น้ำตกเหวสุวัต อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

น้ำตกเหวสุวัตเป็นน้ำตกยอดฮิตที่คนมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ต้องขับรถแวะเวียนมาเยี่ยมชม เรียกว่าเป็นน้ำตกดังที่ขึ้นชื่อคู่กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาช้านาน ดังนั้นเที่ยวเขาใหญ่จะพลาดไม่มานั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างไร น้ำตกเหวสุวัตสามารถเดินทางมาได้ตาม gps นี้
https://maps.app.goo.gl/pALhJaYdc6QsAacaA

น้ำตกเหวสุวัติเป็นน้ำตกหินภูเขาไฟ สายน้ำมีขนาดใหญ่ไหลแรงกระแทกใจ น่าถ่ายรูป โดยน้ำที่ไหลนั้นมาจากห้วยลำตะคอง หากขับรถมาตาม gps แล้วไม่หลงแน่นอน จากลานจอดรถเดินไปตัวน้ำตกแค่ 100 เมตรก็ถึงแล้ว เป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเพราะเที่ยวง่ายเที่ยวสบาย แถมยังสวยงามอีกด้วย ช่วงฤดูฝนน้ำจะมีกระแสแรงไหลผ่านหน้าผาที่สูงประมาณ 20 เมตรลงสู่ด้านล่างจนกลายเป็นแอ่งน้ำ สามารถเล่นน้ำได้น้ำตกเหวสุวัตยังมีหลายมุมมองให้ถ่ายภาพ ทั้งมุมชมภาพจากเบื้องสูงที่มองเห็นน้ำตกเหวสุวัตในภาพรวม หรือมุมแอ่งน้ำด้านล่างที่ลงไปเล่นน้ำ หรือนั่งพักผ่อนริมน้ำตกได้

ส่วนช่วงหน้าแล้งน้ำมีปริมาณน้อย น้ำจะลดลง น้ำตกก็มีขนาดสายน้ำเล็กลงจนมองเห็นโพรงถ้ำหลังน้ำตก สามารถเดินเข้าไปชมได้สำหรับคนที่ชอบเดินป่าถูกใจสิ่งนี้ เพราะการเดินทางไปน้ำตกเหวสุวัติจะต้องผ่านเส้นทางธรรมชาติ ที่สภาพป่าเป็นป่าดงดิบชื้นสลับป่าดงดิบแล้ง ระหว่างนี้นอกจากพันธุ์ไม้แปลกๆหาดูได้ยาก บางครั้งก็อาจพบเห็นสัตว์ป่าได้ตลอดทาง เส้นทางการเดินทางไปยังน้ำตกเหวสุวัติยังเชื่อมระหว่างผากล้วยไม้ น้ำตกเหวไทร และน้ำตกเหวประทุน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
โทร : 086 092 6527

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

📍5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

📍รวมมิตร 10 น้ำตกสุด cool !! ใกล้กรุง ขับรถไปได้ง่ายนิดเดียว

📍เกาะเต่า .. เกาะเล็กๆ แต่เสน่ห์ล้น ♥♥

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

น้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

น้ำตกเหวนรกน้ำตกอะไรกันนี่ชื่อน่ากลัว อย่ากลัวค่ะอย่ากลัว มันเป็นเพียงแค่ชื่อ ที่ได้ชื่อนี้มาเพราะน้ำตกเหวนรกนี้มีความสูงชันและกระแสน้ำที่ไหลแรง ซึ่งเพราะเหตุนี้แหละค่ะจึงทำให้น้ำตกเหวนรกได้ชื่อเป็นน้ำตกสุดยิ่งใหญ่อลังการประจำอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลยทีเดียว น้ำตกเหวนรกเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยสูงประมาณ 150 เมตร น้ำจะไหลลงสู่ผาที่มีความลาดชันเหมือนน้ำตกลงเหว น้ำตกเหวนรกจึงไหลแรงและเชี่ยว ซึ่งทางอุทยานไม่อนุญาตให้เล่นน้ำนะคะ เพราะมีความอันตราย การมาที่นี่จึงได้แต่เพียงมาชมความยิ่งใหญ่ซึ่งก็คุ้มค่าแล้วค่ะ

การเดินทางมาตาม gps นี้เลย
https://maps.app.goo.gl/k9jhi7pmEri3GuuV6

หรือว่าจะเสิร์จอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็ได้ค่ะ
https://maps.app.goo.gl/7Pa1BRzy7SrPDwmf7

ในอดีตต้องเดินเท้าเท่านั้นนะคะ แต่ปัจจุบันทางอุทยานก็ได้จัดทำที่จอดรถที่ใกล้น้ำตกมากขึ้นเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวค่ะ โดยน้ำตกเหวนรกอยู่ห่างจากจุดบริการนักท่องเที่ยวประมาณ 23 กิโลเมตร ส่วนลานจอดรถก็เดินไปเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ซ่าๆได้ยินเสียงน้ำตกทักมาแต่ไกลแสดงว่าเราเข้าใกล้ตัวน้ำตกมากๆแล้ว น้ำตกเหวนรกมีทั้งหมด 3 ชั้นค่ะ แต่เปิดให้เข้าชมเพียงชั้น 1 เท่านั้น คาดเดาว่าอาจจะเพราะน้ำตกสูงชันจึงค่อนข้างอันตราย เข้าไปอ่านในเวบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีบอกไว้ว่า บริเวณน้ำตกเป็นถิ่นหากินของช้างป่ามีช้างพลัดตกเหวอยู่บ่อยๆ เคยมีช้างป่าแม่ลูกพลัดตกลงมา 8 ตัว และเมื่อไม่กี่ปีผ่านมานี้ก็มีอีก 11 ตัว น้ำตกเหวนรกนี้จึงมีชื่อเรียกกันเล่นๆว่าสุสานช้าง

ระหว่างทางเดินไปน้ำตกจะมีลงบันไดด้วยราว 50 เมตร ค่อนข้างชันนะคะ ใส่ผ้าใบจะดีที่สุดป้องกันการลื่นไถล ฤดูกาลที่น่ามาเที่ยวคือช่วงปลายฤดูฝนระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม น้ำตกจะไหลแรงเป็นกระแสน้ำขนาดใหญ่สวยงามอลังการ ระหว่างการเดินเท้าไปสู่น้ำตกจะเห็นเห็ดแชมเปญระหว่างทาง สีสันสดใสน่ารักแบบในการ์ตูนเลยล่ะ หากอยากเห็นแสงแดดสะท้อนน้ำตกเป็นสายรุ้งวิ้งวับแนะนำให้ไปตอนสิบโมงเช้าค่ะ

เปิดให้บริการ 08:00-18:00 น.
โทร. 0 3731 2282, 0 3731 2284, 0 3731 5664

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

📍5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

📍รวมมิตร 10 น้ำตกสุด cool !! ใกล้กรุง ขับรถไปได้ง่ายนิดเดียว

📍เกาะเต่า .. เกาะเล็กๆ แต่เสน่ห์ล้น ♥♥

 

 

📍 ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.khaoyainationalpark.com/

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

น้ำตกเก้าโจน

เที่ยวน้ำตกทีไรเติมความสดชื่นสดใสได้ทุกที วันนี้ต้อนรับหน้าร้อนที่กำลังใกล้เข้ามา เราขอพาไปทำความรู้จักกับน้ำตกเก้าโจน น้ำตกที่มาออกจะลึกลับแต่ขอย้ำว่าแค่ในอดีตเท่านั้น ปัจจุบันนี้ความงามของน้ำตกเก้าโจนได้เปิดเผยสู่สายตานักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติแล้วค่ะ น้ำตกเก้าโจนตั้งอยู่ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี แต่เดิมเป็นน้ำตกที่ซ่อนตัวเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี มีเพียงชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงเท่านั้นที่รู้จัก ที่ชื่อว่าน้ำตกเก้าโจนก็เพราะว่าน้ำตกมีทั้งหมด 9 ชั้น ลักษณะของน้ำตกเป็นหินผาเวลาน้ำไหลลงมาก็เหมือนกระโจนลงมาจากผานั่นเอง ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นจุดขายของน้ำตกเก้าโจน เนื่องด้วยหินบริเวณน้ำตกเก้าโจนเป็นหินอัคนีและหินแกรนิต ซึ่งเป็นหินที่มีลักษณะแข็งยากที่สายน้ำจะกัดเซาะ เวลาน้ำตกลงจากโขดหินก็จะมีลักษณะเหมือนน้ำตกแบบกระโจนลงมาค่ะ

การเดินทางไปน้ำตกเก้าโจนสามารถเดินทางไปได้ตาม gps ดังนี้ค่ะ
https://maps.app.goo.gl/qMstiCaUKA8zykAu8

สำหรับการเตรียมตัวเดินทางเพื่อจะไปเที่ยวน้ำตกเก้าโจนอาจจะต้องเตรียมความพร้อมสักหน่อย เพราะค่อนข้างเดินเยอะค่ะ ใส่รองเท้าผ้าใบไปจะดีมาก เตรียมน้ำเตรียมขนมไปสักหน่อย แต่ไม่ต้องเยอะมากนะคะ เดี๋ยวหนักแบกไม่ไหวกลายเป็นภาระไปอีก ร้านค้าร้านอาหารแถวนั้นมีนิดหน่อยค่ะ ตัวเลือกไม่หลากหลาย น้ำตกเก้าโจนมีทั้งหมด 14 ชั้นนะคะ แต่ว่าเปิดให้เที่ยวชมเพียง 1-9 ชั้นเท่านั้น

พอไปถึงให้จอดรถที่ลานจอดรถเลย และเดินไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึง บริเวณน้ำตกชั้นล่าง ระยะทางจากชั้น 1-9 จะมีระยะทางทั้งหมด 2 กิโลเมตร แต่ก็เป็น 2 กิโลเมตรที่ไม่ได้ราบเรียบนะคะ แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากมาก ใช้ระยะเวลาการเดินทางจากชั้นแรกถึงชั้นสุดท้ายทั้งหมดประมาณ 2.30 ชั่วโมงสำหรับเดินขึ้นและเดินลงอีก 40 นาที

ซึ่งหากใครอยากเที่ยวชมให้ครบทุกชั้นก็จะต้องเริ่มต้นเช้าหน่อยค่ะ แต่หากขอแค่กรุบกริบพอเดี๋ยวเหนื่อยเกิน เราขอแนะนำว่าให้ไปถึงชั้น 6 ก็พอค่ะ เพราะน้ำตกชั้นนี้สวยที่สุดเป็นไฮไลท์ น้ำจะเยอะไหลแรงจากโขดผากระทบโขดหิน สวยมากเลยค่ะ และระหว่างชั้นที่ 5-6 ก็มีสะพานข้ามธารน้ำตกด้วย สะพานนี้เชื่อมระหว่างโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา และสามารถไปต่อถึงธารน้ำร้อนบ่อคลึงได้

การปีนเที่ยวน้ำตกเก้าโจนสามารถทำได้แบบไปกลับในวันเดียวสบายๆ จุดถ่ายรูปเยอะ เดินเพลินๆก็ไม่ถึงกับเหนื่อยเท่าไหร่คะ อาจจะเพราะอากาศไม่ร้อนด้วย แต่ไหนๆก็มาแล้วหากอยากได้ฟีลแคมป์ปิ้งก็ควรขึ้นให้ครบ 9 ชั้นไปเลย อยู่นานๆไม่รีบกลับ แนะนำเที่ยวแบบเอาเต็นท์ไปกางพักผ่อนลัดเลาะริมน้ำตก

อัตราค่าเข้าน้ำตกเก้าโจน 20 บาทสำหรับรถยนต์ 10 บาทรถจักรยานยนต์ และ 100 บาทรถบัสใหญ่

เวลาเปิดให้บริการ 08:00 น.-16:30 น. เปิดให้บริการทุกวัน

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

📍5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

📍รวมมิตร 10 น้ำตกสุด cool !! ใกล้กรุง ขับรถไปได้ง่ายนิดเดียว

📍เกาะเต่า .. เกาะเล็กๆ แต่เสน่ห์ล้น ♥♥

 

📍 ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ขับรถไม่หลงอุทยาน มีแอพ Take a Rest มีแต่จะหลงรัก

สํานักอุทยานแห่งชาติ โดยศูนย์เฝ้าระวังภัยคุกคามพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ได้ดําเนินการจัดทําโครงการ “ Take a REST” (นําทางไปบ้านพักอุทยานแห่งชาติ) โดยได้ดําเนินการระบุพิกัดของบ้านพักในอุทยานแห่งชาติทุกแห่งที่อยู่ในระบบการจองที่พักอุทยานแห่งชาติออนไลน์ พร้อมรูปภาพและรายละเอียด (โครงการดังกล่าวไม่ใช้งบประมาณแต่อย่างใด)นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาข้อมูลอุทยานแห่งชาติด้านต่างๆ พร้อมที่พักได้ที่เว็บไซต์สํานักอุทยานแห่งชาติ https://portal.dnp.go.th/p/nationalpark ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้

  1. เข้าสู่เว็บไซต์ สำนักอุทยานแห่งชาติ https://portal.dnp.go.th/p/nationalpark เลือกหัวข้อ “อุทยานแห่งชาติ” และเลือกเมนู “ข้อมูลอุทยานแห่งชาติ”
  2. เลือกอุทยานแห่งชาติที่ต้องการ โดยข้อมูลจะแบ่งตามรายภาคและรายจังหวัดตามลำดับ เมื่อเลือกอุทยานแห่งชาติที่ต้องการ จะพบข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลที่ตั้ง อัตราค่าบริการ และรายชื่อบ้านพักจะอยู่ด้านท้ายของเว็บไซต์
  3. เลือกบ้านพักที่ต้องการ จะพบข้อมูลเกี่ยวกับบ้านพัก Icon นำทางไปบ้านพัก และภาพถ่ายบ้านพัก ทั้งภายนอก ภายใน
  4. กด Icon นำทางไปบ้านพัก พร้อมเปิดระบบ GPS บน Smart Phone เพื่อเข้าสู่ Application การนำทาง

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย น้ำตกเจ็ดชั้น กับสวรรค์ชั้นเจ็ดที่สระบุรี

น้ำตกเจ็ดสาวน้อยน้ำตกชื่อดัง กับชื่อน่ารักๆมุ้งๆมิ้งๆ ร้อนนี้ต้องดับร้อนด้วยความเย็นสดชื่นจากฟองละอองที่สาดกระเซ็นของกระแสน้ำกันค่ะ

น้ำตกเจ็ดสาวน้อยตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย โดยเป็นอุทยานขนาดใหญ่มีพื้นที่กว่า 26000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยมีน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเป็นไฮไลท์ค่ะ นักท่องเที่ยวจะชอบมาพักผ่อนหย่อนใจบริเวณน้ำตกเจ็ดชั้นแห่งนี้ เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ที่เขียวขจีและร่มรื่นตลอดทั้งปี อีกทั้งน้ำตกก็เล่นน้ำได้ไม่เชี่ยวกราก น้ำตกเจ็ดสาวน้อยมีทั้งหมด 7 ชั้น และชั้นจะมีความสูงประมาณ 2-5 เมตร ชั้นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ไปแช่เล่นคือชั้นที่ 4 เพราะเป็นแอ่งน้ำที่กว้างและร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และตัวน้ำตกก็ดูสวยกว่าชั้นอื่นๆ ส่วนชั้นที่ดูจะอันตรายกว่าชั้นอื่นบ้างนิดหน่อยคือชั้นที่ 3 เพราะมีแอ่งน้ำลึกอยู่บางจุด สำหรับฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อยมากที่สุดคือเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เพราะเป็นช่วงหน้าแล้งและหน้าร้อนไม่มีฝน น้ำจะใสสะอาดไม่ขุ่น ไม่ไหลเชี่ยว

นอกจากน้ำตกแล้วในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้ทำเช่น จุดกางกางเต็นท์ลานนับดาว บรรยากาศฟินๆเย็นๆ กางเต็นท์ฟังเสียงน้ำตกไหล สามารถ walk in ได้ อัตราค่าให้บริการ 30 บาท/คน/คืน ทางอุทยานมีเต็นท์ให้เช่าด้วยราคา  225 บาท/ หลัง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกนอกจากห้องน้ำรวมก็มีจุดบริการให้ชาร์จแบต แต่ไม่สามารถให้พ่วงไฟได้

หรือหากไม่อยากพักเต็นท์ก็มีบ้านพักของอุทยานให้บริการค่ะ สามารถเข้าไปเช็คได้ที่ https://datacenterdnp.wixsite.com/nationalparkthailand/blank-24

และด้วยความกว้างใหญ่ของพื้นที่อุทยาน ทางอุทยานจึงได้จัดทำ map gps สามารถนำทางไปยังที่พักที่จองไว้ได้เลยค่ะ

ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้

  1. เข้าสู่เว็บไซต์ สำนักอุทยานแห่งชาติ https://portal.dnp.go.th/p/nationalpark เลือกหัวข้อ “อุทยานแห่งชาติ” และเลือกเมนู “ข้อมูลอุทยานแห่งชาติ”
  2. เลือกอุทยานแห่งชาติที่ต้องการ โดยข้อมูลจะแบ่งตามรายภาคและรายจังหวัดตามลำดับ เมื่อเลือกอุทยานแห่งชาติที่ต้องการ จะพบข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลที่ตั้ง อัตราค่าบริการ และรายชื่อบ้านพักจะอยู่ด้านท้ายของเว็บไซต์
  3. เลือกบ้านพักที่ต้องการ จะพบข้อมูลเกี่ยวกับบ้านพัก Icon นำทางไปบ้านพัก และภาพถ่ายบ้านพัก ทั้งภายนอก ภายใน
  4. กด Icon นำทางไปบ้านพัก พร้อมเปิดระบบ GPS บน Smart Phone เพื่อเข้าสู่ Application การนำทาง

วิธีการเดินทางไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
https://maps.app.goo.gl/QFop9RzvMXEfKmVp8

สำหรับอัตราค่าบริการอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยคือ 20 บาท/คน และ 10 บาทสำหรับเด็ก ส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าฟรี หากนำรถยนต์มาจะเสียค่าเข้า 30 บาท มอเตอร์ไซต์ 20 บาท

อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08:30-16:30 น.

โทร 036-344416

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

📍5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

📍รวมมิตร 10 น้ำตกสุด cool !! ใกล้กรุง ขับรถไปได้ง่ายนิดเดียว

📍เกาะเต่า .. เกาะเล็กๆ แต่เสน่ห์ล้น ♥♥

 

 

📍 ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ Facebook: อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย Namtok Chet Sao Noi National Park

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

น้ำตกวังตะไคร้

หนึ่งในที่เที่ยวยอดนิยมแบบที่ใครมานครนายกก็ต้องแวะ นั่นก็คือน้ำตกวังตะไคร้นั่นเอง หากขับรถจากกรุงเทพฯก็เป็นระยะทางเพียง 120 กิโลเมตรเท่านั้น โดยตั้ง google map มาตามนี้เลย
▶ https://maps.app.goo.gl/cDEqiZfpDZ5pgBzN6

เพียงหนึ่งชั่วโมงกว่าๆก็ได้ออกจากป่าคอนกรีตสู่ป่าธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ปูเสื่อนอนเล่นใต้ต้นไม้ เอาอาหารไปทานด้วยฟีลปิกนิคก็สนุกไปอีกแบบ อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าสำหรับเล่นน้ำไปด้วยหล่ะ

น้ำตกวังตะไคร้เป็นน้ำตกที่อยู่ในพื้นที่อุทยานวังตะไคร้ ซึ่งตัวอุทยานวังตะไคร้ที่พื้นที่กว่า 1500 ไร่ ดันนั้นใครมาไม่ได้มีเพียงน้ำตกให้เล่นน้ำเท่านั้น ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกด้วย ตัวน้ำตกไม่ได้เป็นแบบเขาสูงที่น้ำตกลดหลั่นสลับซับซ้อน แต่จะเป็นลักษณะน้ำตกที่มีหินลาดเล็กๆและลักษณะของน้ำจะเป็นลำธารสายยาว เหมาะกับการลงเล่นน้ำ หรือล่องแก่ง น้ำไม่เชี่ยวเท่าไหร่ค่ะ โดยกิจกรรมที่นิยมมากคือล่องแก่งแพยางรถยนต์ โดยมีลำธารให้เลือกเล่นถึงสองสาย แต่ละสายก็มีจุดเด่นสนุกกันคนละแบบ ทริคคือควรเลือกห่วงยางให้เหมาะกับรูปร่างของผู้เล่นค่ะ ตอนที่ไปเลือกห่วงยางก็จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำ สำหรับราคาเช่าห่วงยางคือ 20 บาท เช่าได้ตลอดทั้งวัน

สำหรับใครที่อยากออกกำลังสักหน่อยก็ไปปั่นจักรยานกันค่ะ พื้นที่อุทยานกว้างๆมีทางโล่งๆให้ปั่นจักรยาน หรือวิ่งจ๊อกกิ้งก็ได้

เดินชมสวนพฤกษศาตร์วังตะไคร้ก็ได้นะ สวนเขาจัดไว้สวยร่มรื่นเชียว เป็นเส้นทางธรรมชาติที่จะได้เห็นพันธุ์ไม้หลายชนิด ทั้งไม้ผล ไม้มงคล และต้นไม้ในวรรณคดี

อยากโหดหน่อยก็มาฐานกิจกรรมหน่วยรบพิเศษ 10 ฐาน ไม่มีค่าบริการด้วย

1.ข้ามกำแพง 3 ฟุต

2.ข้ามหลังคาอกไก่

3.ข้ามกำแพง 5 ฟุต

4.กระโดดหลบหลุมระเบิด

5.โหนตัวข้ามคูน้ำ

6.สะพานข้ามลำน้ำ

7.แท่นกระโดด 5 ฟุต

8.ปีนข้ามตาข่าย

9.กระโดดหัวตอ

10.สะพานโยกเยก

สำหรับที่พักที่ก็มีบ้านพักของอุทยานให้บริการด้วยนะคะ ที่พักอุทยานวังตะไคร้ http://www.wangtakrai.com/accom/accom.html

หรือหากนำเต็นท์มาได้ฟีลผจญภัยให้เต็มรูปแบบที่อุทยานเค้าก็มีลานกางเต็นท์ให้ด้วย ซึ่งค่าบริการสำหรับลานกางเต็นท์จะอยู่ที่ผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท

หากอยากพักโรงแรมก็มีให้บริการค่ะ จะใส่ Link หรืออะไรดี

หากใครขับรถมาก็ขับรถเข้าไปชมบริเวณอุทยานได้เลย โดยเก็บค่าผ่านประตูคันละ 150 บาท ราคานี้ผู้โดยสารไม่เกิน 8 คนเหมาะจ่าย เกินจากนี้เก็บเพิ่มคนละ 10 บาท อุทยานวังตะไคร้เปิดให้บริการทุกวันนะคะ เริ่ม 8.00-18.00 น.

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

📍5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

📍รวมมิตร 10 น้ำตกสุด cool !! ใกล้กรุง ขับรถไปได้ง่ายนิดเดียว

📍เกาะเต่า .. เกาะเล็กๆ แต่เสน่ห์ล้น ♥♥

 

 

 

 

📍 ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ Facebook: อุทยานวังตะไคร้ นครนายก

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ใครมีแล้วบ้าง พาสปอร์ตอุทยาน

กรมอุทยานแห่งชาติฯ จัดแคมเปญ ประทับตราหนังสือพาสปอร์ตอุทยานฯ ครบทุกแห่ง เข้าฟรี 1 ปี พักฟรี 2 ครั้ง

เริ่มเลอ!! สายเขียวงานเข้า คนรักธรรมชาติจะชีพจรลงเท้า ได้เวลาตระเวนสะสมตราประทับอุทยานแห่งชาติทั่วไทย 156 แห่ง ใครเก็บได้ครบจะได้ความภาคภูมิใจเป็นที่ซู้ดดดดดด และได้ตราประทับพิเศษในหน้าสุดท้ายว่าเจ้าคือ “สุดยอด นักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ”

ของรางวัลที่ได้หากสะสมตราประทับครบ 156 แห่ง

1.ของที่ระลึก พร้อมทั้งลายเซ็นของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

2.บัตรประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ มีเงื่อนไข เช่น

2.1 ยกเว้นค่าบริการสำหรับบุคคลและการนำยานพาหนะ ในการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน สำหรับผู้มีชื่อบนบัตร และยานพาหนะ 1 คัน โดยใช้สิทธิ์ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันออกบัตร

2.2 ยกเว้นค่าตอบแทนที่พักอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน จำนวน 1 หลัง หลังละไม่เกิน 4 คน ใช้สิทธิ์ได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 คืน ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันออกบัตร

2.3 โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำหนด สามารถขอรับสิทธิ์ได้ที่สำนักอุทยานแห่งชาติ โทรสายด่วน 1362

สำหรับพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ หรือ หนังสือเดินทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ (Passport to Thailand National Parks) หาซื้อได้ที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ราคา 100 บาท โดยเป็นหนังสือเล่มขนาด 3 x 5 นิ้ว สีเขียว ที่จะมีการให้ความรู้ กฎระเบียบ ข้อควรปฏิบัติการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติอยู่ภายในเล่ม พร้อมการสะสมตราประทับจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ 156 แห่ง ทั่วประเทศ

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

📍5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

📍รวมมิตร 10 น้ำตกสุด cool !! ใกล้กรุง ขับรถไปได้ง่ายนิดเดียว

📍เกาะเต่า .. เกาะเล็กๆ แต่เสน่ห์ล้น ♥♥

 

📍 ขอขอบคุณรูปภาพจาก เพจ Facebook: กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

Golden Jomtien Beach Hotel is a beautiful seaside accommodation with a large pool, featuring a stunning sea view and charmingly attractive prices.

If you’re looking for beachfront accommodation in Jomtien that is new, clean, and budget-friendly, look no further than Golden Jomtien Beach Hotel. This newly renovated resort is located right by the beach, just off the main road. This review will take you to explore the value and comfort offered by Golden Jomtien Beach Hotel.

Golden Jomtien Beach Hotel is a high-rise hotel-style accommodation situated in the bustling area of Jomtien Beach, surrounded by restaurants and shopping venues. Functioning as a city hotel with a semi-resort feel, the hotel has undergone recent renovations to create an atmosphere that emphasizes a more lifestyle-oriented approach to relaxation. The additions include photo spots, a waterslide, a swimming pool, and a café.

The rooms start from the Studio category, providing both single and double bed options. The standard hotel amenities are available, including a television, refrigerator, minibar, and bath products.

The Premium Suite is designed in a contemporary style with a blend of Chinese influences. The room is decorated in a white-cream color scheme, creating a clean and visually appealing atmosphere. The bed is soft and inviting, with clean and fragrant beddings and pillows. The bathroom features a bathtub for a luxurious bathing experience. Additionally, there is a balcony for enjoying the view.

The Thray Thong Suite is the most luxurious accommodation in the hotel. Inside, the room is spacious and well-lit, featuring a relaxing sofa and a complete television set. The bedroom and bathroom are seamlessly integrated into the suite, providing a sense of elegance. Additionally, there is a wide balcony offering a stunning sea view, enhancing the overall experience of the suite.

The swimming pool features a waterslide and a jacuzzi. Although the pool may appear compact, its length provides ample space, avoiding a crowded feel. The design incorporates distance, allowing for a spacious and relaxed atmosphere. There is a poolside bar and seating area, enhancing the overall enjoyment of the pool.

The fitness center is well-equipped with a variety of exercise tools and equipment.

The hotel features a landscaped garden and a dedicated children’s play area for guests to enjoy.

In the evening, if you don’t plan to dine outside, the hotel provides dining services.

In the lobby area, there is a floating lounge designed for coffee shopping, where guests can relax, chat, or order drinks.

The breakfast buffet offers a varied menu that changes daily, featuring both Thai and American breakfast options.

If you’re looking for value, new and clean accommodations in a prime location in Pattaya, Golden Jomtien Beach Hotel is another place that will impress you. Especially suitable for families, as there is a small water park for children to enjoy, and there are also relaxation spots catering to adults and seniors.

♥ Additional Information ♥
❀ Location: 250/338 Moo 12, Soi Jomtien 16, Nongprue, Banglamung, Chonburi 20150
❀ Tel: 033-001888, 098-8314328
❀ E-mail: info@goldenjomtien.com
❀ Facebook: Golden Jomtien Beach Hotel

» Reviewed by www.hotelandresortthailand.com

Review of the latest cool villa, Panorama View, on Panwa Beach – Bandara Villas Phuket

Amidst a prime location featuring only top-notch luxury hotels on Panwa Beach, Bandara Villas Phuket stands out with its unobstructed panoramic view of Panwa Beach. The picturesque memories we have of Bandara Villas are filled with awe, especially during our time lounging on the daybed, gazing at the sea blending into the horizon. A moment later, we would jump into our private swimming pool, soaking in the water while enjoying the breathtaking view of the crystal-clear blue sea against the backdrop of the white sandy beach. This is a special retreat that we will remember for many years to come.

Bandara Villas Phuket features private villas built on a high hill, offering unobstructed sea views. The accommodation consists of only a few villas, providing a tranquil and private atmosphere. Upon stepping out of the villa and following the staircase, one can reach the beach, restaurants, and swimming pool. For those who prefer not to walk, there is also an elevator available for convenience.

The Panoramic Duplex Pool Villa, often referred to as the Iconic villa at Bandara Villas Phuket, is truly a breathtaking experience from the moment you open the door. The immediate view is the expansive Andaman Sea, with yachts gracefully navigating the waves and the moody skies above. This level is designed as a living space, complete with a daybed, complimentary set, swimming pool, and a bathroom. The staircase on the side leads to the lower level, which serves as the bedroom area, featuring a bathtub and another bathroom designed for functionality. The entire space spans 100 square meters, with a generously sized romantic pool suitable for two people.

The Panoramic Pool Villa, spanning 60 square meters, is a compact yet fully equipped space. It includes a private pool, a daybed, and a bed strategically positioned for enjoying the sea view while lying down. Whether you prefer to relax on the bed or take a stroll down to the pool, the Panoramic Pool Villa offers a condensed version of luxury living. The main distinction is that it doesn’t have the two-level layout found in the Panoramic Duplex Pool Villa.

During the afternoon, a complimentary High Tea is served for guests staying in the villa zone at Bandara Villas Phuket. The High Tea includes local Phuket delicacies that are not commonly found elsewhere. It is accompanied by fragrant floral tea. Each dessert is beautifully presented and perfect for capturing photos, but the key highlight is the delicious taste and meticulous craftsmanship. Every piece is a delightful experience. A special addition is the jackfruit sticky rice, and Oh-Aew, a traditional Phuket dessert made from ripe watermelon. It’s peculiar that there’s no banana flavor in Oh-Aew, as it is made from ripe watermelon, but what makes it extraordinary here is the inclusion of lychee, adding a refreshing touch to counter the heat. It’s truly impressive and captivating.

Nearby, there is a newly opened cafe called Flamingo, just a short walk along the beach from Bandara Villas Phuket. Alternatively, you can request a buggy ride for convenience. This open-air cafe offers a comfortable atmosphere by the sea. It is located in front of Bandara Beach Phuket, which is part of the same hotel group. Flamingo Cafe follows a tropical rustic style, providing all-day dining with a lunch menu served a la carte. In the evening, you can enjoy a dinner under the candlelight or simply relax with drinks. The cafe, adorned with the iconic flamingo symbol, adds a playful touch with pink flamingo details in its decoration. A recommended beverage is the Mango Flamingo, a refreshing and delightful choice that might make you want to order a second glass.

“The recommended dishes are the delicious flat noodles with crab curry and cha phlu leaves, as well as the home-style turmeric soup with free-range chicken.

The sea in the Panwa zone is calm and tranquil, providing a serene and undisturbed atmosphere. The sandy beach is wide and long, perfect for leisurely water activities.

You can arrange a special dinner table for the occasion. The menu we had for dinner today includes new dishes from Flamingo, namely Seared Tuna and Tiger Prawn Caponata, both made with fresh and high-quality ingredients.

Having arrived at Flamingo, I took a quick peek at the accommodations of Bandara Beach Phuket, which is in the same location. It’s a seaside accommodation with budget-friendly prices. I must say that the swimming pool with a beautiful view is equally impressive as the one at Bandara Villas. The rooms are compact and decorated with a sea theme, featuring white, blue, and orange tones. There’s also a fitness center available here. It seems like a suitable option for those seeking high-quality accommodation at an affordable price right by the sea.

For those who are not morning persons and tend to skip breakfast at hotels, I have to say you’re missing out, especially at Bandara Villas. The breakfast there is truly fantastic – delicious and extremely diverse. It is served a la carte, with not overly large portions so that guests can try various dishes. We ordered quite a bit, but ended up finishing everything. In fact, there are even more options available. I highly recommend trying their three standout dishes: fish porridge, Bak Kut Teh, and stir-fried noodles with crab. These three dishes are absolute must-tries.

The Line will be a mini-buffet, not overly spacious, but densely packed with quality. The dining area, named Samudra, offers a pleasant atmosphere where you can enjoy your meal while taking in the delightful sea view – truly a joyful experience.

♥ Additional Information ♥
❀ Location: 96 Moo 8, Tambon Wichit, Amphoe Mueang Phuket, Phuket 83000, Thailand
❀ Tel: +66 (0) 7631 6298
❀ Line: @bandaravillas (https://line.me/ti/p/@bandaravillas)
❀ E-mail: rsvn@bandaraphuket.com
❀ Website: www.bandaragroup.com/bandara-villas-phuket
❀ Facebook: Bandara Villas, Phuket
❀ IG: bandaravillasphuket

» Review by www.hotelandresortthailand.com

Watch the sunset at Kata Beach, relax in a luxurious 5-star villa with the most romantic views at Momtri’s Villa Royal.

This is a resort filled with love where we can feel the love from nature – the sea, the sandy beach, the sun, and every blooming tree and flower, all created with love. Everything, from the natural surroundings to the man-made structures, is crafted with care and generously bestowed upon us. Perhaps it’s the atmosphere that makes this trip of ours effortlessly romantic. Momtri Villa Royal, a 5-star boutique resort located on the hills by Kata Beach, is one of the few hotels that allows you to witness both sunrise and sunset. The beautiful villas seamlessly blend Thai artistic elements with a comfortable villa concept, creating a relaxing atmosphere by the sea.

We arrived ready for a welcoming experience like special guests, and the Beach Wing Suite is the recommended accommodation that we’d like to suggest trying. Previously, we stayed in the Royal Wing Suite and were already impressed, but this time was even more extraordinary. The Beach Wing Suite, because from the bed itself, you can enjoy a direct view of the sea.

The spacious room is elegantly decorated with a luxurious and comfortable Thai contemporary style. The large bathtub is excellent, and, importantly, the soap and shampoo are wonderfully fragrant.

I’d like to say that the terrace is our favorite feature of the Beach Wing Suite. The daybed is as comfortable as the main bed, offering a beautiful view of the picturesque Kata Noi Beach curve. The sensation of the gentle breeze and sunlight tells us that this is indeed a seaside dream retreat. From our room, we can stroll down the private staircase to reach the beach. The fine white sand of Kata Beach and the clear water provide an ideal setting for snorkeling, allowing us to see small fishes. Enjoying the sound of the waves is also a delight.

Around Momtri Villa Royal, there is a lush canopy of well-maintained trees providing ample shade. The resort is expansive, and despite the various levels, walking is not tiring. There is much to admire with the abundance of greenery. However, it’s worth noting that with so many trees, there may be some mosquitoes in the garden area.

The hotel’s swimming pool complex consists of a total of three pools. One of them, located near the restaurant, creates a cascading effect, giving the impression of layered waterfalls. Art installations are strategically placed, enhancing the overall visual appeal. This contributes to making the resort truly unique. For us, the infinity pool serves as the perfect spot for capturing breathtaking sunset photos, although it’s more than just a serious swimming pool—it’s a picturesque experience.

There are other pools that are more suitable for swimming or sunbathing. Whether you want to take a refreshing swim or soak up the sun, these areas would be the perfect choice.

During the sunset, don’t miss the chance to visit the most beautiful sunset viewpoint, which is right at Momtri’s Kitchen. The restaurant stands out not only for its breathtaking landscape but also for its exceptional Thai cuisine and wines. It’s perfect for a romantic dinner under the candlelight or even for celebrating special occasions like weddings. Trust me, the atmosphere here is so captivating that the memories will linger vividly for many years to come.

The dinner was delicious, especially the calamarie and the crab curry with noodles.

The breakfast served at Momtri’s Kitchen is presented as a small but quality-packed mini-buffet. It features freshly baked bread, a variety of cheeses, cold cuts, assorted beans, along with jams and Nutella.

And there is also an a la carte menu available for selection. We ordered from the Asian menu, opting for fried rice and seafood stir-fried noodles. Particularly, the seafood stir-fried noodles were incredibly delicious.

For art enthusiasts, Momtri Villa Royal is a must-visit. The resort showcases a diverse collection of artworks, including both antique treasures and a variety of contemporary pieces. Art installations are interspersed throughout every corner of the resort, earning it the title of an “Art Hotel.” You might find it to be an immersive experience surrounded by such artistic diversity.

It sounds like your trip was a truly rejuvenating experience, filled with joy, inspiration, enchantment, and love, overflowing with happiness and leaving a lasting impression on your heart.

♥ For more information ♥
❀ Location: 12 Kata Noi Road, Tambon Karon, Amphoe Mueang Phuket, Phuket 83100
❀ Tel: +66 (0)76 333 568
❀ E-mail: info@villaroyalephuket.com
❀ Website: www.villaroyalephuket.com
❀ Facebook: Mom Tri’s Villa Royale, Phuket
❀ IG: mom_tri_villa

» Reviewed by www.hotelandresortthailand.com