รีวิว บ้านสวนน้อย รีสอร์ท ที่พักน่ารักออกแบบสไตล์ภาพยนตร์ The Lord of the Rings

 

บ้านสวนน้อย รีสอร์ท อ.สีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา สร้างสรรค์ด้วยแรงบันดาลใจจากความรัก ความหลงใหลในโลกแฟนตาซีของภาพยนตร์ The Lord of the Rings ความประทับใจในดินแดน Shire ของเหล่าฮอบบิทตัวน้อยน่ารัก ที่มีบ้านแสนอบอุ่น อยู่สบาย น่าพักผ่อน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของบ้านสวยน้อย รีสอร์ท หรือบ้านฮอบบิทนั่นเอง

 

10422027_324783651013011_2855128464340552121_n

1526675_263532817138095_590266492_n

 

บ้านสวนน้อย รีสอร์ท เดิมทีเจ้าของสร้างโดยมีจุดประสงค์ให้เป็นเรือนรับรองต้อนรับในหมู่ญาติและมิตรสหาย ตัวบ้านจำลองจากจินตนาการแบบบ้านโพรงกระต่ายของฮอบบิทโดยพยายามจำลองลักษณะให้คล้ายคลึงกันให้มากที่สุดทั้งภายนอกภายใน แม้ว่าบ้านโพรงกระต่ายหลังน้อยในจินตนาการแห่งนี้ จะไม่เหมือนในภาพยตร์เลยทีเดียว แต่นับได้ว่าได้ให้บรรยากาศที่ทั้งอบอุ่นและน่าพักผ่อนแก่ผู้มาเยือนได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ห้องพักของที่นี่มีเพียง 15 ห้องเท่านั้น แต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกัน ได้บรรยากาศจำลองจากภาพยนตร์และการ์ตูนอีกหลากหลายเรื่อง ภายในห้องพักตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และกระเบื้องโทนสีอบอุ่น โล่งโปร่งด้วยประตูทรงกลมบานกว้างและหน้าต่างหลายบาน เติมความสดชื่นด้วยผ้าปูที่นอนและผ้าม่านสีหวานลายดอกไม้ได้อารมณ์แบบคันทรี่

 

13428611_649873145170725_4456329849796104267_n

10341407_471803092977732_3453066205651861970_n

1555301_263535087137868_898631516_n

10441310_320092091482167_8511768514613571718_n

11855738_526246904200017_1590417331516504442_n

1524693_263534947137882_288113292_n

11110873_471803099644398_3945108861164270469_n

10408651_471803109644397_8641238709188145342_n

12798818_600660926758614_8392644694514224706_n

11541933_516467321844642_7997579134403886876_n

 

บรรยากาศโดยรอบรีสอร์ทไม่ละทิ้งคอนเซปต์เมืองในโลกแฟนตาซี เนื่องจากเจ้าของได้ประดับประดาตกแต่งตัวการ์ตูนที่เห็นแล้วจะต้องร้องอ๋อรู้จักกันในทันที เหมาะสำหรับถ่ายรูปเล่น หรือนั่งพักผ่อนหย่อนใจกับสระบัวเล็กๆ แวดล้อมด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด แต่ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือที่นี่เป็นออร์แกนิคโฮมสเตย์ มีแปลงปลูกผักเล็กๆ และรั้วเตี้ยๆน่ารักๆ ให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ ประทับใจไปกับการต้อนรับแบบเป็นกันเอง อบอุ่นดั่งญาติมิตรคนคุ้นเคยที่ “บ้านสวนน้อย รีสอร์ท”

 

รายละเอียดห้องพักบ้านสวนน้อย

• มีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง รวมทั้ง ทีวี ตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น กาต้มน้ำ

• แต่ละห้องมี1เตียงนอนได้2คน (ยกเว้นห้อง234นอนได้6คน) กรณีพักเกินคิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม 250 บาทต่อคน(ราคารวมที่นอนปิคนิค และอาหารเช้า)

• ฟรี น้ำดื่ม+กาแฟ+อาหารว่าง (Minibar-free)

• อาหารเช้าฟรีห้องละ 2 ที่ : Breakfast ไข่กระทะ , ข้าวต้ม , น้ำผลไม้ (รายการอาจเปลี่ยนแปลงได้)

• เวลา Check-in 15.00 น. Check-out 12.00 น.

 

12250182_561071184050922_7719437090006716913_n

13417514_650475431777163_3179737842784417997_n

12065818_561071257384248_372687733131552977_n

12234939_561071244050916_384243352848475468_n

10931265_483297105161664_2160426672771637342_n

15027537_1314593645274188_8134330656007123765_n

15095701_1314593638607522_2770112424335430828_n

11693801_516467398511301_2028460079356712539_n

1607083_263532790471431_1297274764_n

1497606_263532777138099_140874053_n

1524724_263532703804773_247965049_n

788491_16051215530042277023

1495550_263532717138105_1789334376_n

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

บ้านสวนน้อย รีสอร์ท

292 หมู่ 15 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา 30340

เบอร์โทร  : 081 291 5160

เว็บไซต์ :  www.baansuannoi.com

Facebook : www.facebook.com/Baansuannoiresort

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

รีวิว Beat Hotel Bangkok ที่พักใจกลางเมืองติด Bts

 

Beat Hotel Bangkok (บีท โฮเทล แบงค็อก) ตั้งอยู่ในโครงการ W District ระหว่างซอยสุขุมวิท 69-71 เดินทางสะดวกเพียง 200 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง ประตูทางออกที่ 3 เหมาะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร พร้อมชื่นชมและสัมผัสกับเสน่ห์วิถีชีวิตของชาวพระโขนงบริเวณโดยรอบ

 

14520377_1275964672470419_8536815961931866144_n

14611008_1275964779137075_679032093518530599_n

14657459_1275964775803742_2915128118626296106_n

14485173_1275964789137074_3775634787974429539_n

 

“บีท โฮเทล แบงค็อก” เป็น Design Hotel ที่มีห้องพักทั้งหมด 54 ห้อง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ห้อง Superior ห้อง Deluxe และห้องJunior Suite ภายใต้คอนเซ็ป Stay in the art of Bangkok ที่ได้เกียรติจากศิลปินแนวหน้าของไทยมาออกแบบลวดลายห้องพักให้โรงแรมโดยเฉพาะ ได้แก่ LOLAY, P7, MMFK, SUNTUR, JEEP, OH+ FUTON ซึ่งคุณสามารถเลือกลายห้องพักได้ตามสไตล์และอย่างที่ใจต้องการ

 

14519868_1275964909137062_6029102848243430328_n

14632999_1275964519137101_4655839012756407601_n

14650593_1275964539137099_1769268095928688188_n

14657299_1275964305803789_6849644199018107779_n

14639867_1275964385803781_8099450114619400322_n

14600914_1275964425803777_1308443015154952287_n

14520388_1275964455803774_3331725147433441254_n

14516584_1275965005803719_5695183241657397600_n

14495263_1275964482470438_4954085638573100546_n

11221722_1275964969137056_2810897030909741374_n

14591709_1275964942470392_1686012709803717468_n

14572954_1275964309137122_276294993114270906_n

14641915_1275965102470376_6865137524246965051_n

14581332_1275964389137114_3073945117664535627_n

14650676_1275964865803733_8423695041201609847_n

14502725_1275964852470401_7568574666221422697_n

14492540_1275964302470456_3147179712770085793_n

14502785_1275964879137065_4220911539647156790_n

14522742_1275965079137045_5571835668972195678_n

14563452_1275964862470400_7300739115405324582_n

14657339_1275965145803705_6113139209447791323_n

 

ผู้เข้าพักยังได้ผ่อนคลายไปกับ MELTING POT พื้นที่ส่วนกลาง สไตล์ Industrial Loft ที่คุณจะสามารถหลอมรวมไอเดียความคิด และพบปะเพื่อนใหม่ได้ ทั้งยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ของตึก E88 BANGKOK สำหรับการจัดงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้, งานสังสรรค์, งานสัมมนา และงานแต่งงาน ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ภายในคอนเวนชั่นฮอลล์ขนาดใหญ่รูปทรงไข่ที่แปลกสะดุดตา

 

“บีท โฮเทล แบงค็อก”ไม่เพียงแต่เสิร์ฟผลงานศิลปะให้กับผู้เข้าพัก แต่ยังเสิร์ฟเมนูอาหารแสนอร่อยและบาร์ที่คุณสามารถเลือกจิบเครื่องดื่มรสเยี่ยม พร้อมให้บริการตลอดทั้งวัน หรือหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศด้านข้างโรงแรมยังมีโซนอาหารนานาชาติ W MARKETที่เพรียบพร้อมด้วยอาหารที่หลากหลายนานาชนิดมากกกว่า 50 ร้าน รสชาติแบบต้นตำรับที่พร้อมให้บริการคุณจนถึงเที่ยงคืน

 

14572952_1275964652470421_6672752974070566788_n

14494809_1275964572470429_5107484646902762396_n

14494695_1275964569137096_8426067045308171511_n

14517435_1275965072470379_4681542696892929399_n

14570263_1275965292470357_1803343563742338651_n

14572235_1275964522470434_2042091310574145757_n

 

ทำให้วันพักผ่อนของคุณมีสีสันและบรรยากาศมากกว่าที่เคยได้รับกับ “บีท โฮเทล แบงค็อก” ราคาห้องพัก 2,000 ++ บาท (รวมอาหารเช้า)

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Beat Hotel Bangkok (บีท โฮเทล แบงค็อก)

ที่ตั้ง: 5/5 สุขุมวิท 69-69/1 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนากรุงเทพฯ 10110

Tel : 02-178-0077

Website : www.beathotelbangkok.com

Facebook : www.facebook.com/beathotel

IG : beatbangkok

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

รีวิว ห้องอาหารสเปน UNO MAS ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์

ใครที่ปลาบปลื้มอาหารสเปน หรือใครที่ยังไม่เคยทานแต่อยากลิ้มลองรสชาติอาหารแนวใหม่ ทางโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ได้เปิด UNO MAS ห้องอาหารสเปน ภายใต้บรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนเหมือนได้ไปทานข้าวริมทะเลแถบยุโรปตอนใต้ยังไงยังงั้นเลย โดยห้องอาหารตั้งอยู่บนชั้น 54 ชมวิวเมืองกรุงได้อย่างเพลินๆ

01

เข้ามาแต่แรกก็เจอเลย ไลน์อาหารน่าทานทั้งนั้น วันที่ทีม hotelandresortthailand ไปลองทานนั้นเป็นบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน อาหารจะเป็นลักษณะแบบ Tapas มีให้เลือกหลากหลาย

Tapas & Raw Bar

02

03

04

มีโซน Wine Cellar

05

บรรยากาศห้องอาหาร

06

07

08

09

10

11

Raw Bar

12

วันเสาร์มี Sangria เครื่องดื่มสัญชาติสเปนให้เลือกชิมกัน 5 รสเลยทีเดียว

13

อันนี้ก็สดชื่นดี

14

มีเมนู Tapas to Order

15

สั่งมาลองเยอะแยะเลย

16

เป็นโรลมันฝรั่งตุ๋นในน้ำมันมะกอก กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟกับซอสมะเขือเทศแบบเผ็ด และซอสไอโอรี่มายองเนส

17

จานนี้ออกแนวฟิวชั่น แซลมอนห่อด้วยสาหร่ายทอด ทานกับซอสวาซาบิ

18

ไข่เจียวแบบสเปน ใส่มันฝรั่งและหัวหอม

19

หอยแมลงภู่ จานนี้เด็ด

20

21

กุ้งผัดในน้ำมันมะกอกกับกระเทียม พริกป่นสเปน พริกแห้งสเปน

22

ปลาฮาลิบัทเสิร์ฟพร้อมฟักทองบดและเห็ดผัด อร่อยมาก

23

ข้าวผัดสเปน

24

หมูอบสไตล์สเปน หนังกรอบมาก ใครชอบทานหมูกรอบ น่าจะชอบ มันไปนิดแต่อร่อยค่ะ

25

ไส้กรอกสเปนเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งบด พลาดไม่ได้นะคะอันนี้

26

เนื้อสันในวัวจากอาร์เจนติน่าย่างเสิร์ฟพร้อมซอสสูตรพิเศษจากเชฟ

27

ปลาทูน่าย่างเสิร์ฟพร้อมซุปมะเขือเทศเย็นเข้มข้น ปลาสดและหวานนุ่มลิ้น

28

มาดูของหวานกันมั่ง

อัลมอนด์เค้กกับไอศกรีมฮาเซลนัท

29

คาตาลันครีม หอมมัน หวานน้อย

30

ของหวานสุดโปรด อร่อยมาก ต้องลอง ช็อกโกแลตชีสเค้ก

31

ตักดูด้านใน

32

อิ่มมากจริงๆทานจนพุงกางนะคะ เห็นจานเล็กๆแบบนี้ แต่มาทีหลายอย่างมากๆ ไปกันหลายๆคนจะดีค่ะ เพราะจะได้แบ่งกันชิม ทานได้หลายๆอย่าง ไม่อย่างนั้นอิ่มซะก่อน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมที่ UNO MAS ติดต่อด้านล่างได้เลย

ที่อยู่ ชั้น 54 เลขที่ 999/99 ถ. พระราม 1 แขวง-เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
ตึก/อาคาร โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
Facebook : https://www.facebook.com/UnoMasBangkok/
เบอร์ติดต่อ 02-100-6255

Website: http://www.unomasbangkok.com

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

ตามรอยพ่อหลวง กับ 9 โครงการหลวงน่าเที่ยว

 

โครงการหลวงอันเกิดจากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งที่ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในเขตพื้นที่ต่างๆ ได้เล็งเห็นถึงความยากลำบากของราษฎร จึงเกิดแนวพระราชดำริจัดตั้งโครงการหลวงขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงพัฒนาพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรให้ดียิ่งขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงวางรากฐานเอาไว้จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

ปัจจุบันหลายพื้นที่โครงการหลวงในประเทศไทยได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทุกฤดูกาล ท่ามกลางป่าเขา ทุ่งนา น้ำตก ลำธาร และดอกไม้ ทำให้โครงการหลวงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจและเหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อน ชื่นชมทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงดงาม วันนี้จึงได้รวบรวม 9 โครงการหลวงมาฝากกัน

 

1. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงอินทนนท์ ได้ก่อกำเนิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์จัดตั้ง เพื่อช่วยเหลือชาวเขาให้มีพื้นที่ทำมาหากินเป็นหลักแหล่ง ส่งเสริมการปลูกพืชแทนการปลูกฝิ่น ลดการทำไร่เลื่อนลอย ปรับปรุงความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น รวมถึงส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ ต้นน้ำลำธาร ถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรแผนใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิตทางด้านการเกษตรให้สูงขึ้น นอกจากนี้สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ยังเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยให้ได้มาเยี่ยมชมและศึกษาความงดงามของพื้นที่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้จัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้น อาทิเช่น

  • พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
  • น้ำตกสิริภูมิ หรือ สวนหลวงสิริภูมิ ที่ตั้งอยู่ภายในสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ โดยบริเวณหน้าน้ำตกสิริภูมิมีสวนธรรมชาติตกแต่งด้วยพรรณไม้ต่างๆ นานาตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
  • ชมวิถีชีวิต, การแต่งกาย, การละเล่นของชาวเขาเผ่าม้ง และเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่น งานหัตถกรรมที่ตลาดม้ง
  • โรงเรือนรวบรวมและจัดแสดงพืชกินสัตว์ที่เหมาะกับสภาพอากาศบนพื้นที่สูง เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง พิงกุย ซาราซีเนียชนิดต่างๆ เป็นต้น
  • โรงเรือนจัดแสดงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ เฟิร์นหายาก พืชกินสัตว์ และพืชกินแมลง ตลอดจนโรงเรือนผักไฮโรโปนิกส์ ผักเมืองหนาวประเภทสลัดด้วยวิธีปลูกแบบไร้ดิน
  • ชมสวน 80 พรรษา  ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และเป็นสถานที่จัดแสดงขึ้นเพื่อรองรับการศึกษาดูงานเกี่ยวกับพรรณไม้ดอกเมืองหนาว โดยพรรณไม้ที่อยู่ในสวนเป็นการนำพรรณไม้ดอก ไม้ยืนต้นออกมาสาธิตในรูปแบบของการจัดภูมิทัศน์ให้สวยงาม ภายในสวนตกแต่งด้วยไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด
  • ชมสวนกุหลาบพันปี ที่ถือว่าเป็นราชินีบนยอดดอยซึ่งหาชมได้ยาก โดยสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ได้ทำการศึกษาและขยายพันธุ์กุหลาบฟันปีจำนวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 Rhododendron สีแดง, สีขาว กลุ่มที่ 2 Azalea เป็นพืชกลุ่มหนึ่งในตระกูล Rhododendron เป็นลูกผสมจากงานศึกษาค้นคว้า และทดสอบพันธุ์ และกลุ่มที่ 3 Vireyas เป็นพันธุ์ลูกผสม ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย

 

1-1

1-2

1-3

1-4

1-6

1-7

1-8

1-9

1-10

1-11

 

2. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปีสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,400 เมตร เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงกาหลวง จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “ให้ช่วยเขา ช่วยตัวเอง” มีพระราชประสงค์ให้ชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ตามดอยต่างๆ ทางภาคเหนือเลิกปลูกฝิ่น และเลิกทำไร่เลื่อนลอย อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ป่าไม้และต้นน้ำลำธารของประเทศถูกทำลาย จากเดิมที่เป็นดอยหัวโล้นได้แปรสภาพเป็นขุนเขาใหม่แห่งความอุดมสมบูรณ์ โดยทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด ไม้ผลกว่า 12 ชนิด และดอกไม้เมืองหนาวกว่า 20 ชนิด บนพื้นที่ 1,800 ไร่ บริเวณโดยรอบสถานีเกษตรหลวงอ่างขางแห่งนี้มีหมู่บ้านชาวเขากว่า 9 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านขอบด้ง บ้านนอแล บ้านหลวง บ้านปางม้า บ้านป่าคา บ้านคุ้ม บ้านผาแดง บ้านถ้ำง้อบ และบ้านสินชัย เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าจีนยูนนาน ไทใหญ่ มูเซอดำ และปะหล่อง อาศัยอยู่รวมกันในพื้นที่ โดยสถานีเกษตรหลวงอ่างขางได้เปิดให้เที่ยวชมศึกษาธรรมชาติและวิถีชีวิตในท้องถิ่น อาทิเช่น

  • สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาหมู่บ้านต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขออนุญาตเจ้าของบ้านเข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิดได้
  • แวะชิมชาท้องถิ่น และวิธีการสาธิตชงชา ได้ที่สถานที่แปรรูป
  • ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ชมกุหลาบพันปี จะเบ่งบานพร้อมกันในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยห่างจากสถานีประมาณ 4.5 กิโลเมตร
  • ชมสวนแปดสิบ เป็นสวนกลางแจ้งที่ตกแต่งสไตล์อังกฤษ มีดอกไม้ ไม้ประดับปลูกหมุนเวียนตลอดทั้งปี ด้านบนยังมีลานต้นซากุระญี่ปุ่นที่พร้อมเบ่งบานช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม
  • ชมสวนหอม เป็นสวนที่รวบรวมพันธุ์ไม้ที่มีกลิ่นหอมทั้งในและต่างประเทศ เช่น ต้นหอมหมื่นลี้ มะลิเนปาล ลาเวนเดอร์ ถ้าได้เดินผ่านสวนจะรู้สึกได้กลิ่นหอมจากพรรณไม้เหล่านั้นในสวน
  • ชมสวนบอนไซอ่างขาง ที่จัดแสดงพันธุ์ไม้หลากชนิดตั้งแต่ยุคแรกเริ่มก่อตั้งสถานีในรูปแบบการปลูกเลี้ยงในกระถางแบบบอนไซ นอกจากนี้ยังมีพืชทนแล้ง พืชกินแมลง และสวนหินธรรมชาติจุดชมวิวภายในสถานี
  • ชมแปลงไม้ผลตามฤดูกาลหลากหลายตลอดทั้งปี เช่น พีช พลับ สาลี กีวี่ เป็นต้น
  • ชมแปลงบ๊วย โดยต้นบ๊วยที่ปลูกตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโครงการหลวงปัจจุบันได้แตกกิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาเย็นสบาย
  • ชมโรงเรือนดอกไม้ สวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว โรงเรือนกุหลาบตัดดอกซึ่งรวบรวมกุหลาบชนิดตัดดอกสายพันธุ์ต่าง ๆ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ โรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผัก ผักเมืองหนาวหลากหลายชนิด รวมถึงพืชสมุนไพรของโครงการหลวงต่างๆ มากมาย
  • ชมหิ่งห้อยยามค่ำคืนที่แปลงพีชฝั่งตรงข้ามสวนบอนไซตลอดจนถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ โดยสามารถชมได้ทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม

 

2-1

2-2

2-3

2-4

2-5

2-6

2-7

2-8

2-9

2-10

2-11

 

3. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 17 หมู่บ้าน 1,061 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยง ซึ่งก่อตั้งหมู่บ้านมานานกว่า 50 ปี ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน พื้นที่ราบอยู่ตามหุบเขา มีต้นน้ำสายสำคัญไหลผ่านคือ ลำน้ำแม่หยอดและลำน้ำปางเกี๊ยะ นอกจากธรรมชาติที่สวยงดงามแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถเรียนรู้และใกล้ชิดกับวิถีชีวิตที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋งได้อีกด้วย อาทิเช่น

  • ชมแปลงปลูกมันฝรั่ง แครอท อะโวกาโด แปลงสาธิตกาแฟอาราบิก้า แปลงสาธิตองุ่นไร้เมล็ด แปลงสาธิตพืชผัก เช่น มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ฯลฯ
  • ชมวิถีชีวิตและการละเล่นของชาวเขาเผ่าม้ง เช่น ลูกข่างไม้ โยนลูกช่วง ตีลูกข่าง ล้อเลื่อนไม้ เป่าแคนม้ง เป็นต้น
  • ชมทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม ห่างจากที่ตั้งศูนย์ฯประมาณ 40 กิโลเมตร โดยดอกบัวตองจะบานช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
  • แอดเวนเจอร์กับเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติดอยหมื่อกาโด่ เป็นเส้นทางชมพรรณไม้ป่า กุหลาบพันปี ดูนก เลียงผา และจุดชมวิวทะเลหมอกที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,927 เมตร

 

 3-1

3-2

3-3

3-4

3-5

 

4. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522 ด้วยแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เล็งเห็นถึงปัญหาอันเกิดจากความขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีพและขาดการสนับสนุนด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านอาชีพที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลให้ความรู้ทางด้านเกษตรกรรม จึงได้มีการมุ่งเน้นการพัฒนาด้านอาชีพทางด้านการเกษตร เพื่อนำรายได้เข้าสู่ชุมชน ยับยั้งการปลูกฝิ่นและลดปัญหาการบุกรุกป่าทำไรเลื่อนลอย โดยศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา มีทัศนีภาพที่สวยงดงามเป็นพิเศษเหมาะแก่การทำนาและปลูกพืช ส่วนพื้นที่ลาดเชิงเขาเหมาะแก่การปลูกพืชไร่และผลไม้ ประชากรในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้ง นับถือศาสนาพุทธและคริสต์ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิเช่น

  • ชมแปลงสาธิตการผลิตพืชผัก ไม้ดอก ไม้ผลตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี ผักกาดหอมห่อ แครอท เบบี้แครอท องุ่น กีวี พลับ พลัม เป็นต้น
  • เที่ยวชมน้ำตกห้วยกระแส ซึ่งจะได้สัมผัสกับป่าสนเขา ถึงแม้จะมีปริมาณน้ำไม่มากแต่ก็มีน้ำไหลรินชุ่มชื่นตลอดทั้งปี โดยเดินทางจากศูนย์ฯประมาณ 5 กิโลเมตร และเดินเท้าอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
  • เที่ยวน้ำตกบ้านโป่งสมิต ที่ต้องเดินเท้าผ่านทุ่งนาเพื่อชมวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง การทำนา และปลูกพืชแบบนาขั้นบันได หรือไหว้พระที่วัดพระธาตุศรีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ สามารถไปนมัสการพระธาตุได้ตลอดทั้งปี และชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ
  • เที่ยวปางช้างแม่วิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมการล่องแพ ขี่ช้างตามลำน้ำแม่วาง ซึ่งตั้งห่างจากศูนย์ฯประมาณ 15 กิโลเมตร

 

4-1

4-2

4-3

4-4

4-5

 

5. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก จ.เชียงใหม่

หมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลความเจริญ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รายได้น้อย ความเป็นอยู่ค่อนข้างยากลำบาก จนกระทั่งปี พ.ศ. 2524 สายพระเนตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยราษฎร พระองค์ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อใช้เป็นทุนทรัพย์ในการก่อตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก โดยมีเป้าหมายให้เป็นศูนย์สาธิตและส่งเสริมการเพาะเห็ดและกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ให้แก่ราษฎรนอกเหนือจากการปลูกเมี่ยง การรับรู้รับฟังตลอดจนสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้าน ร่วมกันสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดำรงชีวิต ทำให้ชาวบ้านก้าวสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขาและป่าเบญจพรรณ ครอบคลุมพื้นที่ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านป๊อก บ้านแม่ลาย บ้านแม่กำปอง และบ้านธารทอง ประชากรเป็นคนเมืองทั้งสิ้น ผู้ที่ได้เดินทางมาที่นี่สามารถชื่นชมธรรมชาติและเพลิดเพลินกับกิจกรรมภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก อาทิเช่น

  • ชมโรงเรือนกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิสหมากสีสัน
  • ชมแหล่งผลิตกาแฟอาราบิก้าคุณภาพดีของโครงการหลวงฯ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติป่าไม้ และลำน้ำจากน้ำตก
  • ชมชุมชนคนเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน “บ้านแม่กำปอง” ซึ่งเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงกันดีว่าเป็นบริการที่พักแบบ Home Stay ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศไทย
  • ชมวิถีชีวิตพื้นเมืองหมู่บ้าน ชมการทำสวนเมี่ยง หมัก-นึ่งเมี่ยงแบบดั้งเดิม และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ รวมถึงสวนสมุนไพรต่างๆ ในท้องถิ่น
  • ชมวิวดอยม่อนล้าน ชื่นชมธรรมชาติป่าไม้ ต้นกฤษณา กล้วยไม้ป่า และจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งบานและทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาว พร้อมทั้งสามารถศึกษาเส้นทางที่เชื่อมไปถึงอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง ได้อีกด้วย

 

5-1

5-2

5-3

5-4

5-5

5-6

5-7

 

6. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง ตั้งอยู่บนพื้นที่ของเทือกเขาสลับซับซ้อน สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 – 1,400 เมตร โดยศูนย์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังบ้านขุนวางเป็นครั้งแรก ได้ทอดพระเนตรเห็นว่า บริเวณแห่งนี้ยังมีการปลูกฝิ่นเป็นอย่างมาก ควรจะส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นที่มีรายได้ดีกว่าหรือทัดเทียมกับการปลูกฝิ่น จึงได้รับส่งให้หน่วยงานในพื้นที่ช่วยกันพิจารณา ปรับปรุง และพัฒนาพื้นที่ โดยเริ่มดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาด้านไม้ผลเป็นลำดับแรก ต่อมาจึงได้ขยายผลการดำเนินงานด้านไม้ดอก และส่งเสริมพัฒนาด้านสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่ ในปัจจุบันศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง มีพื้นที่รับผิดชอบดำเนินงานถึง 499 ไร่ ครอบคลุมถึง 7 หมู่บ้านคือ บ้านขุนวาง  บ้านป่ากล้วย  บ้านโป่งลมแรง  บ้านโป่งน้อยเก่า  บ้านห้วยยาว และบ้านขุนแม่วาก นอกจากนี้ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวางยังมีบ้านพัก แคมป์ไฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้ให้บริการสำหรับผู้ที่จะเดินทางมารับการเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตร วิถีชีวิตชนเผ่า และเยี่ยมชมธรรมชาติในพื้นที่ อาทิเช่น

  • ชมโรงเรือนปลูกดอกเบญจมาศหลากหลายสีสัน ทั้งแบบดอกเดี่ยว ดอกช่อ และดอกลิเซียทัส คาร์เนชั่น ลิลลี่
  • ชมโรงเรือนสาธิตการปลูกวานิลลา โดยจะออกฝักพร้อมเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนมีนาคม โรงเรือนเห็ดเมืองหนาว เช่น เห็ดโพโตเบลโล เห็ดแชมปิญอง เป็นต้น
  • ชมแปลงปลูกชาจีนเบอร์ 12 พันธุ์หยวนจืออู่หลง พร้อมดูขั้นตอนการผลิตชาและลิ้มลองชิมชาอร่อยๆ
  • ชมแปลงไม้ผล เช่น องุ่นไร้เมล็ด สตรอว์เบอร์รี่ พีช กีวี และบ๊วย รวมถึงแปลงปลูกผักเมืองหนาว เช่น บล็อกโคโลนี บล๊อคโคลี่ หอมญี่ปุ่น มะเขือเทศดอยคำ ผักกาดหวาน ถั่วหวาน เป็นต้น

 

6-1

6-2

6-3

6-4

6-5

6-6

6-7

6-8

 

7. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮ จ.เชียงใหม่

หมู่บ้านแม่แฮและหมู่บ้านใกล้เคียง ในเขตตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง และตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ม้ง และจีนยูนนาน ประกอบอาชีพทำนาทำไรแบบเลื่อนลอย ปลูกข้าวโพด ปลูกฝิ่น เลี้ยงสัตว์ตามธรรมชาติ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาอาชีพของชาวเขาหมู่บ้านแม่แฮและหมู่บ้านใกล้เคียงขึ้น โดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี  ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ได้ขอให้สำนักเกษตรภาคเหนือเป็นผู้ดำเนินงานภายใต้ “โครงการหลวงพัฒนาเกษตรที่สูงแม่แฮ” ภายหลังก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แฮ” โดยภายในศูนย์ฯ แห่งนี้ได้มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายจุดรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านให้ได้แวะมาเยี่ยมเยือนกัน อาทิเช่น

  • ชมแปลงสาธิตการผลิตพืชผักเมืองหนาว ได้แก่ กะหล่ำปลีแดง ผักกาดหวาน ผักกาดหอมห่อ และสาธิตการเพาะกล้าผักเมืองหนาวชนิดต่างๆ ชมแปลงสาธิตการผลิตไม้ผล ได้แก่ องุ่น สาลี่ กีวี พลับ เคพกูสเบอร์รี เป็นต้น
  • ชมสวนสตอเบอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้ที่บ้านบ่อแก้ว โดยจะเก็บผลผลิตได้ช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม ของทุกปี
  • ชมดอกซากุระบาน หรือที่เรียกอีกชื่อว่า นางพญาเสือโคร่ง ภายในพื้นที่ศูนย์ฯ ตลอดช่วงฤดูหนาวของทุกปี รวมถึงในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี สามารถชื่นชมดอกบัวตองบานริมถนนตลอดสายแม่เตียน-แม่แฮ-ป่าเกี๊ยะน้อย และถนนสายแม่แฮ-ห้วยขมิ้นนอก การเดินทางสะดวกสบายสามารถเดินทางโดยรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ได้
  • ชมรอยพระบาท ที่คนในชุมชนเชื่อว่าเป็นรอยพระบาทของคนยุคสมัยโบราณซึ่งเห็นรอยมือและรอยเท้าได้อย่างชัดเจน พร้อมชมบ่อน้ำแร่จากธรรมชาติ
  • ชมวิวทิวทัศน์จากศูนย์ฯ และยอดดอยที่เป็นจุดที่สูงที่สุดของพื้นที่คือ ดอยม่อนยะ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบ้านห้วยน้ำจางและม่อนยะใต้ ตลอดเส้นทางสู่ยอดดอยนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่สวยงดงาม

 

7-1

7-2

7-3

7-4

7-5

 

8. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ จ.เชียงใหม่

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 19 หมู่บ้าน และพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 หมู่บ้าน โดยมีพื้นที่รวมถึง 153,592 ไร่ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าปกากะญอ ซึ่งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์แห่งนี้ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชผัก และผลไม้เมืองหนาว เนื่องจากพื้นที่ภูมิประเทศเป็นพื้นที่ป่าสนและป่าเต็งรังขนาดใหญ่ จุดเด่นคือ ป่าสนธรรมชาติที่กว้างใหญ่กว่าแสนไร่ ถือเป็นป่าสนอายุกว่าร้อยปีผืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งสนสองใบและสนสามใบ และสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย ที่นี่ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 ชมป่าสนสองใบ เป็นป่าสนธรรมชาติ มีกล้วยไม้ป่าและนกประจำถิ่นหลายชนิด และเส้นทางที่ 2 ชมป่าสนสามใบ มีพรรณไม้ป่าและนกหายากหลายชนิดอีกด้วย นอกจากนี้ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ยังมีกิจกรรมให้ได้ชื่นชมและสัมผัสกับธรรมชาติอีกมากมาย อาทิเช่น

  • แปลงสาธิตผักของเกษตรกร เช่น ฟักทองมินิ ผักกาดขาว ซุกินี่ ไม้ผลเมืองหนาวตามฤดูกาล เช่น พลับ พลัม พีช บ๊วย สาลี่ เป็นต้น
  • ชมงานส่งเสริมปศุสัตว์บนพื้นที่สูง เช่น กวาง แพะ กระต่าย ไก่หลากหลายสายพันธุ์ เป็นต้น
  • ชมวิวทะเลหมอก ซึ่งอยู่ช่วงต่อระหว่างบ้านเด่น อำเภอกัลยานิวัฒนา กับบ้านห้วยตอง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
  • ชมต้น “หยาดน้ำค้าง” เป็นพืชกินแมลง มีต้นที่สวยงาม และหาพบได้ยาก

 

8-1

8-2

8-3

8-4

8-5

8-6

 

9. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า จ.พะเยา

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่าสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 640 เมตร โดยจัดตั้งศูนย์ฯขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 ดำเนินการบุกเบิกพื้นที่จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ การจัดสรรพื้นที่ทำกิน และการส่งเสริมให้คนในพื้นที่ปลูกไม้ผลเมืองหนาว เนื่องจากลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงและเนินเขาสลับไปมา จึงมีลำน้ำสายสำคัญคือ ลำน้ำแม่คะ และลำน้ำเงิน ในการหล่อเลี้ยงชางเขาเผ่าเย้าและม้ง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับแปลงสาธิตการปลูกผักในโรงเรือน อาทิเช่น มะเขือเทศโทมัส, พริกหวาน, คะน้าฮ่องกง, คะน้ายอด, เบบี้ฮ่องเต้ ฯลฯ หรือชมแปลงสาธิตการปลูกไม้ผล อาทิเช่น อะโวคาโด, เสาวรสหวาน, มะม่วงนวลคำ, เคฟกูสเบอรรี่, แมคคาดีเมีย เป็นต้น

 

9-1

9-2

9-3

9-4

9-5

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

รีวิว คอร์สรักสุขภาพโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์&บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์

 

สำหรับคนรักสุขภาพ ต้องรักเลยที่นี่ LIFESTYLES ON 26 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นศูนย์ดูแลสุขภาพที่ได้ทั้งความฟิตแอนด์เฟิร์ม ผ่อนคลายความเครียด ที่นี่มีให้บริการทั้งฟิตเนส เครื่องออกกำลังกายทันสมัย ได้บริหารทั้งแขน ขา ไหล่ หลัง หรือจะเลือกออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง ที อาร์ เอ็กซ์, คิกบ็อกซิ่ง และโยคะ ฟลาย ทั้งหมดนี้ภายใต้การดูแลของเทรนเนอร์มืออาชีพ และล่าสุดที่นี่ยังมีคลาสเรียนซุมบ้าให้ได้มาลองเต้นกันด้วย ฝึกสอนโดย ครูตั๋ง ชัชวาล สิงหเสนี หนึ่งในโค้ชที่ได้รับสิทธิ์การสอนซุมบ้าในประเทศไทย ซึ่งการเต้นซุมบ้าไม่เพียงแต่ช่วยกระชับสัดส่วนแต่ยังช่วยปรับรูปร่างให้ดูดีขึ้น ทั้งยังเสริมบุคลิกภาพการเคลื่อนไหวให้น่ามอง ครูตั๋งยังบอกด้วยว่า ซุมบ้าเป็นการบริหารร่างกายแบบคาร์ดิโอ สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 800-1000 กิโลแคลอรี่ใน 1 ชั่วโมง ใน 1 ชั่วโมงนี้จะมีเพลงหลากสไตล์ทั้งเพลงที่มีกลิ่นอาย ดนตรีเทคโนแดนซ์ ฮิปฮอป แซมบ้า อินเดีย ท่าเต้นจะเป็นจังหวะช้า-เร็ว ทุกส่วนได้เคลื่อนไหวทั้งแขน ขา หน้าอก เอว สะโพก และ กล้ามเนื้อ รับรองว่าสนุกจนลืมเหนื่อยเลยทีเดียว

 

IMG_6256

IMG_6264

IMG_6262

IMG_6248

Fitness

 

เติมเต็มความสมบูรณ์แบบของวันพักผ่อนด้วยสปา เซ็นวารี สปาหรูท่ามกลางบรรยากาศสุดผ่อนคลาย ปรนนิบัติคุณด้วยเทอราพีสผู้เชี่ยวชาญ มีทรีทเมนท์หลากหลายให้เลือกผ่อนคลาย ซึ่งตัวแนะนำอีกตัวหนึ่งคือ Kati Basti เป็นศาสตร์การนวดที่ช่วยผ่อนคลายมากขึ้นไปอีกระดับเทียบกับการนวดแบบอโรม่า เป็นการนวดแบบ Ayurvedic ผสมผสานการนวดน้ำมัน โดยน้ำมันที่ใช้จะเป็น Shirodhara น้ำมันพิเศษสำหรับนวดอายุรเวช มีกลิ่นหอมของสมุนไพร ซึ่งตรงนี้จะไม่เหมือนน้ำมันนวดอโรม่าทั่วไป โดยมีความผ่อนคลายมากกว่า จุดเด่นอยู่ที่การใช้แป้งโดว์อุ่นๆ มีลักษณะวงกลมแบบโดนัทวางลงบนแผ่นหลัง จากนั้นเทอราพีสจะค่อยๆรินน้ำมัน Shirodhara อุ่นๆลงในวงกลมของแป้งโดว์ จากนั้นทิ้งไว้สักครู่ ให้ความอุ่นของน้ำมันซึมไปทั่วแผ่นหลัง ผู้นวดจะรู้สึกผ่อนคลาย ความเครียดและความเมื่อยล้าที่เผชิญมาทั้งวันพลันหายไปทันที สำหรับราคาอยู่ที่ 2,500 บาท++ (ไม่รวมอัตราภาษีและค่าบริการ) ระยะเวลา  75 นาที

 

spa3

IMG_6201

IMG_6209

spa1

IMG_6203

IMG_6238

IMG_6213

IMG_6225

IMG_6223

IMG_6232

IMG_6236

IMG_6233

spa 2

IMG_6228

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองห้องสำหรับทำทรีทเม้นท์ได้ที่สปาเซ็นวารี โทร. 02100 1234 ต่อ 6511, 6516 หรืออีเมล์: spacgcw@chr.co.th

 

เรียงเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

รีวิว รีสอร์ทอัญมณีเม็ดงามบนเกาะสมุย “บุรี รสา วิลเลจ”

 

บุรี รสา วิลเลจ อัญมณีเม็ดงามบนเกาะสมุย เชิญคุณมาค้นพบสรวงสวรรค์แห่งวันพักผ่อนระดับ 5 ดาว ท่ามกลางป่าโอเอซิสเขียวขจีอันมีท้องทะเลสีฟ้าครามทอดยาวอยู่เบื้องหน้า ผ่อนคลายให้เต็มที่กับที่พักหรูบนหาดเฉวง ชายหาดที่คึกคักที่สุดบนเกาะสมุย แต่ทว่าสีสันและความครื้นเครงมิอาจรบกวนความสงบของคุณได้ เนื่องด้วยที่พักได้ถูกออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว ปลูกสร้างท่ามกลางหมู่ไม้เมืองร้อนให้ความร่มรื่นหลีกเร้นจากสิ่งรบกวนภายนอก ทั้งยังมีรั้วไม้สไตล์ทรอปิคอลแบ่งแยกสัดส่วนให้ความเป็นส่วนตัวอย่างชัดเจน บุรี รสา วิลเลจ เกาะสมุยออกแบบและตกแต่งแบบผสมผสานระหว่างการตกแต่งแบบตะวันออกและแบบไทย เจือกลิ่นอายวันพักผ่อนบนเกาะเมืองร้อน หรูหราด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องพักให้บริการเริ่มตั้งแต่ห้องดีลักซ์ ห้องดีลักซ์ พรีเมี่ยม ห้องดีลักซ์ การ์เด้นท์ คอร์ท วิธ ดิป พูล และห้องดีลักซ์ แฟมิลี่ สวีท เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบคู่รัก เพื่อนและครอบครัว

 

activities-in-samui-2

deluxe-12

 

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆในโรงแรม บุรี รสา วิลเลจ เกาะสมุย ได้จัดเตรียมห้องอาหารแบบ Open air ริมหาด The Beach Club ให้บริการอาหารไทยและเมนูปิ้งย่างซีฟู้ด เลือกใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงสดใหม่ ปรุงโดยเชฟมากฝีมือ และมี The Beach Bar สำหรับเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นๆท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกริมหาดเฉวง สำหรับใครที่ต้องการวันหยุดพักผ่อนอย่างแท้จริงทางรีสอร์ทได้แนะนำสปาหรูอย่าง Nam Thai Herbal Spaที่บริการต้อนรับคุณดั่งแขกคนพิเศษ ให้ผู้มาเยือนได้พักเข้าสู่ช่วงแสนสบายไร้กังวล กระตุ้นให้ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า คืนความสดใสอ่อนเยาว์สู่คุณนอกจากนี้คุณยังสามารถสนุกสนานไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกอีกหลายหลายในโรงแรม รวมถึงกิจกรรมหลากหลายบนเกาะสมุย ที่มีพนักงานต้อนรับให้ความช่วยเหลือและวางแผนวันหยุดของคุณบนเกาะสมุยแห่งนี้ ค้นพบช่วงเวลาแสนสุข และกลับไปพร้อมความความทรงจำประทับใจที่ บุรี รสา วิลเลจ เกาะสมุย

 

deluxe-11

deluxe-10

deluxe-9

deluxe-garden-pool-1

deluxe-family-suite-1

deluxe-1

deluxe-2

deluxe-3

deluxe-4

deluxe-family-suite-3

deluxe-family-suite-5

deluxe-premium-4

deluxe-6

deluxe-8

deluxe-5

activities-in-samui-6

11016104_358462821021307_7262573982025874526_o

samui-beach-dining-1

activities-in-samui-8

samui-beach-dining-5

samui-herbal-spa-1

samui-herbal-spa-10

samui-herbal-spa-11

samui-beach-dining-9

samui-beach-dining-8

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทร : 077 230 222
เว็บไซต์ : www.burirasa.com/samui
Email: reservation@burirasa.com

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

หนาวนี้ไปเที่ยวเชียงรายกับเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3

 

เชิญชวนเที่ยวงาน “เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3” กับแนวคิดที่ว่า ความสุขในบ้านสมเด็จย่า ความสุขในป่าดอยตุง โดยในงานเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3 นี้จัดขึ้นบนถนนคนเดินสายวัฒนธรรมที่สูงที่สุดในประเทศไทย ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม 2559 – 29 มกราคม 2560 ณ โครงการพัฒนาดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

 

14292479_1157434184295524_6794871501901853296_n

 

 

สำหรับเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา วัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อเป็นเวทีในการเสริมศักยภาพ สร้างความภาคภูมิใจให้ชาวบ้าน และที่สำคัญคือ การสืบสานพระราชปณิธาน “ช่วยให้เขาช่วยตัวเอง” ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในการส่งเสริมให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

 

โดยในปีนี้จัดขึ้นภายในแนวคิด ความสุขในบ้านสมเด็จย่า ความสุขในป่าดอยตุง นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมกับความงามของพระตำหนักดอยตุง หรือ บ้านที่ดอยตุง ของสมเด็จย่า ท่ามกลางป่าที่เขียวขจีแวดล้อมด้วยความสุขของคนในท้องถิ่น นำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตชนเผ่าในมุมใหม่และถ่ายทอดประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่อัดแน่นไปด้วยสาระ นอกจากถนนคนเดินที่สะท้อนเรื่องราวแล้ว สวนแม่ฟ้าหลวงและแหล่งท่องเที่ยวบนดอยตุงยังคงความพิเศษต่างจากฤดูอื่นทั่วไป หลากหลายไปด้วยกิจกรรมมากมาย ภายในงานยังมีอาหารท้องถิ่นนานาชนเผ่า อาหารเหนือที่นำวัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่นมาปรุงรส และไฮไลท์ที่สำคัญขาดไม่ได้คือ กาแฟดอยตุง ที่สดใหม่หอมกรุ่นจากไร่ พร้อมทั้งสาธิตการคั่วกาแฟให้ชมกันสดๆ อีกทั้งยังมีร้านค้านับร้อยร้านที่ภูมิใจนำเสนอสินค้าเฉพาะในงานนี้เท่านั้น เช่น การปั้นและเพ้นท์เซรามิก การเย็บสมุดกระดาษสา รวมถึงการสาธิตเทคนิคการยิงพรมโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญศิลปะ

 

11098_825919864113626_2848065259934408169_n

 

สำหรับความพิเศษในงานปีนี้ด้วยการแสดงนิทรรศการศิลปะจัดวางสร้างสรรค์ขึ้นเฉพาะงาน “เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3” โดยสถาปนิกชื่อดังอาทิ ปิตุพงษ์ เชาวกุล, สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ และกลุ่มศิลปินจาก “ขัวศิลปะ” เชียงราย การละเล่นพื้นเมือง ซิ่ง “ฟอร์มูล่าดอย” สุดสนุก และชมการแสดงจากชนเผ่าที่หาชมได้ยาก อาทิ แคนลาหู่ สะบ้าอาข่า และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยกิจกรรม “เปลี่ยน เท่ากับ ปลูก” โดยการเติมความหมายให้กับการมาเยี่ยมเยือนดอยตุง กิจกรรมและร้านค้าในเทศกาล “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 3” เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. และมีบริการรถรับ-ส่งภายในงานตลอดวัน สามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของเทศกาลสีสันแห่งดอยตุงครั้งที่ 3 ได้ที่  doitung.org

 

12079497_962615190444092_5607750564429511279_n

12106796_959712947400983_2871873000857993302_n

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

มนต์เสน่ห์ปลายฝนต้นหนาวที่ต้องไปสัมผัสกันสักครั้ง

 

ฤดูกาลท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้งสำหรับปลายฝนต้นหนาวที่ใกล้จะมาถึง การท่องเที่ยวช่วงนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รักการเดินทางชื่นชมธรรมชาติ ท่ามกลางอากาศที่ไม่ร้อนหรือหนาวเย็นเกินไป วันนี้จึงได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวสำหรับปลายฝนต้นหนาวนี้มาฝากกันมาเริ่มกันที่…

 

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาท่องเที่ยวดอยอ่างขางคือ ปลายฝนต้นหนาว เพราะสภาพอากาศกำลังเย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่งใส ป่าเขียวชอุ่ม แถมผลไม้เมืองหนาวเริ่มทิ้งใบเตรียมออกดอกออกผล ซึ่งภายในสถานีทดลองยังปลูกพืชผลไม้เมืองหนาวต่างๆ มากมายอาทิเช่น สวนท้อ สวนบ๊วย พลับ สาลี่ กีวี่ เป็นต้น รวมถึงยังมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พระตำหนักอ่างขาง เรือนดอกไม้ โรงเรือนกุหลาบ ซากุระ และอื่นๆ อีกมากมาย การมาสัมผัสบรรยากาศที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางในช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ จึงให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปจากฤดูอื่น และนักท่องเที่ยวได้มีเวลาดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัวมากยิ่งขึ้น

 

1-1

1-2

1-3

1-4

1-5

1-6

1-7

1-8

 

 

ดอยปุย จ.เชียงใหม่

ด้วยพื้นที่ภูเขาสูงสลับซับซ้อนบนดอยปุยประกอบกับสภาพภูมิอากาศในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่เย็นชุ่มฉ่ำ จากละอองไอน้ำเมฆหมอกช่วงฤดูฝนที่กำลังจะผ่านไป นอกจากบนดอยปุยจะมีบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นหมู่บ้านชาวม้ง หรือ แม้ว ที่ตั้งถิ่นฐานการดำรงชีพอยู่ด้วย ภายในหมู่บ้านแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ม้ง ร้านจำหน่ายของที่ระลึกท้องถิ่น สวนดอกไม้ต่างๆ นานาพันธุ์ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้สัมผัสชื่นชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย

 

2-1

2-2

2-3

2-4

2-5 

 

 

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี

นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้ป่านานาพันธุ์ เช่น กระดุมเงิน หญ้าข้าวก่ำน้อย ดอกหญ้าสีเหลือง เป็นต้น ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวด้วยแล้วอุทยานแห่งชาติผาแต้มจะเกิดปรากฎการณ์มหัศจรรย์ประจำฤดูที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด โดยที่เหล่าดอกไม้ป่าดอกเล็กดอกใหญ่จะพากันโผล่พ้นดิน ผลิดอกชูช่อไสวราวกับกำลังเต้นระบำทักทายลมหนาวที่กำลังจะมาเยือน

 

3-1

3-2

3-3

3-4

3-5

3-6 

 

 

เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้นับเป็นโอกาสดีสำหรับการมาชมทะเลหมอก สายลมหนาวที่พัดเบาๆ เหมือนกำลังเตือนให้รู้ตัวว่า ฤดูหนาวกำลังจะมาเยือนแล้ว หลังจากที่สายฝนบ่มเพาะพื้นดินจนชุ่มฉ่ำแล้ว พืชสวนพืชไร่บนเขาค้อก็เริ่มเติบโตออกดอกออกผลกันอย่างเต็มที่ แม้ว่าอากาศจะยังไม่หนาวมากนักเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงละอองความเย็นบางๆ ที่กระทบความชื้นจนกลั่นตัวเป็นละอองหมอกขาวโพลนตัดผ่านแสงแดดอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ยามเช้าเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวยิ่งนัก

 

4-1

4-2

4-3

4-4

4-5

4-6

4-7

 

 

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.พิษณุโลก

ผู้ที่รักการท่องเที่ยวต้องไปสัมผัสบรรยากาศป่าหน้าฝนที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จะพบกับดอกหงอนนาคสีม่วงที่เบ่งบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง ซึ่งใครไปที่นี่จะต้องถ่ายภาพเก็บไว้อย่างแน่นอน ด้วยความพิเศษของดอกหงอนนาคคือจะหุบในช่วงเช้าและจะบานก็ต่อเมื่อโดนแสงแดดสางส่อง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวยังถือว่าเป็นจุดที่มีดอกหงอนนาคใหญ่ที่สุดของประเทศอีกด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถกางเต็นท์เพื่อชื่นชมความงดงามของทุ่งดอกหงอนนาคอย่างใกล้ชิดได้อีกด้วย โดยทางอุทยานมีเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

 

 5-1

5-2

5-3

5-4

5-5

 

 

นาขั้นบันไดแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

นาขั้นบันไดแม่แจ่ม เป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่นาข้าวกำลังออกรวงเป็นสีเหลืองทอง พร้อมรอเก็บเกี่ยว กลิ่นไอดินที่ลอยฟุ้งเข้าจมูกเมื่อไปถึง รวมถึงละอองหมอกที่เคล้าคลอเคลียต้นข้าว นักท่องเที่ยวที่มาเยือนในช่วงนี้จะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงามของทุ่งนาสีทองลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ตามไหล่เขาให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติ

 

6-1

ผมหลงอยู่ในโลกตัวคนเด

6-3

6-4

6-5

6-6

6-7

 

 

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ถูกยกให้เป็นทุ่งดอกไม้ 1 ใน 10 ของประเทศที่สวยที่สุด ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวด้วยแล้วป่าไม้จะมีความอุดมสมบูรณ์มากเป็นพิเศษ  เพราะช่วงเวลาที่ฝนตกพื้นดินได้สะสมเอาตะกอนดินซึ่งถือได้ว่าเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของเหล่าบรรดาดอกไม้ป่า เมื่อดอกไม้ป่าชูช่อพ้นดินก็จะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งลานทุ่งโนนสน “เหลืองพิศมร” หรือ “เอื้องนวลจันทร์” ถือว่าเป็นนางเอกประจำทุ่งโนนสน นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ป่าที่บานชูช่อตลอดสองข้างทางให้ศึกษาธรรมชาติอีกด้วยทั้งกุหลาบพันปี จุกนกยูงกระดุมเงิน กระดุมทองดุสิตา สิงโตกลอกตา สิงโตรวงข้าว เป็นต้น

 

7-1

7-3

7-4

7-5

7-6

 

 

ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย

ด้วยวิวทิวทัศน์ที่กำลังเย็นสบาย ดอยแม่สลองในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตและสัมผัสวัฒนธรรมชุมชนชาวจีนแถบมณฑลยูนนาน ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกชาและพืชผักเมืองหนาว ตลอดจนนักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองรสชาติอาหารที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารต้นตำรับอาหารจีนแถบตอนใต้ ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงดงาม อากาศเย็นสบาย ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบๆ ตัวพร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมชาวเขานักเดินทางไม่ควรพลาดที่จะมาสัมผัสกัน

 

8-1

8-2

8-3

8-4

8-5

 

 

ภูกระดึง จ.เลย

ช่วงปลายฝนตกหนาวภูกระดึงเป็นช่วงเวลาที่น้ำตกบนภูสวยงามที่สุด ผู้พิชิตยอดภูกระดึงต้องไปทดสอบสภาพร่างกายกัน ด้วยท่ามกลางแมกไม้อันเขียวขจี สายน้ำที่ไหลเต็มผา จุดชมวิวผาต่างๆ ที่สามารถเฝ้าดูผ่านสายหมอกทอดยาวเบื้องหน้า ช่วงปลายฝนตกหนาวแบบนี้จึงเป็นช่วงที่ป่าไม้บนภูกระดึงฟื้นฟูและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เพื่อรอต้อนรับนักเดินทางให้มาพิสูจน์และทดสอบร่างกายชื่นชมความงดงามบนภูแห่งนี้

 

9-1

9-2

9-3

9-4

9-5

9-6

 

 

น้ำตกกรุงชิง จ.นครศรีธรรมราช

ช่วงปลายฝนต้นหนาวน้ำตกกรุงชิงถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าหลังจากที่ได้รับน้ำฝนอย่างเต็มที่ก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านฤดู ทำให้กระแสน้ำในธารน้ำตกแผ่ออกเป็นผืนกว้าง กระจายตัวคล้ายกับละอองน้ำฝนในอากาศ ความอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่ที่ราบต่ำถึงเชิงเขาด้านบนทำให้ที่นี่เป็นแหล่งศึกษาดูนกที่ได้รับความสนใจแห่งหนึ่งของภาคใต้ และยิ่งไปกว่านั้นยามเช้าในช่วงปลายฝนต้นหนาวนักท่องเที่ยวจะได้พบกับทะเลหมอกที่สวยงดงาม นับว่าหาดูได้ยากมากในภาคใต้ของประเทศ นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

 

10-1

10-2

10-3

10-4

 

 

น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณ ถือว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงดงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นมีความงดงามที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งช่วงปลายฝนตกหนาวด้วยแล้วป่าไม้ที่อาศัยอยู่รอบๆ น้ำตกแห่งนี้จะมีความสวยงามเป็นพิเศษ ทั้งกล้วยไม้ป่า เถาวัลย์ที่ต่างแย่งกันเลื้อยจับจองพื้นที่ รวมถึงสายธารน้ำที่ไหลซัดซ่านคลอเคล้าไปด้วยเสียงหมู่นกป่าที่บินออกหากิน เผยให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของน้ำตกเอราวัณในช่วงปลายฝนต้นหนาวได้เป็นอย่างดี

 

11-1

11-2

11-3

 

 

ก่อนสายลมอากาศหนาวเย็นจะมาเยือน ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในรอบปีที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ การเติบโตของหมู่แมกไม้นานาพันธุ์ และสายน้ำในธารน้ำตกที่จะกลับมาใสสะอาดอีกครั้งหลังจากที่ขุ่นในช่วงหน้าฝน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการปรับสมดุลของธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัว ปลายฝนต้นหนาวปีนี้ลองเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปกัน

 

ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจากทุกท่าน

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

รีวิว โรงแรมศิลป์กลางเมืองเชียงใหม่ ที่ อาร์ตไหม แกลอรี่

 

เอาใจคนมีศิลปะในหัวใจกับที่พักสุดแนวใจกลางย่านถนนนิมานเหมินท์ จังหวัดเชียงใหม่ ไปเสพย์งานศิลป์ผ่านที่พักแสนเก๋ที่ ART MAI GALLERY HOTEL

 
ART MAI GALLERY HOTEL โดดเด่นด้านการดีไซน์ โดยยกผลงานศิลปะฝีมือของศิลปินมีชื่อชาวไทยถ่ายทอดผ่านการออกแบบตกแต่ง ซึ่งแต่ละชั้นของตัวอาคารจะมีความพิเศษด้วยการตกแต่งไม่เหมือนกัน แต่ละแบบต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายใต้ธีมต่างๆไม่ว่าจะเป็น

 

re_IMG_4701

re_Picture-2

 

– ธีม Nude Art ห้องพักแสนเก๋ที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ออกแบบโดยคุณศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี
– ธีม Op Art ห้องพักศิลปะลวงตา ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะในท้องถนนหรือสตรีทอาร์ตโดยคุณจิตต์สิงห์ สมบูรณ์
– ธีมAbstract Art ที่ออกแบบโดยคุณธนชัย อุชชิน (ป๊อด โมเดิร์นดอก)
– ธีม Pop Art ที่ออกแบบโดยคุณชลิต นาคพะวัน และธีม Surrealist Art, Impressionist Art, Lanna Romantic ที่ออกแบบโดยศิลปินท่านอื่นอีกมากมาย

 

ภายในห้องพักทุกห้องตกแต่งด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม อีกทั้งทางโรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Wi-Fi และอาหารเช้าสไตล์ล้านนาจากห้องอาหารจริต

 

re_IMG_4829

13173661_1153978944668993_2715512587256061397_n

13100828_1153979028002318_1814677062317466318_n

13164260_1153978844669003_2535063256136710100_n

13164343_1153978928002328_5643217494753003415_n

re_IMG_4834

13177809_1153979101335644_8292004769373979255_n

13173759_1153979268002294_104140528825930092_n

13124619_1153978654669022_4009814440097092603_n

10295672_1153978591335695_4415063629729737400_n

13095982_1153979351335619_3836723403485718886_n

13119020_1153979018002319_148144156407080018_n

13124537_1153978934668994_8019336091714606713_n

13124610_1153979034668984_6083115267941912938_n

13133285_1153979124668975_5548742922776035701_n

13133217_1153978894668998_6761672003389108200_n

13177406_1153979308002290_7657775892763196454_n

13178620_1153979324668955_5898683111879833133_n

13151629_1153978858002335_1794015578865971470_n

13179402_1153979144668973_1494500016490318649_n

13174159_1153978491335705_6641874172046942355_n

 

เมื่อเข้าพักที่ ART MAI GALLERY HOTELพลาดไม่ได้กับการลิ้มลองอาหาร จากห้องอาหารจริตที่ตกแต่งแบบร่วมสมัย เป็นเหมือน Art Gallery ขนาดย่อมที่โดดเด่นในด้านอาหารไทยฟิวชั่นและอาหารนานาชาติ พร้อมกับเมนูพิเศษของ6ศิลปินชื่อดังที่ร่วมออกแบบอาหารจานหลักของตนเองสำหรับโรงแรมอาร์ตไหมแกลเลอรี ห้องอาหารจริตยังโดดเด่นในเรื่องของไวน์ท้องถิ่นและไวน์ชั้นนำจากต่างประเทศ

 

ที่ล็อบบี้โรงแรมยังมี Modern Art Collection ไว้สำหรับผู้ที่อยากเก็บสะสมของที่ระลึกได้เลือกซื้อ เพื่อเก็บความทรงจำและซึบซับความเป็นศิลปะจากการมาพักกับ ArtMai Gallery Hotel ให้คุณได้เลือกสรรค์ หากคุณกำลังมองหาที่พักชิคๆใจกลางนิมมานฯ  Hotelandresortthailand ขอแนะนำเลยว่าไปสัมผัสความเก๋ ความแนว และโดดเด่นไม่ซ้ำใครที่ ART MAI GALLERY HOTEL

 

13177708_1153978804669007_4302071273076563820_n

13174044_1153978501335704_4029273086346717915_n

13103317_1153978498002371_5458310088822842623_n

13178040_1153978711335683_8618607075447109706_n

13119075_1153978754669012_6191253646712195384_n

13124936_1153978698002351_8928501265118328238_n

re_IMG_5862

re_IMG_6028

re_IMG_6033

13179465_1153978598002361_2474139885593854785_n

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 053-894-888
E-mail : enquiryartmaigalleryhotel.com
เว็บไซต์ : www.artmaigalleryhotel.com

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

5 ที่สุดของล่องแก่งเมืองไทย ไปก่อนสนุกก่อน

1. ล่องแก่งลำน้ำว้า

หากใครที่ชอบกิจกรรมผจญภัยท้าทาย การไปเยือนลำน้ำว้า เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ตื่นเต้นที่คุณจะไม่มีวันลืม ‘ลำน้ำว้า’ นับว่าเป็นที่สุดของสายน้ำสำหรับการล่องแก่งในเมืองไทย พบกับความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจกับการพายเรือยางฝ่าแก่งหินนับร้อยแก่ง โดยการล่องแก่งจะแบ่งเป็น 3 ช่วงเริ่มจากลำน้ำว้าตอนบน 35 กิโลเมตร ผ่านโขดหินใหญ่น้ำวน และน้ำตกเป็นระยะๆ ลำน้ำว้าตอนกว่า 80 กิโลเมตร ใช้เวลาล่องถึง 2 วัน ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยเกาะแก่งและวังน้ำน้อยใหญ่ไหลผ่านหุบเขากระแสน้ำแรงบางช่วงน้ำวนจึงเหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์ล่องแก่งเท่านั้น ส่วนลำน้ำว้าตอนล่างมีความยาว12 กิโลเมตร สามารถล่องได้ทั้งปี ทั้งยังเป็นช่วงล่องแก่งที่เล็กและเบาที่สุด เหมาะกับคนทั่วไปที่อยากล่องแก่ง เพราะเรือยางจะไหลไปเอื่อยๆตามกระแสน้ำ ชมวิวทิวทัศน์สองฝากฝั่งลำน้ำที่อุดมสมบูรณ์

 

ช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแก่ง

เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน

เป็นฤดูกาลเปิดแก่ง ฝนจะเริ่มตกเรื่อยๆ น้ำเพิ่มสูงขึ้นในระดับที่ไม่มาก หากคุณมาล่องแก่งในเดือนนี้ อาจจะได้ล่องแก่งท่ามกลางสายฝนและน้ำที่ถือว่ายังไม่เชี่ยวกรากเต็มที่

เดือนกรกฎาคม

ใครที่ชอบความหวาดเสียว ต้องมาเลยเดือนกรกฎาคม เพราะเดือนนี้น้ำขึ้นสูง มีระดับคลื่นที่คอยโยกแพยางขึ้นลง ได้ความสนุกสะใจหลายเท่านัก

เดือนสิงหาคม

ระดับน้ำเชี่ยวกรากและสูงมาก และด้วยปริมาณฝนที่ตกหนัก จึงต้องระมัดระวังอันตรายสำหรับการล่องแก่งในเดือนนี้

เดือนกันยายน

ระดับน้ำในเดือนนี้เริ่มลดลงจากเดือนสิงหาคม นับว่าเป็นเดือนที่เหมาะกับการล่องแพมาก เพราะน้ำจะไหลเร็วและแรง มีคลื่นสูงๆให้แพยางโต้เล่น อาจมีฝนตกบ้างประปราย

เดือนตุลาคม

เดือนนี้ฝนไม่ค่อยมีแล้ว น้ำไม่ขุ่นข้น ไหลแรง มีคลื่นสูงบ้าง ที่สำคัญเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศจึงเย็นๆ ยามเช้าจะมีหมอกขาวปกคลุมทั่วบริเวณ

เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม

เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว เดือนนี้น้ำไหลค่อนข้างแรง เหมาะสำหรับการมาแค้มป์ปิ้งสัมผัสอากาศหนาว

 

1-1

1-2

1-3

1-4

1-5

1-6

 

2. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก

ลำน้ำเข็กเป็นลำน้ำขนาดกลาง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ด้านอำเภอเขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง บริเวณหน่วยหนองแม่นา จ.พิษณุโลก และไหลขนานไปกับถนนทางหลวง หมายเลข 12 (พิษณุโลก – หล่มสัก) เส้นทางลัดเลี้ยวของ ลำน้ำเข็ก ประกอบไปด้วยน้ำตกมากมาย อาทิ น้ำตกศรีดิษฐ์ จ.เพชรบูรณ์, น้ำตกแก่งโสภาที่เลื่องชื่อของจ.พิษณุโลก, น้ำตกปอย, น้ำตกแก่งซอง, น้ำตกวังนกแอ่น ทั้งยังมีแก่งมากมายในลำน้ำสายนี้ ในช่วงฤดูฝน ลำน้ำใสสงบสายนี้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มข้น เชี่ยวกรากรุนแรง  ซึ่งแม้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเสี่ยงที่จะเล่นน้ำ ในช่วงนี้ แต่นับว่าฤดูฝนจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมามากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เหมาะแก่การล่องแก่งที่สนุกเร้าใจ ช่วงที่เหมาะสม กับการล่องแก่งลำน้ำเข็กมากที่สุดคือ เดือนมิถุนายน – ตุลาคม

 

2-1

2-2

2-3

2-4

2-5

2-6

2-7

2-8

 

 

3. ล่องแก่งลำน้ำนครนายก

แม่น้ำนครนายกเป็นสายน้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลลงมากลายเป็น น้ำตกนางรอง ไหลมาบรรจบกับ แม่น้ำนครนายก ซึ่งไหลมาจากน้ำตกเหวนรก ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กระแสน้ำไหลแรงในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม จุดเริ่มต้นของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกอยู่ที่บริเวณสะพานท่าด่านระดับความยากง่ายในการล่องแก่งขึ้นอยู่กับฤดูกาลดังต่อไปนี้
เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม ระดับ 2-3

ระยะเวลาในการล่องแก่งแม่น้ำนครนายกจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

จุดเด่นของการล่องแก่งสายนี้
จุดเด่นของแม่น้ำสายนี้ คือ ตัวแก่งหินสามชั้น กระแสน้ำจะมีลักษณะไหลลดหลั่นกันลงมา คล้ายขั้นบันได เป็นแก่งที่สร้าง ความตื่นเต้น เร้าใจ ได้พอสมควร แก่งหินสามชั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการพายเรือแคนูหรือเรือคยัค นอกจากแก่งหินสามชั้นแล้ว ยังมีแก่งโขดคุ้ง และเกาะแก่ง หลังจากผ่านแก่งต่าง ๆ แล้ว ความรุนแรงของกระแสน้ำจะลดลงเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการล่องแก่งแม่น้ำนครนายก คือลำน้ำที่คดเคี้ยวตลอดเส้นทาง การล่องทำให้เราได้มีโอกาส ฝึกการพายบังคับเรือยางหรือแคนูหรือเรือคยัคให้เลี้ยวซ้ายขวาได้อย่างสนุกสนาน จนสิ้นสุดการล่องแก่งที่บริเวณวังยาว

แก่งต่างๆ ที่จะล่องผ่าน
– แก่งโขดคุ้ง มีลักษณะเป็นโขดหินโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในช่วงฤดูร้อน แต่จะจมลงไปในน้ำยามฤดูฝน
– เกาะแก่ง มีลักษณะเช่นเดียวกันกับแก่งโขดคุ้งถ้าในช่วงฤดูร้อนจะมองเห็นเกาะแก่งนี้ แต่ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝน กระแสน้ำจะท่วมเกาะแก่งนี้จนไม่สามารถมองเห็นได้
– แก่งหินสามชั้น ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการล่องแก่งนางรองนครนายก ก่อนจะถึงตัวแก่งสามชั้นระยะทางไม่กี่เมตรจะถึงโค้งหักศอกก่อน นักล่องแก่งควรระมัดระวังตัวตั้งใจพายให้ดีเมื่อถึงโค้งหักศอกนี้ เพราะต่อไปจะเป็นแก่งสามชั้น ซึ่งมีลักษณะเป็นชั้นหินสามชั้น เทลาดเอียง ลงมาเป็นขั้นบันได ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร กระแสน้ำจะไหลวนลงมากระทบกับโขดหินน้อยใหญ่ที่จมอยู่ใต้น้ำ จนเกิดเป็นลูกคลื่นม้วนตัวเข้าหาหินสูงประมาณหนึ่งเมตร เป็นจุดท้าทายของนักพายเรือคยัคและแคนู ซึ่งจะมาประลองกำลังความสามารถกันที่บริเวณ แก่งสามชั้นแห่งนี้ แก่งสามชั้นสร้างความตื่นเต้นเร้าใจในการล่องแก่งนี้ได้พอสมควร การล่องแก่งนางรองนครนายก จะไปสิ้นสุดการล่องที่บริเวณบ้านวังยาว

เรียบเรียงจาก  www.tat8.com

 

3-1

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

3-4

3-5

3-6

 

 

4. ล่องแก่งแม่น้ำปาย

แม่น้ำปายไหลผ่าน 3 อำเภอของแม่ฮ่องสอนคือ อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า และอำเภอเมือง สองฝั่งแม่น้ำยังอุดมสมบูรณ์ คงสภาพป่าที่ไร้การบุกรุกทำลาย การล่องแก่งในแม่น้ำปายนั้นดึงดูดนักล่องแก่งด้วยจุดเด่นที่แม่น้ำมีลักษณะน้ำวน มีคลื่นสูงบางจุด สร้างความสนุกสนานตื่นเต้นเป็นอย่างมาก การล่องแก่งแม่น้ำปายจะมีระยะทางรวมประมาณ 70 กิโลเมตร ผู้ร่วมกิจกรรมมักจะพักค้างแรมในป่า 1 คืน ซึ่งจะมีที่พักในลักษณะแคมป์ให้บริการ ระดับความยากของแก่งมีตั้งแต่ระดับ 1-4 ช่วงฤดูฝนอาจถึงระดับ 5 ซึ่งมีความยากมากและระดับน้ำรุนแรง ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่งคือ เดือนมิถุนายน – กุมภาพันธ์ของทุกปี

 

4-1

4-2

4-3

 

 

5. ล่องแก่งหนานมดแดง

แก่งหนานมดแดง ตั้งอยู่ที่ ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ที่นี่สามารถทำการล่องแก่งได้ทั้งปี บรรยากาศสองฝั่งคลองนั้นยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้นาๆ พันธุ์ และนกประจำถิ่นนาๆ ชนิด ในขณะล่องแก่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นเต้นกับบรรยากาศตลอดเส้นทางแล้ว ยังได้สัมผัสกับ น้ำที่เย็นและใสจนสามารถมองเห็นตัวปลาและสาหร่ายเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีบริการเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรมค้างคืนอีกด้วย

 

5-1

5-2

5-3

5-4

5-5

5-6

5-7

5-8

5-9

 

เรียบเรียงโดย : www.hotelandresortthailand.com

เรื่องราวท่องเที่ยว By Hotel&Resort