“สุภัทรา หัวหิน รีสอร์ท” จ.ประจวบคีรีขันธ์

หนีร้อน หนีความวุ่นวาย และหนีโควิท ไปหัวหิน บูติกรีสอร์ทเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว ที่ “สุภัทรา หัวหิน รีสอร์ท” ที่พักริมทะเลหัวหิน พร้อมสระว่ายน้ำ เลียบชายหาดเขาตะเกียบ เป็นรีสอร์ทเล็กๆ มีลักษณะเป็นวิลล่าที่โด่ดเด่น ด้วยการทาสีเหลืองแบบทรอปิคคอล มีกลิ่นไอของความเป็นล้านนาท่ามกลางธรรมชาติ

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48318

บรรยากาศภายในรีสอร์ท สัมผัสได้ถึงธรรมชาติและออกซิเจนของต้นไม้ ดอกไม้ ล้อมรอบห้องพักให้บรรยากาศสดชื่นมาก ไม่คิดเลยว่ากำลังอยู่ในหัวหิน ด้านในสุดจะเป็นร้านอาหารริมทะเลและสระว่ายน้ำของโรงแรม เล่นน้ำที่นี่ไม่ต้องกลัวร้อน เนื่องจากมีต้นลีลาวดีค่อยบังแดดอยู่ร่ำไร

ในส่วนของห้องพักวันนี้เราจะพามาดูกันทั้ง 3 ห้อง มาเริ่มกันเลยที่ห้องแรก Pool Villa เป็นห้องขนาดใหญ่เหมาะสำหรับคู่รักที่มาพักผ่อน ด้านหน้าจะมีสระว่ายน้ำล้อมรอบด้วยสวน

เซอร์ไพรส์มากเลยกับหมอนลายผ้าขาวม้า มีกลิ่นไอของความเป็นไทย ซึ่งตอนนี้หาดูได้ยากแล้วและเตียงสไตล์บาหลี

อ่างอาบน้ำ

ตามมาดูห้องต่อไปกันดีกว่า

มาต่อกันที่ห้อง Superior pool villa เหมาะสำหรับครอบครัว เป็นห้องขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำ พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวมีสวนล้อมรอบบ้านพักให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย

สำหรับห้องนี้เขามี 2 เตียงเลยนะ

และสุดท้ายห้อง Garden view เป็นอีกห้องที่เหมาะสำหรับสำหรับคู่รักภายในห้องสามารถเปิดประตูมารับออกซิเจน หรือนั่งชิวที่สวนข้างนอกได้

ทางโรงแรมมีบริการนวดสามารถแจ้งทางโรงแรมได้ตลอดเวลา ซึ่งจะเป็นการนวดภายในห้องพักของเพื่อนๆเลย

ไปสำรวจบริเวณหน้าหาดกันบ้างดีกว่า สำหรับที่นี่ถือว่าดีเลย เพื่อนๆสามารถเดินไปวัดเขาตะเกียบได้ และหน้าหาดค่อนข้างกว้างใช้ได้เลย มองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน

อาหารมื้อค่ำ ทางรีสอร์ทมีร้านอาหารเย็นริมทะเล ทุกท่านสามารถสั่งอาหารมาทาน รับลมทะเลเย็นๆได้ วันนี้เราทานเป็น ข้าวห่อหมกทะเลทอด สุภัทราเชฟสลัด สปาเก็ตตี้ผัดฉ่าทะเล และน้ำซีทรูพันซ์

แสงตอนเย็นของที่นี่สวยมาก สามารถมองเห็นแนวโค้งของชายหาดหัวหินได้เป็นอย่างดี

ในตอนเช้าซิกเนเจอร์ของโรงแรมคือ การตักบาตรหน้าหาด ในตอนเช้ามีประมาณ 2 รอบต่อวัน ในวันที่น้ำทะเลลง เวลา 7.00 น. และ 7.30 น.

มาดูในส่วนของอาหารเช้ากันบ้าง ช่วงนี้ถ้าวันไหนมีผู้เข้าพักจำนวนมากก็จะเป็นบุฟเฟ่ต์ตามปกติเลย แต่ถ้าวันไหนไม่มากทางโรงแรมขออนุญาตเสิร์ฟเป็นเซ็ต ซึ่งมีให้เลือกทั้งไทยและอเมริกัน และสั่งได้ไม่อั้นเลยอิ่มกันไปจนถึงเที่ยงได้เลย

วิธีการมาโรงแรมก็ง่ายมากกก สามารถมาได้ทั้งรถส่วนตัว หรือไปเป็นแก็งเพื่อนสามารถนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ มาลงที่ มาร์เก็ตวิจเลจ หัวหิน แล้วเรียก Grap ได้เลย อยากจะแวะชมบรรยากาศตัวเมืองหัวหินก่อนก็ได้ สามารถข้ามไปฝั่งตรงข้ามรอรถประจำทางสีเขียวของหัวหิน แล้วลงตรงหน้ารีสอร์ทได้เลย ขากลับจุดพักรถเขียวก็อยู่หน้ารีสอร์ทพอดีเลย

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ ที่ตั้ง : 143/18 ถ.ตะเกียบ ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110
❀ หมายเลขโทรศัพท์:  086-3316651
❀ อีเมลล์: supatra@supatraresort.com
❀ เว็บไซต์:  www.supatraresort.com
❀ เฟซบุ๊ค: Supatra Hua Hin Resort

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

“La Isla Pranburi Beach Resort” จ.ประจวบคิรีขันธ์

La Isla Pranburi Beach Resort รีสอร์ทปราณบุรี ประจวบคิรีขันธ์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด ใกล้ถ้ำพระยานคร ใจกลางหมู่บ้านชาวประมง เนื่องจากทางเข้าจะต้องพบกับหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการมาที่นี้ แต่เมื่อมาถึงก็ทำให้หายเหนื่อยเลยหมดเลย

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48314

La Isla Pranburi Beach Resort บรรยากาศดีต้นไม้ร่มรื่น ข้างข้างขนาบด้วยภูเขา ใครมาที่นี่แล้วกลัวฝนตกไม่ต้องกลัวเลย เพราะว่าที่นี่ตกมากสุดไม่เกิน 20 นาที และเป็นทะเลที่ไม่เหนียวตัวเนื่องจากต้นไม้ที่อยู่บนภูเขาคอยดูซับเอาไว้ รวมถึงหน้าชายหาดที่ยาวและสระว่ายน้ำขนาดยักษ์ใหญ่ บรรยากาศแสนโรแมนติก ชวนให้ทุกคนมาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว

บรรยากาศด้านหน้ารีสอร์ทร่มรื่น เย็นสบาย เหมือนเป็นโอเอซิสของปราณบุรี มาถึงแล้วก็เช็คอินกันก่อนเลย ซึ่งภายในตกแต่งด้วยไม้ สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ต้อนรับด้วย Welcome drinks เดินทางมาเหนื่อยๆ ก็ชื่นใจ

บรรยากาศด้านหน้าหาดของรีสอร์ท บรรยากาศเงียบสงบ เสมือนเป็นหาดส่วนตัว

ต่อไปมาชมบรรยากาศภายในห้องพักของรีสอร์ทกัน

เริ่มต้นที่ห้องแรกสำหรับครอบครัวขนาด 6 ท่าน คือห้อง Pool villa ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของสระว่ายน้ำ เรียกว่า ขนาดยักษ์เลยจะดีกว่า

บรรยากาศภายในอบอุ่นมาก สามารถกระโดดลงไปเล่นน้ำได้เลย

ตามมาด้วยห้อง Deluxe Pool Access เป็นอีกหนึ่งห้องยอดฮิตของที่นี่เพราะได้รับการจองเข้ามามากที่สุด ภายในเป็นเตียงขนาดใหญ่ โซฟานั่งเล่น สามารถกระโดดเล่นน้ำจากตัวของห้องพักได้เลย และมองเห็นหาดทรายสีขาว ทะเลสวยๆ

ต่อไปจะพามาดูห้อง Suite ซึ่งตั้งอยู่ชั้นสองของคิดคลับและสปา เป็นห้องที่มีอ่างอาบน้ำ สามารถมองเห็นวิวภูเขาและเรือของชาวประมงที่ออกหาปลา ห้องนี้วิวสวยมากคอนเฟิร์มได้เลย

และห้องสุดท้ายจะเป็นห้อง Deluxe Sea view เป็นห้องที่อยู่ชั้นด้านบน

กิจกรรมภายในรีสอร์ทที่พิเศษที่สุดเลยก็คือ จิบน้ำชาล่องเรือ Afternoon tea เป็นการล่องเรือในทะเล เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวประมงชมวิถีชีวิตของคนที่นี่ ซึ่งราคาก็ไม่แรงเลย ถ้าไม่รับน้ำชาและของว่าง ประมาณ 1,4XX บาท หรือหากรับของว่างจะประมาณ 1,7XX บาท ราคานี้สำหรับ 6 ท่าน หารแล้วเหลือคนละ 200 กว่าบาทเท่านั้น ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการล่องแต่ละรอบ สามารถจองกับทางโรงแรมได้เลยเวลาล่องขึ้นอยู่กับน้ำขึ้นหรือลงในแต่ละเดือน

ใครจะไม่ล่องเรือก็สามารถมาเช่าพายเรือคายัค น้ำที่นี่สงบ คลื่นไม่แรงเกินไปสามารถพายได้อย่างสบายๆ จะพายในทะเล รอบภูเขา หรือในหมู่บ้านก็สามารถทำได้

สำหรับหนูเล็กเด็กน้อยทั้งหลายต้องเชิญทางนี้ปั่นจักรยานรอบสวน ทางรีสอร์ทมีบริการให้ยืมฟรี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โซน Kid Club กับของเล่นสนุกๆ

ปั่นจักรยานชมบรรยากาศ

ถัดจากห้อง Kid Club จะเป็นห้องสปา ทางรีสอร์ทก็มีบริการเหมือนกัน

ห้องสมุดและคาเฟ่

มุมอ่านหนังสือ

มาเที่ยวชมบรรยากาศรอบรีสอร์ทกันบ้าง บอกแล้วว่าที่นี่เขาดีจริง ของจริง

บรรยากาศตอนกลางคืน

พอตกเย็นมาทางรีสอร์ทก็มีบริการอาหารเย็น ซึ่งราคาไม่แพงและปริมาณคุ้มค่ากับราคา หากเพื่อนๆ ต้องการทานอาหารทะเลก็สามารถสั่งกับทางรีสอร์ทได้ตั้งแต่ตอนเช็คอินเลย รีสอร์ทจะไปติดต่อกับชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อที่จะได้ทานกันแบบสดใหม่ เพราะที่นี่จะไม่สต็อคของทะเลไว้ แถมยังเป็นการสนับสนุนชาวบ้านไปในตัวด้วย

ห้องอาหาร ปูละคอน ชื่อห้องอาหารตั้งมาจากปูละคอน สามารถพบได้ในบริเวณแถวรีสอร์ทเท่านั้น อาหารรสชาติอร่อย ถูกปากทุกอย่างเลย ซิกเนเจอร์ของที่นี่จะเป็นแกงคั่วปูใบชะคราม ซึ่งใบชะครามเป็นพืชที่พบได้เฉพาะพื้นที่ดินเค็มตามชายทะเลเท่านั้น แต่อย่าทานเยอะ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ต่อด้วยปูนิ่มนึ่ง และปลาหมึกผัดไข่เค็ม

บรรยากาศยามเช้า

ตอนเช้าจะเป็นอาหารเป็นเซ็ต สามารถทานได้ที่ห้องอาหาร จะมีมุมกาแฟและ เซ็ตอาหารเช้าให้เลือกทั้งอาหารไทยและอเมริกัน

ในอนาคตทางรีสอร์ทมีแผนจะเปิดกิจกรรมตอนกลางคืนด้วยจะเป็นอะไรก็คอยติดตามกันต่อไป ตอนนี้ก็ยังยืนยันว่า La Isla Pranburi Beach Resort ยังคงเป็นอีกรีสอร์ทหนึ่งที่เพื่อนๆ ทุกคนต้องมาให้ได้ในปราณบุรี เพราะไม่ว่าใครจะมาก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากกลับมาที่นี่อีกครั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ตั้ง : 99/9 หมู่ 8 ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77120
หมายเลขโทรศัพท์: 032-900353, 094-8289938
อีเมลล์: reservations@laislapranburibeach.com
เว็บไซต์: www.laislapranburibeachresort.com
เฟซบุ๊ค: La Isla Pranburi Beach Resort

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

เขาล้อมหมวก จุดชมวิวสุดเสียว ที่ใครชอบผจญต้องมาโดน!!

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่คนรักการผจญภัยนั้นห้ามพลาดเลยนะคะกับที่ “เขาล้อมหมวก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์” ตั้งอยู่ภายในเขตกองบิน 5 หรือกองบิน 53 ติดกับอ่าวมะนาว มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนติดทะเล มีความสูงประมาณ 300 เมตร และบนยอดเขาสามารถมองเห็นความงดงามได้ทั้ง 3 อ่าวเลยนะคะ ทั้ง อ่าวน้อย อ่าวประจวบและอ่าวมะนาว และสามารถชมวิววิวทิวทัศน์แบบ 360 องศาของอ่าวไทย รวมถึงตัวเมืองประจวบและวนอุทยานเขาตาม่องล่าย ซึ่งหากเดินทางมาในช่วงฤดูร้อนอาจจะสามารถมองเห็นทะเลเเหวกได้อีกด้วยนะคะ

ยอดเขาล้อมหมวกยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนบริเวณเชิงเขาล้อมหมวกเป็นแหล่งอาศัยของครอบครัวค่างแว่นถิ่นใต้ฝูงใหญ่ ที่จะออกมาปรากฏตัวให้นักท่องเที่ยวได้เห็นอยู่เสมอค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญเลยนะคะ ไม่ควรให้อาหารน้องค่างแว่น เพราะว่าอาจเกิดอันตรายและทำให้เกิดผลกระทบต่อนิเวศวิทยาของสัตว์ป่าได้ค่ะ สำหรับใครที่ต้องการจะมาพิชิตเขาล้อมหมวก จะต้องลงทะเบียนพร้อมทั้งวัดความดันกับทางเจ้าหน้าที่กองบิน 5 ซึ่งจะเปิดตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 10.30 น. และไม่เปิดรับจองล่วงหน้า

เมื่อเตรียมตัวและลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็ไปพิชิตเขาล้อมหมวกกันได้เลยค่ะ ซึ่งระยะเวลาในการเดินขึ้นเขาในครึ่งแรกจะอยู่ที่ประมาน 1.30 ชั่วโมง จะเป็นการเดินขึ้นบันได 496 ขั้น และในครึ่งหลังจะเป็นการไต่เชือกขึ้นทางชัน ซึ่งบางจุดจะมีความชันค่อนข้างมากค่ะ เนื่องจากเป็นภูเขาหินปูน ที่มีความคมพอสมควรเลย ดังนั้นจะต้องระวังเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ เพราะในแต่ละจุดนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้การช่วยเหลือตลอดเส้นทางเลยปลอดภัยหายห่วง

✨ สิ่งที่ควรเตรียมก่อนไปพิชิตเขาล้อมหมวก ✨
1.ควรใส่เสื้อผ้าที่สบาย
2.ใส่รองเท้าผ้าใบ
3.ถุงมือเพื่อเอาไว้ในการจับเชือก
4.น้ำดื่ม
5.อุปกรณ์กันแดด

❌ ข้อห้าม ❌
1.ห้ามถ่ายรูปสนามบิน
2.ห้ามทิ้งขยะ
3.ห้ามให้อาหารสัตว์ป่า
4.ห้ามใส่รองเท้าแตะ

🌳 เช็คตารางวันหยุด 🌳
✅ วันที่ 23-25 ตุลาคม 2563
✅ วันที่ 5-7 ธันวาคม 2563
✅ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
✅ วันที่1-3 มกราคม 2564

📍 ที่ตั้ง : กองบิน 5 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
☎ โทร : 032-611017
🌼 เฟซบุ๊ค : กิจกรรมพิชิตยอดเขาล้อมหมวก 902 ฟุต

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก – เฟซบุ๊ค กิจกรรมพิชิตยอดเขาล้อมหมวก , newtv , travelmthai , thaiticketmajor

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

สัมผัสธรรมชาติบนยอดเขาสูง อุทยานแห่งประวัติศาสตร์ ‘เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย’

จังหวัดสุโขทัย นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของเมืองแห่งประวัติศาสตร์แล้วที่ แห่งนี้ก็ยังมีแหล่งชมวิว ชมธรรมชาติที่สวยงามและน่าสนใจไม่แพ้กันนะคะ แหล่งท่องเที่ยวที่เราจะแนะนำในวันนี้ก็คือ ‘เขาหลวง’ หรืออีกชื่อก็คือ ‘ป่าเขาหลวง’ นั่นเองค่ะ มีที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติรามคำแหง มีพื้นที่ประมาณ 213,215 ไร่  และได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2523 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์ผู้สร้างอดีตราชธานีไทยแห่งนี้ ทางอุทยานจึงมีชื่อว่า ‘อุทยานแห่งชาติรามคำแหง’ ค่ะ

 ลักษณะจะเป็นยอดเขาสูงชันสลับซับซ้อนกัน มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,200 เมตร ซึ่งในการเข้าไปเยี่ยมชมนั้น จะต้องเดินเท้ากว่า 3.7 กิโลเมตรเพื่อขึ้นไปด้านบนยอดเขาค่ะ  แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้วรับรองว่าจะต้องประทับใจแน่นอน เพราะที่นี่จะมีทิวทัศน์ที่มองออกไปได้กว้างขวางและเราจะได้เห็นความสวยงามของป่าเขารวมถึงได้สัมผัสกับความร่มรื่นของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดเลย

 นอกจากจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วภายในอุทยานก็ยังมีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น วัวแดง เก้ง หมี หมูป่า นกกระเต็น นกนางแอ่น และพรรณไม้ต่างๆ เช่น สัก ตะเคียน เต็ง รัง พืชสมุนไพร และว่าน รวมถึงยังมีน้ำตกและถ้ำต่างๆให้ได้ชมกันอีกด้วย

ที่สำคัญสภาพอากาศบนยอดเขาของที่นี่จะหนาวเย็นตลอดทั้งปีเลยค่ะ มีหมอกปกคลุมมากในช่วงฤดูหนาวและฤดูฝนอีกด้วย ซึ่งเหมาะที่จะมาเที่ยวในช่วงเดือน กันยายน-กุมภาพันธ์ รับรองเลยว่าคนที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ มาส่องสัตว์ยามค่ำคืน รวมถึงคนที่ชอบอากาศหนาวเย็นจะต้องถูกใจกับที่นี่อย่างแน่นอนเลยค่ะ  ‘เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย’

📍ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติรามคำแหง – ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย
🕐เปิดให้บริการ : 08.30 – 17.00 น. (ทุกวัน)
💟ค่าเข้าชม : ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 เด็ก 100 / ไทย ผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10
🚘ที่จอดรถ : 40/คัน
☎โทร : 0 2562 0760

**หมายเหตุ** นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการลูกหาบขึ้นยอดเขาหลวง ราคากิโลกรัมละประมาณ 15 บาท โดยสามารถติดต่อได้ที่อุทยานฯ

🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄

🙏 ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ – thailandtourismdirectory, mgronline

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

เที่ยวอย่างไทย ชมเมืองเก่า ศึกษาประวัติศาสตร์ ‘อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย’

สุโขทัยเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในภาคกลางที่มีความเก่าแก่และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจน่าค้นหา เพราะที่แห่งนี้มีร่องรอยของประวัติศาสตร์มากมายและพร้อมให้เราได้เข้าไปศึกษาเยี่ยมชมเสมอ จังหวัดสุโขทัยเป็นที่ตั้งอาณาจักรแรกของชนชาติไทยเมื่อ 700 กว่าปีที่แล้ว และความหมายของคำว่า “สุโขทัย”  นั้นมาจากสองคำค่ะ คือ “สุข+อุทัย” หมายความว่า “รุ่งอรุณแห่งความสุข”  และร่องรอยอดีตแห่งความรุ่งเรือง เราก็จะเห็นได้จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและศรีสัชนาลัย ซึ่งที่แห่งนี้ ก็ยังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่มีความชื่นชอบในการศึกษาประวัติศาสตร์ค่ะ

ในอดีตแล้วนั้น เมืองสุโขทัยเคยเป็นราชธานีของไทยมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากค่ะ และยังเป็นศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจอีกด้วย ภายในอุทยานฯมีสถานที่สำคัญที่ทั้งเป็นพระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถาน โดยมีกำแพงเมืองและประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในบริเวณพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 70 ตารางกิโลเมตร ซึ่งภายในอุทยานก็ยังมีโบราณสถานสำคัญที่น่าสนใจให้ได้ชมอีกมากมายเลยค่ะ

การมาเที่ยวชมนั้นนักท่องเที่ยวสามารถ เดินเท้า ปั่นจักรยาน หรือการนั่งรถรางไฟฟ้า ซึ่งทางอุทยานฯ ก็มีรถจักรยานให้เช่าด้วยนะคะ นอกจากนี้หน้าโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแต่ละจุดก็ยังมีป้าย QR Code ที่สามารถสแกนเข้าไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะมีให้เลือกได้ถึง 4 ภาษาเลยนะคะ โดยมีทั้ง ภาษาไทย จีน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส เมื่อมาที่นี่แล้วไม่ต้องกลัวเลยค่ะ ว่าจะไม่เข้าใจเรื่องราวในประวัติศาสตร์

📍ที่ตั้ง : ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย
🕐เปิดให้บริการ : 08.30-16.30 น. (ทุกวัน)
💟ค่าเข้าชม : ต่างชาติ/ไทย ผู้ใหญ่ 40 เด็ก 20
🌈เฟซบุ๊ค : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

**หมายเหตุ** จอดรอบบริเวณที่ท่ารถใกล้ป้อมยามตำรวจ ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำยมไปทางฝั่งตะวันตกราว 200 เมตร มีรถออกทุก 20 นาที ค่าโดยสารคนละ 5 บาท ตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ทุกวัน และจากอุทยานฯ มีรถจอดที่บริเวณลานจอดรถ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ไหว้พระเจดีย์ลอยฟ้า ‘อุทยานธรรมเขานาในหลวง’ ดินแดนอันสงบสุข จ.สุราษฏ์ธานี

จังหวัดสุราษฏ์ธานี เป็นจังหวัดในภาคใต้ตอนบน มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้และยังเป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย ด้วยความที่เป็นจังหวัดใหญ่จึงมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆบรรยากาศดีๆ ให้นักท่องเที่ยวหลายคนได้ไปเยี่ยมชมกันเป็นประจำ และนอกจากจะมีทะเลที่สวยงามแล้ว ทางด้านภูเขาก็ยังสวยงามไม่แพ้กันค่ะ วันนี้ HotelAndResortThailand มีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บนยอดเขาสูง บรรยากาศสงบ ร่มรื่น มาแนะนำกันค่ะ ซึ่งที่นั่นก็คือ ‘อุทยานธรรมเขานาในหลวง’

‘อุทยานธรรมเขานาในหลวง’ ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นยวน อำเภอพนม เป็นสถานที่ตั้งของเจดีย์ลอยฟ้า พระพุทธศิลาวดี และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ก่อสร้างด้วยศิลาแลงจากเมืองกำแพงเพชร บนยอดเขาหินปูนสูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร อีกทั้งยังเป็นสำนักสงฆ์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีอีกด้วยค่ะ และยังเป็นสถานที่ที่มีความสงบร่มรื่น เหมาะแก่การมา ไหว้พระ ขอพร และปฏิบัติธรรมค่ะ

นอกจากที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วนะคะ ในด้านของสถาปัตยกรรมก็มีความงดงามและน่าสนใจมากๆเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ทางเข้าซุ้มประตูพุทธวดี 9 ยอด ที่ใครมาแล้วเป็นอันต้องมาถ่ายรูปตรงนี้กันตลอด พอเข้ามาด้านในวัดก็จะเห็นศาสนสถานต่างๆ ที่สวยงามไม่แพ้กันเลยนะคะ ทั้ง เจดีย์ร้อยยอด พระธาตุพันองค์ และรอยพระพุทธบาทที่ปรากฏอยู่บนยอดเขาของอุทยานธรรม เปรียบเหมือนเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมจิตใจแห่งความเชื่อ ความศรัทธาของเหล่าบรรดาพุทธศาสนิกชนชาวสุราษฏ์ธานีได้เลยค่ะ

และเมื่อขึ้นมาถึงจุดสูงสุดแล้วก็ยังสามารถชมวิวรอบๆได้อย่างกว้างขวาง แบบพาโนราม่าเลยนะคะ จะเห็นได้ว่ามีทะเลหมอกปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขาเลย ไม่ต้องขึ้นไปถึงภาคเหนือเลยเราก็สามารถชมทะเลหมอกได้จากภาคใต้ที่สวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ

วิธีการเดินทาง
เดินทางจากทางเข้าเขื่อนรัชชประภาเมื่อมาถึงบริเวณไฟแดงที่กิโลเมตรที่ 61 ให้เลี้ยวซ้าย และเดินทางต่อไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร จะเจออุทยานธรรมเขานาในหลวง ซึ่งจะอยู่บริเวณริมถนนด้านขวามือ
📍ที่ตั้ง : หมู่ที่ 8 บ้านเขานาใน ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัดสุราษฏร์ธานี
🚘 พิกัด : https://goo.gl/maps/1jgtwiFs5jH1sDqV9
🌻 เฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/อุทยานธรรมเขานาในหลวง

🙏 ขอขอบคุณรูปภาพจาก – เฟซบุ๊ค Memories Graphic

🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ศูนย์รวมจิตใจแห่งลุ่มแม่น้ำโขง ‘พญาศรีมุกดาฯ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์’ จังหวัดมุกดาหาร

หลายครั้งที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดในแถบๆภาคอีสาน หรือตะวันออกเฉียงเหนือ เรามักจะเห็นวัดของแต่ละจังหวัด ส่วนใหญ่จะมีพญานาคองค์ใหญ่อยู่ในบริเวณของวัดเสมอ เพราะผู้คนในแถบภาคอีสานนั้นมีความเชื่อและศรัทธาเกี่ยวกับพญานาคกันเป็นอย่างมาก มีความเชื่อว่าพญานาคนั้น อาศัยอยู่ในลำน้ำโขงมีอิทธิฤทธิ์มาก และจะสามารถดูแลคุ้มครองผู้คนให้มีความสุขได้ค่ะ และในวันนี้ HotelAndResortThailand มีอีกหนึ่งแหล่ง Unseen Thailand มาแนะนำกันค่ะ ซึ่งที่นี่ก็คือ ‘วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์’ ที่มีพญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช หรือ ปู่ศรีมุกดา  ที่เป็นจุดเด่นของวัด และสร้างขึ้นอย่างใหญ่โต สวยงามมากๆค่ะ

พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช หรือ ปู่ศรีมุกดา  เป็นรูปปั้นพญานาคเศียรเดียวองค์ใหญ่ สร้างอยู่บนเขาภูมโนรมย์ ของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ซึ่งลักษณะของพญานาคนั้นจะนอนขดตัวและชูลำคอสูงสง่าหันไปทางแม่น้ำโขง เบื้องล่าง ลำตัวยาว 122 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร มีสีเขียวอมฟ้าเมื่อสะท้อนแสงจะสวยงามมากๆ ทำให้รูปปั้นดูมีมิติและสมจริงราวกับมีชีวิต พร้อมกับมีลวดลายที่ละเอียดอ่อน ว่ากันว่า พญาศรีมุกดาฯ เป็นรูปปั้นพญานาคที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอีกด้วยค่ะ

ผู้มาเยือนสามารถเข้ามาสักการะขอพรได้  โดยวิธีการสักการะก็คือ ตั้งจิตอธิษฐานให้มั่น เดินลอดท้องพญานาคทั้ง 7 ช่องที่มีความหมายมงคลต่างๆ จากนั้นนำดอกไม้ธูปเทียนไปบูชา พร้อมทั้งนำผ้าแดงเขียนชื่อตัวเองเอาไปผูกไว้ที่ต้นไม้รอบๆ พญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคล และนอกจากจะมีพญาศรีมุกดาฯแล้ว วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ก็ยังมีสิ่งอื่นๆที่น่าสนใจอีกนะคะ เช่น รอยพระพุทธบาท อันเป็นที่มาของชื่อวัด พระธาตุภูมโนรมย์ และพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาภูมโนรมย์อีกด้วยค่ะ

📍 ที่ตั้ง : วัดรอยพระบาทภูมโนรมย์ หมู่ 5 ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
🕐 เวลาเปิด-ปิด: 08:30 – 17:00 น. (ทุกวัน)
💟 ราคาค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย

🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿

🙏 ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : thailandtourismdirectory, AmazingThailand, itsbetterinthailand, Mukdahan City Guide , museumthailand

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

เที่ยวนครสวรรค์  ไปชมวิวสวยถ่ายรูปเก๋ๆ แวะช้อปปิ้งที่ “ตลาดเจ้าค่ะ”

นครสวรรค์ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ตอนบนของภาคกลางหรือบางหน่วยงานก็จัดให้อยู่ในตอนล่างของภาคเหนือ หลายคนๆจึงเรียกว่า “ประตูสู่ภาคเหนือ” ค่ะ นอกจากที่นี่จะเป็นทางผ่านไปสู่ภาคเหนือแล้วก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเลยนะคะ แถมยังมีจุดชมวิวสวยๆอีกมากมาย รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งของกิน ของใช้อีกด้วย แต่ถ้าหากใครยังนึกภาพไม่ออกล่ะก็ วันนี้ Hotel And ResortThailand จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆรวมถึงแหล่งช้อปปิ้งเด็ดๆให้ชมกันค่ะ จะเป็นที่ไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย

“บึงบอระเพ็ด”

เมื่อนึกถึงจังหวัดนครสวรรค์ ก็ต้องพลาดไม่ได้เลยนะคะกับ บึงบอระเพ็ด ที่ใครที่ได้มาเป็นอันต้องเช็คอินค่ะ ที่นี่คือทะเลสาบน้ำจืดทีใหญ่ที่สุดในประเทศไทยพื้นที่ประมาณ 132,373 ไร่ และยังเป็นแหล่งธรรมชาติสมบูรณ์ของนกน้ำ พันธุ์บัว พรรณพืช พันธุ์สัตว์ นานาชนิด อีกด้วยค่ะ

📍ที่ตั้ง : 999 ถ.นครสวรรค์-ชุมแสง ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์
🕒เวลาเปิดทำการ : 08:30 – 17:30 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : มีค่าใช้จ่ายประจำจุดท่องเที่ยวไม่เท่ากัน

🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼

“พาสาน”

อาคารสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของปากน้ำโพ ที่กำลังเป็นที่โด่งดังในโลกโวเชียลเลยนะคะ ซึ่งมีตัวอาคารสร้างบนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ออกแบบให้มีความโค้งแล้วมาบรรจบกันที่ปลาย เหมือนการรวมตัวกันของแม่น้ำหลักจาก 4 สาย มาประสานกันเป็นสองสายและรวมเป็นหนึ่งเดียว แบบนี้ต้องมาแวะถ่ายรูปสักแชะแล้วละค่ะ

📍ที่ตั้ง : ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
🕒เวลาเปิดทำการ : 08:00 – 17:00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼

“อุทยานสวรรค์”

เรียกว่าเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และเป็นลมหายใจของชาวสวรรค์เลยก็ว่าได้ค่ะ  ซึ่งที่นี่มีจุดเด่นคือ มังกรสวรรค์ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยมังกรขนาดเล็ก สร้างขึ้นเพื่อ เป็นทางเดินเข้าไปยังมังกรสวรรค์เมื่อขึ้นไปยืนบนฐานมังกรเราจะได้เห็นบริเวณโดยรอบของอุทยานสวรรค์เลย

📍ที่ตั้ง : ถนนวงสวรรค์ ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
🕒เวลาเปิดทำการ : 08:00 – 18:00น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼

“ตลาดเจ้าค่ะ”

แหล่งช้อปปิ้ง ของกิน ของใช้สไตล์ไทยๆในบรรยากาศย้อนยุค ‘ตลาดเจ้าค่ะ’ ตลาดริมแม่น้ำปิง หน้าวัดเขาดินใต้ อำเภอเก้าเลี้ยว ความน่ารักของตลาดนี้ก็คือ พ่อค้า แม่ค้าของที่นี่จะพูดแล้วลงท้ายด้วยคำว่า “เจ้าค่ะ” ตลอดเลยแถมยังใส่ชุดไทยโบราณอีกด้วยค่ะ บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในหนังย้อนยุคเลย

และคนจะยิ่งเยอะ คึกคักเป็นพิเศษในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ค่ะ  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารท้องถิ่นที่หาทานยาก ผสมผสานกับอาหารร่วมสมัย เช่น ข้าวหลามจิ๋ว ห่อหมกปลากราย แถมราคายังเป็นมิตรภาพอีกด้วยนะคะ

และเมื่อซื้ออาหารเสร็จแล้วก็สามารถมานั่งทานอาหารชมวิวริมแม่น้ำชิลๆได้อีกด้วย พอเริ่มดึกขึ้นมาหน่อยก็มีการแสดงต่างๆของเด็กๆให้ได้ชมอีกด้วยค่ะ รวมถึงมีหนังกางแปลงมาฉายอีกด้วยซึ่งในสมัยนี้ถือว่าหาดูยากแล้วนะคะ ถ้าหากใครมีโอกาสได้มาเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์สักครึ่งหนึ่ง ก็อยากให้ลองแวะมาที่นี่กัน “ตลาดเจ้าค่ะ”

📍ที่ตั้ง : ต. เขาดิน อ. เก้าเสี้ยว จ.นครสวรรค์
🕒เวลาเปิดทำการ : ทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00-21.00 น.

🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼

🙏 ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก Facebook : ต้อง ตา, TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง, ตลาด “เจ้าค่ะ” ริมแม่น้ำปิงหน้าวัดเขาดินใต้ , thailandtourismdirectory , motorcycmagazine

 

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

 

รวม 5 คาเฟ่ ธีมดอกไม้ ถ่ายรูปปัง!! นั่งชิลๆ ใกล้กรุงเทพ

เบื่อหน่ายจากการทำงานอยากไปนั่งชิลๆ จิบกาแฟ ทานเค้ก ถ่ายรูปลงอินสตาแกรมสวยๆ ให้สบายใจและผ่อนคลายในอารมณ์บ้าง แต่ก็ไม่อยากจะขับรถออกไปไกลถึงต่างจังหวัด  วันนี้แอดมินมีคาเฟ่ธีมดอกไม้ สวยๆละมุนๆมาแนะนำกันค่ะ ที่สำคัญอยู่ใกล้กรุงเทพด้วยนะคะ รับรองว่าไปง่ายและถ่ายรูปออกมาปังแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วมาปักหมุดแล้วไปกันเลย!!

“Kay’s Boutique Breakfast”

 มาเริ่มกันที่ “Kay’s Boutique Breakfast” จริงๆแล้วจะมีหลายสาขานะคะ ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีการตกแต่งที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย แต่สาขาที่เราจะมาแนะนำวันนี้ก็คือสาขารางน้ำนั่นเอง โดยสาขานี้จะตกแต่งเป็นธีมดอกไม้ สังเกตุได้จากมุมกำแพงกุหลาบขนาดใหญ่ ที่หลายๆคนเข้ามาเป็นอันต้องแชะสักรูปแล้วค่ะ

ที่ตั้ง 📍 116/55-56 ถนนรางน้ำ แขวงพญาไท เขตราชเทวี  กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการ 🕐 6.30 – 16.00 น.
เบอร์โทร ☎ 02 245 6138
เฟซบุ๊ค :  https://www.facebook.com/kaysboutiques/
เว็บไซต์ : https://www.kaysboutiques.com/home

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

“Divana Signature Café”

คาเฟ่สวนดอกไม้สวย ใจกลางเมือง ที่เชื่อว่าใครที่เดินผ่านไปมาจะต้องสะดุดตาแน่นอน เพราะตั้งอยู่ที่ห้างใหญ่ใจกลางเมืองอย่างเซ็นทรัลเวิร์ลเลยค่ะ แต่ถึงแม้ร้านจะอยู่ใจกลางเมืองแบบนี้แต่บรรยากาศร้านดูสงบมากเหมือนกับได้นั่งชิลๆจิบชาในสวนเลยนะคะ  แถมยังมีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆอีกด้วย  หากได้ถ่ายรูปไปลงแล้วล่ะก็ต้องมีหลายคนคิดไม่ถึงแน่ว่านี่คือร้านคาเฟ่ใจกลางเมือง

ที่ตั้ง 📍 ชั้น 2 โซน Atrium ภายในห้าง Central World  กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการ 🕐 10.00 – 22.00 น.
เบอร์โทร ☎ 02 252 2614
เฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/divanasignaturecafe/

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

“Portobello & Désiré”

ใครที่ชอบคาเฟ่สวยๆ ในสวนสไตล์อังกฤษ เรียกได้ว่าจะต้องร้องกรี๊ดแน่นอน กับร้าน Portobello & Désiré | Home : Garden : Café ซึ่งทางร้านจะมีการตกแต่งเน้นไปทางสีขาวออกแนววินเทจนิดๆ และยังมีที่ให้ได้นั่งชิลๆทั้ง  Indoor และ Outdoor เลย แต่ไม่ว่าจะนั่งตรงไหนก็รับรองเลยว่าจะต้องถ่ายรูปออกมาปังแน่นอน

ที่ตั้ง 📍 40 ซอยประเสริฐมนูกิจ 22 (สุคนธสวัสดิ์ 11) ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เปิดให้บริการ 🕐 11.00 – 21.00 น.
เบอร์โทร ☎ 0982898703 ,029077528
เฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/pg/portobelloanddesire/

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

“My Castle Café”

คาเฟ่สายหวาน สไตล์เกาหลี ตั้งอยู่บริเวณโครงการ On Geen สนามบินน้ำ อยู่ไม่ไกลจากตลาดนกฮูก ตัวร้านจะเป็นตึกแถวสองชั้นสีชมพู ประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลากชนิดเลยค่ะ ราวกับเดินเข้าไปในเมืองเทพนิยายเลย เหมาะกับแก๊งค์สาวๆสายหวานมาก มีมุมให้ได้แอ็คท่าถ่ายรูปเพียบ  และยิ่งได้มาถ่ายรูปกับชาวแก๊งค์ด้วยนะรับรองว่าเริ่ด!!

ที่ตั้ง 📍  A12 โครงการ On green ถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี (แถวตลาดนกฮูก) บางกระสอ นนทบุรี
เปิดให้บริการ 🕐 จ-พฤ : 11.00-21.30 น.  ศ-อา : 11.00-22.30 น.
เบอร์โทร ☎ 065 539 4040
เฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/mycastlecafe/

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

“Wallflowers Café”

คาเฟ่สไตล์วินเทจ ย่านเก่าเยาวราช ที่สายฮิปเตอร์บางคนอาจจะร้องอ๋อขึ้นมาเลย เพราะที่นี่ถือว่าเป็นคาเฟ่ที่ฮอตมากๆ  บรรยากาศร้านล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ประดับประดามากมาย ดูร่มรื่นมาก จุดสังเกตของร้านก็คือเดินเข้ามาในซอยถ้าเจอต้นไม้เยอะๆแบบนี้ไม่หลงแน่นอน  ซึ่งชั้น 2 จะเป็นร้านดอกไม้  Oneday Wallflowers ค่ะ

ที่ตั้ง📍 ซอย นานา แขวง ป้อมปราบ เขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิดให้บริการ 🕐 11.00 – 00.00  น.
เบอร์โทร ☎ 090 993 8653
Facebook ; https://www.facebook.com/wallflowerscafe.th/
Facebook ; https://www.facebook.com/onedaywallflowers/

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

พาตะลุย 9 จังหวัดเมืองรองภาคใต้ เที่ยวสนุกไม่เป็นรองใคร

เมื่อนึกถึงภาคใต้ สิ่งที่มักคิดถึงกันเป็นอันดับแรกๆเลยก็คงหนีไม่พ้นทะเลอย่างแน่นอน แต่ใครจะรู้บ้างว่านอกจากภาคใต้จะมีทะเลที่สวยงาม หาดทรายขาวสะอาดแล้ว ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆรอให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมกันอีกด้วยนะคะ และนอกจากจะมีจังหวัดหลักๆที่หลายคนมักนิยมไปกันแล้ว ภาคใต้ก็มีเมืองรอง ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ น่าสนใจไม่แพ้กัน  วันนี้ HotelAndResortThailand มีสถานที่ท่องเที่ยว 9 จังหวัดเมืองรองภาคใต้มาแนะนำกันค่ะ จะมีที่ไหนบ้างนั่นตามมาดูพร้อมกันเลย

‘ จังหวัดชุมพร ’

จังหวัดชุมพร นอกจากจะเป็นขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของท้องทะเล ที่นี่ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจไม่แพ้กันอีกนะคะ มีทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จุดชมวิวที่สวยงาม หรือจะเป็นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ก็มีให้เล่นอีกด้วยนะคะ

1.บ้านเกาะพิทักษ์

เป็นเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากฝั่งสามารถเดินมายังเกาะได้ มีทะเลแหวก ธรรมชาติที่สวยงามทั้งทางทะเลและพื้นดิน ชาวบ้านมีวิถีชีวิตแบบชาวประมงดั้งเดิม

ที่ตั้ง : หมู่ 14 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร
เปิดทำการ : 06:00 – 18:00 น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

2.จุดชมวิวเขามัทรี

จุดชมวิวเขามัทรี มองจากบนเขาเห็นชุมชนปากน้ำชุมพรและชายหาดปากน้ำชุมพรเป็นชุมชนขนาด ใหญ่เนื่องจากเป็นท่าเทียบเรือประมง

ที่ตั้ง : ต.ปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร
เปิดทำการ : 06:00 – 19:00 น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

3.ล่องแพพะโต๊ะ

เป็นแหล่งต้นน้ำหลายสายที่ไหลคดเคี้ยวมาตามขุนเขาและสวนผลไม้ บางช่วงเป็นแก่งน้ำขนาดใหญ่ จึงมีการจัดกิจกรรมผจญภัยในคลองพะโต๊ะ ตลอดทั้งปี

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 9 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร
เปิดทำการ : 08:00 – 18:00 น. (ทุกวัน)
**หมายเหตุ** โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่นักท่องเที่ยวจะมาล่องแพคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนของทุกปี
ราคาค่าเข้าชม : ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 600,เด็ก 600 /ไทย ผู้ใหญ่ 600,เด็ก 600

4.วัดพระบรมธาตุสวี

พระบรมธาตุสวี ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระบรมธาตุสวี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร ลักษณะรูปแบบของพระธาตุเป็นแบบเดียวกันกับพระบรมธาตุเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ที่ตั้ง : 190/1 ต.สวี อ.สวี จ.ชุมพร
เปิดทำการ : 08:00 – 16:30 น.  (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

5.หาดทุ่งวัวแล่น

เป็นชายหาดที่มีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียด ทอดตัวยาวสุดสายตา ลักษณะเป็นชายหาดน้ำตื้นค่อย ๆ ลาดเอียงลงทีละน้อย หาดกว้าง เหมาะแก่การเล่นน้ำ

ที่ตั้ง : หมู่8 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร
เปิดทำการ : 00:01 – 23:59 น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴

‘ระนอง’

ระนอง เป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลตะวันตกของ มีพื้นที่ติดต่อทางตะวันออกติดต่อกับจังหวัดชุมพร เป็นจังหวัดเมืองรองอีกจังหวัดหนึ่งที่มีที่เที่ยวครบทุกรส

1.เกาะกำตก อ่าวเขาควาย

นักท่องเที่ยวนิยมแวะมากินข้าวเที่ยงกัน มีห้องน้ำบริการบนเกาะ ในส่วนของชายหาดเดินไปมาระหว่างหาดได้สบายๆขั้นด้วยป่าสน ชายหาดที่โค้งมาติดกันเป็นรูปวงกลมตามแนว เหนือ-ใต้ ชาวเรือจึงเรียกเกาะนี้ว่า อ่าวเขาควาย ตามแนวชายหาดมีต้นหูกวาง และต้นจิกทะเลคอย ให้ร่มเงา

ที่ตั้ง : ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
เปิดทำการ : 08:30 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200,เด็ก 100 /ไทย ผู้ใหญ่ 40,เด็ก 20

2.ภูเขาหญ้าหรือเขาหัวโล้น

ภูเขาหญ้าสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ภูเขาหญ้าสีเขียว พบได้ในฤดูฝนตั้งแต่เดือน พฤษภาคม-ตุลาคม ภูเขาหญ้าสีน้ำตาล พบได้ในช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน-เมษายน

ที่ตั้ง : เพชรเกษม ต.หงาว อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
เปิดทำการ : 06:00 – 21:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

3.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง

มีพื้นที่ที่ประกอบไปด้วยทรัพยากรทั้งบนบก ชายฝั่งทะเล และในท้องทะเล ซึ่งมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้มีกิจกรรมการท่องเที่ยวและนันทนาการหลายรูปแบบ เช่น การพายเรือดูนก ล่องเรือชมป่าชายเลน

ที่ตั้ง : เลขที่ 192 หมู่ 4 ต.หงาว อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
เปิดทำการ : 08:30 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200,เด็ก 100 /ไทย ผู้ใหญ่ 40,เด็ก 20

4.น้ำตกงามมีสี

เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม น้ำไหลตลอดปี มีต้นไม้ร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ

ที่ตั้ง : หมู่ 9 บ้านในกรัง ต.จ.ป.ร. อ.กระบุรี จ.ระนอง
เปิดทำการ : 08:30 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

5.จุดชมวิวเขาฝาชี

จุดชมวิวเขาฝาชี ตั้งอยู่บนยอดเขาฝาชี สูงจากระดับน้ำทะเล 259 เมตร อันเป็นที่ตั้งของศูนย์ทวนสัญญาณโทรคมนาคม

ที่ตั้ง : ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง
เปิดทำการ : 05:00 – 18:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴

‘ จังหวัดพัทลุง ’

อีกจังหวัดหนึ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปเพราะเป็นทางผ่านที่จะมุ่งลงไปสู่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่นอกจากจะเป็นทางผ่านแล้วพัทลุง ก็ยังมีไฮไลท์สำคัญอย่างทะเลน้อยที่หลายคนรู้จักกันแล้ว ก็ยังมีที่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจสวยๆอีกด้วยนะคะ

1.เขาอกทะลุ

เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพัทลุง มีบันไดขึ้นยอดเขาชมทิวทัศน์ มีโพรงมองทะลุไปเห็นอีกด้าน

ที่ตั้ง : ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง
เปิดทำการ : 05:00 – 18:00 น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

2.วังเจ้าเมืองพัทลุง

ในอดีตวังแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุง มีความสวยงามโดดเด่น ปัจจุบันถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดพัทลุง

ที่ตั้ง : ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง
เปิดทำการ : 09:00 – 16:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

3.ถ้ำคูหาสวรรค์

ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ และพระพุทธรูปนั่งประดิษฐานอยู่ตามผนังถ้ำ

ที่ตั้ง : ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง
เปิดทำการ : 08:10 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴

‘ จังหวัดตรัง ’

เป็นจังหวัดหัวเมืองอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ติดทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดียชายฝั่งทะเลตะวันตก นอกจากจะมีชายหาดและทะเลที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจอีกมากมายเลยเลยค่ะ

1.เขาไม้แก้วพิสดาร

เขาไม้แก้วพิสดาร หรือ Amazing Khaomaikaew สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อบต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง เป็นแหล่งแสดงภาพวาด 3 มิติ และงานประติมากรรมปูนปั้น

ที่ตั้ง : หมู่ 1 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง
เปิดทำการ :  08:00 – 17:00 น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 ,เด็ก100 /ไทย ผู้ใหญ่ 50 ,เด็ก 20
**หมายเหตุ** กรณีมาเป็นหมู่คณะให้ประสานเป็นหนังสือมายังองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว

2.ถ้ำมรกต (อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม)

เป็นถ้ำที่อยู่บนเกาะมุกต์ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ถ้ำมรกต ถ้ำมหัศจรรย์กลางทะเล จะเข้าออกได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น ปากถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ การเข้าออกจะต้องลอยคอในน้ำ ลอดถ้ำอันมืดมิด ผ่านเส้นทางคดโค้ง


ที่ตั้ง : ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
เปิดทำการ : 08:00 – 17:00 น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

3.เกาะกระดาน

จุดเด่นของเกาะกระดานคือชายหาดที่มีทรายขาว ละเอียดเหมือนแป้งและน้ำใสจนมองเห็นแนวปะการังซึ่งทอดยาวจากชายหาดด้านเหนือถึงชายฝั่งและมีฝูงปลาหลากสีแหวกว่ายอย่างสวยงาม

ที่ตั้ง : อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง ห่างจากชายฝั่งทางอำเภอกันตังประมาณ 10 กิโลเมตร ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
เปิดทำการ :  08:30 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

4.บ่อหินฟาร์มสเตย์

บ่อหินฟาร์มสเตย์เป็นกิจกรรมด้านการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงปลากระชัง บ้านพรุจูด เน้นการเรียนรู้ สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน และทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของจังหวัดตรัง เกิดจากการรวมตัวของชุมชนเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเพื่อสร้างอาชีพเสริมให้กับชาวบ้าน

ที่ตั้ง : 145/1 หมู่ที่ 2 ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง
เปิดทำการ :  08:30 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

5.น้ำตกปากแจ่ม (อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า)

บริเวณน้ำตกมีต้นประเป็นจำนวนมาก และมีนกหว้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณกว้าง น้ำตกที่ตกลงมาจากที่สูงเป็นสายธารสวยน่าเที่ยวชม

ที่ตั้ง : หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ขป.2 (น้ำตกปากแจ่ม) หมู่ 3 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
เปิดทำการ :  08:30 – 16:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴

‘ จังหวัดยะลา ’

เป็นจังหวัดใต้สุดของประเทศไทย มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายประเภท ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วิถีวัฒนธรรม และธรรมชาติ ที่ล้วนมีเอกลักษณ์น่าสนใจมากๆ

1.ถ้ำกระแชง

มีลักษณะเด่นอยู่ที่ทัศนียภาพของภูเขา ธารน้ำและถ้ำลอดที่สวยงาม ในช่วงที่น้ำน้อยสามารถเดินเลาะเลียบตามลำธารลอดถ้ำไปทะลุอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่โล่ง โอบล้อมด้วยภูเขาและแมกไม้เขียวขจี มีทัศนียภาพสวยงาม

ที่ตั้ง : บ้านกาโสด ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา
เปิดทำการ :  08:00 – 16:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

2.น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9

เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของตำบล เพราะมีธรรมชาติที่สวยงามน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงปกคลุมด้วยพืชพรรณไม้สีเขียว

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 2 บ้านกม. 32 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา
เปิดทำการ : 08:00 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี (มีค่าจอดรถ 20)

3.วัดพุทธาธิวาส

พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศแห่งนี้ เป็นพระธาตุเจดีย์ก่อสร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์ มีสีทองอร่าม กว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร หรือขนาดความสูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ที่ตั้ง : วัดพุทธาธิวาส ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา
เปิดทำการ : 08:00 – 18:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี (มีค่าจอดรถ 20)

4.สวนสาธารณะสนามช้างเผือก (สนามโรงพิธีช้างเผือก)

สวนสาธารณะสนามช้างเผือก เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัวรัชกาลที่ 5 และอนุสาวรีย์พระเศวตสุรคชาธารฯ ช้างเผือกที่ค้นพบตำบลกาลอ อำเภอรามัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จมาประกอบพระราชพิธีขึ้นระวางช้างและสมโภชเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2511

ที่ตั้ง : สนามโรงพิธีช้างเผือก ถนนพิพิธภักดี ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา
เปิดทำการ : 06:30 – 18:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี (มีค่าจอดรถ 50)

5.อุโมงค์ปิยะมิตร

อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นหมู่บ้านของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเดิมเคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา อุโมงค์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2519 เป็นอุโมงค์คดเคี้ยวเข้าไปในภูเขายาวประมาณ 1 กิโลเมตร ความกว้างประมาณ 50-60ฟุต ใช้เวลาในการขุด 3 เดือน มีทางเข้าออกหลายทางใช้เป็นที่หลบภัยทางอากาศและสะสมเสบียง

ที่ตั้ง : บ้านปิยมิตร หมู่ 2 ถนนหมู่บ้านปิยมิตร ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา
เปิดทำการ : 09:00 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ต่างชาติ 20 บาท คนไทย 10 บาท (มีค่าจอดรถ 20)

🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴

‘ จังหวัดนราธิวาส ’

จังหวัดนราธิวาสเป็นเมืองที่เงียบสงบ มีความงามทางวัฒนธรรมแบบมุสลิมนราธิวาสมีศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเมืองชายแดนอยู่ที่อำเภอสุไหงโก-ลก น่าสนใจหลายแห่งมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และชายหาดที่สวยงาม

1.ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร

ป่าพรุสิรินธรเป็นส่วนหนึ่งของป่าพรุโต๊ะแดงป่าพรุแห่งสุดท้ายของประเทศไทย ซึ่งคลุมพื้นที่ของ 3 อำเภอ คือ อำเภอตากใบอำเภอสุไหงโกลก และอำเภอสุไหงปาดี

ที่ตั้ง : 9 ม.5 ต.ป่าเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
เปิดทำการ :  08:30 – 16:30 น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

2.องค์พระพิฆเนศ

เป็นประติมากรรมปูนปั้น ขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 16 เมตร และนอกจากนี้ภายในเทวสถานยังมีหนุมานและวิหารไสบาบา ที่ประชาชนในพื้นที่เลื่อมใสศรัทธา ได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

ที่ตั้ง : เทศบาลเมืองนราธิวาส ถนนพิพิธคีรี ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส
เปิดทำการ :  08:30 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

3.ลานนกเงือก บริเวณเขื่อนท่าพระยาสาย

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนราธิวาส ตั้งอยู่ริมเขื่อนท่าพระยาสายในช่วงยามเย็น อากาศเย็นสบาย สามารถมาชมวิว ดูทิวทัศน์ ที่มีทั้งแม่น้ำ และภูเขาอย่างสวยงาม ที่พลาดไม่ได้คือ ถ่ายรูปคู่นกเงือก

ที่ตั้ง : ถนนภูผาภักดี ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส
เปิดทำการ :  05:00 – 21:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

4.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา

เป็นป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณ สัตว์ป่าและนกหายากนานาชนิด และเป็นที่อาศัยของคนป่าเผ่าซาไก มีพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ในแนวรอยต่อระหว่างจังหวัดยะลาและนราธิวาส เป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำในเขื่อนบางลาง นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมธรรมชาติของขุนเขา ป่าไม้และสายน้ำได้

ที่ตั้ง : หมู่ 5 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส
เปิดทำการ : 08:30 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

5.หาดอ่าวมะนาว

เป็นหาดทรายที่อยู่ติดกับแนวภูเขาริมทะเลที่สวยงาม ชายหาดทอดยาวจรดแม่น้ำบางนรา ฝั่งขวาจรดเขตพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ บริเวณริมหาดมีสวนรุกขชาติและทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน

ที่ตั้ง : บ้านบางมะนาว ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส
เปิดทำการ : 06:00 – 18:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴

‘ จังหวัดปัตตานี ’

ปัตตานีคือจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพียบพร้อมด้วยแหล่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เช่น มัสยิดกรือเซะ สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ฯลฯ และพื้นที่ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ แต่นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายเลย

1.ชุมชนท่องเที่ยวตุยง

ชุมชนท่องเที่ยวตุยงมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่ วังเจ้าเมืองหนองจิก ซึ่งได้รับการบูรณะและรับรองจากกรมศิลปากร ให้เป็นโบราณสถานที่ควรอนุรักษ์ไว้และวัดมุจลินทวาปีวิหาร หรือวัดตุยง ซึ่งเป็นพระอารามหลวงสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2388

ที่ตั้ง :  ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
เปิดทำการ : 08:00 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

2.ชุมชนท่องเที่ยวน้ำบ่อ

เป็นชุมชนที่มีการดำรงชีวิตแบบวิถีประมงพื้นบ้าน ซึ่งตลอดระยะทางจะพบเห็นชาวบ้านทำปลากะตักแห้ง วางตากเรียงราย 2 ข้างทาง

ที่ตั้ง :   หมู่ 4 ต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี
เปิดทำการ : 08:00 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

3.ชุมชนท่องเที่ยวทรายขาว

เป็นชุมชนที่มีทุนทางทรัพยากรสูง มีความอุดมสมบูรณ์ และความงดงามตามธรรมชาติ

ที่ตั้ง : 55 หมู่ 5 ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
เปิดทำการ : 08:00 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

4.มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี

เป็นมัสยิดแห่งแรกที่สร้างขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2497 ใช้เวลาดำเนินการสร้าง 9 ปี สร้างเพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในภาคใต้

ที่ตั้ง : 249 ถนนยะรัง ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี
เปิดทำการ : 08:00 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

5.หอนาฬิกา 3 วัฒนธรรม

หอนาฬิกาสามวัฒนธรรมสร้างเมื่อประมาณปีปลาย 2554 หรือต้นปี 2555 แล้วเสร้จเมื่อปีประมาณต้น 2556 ถูกสร้างขึ้นด้วยการผสมผสานศิลปะวัฒนธรรมของเมืองปัตตานี ไทย จีน มุสลิมเขาด้วยกัน

ที่ตั้ง : บริเวณริมแม่น้ำปัตตานี ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี
เปิดทำการ : 08:00 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴

‘ จังหวัดสตูล ’

จังหวัดสตูล เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามเยอะมาก เพราะที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูงมาก แต่นอกจากจะมีทะเลที่สวยงามแล้วก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆน่าสนใจอีกด้วยนะ

1.เกาะอาดัง

เป็นเกาะที่มีความใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกาะตะรุเตา อันเป็นส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาหรืออุทยานแห่งชาติตะรุเตา

ที่ตั้ง : ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล จ.สตูล
เปิดทำการ : 08:30 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

2.เกาะหินซ้อน

มีลักษณะเป็นกองหินกลางน้ำ มีหินก้อนใหญ่ 2 ก้อนวางเทินกันอยู่ นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวชมทิวทัศน์และความมหัศจรรย์ของหินซ้อน และลงดำน้ำชมโลกใต้ทะเลตื้นๆรอบเกาะหินซ้อน นอกจากนี้ บริเวณเกาะนี้ยังมีปลาชุกชุมเป็นที่นิยมของบรรดานักตกปลาทั้งหลายด้วย

ที่ตั้ง : ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล จ.สตูล
เปิดทำการ : 00:00 – 24:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ฟรี

3.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสตูล คฤหาสน์กูเด็น

สร้างเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นในรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรปแบบโดโรเนียล สู่การเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บเรื่องราวในอดีตอันงดงามของจังหวัดสตูล

ที่ตั้ง : ถนนสตูลธานี ซอย 5 ซอยซอย 5 ถนนถนนสตูลธานี ต.พิมาน อ.เมืองสตูล จ.สตูล
เปิดทำการ : 09:00 – 16:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ต่างชาติ 30 บาท / คนไทย 10 บาท

4.อุทยานแห่งชาติทะเลบัน

เป็นชื่อของบึงน้ำจืดขนาด ใหญ่เนื้อที่ประมาณ 125 ไร่ กลางหุบเขาจีนและเขามดแดง ซึ่งเข้าใจว่าเกิดขึ้นจากการยุบตัวของพื้นดิน น้ำในบึงเกิดจากต้นน้ำที่ออกมาจากผนังเขา บริเวณโดยรอบประกอบด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์

ที่ตั้ง : หมู่ที่4 ถนนถนนสมันตรัฐวิถี ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล
เปิดทำการ : 08:30 – 16:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม : ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 เด็ก 100 / คนไทย ผู้ใหญ่ 40 เด็ก 20

5.หาดสันหลังมังกร ตันหยงโป

เป็นหาดสันทรายกลางทะเลที่เกิดจากการทับทมของซากเปลือกหอยนับหลายล้านตัว ทับถมกันเป็นเส้นทางเดินยาวกว่า 4 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างเกาะหัวมันกับเกาะสามอยู่กลางน่านน้ำทะเลอันดามัน

ที่ตั้ง : หมู่ที่1 ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล จ.สตูล
เปิดทำการ : 08:30 – 17:30น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม :  ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ และแพ็กเกจ

🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴

‘ จังหวัดนครศรีธรรมราช ’

ถึงแม้ว่าจะเป็นจังหวัดเมืองรอง แต่ที่นี่ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งชุมชนการเกษตรเชิงอนุรักษ์

1.ทะเลหมอกเขาจังโหลน กรุงชิง

เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่เต็มไปด้วยพันธู์ไม้ที่หายาก จุดเด่นของทะเลหมอกเขาจังโหลน คือ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อีกทั้งสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น และ ลับขอบฟ้าด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม

ที่ตั้ง : 109 หมู่ 3 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
เปิดทำการ : 05:30 – 18:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม :  ไม่มีค่าบริการ (ค่าเหมารถ คันละ 500 บาท ค่าอาหารเช้าคนละ 50 บาท)

2.น้ำตกท่าน้อย

บรรยากาศร่มรื่นด้วยร่มไม้ใหญ่ตลอดสองข้างลำธาร มีน้ำไหลตลอดปีแต่จะมีน้ำมากช่วงปลายฤดูฝน

ที่ตั้ง : เลขที่ 4014 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
เปิดทำการ : 08:00 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม :  ไม่มีค่าบริการ

3.ยอดเขารามโรม

เป็นจุดชมทิวทัศน์บนยอดเขาสูงโดยสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 966 เมตรและ มีถนนพื้นแข็งถาวรที่รถยนต์เข้าถึงได้สะดวก สามารถมองเห็นทะเลหมอกพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า

ที่ตั้ง : เลขที่ 4014 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
เปิดทำการ : 08:00 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม :  ไม่มีค่าบริการ

4.อ่าวเตล็ด

เป็นอ่าวปิดที่โอบล้อมด้วยเกาะน้อยใหญ่ทำให้ลดความรุนแรงจากการปะทะของคลื่นลมในฤดูฝน

ที่ตั้ง : เลขที่ 84 หมู่ ม.6 ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
เปิดทำการ : 07:00 – 17:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม :  ค่าเรือชมโลมาเป็นแบบเหมาลำ 1 ลำ นั่งได้ 7 คน ราคา 1000 บาท/1 ลำ

5.อ่าวแขวงเภา

ชื่อเดิมอ่าวท้องตะเภา เป็นท้องอ่าวอีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ มีมุมมองที่สวยงามหลากหลายมิติ หาดทรายละเอียด ขาว ขนาบด้วยภูเขาขนาดกลาง น้ำทะเลใส มีทิวทัศน์ท้องทะเลที่เห็นเกาะต่างๆ

ที่ตั้ง : แขวงเภา ต.ท้องเนียน อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
เปิดทำการ : 06:00 – 19:00น. (ทุกวัน)
ราคาค่าเข้าชม :  ฟรี

ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก-thailandtourismdirectory,thailandtopvote

🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴🌴

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com