นอนนับดาว เฝ้ามองทะเลที่ “เกาะเต่า แบมบู ฮัท”

หากโจทย์ของการมาเที่ยวเกาะเต่าของคุณครั้งนี้คือ สงบ ปลีกวิเวก เอนจอยธรรมชาติล้วนๆ ไม่หวั่นกับการเดินลัดเลาะป่าเขา คุณคงจะหลงรักที่นี่เหมือนเรา “เกาะเต่า แบมบู ฮัท”  สวรรค์ที่เอื้อมถึงบนเกาะเต่า กับประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้จริงๆ คงไม่มีที่ไหนที่ให้เราได้ใกล้ชิดกับน้ำทะเล โขดหิน และขุนเขาได้มากเท่าที่นี่ ที่พักแบบกระท่อมไม้ไผ่สไตล์ทรอปิคอลบนโขดหินขนาดยักษ์ มีท้องทะเลเป็นฉากหน้าและภูเขาเป็นฉากหลัง

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48326

เจอวิวแบบนี้เหมือนต้องมนตร์ หยุดนั่งพักมองได้นานๆไม่มีเบื่อ

วิลล่าปลูกสร้างเรียงรายลดหลั่นไปตามภูมิทัศน์โขดหิน

วิลล่าไม้ไผ่ ที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัวหลังนี้ คือ The Best เห็นวิวสวยที่สุดเลย สระว่ายน้ำกว้างมาก เป็นสระแบบ infinity pool เป็นส่วนตัว จะว่ายน้ำชมทะเลตอนกลางวัน หรือกรรเชียงลอยคอมองดูดาวยามค่ำคืน ก็ไม่มีใครมากวนใจ

ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ อยู่ติดเกาะแบบสบายๆ ได้บรรยากาศอยู่กับธรรมชาติท้องทะเล

วิลล่าแบบไม่มีสระ ก็จะตกแต่งคล้ายกัน วิวสวยไม่แพ้ห้องสระส่วนตัว

ห้องน้ำดูลึกลับน่าค้นหา เหมือนได้อาบน้ำในถ้ำ

หรือจะอาบน้ำ rain shower ก็ได้ฟีลสดชื่นสุดๆ

ระเบียงชมวิวหลักล้าน แต่จ่ายในราคาหลักพัน คุ้มมาก

ลองนึกภาพว่าตื่นมาตอนเช้าเจอวิวนี้ มาล้างหน้าตรงจุดนี้ แทบไม่อยากกลับบ้านเลย

เกาะเต่า แบมบู ฮัท ตั้งอยู่ในทำเลบนเนินเขา ความสวยงามและความพิเศษไม่เหมือนใคร แลกมากับการต้องขยันเดิน ต้องลัดเลาะตามทางเดินพอสมควร แต่ถึงแล้วก็จะร้องว้าว โอ้โห หายเหนื่อย เพราะวิวมันคืออลังการตระการตาจริงๆ และนี่คือระหว่างทางของเรา

อาหารกลางวันที่ Elvis Beach Bar & Restaurant เป็นแฮมเบอร์เกอร์ที่เนื้อดีมากๆ แนะนำให้ลอง

พิซซ่าก็ใช้ได้นะ เหมาะกับมื้อกลางวันทานง่ายๆ ทานเสร็จไปว่ายน้ำต่ออะไรแบบนี้

Main Facilities ใช้ร่วมกันกับของ จามจุรี วิลเลจ รีสอร์ท เพราะเป็นเจ้าของเดียวกัน อย่างห้องอาหารเช้าแขกก็จะมาทานที่เดียวกันที่ห้องอาหารชบา สระว่ายน้ำแห่งนี้ เป็นสระว่ายน้ำบนอาคารยกสูง มองเห็นวิวทะเล และต้นปาล์มต่างๆรายล้อม

ชายหาดจันทร์สม มาเล่นน้ำ นอนอาบแดดบนหาดทรายได้เลย

น้ำใสเห็นปลาแหวกว่าย

อยากชมพระอาทิตย์ตกแนะนำให้ไปชมที่ห้องอาหาร starlight เป็นจุดที่เรามองเห็นทะเลได้แบบพาโนราม่า เลือกนั่งดื่มค็อกเทล หรือทานอาหาร

เมนูอาหารไทยของที่นี่อร่อยมาก รสชาติจัดจ้านแบบที่คนไทยชอบ

คืนนี้หลับฝันดี เล่นน้ำดูดาว ตื่นเช้าไปดำน้ำตื้นได้ที่หาดของรีสอร์ทเลย แนะนำว่ามาเกาะเต่าควรพักอย่างน้อยที่สุด 2 คืน ถ้าจะให้ดีต้องมี 3-4 คืน เพราะจะได้เก็บบรรยากาศของ “เกาะเต่า แบมบู ฮัท” ได้หมดครบถ้วนยังไงล่ะ

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ ที่ตั้ง : 30/2 Jax Trek, Koh Tao เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 84360
❀ หมายเลขโทรศัพท์: +66 (0) 899449566
❀ อีเมลล์: info@kohtaobamboohuts.com
❀ เว็บไซต์: www.kohtaobamboohuts.com
❀ เฟซบุ๊ค: Facebook/kohtaobamboohuts

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

พาชมอุโบสถสีขาว สำเภาแก้วร้อยล้าน สถาปัตยกรรมศาสนาที่ ‘วัดหินแท่นลําภาชี กาญจนบุรี’

เสียงลือเสียงเล่าอ้าง ต่างพากันพูดถึงวัดสีขาว ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีความงดงามวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก เพราะจุดเด่นของที่แห่งนี้ก็คือ สำเภาแก้วร้อยล้าน ที่เมื่อใครต่างจะต้องตกตะลึงในความสวยงามของสถาปัตยกรรม นอกจากจะมีความงดงามตระการตาแล้ว วัดหินแท่นลำภาชีก็ยังมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่หน้าอุโบสถอีกด้วยค่ะ

วัดหินแท่นลำภาชี ตั้งอยู่บ้านหินแท่น ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี  และถูกสันนิษฐานว่า มีการตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.248 ค่ะปัจจุบันมีพระครูถาวรกาญจนธรรม หรือหลวงพ่อสมคิดเป็นเจ้าอาวาส โดยแนวคิดในการสร้างโบสถ์แก้วประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์นั้น หลวงพ่อสมคิด กล่าวว่า พระครูมหาพุทธาภิรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอินทรวิหารบางขุนพรม ได้นิมิตเห็นสถานที่ก่อสร้าง จึงนำคณะศรัทธาหลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) มาช่วยสร้าง และมีค่าใช้ปัจจัยไปกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท  ซึ่งปัจจัยทั้งหมดล้วนแล้วแต่มาจากศรัทธาของหลวงพ่อโต ทั้งสิ้น

ความหมายของโบสถ์แก้วที่ประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์นั้น  สีขาวของโบสถ์ หมายถึงกระจกขาว ที่สื่อถึงพระพุทธเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐเปล่งประกาย ไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล ส่วนเรือสุพรรณหงส์ หมายถึง การนำพามนุษย์ ข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ด้านข้างทั้ง 2 ของโบสถ์ มีเรือขนาบข้างด้วย เรืออนันตนาคราชลักษมี ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม และหลวงพ่อวัดไร่ขิง โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี องค์ใหญ่ เด่นตั้งตระหง่านอยู่หน้าโบสถ์ และด้านหลังของโบสถ์มีท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวัณ อธิบดีแห่งอสูรหรือยักษ์ เจ้าแห่งผีหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ผู้คุ้มครองและ ดูแลโลกมนุษย์ สิงสถิตอยู่บนสวรรค์ค่ะ


และนอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างก็คือ ศาลาประดิษฐาน 3 บูรพา พระมหากษัตริย์ในอดีต คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระปิยมหาราช หรือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี สร้างขึ้นโดยผู้มีจิตศรัทธา และมีความเชื่อว่ากษัตริย์ 3 พระองค์น่าจะเคยเสด็จผ่านสถานที่สร้างวัดแห่งนี้ค่ะ

📍 ที่ตั้ง : บ้านหินแท่น ต.หนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี
🕐 เวลาเปิดทำการ : 08:30 – 17:00 (ทุกวัน)
💟 ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
ติดต่อ : 085-2964691, 062-1935991

🙏 ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก –  thailandtourismdirectory

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

 

“จามจุรี วิลเลจ” กับ moment สุดว้าว!! บนเกาะเต่า

ณ…หาดจันทร์สม เราจะได้เก็บความงามของเกาะเต่า ราวกับว่ามันเป็นของเราคนเดียว หาดนี้ทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใสราวกระจก เล่นน้ำได้แบบเป็นส่วนตัวสุดๆ ดำน้ำตื้นดูปะการังก็เยี่ยมเลย แช่น้ำแล้วมีปลาหลากสีมาว่ายเล่นตอดขาเป็นเรื่องปกติ ธรรมชาติบนหาดนี้สมบูรณ์สุดๆ

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48322


หากใครไม่เคยมาเกาะเต่า เราอยากแนะนำให้ลองมาพัก “จามจุรี วิลเลจ รีสอร์ท” ที่พักที่มีหาดส่วนตัวให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบไม่มีสิ่งใดกวนใจเลย ที่นี่ปลูกสร้างเน้นความเป็นธรรมชาติ วิลล่าแต่ละหลังปลูกสร้างโดยใช้วัสดุอย่างไม้ และใบจาก รวมถึงหินทุกก้อนที่ยังคงสภาพเดิมไว้ไม่ถูกเคลื่อนย้าย เพียงแต่แปรเปลี่ยนเป็นกำแพงหลบกั้นสายตาจากคนภายนอก

จามจุรี วิลเลจ รีสอร์ท” เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรการพักผ่อนบนเกาะเต่าก็ไม่ผิดนัก รีสอร์ทกว้างใหญ่ พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมที่หลากหลาย การมาพักผ่อนที่นี่อย่างน้อยที่สุดควรจะพักสัก 2 คืน เพราะคืนเดียวจะไม่จุใจ ด้วยความที่รีสอร์ทกินพื้นที่กว้างใหญ่ และตั้งอยู่บนเนินเขา คนที่ชอบเดิน ชอบธรรมชาติก็จะแฮปปี้มาก เพราะสองข้างทางมีวิว ต้นไม้ ใบหญ้า มีอะไรให้ดูชมเยอะมาก แต่หากไม่อยากเดินเยอะก็ขอเป็นห้องที่ใกล้ lobby หรือ ใกล้กับ main facilities ได้

ล็อบบี้ของรีสอร์ท มองเห็นวิวทะเล



วิลล่าแต่ละหลังสร้างบนโขดหินขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะเต่า อิงแอบแนบไปกับต้นไม้นานาชนิด

ห้องพักที่ฟินที่สุด มองเห็นวิวทะเลแบบพาโนราม่า มีสระส่วนตัวที่ใหญ่มาก ขอแนะนำถ้ามากันแบบกลุ่ม 4 คน Sunset Suite 2 Bedrooms with Pool ห้องนี้จะมี 2 ห้องนอน master bedroom เป็นเตียงใหญ่ อีกห้องเป็นเตียงทวินส์ มีห้องรับแขกภายในวิลล่า และด้านนอกระเบียงมีพื้นที่กว้างมาก ฟินสุดๆกับการว่ายน้ำชมวิวหาดจันทร์สม

อยากใกล้ชิดทะเลแบบสุดๆ มาพัก 2 คน ได้บรรยากาศโรแมนติก มาห้องนี้เลย Cottage Room ห้องพักที่ตั้งอยู่ริมหาด เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงหาดแล้ว

อีกห้องพัก Bamboo Sunset ตั้งอยู่ใกล้สระว่ายน้ำของโรงแรม เป็นห้องพักในมุมสูงที่มีระเบียงกว้างมาก มองเห็นวิวทะเลสวยได้ชัด

สระว่ายน้ำของโรงแรม จะสร้างอยู่บนอาคารยกพื้นสูง

ห้อง Beachfront Cottage วิลล่าที่อยู่ด้านหน้าหาด เราประทับใจไปกับห้องน้ำที่มีหินก้อนโตเป็นผนัง

สำหรับอาหารกลางวัน เราทานเมนูง่ายๆจาก Elvis Beach Bar & Restaurant ตั้งอยู่ด้านหน้าหาดเลย อาหารรสชาติอร่อยถูกปากคนไทย

ว่ายน้ำกับฝูงปลา ปลาที่นี่ไม่กลัวคนเลย พอเราลงน้ำปุ๊บ ว่ายวนมาหาทันที

ทะเลสวยมาก สงบ ส่วนตัว ไม่วุ่นวาย

บรรยากาศพระอาทิตย์ตกตอนเย็น ลืมหายใจกันไปเลย อยากให้หลายๆคนได้มาเห็น ภาพพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า เปลี่ยนทะเลและท้องฟ้าสีฟ้าใสกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ เป็นอีกหนึ่งชั่วโมงประทับใจ

ดินเนอร์ตอนเย็นที่ห้องอาหารชบาในบรรยากาศทรอปิคอลหรูหรา ห้องอาหารที่เรายกให้เป็นที่สุดบนเกาะเต่า นั่งชมท้องฟ้ายามเย็นที่เปลี่ยนสีทุกๆนาที

อาหารสไตล์ตะวันตก สปาเก็ตตี้ครีมซอส  spare ribs อ่อนนุ่มลิ้น และปลาหมึกคาลามารี่ สำหรับคืนนี้เราอิ่มท้องนอนหลับฝันดี

ตื่นเช้ารับอากาศดีๆริมทะเล การมาเกาะเต่าในช่วงต้นปีอย่างเดือนมีนาคม เป็นอีกช่วงที่เหมาะมาก อากาศดีทุกวัน ฝนไม่ตกเลย

อาหารเช้าของวันนี้ ที่เดิมที่ห้องอาหารชบา เพียงแค่ได้มานั่งมุมนี้มองทะเล ฟ้าสวยๆ น้ำใสๆ ก็ทำให้รู้สึกดีได้ชาร์จพลัง การได้ออกเดินทาง ท่องเที่ยวคือการเติมพลังได้ดีที่สุดจริงๆ

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ ที่ตั้ง : 30/1 Jansom Bay, Koh Tao Suratthani, 84360
❀ โทร : 077 456 393-4  หรือ 097-9216048, 087-6926340, 099-2955111
❀ อีเมลล์: reservation@charmchureevilla.com
❀ เว็บไซต์: www.charmchureevilla.com
❀ เฟซบุ๊ค: Charm churee village & Koh Tao Bamboo huts

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

สุดยอดสถาปัตยกรรมไทยแลนด์ ‘วิหารสีน้ำเงิน วัดเสือร่องเต้น’ จังหวัดเชียงราย

อีกแหล่งท่องเที่ยวสำหรับสายบุญที่มีความงดงาม และน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งก็คือ วัดเสือร่องเต้น จังหวัดเชียงราย เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะแก่ผู้ที่รักสงบและชอบทำบุญแล้ว ก็ยังมีวิหารที่แปลกตาและสวยงามอีกด้วยค่ะ เดิมทีแล้ววัดเสือร่องเต้นแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของวัดร้าง ก่อนจะถูกบูรณะขึ้นมาใหม่เพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในบริเวณรอบๆวัดค่ะ  ซึ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2548 และสร้างเสร็จเมื่อ วันที่ 22 มกราคม 2559 รวมเวลาสร้างร่วม 10 ปี และถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย ฝีมือของศิลปินชาวพื้นบ้าน นายพุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิษย์ และลูกมือของ อาจารย์เฉลิมชัย ผู้สร้างวัดร่องขุน

ซึ่งตัววิหารถูกสร้างด้วยศิลปะแนวศาสนาศิลป์ร่วมสมัยค่ะ และแฝงไว้ด้วยคติธรรมของพระพุทธองค์ นอกจากตัววิหารที่มีเอกลักษณ์เป็นสีน้ำเงินและทุกมุมภายในวัดจะเต็มไปด้วยผลงานศิลปะอันวิจิตรงดงาม มีลวดลายไทยที่บรรจงสลักลงไปตามผนังรวมถึงการแกะสลักลวดลายตามบันไดนาค รูปปั้นต่างๆแล้ว

ภายในวิหารยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ สีขาวมุกขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้งบริเวณพระเศียรก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณา ค่ะ

ถัดออกมาด้านหน้าของวิหารก็จะเป็นที่ประดิษฐาน “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” ซึ่งมีความสูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงฆปรินายก โดยสร้างจากแรงศรัทธาบวกกับการสืบสานศิลปะในเชิงพุทธศิลป์ของ สล่านก ผู้ที่ได้รับแรงบันดาลใจทางศิลปะจากอาจารย์ถวัลย์และอาจารย์เฉลิมชัย จนเกิดมาเป็นวัดที่สวยงามในปัจจุบันนี้ค่ะ

📍 ที่ตั้ง : ชุมชนร่องเสือเต้น หมู่ 2 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
🕐 เวลาเปิดทำการ : 07:00 – 20:00 (ทุกวัน)
💟 ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
☎ ติดต่อ : 0820269038

🙏 ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก –  thailandtourismdirectory, museumthailand

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ปักหมุดเช็คอินไปกรีนแลนด์เมืองไทย ‘น้ำตกเขาช่องลม’ จ.นครนายก

จังหวัดยอดฮิตใกล้กรุงเทพที่หลายๆคนมักจะนึกถึงกันเลยก็คือ จังหวัดนครนายกใช่ไหมล่ะคะ นอกจากจะใกล้กรุงเทพแล้วที่แห่งนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆให้ได้ไปชมกันอีกมากมายเลย ซึ่งก็มีสถานที่ดังๆ หลายแห่งที่นักท่องมักนิยมไปกันเลยก็คือ น้ำตกสาลิกา จุดชมวิวผาเดียวดาย หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันดีเลยก็ที่ เขื่อนขุนด่านปราการชล แต่มีใครรู้ไหมคะว่ามีดินแดนแห่งกรีนแลนด์นั้นซ่อนอยู่ใกล้ๆกับเขื่อนขุนด่านปราการชลอีกด้วยนะคะ ที่แห่งนี้ก็คือ ‘น้ำตกเขาช่องลม’ นั่นเองค่ะ

แม้ว่าจะเคยเป็นดินแดนกรีนโซนลึกลับ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครนายกไปแล้วค่ะ ในการเดินทางเข้าไปยังน้ำตกเขาช่องลมก็ไม่ได้ยากเลย สามารถนั่งเรือเข้าไปได้โดยจะต้องติดต่อได้ที่ศูนย์ให้บริการล่องเรือ ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า – 5 โมงเย็นค่ะ สำหรับค่าบริการ ราคาเหมา 1-7 คน รวมทั้งหมด 1,500 บาท แต่ถ้า 8 คนขึ้นไปตกคนละ 200 บาท  จากนั้นก็ล่องเรือไปสัมผัสอากาศและธรรมชาติอันบริสุทธิ์กันเลย

ถึงแล้วกรีนแลนด์แห่งเมืองไทย น้ำตกเขาช่องลม เมื่อได้ลงมาเดินทำให้สัมผัสได้ถึงพลังของธรรมชาติอย่างเต็มปอดเลยล่ะค่ะ หายใจเข้าก็สดชื่น หายใจออกก็สบาย มองไปรอบข้างก็จะเห็นความเขียวขจีของธรรมชาติ ป่าเขาเต็มไปหมด

ถ้าใครคิดที่จะมาในช่วงหน้าฝน ขอแนะนำเลยว่าควรพกเสื้อกันฝนมาด้วยนะคะ และก็ไม่ใส่รองเท้าแตะให้ใส่ผ้าใบจะสะดวกกว่า และหากพร้อมแล้วก็มาสัมผัสธรรมชาติอากาศบริสุทธิ์กันได้เลยที่ “น้ำตกเขาช่องลม นครนายก” ค่ะ รับรองเลยว่าหากใครได้ลองมาสัมผัสสักหนึ่งครั้งจะต้องประทับใจไม่รู้ลืมแน่นอน

📍 ที่ตั้ง : ตำบล นาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัด นครนายก
🕐 เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.  (เรือออกทั้งวันไม่มีรอบ)
☎ โทร : 0-89493-1200

ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก Facebook คุณ Poramate B. Fluke https://www.facebook.com/fluke.poramate

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

“สุภัทรา หัวหิน รีสอร์ท” จ.ประจวบคีรีขันธ์

หนีร้อน หนีความวุ่นวาย และหนีโควิท ไปหัวหิน บูติกรีสอร์ทเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว ที่ “สุภัทรา หัวหิน รีสอร์ท” ที่พักริมทะเลหัวหิน พร้อมสระว่ายน้ำ เลียบชายหาดเขาตะเกียบ เป็นรีสอร์ทเล็กๆ มีลักษณะเป็นวิลล่าที่โด่ดเด่น ด้วยการทาสีเหลืองแบบทรอปิคคอล มีกลิ่นไอของความเป็นล้านนาท่ามกลางธรรมชาติ

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48318

บรรยากาศภายในรีสอร์ท สัมผัสได้ถึงธรรมชาติและออกซิเจนของต้นไม้ ดอกไม้ ล้อมรอบห้องพักให้บรรยากาศสดชื่นมาก ไม่คิดเลยว่ากำลังอยู่ในหัวหิน ด้านในสุดจะเป็นร้านอาหารริมทะเลและสระว่ายน้ำของโรงแรม เล่นน้ำที่นี่ไม่ต้องกลัวร้อน เนื่องจากมีต้นลีลาวดีค่อยบังแดดอยู่ร่ำไร

ในส่วนของห้องพักวันนี้เราจะพามาดูกันทั้ง 3 ห้อง มาเริ่มกันเลยที่ห้องแรก Pool Villa เป็นห้องขนาดใหญ่เหมาะสำหรับคู่รักที่มาพักผ่อน ด้านหน้าจะมีสระว่ายน้ำล้อมรอบด้วยสวน

เซอร์ไพรส์มากเลยกับหมอนลายผ้าขาวม้า มีกลิ่นไอของความเป็นไทย ซึ่งตอนนี้หาดูได้ยากแล้วและเตียงสไตล์บาหลี

อ่างอาบน้ำ

ตามมาดูห้องต่อไปกันดีกว่า

มาต่อกันที่ห้อง Superior pool villa เหมาะสำหรับครอบครัว เป็นห้องขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำ พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวมีสวนล้อมรอบบ้านพักให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย

สำหรับห้องนี้เขามี 2 เตียงเลยนะ

และสุดท้ายห้อง Garden view เป็นอีกห้องที่เหมาะสำหรับสำหรับคู่รักภายในห้องสามารถเปิดประตูมารับออกซิเจน หรือนั่งชิวที่สวนข้างนอกได้

ทางโรงแรมมีบริการนวดสามารถแจ้งทางโรงแรมได้ตลอดเวลา ซึ่งจะเป็นการนวดภายในห้องพักของเพื่อนๆเลย

ไปสำรวจบริเวณหน้าหาดกันบ้างดีกว่า สำหรับที่นี่ถือว่าดีเลย เพื่อนๆสามารถเดินไปวัดเขาตะเกียบได้ และหน้าหาดค่อนข้างกว้างใช้ได้เลย มองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน

อาหารมื้อค่ำ ทางรีสอร์ทมีร้านอาหารเย็นริมทะเล ทุกท่านสามารถสั่งอาหารมาทาน รับลมทะเลเย็นๆได้ วันนี้เราทานเป็น ข้าวห่อหมกทะเลทอด สุภัทราเชฟสลัด สปาเก็ตตี้ผัดฉ่าทะเล และน้ำซีทรูพันซ์

แสงตอนเย็นของที่นี่สวยมาก สามารถมองเห็นแนวโค้งของชายหาดหัวหินได้เป็นอย่างดี

ในตอนเช้าซิกเนเจอร์ของโรงแรมคือ การตักบาตรหน้าหาด ในตอนเช้ามีประมาณ 2 รอบต่อวัน ในวันที่น้ำทะเลลง เวลา 7.00 น. และ 7.30 น.

มาดูในส่วนของอาหารเช้ากันบ้าง ช่วงนี้ถ้าวันไหนมีผู้เข้าพักจำนวนมากก็จะเป็นบุฟเฟ่ต์ตามปกติเลย แต่ถ้าวันไหนไม่มากทางโรงแรมขออนุญาตเสิร์ฟเป็นเซ็ต ซึ่งมีให้เลือกทั้งไทยและอเมริกัน และสั่งได้ไม่อั้นเลยอิ่มกันไปจนถึงเที่ยงได้เลย

วิธีการมาโรงแรมก็ง่ายมากกก สามารถมาได้ทั้งรถส่วนตัว หรือไปเป็นแก็งเพื่อนสามารถนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ มาลงที่ มาร์เก็ตวิจเลจ หัวหิน แล้วเรียก Grap ได้เลย อยากจะแวะชมบรรยากาศตัวเมืองหัวหินก่อนก็ได้ สามารถข้ามไปฝั่งตรงข้ามรอรถประจำทางสีเขียวของหัวหิน แล้วลงตรงหน้ารีสอร์ทได้เลย ขากลับจุดพักรถเขียวก็อยู่หน้ารีสอร์ทพอดีเลย

♥ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ♥
❀ ที่ตั้ง : 143/18 ถ.ตะเกียบ ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110
❀ หมายเลขโทรศัพท์:  086-3316651
❀ อีเมลล์: supatra@supatraresort.com
❀ เว็บไซต์:  www.supatraresort.com
❀ เฟซบุ๊ค: Supatra Hua Hin Resort

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

“La Isla Pranburi Beach Resort” จ.ประจวบคิรีขันธ์

La Isla Pranburi Beach Resort รีสอร์ทปราณบุรี ประจวบคิรีขันธ์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด ใกล้ถ้ำพระยานคร ใจกลางหมู่บ้านชาวประมง เนื่องจากทางเข้าจะต้องพบกับหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของการมาที่นี้ แต่เมื่อมาถึงก็ทำให้หายเหนื่อยเลยหมดเลย

English version >> http://hotelandresortthailand.com/read/?p=48314

La Isla Pranburi Beach Resort บรรยากาศดีต้นไม้ร่มรื่น ข้างข้างขนาบด้วยภูเขา ใครมาที่นี่แล้วกลัวฝนตกไม่ต้องกลัวเลย เพราะว่าที่นี่ตกมากสุดไม่เกิน 20 นาที และเป็นทะเลที่ไม่เหนียวตัวเนื่องจากต้นไม้ที่อยู่บนภูเขาคอยดูซับเอาไว้ รวมถึงหน้าชายหาดที่ยาวและสระว่ายน้ำขนาดยักษ์ใหญ่ บรรยากาศแสนโรแมนติก ชวนให้ทุกคนมาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว

บรรยากาศด้านหน้ารีสอร์ทร่มรื่น เย็นสบาย เหมือนเป็นโอเอซิสของปราณบุรี มาถึงแล้วก็เช็คอินกันก่อนเลย ซึ่งภายในตกแต่งด้วยไม้ สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ต้อนรับด้วย Welcome drinks เดินทางมาเหนื่อยๆ ก็ชื่นใจ

บรรยากาศด้านหน้าหาดของรีสอร์ท บรรยากาศเงียบสงบ เสมือนเป็นหาดส่วนตัว

ต่อไปมาชมบรรยากาศภายในห้องพักของรีสอร์ทกัน

เริ่มต้นที่ห้องแรกสำหรับครอบครัวขนาด 6 ท่าน คือห้อง Pool villa ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของสระว่ายน้ำ เรียกว่า ขนาดยักษ์เลยจะดีกว่า

บรรยากาศภายในอบอุ่นมาก สามารถกระโดดลงไปเล่นน้ำได้เลย

ตามมาด้วยห้อง Deluxe Pool Access เป็นอีกหนึ่งห้องยอดฮิตของที่นี่เพราะได้รับการจองเข้ามามากที่สุด ภายในเป็นเตียงขนาดใหญ่ โซฟานั่งเล่น สามารถกระโดดเล่นน้ำจากตัวของห้องพักได้เลย และมองเห็นหาดทรายสีขาว ทะเลสวยๆ

ต่อไปจะพามาดูห้อง Suite ซึ่งตั้งอยู่ชั้นสองของคิดคลับและสปา เป็นห้องที่มีอ่างอาบน้ำ สามารถมองเห็นวิวภูเขาและเรือของชาวประมงที่ออกหาปลา ห้องนี้วิวสวยมากคอนเฟิร์มได้เลย

และห้องสุดท้ายจะเป็นห้อง Deluxe Sea view เป็นห้องที่อยู่ชั้นด้านบน

กิจกรรมภายในรีสอร์ทที่พิเศษที่สุดเลยก็คือ จิบน้ำชาล่องเรือ Afternoon tea เป็นการล่องเรือในทะเล เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวประมงชมวิถีชีวิตของคนที่นี่ ซึ่งราคาก็ไม่แรงเลย ถ้าไม่รับน้ำชาและของว่าง ประมาณ 1,4XX บาท หรือหากรับของว่างจะประมาณ 1,7XX บาท ราคานี้สำหรับ 6 ท่าน หารแล้วเหลือคนละ 200 กว่าบาทเท่านั้น ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการล่องแต่ละรอบ สามารถจองกับทางโรงแรมได้เลยเวลาล่องขึ้นอยู่กับน้ำขึ้นหรือลงในแต่ละเดือน

ใครจะไม่ล่องเรือก็สามารถมาเช่าพายเรือคายัค น้ำที่นี่สงบ คลื่นไม่แรงเกินไปสามารถพายได้อย่างสบายๆ จะพายในทะเล รอบภูเขา หรือในหมู่บ้านก็สามารถทำได้

สำหรับหนูเล็กเด็กน้อยทั้งหลายต้องเชิญทางนี้ปั่นจักรยานรอบสวน ทางรีสอร์ทมีบริการให้ยืมฟรี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โซน Kid Club กับของเล่นสนุกๆ

ปั่นจักรยานชมบรรยากาศ

ถัดจากห้อง Kid Club จะเป็นห้องสปา ทางรีสอร์ทก็มีบริการเหมือนกัน

ห้องสมุดและคาเฟ่

มุมอ่านหนังสือ

มาเที่ยวชมบรรยากาศรอบรีสอร์ทกันบ้าง บอกแล้วว่าที่นี่เขาดีจริง ของจริง

บรรยากาศตอนกลางคืน

พอตกเย็นมาทางรีสอร์ทก็มีบริการอาหารเย็น ซึ่งราคาไม่แพงและปริมาณคุ้มค่ากับราคา หากเพื่อนๆ ต้องการทานอาหารทะเลก็สามารถสั่งกับทางรีสอร์ทได้ตั้งแต่ตอนเช็คอินเลย รีสอร์ทจะไปติดต่อกับชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อที่จะได้ทานกันแบบสดใหม่ เพราะที่นี่จะไม่สต็อคของทะเลไว้ แถมยังเป็นการสนับสนุนชาวบ้านไปในตัวด้วย

ห้องอาหาร ปูละคอน ชื่อห้องอาหารตั้งมาจากปูละคอน สามารถพบได้ในบริเวณแถวรีสอร์ทเท่านั้น อาหารรสชาติอร่อย ถูกปากทุกอย่างเลย ซิกเนเจอร์ของที่นี่จะเป็นแกงคั่วปูใบชะคราม ซึ่งใบชะครามเป็นพืชที่พบได้เฉพาะพื้นที่ดินเค็มตามชายทะเลเท่านั้น แต่อย่าทานเยอะ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ต่อด้วยปูนิ่มนึ่ง และปลาหมึกผัดไข่เค็ม

บรรยากาศยามเช้า

ตอนเช้าจะเป็นอาหารเป็นเซ็ต สามารถทานได้ที่ห้องอาหาร จะมีมุมกาแฟและ เซ็ตอาหารเช้าให้เลือกทั้งอาหารไทยและอเมริกัน

ในอนาคตทางรีสอร์ทมีแผนจะเปิดกิจกรรมตอนกลางคืนด้วยจะเป็นอะไรก็คอยติดตามกันต่อไป ตอนนี้ก็ยังยืนยันว่า La Isla Pranburi Beach Resort ยังคงเป็นอีกรีสอร์ทหนึ่งที่เพื่อนๆ ทุกคนต้องมาให้ได้ในปราณบุรี เพราะไม่ว่าใครจะมาก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากกลับมาที่นี่อีกครั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ตั้ง : 99/9 หมู่ 8 ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77120
หมายเลขโทรศัพท์: 032-900353, 094-8289938
อีเมลล์: reservations@laislapranburibeach.com
เว็บไซต์: www.laislapranburibeachresort.com
เฟซบุ๊ค: La Isla Pranburi Beach Resort

» รีวิวโดย www.hotelandresortthailand.com

เขาล้อมหมวก จุดชมวิวสุดเสียว ที่ใครชอบผจญต้องมาโดน!!

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่คนรักการผจญภัยนั้นห้ามพลาดเลยนะคะกับที่ “เขาล้อมหมวก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์” ตั้งอยู่ภายในเขตกองบิน 5 หรือกองบิน 53 ติดกับอ่าวมะนาว มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนติดทะเล มีความสูงประมาณ 300 เมตร และบนยอดเขาสามารถมองเห็นความงดงามได้ทั้ง 3 อ่าวเลยนะคะ ทั้ง อ่าวน้อย อ่าวประจวบและอ่าวมะนาว และสามารถชมวิววิวทิวทัศน์แบบ 360 องศาของอ่าวไทย รวมถึงตัวเมืองประจวบและวนอุทยานเขาตาม่องล่าย ซึ่งหากเดินทางมาในช่วงฤดูร้อนอาจจะสามารถมองเห็นทะเลเเหวกได้อีกด้วยนะคะ

ยอดเขาล้อมหมวกยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนบริเวณเชิงเขาล้อมหมวกเป็นแหล่งอาศัยของครอบครัวค่างแว่นถิ่นใต้ฝูงใหญ่ ที่จะออกมาปรากฏตัวให้นักท่องเที่ยวได้เห็นอยู่เสมอค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญเลยนะคะ ไม่ควรให้อาหารน้องค่างแว่น เพราะว่าอาจเกิดอันตรายและทำให้เกิดผลกระทบต่อนิเวศวิทยาของสัตว์ป่าได้ค่ะ สำหรับใครที่ต้องการจะมาพิชิตเขาล้อมหมวก จะต้องลงทะเบียนพร้อมทั้งวัดความดันกับทางเจ้าหน้าที่กองบิน 5 ซึ่งจะเปิดตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 10.30 น. และไม่เปิดรับจองล่วงหน้า

เมื่อเตรียมตัวและลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็ไปพิชิตเขาล้อมหมวกกันได้เลยค่ะ ซึ่งระยะเวลาในการเดินขึ้นเขาในครึ่งแรกจะอยู่ที่ประมาน 1.30 ชั่วโมง จะเป็นการเดินขึ้นบันได 496 ขั้น และในครึ่งหลังจะเป็นการไต่เชือกขึ้นทางชัน ซึ่งบางจุดจะมีความชันค่อนข้างมากค่ะ เนื่องจากเป็นภูเขาหินปูน ที่มีความคมพอสมควรเลย ดังนั้นจะต้องระวังเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ เพราะในแต่ละจุดนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้การช่วยเหลือตลอดเส้นทางเลยปลอดภัยหายห่วง

✨ สิ่งที่ควรเตรียมก่อนไปพิชิตเขาล้อมหมวก ✨
1.ควรใส่เสื้อผ้าที่สบาย
2.ใส่รองเท้าผ้าใบ
3.ถุงมือเพื่อเอาไว้ในการจับเชือก
4.น้ำดื่ม
5.อุปกรณ์กันแดด

❌ ข้อห้าม ❌
1.ห้ามถ่ายรูปสนามบิน
2.ห้ามทิ้งขยะ
3.ห้ามให้อาหารสัตว์ป่า
4.ห้ามใส่รองเท้าแตะ

🌳 เช็คตารางวันหยุด 🌳
✅ วันที่ 23-25 ตุลาคม 2563
✅ วันที่ 5-7 ธันวาคม 2563
✅ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
✅ วันที่1-3 มกราคม 2564

📍 ที่ตั้ง : กองบิน 5 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
☎ โทร : 032-611017
🌼 เฟซบุ๊ค : กิจกรรมพิชิตยอดเขาล้อมหมวก 902 ฟุต

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก – เฟซบุ๊ค กิจกรรมพิชิตยอดเขาล้อมหมวก , newtv , travelmthai , thaiticketmajor

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

สัมผัสธรรมชาติบนยอดเขาสูง อุทยานแห่งประวัติศาสตร์ ‘เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย’

จังหวัดสุโขทัย นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของเมืองแห่งประวัติศาสตร์แล้วที่ แห่งนี้ก็ยังมีแหล่งชมวิว ชมธรรมชาติที่สวยงามและน่าสนใจไม่แพ้กันนะคะ แหล่งท่องเที่ยวที่เราจะแนะนำในวันนี้ก็คือ ‘เขาหลวง’ หรืออีกชื่อก็คือ ‘ป่าเขาหลวง’ นั่นเองค่ะ มีที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติรามคำแหง มีพื้นที่ประมาณ 213,215 ไร่  และได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2523 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช กษัตริย์ผู้สร้างอดีตราชธานีไทยแห่งนี้ ทางอุทยานจึงมีชื่อว่า ‘อุทยานแห่งชาติรามคำแหง’ ค่ะ

 ลักษณะจะเป็นยอดเขาสูงชันสลับซับซ้อนกัน มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,200 เมตร ซึ่งในการเข้าไปเยี่ยมชมนั้น จะต้องเดินเท้ากว่า 3.7 กิโลเมตรเพื่อขึ้นไปด้านบนยอดเขาค่ะ  แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้วรับรองว่าจะต้องประทับใจแน่นอน เพราะที่นี่จะมีทิวทัศน์ที่มองออกไปได้กว้างขวางและเราจะได้เห็นความสวยงามของป่าเขารวมถึงได้สัมผัสกับความร่มรื่นของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดเลย

 นอกจากจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วภายในอุทยานก็ยังมีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น วัวแดง เก้ง หมี หมูป่า นกกระเต็น นกนางแอ่น และพรรณไม้ต่างๆ เช่น สัก ตะเคียน เต็ง รัง พืชสมุนไพร และว่าน รวมถึงยังมีน้ำตกและถ้ำต่างๆให้ได้ชมกันอีกด้วย

ที่สำคัญสภาพอากาศบนยอดเขาของที่นี่จะหนาวเย็นตลอดทั้งปีเลยค่ะ มีหมอกปกคลุมมากในช่วงฤดูหนาวและฤดูฝนอีกด้วย ซึ่งเหมาะที่จะมาเที่ยวในช่วงเดือน กันยายน-กุมภาพันธ์ รับรองเลยว่าคนที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ มาส่องสัตว์ยามค่ำคืน รวมถึงคนที่ชอบอากาศหนาวเย็นจะต้องถูกใจกับที่นี่อย่างแน่นอนเลยค่ะ  ‘เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย’

📍ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติรามคำแหง – ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย
🕐เปิดให้บริการ : 08.30 – 17.00 น. (ทุกวัน)
💟ค่าเข้าชม : ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 เด็ก 100 / ไทย ผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10
🚘ที่จอดรถ : 40/คัน
☎โทร : 0 2562 0760

**หมายเหตุ** นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการลูกหาบขึ้นยอดเขาหลวง ราคากิโลกรัมละประมาณ 15 บาท โดยสามารถติดต่อได้ที่อุทยานฯ

🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄🌄

🙏 ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ – thailandtourismdirectory, mgronline

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

เที่ยวอย่างไทย ชมเมืองเก่า ศึกษาประวัติศาสตร์ ‘อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย’

สุโขทัยเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในภาคกลางที่มีความเก่าแก่และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจน่าค้นหา เพราะที่แห่งนี้มีร่องรอยของประวัติศาสตร์มากมายและพร้อมให้เราได้เข้าไปศึกษาเยี่ยมชมเสมอ จังหวัดสุโขทัยเป็นที่ตั้งอาณาจักรแรกของชนชาติไทยเมื่อ 700 กว่าปีที่แล้ว และความหมายของคำว่า “สุโขทัย”  นั้นมาจากสองคำค่ะ คือ “สุข+อุทัย” หมายความว่า “รุ่งอรุณแห่งความสุข”  และร่องรอยอดีตแห่งความรุ่งเรือง เราก็จะเห็นได้จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและศรีสัชนาลัย ซึ่งที่แห่งนี้ ก็ยังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่มีความชื่นชอบในการศึกษาประวัติศาสตร์ค่ะ

ในอดีตแล้วนั้น เมืองสุโขทัยเคยเป็นราชธานีของไทยมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากค่ะ และยังเป็นศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจอีกด้วย ภายในอุทยานฯมีสถานที่สำคัญที่ทั้งเป็นพระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถาน โดยมีกำแพงเมืองและประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในบริเวณพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 70 ตารางกิโลเมตร ซึ่งภายในอุทยานก็ยังมีโบราณสถานสำคัญที่น่าสนใจให้ได้ชมอีกมากมายเลยค่ะ

การมาเที่ยวชมนั้นนักท่องเที่ยวสามารถ เดินเท้า ปั่นจักรยาน หรือการนั่งรถรางไฟฟ้า ซึ่งทางอุทยานฯ ก็มีรถจักรยานให้เช่าด้วยนะคะ นอกจากนี้หน้าโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแต่ละจุดก็ยังมีป้าย QR Code ที่สามารถสแกนเข้าไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะมีให้เลือกได้ถึง 4 ภาษาเลยนะคะ โดยมีทั้ง ภาษาไทย จีน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส เมื่อมาที่นี่แล้วไม่ต้องกลัวเลยค่ะ ว่าจะไม่เข้าใจเรื่องราวในประวัติศาสตร์

📍ที่ตั้ง : ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย
🕐เปิดให้บริการ : 08.30-16.30 น. (ทุกวัน)
💟ค่าเข้าชม : ต่างชาติ/ไทย ผู้ใหญ่ 40 เด็ก 20
🌈เฟซบุ๊ค : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

**หมายเหตุ** จอดรอบบริเวณที่ท่ารถใกล้ป้อมยามตำรวจ ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำยมไปทางฝั่งตะวันตกราว 200 เมตร มีรถออกทุก 20 นาที ค่าโดยสารคนละ 5 บาท ตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ทุกวัน และจากอุทยานฯ มีรถจอดที่บริเวณลานจอดรถ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

» เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

เรื่องราวท่องเที่ยว By Hotel&Resort