Unseen ประจำจังหวัดกระบี่ “สระมรกต” ที่ควรแก่การไปสัมผัส

 

original-1399566764178

2683c65077621227cf5794b3e344726d

ถ้าคุณอยากหลีกหนีความวุ่นวาย แต่ท้องทะเลและภูเขาอาจฟังดูน่าเบื่อมากเกินไปแล้ว วันนี้จึงขอแนะนำคุณไปสัมผัสอีกโลกหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอย่าง “สระมรกต” แห่งจังหวัดกระบี่ ที่เมื่อคุณได้เห็นแล้วต้องบอกเลยว่า มีน้ำใสๆ มีฟ้าสวยๆ แถมด้วยใบไม้เขียวๆ พร้อมให้นักท่องเที่ยวอย่างคุณได้เก็บเกี่ยวและสัมผัสความสุขได้อย่างเต็มปอด

 

204_11

1382974914-00P1010887-o

เมื่อเอ่ยถึงจังหวัดกระบี่ นอกจากจะมีชื่อเสียงของผืนน้ำทะเลที่สวยงามแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่า สถานที่แห่งนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจอีกที่หนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือ “สระมรกต” ที่ตั้งอยู่ในอำเภอคลองท่อม โดย ณ เวลานี้สถานที่ดังกล่าวได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่หลายๆ คนให้ความสนใจกันเป้นอย่างมาก ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะอย่างน้ำใสสีเขียวอมฟ้าใจกลางผืนป่า ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำของภาคใต้

 

1382974731-00P1010882-o

 

สำหรับการเดินทางมายังสระมรกตแห่งนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าการปลอกเปลือกกล้วย เพราะถ้าคุณเดินทางมาจากตัวเมืองกระบี่แล้วให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ไปทางอำเภอเหนือคลองจนถึงอำเภอคลองท่อม เมื่อถึงแยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอลำทับ ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4038 แล้วมุ่งหน้าไปประมาณ 100 เมตร จากนั้นให้เลี้ยวขวาไปทางอำเภอคลองท่อมใต้-ทับไทร อีกประมาณ 17 กิโลเมตร ก็จะเห็นทางเข้าของสระมรกตแล้ว

Image

ff5

ff3

 

การที่จะเจอของดีแน่นอนว่า นั่งรถต่อเดียวคงง่ายเกินไปนิด ดังนั้น ธรรมชาติจึงสรรสร้างให้บรรดานักท่องเที่ยวจำเป็นต้องเดินเท้า เพื่อเข้าไปยังสระมรกตอีกประมาณ 800 เมตร หรือสามารถเลือกเดินศึกษาธรรมชาติที่มีระยะเดินประมาณ 2.7 กิดลเมตร แต่ก็จะมาบรรจบกันที่สระมรกตที่เดียวกัน โดยที่ตลอดเส้นทางเดินชมธรรมชาตินั้นจะเป็นป่าที่ร่มรื่นเขียวขจีเต็มไปด้วยพรรณไม้นานานพันธุ์ที่น่าสนใจ และยังเป็นแหล่งชมนกนานาชนิดที่หายาก เช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล เป็นต้น นอกจากนี้ตลอดสองฝั่งข้างทางยังมีสายน้ำที่ไหลผ่านชวนให้รับรู้ถึงความสดชื่น โดยก่อนที่จะไปถึงสระมรกตคุณสามารถพบกับสระแก้วที่มีน้ำใสสีเขียวเต็มไปด้วยพืชน้ำขึ้นอยู่ข้างใต้อย่างหนาแน่น

 

b23b1b6076473ce3a94ef713c32a4df7

หลังจากที่ย่ำเท้าสูดกลิ่นผืนป่าแบบเดินสบายกันมาหอมปากหอมคอแล้ว ก็ถึงคราวของสิ่งสำคัญที่คุณรอสัมผัสอย่าง สระมรกต ซึ่งเป็นสระน้ำที่มีสีเขียวมรกตสมชื่อ โดยมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณ 25 เมตร ยาว 20 เมตร และมีระดับความลึกราว 1.5 – 2 เมตร ซึ่งเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่เพราะคราบตะไคร่เขียวอี๋ หากแต่เป็นแบคทีเรียและสาหร่ายในน้ำซึ่งจะทำให้น้ำมีสีต่างๆ แตกต่างกัน โดยอุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ 30 – 50 องศาเซลเซียส และนอกจากนั้นสายน้ำแร่ใต้ดินที่มีอยู่บริเวณนี้ยังทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอน จึงทำให้น้ำมีความใสมากอีกด้วย ซึ่งถ้าเราเดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเห็นต้นน้ำที่ไหลเป็นสายลงมารวมกันกลายเป็นสระมรกตแห่งนี้

 

03

ff1

 

 

นักท่องเที่ยวที่มาถึง สระมรกต แล้วนั้นสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ เพราะไม่มีการสั่งห้ามลงสระ แต่เรื่องของอาหารการกินอาจต้องรับประทานกันให้เรียบร้อยมาเสียก่อน เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้ามาทานในบริเวณนี้ด้วย เนื่องจากเศษขยะที่หลายคนนำติดมาด้วยนั้นอาจทำให้เกิดความเสียหายและทำให้ความสวยงดงามของสระมรกตแห่งนี้ลดน้อยลง

 

ความสวยสดใสของทะเลฝั่งอันดามันมันสวยงดงามเช่นไร ต้องบอกเลยว่า “สระมรกต” นั้นก็มีความใสสะอาดและสวยสดงดงามไม่แพ้กัน ซึ่งถ้าคุณกำลังเบื่อกับแสงแดงที่ร้อนแรง หรือความเหนียวเหนะจากเกลือและลมทะเลอยู่นั้น สระมรกตแห่งนี้ก็คงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าท่องเที่ยวไม่ใช่น้อย และเมื่อไรที่คุณได้ไปสัมผัสด้วยตัวคุณเองคุณจะรู้ทันทีว่าโลกของเรานี้มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าอัศจรรย์ใจรอต้อนรับคุณอยู่ ขอแค่เพียงคุณได้ออกไปสัมผัสมัน

 

เรียบเรียงโดย  www.hotelandresortthailand.com

14 สิ่งน่าสนใจที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการท่องเที่ยว

 

การท่องเที่ยวเปรียบเสมือนการได้พักผ่อนอย่างหนึ่ง แม้ว่าเส้นทางสู่จุดหมายปลายทางนั้นอาจไม่ได้สะดวกสบายเท่าไร แต่เชื่อว่านักท่องเที่ยวทุกคนคงสุขใจเมื่อได้ไปยืนอยู่ในที่ที่ใฝ่ฝันและอยากกลับไปเยือนอีกครั้ง แต่แทนที่จะปล่อยตัวปล่อยใจให้สบายและผ่อนคลายกับช่วงเวลาที่พักผ่อน ก็ยังคงมีบางเรื่องที่ทำให้คุณกังวลใจอยู่ไม่น้อย ถ้าเช่นนั้นคุณลองทิ้งความเครียดและความกังวลทั้งหมดออกไป แล้วลองทำตามคำแนะนำของเวบไซต์ buzzfeed กันดูนะคะรับรองว่าจะทำให้การท่องเที่ยวมีสีสันและชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

 

01

1. ทุกวันก็สามารถเที่ยวได้ : คุณไม่ต้องรอให้ถึงวันหยุดยาวหรือวันหยุดสุดสัปดาห์เลย คุณสามารถผ่อนคลายตัวเองได้ด้วยการกิน การเที่ยว หรือแฮงก์เฮ้าท์ระหว่างวันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าหาดไม่ได้ทำให้การงานเสียหาย

 

2. กินยากเกินไป : ไปเยือนถิ่นนั้นๆ ทั้งที ทำไมไม่ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นบ้าง ถ้าคุณมัวแต่เลือกกินหรือสรรหาอาหารที่คุณชื่นชอบทุกมื้อแบบนี้รับรองว่าการพักผ่อนของคุณจะขาดสีสันอย่างแน่นอน

 

05

 

3. ไม่ต้องหาที่พักที่สวยหรู : คุณลองเปลี่ยนมาพักพวกโฮมสเตย์หรือกางเต็นท์นอนท่ามกลางป่าเขาบ้างก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ และแถมยังมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยวกับผู้อื่นอีกด้วย

 

02

 

4. เรียนรู้ภาษาท้องถิ่น : ลองนึกถึงภาพเวลาที่คุณได้ยินคนต่างชาติพูกคำว่า “ซา หวัด ดี” แบบไม่ชัดสิคะ คุณคงอดอมยิ้มไม่ได้ คุณเองก็เช่นกันควรที่จะเรียนรู้ภาษาถิ่นง่ายๆ ไว้พูดบ้าง ซึ่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แต่สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้ได้ยินมากยิ่งขึ้น

 

5. ทักทายนักท่องเที่ยวด้วยกัน : ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่แห่งใด เมื่อคุณได้พบกับน้องท่องเที่ยวคนอื่นๆ ก็ลองพูดคุยทักทายหรือซักถามได้ เพื่อผูกมิตรไมตรีกันไว้ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว

 

03

 

6. หลงทางเรื่องสนุก : แม้ว่าคุณจะวางแผนมาอย่างดีแล้ว แต่คงต้องมีบ้างที่บางครั้งคุณหลงทางเพระไม่มีใครจำทางได้ดีอย่างเจ้าถิ่นอยู่แล้ว และก็ไม่เห็นต้องเครียดด้วยกับการหลงทาง เพราะบางทีการหลงทางของคุณอาจจะนำคุณไปพบกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ก็เป็นได้

 

7. ทำเรื่องสนุกที่ท้าทายบ้าง : คุณอาจจะดำน้ำชมหมู่ฝูงปลาปะการัง ปืนเขา หรือลองเล่นกระดานโต้คลื่นสักครั้งรับรองว่าการท่องเที่ยวนี้แจ่มกว่าเดิมอย่างแน่นอน

8. ส่องแสงสียามค่ำคืนในที่อื่นๆ : แม้คุณจะไม่ใช่คนที่ชอบดื่มหรือเที่ยวกลางคืนก็ตาม แต่การที่คุณได้ไปสัมผัสความคึกคักหรือดูให้เห็นกับตาว่าสถานที่นั้นๆ ในยามค่ำคืนเป็นอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายเลย

 

07

 

9. อยากทำอะไรก็ทำไปเลย : เมื่อได้ยินอาจดูเพี้ยนๆ ไปบ้าง แต่เชื่อสิว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่แสนสนุกสำหรับคุณอย่างแน่นอน เช่น แอ็คชั่นท่าทางที่ตลกๆ ในการถ่ายรูป หรือลองนั่งรถเมล์ของท้องถิ่นนั้นๆ รับรองว่าสิ่งที่คุณเห็นจะมีคุณค่ามากกว่าที่หนังสือหรือข้อมูลในอินเทอร์เน็ตบอกเสียอีก และจะเป็นสิ่งที่คุณจะจดจำและนึกถึงไปอีกนานแสนนาน

 

10. กินอยู่อย่างประหยัด : สำหรับคนที่มีงบน้อยอยู่แล้วคงไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่สำหรับคนที่มีเงินเหลือเฟือที่จะซื้อของอะไรก็ได้นั้นก็ลองกินอยู่แบบพอดี หรือลิ้มลองรสอาหารถูกๆ บ้าง บางทีคุณอาจจะค้นพบเมนูโปรดจานใหม่ในแบบราคาสบายกระเป๋า

 

04

 

11. นอนดึกตื่นเช้า : สำหรับบางสถานที่อาจมีไฮไลท์เด็ดๆ ในยามค่ำคืน มีถนนคนเดิน มีแสงสีที่มาพร้อมกับดนตรีสด และแม้จะนอนดึกแค่ไหน ก็อย่านอนเพลินจนตะวันตกดินอดไปเที่ยวสัมผัสบรรยากาศดีๆ ในยามเช้ากันนะคะ เพราะเชื่อว่าการตื่นเช้านั้นจะทำให้คุณมีประสบการณ์ที่แปลกใหม่กลับไปอย่างเพียบเลย

 

12. พูดคุยกับคนแปลกหน้า : ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายที่คุณจะเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์หรือสร้างมิตรภาพไว้ ทั้งนี้ก็ต้องดูให้ดีๆ ด้วยว่าเขาพร้อมที่จะเป็นมิตรกับคุณหรือเปล่า

 

13. วางแผนไว้แต่ไม่ต้องทำตามทุกอย่างก็ได้ : การวางแผนท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ดีและควรจะทำอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำตามตารางที่วางไว้ก็ได้ ซิกแซกหรือซอกแซกไปในที่ที่คุณอยากไปบ้างหรือทำอะไรที่นอกกรอกบ้าง แล้วจะยิ่งทำให้การท่องเที่ยวของคุณนั้นน่าสนุกและตื่นเต้นกว่าเดิม

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

14. มันอาจเป็นครั้งเดียวในชีวิตของคุณ : บางสถานที่ก็ไม่ใช่ที่จะเดินทางไปได้ง่ายๆ ไหนจะเรื่องเส้นทางที่แสนลำบากในการเข้าถึง รวมทั้งเรื่องงบประมาณด้วย ดังนั้นทำอะไรให้เต็มที่ไปเลย มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องทิ้งความกังวลไว้ก่อนแล้วปล่อยตัวปล่อยใจให้สนุกสุดๆ ไปเลย เพื่อให้การท่องเที่ยวนั้นเต็มไปด้วยสีสันที่น่าจดจำ

 

ใครที่อยากท่องเที่ยวแบบเพิ่มสีสันให้กับชีวิต และไม่ต้องกลัวพลาดอะไรไปก็ลองนำทิปส์เหล่านี้ไปปรับใช้กันนะคะ เพราะมันอาจจะเป็นแค่ครั้งเดียวในชีวิตของคุณก็ได้กับสถานที่นั้นๆ

 

เรียบเรียงโดย  www.hotelandresortthailand.com

รวมเด็ด 7 น้ำตกสุดอลังการในประเทศไทยที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง

 

สำหรับช่วงนี้หลายท่านคงได้สัมผัสกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายท่านคงกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ช่วยคลายร้อนกันอยู่ ซึ่งนอกจากทะเลน้ำใสดั่งกระจกแล้วนั้น วันนี้ “น้ำตก” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับการคลายร้อนได้เช่นกัน วันนี้จึงได้รวบรวมน้ำตกเด็ดทั้ง 7 แห่งที่ได้รับการกล่าวขานว่างดงามและอลังการที่สุดในประเทศไทยมาฝากกันค่ะ เผื่อเป็นตัวเลือกให้สำหรับการผ่อนพักคลายร้อนกันค่ะ ลองไปชมกันได้เลยค่ะ

 

1--1

1--2

1. น้ำตกโตนงาช้าง จ.สงขลา

ตั้งอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงดงามและมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของภาคใต้ และจังหวัดสงขลา เลยทีเดียว น้ำตกโตนงาช้างแห่งนี้มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยที่ชั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ โตนงาช้างชั้นที่ 3 เพราะมีสายน้ำตกแยกออกเป็นสองสายคล้ายงาช้าง และนอกจากนี้ยังมีทางเดินไว้สำหรับศึกษาธรรมชาติและเที่ยวชมน้ำตกในชั้นต่างๆ อีกด้วย ซึ่งน้ำตกโตนงาช้างนี้จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ ชั้นที่ 1 โตนบ่า, ชั้นที่ 2 โตนปลิว, ชั้นที่ 3 โตนงาช้าง, ชั้นที่ 4 โตนดำ, ชั้นที่ 5 โตนน้ำปล่อย, ชั้นที่ 6 โตนฤาษีคอยบ่อ และชั้นสุดท้ายชั้นที่ 7 โตนเหม็ดชุน หากนักท่องเที่ยวสนใจที่จะคลายร้อนที่น้ำตกนั้น น้ำตกโตนงาช้างจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกสถานที่หนึ่งกันเลยทีเดียว

 

2--1

2--2

2. น้ำตกแม่เตี๊ยะ จ.เชียงใหม่

น้ำตกที่มีความสวยงดงามและอลังการอีกแห่งหนึ่งของภาคเหนือ น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่อยู่ในบริเวณกลางป่าลึกในห้วยแม่เตี๊ยะตอนกลาง ตำบลดอยแก้ว อำเภอจองทอง จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะเป็นน้ำตกที่สูงใหญ่และสวยงดงามที่สุดในอุทยานแห่งชาติออบหลวง โดยที่น้ำตกแห่งนี้มีหน้าผาสองชั้นติดต่อกัน มีน้ำตลอดปี จึงทำให้มีความงดงามของน้ำตกตลอดทั้งปี นอกจากนี้น้ำตกแห่งนี้เหมาะสำหรับศึกษาธรรมชาติเป็นอย่างนี้ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งพืชพรรณ ป่าไม้ที่ถือได้ว่าเป็นป่าต้นน้ำรวมถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ อาทิเช่น นก เป็นต้น

 

3--1

3--2

3--3

3. น้ำตกทีลอซู จ.ตาก

น้ำตกทีลอซู มาจากภาษากะเหรี่ยง มีความหมายว่า “น้ำตกดำ” หรือ “น้ำตกที่ยิ่งใหญ่” ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง มีลักษณะเป็นน้ำตกเขาหินปูนขนาดใหญ่เกิดจากลำน้ำห้วยกล้อท้อทั้งสายที่ไหลแผ่ปกคลุมพื้นที่หน้าผาก่อนที่จะทะยานลงสู่หน้าสูงชันที่ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ ปัจจุบันน้ำตกทีลอซูแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่และสวยงดงามที่สุดในประเทศไทย ด้วยน้ำที่ใสสะอาด โดยเฉพาะในฤดูฝนนับได้ว่าเป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด

 

4--1

4--2

4. น้ำตกปิตุ๊โกร จ.ตาก

น้ำตกปิตุ๊โกร หรือ ปิตุ๊โกรลอซู มาจากภาษากะเหรี่ยงว่า “ปิ๊ตุ๊โกร” หรือบ้างก็เรียกว่า “ปิ๊ตุ๊ลอซู” หรือ “เปรโต๊ะลอซู” น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยสามหมื่น อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ถือได้ว่าเป็นน้ำตกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงาม และเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยน้ำตกปิตุ๊โกรมีลักษณะเป็นสายน้ำที่ไหลผ่านหน้าผาหินขนาดใหญ่ และชั้นที่เป็นไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดก็คือ ชั้นน้ำตกที่ไหลรวมกันจากด้านขวาและด้านซ้ายเป็นรูปตัววีขนาดใหญ่ จนเกิดเป็นม่านสีขาวเมื่อมองดูแล้วจะมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ นับว่าเป็นน้ำตกที่สวยและงดงามมากๆ อีกแห่งหนึ่ง

 

5--1

5--2

5. น้ำตกห้วยใหญ่ จ.นครราชสีมา

น้ำตกห้วยใหญ่ ถือว่าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สมกับชื่อ ตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทับลาน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา มีลักษณะเป็นน้ำตกทั้งหมด 5 ชั้น ที่เชื่อมต่อกับน้ำตกสวนห้อม ตำบลวังน้ำเขียว ซึ่งน้ำตกห้วยใหญ่นี้จะมีน้ำมากในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี นับได้ว่าเป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่และสวยงดงามมากเหมาะแก่การคลายร้อนในฤดูร้อนๆ แบบนี้

 

6--1

6--2

6. น้ำตกโกรกอีดก จ.สระบุรี

น้ำตกโกรกอีดก มาจากภาษาท้องถิ่นที่เรียกตามภูมิศาสตร์ของภูเขาโดยรอบที่มีมากมายหลายเทือกเขา ซึ่งคำว่า “โกรก” มาจาก “ภูเขา” และ “ดก” มาจาก “เยอะ” ต่อมาชาวบ้านจึงเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่า “โกรกอีดก” โดยน้ำตกแห่งนี้มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงดงามแบ่งออกเป็น 8 ชั้น และนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมน้ำตกได้ทุกชั้น โดยเฉพาะชั้นที่ 6 และชั้นที่ 7 นั้น ได้ที่รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นชั้นที่สวยงามกว่าชั้นอื่นๆ

 

7--1

7--2

7--3

7. น้ำตกไทรโยคน้อย จ.กาญจนบุรี

“น้ำตกไทรโยคน้อย” หรือ “น้ำตกเขาพัง” ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน เหตุที่ได้รับการเรียกชื่อว่า น้ำตกเขาพัง นั้นเนื่องจากน้ำตกแห่งนี้เกิดขึ้นบนหน้าผาหินปูนที่พังทลายลามาจนเกิดเป็นโขดหินปูนที่ลดหลั่นลงมาอยู่บริเวณเชิงเขา โดยที่ต้นกำเนิดของสายน้ำนี้เกิดจากน้ำที่ผุดจากภูเขาแล้วไหลมาเรื่อยๆ ตามลำธารเล็กๆ จึงไหลตกลงมาที่ผาหินปูนแล้วแผ่กระจายไปตามพื้นที่เขาที่ลาดเอียงภายใต้ร่มเงาของพันธุ์ไม้นานาชนิด ซึ่งสวยงดงามเกินคำบรรยาย รวมไปถึงบรรยากาศ อากาศที่แสนสบายสดชื่น และนอกจากนี้ในลำธารก็ยังมีต้นกกขึ้นอยู่กระจัดกระจาย บรรยากาศโดยรวมของน้ำตกไทรโยคแห่งนี้ถือว่าเป็นที่น่าประทับใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากมายมหาศาลในทุกๆ ปี เหมาะสำหรับการคลายร้อนเป็นอย่างยิ่ง

 

นับได้ว่าน้ำตกเด็ดทั้ง  7 แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สำหรับคลายความร้อนจากอากาศได้ดีทีเดียว หากช่วงใดที่เบื่อน้ำทะเลแล้วก็อย่าลืมลองเลือกน้ำตกสักที่แล้วแวะไปเที่ยวกันนะคะ

 

เรียบเรียงโดย  www.hotelandresortthailand.com

7 สถานที่ท่องเที่ยวควรค่าแก่การไปเยือนในเมืองไทย

 

 01--1

01--2

1. หมู่เกาะรัง จ.ตราด

หมู่เกาะรัง เป็นบริเวณที่มีปะการังสวยงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลจังหวัดตราด และที่สำคัญยังเป็นแนวปะการังน้ำตื้นที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกด้วย จนหนังสือเกี่ยวกับการดำน้ำของอเมริกายกให้หมู่เกาะรังติด 1 ใบ 5 ของแหล่งดำน้ำโลกมาแล้วด้วย นอกจากนี้ยังมีเกาะยักษ์ใหญ่ และเกาะยักษ์เล็ก ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ กัน ซึ่งทั้ง 2 เกาะนี้ก็อยู่ในหมู่เกาะรังเหมาะแก่การไปดำน้ำด้วยเช่นกัน

 

02--1

02--2

2. แก่งชมดาว จ.อุบลราชธานี

แก่งชมดาว ตั้งอยู่ที่ อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี เป็นแก่งหินที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำวนจนเกิดเป็นผาหินและแอ่งหลุมรูปทรงแปลกตา ซึ่งจะมีน้ำสีเขียวใสปรากฏให้เห็นอยู่ตลอด และไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดของแก่งชมดาวแห่งนี้อยู่ที่ช่วงยามเช้าและช่วงโพล้เพล้ เพราะแสงจะสวยงามมากๆ โดยเฉพาะเดือนมกราคม – เดือนมิถุนายน แนะนำให้มาท่องเที่ยว

 

03--1

03--2

3. ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช

ลานสกา เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่ามี อากาศดีที่สุดในประเทศไทย โดยที่ลานสกานี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่น่าไปสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง และจุดที่อากาศดีที่สุดของสานสกานั้นตั้งอยู่ ณ บริเวณหมู่บ้านคีรีวง และเป็นเรื่องน่าทึ่งอย่างมากสำหรับบริเวณนี้ เพราะปกติแล้วเกณฑ์มาตรฐานอากาศที่ดี ต้องมีสิ่งแปลกปลอมไม่เกิน 300 ไมครอนต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร แต่ที่หมู่บ้านคีรีวง ลานสกา แห่งนี้กลับพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเพียง 9 ไมครอนต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร เท่านั้นเอง ซึ่งมีอากาศที่บริสุทธิ์กว่ามาตรฐานถึง 100 เท่าเลยทีเดียว จึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมและสูดอากาศที่ดีที่สุดของประเทศไทยอีกด้วย

 

04--1

04--2

4. ดอยเสมอดาว จ.น่าน

ดอยเสมอดาว นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กางเต้นท์พักแรมยอดฮิตอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ด้วยดอยเสมอดาวแห่งนี้เป็นจุดชมวิวที่มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา จึงทำให้เหมาะสำหรับการพักผ่อน นอนดูดาว และชมทะเลหมอกพร้อมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเป็นอย่างมาก

 

05--1

05--2

5. เกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต

เกาะสวรรค์เล็กๆ แห่งใหม่หลังจากที่ถูกปิดนานนับสิบปี เกาะไม้ท่อนแห่งนี้เป็นเกาะส่วนตัวที่แสนเงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน จนได้รับสมญานามว่า Honeymoon Private Island เหมาะสำหรับคู่รักอย่างยิ่ง ด้วยน้ำทะเลใสบริสุทธิ์ดั่งกระจก และความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติรอบๆ เกาะรวมไปถึงสัตว์น้ำนานาพันธุ์ใต้ผืนน้ำที่รอแหวกว่ายต้อนรับผู้มาเยือนเกาะแห่งนี้ รับรองได้ว่าใครที่ได้ไปสัมผัสแล้วจะติดใจจนไม่อยากบ้านกันเลย

 

06--1

06--2

6. น้ำตกถ้ำพระภูวัว จ.บึงกาฬ

น้ำตกถ้ำพระ หรือชื่อเต็มๆ ว่า น้ำตกถ้ำพระภูวัว ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของอำเภอเซกา กับอำเภอบึงโขงหลง น้ำตกที่มีความสวยงดงามมากๆ น้ำที่ไหลลงมาตามชั้นหินสีเทาสลับกับสีน้ำตาลที่ลดหลั่นกันลงมาบริเวณลานกว้าง และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ยังคงอยู่ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำกันเป็นจำนวน เพราะจากน้ำตกแห่งนี้มีด้วยกันถึง 3 ชั้นนั้นเอง โดยเฉพาะในชั้นที่ 2 จะมีลานกว้างไว้ชมดอกไม้ป่านานาพันธุ์ที่ผลิดอกออกช่ออย่าสวยสดงดงามต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน

 

07--1

07--2

7. ดอยเมี่ยง จ.แม่ฮ่องสอน

ดอยเมี่ยง แห่งเมืองปาย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นดอยสูงประมาณ 1,600 เมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้นและมีภูเขาสลับซับซ้อน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยไม้นานาพันธุ์ เช่น ต้นพญาเสือโคร่ง ต้นมะค่า และต้นสน รวมไปถึงมีจุดชมวิวที่สวยงดงาม สามารถมองเห็นเมืองปายได้แบบ 360 องศา บวกกับมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี จึงทำให้ดอยเมี่ยงแห่งนี้เป็นเสมือนสวรรค์แห่งใหม่ของเมืองปายไปโดยปริยาย และที่สำคัญดอยเมี่ยงยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

 

เรียบเรียงโดย  www.hotelandresortthailand.com