คลังเก็บหมวดหมู่: ไม่มีหมวดหมู่

เตรียมตัวให้พร้อม!! ดอยอินทนนท์ พร้อมเปิดแล้ว 1 สิงหาคมนี้

“ดอยอินทนนท์” ยอดดอยสูงสุดแดดสยาม จังหวัดเชียงใหม่  อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่หลายๆคนพร้อมใจกันปักหมุดไปกัน เพราะที่นี่มีอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์และเย็นสบาย พร้อมกับมีทิวทัศน์ที่สวยงาม  ไม่แปลกใจเลยที่มักจะมีนักท่องเที่ยวผลัดกันเข้าไปเยี่ยมชมความงามอยู่เสมอ

และใครอยากไปสัมผัสอากาศเย็นๆ รับลมธรรมชาติ เตรียมตัวให้พร้อมเลย เพราะดอยอินทนนท์ พร้อมเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมได้แล้ว ในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 นี้ โดยเพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคระบาดทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์จึงเปิดให้ลงทะเบียนจองล่วงหน้า และขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวทุกคน ปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของทุกคนค่ะ

หากอยากไปเที่ยวดอยอินทนนท์ต้องทำอย่างไรบ้าง?
1. ลงทะเบียนจองเข้าอุทยานแห่งชาติล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ
2. Check-in และ Check-out ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ
3. รักษาระยะห่างทางสังคมลดความเสี่ยงรับหรือแพร่เชื้อ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเข้าไปบริเวณที่มีคนจำนวนมาก
4. ปฏิบัติตามกฏระเบียบของอุทยานแห่งชาติ และช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
เฟซบุ๊ค: https://www.facebook.com/DoiInthanonNationalPark/
โทร: 053 286 729

ขอบคุณข้อมูลจาก : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ – Doi Inthanon National Park

 

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

รวมจุดเช็คอินเด็ด!! เมืองรองใกล้กรุง ไปง่ายไม่หลงแน่

วันหยุดทั้งทีก็อยากจะออกไปเที่ยวให้ผ่อนกายสบายใจเสียหน่อย แต่ก็ไม่อยากจะนั่งรถนานๆ หรือนั่งเครื่องไปไหนไกล วันนี้แอดมินมีแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองมาแนะนำกันค่ะ จะไปนอนสักคืนสองคืน หรือจะไปเช้าเย็นกับก็ได้ ง่าย สะดวกไปหมด จะมีที่ไหนกันบ้างมาดูพร้อมๆกันเลย

จังหวัดชัยนาท

จังหวัดชัยนาท หากให้พูดถึงเรื่องท่องเที่ยว หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยนัก เพราะส่วนใหญ่แล้วมักเป็นทางผ่านไปยังจังหวัดอื่นเสียมากกว่า  ชัยนาทเมืองติดแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ได้ชื่อว่ามากด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์  มีโบราณสถานล้ำค่า และวิถีชีวิตของชุมชนที่เรียบง่าย  และยังใช้เวลาขับรถจากรุงเทพไปไม่นานประมาณสองชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง  ไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆเลย

1.วัดมหาธาตุ

ขอบคุณภาพจาก thai.tourismthailand

ที่ตั้ง: ตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี
ค่าบริการ  : ฟรี

2.สะพานลูกบวบ บึงกระจับใหญ่

ขอบคุณภาพจาก thetrippacker

ที่ตั้ง : ตำบล หันคา อำเภอ หันคา ชัยนาท
ค่าบริการ  : ฟรี

3.เขื่อนเจ้าพระยา

ขอบคุณภาพจาก thai.tourismthailand

ที่ตั้ง : อำเภอ สรรพยา ชัยนาท
เวลาเปิดบริการ08.00 น.-17.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ  : ฟรี

4.ชุมชนเก่าตลาดสรรพยา

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง : หมู่ 4 ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา
เวลาเปิดบริการ : 15.00น.-21.00 น. (ตลาดมีทุกวันเสาร์-อาทิตย์)

5.โรงพักเก่า ร.ศ.120

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

เวลาเปิดบริการ : 08:00น. – 16:00น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ  : ฟรี

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

จังหวัดราชบุรี

หากพูดถึงจังหวัดราชบุรี หลายๆคนอาจจะคุ้นชื่อกับจังหวัดนี้ดี เพราะก็ถือว่าเป็นอีกจังหวัดเมืองรองที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันมาก และเป็นเมืองที่มีความหลากหลายในการท่องเที่ยวมาก ทั้ง สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัดวาอารามชุมชนเก่าแก่ หรืออยากจะเสพงานศิลป์ก็มีให้ได้ชมกันด้วย  การเดินทางหากขับรถจากกรุงเทพไม่เกินสองชั่วโมงก็ได้เที่ยวครบเลยนะ

1.ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก

ขอบคุณภาพจาก เที่ยวราชบุรี

ที่ตั้ง : ตำบล ดำเนินสะดวก อำเภอดำเนินสะดวก
เวลาเปิดบริการ:  08.00 น.-15.00 น.

2.อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม

ขอบคุณภาพจาก เที่ยวราชบุรี

ที่ตั้ง : ถนนเพชรเกษม-ดำเนินสะดวก, ตำบล วังเย็น อำเภอบางแพ
เวลาเปิดบริการ :
– วันอังคาร – วันศุกร์ เวลา 9.00 – 17.00 น.(เวลาปิดขายบัตร 15.30 น.)
– วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00 – 17.30 น.(เวลาปิดขายบัตร 16.00 น.)
– หยุดทุกวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์นักขัตฤกษ์
ค่าบริการ  :
– ผู้ใหญ่ (ไทย) 200 บาท
– เด็ก    (ไทย) 100 บาท ความสูง 90 – 130 ซม. (ต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี)
– ผู้ใหญ่ (ต่างชาติ) 400 บาท
– เด็ก    (ต่างชาติ) 300 บาท

3.พิพิธภัณฑ์ราชบุรี

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง : ถนนวรเดช ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง
เวลาเปิดบริการ : 09.00–16.00 น. ปิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ค่าบริการ :ชาวไทย 20 บาท (เด็กเข้าชมฟรี) ชาวต่างชาติ 100 บาท (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 0 3232 1513 )

4.เขาแก่นจันทร์

เวลาเปิดบริการ : 07.00-18.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

5.วัดถ้ำน้ำ

ขอบคุณภาพจาก เที่ยวราชบุรี

เวลาเปิดบริการ : 08.30 น. –17.00 น. น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

จังหวัดลพบุรี

ใครว่าลพบุรีมีดีแค่ทุ่งทานตะวัน ไม่จริง ทุกคนอาจจะรู้หรือบางคนอาจจะไม่รู้ ว่าลพบุรีจังหวัดเก่าแก่ เป็นเมืองรองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง  เชื่อว่าถ้าได้มาแล้วต้องอยากแต่งตัวย้อนยุคเป็นแม่การะเกดแล้วออกไปตามหาพี่หมื่นเลย แต่นอกจากนี้แล้วก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีอากาศบริสุทธิ์พร้อมให้ทุกคนได้มาสัมผัสอีกด้วยนะ

1.พระปรางค์สามยอด

ขอบคุณภาพจาก  travel.mthai

ที่ตั้ง : ตำบลท่าหิน  อำเภอเมืองลพบุรี
ค่าบริการ : ฟรี

2.พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ 

ขอบคุณภาพจาก  travel.mthai

ที่ตั้ง : ถนน สรศักดิ์ ตำบล ท่าหิน อำเภอ เมืองลพบุรี
เวลาเปิดบริการ : 09.00 น.–16.00 น. น. (ปิดทำการวันจันทร์-อังคาร)
ค่าบริการ : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท นักเรียนนักศึกษาในเครื่องแบบ ภิกษุสามเณรและนักบวชในศาสนาต่างๆ ไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชม

3.บ้านหลวงรับราชทูต หรือ บ้านวิชาเยนทร์

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง : ถนนวิชาเยนทร์  อำเภอเมืองลพบุรี
เวลาเปิดบริการ : 08.00 น.-18.00 น. (ปิดทำการวันจันทร์ – อังคาร)
ค่าบริการ : เก็บค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท  ชาวต่างชาติ 30 บาท

4.เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง :ตำบล หนองบัว อำเภอพัฒนานิคม
เวลาเปิดบริการ : 24 ชั่วโมง
ค่าบริการ : ฟรี

5.น้ำตกวังก้านเหลือง

ขอบคุณภาพจาก สวนรุกชาติน้ำตกวังก้านเหลือง

ที่ตั้ง :ตำบลท่าดินดำ  ลพบุรี
เวลาเปิดบริการ : 07.00น.–17.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

 🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

 จังหวัดสมุทรสงคราม

สมุทรสงครามจังหวัดเล็กที่สุดในประเทศไทย  เป็นอีกจังหวัดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกันอย่างมาก สมุทรสงคราม ยังเป็นจังหวัดติดอ่าวที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วยนะคะ  การเดินทางมาก็แสนง่ายขับรถจากกรุงเทพชั่วโมงนิดๆก็มาถึงแล้ว มาเช้าเย็นกลับสบายมาก สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจนอกจากตลาดน้ำอัมพวา ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ให้ได้ชมอีกด้วย

1.วัดบางกุ้ง

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง : ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.–18.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

2.โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์

ที่ตั้ง : ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.–17.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

3.ดอนหอยหลอด

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง : ตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมือง
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.–17.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

4.ป่าชายเลนคลองโคลน

ขอบคุณภาพจาก adventure.tourismthailand.org

ที่ตั้ง : คลองโคน อำเภอเมือง

5.อุทยาน ร.2หรือ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์

ขอบคุณภาพจาก  travel.mthai

ที่ตั้ง : ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเวลา 08.30น.-17.00 น./วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 08.30น.-17.30 น.
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

จังหวัดสิงห์บุรี

อีกหนึ่งเมืองรองที่หลายคนมองข้าม ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกของการไปออกทริปเสียเท่าไหร่  แต่อันที่จริงแล้วจังหวัดสิงห์บุรีก็มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอีกเยอะเลยนะคะ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์  แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แถมยังมีแหล่งให้ได้กินได้ช้อปปิ้งของฝากกลับกรุงเทพอีกนะ

1.อุทยานวีรชนค่ายบางระจัน

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง :  ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.-17.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

2.วัดไทร

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง :  ตำบล ชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.-16.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

3.ศูนย์อนุรักษ์ควายไทย เขางาม

ขอบคุณภาพจาก thailandtopvote

ที่ตั้ง :  หมู่ 1 เมืองสิงห์บุรี
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.-18.00 น. (ทุกวัน)

 4.ตลาดย้อนยุคบางระจัน

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง  :   ตำบล บางระจัน อำเภอ ค่ายบางระจัน
เวลาเปิดบริการ : 08.30น.-17.00 น. (เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์)

5.วัดหน้าพระธาตุ

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง  :   หมู่ 1 ต.จักรสีห์ อ.เมืองสิงห์บุรี
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.-16.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

จังหวัดสุพรรณบุรี

อีกหนึ่งจังหวัดเมืองรองที่มีอากาศดี ไม่แพ้จังหวัดอื่นๆเลย มีทั้ง แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้ได้เที่ยวชม  หรือจะไปชมแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ รวมถึงยังมี ตลาดเก่าโบราณให้ได้แวะเที่ยวอีกด้วย  เรียกได้ว่าถ้าได้ไปต้องไม่เบื่อแน่นอนค่ะ  ขับรถแวะเที่ยวง่ายๆตลอดทางแบบนี้ต้องชวนเดอะแก๊งค์แล้ว

1.พระพุทธรูปแกะสลักผาหิน (หลวงพ่ออู่ทอง)

ขอบคุณภาพจาก madchima.org

ที่ตั้ง  :  วัดเขาทำเทียม  เขตเทศบาลท้าวอู่ทอง อ.อู่ทอง
เวลาเปิดบริการ : 07.00น.-18.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

2.วัดเขาดีสลัก

ที่ตั้ง  : หมู่ 5 หน้าพระธาตุ ต.ดอนคา อ.อู่ทอง
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.-16.30 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

3.ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร

ขอบคุณภาพจาก thailandtopvote

ที่ตั้ง  : ถนนสุพรรณบุรี ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.-16.30 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

4.เขื่อนกระเสียว

ขอบคุรภาพจาก wikipedia

ที่ตั้ง  : ตำบล ด่านช้าง อำเภอ ด่านช้าง ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.-16.30 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

5.ตลาดสามชุก 100 ปี

ขอบคุณภาพจาก ท่องทั่วไทย

ที่ตั้ง  : 85 หมู่ 2 ต.ย่านยาว อ.สามชุก
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.-16.30 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

 🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

จังหวัดอ่างทอง

อีกหนึ่งเมืองรองที่ไม่ควรมองข้ามเลย กับจังหวัดอ่างทอง  ซึ่งเป็นจังหวัดที่โดดเด่นในเรื่องของ วัดวาอารามที่ใหญ่โตสวยงาม  ใครที่เป็นสายไหว้พระทำบุญจะต้องโดนใจแน่นอน แต่นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกด้วยนะ  เหมาะแก่การมาพักผ่อนกับครอบครัวมากๆ  จะมาเช้าเย็นกลับหรือจะมาซึมซับบรรยากาศดีๆก็มานอนค้างสักคืนคงจะฟินน่าดูเลยค่ะ

1.พระตำหนักคำหยาด

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง  : พระตำหนักคำหยาด ต.คำหยาด อ.โพธิ์ทอง
เวลาเปิดบริการ : 08.00น.-17.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

2.วัดม่วง

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง  : หมู่ 6 ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ
เวลาเปิดบริการ : 06.00น.-18.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

3.วัดจันทาราม (ค้างคาวแม่ไก่)

ขอบคุณภาพจาก thailandtourismdirectory

ที่ตั้ง  : บ้านช้าง หมู่ 5 ต.โคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง
เวลาเปิดบริการ : 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ค่าบริการ : ฟรี

 4.โครงการพัฒนาพื้นที่แก้มลิงหนองเจ็ดเส้น

ที่ตั้ง  : หมู่ 6 ต.สายทอง อ.ป่าโมก
เวลาเปิดบริการ : 09.00น.-19.30 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

5.ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ

ขอบคุณภาพจาก ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ

ที่ตั้ง  : หมู่ 2 ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก
เวลาเปิดบริการ : 09.00น.-16.00 น. (ทุกวัน)
ค่าบริการ : ฟรี

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

10 แหล่งแคมป์ปิ้ง กางเต็นท์ได้ นอนชิลสัมผัสอากาศหนาว

ฝนเริ่มซา หนาวก็เริ่มจะมาแล้วสินะ พออากาศเริ่มจะหนาวเย็น สิ่งที่อยากจะเห็นตอนที่ตื่นเช้ามากที่สุดก็คงต้องเป็นไอหมอกเย็นๆช่วงพระอาทิตย์ขึ้นใช่ไหมล่ะคะ  แค่นึกถึงก็ฟินแล้ว วันนี้ HotelAndResortThailand มีสถานที่กางเต็นท์ตั้งแคมป์ ท่ามกลางธรรมชาติบนอุทยานมาแนะนำค่ะ จะมีที่ไหนกันบ้างมาดูกันเลย

1. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตสำหรับชาวแคมป์ปิ้งที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กับ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว นั่นเองค่ะ มีที่ตั้งอยู่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์  เป็นอุทยานที่มีที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาว ถูกปกคลุมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ  และอากาศจะเริ่มเย็นในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายที่เลยนะคะ  ทั้ง น้ำตกภูสอยดาว

หรือจะเป็นทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า ดอกหงอนนาค ที่ขึ้นอยู่เต็มลานต้นสนในช่วงหน้าฝน ทำให้หลายคนที่ได้มาต่างพากันเข้ามาชมความสวยงามกันอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว  ที่สำคัญที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้จุดกางเต็นท์ไว้คอยให้บริการอีกด้วยนะคะ เรียกได้ว่ามาคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวลำบากเลย

สถานที่ตั้ง :ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์

🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

2.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตั้งอยู่ที่ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ครอบคลุมไปจนถึงอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติของประเทศไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเป็นอย่างมากเลยค่ะ และมีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี จึงเหมาะแก่การมากางเต็นท์พักผ่อนสำหรับมาก

ขอบคุณภาพจาก aboutpai

สำหรับอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีลานพื้นที่กางเต็นท์ที่พักถึง 5 แห่งเลยนะคะ ได้แก่ ลานสนดอย, ลานสายหมอก, ลานลมหนาว, ลานลมดอย และลานชมวิว เรียกว่าเลือกมาตั้งแคมป์กันได้สบายๆเลย

ขอบคุณภาพจาก Oknation.net

สถานที่ตั้ง : หมู่ 5 ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

3.อุทยานแห่งชาติพุเตย

หากใครที่กำลังมองหาแหล่งตั้งแคมป์ กางเต็นท์ไม่ไกลจากกรุงเทพ เราขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ อุทยานแห่งชาติพุเตย หรือเรียกอีกชื่อว่า ยอดเขาเทวดา เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี มีลักษณะเป็นป่าสนสองใบที่มีความสวยงาม และอุดมสมบูรณ์

โดยนักท่องเที่ยวมักจะนิยมมากันในช่วงปลายปี และถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ภาคเหนือ แต่ที่นี่ก็มีอากาศหนาวและวิวทิวทัศน์ความสวยงามของธรรมชาติไม่แพ้จังหวัดอื่นๆเลยนะ แบบนี้ต้องชวนแก๊งค์มาแล้วล่ะ

สถานที่ตั้ง : ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี

 🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

4.ดอยเสมอดาวอุทยานแห่งชาติศรีน่าน

ขอบคุณภาพจาก SandyHappy

ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ที่เขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์มากและเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของจังหวัดน่าน ปกคลุมด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน  มีจุดเด่นคือมีวิวที่สวยงาม และมีแหล่งให้ท่องเที่ยวมากมาย

โดยสภาพอากาศจะเริ่มหนาวเย็นในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนมกราคม ถือว่าช่วงนี้จะฮอตเป็นพิเศษเลยนะคะเพราะว่านักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลกันเข้ามาตั้งแคมป์  กางเต็นท์ ดูดาวกันเป็นจำนวนมากเลยล่ะ

สถานที่ตั้ง : ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน

 🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

5. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตั้งอยู่ที่ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี  หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกันดีนะคะ และที่นี่ก็ถือได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะมีพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ และผู้คนก็นิยมเข้ามาพักผ่อน และสัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติกัน  ภายในอุทยานจะมีบริการบ้านพักและพื้นที่ลานกางเต็นท์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวหลายจุดด้วยกันค่ะ

ได้แก่บริเวณอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน , เขาพะเนินทุ่ง และบริเวณแคมป์บ้านกร่าง และยังมีกิจกรรมให้เล่นอีกมากมายเลย ทั้งกิจกรรมแอดเวนเจอร์  หรือจะไปนั่งเรือชมความสวยงามของอ่างเก็บน้ำก็ได้ รวมไปถึงการไปตกปลาก็ยังทำได้อีกด้วย

สถานที่ตั้ง : ตำบล แก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน เพชรบุรี

  🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

6.น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น


น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ตั้งอยู่บนเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นจะมีทั้งหมด 7 ชั้น และยังเป็นเส้นทางในการศึกษาธรรมที่มีความสมบูรณ์ของป่าไม้อีกนะคะ  มีน้ำตกไหลเย็นตลอดทั้งปี ยิ่งในช่วงฤดูหนาวจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามากางเต้นท์กันเยอะ ในบริเวณลานกว้าง ที่ทางอุทยานจัดเอาไว้ให้  ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการกางเต้นท์จะมีค่าบริการอยู่ที่ 30 บาท ต่อคน/ต่อคืน เท่านั้นเอง เรียกได้ว่า เป็นการมาพักผ่อนและนอนชมวิวได้อย่างคุ้มค่าเลย

สถานที่ตั้ง :ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี

  🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

7.อุทยานน้ำหนาว เขาค้อ

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ตั้งอยู่ที่ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์  และถือว่าเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 5 ของประเทศไทย ที่มีสภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ภูเขาเป็นเนินยอดป้าน มีความสูงตั้งแต่ 650-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยจะมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีเลยค่ะ มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 25 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของป่า ทั้งป่าสนเขา ป่าดิบเขา ป่าดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง เมื่อสิ้นสุดฤดูหนาวย่างเข้าฤดูร้อนจะมีการผลัดใบเป็นป่าเปลี่ยนสีที่งดงามมาก

สถานที่ตั้ง : อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 

  🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

8.เขากระโจม

ขอบคุณรูปภาพจาก เที่ยวราชบุรี.com

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับคนที่ชอบผจญภัยแต่ไม่ไกลกรุงเทพมากนัก “เขากระโจม อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี”  ที่นี่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล  1,045 เมตรและตั้งอยู่ในแนวสุดเขตประเทศไทย  สิ่งที่หลายๆคนที่เคยไปจะจำกันได้ดีก็คือการเดินทางที่มีความสมบุกสมบันเป็นอย่างมาก แต่ถ้าได้ขึ้นไปแล้วล่ะก็คุ้มแน่นอนค่ะ เพราะจะสามารถมองวิวได้อย่างกว้างขวางไปจนถึงพม่าเลยล่ะ แต่ถึงทางขึ้นจะยากลำบากแค่ไหน ในจุดที่กางเต็นท์ก็ยังมีห้องน้ำร้านกาแฟ เอาไว้คอยให้บริการด้วยนะคะ พร้อมทั้งทหารรักษาความปลอดภัย หนึ่งนาย เรียกได้ว่าเที่ยวได้ไม่ต้องกลัวอะไรเลยค่ะ

สถานที่ตั้ง : อำเภอสวนผึ้ง สุดเขตประเทศไทยภาคตะวันตก จังหวัดราชบุรี

 🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

 

9.อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเลย และจังหวัดเพชรบูรณ์  และมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี  มีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 1,820 เมตร เหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนชมความงามพร้อมกับสัมผัสธรรมชาติเป็นอย่างมาก มีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ที่กว้างขวาง และสำหรับใครที่อยากนอนเป็นบ้านพักที่นี่ก็มีไว้คอยให้บริการด้วยนะคะ

สถานที่ตั้ง : ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

  🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

10.อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก

อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก มีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นเทือกเขาแดนลาว ซึ่งยาวทอดเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ที่มีระดับความสูงอยู่ที่ 400 – 2,285 เมตร วัดจากระดับน้ำทะเล จนถือได้ว่าเป็นเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้  ในเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวจะนิยมมาตั้งแคมป์กันเป็นจำนวนมาก เพราะที่นี่จะมีอุณภูมิที่หนาวเย็นอยู่ที่ 14 – 19 องศาเซลเซียส

แต่ถ้าหากอยู่บนยอดดอยจะมีอุณหภูมิต่ำที่สุดอยู่ประมาณ 2 องศาเซลเซียสเลยค่ะ  หากใครที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศหนาวสุดๆล่ะก็ห้ามพลาดกับที่นี่เลย

สถานที่ตั้ง : ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

 🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

หาดสวย เล่นน้ำได้ ใจกลางพัทยา “พัทยา โมดัส บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท”

อยากเห็นหาดสวยๆใจกลางพัทยา ให้ไปดูกันที่หาดวงศ์อมาตย์ หาดนี้น้ำทะเลสวยใส ยิ่งวันไหนแดดดีๆ น้ำทะเลจะฟ้าแจ่มกว่าปกติ ไล่เฉดสีสวยงาม หาดทรายกว้างทอดยาวน่าเดินเล่น และเล่นน้ำได้ด้วย เรียกว่า Top Hit อีกหาดหนึ่งของพัทยา

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48297

ส่วนโรงแรมที่เราพัก ทำเลดี ติดหาด ห้องพักมองเห็นวิวทะเล “พัทยา โมดัส บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท”

มองเห็นปราสาทสัจธรรมอยู่ใกล้ๆ

เป็นโรงแรมสไตล์ Indurstrial Loft ที่ตกแต่งเก๋ไก๋ ไม่ซ้ำใครในพัทยา ให้ลุคประมาณ มาดเข้ม โก้ หรูหรา

จุดใกล้ๆล็อบบี้มีคาเฟ่เล็กๆสำหรับนั่งทานกาแฟ และขนม

ห้องพักที่มองเห็นวิวทะเลได้สวยสุดๆ แนะนำเป็นห้องแบบ Deluxe Ocean View ซึ่งตัวระเบียงจะหันหน้าสู่ทะเลเลย ระเบียงกว้างใช้ได้ มีชุดโซฟานั่งพักผ่อน ภายในห้องตกแต่งหรูหรา มีอ่างอาบน้ำ

อยากได้ความแกรนด์ จ่ายเงินเพิ่มอีกนิด ได้ห้อง Premium Pool Acess ซึ่งระเบียงห้องพักจะเชื่อมกับสระว่ายน้ำของโรงแรมเลย

สปามีให้บริการริมสระน้ำ เป็นแบบ outdoor spa

รีสอร์ทมีสระว่ายน้ำหลายระดับ สระเด็ก สระผู้ใหญ่ สระน้ำวน พร้อมเก้าอี้อาบแดดริมสระ

แสงสีตรงจุดว่ายน้ำยามค่ำคืนสวยมาก

Facilities อื่นๆของรีสอร์ท เรียกว่าครบ เอาใจเด็กๆ ด้วย kids club

และมี E-Zone ที่เด็กโตหน่อยน่าจะชอบ ผู้ใหญ่ก็เข้าไปเล่นได้

สำหรับคนชอบออกกำลังกาย มาทางนี้เลย ฟิตเนส ในบรรยากาศเท่ห์ๆ

ตกเย็นแดดล่มรมตก ขึ้นลิฟท์แก้วของโรงแรมไปชมวิวหาดจากมุมสูงได้ ก็จะเห็นหาดวงศ์อมาตย์ในอีกมุมสวย

แต่สำหรับเรามาเที่ยวแบบนี้ต้องทานให้เต็มที่ อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ของ “พัทยา โมดัส บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท” คือมาเต็ม ทั้งอาหารไทย และอาหารฝรั่ง ก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยนะ ลองทุกอย่าง อิ่มแบบข้ามมื้อกลางวันไปได้เลย

สรุปว่าเป็นรีสอร์ทที่คุ้มมาก ราคาดี ติดทะเล ทำเลเด็ด อาหารเช้าเยอะมาก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าหากอยากพักผ่อนริมหาดวงศ์อมาตย์

 จองห้องพัก/สอบถามเพิ่มเติม
❀ โทร 033 007 888
❀ อีเมลล์: Admin@Pattayamodusbeachfrontresort.Com
❀ เว็บไซต์:  www.pattayamodusbeachfrontresort.com
❀ เฟซบุ๊ค: https://www.facebook.com/PattayaModusBeachfront/
❀ พิกัด: 381/160 Moo 5, Soi Naklua 12, Pattaya-Naklua Road, Banglamung  เมืองพัทยา 20150

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

สุดยอดวัดสวย Unseen Thailand วัดป่าภูก้อน จ.อุดรธานี แหล่งพลังความศรัทธากลางเขา

ขอบคุณภาพจาก trueid traval

อีกหนึ่งสุดยอดของความ Unseen Thailand ที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยได้เห็นและรู้จักกันนะคะ กับวัดป่าภูก้อน อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยธรรมชาติ ลำธาร สัตว์ป่าและต้นไม้นานาชนิด ของเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสมค่ะ

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ค วัดป่าภูก้อน อ.นายูง จ.อุดรธานี

“วัดป่าภูก้อน” เกิดขึ้นจากพุทธบริษัท ที่เห็นถึงคุณประโยชน์ของธรรมชาติซึ่งใกล้จะถูกทำลาย และเพื่อตามรอยพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการรักษาความสมบูรณ์ของป่าไม้รวมทั้งพรรณไม้นานาพันธุ์ เพื่อให้เป็นมรดกของคนไทยต่อไป วัดป่าภูก้อน จึงเป็นสถานที่ที่สงบเหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนาของพระสายกรรมฐาน

ขอบคุณภาพจาก www.ttaa.or.th

วิหารของวัดป่าภูก้อน มีความงดงามมากจนทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติมักจะมาเยี่ยมชมกันบ่อยๆค่ะ  มีลักษณะเด่นเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ และด้านในวิหารจะถูกตกแต่งสวยงามตระการตา ซึ่ง จะแฝงไปด้วยเรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้าพร้อมกับมีภาพพุทธประวัติและภาพทศชาติอยู่ รอบๆ ผนัง

ขอบคุณภาพจาก trueid traval

ภายในวัดมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ ในพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา ซึ่งเป็นประธานประดิษฐานหน้าองค์พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ มีพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาว ความยาว 20 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ที่นำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อน ซึ่งเป็นหินขาวอ่อนที่มีความสวยงามและทนทานมากที่สุด ใช้ระยะเวลาในการสร้างถึง 6 ปี สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในปี 2554 คณะพุทธบริษัทวัดป่าภูก้อนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จึงมีการจัดสร้างพระพุทธไสยาสน์องค์นี้ขึ้นมาและมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ทางพุทธศิลป์แห่งรัชกาลที่ 9

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ค วัดป่าภูก้อน อ.นายูง จ.อุดรธานี

ขอบคุณภาพจาก thailandtopvote

นอกจากพระวิหารและพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนีที่เป็นจุดเด่นของวัดป่าภูก้อนแล้ว ยังมี พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ ที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันถัดมาทางด้านล่างก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางขึ้นบันไดยาวเพื่อเข้ามายังเจดีย์เพื่อเข้าไปสักการะบูชาค่ะ

🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

ที่ตั้ง📍 วัดป่าภูก้อน บ้านนาคำ ต.บ้านก้อง อ.นายูง

เวลาเปิดทำการ🕐
วันอาทิตย์  : 05:00 – 17:00
วันจันทร์: 05:00 – 17:00
วันอังคาร: 05:00 – 17:00
วันพุธ: 05:00 – 17:00
วันพฤหัสบดี: 05:00 – 17:00
วันศุกร์: 05:00 – 17:00
วันเสาร์: 05:00 – 17:00

หมายเหตุเวลาทำการ 🔴 วันและเวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

6 จุดชมวิว ที่คนรักหมอกจะต้องหลงรัก @กาญจนบุรี

เริ่มเข้าหน้าฝนแล้วสิ อยากจะไปสัมผัสความสดชื่นของไอหมอกและความเขียวขจีของธรรมชาติที่กาญจนบุรีจังเลย นึกได้แล้วก็เตรียมเก็บกระเป๋าพร้อมขึ้นรถเลยล่ะ แต่ก่อนจะไปเรามาเช็คกันก่อนดีกว่า ว่าจุดไหนที่กาญจนบุรี จะมีหมอกมาให้เราปะทะบ้าง มาเช็คกันเล้ยย!!

‘อีต่อง ปิล็อค’

“หมู่บ้านอีต่อง” หมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ เป็นอดีตเหมืองแร่เก่าแก่ที่เคยรุ่งเรืองกว่า 60 เหมือง จนได้ชื่อว่า เหมืองปิล็อค แต่ปัจจุบันทุกๆเหมืองได้ปิดตัวแล้วและทิ้งเอาไว้แค่ตำนานค่ะ

จุดเด่นของที่นี่ก็ต้องเป็นความเงียบสงบของหมู่บ้านและความบริสุทธิ์ของอากาศที่ทำให้ใครหลายๆคนที่ไปติดใจกันทุกรายมีอันต้องไปซ้ำตลอด และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินขึ้นสู่ “เขาช้างเผือก” อันโด่งดังของกาญจนบุรีอีกด้วย

🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

‘เขาช้างเผือก-เนินช้างเผือก’

“เขาช้างเผือก” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี นับว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิเลย  โดยมีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจมาก มีเส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า และที่สำคัญจุดไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่สันคมมีดค่ะ ซึ่งจะเป็นสันเขาที่สวยงามและน่าหวาดเสียวไปพร้อมกันๆเลย

แต่ถ้าใครคิดอยากจะขึ้นไปต้องอย่าลืมจองล่วงหน้า 7 วันนะคะเพราะที่นี่จะจำกัดจำนวนคนในการขึ้นไปไม่เกินวันละ 60 คนค่ะ ในการจองจะต้องส่งชื่อนามสกุล เลขที่บัตรประชาชน และที่อยู่ให้ทางอุทยานฯนะคะ

โดยจะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร พร้อมกางเต็นท์ค้างคืนบนยอดเขา 1 คืน ซึ่งทางอุทยานฯ จะจัดเจ้าหน้าที่นำทาง และจ้างลูกหาบช่วยขนสัมภาระให้ค่ะ ใครที่ชอบความท้าทายแบบนี้พลาดไม่ได้แล้วนะ

🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

‘เนินช้างศึก’

“เนินช้างศึก” ตั้งอยู่ในตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ ติดชายแดนไทย-พม่า และเป็นที่ตั้งของฐานตชด.เหนือเมฆ หรือฐาน ตชด.ลอยฟ้าค่ะ โดยจุดชมวิวเนินช้างศึกเมื่อได้ขึ้นไปและมองลงมาเบื้องล่างจะเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขาที่สวยงามได้แบบว่ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตาแบบ 360 องศาเลย

อีกทั้งยังสามารถมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า หรือจะชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นก็ย่อมได้เลยรับรองว่าถ้าได้ขึ้นไปชมสักครั้งจะต้องประทับใจแน่นอน

🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

‘เขื่อนศรีนครินทร์’

หลายคนอาจจะคุ้นเคยชื่อนี้เป็นอย่างดี “เขื่อนศรีนครินทร์”  ตั้งอยู่ที่ตำบล ท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดกาญจนบุรีอีกแห่งที่มักจะมีนักท่องเที่ยวหลังไหลไปกันมาก  ซึ่งเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลย และที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกเอราวัณด้วยนะคะ

อีกทั้งยังเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลองสร้างขึ้น บนแม่น้ำแควใหญ่ บรรยากาศดีมากๆเลยล่ะค่ะ ต้นไม้ร่มรื่น เห็นวิวท้องฟ้าและภูเขาชัดมากๆ มีจุดให้ได้นั่งเล่นถ่ายรูปกันได้อย่างชิลๆเลย

🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

‘เขื่อนวชิราลงกรณ์’

“เขื่อนวชิราลงกรณ์” หรือเดิมทีมีชื่อที่เรียกว่า เขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมดาดคอนกรีตแห่งแรกของไทย โดยสร้างขึ้นเพื่อปิดกั้นแม่น้ำแควน้อย ซึ่งที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถขึ้นไปชมวิวบนสันเขื่อนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยนะคะ

และกิจกรรมยอดฮิตที่หลายคนที่ไปมักจะทำกันก็คือ ล่องแพ แต่ถ้าใครสายชิลอยากจะปลีกวิเวกไปคนเดียว ที่นั่นก็มีเรือคายัคให้เช่าด้วยนะคะ สามารถพายเรือไปชมวิว สูดอากาศบริสุทธิ์กันแบบใกล้ชิดได้เลยล่ะ

🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳🌳

‘สะพานมอญ’

 “สะพานมอญ” หรืออีกชื่อเต็มๆเรียกว่า สะพานอุตตมานุสรณ์​ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ ซึ่งว่าถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี สะพานแห่งศรัทธาที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวชุมชนที่อาศัยอยู่ที่นี่  ด้วยความสงบและความเป็นกันเองของคนที่นี่ มักจะมีนักท่องเที่ยวหลังไหลพากันมาสัมผัสธรรมชาติ พร้อมกับชมวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญอยู่เสมอ ซึ่งหากใครได้มาแล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปกลับมาเป็นที่ระลึกด้วยนะคะ

 

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

สูดอากาศให้เต็มปอด เดินชิลชมธรรมชาติ ไหว้พระอิ่มบุญ @เมืองคอน นครศรีธรรมราช

พูดถึงเมืองคอน หรือจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดที่ถือได้ว่าใหญ่เป็นอันดับสองของภาคใต้ และยังมีเรื่องราวในอดีตอีกมากมาย อีกทั้งยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามไม่แพ้ที่ไหนในประเทศเลย เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้วจะต้องไม่อยากจะเชื่ออย่างแน่นอน ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองคอน นครศรีธรรมราชจะสวยจริงสมคำร่ำลือหรือไม่ ตามมาดูกันเลยค่ะ

‘แหลมตะลุมพุก’

                แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครหลายคนนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี  ซึ่งจุดเด่นคือ ชายหาดรูปพระจันทร์เสี้ยว ทอดยาวขนานไปกับต้นสน ถ้าได้มองจากมุมสูงแบบนี้ล่ะก็สวยมาก  โดยความยาวโค้งของชายฝั่งทะเลแนวเหนือ-ใต้  ด้านหนึ่งของแหลมรับลมทะเลจากฝั่งอ่าวไทย ส่วนอีกด้านรับคลื่นลมในฝั่งอ่าวปากแม่น้ำปากพนัง ที่นี่เป็นแหล่งรวมวิถีชีวิตที่หลากหลายเลยนะคะ ทั้งชาวอิสลาม  ชาวจีน ชาวพื้นเมือง และถึงแม้ในอดีตแหลมตะลุมพุกจะได้รับความเสียหายอย่างมากจากพายุ  แต่ภาพความสวยงามของชายหาดนั้น ก็ทำให้แหลมตะลุมพุกแห่งนี้กลับมาสดใสและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ที่ตั้ง ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง นครศรีธรรมราช

☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀

 ‘วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

                พระอารามหลวงชั้นเอก เป็นโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จุดเด่นของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารแห่งนี้ คือยอดของพระเจดีย์จะถูกหุ้มด้วยทองคำแท้ค่ะ นอกจากความงดงามที่ดึงดูดผู้คนให้มากราบไหว้สักการะแล้ว พระอารามแห่งนี้ก็ยังแฝงไปด้วยความมหัศจรรย์ค่ะ เพราะไม่ว่าพระอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางไหน พระเจดีย์ก็จะไม่มีเงาทอดลงพื้นเลยหากใครไม่เชื่อต้องไปดูให้เห็นกับตาแล้วค่ะ

ที่ตั้ง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช

☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀

 ‘อุทยานพระพุทธศาสนา’

อุทยานพระพุทธศาสนา  หรือ วัดนิรนาม ที่หลายๆคนมักเรียกกัน  ภายในอุทยานจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่กลางลานกว้าง ซึ่งมีทั้งองค์สีขาว สีทอง และแบบปูนที่สร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดี  เรียงกันเป็นแถวยาว และในช่วงเวลาเย็นยามพระอาทิตย์ตกดินจะมีแสงปรากฏขึ้นหลากสีเป็นฉากหลังองค์พระพุทธรูปขึ้น ทำให้ดูแล้วเหมือนกับมีเวทมนต์ออกมาเลยค่ะ

ที่ตั้ง อำเภอทุ่งใหญ่  จังหวัดนครศรีธรรมราช

☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀

‘หมู่บ้านคีรีวง’

                อีกแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครศรีธรรมราชจะพลาดไม่ได้เลยกับ หมู่บ้านคีรีวง หมู่บ้านโบราณที่อยู่กันมาแล้วกว่า 300 ปี และยังขึ้นชื่ออีกว่าเป็นสถานที่ที่มีอากาศดีที่สุดเลยก็ว่าได้

เอกลักษณ์อันโดดเด่นของที่นี่ก็คือสายน้ำที่เย็นฉ่ำมาพร้อมกับต้นไม้เขียวที่โอบล้อมอยู่รอบตัว  และวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบชาวสวนอยู่กับธรรมชาติ  รวมถึงถนนโล่งๆ ที่นานทีถึงจะมีรถใหญ่ขับผ่านสักครั้ง ทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจมากเพราะทั้งเงียบและสงบ

ที่ตั้ง ตำบลกำโลน  อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช

☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀

‘น้ำตกกรุงชิง’

            น้ำตกกรุงชิง เป็นน้ำตกขนาด 7 ชั้น ที่เรียกได้ว่าเป็นน้ำตกอันดับแรกๆที่สวยงามที่สุดของนครศรีธรรมราชเลยก็ว่าได้ โดยชื่อ ‘กรุงชิง’ นั้นได้มาจาก ‘ต้นชิง’ ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ตระกูลปาล์มชนิดหนึ่งที่มีอยู่มากในเขตนี้ที่แต่เดิมนั้นเคยมีประวัติศาสตร์ที่ว่าเคยเป็นที่ตั้งของกลุ่มคอมมิวนิสต์ แต่ในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและยังมีเส้นทางให้เดินศึกษาธรรมชาติของป่าอีกด้วยนะ ทำให้ที่นี่มีผู้คนมาท่องเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสายเลยล่ะค่ะ

ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช

☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀

หาดขนอม’

           หาดที่มีชื่อเสียงไม่แพ้หาดอื่นเลยของนครศรีธรรมราช ‘หาดขนอม’ ซึ่งมีความโดดเด่นคือ มีหาดทรายที่ยื่นยาวออกไปในทะเลคู่กับทิวสน มีปะการังสวยงามและอุดมสมบูรณ์ รอบเกาะมีชายหาดและน้ำใส เหมาะสมกับกิจกรรมดำน้ำดูปะการังและเล่นน้ำ นอกจากนี้เรายังสามารถพบกับน้องโลมาสีชมพูได้อีกด้วยนะ

ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ หมู่1 ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช

☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀☀

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ไปพัทลุงสัมผัสธรรมชาติ ที่อำเภอศรีปากประ

อีกหนึ่งเมืองรองที่น่าไปเที่ยวไม่แพ้จังหวัดอื่นๆเลยก็คือ จังหวัดพัทลุง นั่นเองค่ะ ถือว่าเป็นหนึ่งจังหวัดในภาคใต้ที่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลสวยๆ นะคะ เพราะที่จังหวัดพัทลุง อำเภอศรีปากประ แห่งนี้ยังมีแหล่งธรรมชาติเชิงอนุรักษ์ให้เราได้ชื่นชมกันอีกด้วย เชื่อว่าจะต้องเป็นสถานที่ ที่ถ้าได้ลองมาเที่ยวดูแล้วจะต้องติดใจแน่นอนเลยค่ะ ซึ่งในวันนี้แอดมินมีสถานที่ท่องเที่ยว กินลม ชมวิว ชิลๆ มาแนะนำจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างมาดูกันได้เลยค่ะ

“ทะเลน้อย หรือ อุทยานนกน้ำทะเลน้อย”

ทะเลน้อย”  ถือว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ของจังหวัดพัทลุงที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ สัตว์ป่า และนกน้ำนานาชนิด แถมยังขึ้นชื่ออีกว่าเป็นสวรรค์ของนักดูนก คนที่ชอบชมป่าล่องเรือกลางทะเลสาบเพลินๆ

ยิ่งได้มาช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม จะต้องประทับใจมากๆแน่นอน  เพราะเหมาะแก่การมาล่องเรือชมบัวเป็นอย่างมากเลยค่ะ

ซึ่งในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่บัวสายกำลังเติบโตเต็มที่ และจะสวยเป็นพิเศษเลยล่ะ

มีน้องๆ “ควายน้ำ” ออกมาว่ายน้ำเล่นและหากันด้วย แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันนะคะว่าน้องๆเป็นสัตว์น้ำ ถึงแม้น้องจะดำน้ำกันเป็นว่ายน้ำกันเก่งแค่ไหน  น้องก็เป็นควายปกตินี่แหละค่ะ แค่ปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติและแหล่งหาอาหารรอบตัว โดยเมื่อน้ำในทะเลสาบลดต่ำไปจนถึงแห้งขอดในบางช่วงจนมีพื้นดินโผล่ มีทุ่งหญ้าขึ้น น้องควายพวกนี้ก็จะขึ้นมาและเล็มหญ้ากินบนบก แต่เมื่อยามหน้าน้ำ ทะเลน้อยมีปริมาณน้ำสูง ท่วมทุ่งหญ้า ท่วมแหล่งหากิน น้องควายก็จะปรับตัว เปลี่ยนมากินพืชน้ำอย่างสายบัว ใบบัว หรือสาหร่ายแทน โดยจะพร้อมใจกันลงไปหากินภายในน้ำจนทำให้ผู้คนเรียกว่า “ควายน้ำ”  นั่นเอง

“สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ”

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของจังหวัดพัทลุง ก็คือ “สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ” ค่ะ นอกจากจะเป็นสะพาน 2 จังหวัด เชื่อม จังหวัดพัทลุงและสงขลาแล้ว ยังเป็นสะพานสองทะเลอีกด้วย  เพราะสะพานของถนนสายนี้สร้างผ่านทั้ง ทะเลน้อย และ ทะเลสาบสงขลาเลยล่ะ  ซึ่งในระหว่างทางของสองฟากฝั่งนั้นก็ยังสามารถมองวิวทิวทัศน์ธรรมชาติได้อย่างกว้างขวางอีกด้วยค่ะ เห็นแบบนี้ต้องคว้ากล้องมาลั่นชัตเตอร์สักรูปสองรูปแล้วล่ะ

“คลองปากประ”

สุดท้ายนี้หากใครที่มาเที่ยวทะเลน้อยแล้ว แต่ไม่ได้มาแวะเที่ยว “คลองปากประ” ละก็จะถือว่าพลาดมากๆ คลองปากประถือว่าเป็นคลองแห่งวิถีชีวิต ที่โดดเด่นไปด้วยการทำประมงพื้นบ้านโดยการ ‘ยกยอยักษ์’ โดยชาวบ้านจะหย่อนยอยักษ์ลงในลำน้ำประมาณ 5 นาทีแล้วยกขึ้นมา ภายในยอจะได้สัตว์น้ำต่าง ๆ ติดขึ้นมา จากนั้นชาวบ้านก็จะนำกระชอนไม้ยาวไปช้อนปลาในยอขึ้นมา แล้วหย่อนยอลงไปในน้ำเพื่อทำแบบเดิมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ปลาเป็นที่พึงพอใจค่ะ

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยว ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อำเภอศรีปากประ  จังหวัดพัทลุง ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารในบริเวณรอบๆให้บริการอีกจำนวนมากเลยนะคะ  หากใครที่ต้องการชื่นชมธรรมชาติสงบๆ ก็ต้องลองมาสักครั้งแล้วล่ะรับรองว่าติดใจแน่นอน

 

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

“เกาะแสมสาร” ทดลองเปิดท่องเที่ยวแล้ว !! จองผ่านออนไลน์ได้เลย

“เกาะแสมสาร”  จังหวัดชลบุรี ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางทะเล ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ และสวยงามทางใต้ท้องทะเลเป็นอย่างมาก จนเป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ในการมาดำน้ำดูปะการังใต้ทะเล โดยมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย บนเกาะแสมสารเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ทางทะเลที่น่าสนใจ

นอกจากนี้นะคะ  เกาะแสมสารยังเป็นชุมชนประมง ที่มีร้านอาหารทะเลเอาไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว รวมทั้งยังมีที่พักและรีสอร์ตตามแนวชายหาดให้ได้เลือกอีกมากมาย  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ “เกาะแสมสาร”  เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนนิยมเดินทางมาเที่ยวกันไม่ได้ขาดสายเลยละค่ะ

และตอนนี้ “เกาะแสมสาร” ก็พร้อมทดลองเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวแล้วนะคะ โดยเริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 13-14 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา  และมีจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกินวันละ 300 คน ซึ่งจะต้องจองผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น ที่เฟซบุ๊ค  https://www.facebook.com/KohSamaesarn/

หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์
038-432471, 038-432473,038-432475

***หมายเหตุ***
ยังไม่รับนักท่องเที่ยว Walk in นะคะ ด้วยความห่วงใยในความปลอดภัยด้านสุขภาพ เรายังคงต้องรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

10 ที่พักติดหาดทะเลสวย วิวดี ถ่ายรูปเก๋ รับรองว่าปังแน่!!

ถึงแม้จะเข้าฤดูฝนแล้ว แต่ประเทศไทยก็ยังรู้สึกเหมือนฤดูร้อนตลอดเวลา ร้อนๆแบบนี้ก็ต้องไปทะเลสิคะ หยิบบิกินี่กันให้พร้อมเลยสาวๆ แล้วไปเฉิดฉายกันที่ชายหาด วันนี้แอดมินจะแนะนำ 10 ที่พักติดทะเลหาดสวย วิวดี ถ่ายรูปแล้วเก๋ รับรองเลยว่าต้องออกมาปังแน่นอนค่ะ พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย

‘บ้านอิ่มสุขรีสอร์ท หาดเจ้าหลาว จ.จันทบุรี’

อีกหนึ่งรีสอร์ทติดริมทะเลที่ทุกคนห้ามพลาดเลย กับ บ้านอิ่มสุขรีสอร์ท ตั้งอยู่ริมหาดเจ้าหลาด จังหวัดจันทบุรี บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น ล้อมรอบไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ และสายลมของธรรมชาติอันบริสุทธิ์  เหมาะแก่การมาพักผ่อนกันแบบครอบครัว หรือจะมาแบบเป็นกลุ่มแก๊งค์ก็น่าสนุกไม่แพ้กัน เพราะที่นี่มีพื้นที่สำหรับให้จัดกิจกรรมสันทนาการริมทะเลได้อีกด้วยนะ สำหรับสาวๆที่ต้องการภาพสวยๆสักภาพไม่ต้องห่วงเลยค่ะ คุณสามารถเดินออกจากบ้านพักมาไม่กี่ก้าวก็แชะภาพริมทะเลได้เลย

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

‘โรงแรม แอทที บูทีค จ.ประจวบคีรีขันธ์’

ใครที่มองหาที่พักชิลๆติดริมทะเลก็ขอให้ โรงแรม แอทที บูทีค  คลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะไปกันนะคะ  โรงแรมหรูอยู่ติดริมทะเลบรรยากาศนั้นชิลและมีความเป็นส่วนตัวสุดๆเลยละค่ะ มาพร้อมกับสระว่ายน้ำริมทะเลที่เราสามารถว่ายน้ำไปและขึ้นมานอนอาบแดดชมวิวสวยๆและวิถีชีวิตของชาวประมงที่มักจะออกเรือไปหาปลาละแวกนั้นได้อีกด้วยนะ

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

‘กรีน แกลเลอรี่ บีช บูทีค โฮเทล จ.ประจวบคีรีขันธ์’

หัวหินอีกสถานที่พักตากอากาศที่ยังคงฮิตตลอดกาลเสมอ แต่ถ้าจะหาที่พักเก๋ๆบรรยากาศดีๆก็ต้องนึกถึง ‘กรีน แกลเลอรี่ บีช บูทีค โฮเทล’ เลยนะ โรงแรมติดทะเลอยู่ใจกลางหัวหิน เดินทางมาได้แสนง๊ายง่าย เพียงแค่ขับรถมาตามซอยหัวหิน 51 จนเกือบสุดซอยก็จะเจอที่พักเก๋ๆแห่งนี้แล้วล่ะ การตกแต่งด้านในโรงแรมเรียกได้ว่าถ้าได้เห็นจะต้องอ้าปากค้างอย่างแน่นอนเลย เพราะว่ามีความวินเทจมากๆ ถ้าได้มาพักที่นี่นอกจากจะได้ภาพริมทะเลสวยๆแล้ว ก็ยังได้ภาพคู่กับด้านในโรงแรมอีกหลายภาพแน่นอนเลยค่ะ

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

‘เซ็นทารา ชานทะเล รีสอร์ท แอนด์ วิลลา จ.ตราด’

พูดถึงโรงแรมเครือเซ็นทารา ก็ต้องมาพร้อมกับความหรูหราอย่างแน่นอน แต่ราคาไม่แรงเลยนะ มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน  แถมยังมีชายหาดให้เราสามารถลงไปเดินชิลๆรับลม ถ่ายรูปสวยๆกับน้ำทะเลใสๆได้อีกด้วย ตกเย็นมานั่งชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลก็โรแมนติกเหมือนกันนะคะ ยิ่งถ้าได้มากับคนรักด้วยเนี่ยรับรองว่ามีความทรงจำดีๆร่วมกันเยอะแน่นอน ที่ตั้งของโรงแรมนั้นถึงแม้ทางเข้าอาจจะดูไกลไปเสียหน่อย แต่รับรองเลยว่าคุ้มแน่นอนค่ะเมื่อไปถึงและได้สัมผัสกับบรรยากาศ

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

‘ซีเชลล์ วิลเลจ รีสอร์ท จ.จันทบุรี’

อยากไปนอนฟังเสียงคลื่นกระทบหาดทรายอย่างใกล้ชิด ต้องมาที่ ซีเชลล์ วิลเลจ รีสอร์ท เลยนะคะ รับรองว่าฟินแน่นอนค่ะ เพราะที่นี่เป็นบ้านพักที่ติดกับริมทะเล คุณสามารถก้าวขาลงจากบ้านพักปุ๊บ ก็ถึงทะเลปั๊บเลยละค่ะ เปลี่ยนชุดเป็นบิกินี่สวยๆลงมาแอ็คท่าถ่ายรูปได้ไม่ต้องอายใครเลย แถมหาดยังส่วนตัวสุดๆอีกไม่ต้องกลัวใครติดเข้ามาในเฟรมเลย แหละ

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

‘เดอ เจ้าจอม หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์’

ที่พักชิคๆ สไตล์ฮิปสเตอร์ สายถ่ายรูปเนี่ยห้ามพลาดเลยขอบอก ติดริมทะเลหัวหิน มีห้องพักให้เลือกทั้งแบบ พูลวิลล่า บ้านหลังใหญ่แบบ 4 คน หรือจะเป็นวิลล่าสไตล์วินเทจคลาสสิค ให้ได้เลือกพักกันได้เลย มุมให้ถ่ายรูปก็เรียกได้ว่า เยอะมากจัดเต็ม ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็สวยน่าถ่ายรูปด้วยไปหมดเลย บรรยากาศก็เงียบสงบ มีสระว่ายน้ำที่กับติดทะเลแต่ถ้าไม่อยากลงเล่นน้ำ ก็มานอนเล่นชิลๆริมสระฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งได้นะชิลสุดๆ

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

 

‘พัทยา โมดัส บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท จ.ชลบุรี’

อีกหนึ่งรีสอร์ทที่เรียกได้ว่าใกล้กรุงเทพเป็นอย่างมากกับพัทยา โมดัส บีชฟร้อนท์ รีสอร์ท ที่พักสุดเท่สไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ที่ตกแต่งมาในโทนสีดำ มีแรงบันดาลใจจากหน้าผาริมทะเลและผสมผสานเข้ากับความทันสมัยแบบใหม่  ตั้งอยู่ที่ในซอยนาเกลือซอย12 ริมหาดพัทยาเหนือที่มาพร้อมกับวิวพระอาทิตย์ตกส่วนตัว ตกเย็นเดินไปถ่ายรูปสวยๆริมทะเลได้เลย

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

อมรพันธ์ วิลล่า ระยอง จ.ระยอง’

รีสอร์ทอยู่ติดทะเล มีบ้านพักมากถึง 56 หลัง โดยแต่ละหลังก็จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป เหมาะสำหรับครอบครัว กรุ๊ป หรือจะแก๊งเพื่อนก็ไม่ต้องห่วงเลยเพราะว่ามีห้องรับรองเยอะมาก ด้านในรีสอร์ยังมีร้านขายของที่ระลึก มินิมาร์ท และร้านขายกาแฟสดให้บริการอีกด้วยนะคะ ช่วงเย็นออกมาชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลเดินเล่นถ่ายรูปก็ได้บรรยากาศตอนกลางคืนทางรีสอร์ทเปิดไฟสวยสุดๆไปเลย


❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

‘เจ้าหลาว คาบาน่า รีสอร์ท จ.จันทบุรี’

อยากจะพักผ่อนนอนแช่น้ำชิลๆ แต่ไม่อยากไปไหนไกลๆก็ต้องมาที่นี่เลยนะ เจ้าหลาว คาบาน่า รีสอร์ท ที่อยู่ติดกับริมหาดเจ้าหลาวเลย ขับรถตรงมาจากกรุงเทพแค่ 3 ชั่วโมงเอง เข้ามาถึงด้านหน้ารีสอร์ทก็จะเจอกับป้ายใหญ่ตระการตาเลยล่ะ ไม่ต้องกลัวหลงเลย บรรยากาศของที่นี่ก็ร่มรื่นมากมีสวนหย่อมกว้างๆให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ห้องพักก็มีให้เลือกหลากหลาย สระว่ายน้ำติดหาดเจ้าหลาวมานอนแช่น้ำชิลๆ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่ร่มรื่นไปด้วยแบบนี้ก็ฟินไม่แพ้กันนะ

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

‘อนันตศิลา วิลลา บาย เดอะ ซี จ.ประจวบคีรีขันธ์’

ปิดท้ายด้วยที่พักแสนสงบ กับ อนันตศิลา วิลลา บาย เดอะ ซี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่มีการตกแต่งอย่างหรูหราเหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจมากๆ บรรยากาศก็แสนร่มรื่นมีพื้นที่สีเขียวของต้นไม้อยู่รอบไปหมด มีสระน้ำที่กว้างขางและมีห้องพักให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งสวีทเพ้นเฮาส์ แบบครอบครัว แบบอพาร์ตเม้น หรือจะแบบที่พาน้องหมาไปนอนด้วยก็ได้นะ มีห้องอาหารริมทะเลสามารถทานข้าวไปพร้อมกับชมวิวสวยๆและรับไอทะเลได้อย่างสดชื่นเลยล่ะ

❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com