคล ไม่ต้องกลัวหลงเพราะจะมีป้ายบอกตลอดทาง
◉ ที่อยู่ : อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : วันธรรมดา 09.00-18.00 น.  /  วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00-21.00 น.

❀ 67.เขาตะเคียนโง๊ะ จ.เพชรบูรณ์ 

จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองทิวทัศน์ของตำบลหนองแม่นาได้แบบ 360 องศา มีลานกางเต็นท์ พร้อมเต็นท์นอน ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะคะ ขอบอกว่าความสวยเกินจะบรรยายเลยค่ะ บรรยากาศดีมากกก รับรองว่านั่งมองหมอกเพลินๆ ฟินๆแน่นอน

◉ การเดินทาง : จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมวิวริมทางหลวง 2258 บ้านหนองแม่นา จากสี่แยกรื่นฤดี ใช้เส้นทางไปยังอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
◉ ที่ตั้ง : ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  08.00 – 18.00 น.

❀ 68.ทุ่งกังหันลม จ.เพชรบูรณ์ 

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ใหม่ล่าสุดบนเขาค้อที่สวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านเพชรดำ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อเข้ามาในบริเวณแคมป์สนเพื่อ ไปยังเส้นทางท่องเที่ยวหลักบนเขาค้อ จะสามารถมองเห็นกำหันลมโดดเด่นได้อย่างง่ายได้ ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายรูปกัน อยู่เมืองไทยแต่ใครๆก็คิดว่าอยู่เมืองนอก ต้องแวะมาเช็คอินที่นี่กันให้ได้น้า

◉ การเดินทาง : จากถนนสายหลัก 2196 หากมาจากแคมป์สนก็เลยแยกทุ่งสมอไป 3 กม. จะมีป้ายหมู่บ้านเพชรดำ ให้เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 10 กม.ก็จะถึงทุ่งกังหันลม
◉ ที่ตั้ง : หมู่บ้านเพชรดำ ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  06.00 – 18.00 น.

 69.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์ 

ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดที่มีความสวยงามวิจิตรตระการตา อยู่ท่ามกลางภูเขาที่สูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบด้านได้ 360 องศาสวยงามจนเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand

◉ การเดินทาง : พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว อยู่ปากซอยทางเข้า หมู่บ้านทางแดง ซึ่งอยู่ด้านข้าง อบต.แคมป์สน เลี้ยวซ้ายเข้าไป ตรงตลอดจนเห็นสะพานทางเข้าวัด เลี้ยวขวาข้ามสะพานและจอดรถ ณ บริเวณที่จัดไว้
◉ ที่ตั้ง : ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

❀ 70.ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ 

เป็นจุดสูงสุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ อากาศบริสุทธ์ เย็นสบายตลอดปี ในตอนเช้ามีหมอก และกลุ่มเมฆตัดกับยอดภูสีเขียว มีไร่กะหล่ำปลีที่ปลูกลดหลั่นไปตามไหล่เขา ภูทับเบิกเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมากที่หนึ่ง เพราะเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว ยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม และอลังการอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีสายหมอกลอยคลอกเคลียตามไหล่เขาให้ได้ชมแทบทุกจุด

◉ การเดินทาง : จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวง หมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสักตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทาง ไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าตามทางหลวง 2011 และ 2331 ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจาก ตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชัน และคดเคี้ยวมาก
◉ ที่ตั้ง : ต.วังบาล จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 18.00 น.

❀ 71.น้ำตกศรีดิษฐ์ จ.เพชรบูรณ์ 

เป็นน้ำตกชั้นเดียว สายน้ำไหลผ่านหน้าผาหินกว้าง มองเห็นคล้ายม่านน้ำตกลงสู่เบื้องล่างกระทบหินน้ำกระเชนสวยงาม มีลานกว้างสำหรับเล่นน้ำ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ บริเวณน้ำตกยังมีศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว ร้านบริการอาหารเครื่องดื่มโดยเฉพาะ ไก่ย่างส้มตำ รวมทั้งของที่ระลึกพวกเสื้อผ้าพื้นเมืองด้วยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากสามแยกหนองแม่นา บ้านหนองแม่นา ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 2325 ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร จะเห็นป้ายทางเข้าน้ำตกศรีดิษฐ์ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ถึงลานจอดรถ เดินเข้าไปประมาณ 100 เมตร จะถึงตัวน้ำตกค่ะ
◉ ที่อยู่ : เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 72.เมืองศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ 

เป็นเมืองโบราณในยุคทวารวดีที่มีความยิ่งใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก landmark เด็ดคือ เขาคลังนอก “พีระมิด” หนึ่งเดียวในไทย ปรางค์ศรีเทพ ปรางค์ประธานเมืองโบราณ และ ปรางค์สองพี่น้อง เป็นสถาปัตยกรรมเนื่องในวัฒนธรรมเขมร กรมศิลปากร พบว่า มีความเก่าตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ 2,500 ปี และขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ มีอายุเก่าแก่ถึง 1,800 ปี และยุคทวารวดีที่มีความเก่าแก่ถึง 1,400 ปี และนี่เป็นที่ถกเถียงกันว่าอาจจะเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรทวารวดีหรือเปล่า แม้จะยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทรงคุณค่า ที่ควรค่ากับการไปเที่ยวชมมากๆค่ะ

◉ การเดินทาง : อยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ประมาณ 130 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 102 แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2211 ไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตรจะเห็นป้ายบอกทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
◉ ที่อยู่ : อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30-16.30 น.

❀ 73.บานาน่าฟาร์ม จังหวัดกาญจนบุรี 

แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีทั้งคาเฟ่อยู่กลางดงสวนกล้วยกันเลยทีเดียว ทุกคนจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ โดยจะมีสะพานยอดกล้วยให้ได้เดินเล่น และชมวิวกันอย่างสบายใจ นอกจากนี้ต้องบอกเลยว่าเรื่องของอาหารก็ไม่แพ้ใคร นอกจากจะอยู่กลางสวนแล้ว รสชาติอาหารก็อร่อย แบบออร์แกนิคอีกด้วยค่ะ กินอิ่มแถมมีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมายเหมาะสำหรับการพักผ่อนมากๆเลยค่ะ

ขอบคุณรูปภาพ : https://www.siam-banana.com

◉ การเดินทาง : ริมถนนพนมทวน-กาญจนบุรี  แถวทุ่งสมอ
◉ ที่อยู่ : อ.พรมทวน จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : อังคาร – อาทิตย์  08.00 – 20.30 น.

❀ 74.เขื่อนศรีนครินทร์
จังหวัดกาญจนบุรี 

เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ใช้ประโยชน์ทั้งด้านการชลประทาน การผลิตไฟฟ้า ปัจจุบันเขื่อนศรีนครินทร์ได้กลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิต ยิ่งบริเวณสันเขื่อนมีที่จอดรถให้บริการ เดินชมวิวชิลๆ มีมุมถ่ายรูปเพียบเลยล่ะ มีรีสอร์ทสวยๆ แพริมเขื่อนเก๋ๆเปิดให้บริการมากมาย ยิ่งไปช่วงกรีนซีซั่นนะ หมอกเอย รุ้งเอย น้ำใสๆสีฟ้าครามเอย ฟินกระจายยย เป็นอีกเขื่อนสวยรวยเสน่ห์ ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางง่ายๆ เหมาะกับแวะพักผ่อนหย่อนกาย บรรยากาศก็ดีต่อใจ รีบเก็บกระเป๋าไปเขื่อนศรีนครินทร์กันเล่ยย

◉ การเดินทาง : จากเส้นเพชรเกษม หรือถนนบรมราชชนนี เข้าสู่นครชัยศรี มุงหน้าไปยังนครปฐม บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง และเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรี
◉ ที่อยู่ : ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.

❀ 75.วัดถ้ำเสือ จ.กาญจนบุรี 

สิ่งที่สะดุดตาของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมวัด เพื่อกราบนมัสการพระธาตุ ก็คือ ความใหญ่โตกว้างขวางของวัด และพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ตัวองค์พระสวยงาม ประดับด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ มองไปด้านล่างเห็นเป็นทุ่งนาเขียวขจี สวยงามอลังการมากค่ะ

◉ การเดินทาง : วัดถ้ำเสืออยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลองประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าวัดต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลองแล้วจะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไป ประมาณ 2 กิโลเมตรแล้ว เลี้ยวซ้ายประมาณ 200 เมตร
◉ ที่อยู่ : อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

❀ 76.บ้านอีต่อง ปิล็อก จ.กาญจนบุรี 

ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก ปัจจุบันหมู่บ้านอีต่องได้เป็นที่พักโฮมสเตย์ แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อว่า บรรยากาศสวยอีกที่ของจังหวัดค่ะ ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ ชอบอากาศดีๆ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร เรียกว่าเป็นเมืองที่ร่ำรวยด้วยหมอกเลยค่ะ เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการมาสัมผัส ต้องเดินทางผ่าน 399 โค้ง และยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆ คือ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เนินช้างศึก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โอ้โหคือมาดูหมอกเสร็จก็ไปเที่ยวที่ใกล้ๆได้อีกทั้งเส้นทางเลยนะคะ

◉ การเดินทาง : จากตลาดทองผาภูมิ ไปหมู่บ้านอิต่อง ระยะทาง 70 กม.
◉ ที่ตั้ง : ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  05.30 – 18.30 น.

❀ 77.เนินช้างศึก จ.กาญจนบุรี 

เนินช้างศึกหรือยอดดอยปิล๊อก ตั้งอยู่ใน ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นจุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่งของชายแดนไทย-พม่า เป็นที่ตั้งฐานของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 สถานที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,053 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากๆอีกจุดของกาญฯ ก็ว่าได้ค่ะ มองเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขา สาบหมอกเต็มแบบเห็นได้ 360 องศาค่ะ มีสถานที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งที่นี่ยังเปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวันด้วยค่ะ

◉ การเดินทาง : จากอำเภอเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ไปตามทางสายกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ (ทางหลวงหมายเลข 323) เลี้ยวซ้ายไปตามทางหมายเลข 3272
◉ ที่ตั้ง : ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน  05.30 – 18.30 น.

❀ 78.เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี 

เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มีจุดไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่ “สันคมมีด” สันเขาที่สวยงาม และน่าหวาดเสียวไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกให้ที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 10 Dream Destinations ที่นักท่องท่องเที่ยวควรไปเยือนมากที่สุดจ้า

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 สายกาญจนบุรี – ทองผาภูมิ จากตัวอำเภอทองผาภูมิ ใช้เส้นทางหมายเลข 3272 สายทองผาภูมิ – บ้านไร่-ปิล๊อก ถึงสามแยกบ้านไร่เลี้ยวซ้ายไปตาม เส้นทางคดเคี้ยวบนเขา ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิซึ่งจะตั้งอยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 21 – 22
◉ ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เดือนพฤศจิกายน  ถึง เดือนมกราคม ของทุกปี

❀ 79.ตลาดน้ำกวางโจว จ.เพชรบุรี 

เป็นตลาดน้ำที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านต่างพากันพายเรือนำของมาวางขายกันอย่างคึกคัก ทำให้เห็นถึงวิถีชีวิตสมัยก่อน ดุแปลกตาสร้างบรรยากาศแห่งการท่องเที่ยวให้แก่พื้นที่บริเวณนี้ค่ะ ภายในตลาดน้ำแห่งนี้จะมีสินค้า และอาหารหลากหลายมาขายมากมาย เป็นของที่ชาวบ้านทำกันมาขายเอง ราคาเป็นมิตร พ่อค้าแม่ค้าน่ารักมาก ยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนค่ะ อีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ และมุมร่มรื่นๆให้ได้พักอีกด้วยค่ะ ใครมีโอกาสได้มาเพชรบุรีลองแวะมาสัมผัสที่นี่ดูนะคะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางเพชรเกษม มุ่งหน้าเพชรบุรี ผ่านเขาย้อย จะเห็นป้ายไปตลาดน้ำกวางโจวติดไว้ เลี้ยวไปตามป้าย มุ่งหน้าอำเภอหนองหญ้าปล้อง
◉ ที่อยู่ : อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : เสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์  09.30 – 17.00 น.

❀ 80.สะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 

เป็นเขื่อนที่เชื่อมระหว่างเกาะเล็กๆในเขื่อน มีความยาวประมาณ 500 เมตร ใครที่รู้สึกคุ้นตาว่าเคยเห็นสะพานที่ไหน ขอบอกเลยว่าสะพานเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กชื่อดังของเขื่อนเลย ใครไปใครมาต้องมาถ่ายรูป โพสท่าเป็นนางเอกภาพยนตร์กันทั้งนั้นจ้า

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 35 ถึงอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านแยกเข้าตัวเมืองเพชรบุรี จะถึงสี่แยกท่ายาง เลี้ยวขวาเข้าอำเภอท่ายาง แล้ววิ่งไปตามถนนเลียบคลองชลประทาน ตามทางหลวงหมายเลข 3499
◉ ที่ตั้ง : เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 17.00 น.

❀ 81.ทุ่งสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด ทั้งนกประจำถิ่น และนกอพยพตามฤดูกาล นับเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ บริเวณเชิงเขามีศูนย์ศึกษาธรรมชาติทุ่งสามร้อยยอด โดยมีเส้นทางเดิ ศึกษาพันธุ์ไม้น้ำให้ได้เดิน เป็นสะพานไม้ที่ ยกระดับให้สูงขึ้นมาจากท้องทุ่ง และทอด ตัวเป็นแนวยาวเข้าไปในทุ่ง ตลอดทางที่เดินเราจะได้ เห็นถึงความหลากหลาย ของพันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่ในทุ่ง สารพัดพืชพันธุ์เลยจ้า

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 จะเห็นป้ายบอกทางไปอุทยานฯ ให้เลี้ยวขวา ไปตามถนน รพช. ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ
◉ ที่ตั้ง : ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 18.00 น.

❀ 82.เขาล้อมหมวก จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

เป็นจุดชมวิวที่สวยงามสามารถมองเห็นทะเลได้ถึง 3 อ่าว คือ อ่าวน้อย อ่าวประจวบฯ และอ่าวมะนาว บรรยากาศข้างบนเขาลมพัดเย็นสบาย และมีรอยพระพุทธบาทเบื้องซ้ายให้กราบไหว้ ซึ่งพระพุทธบาทนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 และบริเวณเชิงเขามีศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกไว้ให้ท่านสักการะบูชา และมีค่างแว่น สามารถให้อาหารค่างแว่นได้ ค่างแว่นเมื่อเข้ามารับอาหารจะไม่แย่งชิงจากมือนักท่องเที่ยว และเลือกอาหารกินอย่างพิถีพิถันเป็นที่น่าประทับใจของนักท่องเที่ยวค่ะ

◉ การเดินทาง : จะต้องเข้าไปภายในกองบิน แล้วจะมีทางแยกไปเขาล้อมหมวกก่อนที่จะถึงอ่าวมะนาว เมื่อเลี้ยวเข้าทางแยกในกองบินก็ให้ขับตรงไปจนถึงตีนเขา แล้วก็หาที่จอดรถบริเวณนี้ได้เลย
◉ ที่ตั้ง : กองบิน 5 ต.เกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้ขึ้นเฉพาะวันหยุดเทศกาล  06.00 – 12.00 น.

❀ 83.เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ 

เกาะพีพีเป็นเกาะที่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ต้องบอกเลยว่าฟินขั้นสุด เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เป็นหมู่เกาะกลางทะเลอันดามัน แบ่งออกเป็น 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอน และ เกาะพีพีเล เกาะพีพี ขึ้นชื่อว่าเป็น“มรกตแห่งอันดามัน” เต็มไปด้วยความสดใสของน้ำทะเล ชาดหาดสีขาวนวล และเป็นอีกเกาะที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จุดเด่นของเกาะพีพี คือ น้ำทะเลสีเขียวมรกตใส อ่าวมาหยาที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาหินปูน และเป็นจุดดำน้ำลึก-น้ำตื้นที่มีปะการังสวยงาม

◉ การเดินทาง : ท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ
สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะพีพีแบบไปเช้าเย็นกลับจากบริษัททัวร์ที่ให้บริการในจังหวัด กระบี่ท่าเรืออ่าวนาง และภูเก็ต บริเวณอ่าวฉลอง โดนเรือเร็วจากบริษัททัวร์ที่คอยให้บริการ มากมายซึ่งมี โปรแกรมทัวร์ให้เลือกหลากหลายแล้วแต่ความชอบ โปรแรมท่องเที่ยว ที่เป็นที่นิยม คือ เริ่มจาก เกาะพีพีเล ได้แก่ อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ อ่าวโละซะมะ และไปแวะรับประทานอาหารกลางวันที่เกาะพีพีดอน หลักจากนั้นก็เริ่มท่องเที่ยวไปยังจุดต่างๆ ก็เกาะพี่พีดอน ได้แก่ อ่าวต้นไทร อ่าวโละดาลัมและจุดชมวิวเกาะพีพีดอน
◉ การเดินทาง : ท่องเที่ยวแบบไปค้างคืน
จากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ2 เที่ยว เวลา 10.00 น. และ 14.30 น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 น.เมื่อมาถึงเกาะพีพี นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือหางยาวไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ของเกาะพีพี บริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพีดอน มีเรือหางยาวให้เช่าไปเที่ยว ตามชายหาด ต่างๆรวมถึงเกาะพีพีเลด้วย
(ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
◉ ที่ตั้ง : เกาะพีพี จังหวัดกระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 84.ทะเลแหวก จ.กระบี่ 

อีกหนึ่งสถานที่สุด Unseen Thailand จุดสวยงามอย่างมหัศจรรย์ ที่สามารถเดินเหยียบทรายขาวละเอียด จากเกาะหนึ่งได้เวลาน้ำลด ทะเลแหวกเกิดจาก สันทรายจากเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ ทั้งสามเกาะนี้เป็น 3 เกาะเด่นอยู่ใน หมู่เกาะปอดะ เกาะไก่เป็นเกาะที่สามารถหยุดเรือแล้วลงไปเล่นน้ำแล้วให้อาหารปลาด้วยการ ให้ขนมปังโรยไว้รอบๆตัว แล้วปลาจะมาอยู่ล้อมรอบตัวเรา ต่อด้วยเกาะทับ เกาะที่เราสามารถมองเห็นปะการังน้ำตื้นได้ จากนั้นมาจบด้วยเกาะจำปาดะ เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนและเล่นน้ำมากกว่าที่จะมาดำน้ำชมปะการัง ทะเลแหวกควรมาชมในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุด ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมค่ะ

◉ การเดินทาง : จากจังหวัดกระบี่ใช้ทางหลวงหมายเลข 4034 แล้วเลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 4202 ไปอ่าวนาง สามารถเช่าเรือลำละ 800-1,000 บาท นั่งได้ 8-10 คน หรือใช้บริการ One day trip ของบริษัทต่างๆ ราคา One day trip เกาะไก่ เกาะปอดะ ทะเลแหวก หาดถ้ำพระนาง ไปด้วยเรือหางยาว 450 บาท / คน ไปด้วยเรือ Speedboat 850 บาท / คน
(ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
◉ ที่ตั้ง : ทะเลแหวก จ.กระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

❀ 85.เกาะลันตา จ.กระบี่ 

เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกระบี่ ประกอบด้วยเกาะลันตาใหญ่  และเกาะลันตาน้อย แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่บนเกาะลันตาใหญ่ และเกาะลันตาน้อยเป็นที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา ด้วยระยะทางที่ห่างไกลจากตัวเมือง เกาะลันตาจึงยังคงความสวยงามของหาดทราย และน้ำทะเลสะอาด มีจุดดำน้ำดูประการังน้ำลึกบริเวณปลายสุดแหลมเป็นที่ตั้งของเกาะหม้อ อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตของชาวเกาะแบบดั้งเดิม ที่เกาะลันตาคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว การมาที่นี่จึงได้เที่ยงหลายบรรยากาศในคราวเดียวกัน ฤดูท่องเที่ยวเกาะลันตาคือช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนพฤษภาคมค่ะ

◉ การเดินทาง : เข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ อำเภอ เหนือคลอง อำเภอคลองท่อม ถึงประมาณหลักกิโลเมตรที่ 64 แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4206 สู่บ้าน หัวหิน ซึ่งเป็นจุดลงแพขนานยนต์ไปยังเกาะลันตาใหญ่
◉ ที่ตั้ง : เกาะลันตา จ.กระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 86.สระมรกต จังหวัดกระบี่ 

สระมรกต ธารน้ำอุ่นเปล่งประกายสีเขียวสดใส ผืนน้ำที่สามารถมัดใจให้หลงใหลในอีกบรรยากาศหนึ่ง สระมรกต ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประบางคราม ป่าเขานอจู้จี้ ป่าดินที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็น Unseen Thailand ของกระบี่แห่งนี้ จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นด้วยอากาศบริสุทธิ์ที่คัดกรองออกซิเจนด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ถ้าอยากสัมผัสธรรมชาติอย่างดื่มด่ำยิ่งขึ้นราวกับท่องเที่ยวแดนในฝัน ควรมาถึงที่นี่ตอน 9 โมงเช้าในวันธรรมดา เพราะอากาศกำลังดี บรรยากาศก็แสนเงียบเนื่องจากยังไม่มีนักท่องเที่ยว ถ้าไปเที่ยวยามหน้าฝน ผืนป่าที่โอบล้อมเขียวชอุ่มดูชุ่มฉ่ำ มีกล้วยไม้ป่าผลิดอกสะพรั่ง ส่วนช่วงฤดูหนาวย่างเข้าฤดูร้อน ป่าของที่นี่จะเปลี่ยนสี ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดในภาคใต้เลยทีเดียว แต่ฤดูที่จะได้สัมผัสความใสของสระอย่างดีที่สุดน่าจะเป็นฤดูร้อนที่ท้องฟ้ากระจ่าง

◉ การเดินทาง : อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ตามถนนเพชรเกษม (กระบี่-ตรัง) แยกเข้า ถนนสุขาภิบาล 2 สังเกตจากป้ายบอกทางตรงที่ว่า การอำเภอคลองท่อมไปอีกประมาณ 15ไปตามทางหลวง หมายเลข 4038 แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนรพช. และตามป้ายบอกทางไปจะพบน้ำตกร้อน และสระมรกต
◉ ที่ตั้ง : สระมรกต จังหวัดกระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30 – 17.00 น.

❀ 87.อ่าวมาหยา จ.กระบี่ 

อ่าวที่งดงามที่สุดของเกาะพีพีเล ลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวใหญ่ล้อมรอบด้วยหน้าผา จะคล้ายกับทะเลในลากูน ภายในอ่าวน้ำทะเลเป็นสีมรกตใส มีหาดทรายขาวที่ละเอียด และอ่อนนุ่มราวกับผงแป้ง ใครๆได้มาที่นี่ต่างก็หลงรักในความงามของที่นี่ ฤดูกาลที่ดีที่สุดที่มาเที่ยวอ่าวมาหยา คือในช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนเมษายน เพราะจะไม่มีลมเข้าทางด้านหลังของเกาะพีพี น้ำในอ่าวมาหยาจะนิ่งสนิท และใสเหมือนกระจกเงา

◉ การเดินทาง : รายละเอียดการเดินทางที่ลิงค์
https://www.atsiamtour.com/gallery/141
◉ ที่ตั้ง : ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.30 – 17.30 น.

❀ 88.เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล 

เกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะเล็ก ๆในจังหวัดสตูล ตั้งอยู่ในอาณาเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา เกาะที่ขึ้นชื่อว่าน้ำทะเลใส หาดทรายขาวละเอียด มีปะการังหลากสี อุดมไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด และมีเวิ้งอ่าวที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ เกาะหลีเป๊ะยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “มัลดีฟส์เมืองไทย” ด้วยค่ะ หาดยอดนิยม คือ หาดพัทยา เป็นหาดที่มีความสวยงามที่สุด อยู่บริเวณด้านหน้าของหมู่บ้านชาวเล , หาดซันไรท์ อยู่ทางทิศตะวันออก ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านชาวเล เป็นบริเวณที่สามารถรับชมพระอาทิตย์ขึ้น จัดว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ และหาดซันเซ็ทเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งามที่สุดแห่งหนึ่ง

◉ การเดินทาง : สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
– ซีแอท ฮอลิเดย์  086-655707, 084-4072587, 074-782222
– อาดัง ซี แอดเวนเจอร์ ทัวร์  074-7833338, 089-735 7637, 081-6092604
– บริษัท ไทเกอร์ ไลน์ ทราเวล จำกัด โทร. 074 732 510
– บริษัท หลีเป๊ะ เฟอรี่ แอนด์ สปีดโบ๊ท จำกัด โทร. 081 909 1413
◉ ที่ตั้ง : เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 89.ตลาดน้ำคลองแห จ.สงขลา 

จำลองวิถีชีวิตดั้งเดิมคือการค้าขายทางน้ำของชาวบ้านคลองแห มีมีเรือพายหลายลำพายมาจอดเรียงรายนำสินค้ามาขาย และมีร้านค้าที่ริมฝั่งมากมายให้เดินเลือกชมอย่างเพลิดเพลิน ทั้งอาหารไทยพื้นบ้านหลากหลาย อาหารมุสลิม รวมทั้งผลไม้ และสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด ภาชนะที่ใส่อาหารใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง กะลา กระบอกไม้ไผ่ หม้อดินเผา เป็นตลาดน้ำเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกและแห่งเดียวของภาคใต้ ผสมผสานระหว่างตลาดที่จำหน่ายสินค้าในเรือ และตลาดโบราณจำหน่ายสินค้าบนบก

◉ การเดินทาง : สามารถจอดรถได้ที่วัดคลองแห และจุดจอดรถตรงข้ามตลาด
◉ ที่ตั้ง : วัดคลองแห ตำบลคลองแห จ.สงขลา
◉ เวลาเปิด – ปิด : วันศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ 16.00 – 20.00 น.

❀ 90.เสม็ดนางชี จังหวัดพังงา 

เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลาง ภูเขาหินปูนน้อย ใหญ่ของอ่าวพังงา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมุมมองที่สุดอันซีนที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นมาทักทายขอบฟ้า พร้อมแทรกตัวอยู่ระหว่างภูเขาน้อยใหญ่ นอกจากจากนี้ในยามค่ำคืนยังสามารถมองเห็นดาวเต็มท้องฟ้าอีกด้วย

◉ การเดินทาง : ใช้เส้นทางพังงา-โคกลอย หรือโคกลอย-พังงา หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางบ้านท่าอยู่-คลองเคียน ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จะพบกับทางขึ้นจุดชมวิว และหลังจากจากรถเรียบร้อย ก็เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวอีกประมาณ 500-700 เมตรเท่านั้น
◉ ที่ตั้ง : บ้านหินร่ม ตำบลคลองเคียน จังหวัดพังงา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 04.00 – 10.00 น.

❀ 91.เกาะเจมส์บอนด์ จ.พังงา 

เกาะเจมส์บอนด์หรือเกาะตะปู เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ในปี 1974 เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำในฉากหนึ่งของหนังเรื่องเจมส์ บอนด์ เกาะเจมส์บอนด์ไม่มีดินแดนชายฝั่ง แต่จะมีเป็นอ่าวที่มีลักษณะถูกโอบล้อมด้วยผา และภูเขาหินสูงชัน ซึ่งคุณสามารถดูได้จากเกาะเขาพิงกันที่ตั้งอยู่ในทำเลสะดวกตรงข้ามเรือผ่าน เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ซึ่งจะต้องมีการจ่ายเงินค่าบริการสำหรับการเข้าชม

◉ การเดินทาง : รายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมที่ลิงค์  http://ow.ly/WSca30pUoWy
◉ ที่ตั้ง : เกาะเจมส์บอนด์ จ.พังงา
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 92.แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต 

หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวภูเก็ต แล้วไม่ได้มาชมอาทิตย์อัสดงที่ แหลมพรหมเทพ ถือว่ายังมาไม่ถึงจ้า แหลมพรหมเทพจัดเป็นหนึ่งในจุดชมอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในเมืองไทย  เป็นแหลมที่อยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ต  มีลักษณะเป็นแหลมโค้งไล่ระดับทอดตัวสู่ท้องทะเล รอบข้างแวดล้อมด้วยต้นตาล ท้องฟ้าเปิด มีเมฆน้อย บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพจะสวยงามมาก หากมาในฤดูร้อนมีทุ่งหญ้าสีทองขึ้นปกคลุม ในฤดูฝนจะเป็น เป็นสีเขียวรอบๆ แหลมพรหมเทพเป็นโขดหินขนาดใหญ่ยามคลื่นลมแรงจะเห็นฟองคลื่นสีขาว กระทบโขดหินสวยจนต้องกรีดร้องเลยล่ะ

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองภูเก็ตไปตามทางหลวงหมายเลข 4027 และ 4024 ผ่านหาดราไวย์และหาดในยะ จากนั้นตรงไปตาม ทางหลวงหมายเลข 4233 อีกประมาณ 650 ม. ก็ถึงลานจอดรถของแหลมพรหมเทพ ต้องเดินขึ้นบันได ไปบน เนินสูง เพื่อไปจุดชมวิว ถ้าต้องการชมทิวทัศน์ที่ปลายแหลมพรหมเทพ ต้องเดินต่อไปตามทางดินอีกประมาณ 1 กม. หรือจะชม
◉ ที่ตั้ง : แหลมพรหมเทพ ราไวย์ จ.ภูเก็ต
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 93.เมืองเก่า จ.ภูเก็ต 

ภูเก็ตสิ่งแรกที่รู้สึกสะดุดตาก็คือตึกเก่า สัมผัสกับความสวยงามของบ้านเรือนเก่าแก่ ของภูเก็ต และสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส ที่สวยงาม พร้อมๆกับได้ สัมผัสวัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนภูเก็ต ที่สำคัญอาหารอร่อยเลื่องชื่อ การเดินชมเมืองเก่า เสน่ห์แห่งชิโน-โปรตุกีส เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การศึกษายิ่งค่ะ

◉ การเดินทาง : เริ่มจากตัวเมืองภูเก็ตหากไม่มีรถส่วนตัว สามารถนั่งมอเตอร์ไซต์ราคาประมาณ 40-50 บาท ให้มาส่งที่ย่านเก่า หลังจากนั้นก็เดิน ชมเมืองต่างๆ ด้วยเท้าไปเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่มีรถส่วนตัวสามารถจอดรถในจุดไหนที่สะดวกใน บริเวณเวณใกล้เคียงแล้วค่อยเดินมา เพราะหากจอดรถแถวย่านเก่าอาจจะหาที่จอดยาก
◉ ที่ตั้ง : เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน

❀ 94.อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี 

อุทยานแห่งชาติเขาสกติดอันดับในเรื่องธรรมชาติสมบูรณ์ สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวสไตล์คนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง มีสภาพป่าเป็นป่าดงดิบชื้นและป่าเขาหินปูนที่สมบูรณ์มาก มีกิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่ การล่องแก่ง เดินป่า นั่งช้าง ดูนก และเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดสำหรับท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาสก คือระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน

◉ การเดินทาง : จากตัวเมืองสุราษฎร์ฯ วิ่งเส้น 401 ถึง อ.บ้านตาขุน ทางเข้าจะอยู่ระหว่าง กม.ที่ 57-58 ก่อนถึงโรงพยาบาลบ้านตาขุน เลี้ยวเข้าไปอีก 12 กม. ถึงเขื่อนรัชชประภา
◉ ที่ตั้ง : อำเภอพนม และ อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.30 น.

❀ 95.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี 

เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอ่าวไทย มีสภาพธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เป็นสวรรค์ของเหล่านักดำน้ำ การดำน้ำเป็นกิจกรรมไฮไลท์ของการมาเกาะเต่า เพราะโลกใต้ทะเลที่เกาะเต่ามีความสวยงามมาก ติด 1 ใน 10 จุดดำน้ำที่สวยที่สุดในประเทศไทย

◉ การเดินทาง : บริษัทท่าเรือเร็วลมพระยา มีบริการตั้งแต่กรุงเทพถึงเกาะเต่า รถ + เรือ โดยไปขึ้นรถได้ที่ถนนข้าวสาร รถออกเวลา 21.00 น. ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 11.45 ชั่วโมง ค่าโดยสารคนละ 1,050 บาท
*หมายเหตุ: เวลาเดินเรือ และค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง
◉ ที่ตั้ง : ตำบลเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 07.00 – 17.00 น.

❀ 96.เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ถือเป็นเขื่อนยอดนิยมลำดับต้นๆในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหนึ่งในเขื่อนที่สวยงามที่สุดในของเมืองไทย น้ำสีเขียวมรกตใสสะกดตา ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างก็อยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง เพราะแบบนี้แค่ภาพถ่ายทางอินเตอร์คงยังไม่ฟิน อยากอินคงต้องมาสัมผัสความสวยของเขื่อนเชี่ยวหลานด้วยตัวเองสักครั้งแล้วล่ะ

◉ การเดินทาง : เข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขับมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 จนถึงแยกอำเภอพุนพิน ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลย 401 ขับไปเรื่อย ๆ จะมีป้ายบอกทางไปเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)
◉ ที่อยู่ : เขื่อนรัชชประภา ต.เขาพัง จ.สุราษฎร์ธานี
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 16.00 น.

❀ 97.เกาะขาม จังหวัดตราด 

เป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเกาะหมาก ลักษณะเด่นของเกาะขามธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ หาดทรายขาว(สันทราย) ทอดยาวออกไปในทะเลประมาณ 300 ม. และหมู่หินภูเขาไฟตั้งอยู่เรียงรายกับแนวปะการังหลากชนิดรอบๆเกาะ น้ำทะเลใสตลอดปี จนได้ฉายาว่า “ไข่มุกมรกต แห่งทะเลตราด” บริเวณรอบๆเกาะขามยังอุดมไปด้วยหมู่ปะการังนานาชนิดดอกไม้ทะเลสีสดใส ปลาสวยงาม หอยมือเสือ เป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ แต่มีธรรมชาติยิ่งใหญ่ไม่แพ้เกาะอื่นๆในทะเลตราดเลยค่ะ

◉ การเดินทาง : ผ่านจังหวัดจันทบุรีจนถึงจังหวัดตราด รวมระยะทาง 315 กิโลเมตร ก่อนถึงท่าเรือแหลมงอบ จะมีร้านค้าตรงข้ามอนุสาวรียฺ์กรมหลวงชุมพร มีบริการรับฝากรถ คืนละ 50 บาท เป็นเต้นท์อย่างดี
◉ ที่ตั้ง : เกาะขาม จังหวัดตราด
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 08.00 – 16.30 น. (เวลาเรือไปเกาะ)

❀ 98.เกาะหมาก จังหวัดตราด 

เที่ยวเกาะหมาก แบบชิลล์ๆสไตล์จ้า เกาะหมากเป็นอีกหนึ่งเกาะในจ.ตราดที่ได้รับความนิยม เพราะมีแหล่ง ปะการังที่สวยงาม มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ยังคงอุมสมบูรณ์ บริเวณรอบๆเกาะจะเต็มไปด้วยสวนมะพร้าว สวนผลไม้ สวนยางของชาวบ้าน เป็นเกาะที่เงียบสงบ เรียบง่าย ไม่พลุกพล่าน ไม่มีร้านนั่งบันเทิงหวือหวา แต่วิวบนเกาะนี้สวยหลักล้าน น้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายสะอาดสีขาวนวลเนียน นับว่าเป็นเสน่ห์ของเกาะหมากเลยนะคะ เกาะนี้จึงเหมาะสำหรับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง เรียกได้ว่าเป็นเกาะที่สวยเหมือนเป็นของขวัญจากธรรมชาติ ที่ทุกคนควรต้องไปเกาะหมากสักครั้งให้ได้ค่ะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ไปจ.ตราดจะมีแค่สายการบิน บางกอก แอร์เวย์ สายการบินเดียวค่ะ ที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ การต่อเรือไปยังเกาะหมาก สามารถขึ้นได้ 2 ท่าเรือ คือท่าเรือแหลมศอก และท่าเรือแหลมงอบค่ะ (ราคาจะขึ้นอยู่กับบริษัทเรือค่ะ)
◉ ที่ตั้ง : เกาะหมาก จังหวัดตราด
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 17.00 น.

❀ 99.ป่าชายเลนบ้านนาใน เกาะช้าง จังหวัดตราด 

เป็นโครงการฟื้นฟูป่าชายเลนป่าชายเลนบ้านสลักเพชร เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และระบบนิเวศป่าชายเลน ซึ่งได้จัดทำเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวเพื่อชมความสวยงามของป่าโกงกาง ตลอดสองข้างทาง ในระยะทางราว 2 กิโลเมตร จุดไฮไลท์มีทุ่งโปรงทองค่อนข้างสวยงาม มีอาณาบริเวณกว้าง ประกอบกับฉากหลังที่เป็นทิวเขาทอดยาว สวยธรรมชาติมากๆค่ะ

◉ การเดินทาง : ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับวัดสลักเพชร โดยเมื่อมาถึงวัดให้ขับเลยไปมีซอยทางเข้าเล็กๆ อยู่ด้านซ้ายมือ ไม่มีป้ายบอกทางและ Google map สอบถามชาวบ้านได้ค่ะ เมื่อเจอซอยทางเข้าแล้วก็ให้ขับตรงไปเรื่อยๆ เส้นทางแคบ และเป็นดินแดงลูกรังในบางช่วง
◉ ที่ตั้ง : อ่าวสลักเพชร เกาะช้าง จังหวัดตราด
◉ เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน 09.00 – 16.00 น.

❀ 100.เกาะกูด จังหวัดตราด 

มีหาดทรายขาวสะอาดสวยงาม เต็มไปด้วยอ่าวต่างๆ เช่น อ่าวตะเภา อ่าวคลองเจ้า อ่าวง่ามโข่ อ่าวคลองหิน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขา เชิงเขามีสวนมะพร้าวตระหง่านเรียงราย  และป่าชายเลนสวยงามและสมบูรณ์มาก หาดส่วนใหญ่อยู่ทางด้านตะวันตก หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด มีคลองเจ้าเป็นธารน้ำสายสำคัญหล่อเลี้ยงชีวิตบนเกาะ

◉ การเดินทาง : จากกรุงเทพใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (บางนา-ตราด) ผ่านชลบุรี ระยอง จันทบุรี เลยไปจนถึง จังหวัด ตราดรวมระยะทางทั้งสิ้น 385 กิโลเมตร รีสอร์ทส่วนใหญ่จะมีบริการรับฝากรถให้ บริเวณท่าเรือของแต่ละรีสอร์ท ในกรณีที่ซื้อแพ็คเกจทัวร์ไป
◉ ที่ตั้ง : เกาะกูด จังหวัดตราด
◉ เวลาเปิด – ปิด : เปิดบริการทุกวัน