คลังเก็บหมวดหมู่: ไม่มีหมวดหมู่

วัดประจำรัชกาลที่ 1 -9 แห่งราชวงศ์จักรี

วัดประจำรัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ “วัดโพธิ์” วัดโบราณเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ตั้งอยู่ใกล้กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) และพระบรมมหาราชวัง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้เข้ามาบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร” เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมชื่อว่า “วัดโพธาราม” เป็นวัดโบราณเก่าแก่ที่ราษฎรสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แม้ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นหลังจากปีพุทธศักราช ๒๒๓๑ ในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชาต่อกับรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นวัดราษฎร์ขนาดเล็กอยู่ในเขตตำบลบางกอก ปากน้ำเจ้าพระยา เมืองธนบุรี ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า “วัดโพธิ์” มาจนถึงกระทั่งทุกวันนี้

วัดประจำรัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดโบราณสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมเรียกว่า ” วัดมะกอก ” แล้วเปลี่ยนมาเป็น “ วัดแจ้ง ” ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธ-เลิศหล้านภาลัย ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่แล้วพระราชทานชื่อใหม่ว่า “ วัดอรุณราชธาราม ” ถึงรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมอีก แล้วเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “ วัดอรุณราชวราราม ” มีชื่อเต็มว่า “ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ”

วัดประจำรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร

เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เดิมชื่อว่า วัดจอมทอง เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ได้รับพระราชทานนามใหม่เป็น วัดราชโอรส หมายถึง วัดที่พระราชโอรสทรงสถาปนาขึ้น ด้วยเหตุที่เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น พระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ในรัชกาลที่ ๒ ได้เป็นแม่ทัพคุมพลเสด็จไปสกัดกั้นทัพพม่าที่เมืองกาญจนบุรีโดยทางเรือ และเส้นทางเดินทัพในวันแรกได้เสด็จผ่าน คลองบางกอกใหญ่ (ปัจจุบันคือคลองบางหลวง) เข้าคลองด่าน เมื่อเสด็จถึงหน้าวัดจอมทองทรงหยุดประทับแรมที่หน้าวัด และได้ทรงประกอบพิธีเบิกโขลนทวารตามตำราพิชัยสงครามเล่ากันว่าท่านเจ้าอาวาสวัดจอมทองได้จับยามสามตาดู แล้วถวายคำพยากรณ์ว่าจะประสบผลสำเร็จและเสด็จกลับมาโดยสวัสดิภาพ จึงทรงเลื่อมใสและประทานพรไว้ว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงจะสร้างวัดถวายใหม่ หลังจากเลิกทัพเสด็จกลับพระนครโดยปลอดภัยแล้วจึงปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นใหม่ทั้งวัดตามที่ทรงประทานพรไว้กับเจ้าอาวาส และเนื่องจากพระองค์ทรงนิยมศิลปะจีน รูปทรงสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมต่างๆ ในพระอารามนี้จึงเป็นศิลปะประยุกต์แบบ ไทยผสมจีน เรียกกันในสมันนั้นว่า ศิลปะพระราชนิยม

ศิลปกรรมไทยในวัดนี้ล้วนประยุกต์สรรค์สร้างได้อย่างกลมกลืน งดงาม หาที่ติไม่ได้ เช่น ลายกระแหนะรูปเสี้ยวกางที่บานประตูหน้าต่างพระวรวิหารพระพุทธไสยาสน์ รูปหลังคาแบบจีนของพระอุโบสถ พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ตลอดถึงกุฏิ นับเป็นครั้งแรกที่มีการสร้างโบสถ์ วิหารที่ไม่มีช่อฟ้า ใบระกาและหางหงส์ แต่ยังคงรูปสิ่งเหล่านั้นไว้เป็นสัญลักษณ์แห่งศาสนสถานได้อย่างสง่าและงดงาม

วัดประจำรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร

เป็นพระอารมหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร รัชกาลที่ ๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตาทพระราชดำริเพื่อประโยชน์ ๒ ประการ คือ ประการแรก ให้เป็น พระอารามหลวงของพระมหากษัตริย์ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประเพณีโบราณที่ว่า ในราชธานีจะต้องมีสำคัญประจำ ๑ วัด ได้แก่ วัดมหาธาตุฯ วัดราชบูรณะฯ และวัดราชประดิษฐฯ ประการที่ ๒ ให้เป็น วัดฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ที่อยู่ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง สะดวกสำหรับพระองค์ เจ้านายและข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายในทั้งหลายไม่ต้องเดินทางไกลไปถึง วัดบวรนิเวศมหาวิหารฯ ต่อมารัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แบ่งพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ ๔ ไปบรรจุในพระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถ จึงถือว่าเป็น วัดประจำรัชกาลที่ ๔ ภายในพระวิหารมีจิตรกรรมภาพเขียนแปลกกว่าวัดอื่น คือ ผนังระหว่างหน้าต่างเป็น ภาพพระราชพิธี ๑๒ เดือน ส่วนที่ผนังหน้าพระประธานเป็น ภาพสุริยุปราคา มีคนกำลังส่องกล้องดูดาว ทำให้รำลึกถึงการเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรสุริยุปราคา ที่ ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี พ.ศ. ๒๔๑๑

วัดประจำรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

วัดประจำรัชกาลที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามหลวงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาลเมื่อ พ.ศ. 2412 โดยมีพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ และเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (หม่อมราชวงศ์ปุ้ม มาลากุล) เป็นผู้อำนวยการก่อสร้าง มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรมตะวันตก คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบตกแต่งอย่างตะวันตก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม หมายถึง วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง และมีมหาสีมาอันเป็นเสาศิลาจำหลักยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร 8 เสา ตั้งเป็นสีมาที่กำแพง 8 ทิศ “ราชบพิธ” หมายถึง พระอารามที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง บพิธ คำนี้มาจากภาษาบาลีคือ ปวิธะ ที่แปลว่าสร้าง ส่วน “สถิตมหาสีมาราม” หมายถึง พระอารามซึ่งมีสีมากว้างใหญ่ เป็นมหาสีมาล้อมรอบอาณาเขตของวัด วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นับเป็นพระอารามหลวงสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณีที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล

วัดประจำรัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

วัดบวรนิเวศวิหาร (วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร)

เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่ต้นถนนตะนาวและถนนเฟื่องนคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ แต่เดิมวัดแห่งนี้ ชื่อว่า “วัดใหม่” ตั้งอยู่ใกล้กับวัดรังษีสุทธาวาส โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ วังหน้าในรัชกาลที่ ๓ ได้ทรงสร้างขึ้นใหม่ด้วยศิลปะไทยผสมจีน โดยทรงผูกพัทธสีมาเป็นครั้งแรกเมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๗๒ ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ได้โปรดเกล้าฯ ให้ยุบวัดรังษีสุทธาวาสมารวมกับวัดบวรนิเวศวิหาร

วัดประจำรัชกาลที่ ๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร

วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ ณ แขวงราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีชื่อเรียกกันเป็นสามัญหลายชื่อตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ อาทิเช่น วัดพระใหญ่, วัดพระโต ซึ่งเป็นการเรียกตามลักษณะพระพุทธรูปสำคัญของวัดคือพระศรีศากยมุนี หรือ “วัดเสาชิงช้า” ซึ่งเรียกตามสถานที่ตั้งที่อยู่ใกล้กับเสาชิงช้า ด้านหน้าเทวสถานของพราหมณ์บริเวณใจกลางพระนคร ภายในวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้อัญเชิญ พระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ มาบรรจุที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนีเมื่อ พ.ศ. 2493 และมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรในวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี

วัดประจำรัชกาลที่ ๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก

วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปี พ.ศ. 2538 ตั้งอยู่เลขที่ 999 ซอยพระราม 9 กาญจนาภิเษก 19 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เป็นวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคมสีมาและได้รับการยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีเป็นการพิเศษ สืบเนื่องจากสภาพสังคมไทยในปัจจุบันปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม นับเป็นปัญหาใหญ่ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งชุมชนบึงพระราม ๙ ก็เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ที่ปราบปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น อันก่อให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย ส่งผลให้เกิดการทำลายสภาพแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน กอรปกับแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแหล่งปลายทางรับน้ำเสียจากทุกหนแห่ง ได้เริ่มเสื่อมโทรมลงทุกขณะ หากไม่เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ก็จะตามมาอย่างไม่หยุดยั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับประชาชนและประเทศชาติ จึงมีพระราชดำริให้ทดลองแก้ไขปัญหาน้ำเสียด้วยวิธีเติมอากาศ ณ บริเวณบึงพระราม ๙ ในลักษณะเป็นระบบบำบัดน้ำเสียขนาดเล็กและทำการทดสอบการบำบัดน้ำเน่าเสียที่ ไหลมาตามคลองลาดพร้าวบางส่วนให้มีคุณภาพดีขึ้น โดยใช้วิธีเติมอากาศลงไปในน้ำและปล่อยให้น้ำตกตะกอนแล้วปรับสภาพก่อนระบาย ออกสู่ลำคลองตามเดิม รวมทั้งการปรับปรุงคุณภาพน้ำซึ่งเป็นการนำน้ำสะอาดจากแม่น้ำเจ้าพระยามา ชะล้างทำความสะอาดคลองและระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยอาศัยจังหวะน้ำขึ้น – น้ำลง ตามธรรมชาติ อันเป็นการบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง

ขอบคุณรูปภาพจาก  ดอกจานโฟโต้ , www.lip.su.sc.th , watpraram 9.blongspot.com , dhammajak.net

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

10 จุดเช็คอิน… ทั้งกิน ทั้งเที่ยว ในจ.ระยอง

1. ทุ่งโปรงทอง

ทุ่งโปรงทอง แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตั้งอยู่ในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส อำเภอแกลง มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ทุ่งโปรงทองเป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์และศึกษาเรียนรู้ควบคู่กันไป โดยสร้างสะพานเดินศึกษาธรรมชาติ เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลน ได้เห็นความสวยงามตามธรรมชาติของ ป่าโกงกาง ไม้โปรง และไม้ริมชายฝั่ง จุดเด่นของบริเวณนี้คือต้นโปรงที่ขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่ สะท้อนสีเขียวอ่อนตา จนเรียกว่า เป็นทุ่งโปรงทอง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook : ชายกลาง กลาง , Facebook : theTripPacker , Facebook : ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL

2.ทะเลแหวก เกาะมันใน

เกาะมันใน เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะมันที่มีทั้งหมด 3 เกาะ เรียกชื่อตามระยะทางจากฝั่ง เกาะที่อยู่ใกล้ชายฝั่งมากที่สุดก็เรียกเกาะมันใน เป็นเกาะที่มีพื้นที่ประมาณ 131 ไร่ ในช่วงเวลาน้ำลดจะเกิดเป็นทะเลแหวกเป็นสันทรายโผล่ขึ้นมาเป็นสันทรายทอดยาวจากเกาะมันในไปจนถึงเกาะมันกลาง มีระยะทางประมาณ 200 เมตร นับเป็นทะเลแหวกภาคตะวันออก เป็นที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระยอง สวยงามไม่แพ้ทะเลแหวกของทางภาคใต้เลย และอย่าลืมแวะไปที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล (เกาะมันใน) เป็นสถานที่ศึกษาการแพร่ขยายพันธุ์สัตว์ทะเล หายากชนิดอื่นๆ ให้ได้ศึกษากันอีกด้วย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook : STPixz , Facebook : AM Holiday Travel , สมาชิก Pantip : 3KKK

3. สวนผลไม้ในระยอง

สวนผลไม้ในจังหวัดระยอง มีอยู่หลายแห่ง ในหลายอำเภอ เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม และชิมผลไม้ได้อย่างไม่อั้น บางแห่งจัดที่พักเป็นแบบโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้ค้างคืนในสวน ใกล้ชิดธรรมชาติ และได้เห็นชีวิตชาวสวนผลไม้ เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบชาวสวน ชมผลไม้ให้ผลสีสันสดสวยบนต้น และเลือกเด็ดกินผลไม้จากต้นได้อย่างจุใจอีกด้ว


ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://www.rayonghip.com/fruit-buffet-2017/

4.ปากน้ำประแส

ปากน้ำประแส คือตำบลหนึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่ในอำเภอแกลง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระยอง ที่มีแหล่งป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร การเชื่อมต่อกันระหว่างกระแสน้ำจืดไหลมาปะทะกับน้ำทะเล ปากน้ำประแส คือสถานที่ท่องเที่ยวระยอง ซึ่งมีแหล่งชุมชนริมแม่น้ำดั้งเดิม ตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยสภาพบ้านเรือนเก่าๆ นั้นยังคงมีเหลือให้ได้คิดถึงวันคืนในอดีตอยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าปากน้ำประแส จะไม่ได้มีหาดทอดยาวเหมือนหาดอื่นๆ แต่ถ้าคุณอยากมาสัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวบ้าน ขี่จักรยานสัมผัสวิถีชุมชน อิ่มหนำสำราญกับอาหารทะเลและอาหารพื้นบ้าน ถือว่าเป็นจุดน่าสนใจที่ควรมาใช้ชีวิตแบบเนิบนาบ ทำอะไรให้ช้าลง สัมผัสความสงบ ผ่อนคลาย ในวันที่แสนสบายของคุณได้อย่างอบอุ่นใจ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook : theTripPacker , สมาชิก Pantip : หมายเลข 970605

5.ถนนยมจินดา

ถนนยมจินดา เป็นถนนเก่าแก่ที่ทอดตัวยาวขนานไปกับแม่น้ำระยอง เป็นแหล่งการค้าและเศรษฐกิจแห่งแรกของเมืองระยองชวนชิมอาหารรสเลิศดั้งเดิม ชมบ้านโบราณที่น่าสนใจ มาถึงถนนยมจินดาแล้วพลาดไม่ได้ ต้องแวะจิบเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟราย็อง ร้านกาแฟเก่าที่เห็นแล้วชวนคิดถึงความหลัง และเดินเที่ยวตลาดเก่าเมืองระยองยามค่ำ ดื่มดำอาหารเครื่องดื่ม และชื่นชมบรรยากาศเก่าๆที่แผงไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหา

 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://travel.trueid.net/detail/31995

6.หาดแม่รำพึง

หาดแม่รำพึง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดระยอง อยู่ห่างจากตัวเมืองระยองเพียง 11 กม. เป็นชายหาดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ชายหาดมีความเรียบเป็นแนวทอดตลอดทั้งชายหาด มีเม็กดทรายที่ละเอียดนุ่มเท้า และบริเวณชายหาดยังมี ลานหินขาว เป็นบริเวณที่มีก้อนหินสีขาวน้อยใหญ่ ประดับด้วยการปลูกต้นไม้ ต้นมะพร้าว สนามหญ้า ตกแต่งสวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน นั่งเล่น นั่งปิคนิคริมทะเล และถือเป็นจุดชมวิว ถ่ายรูป ของหาดแม่รำพึงอีกด้วย และอีกสถานที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ “สะพานคู่” ซึ่งสะพานคู่แห่งนี้ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมของนักถ่ายภาพที่มาจับจองพื้นที่หาทิศทางดีๆในการถ่ายภาพงามๆ แถมเรายังได้ชมกับ บ้านก้นอ่าว หมู่บ้านชาวประมง ได้เห็นวิถีชีวิตและการทำประมงของที่นี่ด้วยนั่นเอง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก สมาชิก Pantip : หมายเลข 839828 , http://travel.sanook.com/1403537/

7.เกาะเสม็ด

เกาะเสม็ด เป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวไทยฝั่งภาคตะวันออก ตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศ พราะมีธรรมชาติอันงดงาม มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และทีเด็ดที่นี่คือ ควงกระบองไฟ มีทั้งเด็กและวัยรุ่นมาควงให้ดูจะโชว์มืดๆ จะมีเกือบหน้าทุกร้านเค้าจะมาโชว์ริมหาด และโชว์เสร็จก็จะมีกระป๋องให้ใส่ตามแล้วแต่เรา ถ้าไม่ได้ดูถือว่าพลาดมาก

ขอขอบคุณรูปภาพจาก สมาชิก Pantip : หมายเลข 839828 , Facebook : Tripth ทริปไทยแลนด์

8.ตลาดเกาะกลอย

ตลาดเกาะกลอย ตั้งอยู่ในอำเมือง จังหวัดระยอง เป็นตลาดย้อนยุคเล็กๆ แหล่งช้อป ชิมชิลในตัวเมืองระยอง ภายในตัวตลาดมีพื้นที่ไม่กว้างขวางมากนักเป็นเรือนแถวไม้กลางสระน้ำตกแต่งออกแนวโบราณเพื่อให้เข้ากับ บรรยากาศของความเป็นตลาดเก่า ชวนให้ถึงกลิ่นอายของความเป็นอดีตในวันวาน หากเดินมาใกล้ถึงทางออกเราก็จะพบกับบ้านไม้โบราณ 2 ชั้น ตกแต่งเป็นมุมถ่ายภาพแสนเก๋ หลายมุม อย่างเช่น ที่ว่าการอำเภอเกาะกลอย ตราชู ตราชั่ง รถสามล้อและจักรยานโบราณ ระหว่างทางใครต้องการให้อาหารปลา มีจำหน่ายในราคาถุงละสิบบาท นอกจากนี้ยังมีเป็ดถีบให้ถีบเล่นพักผ่อนกลางสายน้ำอีกด้วย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook : ตลาดน้ำเกาะกลอย fanpage

9.หาดแสงจันทร์

หาดแสงจันทร์ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นชายหาดที่เงียบสงบ หาดแสงจันทร์มีขายหาดที่โค้งเว้าคล้ายรูปเกือกม้ายาวไปจนสุดถนนเป็นภาพที่สวยงาม แปลกตา หาดแสงจันทร์จะคึกคักด้วยร้านอาหารทะเล ที่ตั้งเรียงรายยาวไปตลอด สองข้างทาง นั่งทานปูเสื่อ พร้อมโต๊ะญี่ปุ่น กางร่มผ้าใบในราคาไม่แพง หาดติดกับแหลมเจริญซึ่งเป็น จุดจอดเรือประมงและแหล่งลงปลาทำให้มีชาวบ้านมาตั้งร้านขายอาหารทะเลสด อย่างเช่น ปูม้า ปูทะเล ปลาหมึก หอยนางรม ในราคาย่อมเยา สำหรับซื้อหากลับไปรับประทานที่บ้านได้อีกด้วย

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Facebook : Pek Boonsombut , Facebook : กินเพลิน เดินเที่ยว , Facebook :สวัสดีเมืองระยองฮิ , สมาชิก Pantip : สุภาพบุรุษยุคหิน 

10.น้ำตกเขาชะเมา

เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา – เขาวง และเป็นที่ตั้งของที่ทำการของอุทยานฯ
น้ำตกเขาชะเมา มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีความยาวของช่องน้ำตกประมาณ 3 กม. แต่ละชั้นของน้ำตกมีลักษณะเป็นวังน้ำสวยงาม มีทั้งหมด 8 ชั้น และมีชื่อเรียกแต่ละชั้นต่างกัน คือ วังหนึ่ง วังมัจฉา วังมรกต วังไทรงาม ผากล้วยไม้ ช่องแคบ หกสาย และผาสูง และที่วังมัจฉา เป็นวังน้ำใหญ่มีฝูงปลาพลวงอยู่มาก ซึ่งเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวและถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของน้ำตกเขาชะเมา

ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://www.siamfreestyle.com/travel-attraction-more/rayong/kao-chamao-wf.html , คุณ ชัตเตอร์ โอลี่

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

10 จุดกางเต้นท์ดูดาว ทั้งหนาว ทั้งฟิน!

1.ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

จุดกางเต็นท์ดอยอินทนนท์เชียงใหม่เริ่มตั้งแต่กิโลเมตรที่ 1 จนถึงกิโลเมตรที่ 45 ถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง มีทั้งน้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง ถ้ำบริจินดา น้ำตกวชิรธาร น้ำตกแม่ปานทรายเหลือง สถานีวิจัยโครงการหลวง อินทนนท์ น้ำตกสิริภูมิ บ้านม้งขุนกลาง กิ่วแม่ปาน เส้นทางศึกษาธรรามชาติอ่างกาหลวง ตำแหน่งจุดกางเต็นท์ดอยอินทนนท์มี 3 ทำเล คือ บริเวณดงสน กิโลเมตรที่ 30 บริเวณที่ทำการอุทยาน กิโลเมตรที่ 31 และบริเวณน้ำตกแม่ปาน-ห้วยทรายเหลือง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก space.postjung.com , amazingthaitour.com , govirigo.com

2.ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาว สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ สูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล การขึ้นสู่ยอดดอยแห่งนี้บอกเลยว่า ต้อง “เดินเท้า” เท่านั้น สำหรับ “ดอยหลวงเชียงดาว”แห่งนี้ จุดกางเต็นท์จะอยู่ห่างจากยอดสูงสุดราว 1.5 กม. ยิ่งไปช่วงหน้าหนาวที่เหล่าหมอกขาวพากันมาปกคลุมหมู่เขาตรงหน้าด้วยแล้ว ภาพงามแห่งทะเลหมอกจะจารจดอยู่ในคลองสายตาของคุณไปตราบนานเท่านาน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  สมาชิก Pantip : 24 กันยา

3.ห้วยน้ำดัง แม่ฮ่องสอน

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นี้มีจุดกางเต็นท์หลักๆ 2 จุด แต่หลากทำเลให้คุณเลือกได้ตามใจชอบ บริเวณที่ทำการอุทยานฯห้วยน้ำดัง ที่นี่ถือเป็นจุดกางเต็นท์ หลักของห้วยน้ำดัง

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  สมาชิก Pantip : babyfresh , Facebook : theTripPaker

4. ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ภูทับเบิกมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร นับเป็นจุดที่สูงที่สุดของจังหวุดเพชรบูรณ์การกางเต็นท์บนภูทับเบิก ถือเป็นสุดยอดแห่งการกางเต็นท์แห่งหนึ่งของเมืองไทย อากาศของภูทับเบิก เย็นสบายตลอดทั้งปี กลางคืนไม่เคยร้อน มีแต่หนาวมากกับหนาวน้อย ลานกางเต็นท์หลัก ของภูทับเบิกอยู่บนจุดชมวิวสูงสุด ปรับแต่งพื้นที่เป็นขั้นบันได สำหรับการกางเต็นท์จำนวนมาก สามารถรองรับได้หลายร้อยเต็นท์

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  สมาชิก Pantip : คนหัวฟู , Facebook : ภูทับเบิก

5.ภูสอยดาว อุตรดิตถ์

ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูง จากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคกอำเภอบ้านโคกตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก ตำแหน่งจุดกางเต็นท์ มี 2 จุด คือ จุดที่แรก บริเวณที่ทำการอุทยาน จุดที่สอง บริเวณลำธารบนยอดภูสอยดาว

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  Facebook : Apichai Muangnguewrai , Facebook : Nutcha Chanpraphanp , ที่นี่…น้ำปาด , สมาชิก Pantip : AntWorawit

6.เขาค้อ เพชรบูรณ์

เขาค้อ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ว่ากันว่าที่นี่ มีอากาศเย็นสบาย สดชื่นตลอดปี ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงฤดูร้อน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี โดยจุดกางเต็นท์ที่คนมาเขาค้อ นิยมมากที่สุด เห็นจะเป็นพื้นที่ ริมทางสาย 2196 เยื้องๆกับที่ว่าการอำเภอเขาค้อ โดยจุดๆนี้จะมีพื้นที่กางเต็นท์ไม่มากนัก แต่สามารถชมทะเลหมอกในตอนเช้าได้อย่างชัดเจนที่สุด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  สมาชิก Pantip : Yuri Ying , สมาชิก Pantip : Dr.kwind

7.ดอยผ้าห่มปก

ยอดดอยผ้าห่มปกนั้นสูง 2,285 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นยอดที่สูงอันดับ 2 ของประเทศ จากยอดดอยจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม เช่น ทะเลหมอก และถนนบนสันเขา ขนานกับชายแดนไทย-พม่า สำหรับจุดกางเต็นท์ของที่นี่ ก็คือ จุดกางเต้นท์กิ่วลม ดอยผ้าห่มปก จ.เชียงใหม่ สัมผัสบรรยากาศยามเช้าที่สดชื่นด้วยสีเขียวของต้นไม้ สวยนวลตากับวิวทะเลหมอกที่ล้อมรอบด้วยขุนเขา

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  สมาชิก Pantip : เหมียวเก้าแต้ม , สมาชิก Pantip : yaipearm , Facebook : theTripPacker

8.ภูกระดึง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทยเพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ เส้นทางขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” หมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาแต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการระหว่างการเดินทาง สำหรับจุดกางเต็นท์ของที่นี่ จะเป็น ลานกางเต็นท์ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง เป็นจุดบริการนักท่องเที่ยวมีอุปกรณ์มากมาย รวมถึงอาหารการกินครบครัน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  สมาชิก Pantip : มันไม่ใช่อ่ะกิ๊ฟ

9.ภูเรือ

อุทยานแห่งชาติภูเรือ เป็นจุดที่หนาวที่สุดในประเทศไทย และมีธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การทางท่องเที่ยวในฤดูหนาวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการชื่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น หรือ ทะเลหมอก มีลานกางเต็นท์จัดเตรียมไว้บริการนักท่องเที่ยวถึง 2 แห่ง แต่ละแห่งก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และที่สำคัญยังมีไฟฟ้าให้ใช้ตลอดคืน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  Facebook : ภูเรือ

10.ดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน อยู่สูง 888 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ส่วนฤดูท่องเที่ยว ก็คือ ช่วงหน้าหนาว ประมาณช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนกุมภาพันธ์ ลานสำหรับกางเต็นท์บนดอยเสมอดาว นั้นมีเยอะมาก โดยจะมีเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติศรีน่านไว้ให้บริการอยู่แล้ว เป็นลานกางเต็นท์ประเภทขั้นบันได ทำให้มีความรู้สึกเป็นส่วนตัว

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  Facebook : สะพายกล้องท่องเที่ยว กับ มาเรีย ณ ไกลบ้าน , Facebook : Khun Puii , Facebook : ผู้ชายนวลๆ

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ไปเล่นน้ำคลายร้อนกับ 8 สถานที่ล่องแพ ชมวิวธรรมชาติสวยๆ

1. ล่องแพเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหินกอง ตำบลนิคมลำโดมน้อย อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่น่าสนใจ ด้วยเพราะเป็นลำน้ำที่ไหลมาจากเขื่อนสิรินธร และจะไหลไปบรรจบกับน้ำที่เขื่อนปากมูล ช่วงเช้าเขื่อนสิรินธรจะปิดเขื่อน ทำให้สายน้ำลำโดมน้อยแทบจะนิ่ง เหมาะกับการล่องแพและเล่นน้ำ โดยจะมีแพไว้คอยให้บริการ และมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ให้บริการ เช่น เสื่อ เตาถ่าย อุปกรณ์ปิ้งย่าง เสื้อชูชีพ จานชาม ช้อนส้อม เพียงแต่นักท่องเที่ยวต้องนำอาหารและเครื่องดื่มเตรียมไปเองเท่านั้น

ขอบคุณรูปภาพจาก FB : ล่องแพเขื่อนสิรินธร จ.อุบล

2.ล่องแพเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ตั้งอยู่บริเวณคลองโหลง ในอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่ถูกขนานนามให้เป็นกุ้ยหลินเมืองไทย เพราะแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามแบบสุด ๆ แถมยังได้เห็นผืนน้ำสีเขียวมรกต ทั้งยังเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละช่วงฤดูก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างออกไป นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาส่วนใหญ่พลาดไม่ได้กับการนอนพักบนแพในเขื่อนเชี่ยวหลาน ที่มีให้บริการหลากหลายเจ้า พร้อมกิจกรรมท่องเที่ยวสนุก ๆ เช่น เล่นน้ำ พายเรือคายัก และร้องคาราโอเกะ เป็นต้น นับเป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่ามาสัมผัสสุด ๆ

ขอบคุณรูปภาพจาก phuketairporthai.com

3. ล่องแพเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง

ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านแลง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท จังหวัดลำปาง ว่ากันว่าตรงบริเวณเหนือเขื่อนเหมาะแก่การล่องเรือแพสุด ๆ เพราะรายล้อมด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและมีสิ่งที่น่าสนใจเพียบ เช่น แหลมชาวเขื่อน ผาเกี๋ยง ผางาม ทะเลสาบสบพุ และหมู่บ้านชาวประมงสา เป็นต้น ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่เขื่อนกิ่วลมเป็นจำนวนมาก ด้วยเพราะที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และเป็นอ่างเก็บน้ำที่บรรยากาศดี ถึงแม้ว่าจะไม่มาล่องแพค้างคืนก็มีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนที่สันเขื่อนกันแทบทุกวันหยุด

ขอบคุณรูปภาพจาก FB : ล่องแพเขื่อนกิ่วลม , ลำปาง 108

4.ล่องแพไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

น้ำตกไทรโยค ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติไทรโยค ล้อมรอบด้วยบรรยากาศแบบธรรมชาติสวย ๆ และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น น้ำตกไทรโยคใหญ่ น้ำตกไทรโยคน้อย และถ้ำดาวดึงส์ และหากนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสกับน้ำตกอย่างใกล้ชิด ที่นี่มีบริการลากแพล่องไปในน้ำตกไทรโยค นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิวธรรมชาติสีเขียวสองข้างทาง ผ่านบรรดาแพพัก และรีสอร์ทต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ หรือใครอยากจะลองล่องแพเปียก ก็สามารถเดินลงไปนั่งเล่น หรือเล่นน้ำได้แบบชิล ๆ

ขอบคุณรูปภาพจาก FB : แพพักไทรโยค-แพสลรีรัตน์ / สมาชิก Pantip หมายเลข 971552 

5.ล่องแพแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

ตั้งอยู่ในอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนมาเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อย ที่นี่มีซุ้มให้นั่งทานอาหารริมธารน้ำ แถมยังมีบริการให้ขี่ช้างแพไม้ไผ่ให้ลองเล่นไปตามสายน้ำชิล ๆ นักท่องเที่ยวจะเต็มอิ่มได้ด้วยร้านอาหารริมแม่วางมากมาย แต่ละร้านมีเอกลักษณ์ตรงที่เป็นเพิงไม้ไผ่มุงหลังคาตองตึง หรือใครอยากจะลองล่องแพไม้ไผ่ก็มีให้บริการ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง โดยสามารถติดต่อได้จากร้านอาหารที่เราเลือกได้เลย แม่ค้าพ่อค้าที่นี่อัธยาศัยดีทุกคน นักท่องเที่ยวจึงเลือกนั่งเลือกชิลได้อย่างสบายใจ

ขอบคุณรูปภาพจาก FB : ล่องแพพี่ยาแม่วาง / Chiangmainews.co.th

6.ล่องแพห้วยกระทิง จังหวัดเลย

อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ล้อมรอมด้วยทัศนียภาพของป่าไผ่และภูเขา กิจกรรมส่วนใหญ่ที่นักท่องเที่ยวมักทำเป็นประจำ ได้แก่ การล่องแพพักผ่อน ทานอาหารกลางวันท่ามกลางวิวสวย เป็นต้น ด้วยเพราะที่นี่ทีแพร้านอาหารให้บริการอยู่หลายเจ้า แถมอาหารที่ให้บริการก็ยังหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารอีสานแซ่บ ๆ เช่น ส้มตำ ลาบ ยำ อาหารพื้นบ้าน และไก่ทอดสมุนไพร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวสวย ๆ เอาไว้ให้คุณชมความสวยงามของหุบเขาเบื้องล่าง ที่เห็นแพลอยนิ่งอยู่เหนือน้ำ ในมุมที่สวยงามแบบสุด ๆ

ขอบคุณรูปภาพจาก คุณประทวน เนตรแสงศรี

7. ล่องแพแก่งไฮ จังหวัดพิษณุโลก

ตั้งอยู่ที่ริมอ่างเก็บน้ำห้วยซำรู้ หมู่บ้านแก่งไฮ ตำบลหนองกะท้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ที่เกิดจากความร่วมมือกันของชาวบ้านเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อน ทานอาหาร พร้อมกับล่องแพสัมผัสบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ โดยแพที่ใช้ทำจากวัสดุพื้นบ้าน ภายในมีอุปกรณ์ความปลอดภัยเอาไว้เตรียมพร้อม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ตอบโจทย์กิจกรรมการพักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ ชิล ๆ ที่ทำได้ทั้งตกปลา ทานอาหาร เล่นน้ำ และล่องแพได้ตลอดทั้งวัน

ขอบคุณรูปภาพจาก FB : ล่องแพแก่งไฮ ผู้ใหญ่ฮิปปี้ , สมาชิก Pantip สาวไกด์ใจซื่อ

8.ล่องแพเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

ตั้งอยู่บริเวณบ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปแวะชมทัศนียภาพธรรมชาติที่งดงามบนสันเขื่อนได้ตลอดทั้งปี เพราะไม่ว่าจะเป็นเมฆหมอก สายน้ำ และวิวสวย ๆ มีให้เห็นตั้งแต่เหนือเขื่อนยันท้ายเขื่อน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถพักที่พักที่อยู่ริมอ่างเก็บน้ำ หลายแห่งทำเป็นบ้านพักแพลอยน้ำ บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ บางแห่งมีเครื่องเล่นลอยน้ำต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน หรือจะพายเรือคายัก ล่องแพเปียก เพื่อชมพื้นที่ต่าง ๆ บริเวณเขื่อนกันแบบเต็มที่

ขอบคุณรูปภาพจาก FB : แพไกลบ้าน ล่องแพเขื่อศรีนครินทร์ กาญจนบุรี

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Kapook.com

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

พลูวิลล่าสุดหรู “เดอะ เรสซิเดนท์ รีสอร์ท”จ.ภูเก็ต

 หากถามถึงบรรยากาศเที่ยวภูเก็ตแบบชิลๆ อารมณ์ผ่อนคลายประมาณได้พักผ่อนในบ้านส่วนตัวของคุณเอง แต่เพิ่มเติมคือความหรูหราและสะดวกสบายที่มาพร้อมกับบริการอย่างดีเยี่ยมในราคาที่ใครๆก็จับต้องได้ ต้องเป็นที่นี่เลย “เดอะ เรสซิเดนท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา รีทรีท” ที่มาพร้อมกับโปรพิเศษ..ที่คุณก็พักได้

เดอะ เรสซิเดนท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา รีทรีท จังหวัดภูเก็ต เป็นรีสอร์ทที่มีลักษณะคล้ายบ้านพักตากอากาศสุดหรูบนเกาะที่เหมาะกับมาพักผ่อนตากอากาศอย่างภูเก็ต รีสอร์ทตั้งอยู่จากหาดบางเทาอันเงียบสงบเพียง 5 นาที “เดอะ เรสซิเดนท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา รีทรีท” คุณจะสัมผัสได้ถึงนิยามของวันพักผ่อนที่เป็นส่วนตัว เริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่สร้างเป็นสัดส่วนทอดไปสู่วิลล่าหลังงาม เมื่อถึงวิลล่าจะพบกับประตูไม้บานใหญ่ดีไซน์เก๋ วิลล่าสร้างด้วยซีเมนท์ด้วยรูปทรงทันสมัยและโอ่โถง เปิดเข้าไปภายในจะพบกับห้องนั่งเล่นและภายในที่ทันสมัย ตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมี่ยมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตระเตรียมไว้ให้เหมือนกับได้พักในโรงแรมชั้นเลิศ มีทั้งห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ทำครัว ห้องนั่งเล่น โซฟาพักผ่อน และวิลล่าทุกหลังยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอีกด้วย และสิ่งที่คุณจะต้องชอบหากได้มาพักที่นี่ คือความเป็นส่วนตัว ตลอดเวลาที่ได้พักผ่อนจะไม่พบกับผู้คนพลุกพล่าน เพราะรูปแบบวิลล่าถูกสร้างให้หลีกเร้นจากสายตาคนภายนอก สามารถเพลินเพลินกับการว่ายน้ำในวิลล่าและพักผ่อนกับคนที่คุณรักได้เป็นส่วนตัว

 สำหรับห้องพักมีให้เลือกตั้งแต่ห้องแบบOne Bedroom, Two Bedroom และ Three Bedroom วิลล่าทุกหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัว โดยที่ห้องพักขนาด 1 ห้องนอนจะกว้าง54 ตารางเมตร ห้องพักแบบ 2 ห้องนอนจะมีแบ่งเป็นวิลล่า ดูเพล็กซ์ 2 ชั้นกว้าง 270 ตารางเมตร และวิลล่าแบบชั้นเดียวกว้าง 335 ตารางเมตร หากมาพักผ่อนแบบกลุ่มหรือครอบครัวใหญ่วิลล่าแบบ 3 ห้องนอนสามารถรองรับกลุ่มคุณด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำขนาดพิเศษ สวนส่วนตัว เทอเรซสำหรับจัดปาร์ตี้เล็กๆได้

 อีกหนึ่งความพิเศษที่อยากแนะนำ “The Hattakarn Spa” สปาที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ทั้งสถานที่ตั้งการตกแต่งและทรีทเมนท์บำรุง แบ่งออกเป็นสปาแบบindoor และoutdoor โดยสปาoutdoor จะอยู่ใกล้สระดอกบัวให้ความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นขณะทำทรีทเมนท์ เมนูสปามีให้เลือกทั้งนวดไทยหรือดั้งเดิม นวดประคบ นวดน้ำมัน นวดสวีดีช ทรีทเมนท์บำรุงผิวหลัง ผิวหน้า ผิวตัว และสครับผิว

 พบกับวิลล่าหรู พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ราคาสุดคุ้ม “เดอะ เรสซิเดนท์ รีสอร์ท แอนด์ สปา รีทรีท”

• ห้อง 1 Bed room plunge pool villa สำหรับ 2 ท่าน 3,500 บาท /คืน
• ห้อง 2 Bed room private pool villa สำหรับ 4 ท่าน 8,900 บาท /คืน
• ห้อง 3 Bed room private pool villa สำหรับ 6 ท่าน 13,500 บาท /คืน

(หากพัก 3 คืนขึ้นไป ทางรีสอร์ทบริการจัดบาบิคิวพร้อมอาหารให้ริมสระน้ำ)

เงื่อนไข
– เริ่มจองวันนี้ – 31 กรกฎาคม 2560 เท่านั้น!!
– สามารถเข้าพักได้ตั้งแต่ วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2560
– ชำระเงิน จ่ายค่ามัดจำ50% และส่วนที่เหลือจ่ายในวันเช็คอินได้

ราคารวม
– อาหารเช้า เสิฟวิลล่าริมสระว่ายน้ำ หรือเสิฟในห้องพัก
– บริการเครื่องดื่มต้อนรับลูกค้า
– บริการรถรับ-ส่ง สนามบิน
– เครื่องดื่มน้ำอัดลม เบียร์ น้ำผลไม้ ฟรี! ในห้อง
– รถบริการรับ-ส่งไปทะเล (2 นาที) และไปเทสโก้โลตัส ฟรี!
– อินเตอร์เน็ต ฟรี!

สนใจติดต่อจองแพคเกค Tel: 081 270 8513 , Line ID: 081 270 8513
• Mail: reservations@richmondth.com 📩
• Facebook: www.facebook.com/The.Residence
• Website: www.theresidenceresort.com

The Residence Resort & Spa Retreat
258/12 หมู่ 5 หาดบางเทา ถ.ศรีสุนทร ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

รีวิว เที่ยวเชียงใหม่ 1 วัน ใครไม่ปอง เเม่กำปอง

วันนี้เราจะมาเที่ยวเชียงใหม่ 1 วัน ในช่วงฤดูฝนที่ต้นไม้ใบหญ้ากำลังเขียวขจี ที่ หมู่บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก ล้อมรอบด้วยลำธาร และภูเขา ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ เราจะเริ่มตั้งแต่การเดินทางกันเลยนะคะ

การเดินทางโดยรถยนต์ สามารถดูได้จาก GPS เลย ซึ่งเราเลือกไปทางดอยสะเก็ด แต่อย่าลืมเลี้ยวเข้าตรง ด่านตรวจบ้านโป่งดิน สภ.ดอยสะเก็ด นะคะ เพราะถ้าไม่เลี้ยวตรงนี้ระวังไปโพล่อีกทีที่เชียงรายนะคะ

ก่อนที่เราจะขึ้นไปถึงแม่กำปองนั้น เราก็จะผ่าน ศูนย์โครงการหลวงตีนตก ซึ่งสามารถแวะพักชม จิบ กาแฟ ถ่ายรูปกับลำธารก่อนได้ค่ะ แต่แนะนำ อย่าทานกาแฟนะคะ เพราะเดี๋ยวอีกสักครู่เราจะพบกับ การรวมตัวของร้านกาแฟ กับบรรยากาศที่แสนร่มรื่นที่แม่กำปองกันค่ะ ศูนย์โครงการหลวงตีนตก เป็นแหล่งผลิตกาแฟอาราบิก้าคุณภาพดีของโครงการหลวง ล้อมรอบด้วยธรรมชาติป่าไม้ โรงเรือนกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสหลากสีให้ชื่นชม

ระหว่างการเดินทางมาที่ น้ำตกแม่กำปอง เส้นทางก็โหดพอสมควรค่ะ เพราะฉะนั้นทุกท่านควรขับรถกันอย่างระมัดระวังนะคะ ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ แต่ดิฉันก็ขึ้นมาด้วยความปลอดภัย

ในที่สุดก็ถึงแล้วแม่กำปอง ซึ่งในวันเสาร์-อาทิตย์ หาที่จอดรถยากนิดนึงนะคะ ดิฉันแนะนำว่าให้จอดรถไว้ข้างล่าง แล้วเดินขึ้นไปเที่ยวชมกันดีกว่าค่ะ

ระหว่างทางที่เดินเที่ยวชมก็จะพบกับร้านค้ากาแฟที่เรียงรายตามเส้นทาง และร้านค้าอาหารของชาวบ้านมีทั้งร้านก๋วยเตี๋ยว ขนมจีนเมืองเหนือ ร้านส้มตำ ข้าวโพดปิ้ง มันปิ้ง และอีกมากมายเลยค่ะ แต่ดิฉันแนะนำว่าอย่าเพิ่งทานอะไรดีกว่าค่ะ เดี๋ยวไว้มาทานตอนขากลับ ซึ่งตอนนี้เราก็มาหยุดพักกันที่โบสถ์กลางน้ำที่วัดคันธาพฤกษา (วัดแม่กำปอง) ซึ่งสามารถแวะถ่ายรูปก่อนได้ และวัดนี้ยังเป็นแหล่งศูนย์รวมใจของชาวแม่กำปองอีกด้วยค่ะ

จากนั้นเราก็เดินทางต่อไปกันที่น้ำตกแม่กำปองซึ่งสามารถถามทางไปได้จากชาวบ้านแถวนั้นได้เลยคะ ซึ่งชาวบ้านน่ารักมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส อัธยาศัยดีมากเลยค่ะ

เมื่อขึ้นมาถึงน้ำตกแล้วก็เชิญถ่ายรูปกันตามสบาย ทางที่เราเดินจะเป็นเส้นทางเลียบกับน้ำตกเลยค่ะ ซึ่งต้องระมัดระวังในการเดินด้วยนะคะ ซึ่งสามารถถ่ายรูป และสัมผัสได้ถึงอากาศท่ามกลางป่าไม้เขียวขจี และมีความเป็นโอโซนอยู่หน่อยๆ

เมื่อถ่ายรูปกับน้ำตกเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางไปยังร้านชมนกไม้กันต่อค่ะ

จากนั้นเราก็เดินทางมาถึงจุดที่สูงที่สุดของแม่กำปองคือ ร้านชมนกชมไม้ เป็นร้านกาแฟ ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ในจุดที่สูงที่สุดของแม่กำปอง เป็นมุมสูงที่เหมาะแก่การถ่ายรูป

ในขากลับเดินลงมาก็จะเริ่มหิวกันแล้ว เนื่องจากเดินกันหลายกิโลตั้งแต่เดินเข้าหมู่บ้าน เดินไปวัด น้ำตก และร้านชมนกชมไม้ เราแนะนำให้เลือกร้านค้าที่ชอบตามใจเลยค่ะ เป็นราคานักท่องเที่ยวค่ะ และตอนเดินกลับลงมา อย่าลืมถ่ายรูปที่บ้านลุงปุ๊ด ป้าเป็ง ซึ่งใครมาก็ต้องถ่ายจุดนี้ ถือเป็นเเลนด์มาร์คเลยก็ว่าได้ค่ะ

สำหรับในทริปนี้ใครอยากพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านก็สามารถติดต่อได้เลยคะ ซึ่งราคาแตกต่างกันไปไม่แพงมากคะ ถือว่าคุ้มค้า แต่สำหรับเราขอไปนอนในเมืองดีกว่าคะ

เที่ยวสุดฟินบนเกาะหมากที่ เดอะชินนาม่อน อาร์ต รีสอร์ท & สปา

หากจะบอกว่า เดอะชินนาม่อน อาร์ต รีสอร์ท & สปา เป็นที่รวมคำว่า ‘ที่สุด’ บนเกาะหมากก็คงจะไม่ผิด เพราะที่นี่มีทั้งสระว่ายน้ำที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะหมาก มีสะพานไม้ส่วนตัวที่ยาวที่สุดบนเกาะหมาก และขอบอกว่าตัวรีสอร์ทก็ชิค ๆ อาร์ต ๆที่สุด

     ท่ามกลางความเงียบสงบ ธรรมชาติที่สวยงาม หาดทรายสีทอง แนวประการังที่สมบูรณ์และสวยงามของเกาะหมาก เป็นที่ตั้งของ เดอะ ชินนาม่อน อาร์ต รีสอร์ท & สปา รีสอร์ทสวยที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องการออกแบบสไตล์ทรอปิคอล รังสรรค์สถาปัตยกรรมอันแปลกใหม่โดยการนำเอาผลงานทางศิลปะ และความงามของวัสดุธรรมชาติผสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ภายใต้คอนเซปต์อนุรักษ์ธรรมชาติ ห้องพักมีทั้งหมด 48 ห้อง มีทั้งแบบ Seaviewที่เป็นตัวอาคารซึ่งจะอยู่ห่างจากหน้าหาดมาหน่อย แต่ว่าจากห้องพักก็สามารถมองเห็นทะเล หากชอบส่วนตัวหน่อยจะเป็นห้อง Autumn Leaf วิลล่าดีไซน์เก๋มองเห็นวิวสวน สำหรับห้อง Pool Side Villa จะมองเห็นทั้งวิวสระว่ายน้ำ วิวทะเล และวิวภูเขา และมาทะเลทั้งที่ลองจองห้อง The Beach Front ก็จะเยี่ยมไปเลย เพราะห้องนี้ใกล้ชิดทะเลแบบว่าเปิดม่านมาก็เจอหาดเลย รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน ห้องสุดท้ายมีเพียง 4 ห้องเท่านั้น Pool Hut Villa วิลล่าหรูหน้าหาดที่มาพร้อมสระส่วนตัว

     และแน่นอนว่าคุณต้องประทับใจกับดีไซน์และที่ตั้งของสระว่ายน้ำที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของที่นี่ เนื่องจากสระนั้นอาร์ตสมชื่อจริงๆ สระมีลักษณะเป็นวงรีเหมือนรูปดวงตาสุกสกาว เป็นสระว่ายน้ำสไตล์ทรอปิคอลขนานแท้ เพราะแวดล้อมด้วยพันธุ์ไม้เขียวขจีนานาชนิด มีการใช้ไม้เก่า reused ตกแต่งได้ความเก๋เข้ากันได้ดีกับธีมของรีสอร์ท สระตั้งอยู่ด้านหน้าหาด สามารถว่ายน้ำไปด้วยชมทะเลไปด้วยแสนเพลิน

    🏻 สำหรับกิจกรรมบนเกาะหมากมีทั้งตกปลา ขี่มอเตอร์ไซด์ชมเกาะ ขี่จักรยาน พายเรือแคนู ดำน้ำและเล่นสนุ๊กเกอร์ รับรองว่ามาเที่ยวเกาะหมากไม่มีเหงาแน่นอน บรรยากาศที่มีเสน่ห์น่าพักผ่อนแบบนี้ แล้วจะห้ามใจไม่ให้หลงรัก เดอะชินนาม่อน อาร์ต รีสอร์ท & สปา หนึ่งในรีสอร์ทที่สวยที่สุดในเกาะหมากได้อย่างไรเล่า?

มันก็จะต้องรีบจองเลยนะ…
Green Season ราคาเริ่มต้น 1,400 บาท/คืน ไม่รวมอาหารเช้า

แพคเกจ 2 วัน 1 คืน ห้อง Sea View ราคา 3,200 บาท/คน
• พร้อมอาหาร 2 มื้อ + เรือไป – กลับ
• เลือกได้ 1 กิจกรรม (เกาะกระดาด,เกาะขาม,ไหว้พระชมวิวรอบเกาะ)

แพคเกจ 3 วัน 2 คืน ห้อง Sea View ราคา 5,600 บาท/คน
• พร้อมอาหาร 5 มื้อ + เรือไป – กลับ
• เลือกได้ 2 กิจกรรม (เกาะกระดาด,เกาะขาม,ไหว้พระชมวิวรอบเกาะ)

หมายเหตุ
• เรือรอบไป เวลา 11.30 น. เรือรอบกลับ เวลา 8.30 น.
• โปรโมชั่นนี้ใช้ได้ตั้งแต่ 11 มิถุนายน – 30 กันยายน 2560

สำรองห้องพักและสอบถามข้อมูลได้ที่ ➡️
เดอะชินนาม่อนอาร์ต รีสอร์ท แอนด์ สปา (The Cinnamon Art Resort and Spa)
Hotline : 039 501 054 , 099 286 9714, 084 632 5599, 097 182 5959
Website : www.kohmakcinnamonresort.com/
Facebook : https://www.facebook.com/KohmakCinnamonArtResort
Email : kohmakcinnamonresort@gmail.com
Line ID : cinnamon.1
ที่อยู่ : 26/9 -10 หมู่ 2 ต.เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด 23000

ขอบคุณทุกท่านค่ะ ❤️🙏

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ไปเที่ยวดูวิวทะเลพัทยาสวย ๆ ที่แอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน

มีเพียงไม่กี่ที่เท่านั้นที่จะให้คุณได้อิ่มเอมกับมุมสวยของทะเลพัทยาได้เต็มอิ่มเท่าที่ แอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน โรงแรมขนาดใหญ่แห่งนี้มีหาดส่วนตัวที่เงียบสงบ แบบที่ไม่น่าเชื่อว่าทำเลที่ตั้งของโรงแรมไม่ห่างใจกลางเมืองพัทยาจะมีหาดส่วนตัวที่สวยและน่าเดินเล่นเป็นส่วนตัวได้มากขนาดนี้

     แอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพักมากกว่า 4,000 ห้อง โดยอาคารที่พักโรงแรมแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ Inn Wing ที่อยู่ด้านหน้า Garden Wing อาคารที่พักติดอาคารจัดประชุมสัมมนาและสปอร์ตเซ็นเตอร์ โซน Marina Tower Wing ที่ตกแต่งสวยงาม ใช้โทนสีขาวสะอาดตา มีหน้าต่างกระจกบานกว้าง จากห้องพักมองเห็นวิวชายหาดและวิวภูเขาแบบ 360 องศา และสุดท้าย Ocean Wing ห้องพักที่มองเห็นวิวทะเลได้อย่างงดงามที่สุด

     และด้วยเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ แอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน จึงมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่แสนอลังการเพียงพอกับกับจำนวนผู้ใช้ เริ่มตั้งแต่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 5 สระ พร้อมสระสำหรับเด็กอีก 2 สระ ซึ่งแต่ละสระจะมีดีไซน์และจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่นสระน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้าหาดและสระว่ายน้ำสไตล์ลากูน สำหรับห้องอาหารขนมาให้เลือกทานกับอาหารหลายสัญชาติทั้งอาหารไทยที่ Atrium Food Bar อาหารจีนที่ห้องอาหารฮ่องเต้ อาหารอิตาเลี่ยนที่ห้องอาหารพาสต้า พาสต้า และลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นที่ Tokukawa นอกจากนี้ แอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียนยังมีสถานที่สำหรับนั่งเล่นเพลินๆ จิบเครื่องดื่มหรือของว่าง หากอยากดื่มชาและกาแฟรสชาติดีภายใต้บรรยากาศอบอุ่นและหรูหรา Espresso Coffee Bar จิบเครื่องดื่มพร้อมรับประทานเบเกอรี่อบสดใหม่ไปด้วย มี Espresso Coffee Bar ให้บริการในบรรยากาศผ่อนคลายสไตล์วินเทจ Sunset Lounge เป็นอีกที่ที่เหมาะสำหรับนั่งเล่นเพลินๆ ชมวิวทะเลและพระอาทิตย์ตก ที่นี่เสิร์ฟเครื่องดื่มอยากค็อกเทล ไวน์และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ด้วย

     กิจกรรมที่แขกที่มาพักที่แอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน โปรดปรานคือนอนเล่นอาบแดด เล่นน้ำทะเลและว่ายน้ำในสระใหญ่ของโรงแรม ไม่เพียงเท่านั้นโรงแรมยังมีกิจกรรมให้เลือกทำอีกนอกเหนือจากกิจกรรมข้างต้นเช่น มีสนามเทนนิสกลางแจ้ง สนามแบตมินตันในร่มและห้องตีสควอช

     สำหรับใครที่กำลังมองหาโรงแรมขนาดใหญ่สำหรับจัดสัมมนา แอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะไม่เพียงแต่ห้องพักที่มีมากสำหรับรองรับกรุ๊ปขนาดใหญ่ ยังมีห้องประชุมที่สามารถรองรับการจัดเลี้ยงได้ในหลากหลายรูปแบบ รองรับผู้เข้าร่วมได้มาสุดถึง 5000 ท่าน

✔️ โปรโมชั่นห้องพัก ราคาพิเศษสำหรับคนไทย ติดต่อสำรองห้องพัก ➡️ 038 255 501 – 40
✔️ โปรโมชั่นอาหารและเครื่องดื่ม ช่วงเวลาแห่งความสุข ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม 2560
✌Atrium Food Bar ไวน์แดง 1 แก้ว เมื่อสั่งอาหาร เนื้อวัวนำข้าจากออสเตรเลีย
✌Oyster Bar เลดี้ไนท์ ทุกวัน บาร์คาดี้ บริสเซอร์ 1 ขวบ สำหรับสุภาพสตรี
✌ Sports Bar ✨ Happy Hours ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น.
✌Epresso Terrace Special Combo Set Promotion

สำรองห้องพักและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
แอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน โฮเต็ล (Ambassador City Jomtien Hotel)
Hotline : 038 255 501 – 40
Website : www.ambassadorcityjomtien.com
Email : rsvn@ambassadorcityjomtien.com
ที่อยู่ : 21/10 ถ.สุขุมวิท ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 20250

ขอบคุณทุกท่านค่ะ ❤️

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

10 ที่พัก เจ้านายพาน้องหมาไปพักได้

1. บางกอกทรีเฮาส์  จ.สมุทรปราการ

ไม่น่าเชื่อว่าบรรยากาศแบบนี้จะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่นี้เอง  ที่พักเป็นแนวอีโค่ ใกล้ชิดธรรมชาติ อยู่ใกล้กรุงเทพฯมาก ห่างเพียงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่ อ.บางน้ำผึ้ง จ.สมุทรปราการนี่เอง และที่พิเศษสำหรับผู้รักน้องหมา คือที่บางกอกทรีเฮ้าส์อนุญาตให้น้องหมาพักได้ด้วย สำหรับน้อหมาที่อนุญาตจะต้องเป็นน้องหมาที่เรียบร้อย จะต้องเป็นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เจ้าของสามารถควบคุมได้ดี และจะต้องดูแลเรื่องขับถ่ายไม่ทำให้เลอะเทอะ หากพบจะต้องมีค่าปรับ 500 บาท ส่วนของห้องพักให้ได้เฉพาะชั่นล่าง ที่เป็นห้องแต่งตัวเท่านั้น

2. ไร่สองเรา @เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

เป็นรีสอร์ทท่ากางธรรมชาติ มีบริการบ้านพักและสถานที่กางเต้นท์ ให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติอันเงียบสงบและเป็นส่วนตัว พร้อมบริการด้วยความอบอุ่นประทับใจ พบกับบรรยากาศยามเช้าต้อนรับวันใหม่ด้วยทะเลหมอกที่ปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา ปิดท้ายของวันด้วยการชมพระอาทิตย์อันสวยงามตกจากขอบฟ้า  สำหรับน้องหมา ที่ไร่สองเราจะอนุญาตให้เฉพาะน้องหมาขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ทุกสายพันธ์ โดยมีค่าใช้จ่าย 200 บาท ต่อตัวต่อคืน

3. เดอะบีช เนเจอรัล รีสอร์ท เกาะกูด จ.ตราด

ตั้งอยู่ที่เวิ้งอ่าวบังเบ้าบนที่ตั้งเสี้ยวพระจันทร์โค้งทางด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด ซึ่งได้ฉายาว่า “ไข่มุกแห่งอันดามันตะวันออก” ณ รีสอร์ทแห่งนี้เป็นที่พักท่ามกลางธรรมชาติสไตล์บาหลี ผสมผสานอย่างลงตัวกับวัฒนธรรมแบบไทย งดงามไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ซึ่งกลมกลืนกับบรรยากาศที่เงียบสงบ พักผ่อนบนชายหาดส่วนตัวที่ขาวสะอาด น้ำทะเลที่ใสจนเห็นพื้นทรายและฝูงปลาที่แหวกว่าย จุดชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบนสะพานไม้ที่ทอดเป็นแนวยาวลงไปในทะเล สถานที่ที่จะเป็นทุกช่วงเวลาแห่งความประทับใจของทุกคนที่ The Beach Natural Resort

กรณีที่นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักที่รีสอร์ท (กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า) ค่าดูแลสถานที่ตัวละ 1,500 บาท ต่อทริป โดยน้ำหนักไม่เกิน 4 กิโลกรัม สำหรับการพาน้องหมาลงเรือมายังเกาะกูดนั้น อาจจะมีค่าลงเรือของน้องหมาด้วย

4. ชินนาม่อน อาร์ต รีสอร์ท เกาะหมาก

บูติกรีสอร์ท บนชายหาดส่วนตัวเกาะหมาก รีสอร์ทอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บ้านไม้หลังใหญ่ ตกแต่งด้วยศิลปะงดงามไม่เหมือนใคร ระเบียงกว้างหน้าบ้านคุณที่ชื่นชอบการอาบแดด รับลม ชมดาว แวดล้อมด้วยหมู่แมกไม้ นานาพันธ์ ที่แสนร่มรื่น สะพานสู่ฝัน ทอดยาวเกือบครึ่งกิโลเมตร สำหรับน้องหมาที่เข้าพักได้นั้นจะต้องมีขนาดเล็กเท่านั้น และจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเข้าพัก คืนละ 1,000 บาท และวันที่ Check out ทางรีสอร์ทจะเช็ดทำความสะอาดภายในห้อง ถ้าหากกรณีของเสียหายจะต้องมีค่าปรับเพิ่ม ทั้งนี้ลูกค้าจะต้องแจ้งให้ทางรีสอร์ททราบล่วงหน้าก่อนที่จะนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาพัก โดยโซนที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้นั้นจะเป็นโซนตึก Garden View , Sea View เท่านั้น ยกเว้นโซนบังกะโลทุกหลัง นอกจากนี้ยังมีค่าเรือสำหรับเดินทางมาเกาะหมาก โดยการโดยสารทางเรือ จะมีค่าเรือสำหรับน้องหมา 400 บาทต่อตัว

5. บ้านภูฟ้า

สำหรับท่านที่รักธรรมชาติริมแม่น้ำแควน้อย จังหวัดกาญจนบุรี บ้านภูฟ้า รีสอร์ท รอต้อนรับท่านด้วยบริการอับอบอุ่น มีห้องพักแบบเรือนแพกลางน้ำ, เรือนไม้แบบล้านนา  และเรือนไม้ล้านนาผสมผสานความทันสมัยสไตล์ล้านนาโมเดิร์น และรูปแบบบ้านพักที่ตั้งลดหลั่นกันไปตามแนวเนินริมแม่น้ำแควน้อย เพื่อให้ท่านได้ใกล้ชิดธรรมชาติอันสวยงาม ท่ามกลางขุนเขา และสายน้ำ พร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และบริการประทับใจ ให้ท่านรู้สึกว่า บ้านภูฟ้าเป็นบ้านของท่าน ตามสโลแกนที่ว่า บ้านภูฟ้า บ้านของเรา บ้านของคุณ บ้านภูฟ้ายินดีต้อนรับน้องหมาเฉพาะพันธุ์เล็ก มีค่าใช้จ่าย 400 บาทต่อตัวต่อคืน และพักได้ที่บ้านพักดังนี้ บ้านชมน้ำ / บ้านชมฟ้า / บ้านชมดาว 1 / บ้านชมดาว 2 / บ้านชมจันทร์ / บ้านระเบียงฟ้า / บ้านระเบียงดาว มีบริเวณสนามหญ้า สามารถพาน้องหมาเดินเล่นได้

6. Her Glory by the Sea @บ้านแสนคราม

Her Glory by the Sea “เฮอร์ กลอรี บาย เดอะ ซี” ที่พักสไตล์คอนโดริมหาดชะอำ ตั้งอยู่ในโครงการบ้านแสนคราม ห่างจากตัวเมืองหัวหินเพียง 5.1 กิโลเมตร “เฮอร์ กลอรี บาย เดอะ ซี” จุดเด่นอยู่ที่การตกแต่ง มีสีขาวเป็นธีมหลัก และเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์วินเทจเล็กๆ ทั้งยังได้รวบรวมบรรยากาศของท้องทะเลปรากฎผ่านรายละเอียดการตกแต่งเล็กๆน้อยๆอย่างเปลือกหอยหลากหลายชนิด โดยรวมแล้วที่นี่ให้บรรยากาศของการเข้าพักที่แสนอบอุ่นเหมือนบ้านพักตากอากาศหลังที่สองของคุณเลยทีเดียว
เฮอร์ กลอรี บาย เดอะ ซี ยังเป็นที่พักไม่กี่แห่งที่ยินดีต้อนรับน้องหมาขนาดไซส์เล็กๆ ไม่เกิน 15 นิ้ว ให้เข้าพักได้อีกด้วย โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 500 ต่อ ตัว เรียกว่าสมาชิกในครอบครัวทุกขนสามารถไปพักผ่อนด้วยกันได้พร้อมหน้าพร้อมตา

7. เดอะ รีเจ้นท์ ชาเล่ต์ รีเจ้นท์ บีช ชะอำ จ.เพชรบุรี

ที่พักริมชายหาดชะอำ สถานที่ ที่จะทำให้คุณกับน้องหมาได้พักผ่อน ได้เล่นบนชายหาด ด้วยความสนุกสนาน พักผ่อนแบบสุดๆ ที่นี่น้องหมาสามารถเลือกพักได้ 2 แบบ ดังนี้

แบบที่เป็นโรงแรมสำหรับน้องหมา Pet  Resort เป็นที่พักเฉพาะของน้องหมา (เจ้านายไม่เกี่ยว) เป็นห้องพักส่วนตัว มีเบาะนอนโดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นอย่างดี ตอนกลับมีบริการอาบน้ำ เป่าขนให้ด้วย อัตราค่าบริการ 490 บาท ตัว/ห้อง/คืน หรือ 2 ตัว/1 ห้อง/1 คืน อัตรา 700 บาท

แบบที่สอง คืออยู่กับเจ้านาย จะมีบริการให้พักได้ที่ ห้อง Standard เท่านั้น จะต้องจองล่วงหน้า 1 สัปดาห์ และมีค่าบริการน้องหมา อยู่ที่ราคา 600 บาท ต่อตัว ต่อคืน

8. เดอะ ฮาร์โมนี่ รีสอร์ท จ.ราชบุรี

เป็นรีสอร์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ติดริมแม่น้ำภาชี ณ อำเภอสวนผึ้ง ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ดั้งเดิม บรรยากาศเงียบสงบ ห่างไกลจากความวุ่นวาย พื้นที่ด้านหลังรีสอร์ทติดแม่น้ำภาชี ซึ่งมีหาดทรายยาวสามารถเล่นน้ำได้ บ้านพักของเดอะ ฮาร์โมนี่ รีสอร์ท เป็นหลังสไตล์อังกฤษชนบท และสไตล์อเมริกันคันทรี่ และสำหรับครอบครัว 4 ท่าน ภายในแต่ละห้องตกแต่งด้วยสไตล์หลากหลายอารมณ์แตกต่างกันออกแบบได้อย่างลงตัว และบ้านพักหลังเล็ก สำหรับ 2 ท่านก็มีให้ด้วย

สำหรับน้องหมาพักจะมีค่าบริการสำหรับน้องหมาตามขนาดของห้องพักโดยไม่จำกัดจำนวนน้องหมาดังนี้ ห้องขนาดเล็ก คิดค่าน้องหมา 300 บาท/ห้อง ห้องขนาดใหญ่ คิดค่าน้องหมา 500 บาท/ห้อง

9. แอทนาธา เชียงใหม่ ชิค จังเกิ้ล

แอท นาธา เชียงใหม่ ชิค จังเกิล รีสอร์ท ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเชียงใหม่ เป็นบูติครีสอร์ทที่ตกแต่งสไตล์แบบตึกในแบบปูนเปลือย รีสอร์ทตั้งอยู่ติดแม่น้ำแม่สา มีธารน้ำธรรมชาติไหลผ่านกลางรีสอร์ท สุนทรีกับเสียงของน้ำตกตลอดวัน รีสอร์ทยังตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์มากมาย อาทิ สวนเสือ ศูนย์การแสดงจระเข้ ศูนย์ฝึกยิงปืน ศูนย์ฝึกลิง ฟาร์มงู ฟาร์มช้าง สวนกล้วยไม้ หมู่บ้านชาวเขา คุณจะได้ผ่อนคลายกับสระว่ายน้ำที่กว้างขวาง และพักผ่อนในห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงาม สำหรับน้องหมาพาไปพักกับเจ้าของได้ แต่จะต้องนำที่นอนของน้องหมาไปเองด้วย

10. บ้านกุงแกง เดอ ปาย รีสอร์ท

เป็นรีสอร์ทปายสุดสวย ห้องพักถูกแวดล้อมไปด้วยวิวธรรมชาติของภูเขา บริการอินเตอร์เน็ตฟรี รีสอร์ทห่างจากร้านกาแฟคอฟฟี่อินเลิฟ 1 กิโลเมตร ตั้งอยู่ก่อนถึงตัวเมืองปาย และถนนคนเดินปาย 1.5 กิโลเมตร สำหรับโซนที่น้องหมาพักได้ จะเป็น Lovely Room เท่านั้น มีอยู่ 4 ห้อง มีค่าน้องหมา 200 บาท ต่อตัวต่อคืน น้องหมามาได้ทุกขนาดเลย

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

สุขแค่ไหน ? เราไม่อยากให้พลาด….วิลล่าหรูริมหาด@ปราณลักษณ์

        จะดีแค่ไหนหากมีโอกาสได้ใช้เวลาวันหยุดริมหาด ในวิลล่าหลังงามพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว “ปราณลักษณ์ เอกซ์คลูซีฟ วิลล่า” พร้อมเนรมิตวันพักผ่อนในอุดมคติ พบกับช่วงเวลาที่มีแต่ความผ่อนคลายเพียงจากดีไซน์พิเศษของตัวบ้านที่ทำให้ชมวิวสระว่ายน้ำและสวนสวยสไตล์ทรอปิคอลได้จากทุกห้อง

        “ปราณลักษณ์ เอกซ์คลูซีฟ วิลล่า” ตั้งอยู่ในอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในทำเลที่ห่างจากหัวหินเพียง 15 นาที จุดเด่นของที่นี่คือการมาพักผ่อนแบบครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนเพื่อสังสรรค์ในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว ดีไซน์เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้มาเยือนประทับใจในปราณลักษณ์ เนื่องด้วยการออกแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใครเริ่มจากหลังคาทรงคลื่นทะเลที่ดูทันสมัย เติมความรู้สึกให้อบอุ่นผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นด้วยการใช้วัสดุไม้จริงตกแต่งผ่านหลังคา บานประตู-หน้าต่างและพื้น ภายในวิลล่าออกแบบได้ลงตัวในเรื่องของพื้นที่ใช้สอย อากาศโล่งโปร่งถ่ายเท ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนของบ้านจะรู้สึกถึงลมทะเลสดชื่นได้พัดผ่าน

         วิลล่าที่พักถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันทุกรายละเอียด ทั้งหรูหรา ทันสมัยและสะดวกสบาย วิลล่าแต่ละหลังจะออกแบบแบ่งเป็น 5 สไตล์ โดยทุกหลังจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว เริ่มตั้งแต่วิลล่าขนาด 175 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน รองรับ 4-6 ท่าน, วิลล่า 3 ห้องนอนสำหรับ 6-8 ท่านพร้อมอ่างจากุซซี่บนดาดฟ้าและห้องครัว, สำหรับวิลล่า 4 ห้องนอนจะรองรับได้ 8-10 ท่าน ด้วยพื้นที่ขนาด 385 ตารางเมตร เหมาะสำหรับจัดปาร์ตี้เล็กๆ ริมสระน้ำในบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟ

        หากใครกำลังมองหาที่พักที่เน้นความเป็นส่วนตัว หรูหราและสะดวกสบาย ที่สำคัญติดหาด มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ครบทุกความต้องการแบบนี้ต้องที่ “ปราณลักษณ์ เอกซ์คลูซีฟ วิลล่า”

สำหรับผู้เข้าพักจองห้องพักที่นี่ค่ะ ➡️ http://www.pranaluxe.com/home-th/

สำรองห้องพักและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
“ปราณลักษณ์ เอกซ์คลูซีฟ วิลล่า” (PRAN A LUXE Exclusive Pool Villa & Private Residences)

โทร : 032 631 381 , 081 888 8138
Website : http://www.pranaluxe.com/home-th/
Facebook : https://www.facebook.com/PRAN-A-LUXE-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C-236445889736674/
Email: rsvn@pranaluxe.com
Line ID : http://line.me/ti/p/~pranaluxe
ที่อยู่ : 454/59 – 60 หมู่ 2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77220

ขอบคุณทุกท่านค่ะ ❤️🙏

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com