คลาสสิคและหรูหราคู่หาดหัวหินที่ ‘เทวาศรมหัวหินรีสอร์ท’

 ย้อนสู่ช่วงเวลารื่นรมย์ท่ามกลางกลิ่นอายการพักผ่อนย้อนวันวานที่หัวหินเมืองตากอากาศชายทะเลสุดคลาสสิคที่ไม่เคยสิ้นมนต์เสน่ห์ 

‘เทวาศรมหัวหินรีสอร์ท’ จะนำพาคุณเข้าถึงบรรยากาศวันพักผ่อนในบรรยากาศย้อนยุคเล็กๆด้วยสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างแบบวินเทจที่เป็นเอกลักษณ์เรือนพักและวิลล่าสีขาว-ฟ้าพาสเทลหลังงามทอดตัวตระหง่านหน้าหาดถ่ายทอดเสน่ห์ความเป็นหัวหินได้อย่างน่าประทับใจ

 ‘เทวาศรมหัวหินรีสอร์ท’ ตั้งอยู่ในโซนที่เงียบสงบริมหาดชะอำ – หัวหิน ผู้มาพักผ่อนจึงได้บรรยากาศวันพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวในทำเลทองริมหาดใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมหลายแห่งในหัวหินอย่างวังมฤคทายวันตลาดโต้รุ่ง, แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารหลายแห่งในหัวหิน

 สัมผัสแรกที่ ‘เทวาศรมหัวหินรีสอร์ท’ ได้ทักทายผู้มาเยือนคือบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายมีต้นเกดรูปหัวใจเขียวชอุ่มรอต้อนรับและให้ร่มเงาอยู่กลางรีสอร์ทถัดเข้าไปเป็นล็อบบี้ต้อนรับใต้ถุนสูงโล่งโปร่งเปิดให้ลมพัดผ่านได้เย็นสบายตัวล็อบบี้โดดเด่นด้วยการเลือกใช้เครื่องเรือนแอนทีคประดับตกแต่งเน้นถึงเอกลักษณ์ความโดดเด่นของวันพักผ่อนในวันวานจากล็อบบี้มองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำขนาดย่อมคั่นกลางระหว่างอาคารที่พักและชายหาดส่วนตัวขนาบสองข้างด้วยวิลล่าส่วนตัวหลังงาม

 ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 24 ห้องจะเริ่มต้นด้วยห้อง Seaside Deluxe ที่พักบนตัวอาคารพร้อมระเบียงส่วนตัวและอ่างอาบน้ำขาสิงห์ทั้งเครื่องเรือนและการตกแต่งจะทำให้คุณรู้สึกราวกับได้พักในคฤหาสน์คหบดีย้อนยุคต่อมาเป็นห้อง Seaside Suite อยู่มุมอาคารเพิ่มพื้นที่ห้องนั่งเล่นอบอุ่น

• ห้อง Devasom Grand อยู่ตรงกลางอาคารเตียงหันหน้าสู่ทะเลรับวิวแบบพาโนราม่าแม้นอนเล่นบนเตียงผู้เข้าพักก็สามารถชื่นชมกับวิวทะเลและทิวทัศน์ผ่อนคลายรอบรีสอร์ทเป็นจุดที่จะมองเห็นวิวทะเลจากมุมสูงได้อย่างสวยงามที่สุดเพิ่มความเป็นส่วนตัวสักนิดด้วย

• ห้องพักแบบวิลล่า Beach Villa ซึ่งตกแต่งอย่างประณีตถ่ายทอดเรื่องราวของบ้านขนมปังขิงสไตล์วิคตอเรียนที่ชนชั้นสูงในสมัยร.6 นิยมมาพักตากอากาศชายทะเลหัวหินให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสมีเดย์เบดไว้นอนเล่นชมวิวพร้อมอ่างอาบน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยครบครันห้องพักและวิลล่าทุกห้องของเทวาศรมจะมองเห็นวิวทะเลแต่ถ้าอยากสัมผัสทะเลได้แบบใกล้ชิดเราขอให้คุณเลือก

• ห้อง Beachfront Villa วิลล่าที่อยู่ด้านหน้าชายหาดเปิดรับวิวทะเลได้มุมกว้างภายในคือที่สุดของความโรแมนติกพิถีพิถันตกแต่งด้วยเครื่องเรือนงามยุคเก่าสวยงามลงตัวมีอ่างอาบน้ำที่สามารถมองเห็นวิวทะเลขณะแช่น้ำรวมทั้งระเบียงใกล้หาดสำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวทะเล

 วันพักผ่อนเบาๆจะสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกหากได้อาหารมื้ออร่อยบรรยากาศดีๆที่ ‘Deva Bistro’ ให้บริการอาหารไทยและอาหารตะวันตกเมนูแนะนำที่อยากให้ได้ลองทานกันนั้นคือข้าวแช่เทวาศรมรสละเมียดกลมกล่อมหาทานยากนอกจากนี้..

‘เทวาศรมหัวหินรีสอร์ท’ ยังมีบริการนวดแบบไทยในห้องพักไว้ผ่อนคลายอารมณ์ขจัดความเหนื่อยล้าอีกด้วยเทวาศรมต้อนรับแขกที่มาเยือนด้วยใจพร้อมส่งต่อความสุขของการพักผ่อนริมทะเลในบรรยากาศหัวหินย้อนยุคเชื่อแน่ว่าใครที่จะมาหัวหินแล้วได้มีโอกาสมาพักที่ ‘เทวาศรมหัวหินรีสอร์ท’ จะกลับไปพร้อมความทรงจำอันน่ารื่นรมย์จนอยากแวะเวียนกลับไปหาอีกครั้งแน่นอน

 Devasom Huahin Resort (เทวาศรมหัวหินรีสอร์ท) 
1446/23 ถ.เพชรเกษม (กม. 207), ห้วยทรายใต้, ชายหาดหัวหิน, หัวหิน

Website: www.devasom.com

♦♦ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ♦♦

Tel: 032 442 789   IG: @devasom_resorts

Mail: rsvn@devasom.com, reservation@devasom.com

Facebook: www.facebook.com/devasomhuahin

 

 สิทธิพิเศษแฟนเพจ HotelandResortThailand สมัครสมาชิก Devasom Rewards ฟรี! (เพียงแจ้ง..แผนกสำรองห้องพัก ‘Hotel Resort Thailand Rewards) เมื่อสำรองห้องพักภายใน 31 ตุลาคม 2560 

**รายละเอียดเพิ่มเติม www.devasom.com/news/rewards

#TOP25SmallHotelsThailand #TripAdvisorHuaHin

 

 

เรียงเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

10 ที่พักพร้อมสวนน้ำ หน้าร้อนแบบนี้ ห้ามพลาด !

 

 

1. โรงแรม โนวา แพล็ททินัม

โรงแรม โนวา แพล็ททินัม ตั้งอยู่ในพัทยาใต้ เดินเพียง 5 นาทีจากถนนคนเดินพัทยาและชายหาดพัทยา คุณจะสนุกสนานไปกับสระว่ายน้ำรูปทรงแปลกใหม่ ล้อมรอบด้วยสวนเขียวชะอุ่ม ลอยตัวในสระว่ายน้ำทรงอิสระ เล่นสไลเดอร์พุ่งตัวลงสระ ว่ายน้ำ ออกกำลังกายในสระทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือนั่งแช่น้ำในสระน้ำวนจากุซซี่ที่มีให้ 2 สระ ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย

2. เมอร์เคียวพัทยาโอเชี่ยนรีสอร์ท

เมอร์เคียวพัทยาโอเชี่ยนรีสอร์ท ที่พักระดับมาตรฐาน 4 ดาว ตั้งอยู่บริเวณโซนพัทยาเหนือ เป็นสถานที่พักผ่อนอันแสนวิเศษสำหรับครอบครัว ไฮไลต์ของที่นี่คือ สระว่ายน้ำกลางแจ้ง เป็นสวนน้ำขนาดย่อม มาพร้อมสไลเดอร์สีสันสดใส และเครื่องเล่นอีกมากมาย นอกจากสวนน้ำสำหรับเด็กๆ  จะมีแท่นน้ำลึกและหน้าผาสำหรับกระโดดลงสระ ให้สนุกสนานเต็มที่กับวันพักผ่อนอีกด้วย


3. เขาใหญ่แฟนตาซี รีสอร์ท

เขาใหญ่แฟนตาซี รีสอร์ท  จุดเด่นของที่นี่คือ สวนน้ำสไตล์ไดโนเสาร์แฟนตาซี ฟินกับอากาศร่มรื่นเย็นสบาย กลางหุบเขา ผสมผสานความสดชื่นสดใสกับสีสันจี๊ดแสบตา สไลด์เดอร์คู่ยักษ์ ความสูง 2 ระดับ, น้ำวนสระเลข 8 สนุกสุขสันต์ทั้งครอบครัว และน้ำพุดอกเห็ด สไลด์เดอร์เล็ก สำหรับเจ้าตัวน้อยแสนซน ทำให้เขาใหญ่แฟนตาซี รีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเลยก็ว่าได้

4. แกรนด์ เวสต์แซนด์รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า ภูเก็ต

โรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนตัวและทอดตัวยาวเลียบหาดไม้ขาวกว่า 500 เมตร  สถานที่พลาดไม่ได้ คือ สวนน้ำ “Splash Jungle Water Park” สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต โดยความสนุกของเครื่องเล่นภายในสวนน้ำเริ่มต้นที่ เลซี่ ริเวอร์ ผจญภัยกับล่องน้ำที่มีความยาวถึง 335 เมตร เครื่องเล่นจำลองคลื่นอย่าง เวฟพูล หรือ อควา เพลย์พูล รวมทั้ง เครื่องเล่นไฮท์ไลท์ อย่าง บูมเมอแรงโก้ และซุปเปอร์โบว์ล และเครื่องเล่นทางน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสไลด์ ถังน้ำขนาดใหญ่ ปืนฉีดน้ำ หลากหลายขนาดต่างกัน ถือว่าที่นี่ มีทั้งที่พัก และสวนน้ำ จบในที่เดียว

5. เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา

หน้าผาขนาดใหญ่สองแห่งที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพานเชือก อุโมงค์ที่เผยให้เห็นป่าที่มีแม่น้ำและน้ำตก และทางเดินที่ทอดนำลงไปสู่หาดทรายสีทองของหาดวงศ์อมาตย์ในพัทยาเหนือ  เซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา เป็นรีสอร์ทระดับห้าดาวที่มีแนวคิดความสนุกสนานที่เป็นจุดหมาย ไฮไลท์สำคัญของโรงแรมนี้ คือ สวนน้ำขนาดใหญ่ เป็นธีม Lost World  ภายในสวนน้ำ จะมีหน้าผาจำลอง และเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ และที่พลาดไม่ได้คือ Lazy River ทางโรงแรมจะมีบริการห่วงยาง แล้วลอยตัวไปตามน้ำที่ไหลช้าๆ ได้ชื่นชมธรรมชาติรอบตัวของโรงแรม สำหรับที่นี่ได้ทั้งความสนุกสนาน และพักผ่อนแบบส่วนตัวอีกแบบ

6.ตำนานป่า

ตำนานป่า…สถานที่แห่งการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติครบวงจร ระยะทางเพียง 20 กิโลเมตรจากตัวเมืองระยอง สนุกเพลิดเพลินไปกับสวนน้ำสไลเดอร์ตำนานป่า ท่ามกลางบรรยากาศสดชื่น ธรรมชาติโอบล้อมสบายๆ เสมือนได้เที่ยวน้ำตก และทะเลสาบ แต่เก๋ไก๋ ไม่ซ้ำใคร ด้วยสไลเดอร์ภูเขาจำลอง พร้อมเจ้าหน้าที่สระที่คอยดูแลตลอดเวลา ทั้งหมดนี้เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริงของคุณ

7.เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท

เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่มีเสน่ห์อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น  โอบล้อมด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบและอากาศบริสุทธิ์พร้อมการให้บริการอันแสนอบอุ่นจากทางรีสอร์ท คุณจะไม่มีทางพบกับความน่าเบื่ออย่างแน่นอน ที่เดอะ กรีนเนอรี่รีสอร์ท ได้ผ่อนคลายด้วยสระว่ายน้ำที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติและวิวของภูเขา และยังมีโซนสวนน้ำของเด็กๆ ทั้งหมดเหล่านี้จะกลายเป็นประสบการณ์อันยอดเยี่ยม

 

8. เดอะ รีสอร์ท แอท สวนผึ้ง

สัมผัสประสบการณ์พิเศษแห่งการพักผ่อน ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในอำเภอสวนผึ้ง  ที่นี่ไม่ได้มีเพียงห้องพักอย่างเดียว แต่มีสวนน้ำ WATER PARK สวนน้ำแห่งแรก แห่งเดียวในสวนผึ้งโอบล้อมด้วย ภูเขาบนพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ภายในโดดเด่นด้วยสระน้ำขนาดใหญ่พร้อมด้วยสไลเดอร์คดเคี้ยวสีสันสดใสเคียงข้างปราสาทสุดเก๋ พร้อมมีโซนสระน้ำเอาใจเด็กๆพร้อมทั้งสระน้ำคลื่นทะเลเทียมให้สนุก สุดชิลล์กันสุดๆไปเลย

 

9. พัทยาปาร์ค

อีกสถานที่หนึ่งในพัทยาที่มีชื่อเสียงมานานก็คือพัทยาปาร์ค ที่ซี่งมีหอคอยสูงตั้งอยู่ระหว่างเมืองพัทยากับหาดจอมเทียนทำให้มองเห็นได้จากหลาย ๆ ที่ ซึ่งถือว่าเป็นหอคอยที่โดดเด่นที่สุดเลยก็ว่าได้  ภายในโรงแรมยังมีกิจกรรมสำคัญนั่นคือ สวนสนุกพัทยาปาร์ค สวนน้ำขึ้นชื่อของเมืองพัทยา มีสระน้ำวนขนาดใหญ่ สร้างวนรอบสวนน้ำ สามารถว่ายเล่นได้อย่างทั่วถึง มีสระสำหรับเด็กเล็กและส่วนของฝักบัวสำหรับอาบน้ำจืด สำหรับที่นี่ สามารถเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจได้ดีเช่นกัน

10. นาข่าบุรี

หนึ่งในโรงแรม รีสอร์ทที่สวยงามและสมบูรณ์แบบ เพียง 14 กม. หรือ 15 นาที จากตัวเมืองอุดรธานี และสนามบินนานาชาติ บนเส้นทางถนนมิตรภาพ อุดร-หนองคาย คุณจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ท่ามกลางธรรมชาติที่ลงตัว สำหรับที่นี่ มีสวนน้ำขนาดใหญ่พร้อมเครื่องเล่น  และไฮไลท์ของที่นี่คือมีสไลเดอร์ ขนาด 4 เลน สามารถลงเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

เรียงเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

เที่ยวสองบรรยากาศชมทั้งทะเลและคลองที่ ภูธาร เกาะช้าง รีสอร์ท&สปา

 

   ไปเที่ยวเกาะช้างอยากได้บรรยากาศแบบ two in one ต้องไปที่นี่เลย ‘ภูธาร เกาะช้าง รีสอร์ท แอนด์ สปา’ รีสอร์ทสวยในบรรยากาศ Thai-Contemporary บนพื้นที่หาดคลองพร้าวอันเงียบสงบซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม นับเป็นหาดที่ยาวมากที่สุดในเกาะช้าง

   ภูธาร เกาะช้าง รีสอร์ท แอนด์ สปา’ อุดมสมบูรณ์ด้วยผืนป่าโกงกางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี รีสอร์ทตั้งอยู่ในทำเลที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและคลองที่สามารถเชื่อมสู่ชายหาดได้ อีกด้านหนึ่งตั้งอยู่ติดกับแนวป่าโกงกางอนุรักษ์ และธารน้ำซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์น้ำน้อยใหญ่มากมาย และนกหลากหลายสายพันธุ์ มีความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่นี่จึงเหมาะสำหรับมาพักผ่อนนอนเล่นชื่นชมบรรยากาศที่สวยงามและเงียบสงบ แต่ทว่าเต็มไปด้วยกิจกรรมให้ทำไม่รู้เบื่อ ทั้งพายเรือคายัคชมป่าโกงกาง พายเรือคายัคในทะเล ดำน้ำตื้น วอลเลย์บอลชายหาด หรือเลือกกิจกรรมเบาๆอย่างเดินเล่นและอาบแดด

   ❤️ ห้องพักภูธารา ภูฟ้าและภูตะวันของ ภูธาร เกาะช้าง รีสอร์ท แอนด์ สปา โดดเด่นและสวยงาม ให้สัมผัสถึงความเป็นไทยที่ร่วมสมัย กว้างขวางด้วยพื้นที่ 40-50 ตารางเมตร โดยรีสอร์ทเปิดให้บริการเพียง 20 ห้อง ด้วยจำนวนห้องที่ไม่มากนัก บรรยากาศของรีสอร์ทจึงเงียบสงบและเป็นส่วนตัว

สำหรับอาหารการกินที่ห้องอาหาร Bhu-Patta มีเสิร์ฟทั้งอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมของภูมิภาค อาหารซีฟู้ด อาหารไทยและอาหารยุโรป อีกหนึ่งไฮไลท์คือแพบาร์สวยๆกลางน้ำ The Bhu มอบอีกบรรยากาศในการชมวิวป่าโกงกางยามพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงามที่สุด ภูธาร เกาะช้าง รีสอร์ท แอนด์ สปายังมีทั้งสระว่ายน้ำและสปาให้บริการ

นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าเยี่ยมชมบริเวณรีสอร์ทได้แก่ แค้มป์ช้าง น้ำตกคลองพลู หาดทรายขาว กิจกรรม Tree Top Adventure น้ำตกธารมะยม และชุมชนบางเบ้า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
Tel: 039 – 510810, 061-3872832 ☎️ หรือ Line ID: bhutarn
Fb: https://www.facebook.com/bhutarnkohchang
Website: http://bhutarnkohchang.com
Mail: rsvn@bhutarnkohchang.com

Bhu-Tarn Koh Chang Resort & Spa (ภูธาร เกาะช้าง รีสอร์ท แอนด์ สปา)
ที่ตั้ง 104/60 หมู่ 4 หาดคลองพร้าว อ.เกาะช้าง จ.ตราด

ขอบคุณทุกท่านค่ะ 😍

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

ชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่ง ถนนดอกไม้ที่กำแพงแสน

 

 

ในช่วงกลางเดือน ก.พ.ของทุกๆ ปี บริเวณถนนวัฒนาเสถียรสวัสดิ์ หรือถนนหลังมอ ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนจ.นครปฐม ตั้งแต่บริเวณหน้าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนถึงคาวบอยแลนด์จะกลายเป็นถนนสีชมพู เมื่อต้นชมพูพันธุ์ทิพย์กว่า 300 ต้น ออกดอกบานสะพรั่ง จนถนนเส้นดังกล่าวกลายเป็นถนนสีชมพูหรืออุโมงค์ชมพูพันธุ์ทิพย์ แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวนับแสนคนแวะเวียนมาชมความงดงามของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์รวมถึงถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ทั้งแชร์และเช็กอินผ่านโซเชียลมีเดียกันอย่างคึกคัก ขณะที่ คู่รักบางคู่ ต่างที่จะเลือกช่วงเวลานี้จูงมือมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ซึ่งบรรยากาศก็อบอวลไปด้วยความรัก บางครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ก็พากันนำอาหารเครื่องดื่มมาปูเสื่อปิกนิกอย่างสนุกสนาน

ในช่วงนี้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เริ่มที่จะออกดอกเบ่งบานแล้ว จึงทำให้ทั้งเช้าและเย็น จะมีทั้งนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป แวะมาชมความงดงามและถ่ายรูปเช็กอินกันอย่างหนาแน่น

รศ.ดร.ตฤณ แสงสุวรรณ รักษาการแทนรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน บอกว่า ช่วงเดือน ก.พ.ของทุกๆ ปี ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์จะเบ่งบานให้ชมรอบแรก จากนั้นก็จะทยอยผลิบานไปจนถึงเดือน เม.ย. ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้จัดสถานที่จอดรถพร้อมเจ้าหน้าที่ไว้คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม ช่วยกันรักษาความสะอาด เพราะจะได้ให้มีบรรยากาศและภูมิทัศน์ที่สวยงาม

โดยนภัค ตรีแดงน้อย

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก http://www.posttoday.com/local/scoop/480481

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

18ที่เที่ยวเพลินไม่ใกล้…ไม่ไกลที่ทับสะแก ประจวบฯ

 

 

1. ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่บนเขาธงชัยท้องที่บ้านกรูด ซึ่งแยกจากถนนเพชรเกษมเข้าไปทางซ้ายประมาณ 16 กิโลเมตร จะพบ ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สวยเด่นเป็นสง่าบนยอดเขาธงชัย หันหน้าออกสู่ทะเล บริเวณรอบ ๆ มีสวนไม้ดอก ไม้ประดับ และสำนักสงฆ์ซึ่งเชื่อกันว่ากรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์เคยเสด็จมาประทับ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อพักทอดสมอเรือรบ นอกจากนี้บนเขาธงชัยยังเป็นที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์เก้ายอด เป็นจุดชมวิวที่จะเห็นชายหาดที่ทอดตัวเป็นแนวตรงริมหาดชอุ่มเขียวด้วยสวน มะพร้าวกว้างใหญ่เป็นความงามที่ผสานผสมหาดทราย น้ำทะเลและทิวมะพร้าวรวมกันเป็นภาพที่สวยงามลงตัวมากค่ะ

2. พระพุทธกิติสิริชัย

เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 10 เมตร สูง 13.82 เมตร ฐานสูง 4.18 เมตร ตั้งอยู่เขาธงชัย หันพระพักตร์ออกสู่ทะเล สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายสมด็จพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงพระเจริญพระชนม์พรรษา ครบห้ารอบ

3. พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ตั้งอยู่บนยอดเขาธงชัย สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกการครองราชย์ครบ50 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชการที่ 9

ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนบุษบกใต้โดม เจดีย์ที่สร้างล้อม 8 องค์ สร้าง 4 ทิศ ขององค์เจดีย์ประธานซึ่งเป็นเจดีย์ทรงลังกา ส่วนตัวอาคารนั้นเป็นสถาปัตยกรรมไทย ทั้งประตู หน้าต่าง และการตกแต่งภายใน หากท่านเคยเดินทางไปดูสถานที่สำคัญ ๆ ทางพุทธศาสนาหลาย ๆ แห่ง จะดูเหมือนแบบของพระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้ นำหลาย ๆ แห่งมาประยุกต์ และให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมไทยอย่างแนบเนียนงดงาม เหมือนเอาส่วนของพระมหาเจดีย์ บุโรพุทโธ จาก ยอรค์ยากาต้า ในอินโดนีเซีย เหมือนนำเอาส่วนของโลหะประสาทมาร่วม และเหมือนนำส่วนของหลังคาคลุมทางขึ้น และเจดีย์ล้อมของพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ของเมียนม่ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งงดงามมากจริง ๆ

4. จุดชมวิว

5. Snorkelling

6. หาดบ้านกรูด

หาดบ้านกรูด เป็นชายหาดที่กว้างและสวยงาม แนวหาดยาวประมาณ 12 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอบางสะพานกับอำเภอทับสะแก นักท่องเที่ยวจะได้พบกับวิถีชีวิตชาวประมงมากมาย รวมทั้งยังมีที่พักไว้ให้บริการหลายแห่ง นับเป็นเสน่ห์สำคัญที่เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาพักผ่อนกันอย่างไม่ขาดสาย

7. น้ำตกไทรคู่

ที่อำเภอบางสะพานมีน้ำตกชื่อดังอยู่แห่งหนึ่งนั่นคือ “น้ำตกไทรคู่” เป็นน้ำตกขนาดกลางที่สวยงาม น้ำตกไทรคู่แห่งนี้มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นจะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป โดยชั้นที่มีความงามมากที่สุดคือชั้นที่ 5 ซึ่ง น้ำตกในชั้นนี้จะมีลักษณะที่เป็นหน้าผาขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถพบสัตว์ป่าหลายชนิดที่บริเวณน้ำตกอีกด้วยมีน้ำไหลตลอดปี มีชั้นเชิงใหญ่ ๆ 3 ชั้น และชั้นอื่น ๆ อีกที่ลดหลั่นกันลงไปอีกหลายชั้น และที่น้ำตกไทรคู่ชั้นที่ 2,3,4, มีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่สามารถนั่งพักผ่อนและเล่นน้ำได้ อีกชั้นหนึ่งมีสายน้ำไหลทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาที่สูงเกือบ 30 เมตร ลงมากระทบแผ่นหินและแอ่งน้ำก่อนจะไหลลงมาเป็นน้ำตกชั้นที่ 4 และน้ำตกแห่งนี้เองคือที่มาของชื่อน้ำตกไทรคู่ เพราะว่ามีต้นไทรขนาดใหญ่สองต้นขึ้นมาอยู่ด้านบนของหน้าผา ทำให้รอบ ๆ บริเวณนี้มีร่มเงาและมีบรรยากาศที่ดีเหมาะแก่การเล่นน้ำและพักผ่อน ส่วนน้ำตกชั้นที่6 ต้องขึ้นโดยการไต่ไปตามหน้าผาที่ค่อนข้างชันและชื้น แต่จะมีรากของต้นไม้ที่ห้อยลงมาเพื่อให้เพื่อให้ผู้ที่รักการท่องเที่ยวแนวผจญภัยสามารถปีนขึ้นไปได้ ด้านบนของหินผาน้ำตกชั้นที่ 5 นั้น มีลักษณะเป็นลานหินขนาดใหญ่มีสายน้ำไหลผ่านลงมาตามร่องหิน เป็นระยะทางประมาณ 50 เมตร ซึ่งลานหินและสายน้ำแห่งนี้คือน้ำตกชั้นที่ 6 ของน้ำตกไทรคู่ นอกจากนี้บริเวณลานหินแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวได้อีกด้วย ริมธารน้ำมีลานให้นั่งพักชมน้ำตก สามารถลงเล่นน้ำได้ บรรยากาศรอบๆ ร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาชนิด เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

8. วัดเขาถ้ำม้าร้อง

จากตลาดบางสะพานใช้เส้นทาง no.3374 ลงไปทางใต้ ประมาณ 3 กิโลเมตร วัดเขาถ้ำม้าร้องเป็นวัดอยู่บนเนินเขา และมีถ้ำขนาดเล็ก ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่นับร้อยองค์ ลักษณะถ้ำถูกแบ่งออกเป็นคูหาต่างๆหลายคูหา เพดานและผนัง มีหินงอก หินย้อย สวยงามมาก

9. อ่าวแม่รำพึง

เป็นอ่าวขนาดใหญ่ มีถนนเลียบชายทะเล ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการประมง นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวประมงที่กำลังตากหมึกตากปลาอยู่ทั้งสองฟากถนน มีที่พัก ร้านอาหารริมชายหาด ไว้บริการนักท่องเที่ยว

10. หาดฝั่งแดง
ห่างจากตัวอำเภอบางสะพานน้อยประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงามแปลกตา มีหน้าผาสีแดง เลียบไปตามแนวชายหาด หากจากมองจากทะเลเข้ามาจะมองเห็นเป็นสีแดงสะดุดตา จึงเป็นที่มาของชื่อหาดฝั่งแดง น้ำทะเลใสสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ

11. อ่าวมะนาว

เป็นอ่าวที่สวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ และกิจกรรมชายหาดมากที่สุดอยู่ในความดูแลของ กองบิน5อยู่ไปทางตอนใต้ของอ่าวประจวบฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร สถานที่นี้เคยเป็นยุทธภูมิรบ ระหว่างกองทัพญี่ปุ่นและกองทัพไทยในสมัยสงราม โลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันมีสถนที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก ขึ้นเขาล้อมหมวกชมทัศนียภาพของอ่าวน้อยอ่าวประจวบฯอ่าวมะนาว

12. อุทยานวิทยาศาสตร์ พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าอยู่หัว
รัชการที่ 4

เคยเสด็จมาทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่หว้ากอ ริมชายหาดหว้ากอที่ทอดยาวขนานไปกันแนวสน บรรยากาศดี ในปัจจุบันสถานที่นี้เป็นศูนย์กลางวิทยาศาสตร์ และเป็นแหล่งให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในหลายๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านดาราศาสตร์ มีนักเรียนจำนวนมากมาเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน

13. เขาช่องกระจก

เป็นเขาลูกเล็กๆ ตั้งอยู่ริมอ่าวประจวบฯ มีบันไดขึ้นถึงยอดเขา 396 ชั้น เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพประจวบคีรีขันธ์มหัศจรรย์ เมืองสามอ่าว (อ่าวน้อย อ่าวประจวบฯ อ่าวมะนาว) นอกจากนี้บนเขายังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง พระธาตุเจดีย์และพระศรีมหาโพธิ์

14. ด่านสิงขร
ด่านสิงขร เป็นทางที่พวกพ่อค้า และนักเดินทางทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศใช้เป็นทางลัดระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับอ่าวไทย และจุดนี้เอง ที่ กม.331 บ้านหนองหิน ท้องที่ตำบลคลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือ จุดที่แคบที่สุดของประเทศไทย โดยวัดจากฝั่งทะเลอ่าวไทย จดชายแดนพม่า มีระยะทางเพียง 12 กิโลเมตรเท่านั้น ปัจจุบันบริเวณชายแดนไทย – พม่า มี ตลาดนัดไทย – สิงขร ซึ่งเป็นตลาดชายแดนที่ขายสินค้าพื้นเมืองทั้งของคนไทยและพม่า เช่น เครื่องใช้ที่ทำมาจากไม้ต่าง ๆ กล้วยไม้ต่าง ๆ สินค้าที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ หินสี ลักษณะเป็นเม็ดหิน มีสีสันต่างๆ ให้เลือกซื้อนำมาร้อยเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู หรือจะเลือกซื้อเครื่องประดับประเภทสำเร็จรูป ก็มีให้เลือกมากมาย แต่แนะนำให้ไปวันเสาร์ค่ะ เพราะตลาดจะคึกคักมากที่สุด

15. อุทยานแห่งชาติหาดวนกร

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ชายหาดอันลือชื่อของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวลงไปในทะเลทิวทัศน์ที่เงียบสงบ บนฝั่งมีทิวสนทะเลและสนประดิพัทธ์เป็นแนวขนานกับทะเล มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 23,750 ไร่ หรือ 38 ตารางกิโลเมตร ในเขตตำบลห้วยทราย ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง และตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร แต่เดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าวังด้วนและป่าห้วยยาง เป็นที่ตั้งของสวนป่าห้วยทราย ท้องที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สวนป่าห้วยยาง สวนรุตขชาติห้วยยาง และสถานีวนกรรมห้วยยาง ท้องที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาสถานีวนกรรมห้วยยางได้ถูกยกเลิกไป เมื่อทางกรมป่าไม้มีนโยบายที่จะจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ จึงได้โอนพื้นที่แห่งนี้มาให้กองอุทยานแห่งชาติดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2532 เป็นต้นมา และได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าวังด้วน ป่าห้วยยาง และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลห้วยทราย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมเนื้อที่ 38 ตารางกิโลเมตร โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 ตอนที่ 126 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2535 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 76 ของประเทศไทย

16. น้ำตกห้วยยาง

มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอบางสะพาน อำเภอสับสะแก ในพื้นที่ของอุทยานฯได้รวมจุดเด่นของน้ำตกที่สวยงามไว้หลายแห่ง เช่น น้ำตกห้วยยาง น้ำตกขาอ่อน น้ำตกเขาล้าน น้ำตกไทรคู่ เป็นต้น อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง เป็นน้ำตกที่มีขนาด 9 ชั้น มีความสวยงาม ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธ์

17. เขาธงชัย

เขาธงชัย เป็นจุดชมวิวที่สำคัญของชายหาดบ้านกรูด จากจุดนี้จะมองเห็นเวิ้งอ่าวและทิวมะพร้าวสุดสายตา เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก

18. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ

ห่างจากตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ไปทางทิศใต้ 10 กิโลเมตร (ขับรถประมาณ 15 นาที) ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมีลักษณะที่สวยงามและความประทับใจในการที่ได้เดินผ่านอุโมงค์แก้วเพื่อชมความงดงามแห่งโลกใต้น้ำ การว่างโครงร่างทั่วทุกด้าน รวมถึงการออกแบบภายในได้อธิบายถึงความแตกต่าง ของการดำรงชีวิตใต้น้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.tourismthailand.org/king10/en-landing.html

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

เติมเต็มวันพักผ่อนเบาๆ…เริงร่าที่เกาะช้าง @ รีโซลูชั่น รีสอร์ท

 วันหยุดดีดีที่คุณต้องการรออยู่ที่ ‘รีโซลูชั่น รีสอร์ท เกาะช้าง’ รีสอร์ทขนาดเล็กกะทัดรัดริมหาดบางเบ้า เกาะช้าง เบื้องหน้ารีสอร์ทเป็นชายหาดและมีภูเขาเป็นฉากหลังกั้นรีสอร์ทออกจากความวุ่นวายของโลกภายนอก แม้ว่าการเดินทางจะต้องผ่านเนินค่อนข้างชัน แต่ว่าด้วยทำเลของรีสอร์ททำให้คุณได้ใช้เวลาพักผ่อนสัมผัสความงามของธรรมชาติขุนเขาและท้องทะเลได้เต็มอิ่มแบบไร้สิ่งรบกวนจะอบอุ่นกับครอบครัว โรแมนติคกับคนรัก หรือสังสรรค์วันผักผ่อนกับเพื่อนฝูงเป็นหมู่คณะและทำกิจกรรมทางทะเลรีสอร์ทก็สามารถจัดให้ได้ตามที่ต้องการ   

 ‘รีโซลูชั่น รีสอร์ท เกาะช้าง’ ซ่อนตัวอยู่ในมุมเงียบสงบบนหาดส่วนตัว ที่ที่ความวุ่นวายมิอาจกล้ำกรายสร้างความรำคาญใจให้กับผู้มาเยือน รีสอร์ทเล็กๆให้บริการจากใจ ด้วยทีมบริหารแบบครอบครัว มีทั้งความอบอุ่นและความสะดวกสบายมอบให้

รีโซลูชั่นตั้งอยู่ห่างจากทะเล 50 เมตร มีเพียงสนามหญ้าเขียวขจีคั่นกลางระหว่างตัวตึกและทะเลสีคราม ปกคลุมล้อมรอบด้วยต้นปาล์ม ต้นมะพร้าวและพันธุ์ไม้เมืองร้อนเกาะเกี่ยวกันเป็นเงาให้ความร่มรื่นเย็นสบาย  มีสระน้ำกว้างสร้างยกระดับเหนือหาด มองเห็นวิวทะเลขณะแหวกว่ายในสระ หรือหากจะนอนเล่นผ่อนคลายอาบแดดก็แสนชิล

เลยไปอีกหน่อยเป็นเทอเรซเปิดโล่งรับลมยื่นลงไปในทะเล ไว้นั่งผ่อนคลาย จิบเครื่องดื่ม ชมทะเล สำหรับกิจกรรม รีโซลูชั่น เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับการมาพักผ่อน นอนเล่น อ่านหนังสือ อาบแดด ชื่นชมธรรมชาติ ทั้งยังสามารถพายเรือคายัคและว่ายน้ำท่ามกลางภูมิทัศน์อันเงียบสงบ 

มีบริการเรือรับส่งฟรีไปถึงหมู่บ้านชาวประมงบางเบ้าและหาดกองกลอย

‘รีโซลูชั่น รีสอร์ท เกาะช้าง’ เป็นอาคารขนาด 2 ชั้น มีห้องพักให้บริการสามประเภทห้องพัก สำหรับการมาพักผ่อนของ 2 ท่าน ตกแต่งเรียบง่ายเข้ากับบรรยากาศที่พักตากอากาศริมทะเล โดยเริ่มต้นที่ห้องสแตนดาร์ดที่ตกแต่งได้มาตรฐานในราคาเป็นมิตร, ห้องดีลักซ์ บีชฟร้อนท์ ตั้งอยู่ชั้น 1 ของอาคาร ได้ความรู้สึกถึงที่พักใกล้ทะเล และห้อง ซุปเปอร์ ดีลักซ์ บีช ฟร้อนท์ ที่พิเศษในเรื่องความกว้างของห้องพัก

 มาเติมเต็มวันพักผ่อนเบาๆ สำหรับคนรักธรรมชาติและความเป็นส่วนตัวที่ ‘รีโซลูชั่น รีสอร์ท เกาะช้าง’

โปรพิเศษ!สำหรับลูกค้า HotelAndResortThailand เริ่มต้น 1,700 บาท (รวมอาหารเช้า)

**เข้าพักตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤศจิกายน 2560 และจองได้ถึง 31 กรกฎาคม 2560 เท่านั้น!! 

• ห้อง Standard Beachfront ราคา 1,700 บาท / คืน / 2 ท่าน
• ห้อง Deluxe Beachfront ราคา 2,100 บาท / คืน / 2 ท่าน
• ห้อง Super Deluxe Beachfront ราคา 2,500 บาท / คืน / 2 ท่าน

(ทุกห้องมองเห็น วิวทะเล ภูเขา สวน และสระว่ายน้ำ)

สนใจจองห้องพักได้ที่ เบอร์  087-3329-612 หรือ Line ID: plzsmilelio และ Facebook: www.facebook.com/resolutionresort

Resolution Resort Koh Chang
ที่ตั้ง: 50/5 หมู่1, อ่าวบางเบ้า, เกาะช้าง จ.ตราด

♦♦ รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมที่ ♦♦
Tel: 087-3329-612, 081-838-2050   Instagram: resolutionresort
Mail: resolutionkohchang@hotmail.com
Website:www.resolutionresort.net

…..ขอบคุณทุกท่านค่ะ  …..

 

 

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

นั่งเพลินจิบชา ละเลียดขนมที่ ‘Zing Bakery’ Centara Grand at CentralWorld

 

ถึงเวลาที่คนรักชาและขนมหวานได้ดีใจกันแล้ว เมื่อ ซิงก์เบเกอรี่ ชั้น G โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ได้จัด ‘TWG High Tea Set’ ชุดเซ็ตน้ำชายามบ่ายพร้อมเบเกอรี่และขนมหวานให้ได้ลิ้มลอง โดย ‘TWG High Tea Set’ จะเสิร์ฟทุกวันช่วง 15.00-17.00 . ในราคาเพียง 699++ บาท สำหรับสองท่าน เรียกว่าคุ้มมาก กับงานชาระดับพรีเมียมอย่าง TWG และขนมอบรสกลมกล่อมที่จัดมาเป็นเซ็ตน่ารัก ๆ ให้ลองชิม

ต้องขอบอกว่า ซิงก์เบเกอรี่นั้นตกแต่งได้น่ารักน่านั่ง บรรยากาศโล่งโปร่ง การตกแต่งเหมาะสำหรับวันมานั่งเล่นชิลล์ ๆ จิบชาแกล้มขนม

ชา 1 เซ็ตจะมาพร้อมกับชาร้อนและเย็น อย่างชาดำกลิ่นเบอร์กาม็อตสโมกี้ เอิร์ล เกรย์ ซึ่งไปกันได้ดีหากจิบคู่ของคาว หรือ อิเทอร์นัล ซัมเมอร์ ดื่มคู่ของหวาน

เมนูของคาวจะมี เทอร์รีน ตับเป็ด ทูน่าทาร์ทาร์และแซลมอนรมควันราดซอสซาวครีม

เมนูของหวานมี มาการองไส้ครีมน่าชิมทุกรส เอแคลร์รสช็อกโกแลต ขนมปารีสเบรสต์สอดไส้ครีมเฮเซลนัท และ มิลล์เฟยวานิลลา

พิเศษอีก 1 อย่าง เรียกว่าช่วงเวลาแห่งการรอคอย 18.00 น. – 21.00 น. เป็นเวลาเบเกอรี่ซื้อ1 แถม 1 ค่ะ

อยากกินขนม จิบชา นั่งชิลล์เงียบๆลองมาที่นี่กันค่ะ ‘Zing Bakery’ CentaraGrand at CentralWorld

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

โปรโมชั่นงานไทยเที่ยวไทยจากโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่

วันที่ 2 – 5 มี.ค. นี้ พบกับห้องพักราคาพิเศษได้ที่งานไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 42 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บูธ P343 (Plenary Hall) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.

53f56794ba28c_org

ห้อง Deluxe Thames Garden เริ่มต้นที่ 3,500 บาท พร้อมอาหารเช้าฟรี 2 ท่าน

01

ห้อง Pool Villa เริ่มต้นที่ 7,900 บาท พร้อมอาหารเช้าฟรี 2 ท่าน

02

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร  044-009999

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

กรุงเทพไม่ได้มีแต่ห้าง!… 12 ที่เที่ยวน่าไปทั่วกรุง

 

 

1. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์

2

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ หรือหอศิลป์เจ้าฟ้า ตั้งอยู่ข้างสะพานพระปิ่นเกล้า สร้างขึ้นตามลักษณะสถาปัตยกรรมตะวันตก โดยนายคาร์โล อัลเลกรี (Carlo Allegri) สถาปนิกชาวอิตาเลียนประจำราชสำนักสยามเป็นผู้ออกแบบ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากโรงงานเครื่องจักร เมืองเบอร์มิ่งแฮม ประเทศอังกฤษ โดยอาคารหลักด้านหน้าเป็นทรงปั้นหยาสูง 2 ชั้น หลังคามุงกระเบื้องว่าว สองข้างอาคารหลักต่อเป็นปีกทอดยาว เป็นอาคารชั้นเดียวหักมุมฉาก 4ด้านบรรจบกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม จัตุรัสเชื่อมต่อกัน บริเวณสันหลังคา เชิงชาย ช่องบานประตู หน้าต่างประดับด้วยลวดลายฉลุไม้งดงาม ปัจจุบันเป็นศูนย์รวบรวม และจัดแสดงผลงานศิลปะ ทั้งแบบประเพณีไทยโบราณและแบบสากลร่วมสมัยของศิลปิน ที่มีชื่อเสียงของไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน

06

13

15

DSC04933

0021

DSC04935

DSC04936

21995

21993

21990

2 (1)

3

05

20

วันเปิดทำการ : วันพุธ – วันอาทิตย์

เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 16.00

ที่ตั้ง : 4 ถนนเจ้าฟ้า แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

 ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.finearts.go.th

 

2. KHAOSAN GARDEN

37_20130916131029.

จุดนัดพบสุดชิคที่ใช้เวลาเพียง 1 วันก็สามารถรู้จักเขตพระนครและถนนข้าวสารในอดีตได้แล้ว เพราะรวมพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ร้านอาหารฝรั่งเศส ร้านกาแฟ และร้านเบเกอรี่ไว้ในที่เดียว กับ Khaosan Garden ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปลายปี 2555 จากการบูรณะบ้านไกรจิตติซึ่งเป็นบ้านไม้สักอายุกว่า 100 ปีที่ประดับประดาไปด้วยผลงานของศิลปินชื่อดัง บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความร่มรื่น ชวนดื่มด่ำความงามของสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า รวมถึงลิ้มรสอาหารเลื่องชื่อจากฝรั่งเศสที่พร้อมเสิร์ฟ ทุกเมนูที่ร้าน Chez Bruno ก่อนจะตบด้วยของหวานอย่างเบเกอรี่และไอศกรีมโฮมเมดสไตล์ฝรั่งเศสที่ร้าน Vanille แล้วปิดท้ายด้วยการดื่มกาแฟของร้าน Malongo ที่หอมกรุ่นตรึงใจ

37_201309161310291.

37_201309161310292.

37_201309161310411.

37_20130916131041.

37_201309161310412.

37_20130916131052.

ที่ตั้ง : 201 ถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก travel thaiza

 

3. พระราชวังเดิม

Image

พระราชวังเดิม หรือพระราชวังกรุงธนบุรี สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปี พ.ศ. 2310 ตรงกับการสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีของไทย ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในกองบัญชาการกองทัพเรือบริเวณ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของป้อมวิไชยเยนทร์ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยตำแหน่งที่ตั้งของพระราชวังแห่งนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีป้อมปราการที่มั่นคง สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล นอกจากนี้ยังเคยเป็นสถานที่ ที่พระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ทรงมีพระราชสมภพ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับโบราณสถานที่ยังปรากฏในพระราชวังเดิม ได้แก่ ท้องพระโรง แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ “ท้องพระโรง” หรือ “วินิจฉัย” ลักษณะคล้ายศาลากว้างๆ หลังคาประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และมุงด้วยกระเบื้องดินเผา ยกพื้นด้วยการก่ออิฐถือปูน ใช้เป็นที่เสด็จออกขุนนาง และประกอบพระราชพิธีสำคัญในสมัยกรุงธนบุรี และส่วนที่สองคือ ส่วนราชมณเฑียร เรียกว่า “พระที่นั่งขวาง” เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ พื้นปูกระดาน เครื่องบนเหมือนท้องพระโรง ปัจจุบันใช้เป็นห้องรับรองบุคคลสำคัญ และห้องประชุมในบางโอกาส นอกจากนี้ยังมีพระตำหนักเก๋งพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว อาคารตำหนักเก๋งคู่หลังเล็กมีรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนประยุกต์ จัดแสดงพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน

IMG_1

เก๋งพระปิ่นฯ

เก๋งคู่หลังใหญ่

เก๋งคู่หลังเล็ก

whale_shrine_large

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ

เรือนเขียว

ป้อมวิไชยฯ

ที่ตั้ง : ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เปิดทำการวันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 -15.30 น.

ขอขอบคุณรูปภาพจาก wangdermplace.org 

 

4. พระราชวังพญาไท

Payathai_palace

พระราชวังพญาไท หรือนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า วังพญาไท อดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นสวนทุ่งนา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่5) โปรดเกล้าฯให้ซื้อที่ดินจำนวน 100 ไร่เศษ เพื่อใช้ทดลองปลูกธัญพืชและเป็นที่พักผ่อนพระราชอริยบท สถานที่เสด็จแปรพระราชฐาน และที่ประทับของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 5 จนเสด็จสวรรคต เคยเปิดเป็นโฮเต็ลพญาไทในสมัยรัชกาลที่ 7 แล้วจัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงด้วย สุดท้ายกลายเป็นโรงพยาบาลทหาร ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475

วังพญาไท ในอดีตใช้เป็นท้องพระโรงและบางครั้งใช้เป็นโรงละคร มีจุดเด่นที่งานจิตรกรรมรูปคนและพรรณพฤกษา รวมถึงพระนามาภิไธย “สผ” หรือ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดงานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ฟื้นฟูวังพญาไท ให้สวยงามดังเดิม ภายในพระราชวังพญาไทประกอบด้วย

พระที่นั่งพิมานจักรี เป็นอาคารอิฐเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างโรมาเนสก์กับโกธิค เหนือบานประตูจารึกอักษรพระปรมาภิไธย ร.6 สำหรับห้องชั้นล่าง เช่น ห้องเสวยร่วมกับฝ่ายใน ห้องรับแขก ห้องพักเครื่อง ฯลฯ มีจิตรกรรมสีปูนแห้งอันสวยงาม ส่วนที่ประทับอยู่บริเวณชั้นสอง ประกอบด้วยห้องต่างๆ เช่น ท้องพระโรงกลาง ห้องพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ห้องประทับของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ห้องทรงพระอักษร

พระที่นั่งไวยกูณฐเทพสถาน อาคารมีลักษณะแบบโรมาเนสก์ เดิมเป็นพระที่นั่งสูง 2 ชั้น ก่ออิฐฉาบปูน ได้มีการต่อเติมชั้น 3 ขึ้นภายหลัง เพื่อจัดเป็นห้องพระบรรทม เคยเป็นที่ตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงกรุงเทพฯ ที่พญาไท

พระที่นั่งศรีสุทธนิวาส หรือชื่อเดิมว่า พระที่นั่งลักษมีพิลาส ตามพระนามของพระนางเธอลักษมีลาวัณ พระชายา เป็นพระที่นั่งสูง 2 ชั้น ก่ออิฐ ฉาบปูน มีโดมขนาดเล็ก ลักษณะอาคารเป็นแบบอิงลิช โกธิค มีทางเชื่อมต่อกับพระที่นั่งพิมานจักรีในระดับชั้น 2 ใช้เป็นที่รับรองของเจ้านายฝ่ายใน ที่ฝาผนังตอนใกล้เพดานและเพดาน มีจิตรกรรมลักษณะแบบ อาร์ต นูโว เป็นลายดอกไม้

พระที่นั่งเทวราชสภารมณ์ เป็นท้องพระโรงเดิมในสมัยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยยังปรากฏอักษรพระนามาภิไธย สผ (พระนามเดิม สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี)

พระที่นั่งอุดมวนาภรณ์ เดิมมีอาคารซึ่งเรียกกันว่า ตึกคลัง ส่วนพระที่นั่งองค์นี้น่าจะสร้างขึ้นในระยะหลัง จึงมีลักษณะต่างไปจากพระที่นั่งองค์อื่นๆ

พระตำหนักเมขลารูจี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้สร้างพระตำหนักองค์น้อยขึ้นหนึ่งองค์ที่ริมคลองพญาไทตอนกลาง

อาคารเทียบรถพระที่นั่ง ได้สร้างต่อเติมภายหลังจากการสร้างพระราชวังพญาไทเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีลักษณะอาคารแบบนีโอคลาสสิค โดยอยู่ด้านหน้าพระที่นั่งพิมานจักรี สำหรับเป็นลานเทียบรถพระที่นั่งและห้องพักคอยผู้รอเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท การจัดแต่งภูมิสถาปัตย์สวนโรมัน เป็นลักษณะแบบเรขาคณิต ประกอบด้วยศาลาในสวนที่ใช้รูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบโรมัน

Piman_Chakri

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

Image

1024px-Bkkwangphayathai0905a

440313

Image (2)

Image (1)

440281

440277

440268

440260

440312

พระราชวังพญาไทอยู่ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถนนราชวิถี เขตราชเทวี สามารถเดินทางไปได้ง่าย ๆ และประหยัดด้วยการขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีอนุสาวรีย์ฯ แล้วเดินอีกไม่ไกลไปตามถนนราชวิถีก็จะถึงโรงพยาบาล เปิดให้เข้าชมทุกวันวันเสาร์-วันอาทิตย์ มีวิทยากรนำชม ในเวลา 09.30 น. และ 13.30 น. สำหรับวันจันทร์ – วันศุกร์ จะต้องทำหนังสือขออนุญาตเข้าชม

ขอบขอบคุณรูปภาพจาก wikipedia.com , manager.com , oknation.nationtv.tv

5. พระที่นั่งอนันตสมาคม

Ananta_Samakhom_Martinp1

พระที่นั่งอนันตสมาคม อาคารหินอ่อนแบบโดมคลาสสิกโรมัน ผสานศิลปะอิตาเลียนเรอเนอซองส์ และแบบนีโอคลาสสิก ภายนอกประดับด้วยหินอ่อนจากเมืองคารารา ประเทศอิตาลี บางส่วนแกะสลักเป็นรูปพันธุ์พฤกษาและคนเพื่อประดับอาคาร รูปทรงเป็นแบบเดียวกับวิหารเซนต์ปีเตอร์ แห่งโรมและโบสถ์เซนต์ปอลแห่งกรุงลอนดอนที่งดงาม ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่รับรองแขกเมืองและประชุมปรึกษาราชการแผ่นดิน โดยมิสเตอร์ เอ็ม.ตามานโย (M.Tamango) ช่างจากอิตาลีเป็นผู้ออกแบบ นายซี อัลเลกรี เป็นวิศวกร เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เป็นแม่กองจัดการก่อสร้าง หลังจากดำเนินการได้เพียง 2 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จึงรับช่วงก่อสร้างต่อจนสำเร็จลงในอีก 6 ปีต่อมาตรงกับ พ.ศ. 2458 รวมทั้งสิ้น 8 ปี ลักษณะเด่นของอาคารแห่งนี้อยู่ที่ช่วงบนซึ่งเป็นรูปโดมทำจากทองแดง มีโดมใหญ่อยู่ตรงกลางและโดมเล็กๆ รายรอบ 6 โดม ภายในพระที่นั่งบนเพดานโดมตกแต่ง ด้วยภาพเขียนเฟรสโก (ภาพเขียนสีบนปูนเปียก) เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 3 6 แห่งราชวงศ์จักรี จำนวน 6 ภาพ ใต้โดมกลางเป็นโดมใหญ่ที่สุดมีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ “จปร.” ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เพดานนับจากใต้โดมตลอดบริเวณท้องพระโรงกลาง มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ “จปร.” สลับกับ “วปร.” อันเป็นพระปรมาภิไธยย่อของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีบันไดหินอ่อนโค้งสวยงามทอดตัวนำไปยังชั้นบนที่มีลักษณะเป็น ห้องโถงยาว เพดานสูง นอกจากนี้ยังมีลวดลายอันงดงามตั้งแต่เพดานรูปโค้งเชื่อมหัวเสาทั้งสองด้าน ส่วนตัวเสาสร้างด้วยหินอ่อนทั้งต้น มีลวดลายการแกะสลักอย่างงดงาม โดยเฉพาะเสาแบบ “โครินเธียน” ที่หัวเสาสลักด้วยลวดลายใบไม้อันสวยงาม เป็นแบบที่นิยมใช้มาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ นอกจากนั้นเหนือพระทวารหรือประตูทุกประตู มีตุ๊กตาโรมันแกะสลักจากหินอ่อน มีพวงมาลัยหินอ่อนคล้องคอประดับไว้อย่างน่าชม พระที่นั่งอนันตสมาคมแต่เดิมใช้เป็นที่ประกอบ พระราชพิธีรัฐพิธีต่างๆ และเคยเป็นที่ประชุมรัฐสภา ภายหลังย้ายการประชุมมายังรัฐสภาใหม่ ด้านหลังของพระที่นั่งฯ ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรศิลป์แผ่นดิน โดยสถาบันสิริกิติ์ สวนจิตรลดา อีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชมความงดงาม

654015_0_1435558075

654015_3_1435558075

559000003111210

559000003111208

559000003111207

654015_1_1435558075

559000003111209

559000003111212

559000003111213

ที่ตั้ง : ถนนราชวิถี เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 เปิดทำการวันอังคาร – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น.

 ขอขอบคุณรูปภาพจาก wikipedia , กรุงเทพธุรกิจ , ผู้จัดการ

 

6. บ้านศิลปิน คลองบางหลวง

bangluang01

แหล่งรวมงานศิลป์ทรงคุณค่าที่ควรไปเยี่ยมเยือนสักครั้งในชีวิตที่บ้านศิลปิน คลองบางหลวง คลองที่ตั้งเมืองบางกอกแห่งแรกนับตั้งแต่สมัยอยุธยายาวนานเป็นเวลากว่า 500 ปี ซึ่งต่อมากลายเป็นถิ่นฐานบ้านขุนนางสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ บ้านศิลปินเดิมเป็นบ้านเก่าของ “ตระกูลรักสำรวจ” ตระกูลช่างทองเก่าแก่ ซึ่งทายาทรุ่นสุดท้ายขายบ้านหลังนี้ให้กับคุณชุมพล อักพันธานนท์ เพื่อปรับปรุงให้เป็นสถานที่แสดงงานศิลป์ เป็นที่รวมตัวของกลุ่มศิลปินที่รักงานศิลปะทุกประเภท ที่นี่ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง ตัวอาคารเป็นไม้ทรงมะนิลารูปตัวแอลที่สร้างล้อมรอบเจดีย์เก่า ซึ่งเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง สันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในสี่ของเจดีย์แต่ละทิศที่กำหนดเขตพื้นที่เก่าของวัด โดยยังคงสภาพเก่าของตัวอาคารไว้อย่างสมบูรณ์ ด้านบนของตัวอาคารเป็นแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะ ทั้งภาพวาดและภาพถ่ายให้ได้ชมกัน ส่วนด้านล่างแบ่งเป็นพื้นที่ทำงานศิลปะต่างๆ หนึ่งในนั้นมีการทำเครื่องประดับ อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ใช้เป็นของเก่าที่อยู่กับอาคารหลังนี้ ตั้งแต่สมัยก่อนและทุกวันนี้ยังใช้ได้จริง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีการจัดแสดงหุ่นละครเล็กคลองบางหลวง เพื่ออนุรักษ์ศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็กให้ยืนยาว อีกทั้งมีมุมขายของที่ระลึกให้แวะเลือกซื้อโปสต์การ์ด ภาพถ่ายสวยๆ มุมร้านกาแฟให้สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบพร้อมชมวิวทิวทัศน์ริมคลอง และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอย่างเรียบง่ายริมน้ำซึ่งเป็นภาพหาดูได้ยากยิ่ง

รู้ก่อนเที่ยว

ทุกวันอาทิตย์ที่นี่จะมีการฝึกอบรมอาชีพการทำเครื่องประดับให้กับผู้ที่สนใจฟรี โดยไม่คิดค่าอบรม

ชมการแสดงหุ่นละครเล็กฟรี รอบเดียวเท่านั้น บริเวณลานวัฒนธรรม เวลา 14.00 น. ทุกวัน ยกเว้นวันพุธ (คณะหุ่นละครเล็กคลองบางหลวงถือกำเนิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2553 โดยมุ่งหวังที่จะร่วมเผยแพร่อนุรักษ์ศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็กในฐานะผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการเชิดหุ่นละครเล็ก และได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์วัชระ ประยูรคำ ปฏิมากรชั้นนำของเมืองไทยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกับกลุ่มศิลปินนักแสดงผู้เชิดหุ่นละครเล็ก และให้คำปรึกษาในการสร้างสรรค์พัฒนาเพื่อต่อยอดการแสดงให้เกิดความหลากหลาย)

12301766_1011254335603277_3676698741019602415_n

12642477_1044553815606662_533695465040363691_n

14657496_1225363077525734_8391216760007215249_n

13001094_1092563767472333_7713133152655757128_n

12938344_1090789844316392_8171405199070335710_n

14611062_1225363144192394_4752457890021490651_n

528112_404647122930671_2032373650_n

bangluang08

bangluang02

bangluang09

bangluang07

15136006_1270641429664565_7059677506364829252_n

ที่ตั้ง : 315 วัดทองศาลางาม ซอยเพชรเกษม 28 ถนนเพชรเกษม แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพ 10160 เปิดวันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 14.00 – 00.00 น. 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก FB : บ้านศิลปิน คลองบางหลวงartisthousebkk , sarakadee.com

 

7. นิทรรศน์รัตนโกสินทร์

nitus1

อาคาร 3 ชั้นทรงสวยโดดเด่นบนถนนราชดำเนินกลางติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ คือที่ตั้งของนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ศูนย์การเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของยุครัตนโกสินทร์ที่สมบูรณ์แบบและทันสมัยที่สุด ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย การใช้สื่อผสมเสมือนจริง 4 มิติ สื่อมัลติทัช มัลติมีเดียแอนิเมชัน ในลักษณะอินเตอร์แอคทีฟเซล์ฟเลิร์นนิ่ง (Interactive Self-learning) ในการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อความน่าสนใจและสมจริง โดยแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ ได้แก่ ห้องรัตนโกสินทร์เรืองโรจน์ จัดแสดงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ยุคสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ห้องเกียรติยศแผ่นดินสยาม ชื่นชมความสวยงามของแบบจำลอง เอกลักษณ์ความภูมิใจในศิลปะไทย อาทิ พระบรมมหาราชวัง พระแก้วมรกตในเครื่องทรงครบทั้ง 3 ฤดู เขตพระราชฐานชั้นใน เป็นต้น ห้องเรืองนามมหรสพศิลป์ ย้อนยุคบรรยากาศมหรสพสมโภชในมุมมอง 360 องศา ด้วยเทคโนโลยีแอนิเมชั่นลายไทยเรื่องรามเกียรติ์วรรณกรรมอันล้ำค่าของชาติไทย ห้องลือระบิลพระราชพิธี จัดแสดงพระราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ โดยกระบวนพระยุหยาตราทางชลมารคแบบสามมิติ ห้องสง่าศรีสถาปัตยกรรม เรียนรู้ศิลปะในวัง การสร้างวัด ตัวอย่างบ้านสมัยต่าง ๆ ของกรุงรัตนโกสิทร์ในรูปแบบมัลติทัช ห้องดื่มด่ำย่านชุมชน สัมผัสวิถีชีวิตย่านชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์ เมื่อครั้งอดีต ห้องเยี่ยมยลถิ่นกรุง ชมแอนิเมชั่นนำเที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์ พร้อมบริการถ่ายรูปโบราณเก็บไว้เป็นที่ระลึก ห้องลือระบิลพระราชพิธี ชมภาพถ่ายพระราชพิธี 12 เดือนที่ควรค่าในความทรงจำ นอกจากนี้ยังมีห้องสมุดที่รวมหนังสือและสื่อที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหารและเครื่องดื่มบริเวณชั้นล่างไว้คอยให้บริการ

16406867_10155892300712818_1443384001263007577_n

nitus3

nti

ntp

ntn

nitus2

ntj

ntl

ntr

ntw

ntzm

ntzr

ที่ตั้ง : 100 ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 เปิดบริการวันอังคาร – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น. เปิดให้เข้าชมเป็นรอบ ทุกๆ 20 นาที (รอบสุดท้าย เวลา 18.00 น.) 

 ขอขอบคุณรูปภาพจาก  FB : นิทรรศ์รัตนโกสินทร์   campaign.edtguide.com

 

8. ตึกถาวรวัตถุ

1335009653

ตึกสวยเด่นด้วยลักษณะอาคารยอดปรางค์ 3 ยอด บริเวณถนนหน้าพระธาตุใกล้สนามหลวง ชวนให้เข้าไปเยี่ยมชมความงดงามมีชื่อว่า ตึกถาวรวัตถุ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ตึกแดง” ซึ่งแต่เดิมตึกนี้ เคยเป็นหอสมุดแห่งชาติ โดยรัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2448 เพื่อให้เป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย จนในเวลาต่อมาได้โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งมหาธาตุวิทยาลัยขึ้น ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ปัจจุบันที่นี่จึงกลายเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ 5 ซึ่งภายในแบ่งส่วนนิทรรศการออกเป็น 7 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 “ห้องปิยมหาราช” จัดแสดงเนื้อหา ภาพพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจที่สำคัญ รวมทั้งอัญเชิญพระบรมราโชวาทในวาระต่างๆ มาไว้ในส่วนนี้ ส่วนที่ 2 “ห้องราชเคียงประชา” จัดแสดงพระราชกรณียกิจที่ยังผลให้คนไทยมีความเสมอภาคในสังคม โดยเฉพาะการเลิกทาส ทำให้ราษฎรไทยเป็นไทแก่ตัว ส่วนที่ 3 “ห้องธำรงเอกราช” จัดแสดงพระบรมราชวิเทโศบาย ในการเจริญพระราชไมตรีกับต่างประเทศ ช่วยให้ชาติไทยผ่านพ้นวิกฤตการณ์ทางการเมือง จากยุคล่าอาณานิคม ส่วนที่ 4 “ห้องสยามใหม่” จัดแสดงการวางรากฐานกิจการด้านสาธารณูปโภคของไทย พื้นฐานสำคัญในการพัฒนาชาติ ส่วนที่ 5 “ห้องมรดกสถาปัตยกรรมแห่งสยาม” จัดแสดงอาคารจำลอง 3 มิติของสถาปัตยกรรมสำคัญ 5 แห่งที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนที่ 6 “ห้องมรดกความทรงจำแห่งโลก” จัดแสดงเอกสารทางประวัติศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวกับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยระหว่าง พ.ศ. 2411 – 2453 ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกความทรงจำ แห่งโลก เมื่อปี พ.ศ. 2552 ซึ่งสามารถเลือกหยิบหนังสือมาอ่านและอ่านสำเนาเอกสารบางส่วน ด้วยระบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ได้ และส่วนที่ 7 “ปิยมหาราชรฤก” จัดแสดงภาพถ่ายส่วนพระองค์ที่หาดูได้ยากยิ่งในปัจจุบัน ก่อนจะแวะซื้อของที่ระลึกเก็บเป็นความประทับใจ อย่างโปสต์การ์ดภาพย้อนอดีตเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของไทยกลับบ้านได้ด้วย

1367536983-IMG0044JPG-o

1367537010-IMG0045JPG-o

1367536963-IMG0043JPG-o

1367537031-IMG0046JPG-o

1367537055-IMG0048JPG-o

1367537113-IMG0049JPG-o

1335010035

1335009743

ที่ตั้ง : ถนนหน้าพระธาตุ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เปิดทำการวันพุธ – วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์ – อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09.30 – 16.00 น. 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก m.donmueangairportthai.com , pantip : หนึ่งหน่อง

 

9. พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพฯ เขตบางรัก

16864979_1306537932702703_227404951575679647_n

ชมประวัติความเป็นมาและวิถีชีวิตของชาวบางรักได้ ณ พิพิธภัณฑ์เขตบางรัก หรือพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก สร้างขึ้นเพื่อการเรียนรู้เรื่องราวภายในท้องถิ่น ทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศิลปะและภูมิปัญญา โดยพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก มีลักษณะเป็นบ้านโบราณที่สร้างในปี พ.ศ. 2480 เกิดขึ้นจากความตั้งใจของ อาจารย์วราพร สุรวดี ที่อยากให้บ้านอันเป็นมรดกตกทอดมาจากมารดา คือ คุณสอาง สุรวดี (ตันบุณเต็ก) กลายเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษา ต่อมาตัวบ้านถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดำเนินโดยเอกชน ภายหลังได้โอนกรรมสิทธิ์ให้ กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแล เมื่อวันที่ 1 ต.ค. พ.ศ.2547 โดยทำเลที่ตั้งเป็นย่านพักอาศัยของชุมชนชาวบางรัก ซึ่งในอดีตเป็นย่านตากอากาศ ชุมชนนานาชาติ และทำเลธุรกิจที่สำคัญมาตั้งแต่ปลายสมัยอยุธยา สำหรับเนื้อหาในการจัดแสดงสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนชั้นกลางชาวบางกอกในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประวัติความเป็นมาของบางรัก เรื่องราวของย่านบางรักกับการพัฒนาประเทศ ด้านต่างๆ การสร้างถนน ยานพาหนะ วิวัฒนาการย่านการค้า และจุดเริ่มต้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนสถานที่น่าสนใจเกี่ยวกับภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของชุมชน อาทิ อาสนวิหารอัสสัมชัญ โรงพยาบาลเลิดสิน  วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร วัดพระศรีมหาอุมาเทวี โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน แฟลตแห่งแรกของไทย และสโมสรแห่งแรกในไทยในสมัยรัชกาลที่ 5  อีกทั้งยังเป็นย่านที่พำนัก ของบุคคลสำคัญ เช่น หลวงประดิษฐ์มนูธรรม ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์

16804117_1309052879117875_2649959715097413082_o

16836494_1307866922569804_2004835860217038187_o

16684125_1309052905784539_6735242160005930799_n

16864640_1309052915784538_3467433425612067000_n

16649546_1306494872707009_5710877159514030419_n

16681687_1306494856040344_435717829940574869_n

16681852_1306494839373679_8714808624879315898_n

16830927_1306494889373674_8150434052705462266_n

16831107_1306494942707002_4934612445155088665_n

16730455_1306494879373675_241558073910450656_n

16903133_1306494896040340_6851488839702536603_o

16831932_1306494939373669_6872981712237018094_n

14212049_1139087119447786_1930673596913057120_n

ที่ตั้ง : 273 ซอยเจริญกรุง 43 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก (ตรงข้ามไปรษณีย์กลาง เขตบางรัก) เปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันพุธ-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.00 น. 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก FB : พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก

 

10. พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย

1409324978-6JPG-o

พระตำหนักอันเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามของไทย นับวันยิ่งจะหาชมได้ยากยิ่ง ถือเป็นโชคดีของคนไทยที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดสรรพื้นที่อันเป็นบริเวณพระตำหนักเก่า จัดเป็น พิพิธภัณฑ์ธนาคาร แห่งประเทศไทย โดยรัชกาลที่ 5 ได้ทรงสร้างโดยใช้เงินพระคลังข้างที่เพื่อให้เป็นที่ประทับของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอในสมัยนั้น จนต่อมาได้กลายเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่กว่า 30 ไร่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในจัดแสดงห้องต่างๆ มากมาย อาทิเช่น ห้องเปิดโลกเงินตราไทย จัดแสดงสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน ห้องธนบัตรไทย จัดแสดงวิวัฒนาการ การใช้เงินกระดาษในระบบเงินตราไทย ห้องธนบัตรต่างประเทศ ห้องเปิดโลกการเรียนรู้ ห้องประวัติและการดำเนินงานของธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับไฮไลท์อยู่ตรงที่ผู้ชมจะได้พบกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะออกมากล่าวต้อนรับและอธิบายบทบาทหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยเทคนิคนำเสนอ Magic Vision พร้อมทั้งเรียนรู้ประวัติและการดำเนินงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2485 จนถึงปัจจุบัน และอีกหลากหลาย ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของประวัติศาสตร์ธนาคารไทย เช่น ห้องเชิดชูเกียรติ ห้องจุมภฏพงษ์บริพัตร ห้องสีชมพู ห้องบริพัตร ห้องประชุมเล็ก

1409324261-1JPG-o

1409324027-3JPG-o

1409324479-2JPG-o

1409324762-5JPG-o

1409324672-4JPG-o

1409326315-11JPG-o

1409325365-8JPG-o

1409325258-7JPG-o

1409325787-9JPG-o

ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ในวังบางขุนพรหม บริเวณเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย ถนนสามเสน เขตพระนคร สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ฟรีทุกวันจันทร์-ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดธนาคาร ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. และ 13.30-16.00.น

ขอขอบคุณรูปภาพจาก pantip : young_pop

 

11. MOCA BANGKOK

13907190_1044500615664138_598923422941760315_n

พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยอาคารทรงเหลี่ยมตั้งตระหง่านอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิตออกแบบโดยฝีมือสถาปนิกไทยเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับศิลปะที่มีความเป็นไทย  ตัวอาคารถูกสร้างให้เสมือนการนำหินแกรนิตทั้งก้อนมาแกะสลักด้วยความปราณีตเป็นลายก้านมะลิอันแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย  เมื่อเดินเข้าสู่ภายในจะพบกับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านลวดลายฉลุสะท้อนอยู่ทั่วทั้งอาคารสีขาวสะอาดตา   โดดเด่นด้วยประติมากรรม ‘ปิติสุข’  รูปทรงดอกบัวพุ่มที่ตั้งด้านหน้าทางเข้าของอาคารเป็นสัญลักษณ์และเอกลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยหรือ MOCA BANGKOK

บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตรประกอบด้วยพื้นที่จัดแสดงผลงาน 5 ชั้น  แบ่งการจัดแสดงเป็นนิทรรศการหมุนเวียนและนิทรรศการถาวรแสดงผลงานจิตรกรรมประติมากรรมศิลปะสื่อผสมและศิลปะจัดวาง  จากผลงานของศิลปินระดับบรมครูของเมืองไทยหลายท่านกว่า 800 ชิ้นโดยเรียงร้อยเรื่องราวเริ่มจากรูปหล่อของศาสตราจารย์ศิลป์  พีระศรีที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณโถงชั้น G  และค่อยๆพัฒนาเข้มข้นขึ้นตามลำดับชั้น 2,3, 4 โดยจบลงที่ชั้น 5  ซึ่งจัดแสดงผลงานไทยเทียบเคียงกับผลงานของศิลปินจากหลากหลายชาติทั่วทุกมุมโลก

ทั้งหมดนี้คุณบุญชัย เบญจรงคกุลผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยล้วนตั้งใจร้อยเรียงเรื่องราวเหตุการณ์ร่วมสมัยในบ้านเมืองของเราในช่วงเวลาต่างๆรวมถึง ขนบประเพณีวัฒนธรรมความเชื่อและความเป็นอยู่ของสังคมไทยที่ผสานเทคนิคและอิทธิพลจากฝั่งตะวันตก ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรักและหลงใหลในงานศิลปะ  และเจตนารมณ์อันแรงกล้าที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันวิจิตรและประณีตของศิลปินไทย

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ได้รวบรวมงานจิตรกรรมและประติมากรรมไทยร่วมสมัยในรอบ 7ทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอความวิจิตรงดงามของงานสร้างสรรค์แก่ทุกคนที่เดินทางมาเยี่ยมเยือน การถือกำเนิดของพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยแห่งนี้ ยังถือได้ว่าเป็นการรักษาและสนับสนุนให้ศิลปะและศิลปินในเมืองไทยมีพื้นที่แสดงผลงานต่อไป ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีของวงการศิลปะไทยที่จะสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคงทัดเทียมนานาอารยประเทศได้

นอกจากส่วนจัดแสดงงานศิลปะแล้วทางพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านขายของที่ระลึกร้านหนังสือและร้านกาแฟไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอย่างครบวงจรและมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ทุพพลภาพอย่างครบถ้วน เพื่อสนับสนุนให้ทุกกลุ่มคนสามารถเข้าถึงสุนทรียภาพแห่งงานศิลป์ได้ เช่นมีบริการผู้นำชมพิพิธภัณฑ์ภาษามือห้องสุขาสำหรับผู้ใช้รถเข็นเป็นต้น

DCIM100MEDIADJI_0204.JPG

10898285_706490206131849_2543652296845523190_n

14067580_1045314458916087_6227865387453029389_n

15230745_1145919218855610_5132043037128820927_n

13934907_1039999152780951_6433201748263480247_n

10891568_724293647684838_3076182359639588246_n

พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยเลขที่499/50 ถ.วิภาวดีรังสิต (ติดกับอาคารเบญจจินดา) แขวงลาดยาวเขตจตุจักรกรุงเทพฯ 10900 เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.หยุดวันจันทร์

ขอขอบคุณรูปภาพจาก FB : Moca

 

12. พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน

5054_91326929098_6306037_n

เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของไทยตั้งแต่อดีตผ่านของสะสมอันเก่าแก่ล้ำค่าของจิม ทอมป์สัน ที่พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน บ้านเรือนไทยของอดีตนายทหารอเมริกัน เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมไหมไทย และยังได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประถมาภรณ์ช้างเผือก ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระราชทานแด่ชาวต่างชาติที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย

เรือนไทยไม้สัก 6 หลัง ประกอบกันเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่มีการจัดแสดงสิ่งของโบราณ ภายใต้การดูแลของมูลนิธิจิม ทอมป์สัน บริเวณด้านหน้าสุดเป็นพื้นที่รับรองนักท่องเที่ยวที่มา ในรูปแบบของร้านอาหาร “จิมทอมป์สันเรสเตอรองท์แอนด์ไวน์บาร์” ( Jim Thompson Restaurant and Wine Bar) ภายในมีห้องซึ่งจัดแบบไทย มีเครื่องเรือน สวนไม้ดอกไม้ประดับ รวมถึงของสะสมของมิสเตอร์จิม มีทั้งศิลปวัตถุจำพวกเครื่องกระเบื้องเคลือบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกระเบื้องจีน มีอายุตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง มาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่เป็นเครื่องลายครามที่ส่งออกในสมัยราชวงศ์หมิง หลายชิ้นได้มาจากอยุธยาเป็นของที่ส่งมาจากเมืองจีนระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15– 17 เครื่องเคลือบลพบุรี- เขมร  ทำในบริเวณอาณาจักร ลพบุรีในคริสต์ศตวรรษที่ 12 เครื่องสุโขทัยและสวรรคโลก เครื่องกระเบื้องของไทยที่ผลิตใน คริสต์ศตวรรษที่ 14  และ 15 เครื่องเบญจรงค์และเครื่องเคลือบลายน้ำทอง เขียนลายไทย ศิลปะสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18-19  พระวรกายของพระพุทธรูปปูนปั้นสมัยทวาราวดี “พระแผง”โบราณขนาดใหญ่  ทำมาจากดินเผาประดับด้วยกระจกสี  บรรจุพระไว้ถึง 450องค์ นอกจากนี้ ยังมีภาพจิตรกรรมโบราณจำนวนมาก ส่วนใหญ่มีเนื้อหาเชิงพุทธศาสนา รวมถึงชุดผ้าพระบฏสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ราวคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 อีกด้วย การมาเยือนที่นี่อาจทำให้หวนคิดถึงอดีตอันทรงคุณค่าได้มากมาย

Jim-Thompson-House-28076

Jim-Thompson-House-28080

Jim-Thompson-House-28079

Jim-Thompson-House-28074

Jim-Thompson-House-28075

museum_21828

museum_21691

thetrippacker_bkk_jim_thompson_house_n_014_c

thetrippacker_bkk_jim_thompson_house_n_035_c

Jim-Thompson-House-28081

Jim-Thompson-House-28082

Jim-Thompson-House-28084

Jim-Thompson-House-28083

Jim-Thompson-House-28073

Jim-Thompson-House-28071

ที่ตั้ง : ซอยเกษมสันต์ ซอย 2 ถนนพระรามที่ 1 ตรงข้ามสนามกีฬาแห่งชาติ สามารถเข้าชมได้ทุกวัน เวลา 09.00–17.00 น. 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก FB : Jim Thomson House , terrabkk.com , Expedia.co.th

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.tourismthailand.org/king10/en-landing.html

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ชมพระธาตุกลางแม่น้ำโขง “พระธาตุหล้าหนอง”ที่หนองคาย

 

 

aHR0cDovL3AzLmlzYW5vb2suY29tL3RyLzAvdWQvMjgwLzE0MDI0MzcvMjE1MjY5LmpwZw

201602200750082-20041020104302-696x507

“พระธาตุหล้าหนอง” หรือ “พระธาตุหนองคาย” เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่หักพัง จมอยู่ใต้น้ำมากว่า 170 ปีแล้ว เนื่องจากถูกน้ำเซาะบริเวณตลิ่งจนพระธาตุล้มลงสู่กลางแม่น้ำห่างจากฝั่งเกือบสองร้อยเมตร พระธาตุหล้าหนองเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ (พระพนม) จากการสำรวจใต้น้ำของหน่วยโบราณคดีภาค 7 พบว่าองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 17.2 เมตร ย่อมุมที่ฐาน และมีความสูงประมาณ 28.5 เมตร หักออกเป็น 3 ท่อน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20–22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวน ตามบันทึกของหนังสือประชุมพงศาวดารภาค 70 บันทึกไว้ว่า “พระธาตุเมืองหนองคายได้เพ (พัง) เมื่อวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ปีพุทธศักราช 2390” และตลิ่งได้ถูกน้ำเซาะจนมองเห็นพระธาตุอยู่เกือบกึ่งกลางลำน้ำโขงในปัจจุบัน

 

16473093_1592136724144725_677

สำหรับองค์พระธาตุที่มองเห็นนั้นเป็นเพียงฐานขององค์พระธาตุ มุมที่พระธาตุล้มลงนั้น หัวพระธาตุอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากส่วนฐานออกไปอีกประมาณ 33 เมตร

 16508873_1655244251444386_211

16649570_1655244191444392_358

เนื่องด้วยพระธาตุหล้าหนองเป็นที่เคารพสักการะของชาวหนองคายอย่างมาก ทางจังหวัดจึงได้สร้างพระธาตุองค์จำลองขึ้น มาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงและบรรจุชิ้นส่วนองค์พระธาตุจากองค์เดิมไว้ภายใน ในทุกปีชาวบ้านได้จัดงานประเพณีเกี่ยวกับพระธาตุ คือ ประเพณีบุญบั้งไฟ เดือน 6 เพื่อจุดถวายองค์พระธาตุ ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 6 พิธีบวงสรวงองค์พระธาตุ วันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ถวายปราสาทผึ้ง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 และการแข่งเรือยาววันออกพรรษาทุกปี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

timeline_20170208_063458

timeline_20170208_063506

timeline_20170208_063523

timeline_20170208_063546

nongkai6

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  contentcenter.prd.co.th , sanook.com , ไทยรัฐ , welovethaiking , khuntapol/shutterstock.com

เรียบเรียงโดย  www.hotelandresortthailand.com

เรื่องราวท่องเที่ยว By Hotel&Resort