น้ำตกเจ็ดสาวน้อยน้ำตกชื่อดัง กับชื่อน่ารักๆมุ้งๆมิ้งๆ ร้อนนี้ต้องดับร้อนด้วยความเย็นสดชื่นจากฟองละอองที่สาดกระเซ็นของกระแสน้ำกันค่ะ

น้ำตกเจ็ดสาวน้อยตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดยเป็นอุทยานขนาดใหญ่มีพื้นที่กว่า 26000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยมีน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเป็นไฮไลท์ค่ะ นักท่องเที่ยวจะชอบมาพักผ่อนหย่อนใจบริเวณน้ำตกเจ็ดชั้นแห่งนี้ เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ที่เขียวขจีและร่มรื่นตลอดทั้งปี อีกทั้งน้ำตกก็เล่นน้ำได้ไม่เชี่ยวกราก น้ำตกเจ็ดสาวน้อยมีทั้งหมด 7 ชั้น และชั้นจะมีความสูงประมาณ 2-5 เมตร ชั้นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ไปแช่เล่นคือชั้นที่ 4 เพราะเป็นแอ่งน้ำที่กว้างและร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และตัวน้ำตกก็ดูสวยกว่าชั้นอื่นๆ ส่วนชั้นที่ดูจะอันตรายกว่าชั้นอื่นบ้างนิดหน่อยคือชั้นที่ 3 เพราะมีแอ่งน้ำลึกอยู่บางจุด สำหรับฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อยมากที่สุดคือเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เพราะเป็นช่วงหน้าแล้งและหน้าร้อนไม่มีฝน น้ำจะใสสะอาดไม่ขุ่น ไม่ไหลเชี่ยว

นอกจากน้ำตกแล้วในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้ทำเช่น จุดกางกางเต็นท์ลานนับดาว บรรยากาศฟินๆเย็นๆ กางเต็นท์ฟังเสียงน้ำตกไหล สามารถ walk in ได้ อัตราค่าให้บริการ 30 บาท/คน/คืน ทางอุทยานมีเต็นท์ให้เช่าด้วยราคา  225 บาท/ หลัง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกนอกจากห้องน้ำรวมก็มีจุดบริการให้ชาร์จแบต แต่ไม่สามารถให้พ่วงไฟได้

หรือหากไม่อยากพักเต็นท์ก็มีบ้านพักของอุทยานให้บริการค่ะ สามารถเข้าไปเช็คได้ที่ https://datacenterdnp.wixsite.com/nationalparkthailand/blank-24

และด้วยความกว้างใหญ่ของพื้นที่อุทยาน ทางอุทยานจึงได้จัดทำ map gps สามารถนำทางไปยังที่พักที่จองไว้ได้เลยค่ะ

ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้

1. เข้าสู่เว็บไซต์ สำนักอุทยานแห่งชาติ https://portal.dnp.go.th/p/nationalpark เลือกหัวข้อ “อุทยานแห่งชาติ” และเลือกเมนู “ข้อมูลอุทยานแห่งชาติ”
2. เลือกอุทยานแห่งชาติที่ต้องการ โดยข้อมูลจะแบ่งตามรายภาคและรายจังหวัดตามลำดับ เมื่อเลือกอุทยานแห่งชาติที่ต้องการ จะพบข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลที่ตั้ง อัตราค่าบริการ และรายชื่อบ้านพักจะอยู่ด้านท้ายของเว็บไซต์
3. เลือกบ้านพักที่ต้องการ จะพบข้อมูลเกี่ยวกับบ้านพัก Icon นำทางไปบ้านพัก และภาพถ่ายบ้านพัก ทั้งภายนอก ภายใน
4. กด Icon นำทางไปบ้านพัก พร้อมเปิดระบบ GPS บน Smart Phone เพื่อเข้าสู่ Application การนำทาง

วิธีการเดินทางไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
https://maps.app.goo.gl/QFop9RzvMXEfKmVp8

สำหรับอัตราค่าบริการอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยคือ 20 บาท/คน และ 10 บาทสำหรับเด็ก ส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าฟรี หากนำรถยนต์มาจะเสียค่าเข้า 30 บาท มอเตอร์ไซต์ 20 บาท

อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08:30-16:30 น.

โทร 036-344416

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

📍5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

📍รวมมิตร 10 น้ำตกสุด cool !! ใกล้กรุง ขับรถไปได้ง่ายนิดเดียว

📍เกาะเต่า .. เกาะเล็กๆ แต่เสน่ห์ล้น ♥♥

 

 

📍 ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ Facebook: อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย Namtok Chet Sao Noi National Park

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

หนึ่งในที่เที่ยวยอดนิยมแบบที่ใครมานครนายกก็ต้องแวะ นั่นก็คือน้ำตกวังตะไคร้นั่นเอง หากขับรถจากกรุงเทพฯก็เป็นระยะทางเพียง 120 กิโลเมตรเท่านั้น โดยตั้ง google map มาตามนี้เลย
▶ https://maps.app.goo.gl/cDEqiZfpDZ5pgBzN6

เพียงหนึ่งชั่วโมงกว่าๆก็ได้ออกจากป่าคอนกรีตสู่ป่าธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ปูเสื่อนอนเล่นใต้ต้นไม้ เอาอาหารไปทานด้วยฟีลปิกนิคก็สนุกไปอีกแบบ อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าสำหรับเล่นน้ำไปด้วยหล่ะ

น้ำตกวังตะไคร้เป็นน้ำตกที่อยู่ในพื้นที่อุทยานวังตะไคร้ ซึ่งตัวอุทยานวังตะไคร้ที่พื้นที่กว่า 1500 ไร่ ดันนั้นใครมาไม่ได้มีเพียงน้ำตกให้เล่นน้ำเท่านั้น ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกด้วย ตัวน้ำตกไม่ได้เป็นแบบเขาสูงที่น้ำตกลดหลั่นสลับซับซ้อน แต่จะเป็นลักษณะน้ำตกที่มีหินลาดเล็กๆและลักษณะของน้ำจะเป็นลำธารสายยาว เหมาะกับการลงเล่นน้ำ หรือล่องแก่ง น้ำไม่เชี่ยวเท่าไหร่ค่ะ โดยกิจกรรมที่นิยมมากคือล่องแก่งแพยางรถยนต์ โดยมีลำธารให้เลือกเล่นถึงสองสาย แต่ละสายก็มีจุดเด่นสนุกกันคนละแบบ ทริคคือควรเลือกห่วงยางให้เหมาะกับรูปร่างของผู้เล่นค่ะ ตอนที่ไปเลือกห่วงยางก็จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำ สำหรับราคาเช่าห่วงยางคือ 20 บาท เช่าได้ตลอดทั้งวัน

สำหรับใครที่อยากออกกำลังสักหน่อยก็ไปปั่นจักรยานกันค่ะ พื้นที่อุทยานกว้างๆมีทางโล่งๆให้ปั่นจักรยาน หรือวิ่งจ๊อกกิ้งก็ได้

เดินชมสวนพฤกษศาตร์วังตะไคร้ก็ได้นะ สวนเขาจัดไว้สวยร่มรื่นเชียว เป็นเส้นทางธรรมชาติที่จะได้เห็นพันธุ์ไม้หลายชนิด ทั้งไม้ผล ไม้มงคล และต้นไม้ในวรรณคดี

อยากโหดหน่อยก็มาฐานกิจกรรมหน่วยรบพิเศษ 10 ฐาน ไม่มีค่าบริการด้วย

1.ข้ามกำแพง 3 ฟุต

2.ข้ามหลังคาอกไก่

3.ข้ามกำแพง 5 ฟุต

4.กระโดดหลบหลุมระเบิด

5.โหนตัวข้ามคูน้ำ

6.สะพานข้ามลำน้ำ

7.แท่นกระโดด 5 ฟุต

8.ปีนข้ามตาข่าย

9.กระโดดหัวตอ

10.สะพานโยกเยก

สำหรับที่พักที่ก็มีบ้านพักของอุทยานให้บริการด้วยนะคะ ที่พักอุทยานวังตะไคร้ http://www.wangtakrai.com/accom/accom.html

หรือหากนำเต็นท์มาได้ฟีลผจญภัยให้เต็มรูปแบบที่อุทยานเค้าก็มีลานกางเต็นท์ให้ด้วย ซึ่งค่าบริการสำหรับลานกางเต็นท์จะอยู่ที่ผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท

หากอยากพักโรงแรมก็มีให้บริการค่ะ จะใส่ Link หรืออะไรดี

หากใครขับรถมาก็ขับรถเข้าไปชมบริเวณอุทยานได้เลย โดยเก็บค่าผ่านประตูคันละ 150 บาท ราคานี้ผู้โดยสารไม่เกิน 8 คนเหมาะจ่าย เกินจากนี้เก็บเพิ่มคนละ 10 บาท อุทยานวังตะไคร้เปิดให้บริการทุกวันนะคะ เริ่ม 8.00-18.00 น.

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

📍5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

📍รวมมิตร 10 น้ำตกสุด cool !! ใกล้กรุง ขับรถไปได้ง่ายนิดเดียว

📍เกาะเต่า .. เกาะเล็กๆ แต่เสน่ห์ล้น ♥♥

 

 

 

 

📍 ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ Facebook: อุทยานวังตะไคร้ นครนายก

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

กรมอุทยานแห่งชาติฯ จัดแคมเปญ ประทับตราหนังสือพาสปอร์ตอุทยานฯ ครบทุกแห่ง เข้าฟรี 1 ปี พักฟรี 2 ครั้ง

เริ่มเลอ!! สายเขียวงานเข้า คนรักธรรมชาติจะชีพจรลงเท้า ได้เวลาตระเวนสะสมตราประทับอุทยานแห่งชาติทั่วไทย 156 แห่ง ใครเก็บได้ครบจะได้ความภาคภูมิใจเป็นที่ซู้ดดดดดด และได้ตราประทับพิเศษในหน้าสุดท้ายว่าเจ้าคือ “สุดยอด นักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ”

ของรางวัลที่ได้หากสะสมตราประทับครบ 156 แห่ง

1.ของที่ระลึก พร้อมทั้งลายเซ็นของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

2.บัตรประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ มีเงื่อนไข เช่น

2.1 ยกเว้นค่าบริการสำหรับบุคคลและการนำยานพาหนะ ในการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน สำหรับผู้มีชื่อบนบัตร และยานพาหนะ 1 คัน โดยใช้สิทธิ์ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันออกบัตร

2.2 ยกเว้นค่าตอบแทนที่พักอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน จำนวน 1 หลัง หลังละไม่เกิน 4 คน ใช้สิทธิ์ได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 คืน ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันออกบัตร

2.3 โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำหนด สามารถขอรับสิทธิ์ได้ที่สำนักอุทยานแห่งชาติ โทรสายด่วน 1362

สำหรับพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ หรือ หนังสือเดินทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ (Passport to Thailand National Parks) หาซื้อได้ที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ราคา 100 บาท โดยเป็นหนังสือเล่มขนาด 3 x 5 นิ้ว สีเขียว ที่จะมีการให้ความรู้ กฎระเบียบ ข้อควรปฏิบัติการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติอยู่ภายในเล่ม พร้อมการสะสมตราประทับจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ 156 แห่ง ทั่วประเทศ

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

📍5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

📍รวมมิตร 10 น้ำตกสุด cool !! ใกล้กรุง ขับรถไปได้ง่ายนิดเดียว

📍เกาะเต่า .. เกาะเล็กๆ แต่เสน่ห์ล้น ♥♥

 

📍 ขอขอบคุณรูปภาพจาก เพจ Facebook: กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

If you’re looking for beachfront accommodation in Jomtien that is new, clean, and budget-friendly, look no further than Golden Jomtien Beach Hotel. This newly renovated resort is located right by the beach, just off the main road. This review will take you to explore the value and comfort offered by Golden Jomtien Beach Hotel.

Golden Jomtien Beach Hotel is a high-rise hotel-style accommodation situated in the bustling area of Jomtien Beach, surrounded by restaurants and shopping venues. Functioning as a city hotel with a semi-resort feel, the hotel has undergone recent renovations to create an atmosphere that emphasizes a more lifestyle-oriented approach to relaxation. The additions include photo spots, a waterslide, a swimming pool, and a café.

The rooms start from the Studio category, providing both single and double bed options. The standard hotel amenities are available, including a television, refrigerator, minibar, and bath products.

Amidst a prime location featuring only top-notch luxury hotels on Panwa Beach, Bandara Villas Phuket stands out with its unobstructed panoramic view of Panwa Beach. The picturesque memories we have of Bandara Villas are filled with awe, especially during our time lounging on the daybed, gazing at the sea blending into the horizon. A moment later, we would jump into our private swimming pool, soaking in the water while enjoying the breathtaking view of the crystal-clear blue sea against the backdrop of the white sandy beach. This is a special retreat that we will remember for many years to come.

Bandara Villas Phuket features private villas built on a high hill, offering unobstructed sea views. The accommodation consists of only a few villas, providing a tranquil and private atmosphere. Upon stepping out of the villa and following the staircase, one can reach the beach, restaurants, and swimming pool. For those who prefer not to walk, there is also an elevator available for convenience.

The Panoramic Duplex Pool Villa, often referred to as the Iconic villa at Bandara Villas Phuket, is truly a breathtaking experience from the moment you open the door. The immediate view is the expansive Andaman Sea, with yachts gracefully navigating the waves and the moody skies above. This level is designed as a living space, complete with a daybed, complimentary set, swimming pool, and a bathroom. The staircase on the side leads to the lower level, which serves as the bedroom area, featuring a bathtub and another bathroom designed for functionality. The entire space spans 100 square meters, with a generously sized romantic pool suitable for two people.

The Panoramic Pool Villa, spanning 60 square meters, is a compact yet fully equipped space. It includes a private pool, a daybed, and a bed strategically positioned for enjoying the sea view while lying down. Whether you prefer to relax on the bed or take a stroll down to the pool, the Panoramic Pool Villa offers a condensed version of luxury living. The main distinction is that it doesn’t have the two-level layout found in the Panoramic Duplex Pool Villa.

During the afternoon, a complimentary High Tea is served for guests staying in the villa zone at Bandara Villas Phuket. The High Tea includes local Phuket delicacies that are not commonly found elsewhere. It is accompanied by fragrant floral tea. Each dessert is beautifully presented and perfect for capturing photos, but the key highlight is the delicious taste and meticulous craftsmanship. Every piece is a delightful experience. A special addition is the jackfruit sticky rice, and Oh-Aew, a traditional Phuket dessert made from ripe watermelon. It’s peculiar that there’s no banana flavor in Oh-Aew, as it is made from ripe watermelon, but what makes it extraordinary here is the inclusion of lychee, adding a refreshing touch to counter the heat. It’s truly impressive and captivating.

Nearby, there is a newly opened cafe called Flamingo, just a short walk along the beach from Bandara Villas Phuket. Alternatively, you can request a buggy ride for convenience. This open-air cafe offers a comfortable atmosphere by the sea. It is located in front of Bandara Beach Phuket, which is part of the same hotel group. Flamingo Cafe follows a tropical rustic style, providing all-day dining with a lunch menu served a la carte. In the evening, you can enjoy a dinner under the candlelight or simply relax with drinks. The cafe, adorned with the iconic flamingo symbol, adds a playful touch with pink flamingo details in its decoration. A recommended beverage is the Mango Flamingo, a refreshing and delightful choice that might make you want to order a second glass.

“The recommended dishes are the delicious flat noodles with crab curry and cha phlu leaves, as well as the home-style turmeric soup with free-range chicken.

The sea in the Panwa zone is calm and tranquil, providing a serene and undisturbed atmosphere. The sandy beach is wide and long, perfect for leisurely water activities.

You can arrange a special dinner table for the occasion. The menu we had for dinner today includes new dishes from Flamingo, namely Seared Tuna and Tiger Prawn Caponata, both made with fresh and high-quality ingredients.

Having arrived at Flamingo, I took a quick peek at the accommodations of Bandara Beach Phuket, which is in the same location. It’s a seaside accommodation with budget-friendly prices. I must say that the swimming pool with a beautiful view is equally impressive as the one at Bandara Villas. The rooms are compact and decorated with a sea theme, featuring white, blue, and orange tones. There’s also a fitness center available here. It seems like a suitable option for those seeking high-quality accommodation at an affordable price right by the sea.

For those who are not morning persons and tend to skip breakfast at hotels, I have to say you’re missing out, especially at Bandara Villas. The breakfast there is truly fantastic – delicious and extremely diverse. It is served a la carte, with not overly large portions so that guests can try various dishes. We ordered quite a bit, but ended up finishing everything. In fact, there are even more options available. I highly recommend trying their three standout dishes: fish porridge, Bak Kut Teh, and stir-fried noodles with crab. These three dishes are absolute must-tries.

The Line will be a mini-buffet, not overly spacious, but densely packed with quality. The dining area, named Samudra, offers a pleasant atmosphere where you can enjoy your meal while taking in the delightful sea view – truly a joyful experience.

♥ Additional Information ♥
❀ Location: 96 Moo 8, Tambon Wichit, Amphoe Mueang Phuket, Phuket 83000, Thailand
❀ Tel: +66 (0) 7631 6298
❀ Line: @bandaravillas (https://line.me/ti/p/@bandaravillas)
❀ E-mail: rsvn@bandaraphuket.com
❀ Website: www.bandaragroup.com/bandara-villas-phuket
❀ Facebook: Bandara Villas, Phuket
❀ IG: bandaravillasphuket

» Review by www.hotelandresortthailand.com

Escape the hustle and bustle to a warm retreat with the incredibly tranquil atmosphere of “Nana Resort” located near Khao Krajom. Immerse yourself in the peaceful ambiance, cool flowing streams, and the proximity to charming ducks and beautiful butterflies amidst nature. The resort is situated along the meandering Mae Nam Phetch River, providing a truly relaxing experience. You can truly feel the essence of relaxation in the midst of nature. Every now and then, as bamboo rafts carrying flowers pass by, we can’t help but wave and smile at each other. It’s indeed a very special day of relaxation.

“Nana Resort” is surrounded by panoramic views of lush mountains, adorned with abundant flowers and trees. Along the pathways, a flowing stream adds a refreshing touch, while beautiful butterflies flutter throughout the resort. Additionally, the resort offers a variety of fun activities, ensuring there’s never a dull moment. From kayaking and water slides in the pool to the abundance of natural beauty, one can also observe elusive ducks that are not easily spotted elsewhere.

The irresistible charm of the resort extends to its adorable café, a spot not to be missed. Even those who haven’t stayed at the resort often find themselves drawn to this quaint café. Besides offering delicious beverages and pastries, what makes it truly unique is the presence of a diverse array of butterflies, in different colors and sizes, flying around the resort area. This distinctive feature has given the café its name, “nabi café.” Visitors can choose to sit inside the café, outside along the riverbank, or even at tables in the midst of the water park.

Whenever the hot season arrives, most people inevitably think of popular places like Hua Hin. This year, we’d like to recommend Resort De Paskani, a small yet charming hotel in the Khao Takiab area. It’s a hotel that is compact but filled with adorable charm in the Khao Takiab neighborhood. It’s a place where you can easily capture pictures in every corner. The journey is not difficult, and just a few steps outside the hotel, you can easily come out and stroll along the sandy beach.

I must say that Resort De Paskani creates a lasting impression right from the entrance. The distinctive mural on the walls, crafted by a local artist from Hua Hin, immediately captures attention. The resort’s interior is adorned with the ambiance of a traditional fishing village, inspired by the Mediterranean Sea. As you stroll through, the pathway is adorned with a refreshing touch of marine life, and the vibrant blue sky mingling with pink bougainvillea adds to the lively atmosphere.

Moreover, the central area of the hotel features a large swimming pool, evoking a sense of relaxation akin to a tropical seaside retreat. It almost feels like you’ve taken a short international vacation without venturing too far. The overall design, blending local artistry with coastal elements, makes Resort De Paskani a delightful and rejuvenating escape amidst the warmth of a tropical setting.

Chiang Mai, this province holds a special place in our hearts. Tired of beach trips, we decided to explore the mountains instead. Before heading up, we thought of having some fun and decided to spend a day exploring before hitting the waterfalls. The Grand Morocc Hotel seemed like the perfect fit for our adventurous and romantic getaway this time. Situated in Mae Rim district, not far from attractions like Mae Sa Waterfall, Queen Sirikit Botanic Garden, Wat Pa Daraphirom, Khuem Suea and the Snake Farm, it appears to be the top destination in Mae Rim. These attractions are all within a 10-minute drive from the hotel.

The highlights of The Grand Morocc Hotel that attract attention for accommodation include the provision of Arabian-style clothing services. There are various designs, colors, and styles to choose from, including accessories that can be mixed and matched according to personal preferences. This service is complimentary for guests, but if you wish to opt for a more grandiose style, it is also available with an additional cost. For us, the ample variety provided was satisfying enough. The experience of selecting and wearing these outfits was truly enjoyable, as it’s not something we usually do in our daily lives, adding a bit of excitement to our stay.

Once you’ve selected the outfit you want to wear, you can explore various points within the hotel for photo opportunities. The Grand Morocc is an inspiring accommodation that draws its design and decor inspiration from Moroccan Style art, blending influences from Islamic, Spanish, French, African, and Persian cultures into a distinctive Moroccan style. The interior atmosphere of the hotel is rich with vibrant colors, detailed decorations, and an enchanting overall ambiance.

Anyone planning to visit Kanchanaburi, read this review first. We’ll take you to explore the coolest and trendiest accommodation, The Tryst River Kwai. Located in a serene setting by the quiet little Kwai River, the design is sleek and unparalleled. The Tryst River Kwai is the hottest accommodation spot, almost always fully booked, so make sure to reserve well in advance.

The Tryst River Kwai is located in the Sai Yok District, not far from Sai Yok Waterfall. It’s easy to find using GPS, but you might find the entrance a bit confusing. However, reaching there is not too difficult. The accommodation is a small-sized resort, and upon entering, you’ll find a lobby and a dining area. The rooms are scattered along the slope, with the lower ones situated right by the riverside.

The lobby serves as both the check-in point and the dining area. The atmosphere is comfortable, resembling a café. Sitting here, you can enjoy a pleasant view of the river.

The highlight of The Tryst River Kwai is not just in its main facilities but in the distinctively decorated rooms, each showcasing a cool and unique design. Each room type features its own distinctive decor. The room I stayed in is called ‘Panoramic River Scene,’ located at a corner, offering a wide-angle view of the meandering river. The bathroom is particularly stylish, featuring a bathtub. It’s a comfortable and convenient stay, with a soft bed and bedding.

On the other side, we have the ‘River Scene (Pool View)’ room. The room has a similar design, but on this side, you can enjoy a view of the central pool.

This room type is called ‘Pool Garden.’ It comes with a small private pool on the balcony, though the view might not be a complete water view. You can catch a partial glimpse from certain angles. This room provides a private and relaxing atmosphere. The interior is styled in a small, chic loft with a semi-industrial feel. The bed comes in both twin and double configurations.

This room is incredibly hot! It’s newly built, and if you want to stay, I recommend booking two months in advance to ensure you get a room for real. It’s a small villa with a private pool and a slight barrier for added privacy. The villa is strategically situated away from the other accommodations. Inside, it’s luxurious and comes with a private pool, a bathtub, a Riverstone, and a sitting area for relaxation and private dining. This room also features a small private outdoor space where you can enjoy a barbecue.

Now, this is cool! This accommodation is flexible and caters to various preferences. The room you mentioned, ‘River Scape,’ follows a cabin-style design. Although the room size is not overly spacious, it offers a view of the river from a higher vantage point.

The ‘Panoramic River Vibe’ room, located on the river, is designed to be flexible and can accommodate additional guests. It is suitable for families or groups of friends, offering a wide view of the river and a private pool.

And the ‘See Through’ room, in this one, the bathroom is nearly as spacious as the bedroom itself.

The resort also features a small animal farm with adorable ducks and chickens, creating engaging activities for children.

The shaded grassy area is the perfect spot to relax and enjoy the breeze while taking in the views. It’s a cozy and cool spot, and they sometimes organize small events with a vibrant atmosphere. I really like it!

Here, they offer barbecue services either at the central riverside grassy area or you can opt for a set-up directly on the terrace. The terrace has low tables and comfortable seating, creating a relaxed atmosphere. They have both large and small barbecue sets available. I chose the small set for 2-3 people at 650 Baht. The marinated meat was excellent, and the dipping sauce was delicious. Highly recommend trying it; it’s worth it. The atmosphere is also fantastic!

Don’t forget to wake up early and catch the morning mist; it’s a matter of luck whether there’s a lot or just a little. Unfortunately, during my stay, the mist was quite sparse, but it still created a beautiful atmosphere.

To conclude, the breakfast is served in an a la carte buffet style. You can order main dishes individually, and additional orders are allowed. As for the side items like bread, fruits, beverages, and the option to make your own pancakes, they are all readily available for self-service. It would be even better if there were more diverse options, but the presentation is beautifully done. Sometimes, you just have to appreciate the beauty.

♥ Additional Information ♥
❀ Location: 191/1 Moo 2, Wang Krajae Sub-district, Sai Yok District, Kanchanaburi 71150
❀ Tel: 082-0742060
❀ Line ID: @Thetrystriverkwai https://lin.ee/kphPxcn
❀ Website: www.thetrystriverkwai.com
❀ Facebook: The Tryst River Kwai
❀ IG: thetryst.riverkwai

» Reviewed by www.hotelandresortthailand.com