“เขาช้างเผือก” อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

“เขาช้างเผือก” สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Unseen in Thailand ที่หลายๆคนยังไม่รู้จักเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยมีความสูงถึง 1,249 จากระดับน้ำทะเล เส้นทางขพิชิตเขาช้างเผือก จะเปิดให้จองได้คือช่วงเดือน พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ อาจจะเปิดช้า หรือปิดเร็วกว่ากำหนด ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี

– ข้อดีของจุดแรกคือ ตอนเช้าจะถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงามกว่า ประมาณว่าออกมานอกเต็นท์ ก็ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นได้เลย แต่ข้อเสียคือ ตอนเย็นปีนขึ้นจุดสูงสุดแล้ว ตอนขากลับที่พักจะใช้เวลามากกว่าและเหนื่อยมากกว่า เพราะว่าขากลับจากยอดเขาช้างเผือก เราจะถึงจุดที่สองก่อน ก็สามารถเข้าพักได้เลย แต่ถ้าเราเลือกจุดแรกก็ต้องปีนขึ้นไปพักบนจุดแรก
– ข้อดีของจุดที่สองคือ วันแรกจะไม่เหนื่อยมาก ปีนขึ้นสันคมมีดไปชมวิว เสร็จแล้วก็ปีนลงมาก็ถึงที่พักแล้ว (ไม่ต้องปีนขึ้นอีก)  แต่ข้อเสียคือตอนเช้าวันที่สอง ต้องปีนขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น แล้วก็ลงมาเก็บเต๊นท์ แล้วก็ปีนขึ้นเพื่อกลับอีก
ข้อมูลควรทราบ
– ควรเตียมอุปกรณ์สำหรับเดินป่าและของใช้จำเป็นให้ครบถ้วน
– ทางเดินลาดชัน ที่ต้องปีนป่าย และทรงตัวไปตามทางเดินเล็กๆ และลื่นพอสมควร จุดวัดใจในการขึ้นสู่ยอดเขานั่นก็คือ “สันคมมีด” ที่เป็นสันหินแคบ กว้างไม่ เกิน 1 เมตร สองข้างทางเป็นเหวลาดลงไป ใครจะขึ้นถึงยอดหรือไม่ ก็วัดใจกันตรงนี้นี่แหล่ะ   ถ้าหากผ่านสันคมมีดมาได้ รางวัลที่รออยู่บนยอดเขาช้างเผือกนั้นสามารถทำให้หายเหนื่อยได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นวิวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาแบบ 360 องศา ที่สามารถมองเห็น เขื่อนวชิราลงกรณ์ด้านล่าง และในวันที่ปราศจากเมฆหมอก ทัศนวิสัยดีเยี่ยมจะสามารถมองข้ามไปทางฝั่งประเทศพม่าและมองเห็นทะเลอันดามันได้ด้วย!!!- ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 700 ค่าลูกหาบ 700 ต่อคน ขนได้ประมาณ 30 กก. ถ้ามากกว่านี้ลูกหาบจะมองหน้าเอา โอนค่าเจ้าหน้าที่นำทางไปก่อน ส่วนค่าลูกหาบค่อยไปจ่ายที่หมู่บ้านปิล๊อก
– เดินทางไปถึงที่ทำการอุทยานทองผาภูมิตอนเช้าประมาณ 7 โมง จ่ายค่าอุทยาน ค่ากางเต็นท์กับเจ้าหน้าที่ก่อน เส้นทางขึ้นอุทยาน ถ้าเหมารถจากตัวเมืองทองผาภูมิมา ก็คงจะมี 2 กรณี กรณีแรกคือขึ้นอุทยานตอนเย็น ต้องขึ้นมาก่อน 6 โมงเย็น ถ้าหลังจากนั้นเส้นทางขึ้นอุทยานอาจเจอช้างป่าได้ กรณีหลังคือ เหมารถขึ้นมาตอน 6 โมงเช้า นั่นหมายความว่าต้องวางแผนให้ดีว่าจะนอนที่ไหนกัน จะขึ้นตอนเย็นแล้วกางเต็นท์นอนที่อุทยาน หรือ นอนที่ตัวเมืองทองผาภูมิ แล้วค่อยขึ้นอุทยานตอนเช้า แล้วปีนเขาเลย
– เมื่อจ่ายค่าอุทยานและค่ากางเต็นท์(บนเขาช้างเผือก)  ก็อาจจะต้องสำรองเงินสดจ่ายค่าเจ้าหน้าที่ 700 บาท      อ้าวก็โอนค่าเจ้าหน้าที่มาให้แล้วนี่นา  คือ ที่โอนมาเงินอาจจะยังมาไม่ถึง จนท.ที่อุทยาน อาจจะยังอยู่ที่หน่วยช่องเย็น   (ตอนที่เราโทรไปจอง เราจะคุยกับ จนท.ที่หน่วยช่องเย็น เพราะที่อุทยานไม่มีไฟฟ้ากับโทรศัพท์) ถ้าเราสำรองเงินสดจ่ายก่อน 700 ก็อาจจะต้องกลับมารับเงินอีก 700 คืน แต่ไม่รู้ว่าให้ไปรับที่ไหน อาจจะเป็นที่อุทยาน หรือหน่วยช่องเย็นก็ได้
ที่อยู่ : ตู้ ปณ.18 อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี 71180
เบอร์ติดต่อ :  034-532114, 034-510979
เรียบเรียงโดย www.HotelAndResortThailand.com

Review Sunday Family Brunch Ibis Bangkok Riverside

1

พบกับรีวิวอาหารสุดคุ้ม กับบรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยา ทานไป ชิลไปกับวิวสวยๆ ที่ ไอบิส แบงคอค ริเวอร์ไซด์

การเดินทางไม่ยากเลย ขับข้ามสะพานสาธรมาจากนั้นชิดซ้ายเข้าเส้นเจริญกรุง แยกไฟแดงแรกให้เลี้ยวขวา พอเลี้ยวขวาเสร็จชิดซ้ายเลยนะคะ ประมาณ100เมตรจะเห็นซอยเจริญนคร 17 เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ โรงแรมอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาเลย

เข้ามาถึงพบกับบรรยากาศร่มรื่น ที่จอดรถกว้างขวางเพียงพอเลยค่ะ บรรยากาศโดยรอบห้องอาหารเย็นสดชื่นด้วยลมจากแม่น้ำเจ้าพระยา และต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นโดยรอบ

2

วิวริมน้ำ

 4

ห้องอาหารเลือกนั่งได้ 2 โซน เป็นห้องกระจกเย็นฉ่ำ หรือ ด้านนอกบรรยากาศแบบ Open Air

5

6

7

โซน indoor ในห้องปรับอากาศค่ะ

8

การันตีความอร่อย และความนิยมโดย Tripadvisor

9

10

บรรยากาศ และอาหารน่ากินทั้งนั้นๆ

11

อีกมุม

12

13

เริ่มที่เครื่องดื่มกันก่อน มีหลากหลายให้เลือกค่ะ น้ำเปล่า น้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม

ต่อด้วยอาหารสะดุดตาเลยกับซีฟู้ดเรียงรายหลากหลาย ทั้งหอยนางรม กุ้ง ปู และยำพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด

14

15

16

17

ส่วนอาหารกริลล์ และรมควัน ก็ทำได้เยี่ยมยอดค่ะ วัตถุดิบคุณภาพ น้ำจิ้มกลมกล่อมพอดี

18

มาที่ซูชิกันบ้างค่ะ มีให้เลือกหลากหลายเหลือเกิน เรียกว่าเกินคุ้ม ไฮไลท์อยู่ที่เนื้อปลาแซลม่อน สด ไม่คาวเลย ลองทานดูกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นยำแซลมอนรสชาติเยี่ยมเลย ถูกปากคนชอบทานของแซ่บๆค่ะ

ซูชิก็มีหลากหลายค่ะ

19

20

อาหารไทย-จีนก็อร่อยมากๆค่ะ มีให้เลือกหลากหลายด้วย ทั้งกระเพาะปลา ข้าวผัด เยอะไปหมด เรียกได้ว่าคุ้มจริงๆ อิ่มไปถึงตอนเย็นเลย

อันนี้ชอบมากค่ะทานไป 3 จาน

21

อันนี้ไม่ได้ลองค่ะ แต่แต่งออกมาน่ารักเชียว

22

23

กุนเชียง อาหารง่ายๆ แต่อร่อย ทานกับข้าวผัดเข้ากันได้ดีมากๆ

24

25

ในหม้อนั่นคือกระเพาะปลา ใส่ไก่ และหน่อไม้ ร้อนๆ อร่อยเลย ทานกับข้าวผัด อร่อยอีกแล้ว

26

27

อาหารอิตาเลี่ยนก็มีนะคะ พวกสปาเก๊ตตี้ สเต๊ก เฟรนช์ฟราย

28

29

30

ตบท้ายด้วยของหวาน ผลไม้ และเบเกอรี่ต่างๆ อลังการพุงกาง ^^

31

32

33

34

 

35

36

37

38

3940

ฟองดูผลไม้จิ้มช็อกโกแลต

41

42

43

จบด้วยสนามเด็กเล่น และกิจกรรมบันเทิงเล็กๆน้อยๆ บ่งบอกถึงความเป็นห้องอาหารสำหรับครอบครัวจริงๆ

44

ความเห็นเกี่ยวกับรสชาติอาหาร ความหลากหลาย บรรยากาศ-สถานที่ การบริการ และความคุ้มค่านะคะ

รสชาติอาหาร

ส่วนตัวแล้วชอบอาหารไทย และอาหารจีนของที่นี่ค่ะ เชฟทำได้อร่อยมาก รวมไปถึงพวกกริลล์ต่างๆ ส่วนพวก cold cut และอาหารทะเล ถือว่าใช้ได้ในระดับกลางๆค่ะ อาหารทะเลมีให้เลือกเยอะ คัดของคุณภาพดี แต่น่าจะแช่แข็งไว้ก่อนเลยเย็นไปหน่อย

ความหลากหลาย

หากคุณกำลังมองหาห้องอาหารที่มีให้เลือกครบทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารนานาชาติ แนะนำที่นี่เลยค่ะ มีให้เลือกสรรค์มากมาย ไม่อั้นจริงๆ

บรรยากาศ

ตกแต่งเหมาะกับมื้อสายๆของครอบครัวค่ะ ห้องอาหารตกแต่งโล่งโปร่งด้วยบานกระจกในห้องแอร์เย็นฉ่ำ อากาศถ่ายเทดี มองเห็นวิวสวน สระว่ายน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจะเลือกนั่งทานด้านนอกก็ได้ค่ะ ได้บรรยากาศแต่จะร้อนนิดนึงนะคะ

การบริการ

เยี่ยมเลยค่ะ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส ของหมดเติมตลอด และให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำดีมาก

ความคุ้มค่า

คุ้มที่สุดค่ะ ราคาเพียง 1199 บาท กับอาหารหลากประเภท รวมไปถึงขนมนมเนยต่างๆ ในบรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยา ลองไปทานกันนะคะ มีกลับไปอีกแน่ค่ะ

สนใจสอบถามไปทานกันได้ที่

ไอบิส กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์

02 659 2888

วันนี้ขอจบรีวิวเท่านี้ก่อนนะคะ พบกันใหม่กับรีวิวห้องอาหารโรงแรมกับ hotelandresort คราวหน้าค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

 

 

 

ท่องเที่ยวรับลมเย็นๆ ณ เกาะลันตา จ.กระบี่

 

01

          เกาะลันตา เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดกระบี่ โดยเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีผู้คนอาศัยต่อเนื่องมายาวนานกว่าร้อยปี ประกอบด้วย เกาะลันตาใหญ่ และ เกาะลันตาน้อย แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่บน เกาะลันตาใหญ่ ขณะที่ เกาะลันตาน้อย เป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา ด้วยระยะทางที่ห่างไกลจากแผ่นดิน เกาะลันตาจึงยังคงความสวยงามของหาดทรายและน้ำทะเลสะอาด อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตของชาวเกาะดั้งเดิม ที่มีทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยจีน ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยใหม่ (ชาวเล) อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ผสานกับความเจริญทางด้านหัวเกาะแถบท่าเรือและชายหาดฝั่งตะวันตก ซึ่งคึกคักด้วยนักท่องเที่ยว การมาเยือนเกาะลันตาจึงได้เที่ยวหลายบรรยากาศในคราวเดียวกัน

          สำหรับ เกาะลันตา ประกอบด้วย เกาะลันตาใหญ่ และ เกาะลันตาน้อย โดยมีเกาะกลางคั่นอยู่ระหว่าง 2 เกาะนี้ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมดอยู่บน เกาะลันตาใหญ่ มียาวประมาณ 30 กิโลเมตร กว้างประมาณ 6 กิโลเมตร โดดเด่นด้วยชายหาดยาวเรียงรายต่อเนื่องกันถึง 13 หาดทางฝั่งตะวันตก มีทั้งหาดหินและหาดทราย เพียบพร้อมด้วยที่พักหลากสไตล์ หลายราคา ส่วนทางฝั่งตะวันออกคือ ชุมชนโบราณ ชื่อบ้านศรีรายา ซึ่งตั้งมากว่าร้อยปี มีเสน่ห์ด้วยเรือนแถวไม้หน้าแคบที่ยื่นยาวลึกออกไปในทะเล และวิถีชีวิตสงบงามของชาวไทยจีน ชาวไทยมุสลิม ที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข

          เกาะลันตาใหญ่ ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ตั้งอยู่ที่แหลมโตนด ตรงปลายเกาะ เป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์ด้วยผืนป่าดงดิบ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และที่โดดเด่นที่สุดคือ ประภาคารสีขาว ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเกาะลันตา

02

          และอีกจุดเด่นหนึ่งคือ หมู่บ้านชาวเล หรือชาวไทยใหม่ ชื่อบ้านสังกาอู้ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เป็นชุมชนของชาวเลเผ่าลูโมะลาโว้ย ที่คนไทยภาคกลางเรียกว่า อูรักลาโว้ย พวกเขาตั้งถิ่นฐานบนเกาะลันตามานานหลายชั่วอายุคน อีกทั้งเกาะลันตายังเปรียบได้ดั่งเมืองหลวงของชาวเล ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นบริษัททัวร์ ร้านดำน้ำ ธนาคาร ร้านอาหาร ร้านบริการอินเทอร์เน็ต ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ มีเพียบพร้อมอยู่ที่บ้านศาลาด่าน

 

สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะลันตา

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

          อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีเนื้อที่ประมาณ 134 ตารางกิโลเมตร ในอำเภอเกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ ที่สำคัญได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ เกาะลันตาน้อย เกาะตะละเบ็ง และเกาะใกล้เคียง รวมไปถึงหมู่เกาะห้า เกาะรอกนอก เกาะรอกใน และเกาะไหง

         เกาะที่น่าท่องเที่ยวของอุทยานฯ ได้แก่ เกาะลันตาน้อย เป็นเกาะที่เป็นชุมชนของชาวเกาะลันตาในอดีตมาก่อน มีที่ว่าการอำเภอ มีโรงเรียนวิถีชีวิตแบบเก่า ๆ บ้านเรือนโบราณยังมีให้พบเห็น

เกาะลันตาใหญ่ มีรูปร่างยาวเรียวจากเหนือมาใต้ ศูนย์กลางธุรกิจของเกาะอยู่ที่บริเวณท่าเรือศาลาด่าน ซึ่งมีทั้งบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ธนาคาร ด้านตะวันตกเรียงรายไปด้วยชายหาดและอ่าวที่สวยงามมากมาย ได้แก่ หาดคอกวาง หาดโละบารา หาดพระแอะ หาดคลองโขง หาดคลองนิน และมีถนนตัดจากท่าเรือตอนเหนือผ่านชายหาดต่าง ๆ ไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งอยู่ตอนใต้สุดของเกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะมีสภาพเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยป่าที่สมบูรณ์ ส่วนด้านตะวันออกมีชุมชนเก่าของเกาะลันตาเนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอมาก่อน ซึ่งย้ายไปอยู่ที่เกาะลันตาน้อย ชาวบ้านส่วนใหญ่บนเกาะลันตานับถือศาสนาอิสลาม และที่บ้านสังกะอู้ยังมีชนพื้นเมืองที่ยังคงยึดถือวัฒนธรรมประเพณี ได้แก่ ประเพณีลอยเรือ

03

ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มีจุดชมวิวแหลมโตนดซึ่งเป็นที่ตั้งของประภาคาร จากมุมนี้สามารถมองเห็นโค้งอ่าวกรวดและอ่าวหาดทรายขาวสะอาดมาบรรจบกัน ตอนปลายสุดของแหลมเป็นที่ตั้งของ เกาะหม้อ เป็นจุดดำดูปะการังน้ำลึก นอกจากจุดชมวิวแหลมโตนดแล้ว ยังมีจุดชมวิวบนยอดเขาบริเวณตอนกลางเกาะ ที่มีร้านอาหารสามารถนั่งรับประทานอาหารพร้อมกับชมทิวทัศน์ของทะเลอันดามันที่มีเกาะต่าง ๆ อยู่ท่ามกลางผืนน้ำสีน้ำเงิน

04

เกาะตะละเบ็ง อยู่ระหว่างท่าเรือคลองม่วงเกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูน คล้ายเกาะพีพีเล มีชายหาดเล็ก ๆ และโพรงถ้ำซึ่งจะโผล่ให้เห็นได้เฉพาะเวลาน้ำลง มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่บนเกาะด้วย ในกลุ่มนี้จะมีเกาะผีซึ่งอยู่ไปทางทิศเหนือ และยังเป็นที่สามารถพายเรือแคนูได้

เกาะรอกใน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ย่อยของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ด้านทิศตะวันออกมีหาดทราย และแนวปะการังเป็นกลุ่ม ๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า ผืนทรายที่เกาะรอกในละเอียดขาวเนียน น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวจนมองเห็นปลาหลากสีสัน เป็นความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ยังไม่มีใครเดินทางมาสัมผัสมากนัก บนเกาะยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินออกกำลังกายดูพันธุ์ไม้ ต่าง ๆ ได้อีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะพักค้างแรมบนเกาะ ที่นี่มีที่พื้นสำหรับกางเต็นท์ สนใจสอบถามข้อมูลได้จากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

05

เกาะรอกนอก ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ มีหาดทรายขาวละเอียด และแนวปะการังน้ำตื้น ด้านท้ายเกาะมีหาดทะลุและอ่าวม่านไทร ส่วนการเดินทางไปเกาะรอกนิยมเช่าเรือจากท่าเรือปากเมง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือใช้บริการนำเที่ยวด้วยเรือเร็วจากเกาะลันตา สามารถติดต่อได้จากบริษัททัวร์หรือสถานที่พักบนเกาะลันตาใหญ่ ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้เช่าเรือหางยาวเดินทางไปเกาะรอกเนื่องจากระยะทางไกล อาจไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะในวันที่สภาพอากาศไม่ดี

เกาะไหง ทางทิศตะวันออกของเกาะ ประกอบด้วยหาดทรายยาว และมีปะการังด้านหน้าหาด นับเป็นแหล่งดูปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์แห่งหนึ่ง การเดินทางสามารถเช่าเรือจากท่าเรือปากเมง จังหวัดตรังได้

หินแดง เป็นหินโสโครกอยู่ฝั่งด้านนอกของทะเลอันดามัน มีปะการังชนิดต่างๆ ที่สวยงามเหมาะสำหรับการดำน้ำ

06

08

เกาะห้า (ตุกนลิมา)ซึ่ง ตุกนลิมา แปลว่า กองหินห้าลูก เป็นกลุ่มเกาะ 5 เกาะ เกาะห้าใหญ่จะมีลักษณะของทุ่งหญ้าอยู่บนสันเกาะ มีเกาะรูปคล้ายใบเรือ เป็นเกาะที่มีน้ำลอดได้ และเมื่อขึ้นอยู่บนสันเกาะจะมีมุมทิวทัศน์ที่สวยงาม กลุ่มเกาะห้าเป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงอีกเกาะหนึ่งของเกาะลันตา สัตว์ที่น่าสนใจ คือ กระเบนราหู โดยทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณเกาะห้า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม – 30 พฤศจิกายน ของทุกปี

 

การเดินทาง

          เกาะลันตาอยู่ห่างจากเมืองกระบี่ประมาณ 70 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่เกาะลันตาได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถตู้ และเรือโดยสาร

 

โดยรถยนต์

          จากกรุงเทพฯ ต้องขับรถไปยังท่าเรือหัวหิน จังหวัดกระบี่ เพื่อข้ามแพขนานยนต์ไปเกาะลันตา โดยเริ่มต้นจากการใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จนถึงจังหวัดชุมพร แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร สู่อำเภอไชยา อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ แล้ววกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ ระยะทางประมาณ 814 กิโลเมตร

          เมื่อถึงเขตเมืองกระบี่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม ถึงประมาณหลักกิโลเมตรที่ 64 แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4206 สู่บ้านหัวหิน ซึ่งเป็นจุดลงแพขนานยนต์ไปยังเกาะลันตาใหญ่ ต้องลงแพขนานยนต์ 2 ช่วง คือ บ้านหัวหินเกาะลันตาน้อย และเกาะลันตาน้อยเกาะลันตาใหญ่ ค่าข้ามแพ 2 ช่วง รถยนต์ คันละ 100 บาท รวมคนขับ ผู้โดยสาร คนละ 20 บาท

 

โดยรถประจำทาง

          จากกรุงเทพฯ ต้องนั่งรถไปลงที่กระบี่ มีรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯกระบี่ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11-12 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทรศัพท์ 1490 หรือเว็บไซต์ www.transport.co.th

          เมื่อลงรถที่สถานีขนส่งกระบี่แล้ว รอรถตู้ไปเกาะลันตาที่สถานีขนส่ง สำหรับผู้ที่ไม่ได้เดินทางด้วยรถประจำทาง ต้องไปขึ้นรถตู้ที่คิวรถกระบี่ลันตา ถนนมหาราช ซอย 6 ควรโทรศัพท์จองที่นั่งและนัดแนะเวลาขึ้นรถล่วงหน้าที่ โทรศัพท์ 0 7562 2197 (กระบี่) หรือโทรศัพท์ 0 7569 7053 (เกาะลันตา) รถออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 .ทั้งนี้ รถตู้จะแล่นไปส่งนักท่องเที่ยวถึงที่พักจนสิ้นสุดปลายทางที่บ้านศรีรายา ในเที่ยวกลับควรโทรศัพท์นัดเวลามารับที่ที่พัก และต้องเผื่อเวลาเดินทางกลับถึงกระบี่ไว้ราว ๆ 3 ชั่วโมง เพราะอาจต้องรอลงแพขนานยนต์นานเป็นชั่วโมง

 

โดยเครื่องบิน
          เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปกระบี่ โดยการบินไทย นกแอร์ และแอร์เอเชีย ดังนี้
          –
การบินไทย โทรศัพท์ 0 2356 1111 หรือ www.thaiairways.com
          –
นกแอร์ โทรศัพท์ 1318 หรือ www.nokair.com
          –
แอร์เอเชีย โทรศัพท์ 0 2515 9999 หรือ www.airasia.com

          จากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ไปเกาะลันตา วิธีที่สะดวกที่สุดคือเช่ารถจากบริษัทต่าง ๆ ที่ตั้งบูธอยู่ภายในอาคารท่าอากาศยาน หรือหากจองที่พักบนเกาะลันตาไว้ ส่วนใหญ่แล้วจะมีรถมารับที่ท่าอากาศยาน


การเดินทางภายในเกาะลันตา

          ถ้าไม่ได้ขับรถไปเอง เมื่อไปถึงลันตาควรเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยว เพราะบนเกาะไม่มีรถสองแถว เช่ามอเตอร์ไซค์ได้ที่ร้านแถวศาลาด่าน ค่าเช่าวันละ 150 – 250 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนวันเช่า ทั้งนี้ เกาะลันตามีถนนรอบเกาะเส้นหลักเส้นเดียว สภาพดี ลาดยางตลอดเส้น ไปจนถึงอ่าวบากันเตียง จากนั้นจึงเป็นทางลูกรังไปจนใกล้ถึงแหลมโตนด อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา สภาพเส้นทางมีหินลอย ขึ้นลงเขาชัน ข้างทางเป็นหุบเหว หากจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวต้องมั่นใจในฝีมือการควบคุมรถของตัวเองอย่างมาก แต่เมื่อผ่านด่านเก็บค่าธรรมเนียมไปแล้ว เป็นทางลาดยางตลอด 2 กิโลเมตร จนถึงที่ทำการอุทยานฯ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเหมาเรือหางยาวท่องเที่ยวและดำน้ำรอบเกาะได้ คิดราคาต่อวัน/ครึ่งวัน หรือแล้วแต่ระยะทางและการต่อรอง ติดต่อเช่าเรือได้ที่บริษัทนำเที่ยวแถวท่าเรือศาลาด่าน หรือติดต่อผ่านที่พัก


โดยเรือ
          จากจังหวัดกระบี่เดินทางสู่เกาะลันตาโดยทางเรือ สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือต่าง ๆ ดังนี้
          –
ท่าเรือคลองจิหลาด อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ออกเวลา 11.00 . ถึงเกาะลันตา เวลาประมาณ13.00 . ค่าโดยสารประมาณ 350 บาท
          –
ท่าเรืออ่าวต้นไทร (เกาะพีพี) ออกเวลา 08.00 . ถึงเกาะลันตา เวลาประมาณ 09.30 . ค่าโดยสารประมาณ 300 บาท

          – ท่าเรือเกาะจำ (อำเภอเหนือคลอง) ออกเวลา 11.30 . ถึงเกาะลันตา เวลาประมาณ 12.15 . ค่าโดยสารประมาณ 250 บาท

          – ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง ออกเวลา 10.30 . ถึงเกาะลันตา เวลาประมาณ 12.45 . ค่าโดยสารประมาณ 380 บาท

          สำหรับการเดินทางสู่เกาะไหง เกาะห้า เกาะรอก และหินแดงหินม่วง เมื่อไปถึงเกาะลันตาใหญ่แล้ว สามารถเช่าเรือเอกชนได้จากท่าเรือบ้านศาลาด่าน หรืออีกเส้นทางหนึ่ง คือ จากหาดปากเมง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ส่วนการไปหินแดงหินม่วง มีเรือที่ให้บริการดำน้ำลึกเท่านั้น

 

หมายเหตุ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในแหล่งท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา บริเวณเกาะรอก กองหินแดงกองหินม่วง และเกาะห้า(ตุกนลิมา) ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 31 ตุลาคมของทุกปี

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เวบ kapook

กิจกรรมท่องเที่ยวเขาศก จ.สุราษฎ์ธานี

เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ที่สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง เกิดเป็นอ่างน้ำขนาดใหญ่ บนสันเขื่อนเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามของอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะยามดวงอาทิตย์ตก ภายในอ่างเก็บน้ำมีเกาะมากกว่า 100 เกาะ สามารถล่องเรือชมทัศนียภาพที่สวยงามมาก หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมมาก จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย คือเขาศก เป็นที่ตั้งของภูเขาหินปูนสูงตระหง่านโดดเด่น รายล้อมด้วยสายน้ำของเขื่อนเชี่ยวหลาน และ เกาะแก่งต่างฯ มีแพพักซึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก ไว้บริการ และยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเช่น พายเรือแคนู ตกปลา เที่ยวถ้ำซึ่งจะต้องเดินป่าเข้าไป ระหว่างทางจะได้สัมผัสกับธรรมชาติและความสมบูรณ์ของผืนป่าภาคใต้ ตัวเขื่อนซึ่งอยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีสนามกอล์ฟมาตรฐาน 8 หลุม ท่าเรือสำหรับนั่งเรือชมบรรยากาศเหนือเขื่อน และบ้านพัก บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

ฤดูกาลท่องเที่ยวเขาศกที่เหมะสมจะอยู่ใช่ช่วงเดือนเมษายน ธันวาคม

กิจกรรมน่าสนใจในเขาศก

001

การล่องเรือแคนูในแม่น้ำคลองศก
การล่องเรือในแม่น้ำคลองศก เป็นกิจกรรมที่ท่านจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศของธรรมชาติ และวิถีชีวิตชาวบ้านคลองศก โดยใช้เวลาในการนั่งเรือ

01

 

02

 

03

การล่องแพไม้ไผ่
การล่องแพไม้ไผ่ตามสายน้ำคลองศกไปตามหุบเขา และเพลิดเพลินความงามของทัศนียภาพตลอดสองฝั่งคลองศก

04

 

05

 

06

การขี่ช้าง
การขี่ช้างล่องไพร เป็นประสบการณ์ของชีวิตที่ท่านจะเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติของป่าดิบชื้นของเขาสก

07

 

08

 

09

การเดินป่า
เป็นกิจกรรมการเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งเป็นอุทยานที่ได้ขนานนามว่า ขุนเขาแห่งป่าฝน เป็นป่าดิบชื้นที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และมีน้ำตกต่างๆ มากมายให้ท่านได้เพลิดเพลิน และเล่นน้ำ

10

 

11

 

12

การเที่ยวเขื่อนรัชชประภา
เขื่อนรัชชประภา ได้รับการขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย เป็นเขื่อนที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ และความมหัสจรรย์ยิ่งนัก ท่านจะได้นั่งเรือหางยาวชมความงามของทัศนียภาพ และเที่ยวชมความงามของถ้ำปะการัง และรับประทานอาหารบนแพกลางน้ำท่ามกลางวิวภูเขา

 

การเดินทางระยะทางสู่เขาศก

ห่างจาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ……………. 85 km
ห่างจาก อ.เมืองพังงา …………………… 100 km
ห่างจาก อ.เมืองภูเก็ต …………………… 170 km
ห่างจาก อ.เมืองกระบี่ ………………….. 150 km
ห่างจาก อ.พุนพิน (สถานีรถไฟ)…………. 70 km
ห่างจาก ปากทางเข้าเขื่อน ………………. 13 km
ห่างจาก อช.เขาสก……. ………………. 60 km


ระยะห่างจากกรุงเทพ ประมาณ 709 กิโลเมตร ตำแหน่ง Gps 13.7150511,100.4441649 ข้อมูลรีสอร์ท เพิ่มเติมคลิก http://hotelandresortthailand.com/hotel.php?name=%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%81%20%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%8C&menu=Hotel%20Overview&lang=th

เดินทางโดยรถยนต์

ถ้าขับรถไปผู้อ่านสามารถ แพลนเที่ยว หัวหิน , กระบี่ , ภูเก็ต หรือ สมุยได้สบายๆ 

รายละเอียดการเดินเพิ่มเติมทางดูได้จากเวบนี้เลยค่ะ http://www.chiewlarn.com/forum/index.php?topic=10.0

 

 

 

 

แนะนำร้านอาหารอร่อยๆ ที่พัทยา จ.ชลบุรี

ไปเที่ยวสนุกสนานแล้ว แต่สิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือ ต้องหาอาหารอร่อยๆ ทานด้วยถึงจะครบสมบูรณ์แบบ วันนี้ทางเวบขอแนะนำร้านอาหารที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นร้านประจำจังหวัด ถึงแล้วต้องไปทานกัน ไม่ไปถือว่าพลาด เริ่มต้นเลยที่

 

พัทยา เมืองพักผ่อนตากอากาศใกล้ๆกรุงเทพนี้เอง ส่วนมากคนมาพัทยาหากจะหาร้านอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆริมทะเล ต้องที่นี่ อร่อยทุกเมนู มุมอร่อยพัทยา มี 3 สาขา มุมอร่อยศรีราชา มุมอร่อยบางละมุง หรือนาเกลือ และมุมอร่อยพัทยาสาย 3

01

เมนูอร่อยสั่งกันเกือบทุกโต๊ะ

ปลากะพงทอดน้ำปลา

ปลากะพงตัวใหญ่ๆ สดมาก เนื้อหวาน ทอดกรอบราดด้วยน้ำปลา มาทุกครั้งต้องสั่งทุกครั้ง

02

แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว

รสชาติกลมกล่อม ให้ไข่ปลาเยอะ

03

ต้มยำรวมมิตรทะเลน้ำข้น

น้ำแกงเข้มข้น กับวัตถุดิบสดใหม่

04

ส้มตำปูม้า รสเด็ด

05

และเมนูอาหารอีกมากมาย เรียกได้ว่าสั่งเลยอร่อยทุกอย่าง เช่น กุ้งอบวุ้นเส้น กั้งกระเทียมพริกไทย ผัดผักหวาน ยำรวมมิตร ยำสามกรอบ ยำหอยนางรม ปูผัดผงกะหรี่

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.30 – 23.00 น.

สาขานาเกลือ โทร 038-223-252, 084-546 7999

สาขาศรีราชา โทร 081-110-4567 , 081-110-7654 , 038-771-555

สาขาพัทยาสาย 3โทร 038-414-802

 

อีกร้านอร่อย สำหรับผู้ต้องการดินเนอร์แสนโรแมนติค รับประทานไปชมวิวงามๆ ถ่ายรูปมาอวดอัพลง Facebook หรือ instagram ได้ที่

ริมผา ลาพิณ

06

07

08

09

บรรยากาศ

 10

11

12

13

14

15

16

จานเด็ด

รายละเอียดสำรองที่นั่งล่วงหน้า

รับจองโต๊ะ เฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ ยกเว้นวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 16.00 – 24.00 น. , เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 14.00 – 24.00 น.

โทร : 084-451-5686

 

ร้านปูเป็น จอมเทียน

ร้านดังริมหาดจอมเทียน เปิดให้บริการทั้ง open air ริมทะเล และโซน indoor ในห้องแอร์ จุดเด่นอยู่ที่วัตถุดิบพวก กุ้ง หอย ปู ปลา ที่สดใหม่ ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน อีก 1 รสชาติ 1 บรรยากาศที่ต้องลอง

โทร 038 231 728

เมนูเด็ดของร้าน

17

18

19

20

21

22

23

24

25

เดอะ กลาสเฮ้าส์

ร้านอาหารนั่งสบาย ริมชายหาดส่วนตัว ทางเข้าอยู่ตรงข้ามกับโรงละคร อลังการ ก่อนถึงรร.แอมบาสเดอร์ เพียง 800 เมตร  พบกับทะเลสีคราม และ ร้านอาหารสีขาวสะอาด เป็นเรือนกระจกใสแจ๋ว ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสน ริมทะเลแสนสวย แทบจะไม่เชื่อสายตาว่าที่นี่ คือ “ พัทยา “ ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นของป่าสนใหญ่อายุเกือบ 100 ปี ซึ่งตั้งเรียงรายอยู่บนหาดทรายกว้างริมทะเล ที่มีเม็ดทรายละเอียดสีทอง ยาวสุดสายตา สายลมที่พัดเอื่อย ๆ ตลอดทั้งปี ทั้งกลางวัน และ กลางคืน พัดพาเอาเสียง คลื่นกระทบฝั่งเบา ๆ ผ่านร่มเงาไม้ใบสน ทำให้อากาศที่นี่เย็นสบาย อย่างบอกไม่ถูกที่นั่งที่นี่ ชิลล์ไม่เหมือนใคร

26

27

28

29

30

31

32

สำรองที่นั่งโทร : 038-255-922 , 081-266-6110
เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 11 AM – Midnight

 

สุดทางรัก พัทยา

ร้านอาหารบรรยากาศริมหาดพัทยา ตั้งอยู่ใกล้ซิกม่ารีสอร์ท ภายในร้านเน้นการตกแต่งแบบบรรยากาศอบอุ่น ประกอบด้วยโซน Open Air แบบลมพัดเย็นสบาย และแบบห้องแอร์เย็นฉ่ำ ทำให้การรับประทานนั้นอร่อยยิ่งขึ้น

 

ที่ตั้ง : 99 ม.1 ถ.เลียบชายหาด ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน จันทร์ – พฤหัสฯ เวลา 12.00 – 24.00 น. , ศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 12.00 – 01.00 น.

โทร : 038-232-222

33

34

35

36

37

เมนูแนะนำประจำร้าน

38

39

40

41

42

 

แกรนด์ซีไซด์

ร้านแกรนด์ซีไซด์ ตั้งอยู่ในซอยสถิตจอมพล 18 หรือปลายสุดของแหลมฟาน ที่คนศรีราชารู้จักเป็ยอย่างดี ด้วยการตกแต่งตัวร้านแบบสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 รายล้อมไปด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติคจากลมที่พัดเย็นสบายบวกกับน้ำทะเลสีคราม ขณะที่นั่งรับประทานอาหารสูตรชาววังที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เมนูส่วนใหญ่จะเป็นอาหารทะเล และอาหารไทย

ที่ตั้ง :  9 ซอยซอย เจิมจอมพล 18 ถนนเจิมจอมพล ตำบลศรีราชา อำเภอศรีราชา ชลบุรี 20110

เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น

โทร : 038-312-537, 038-323-851

43

44

45

46

47

ปูทะเลอบเกลือ เป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน แนะนำให้สั่ง ปูไข่แน่นๆ รสชาติเค็มๆหวานๆ อร่อยสุดโดนใจ

48

ปลากะพงทอดน้ำปลา ปลาสดกรอบนอกนุ่มใน

49

50

51

ด้านของหวานต้องยกให้ข้าวเหนียวมะม่วง

52

53

54

 

La Baguette พัทยา

55

ร้านเบเกอรี่สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริมถนนพัทยา – นาเกลือ บริเวณด้านหน้าของโรงแรม วูดแลนด์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านเน้นโทนสีขาว เพิ่มความโปร่งโล่งด้วยกระจกใสรอบด้าน หรือสามารถเลือกนั่งรับลมด้านนอกร้านก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

 

ที่ตั้ง : 164/1 หมู่5 อาคาร บริเวณด้านหน้าวู้ดแลนด์โฮเทลแอนด์รีสอร์ท ถนนพัทยา-นาเกลือ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150

โทรศัพท์ : 038-421-707

เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 24.00 น.

เมนูแนะนำ : บาเก็ตต์, สลัดปลาแซลมอน, แซนด์วิชเนื้อ, สตรอเบอร์รี่ชีส, บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก, คาราเมลคัสตาร์ด, ครัวซองต์อัลมอนด์, แซนด์วิชสารพัดหน้า

56

64

65

66

 

หาดทรายรีแล็กซ์ ผับแอนด์เรสเตอรองท์

ร้านอาหารบรรยากาศริมทะเลอีกร้านหนึ่งที่อยากแนะนำ สำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศสบายๆ ริมทะเล มีลมพัดผ่านเย็นสบาย ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งช่วยให้เพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารได้ดียิ่งขึ้น

ที่ตั้ง : 1/1 ถนนบางแสนสาย 1 ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี ชลบุรี 20000

โทร : 038-191-778 , 083-013-9309 , 088-839-4464

เปิดทุกวัน เวลา 16.00 – 24.30 น

เมนูแนะนำ : อาหารทะเลเผา, ปลากะพงนึ่งมะนาว, ต้มยำรวมมิตร, ไข่ตุ๋นทะเลหม้อไฟ, กุ้งสะดุ้งไฟ

67

68

70

71

72

 

ต้มเลือดหมูคุณศรี

ร้านอาหารขึ้นชื่อของเมืองพัทยา ที่หลายคนแนะนำว่าต้องลองมาชิมสักมื้อ ร้านต้มเลือดหมูคุณศรีเปิดสาขาทั่วพัทยาทั้งเหนือ กลาง ใต้ ตลอดจนไปมอเตอร์เวย์ ส่วนเรื่องความอร่อยหลายคนที่ได้ชิมแล้วจะบอกว่า ต้มเลือดหมูนั้นน้ำซุปหวานเข้มข้น ส่วนเครื่องในและเลือดหมูไม่มีกลิ่นคาว สำหรับคนใดที่ไม่ชอบทานต้มเลือดหมูนั้น ทางร้านก็มีก๋วยเตี๋ยวหมู เกาเหลาซี่โครงหมู เกาเหลาปลาให้ได้เลือกลิ้มลองความอร่อยกันจนพุงกาง

 

ที่ตั้ง : ในพัทยามีทั้งหมด 4 สาขาคือ สาขาพัทยากลาง ตรงข้ามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, พัทยาเหนือ ถนนสุขุมวิทติดกับปั้มเชลล์, พัทยาสาย 2 ติดกับอเวนิว และพัทยาใต้ซอย 7 ในโรงแรมสิวาลัย ซิตี้ เพลส

เปิดปิดเวลา  : 06.30 – 16.00 น.

โทร. 081-982-6944

73

74

75

 

ร้านอาหาร ประภาคาร

ร้านตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่าสุดๆ ในบรรดาร้านอาหารริมชายทะเลย่านอำเภอพัทยา ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์โทนฟ้า – ขาว ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความเป็นทะเลมากยิ่งขึ้น ร้านนี้สามารถการันตีถึงความอร่อยของอาหารและบรรยากาศได้

เมนูแนะนำจากทางร้าน สเต็กทะเล, กุ้งอบชีสผักโขม, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีสผักโขม, ปลากะพงทอดตะไคร้, แกงเขียวหวานแซลมอน, ปูม้าผัดผงกะหรี่,ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน, ยำถั่วพู

 

ที่ตั้ง : 132/3 ซอยนาจอมเทียน 32 ถนนสุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ ชลบุรี 20250

โทร : 038-238-009 , 038-238-010

เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 23.00 น.

76

77

78

79

80

 

เดอ ปาปาย่า คาเฟ่ต์ พัทยา

ร้านอาหารสไตล์ฝรั่ง ตั้งอยู่ใน Mimosa พัทยา ภายในตกแต่งให้เข้ากับคอนเซปต์สถานที่ท่อเงที่ยวที่ โอ่โถง สวยงาม ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ส่วนอาหารเน้นสไตล์ฟิวชั่นแต่ปรุงรสให้เหมาะกับคนไทย

 

ที่ตั้ง  : Mimolsa พัทยา ตำบลนาจอมเทียน  สัตหีบ, ชลบุรี

โทรศัพท์ : 086-305-9050

วันเวลาเปิด-ปิด : 10.00-23.00น.

84

81

83

82

 

และนี่คือร้านอาหารสุดอร่อยที่รอให้ทุกท่านได้ไปลิ้มลองและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศทุกชิวริมทะเล จังหวัดชลบุรี  ที่นำมาแนะนำให้ตามไปชิม ตามไปลอง เพราะทุกร้านเป็นร้านต้นตำรับความอร่อยที่ใครได้ไปชิมก็ติดใจกันทั้งนั้น

 

เรียบเรียงโดย  www.hotelandresortthailand.com

รีวิวอาหารบุฟเฟต์โรงแรม เมอร์เคียว กรุงเทพฯ สยาม

 

หลังจากได้ยินชื่อเสียงร่ำลือถึงความอร่อย ความสดใหม่ และหลากหลายของอาหารมานาน วันนี้ได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารบุฟเฟต์ซีฟู้ดนานาชาติของโรงแรม เมอร์เคียว กรุงเทพฯ สยาม โรงแรมสัญชาติฝรั่งเศสใจกลางกรุงเทพมหานคร ณ.ห้องอาหาร The Eight ชั้น 8 ของโรงแรม เมอร์เคียว กรุงเทพฯ สยาม เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าลงสถานีสนามกีฬา หรือหากขับรถมาก็มีที่จอดรถกว้างขวางไว้รองรับ มาโดยรถยนต์ให้เลือกใช้เส้นถนนพระราม 1ขับตรงมาเรื่อยๆ จุดสังเกตได้ชัดคือสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬา โรงแรมอยู่เยื้องตรงกันข้ามกับสนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย)

the_mercure_ban352_gallery1_4

 

โรงแรมใกล้ BTS สนามกีฬามาก เรียกได้ว่าเดินลง BTS มาก็ถึงเลย

 

เริ่มต้นที่ล็อบบี้

 

2

 

ขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 8 จุดหมายปลายทางของเรา ห้องอาหารเปิดวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ ศุกร์ และเสาร์จะเป็นแซลมอลไนท์

 

ส่วนวันศุกร์ และวันอาทิตย์มีเมนูพิเศษจากเชฟ เป็น A La Cart ให้เลือกสรร

 

3

 

บรรยากาศ

 

4

 

ตื่นตาตื่นใจไปกับไลน์บุฟเฟต์อาหารนานาชนิด

 

5

 

 

6

 

หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติแซ่บๆ อร่อยกลมกล่อม

 

7

 

ไลน์ซีฟู้ด

 

8

 

กุ้งอีกหนึ่งเมนูที่พลาดไม่ได้

 

9

 

 

ปลาหมึกสด กรุบ อร่อย

 

10

 

เนื้อปูแน่นๆ เนื้อหวาน อร่อย

 

11

 

ค่ำคืนนี้มีไฮไลท์เป็นแซลมอล แซลมอลไนท์วันนี้จึงเต็มไปด้วยปลาแซลมอลปรุงหลากหลาย ทั้งแซลมอลสด

แซลมอลรมควัน และยำ

12

13

14

15

16

 

 

เมนูเนื้อสัตว์ต่างๆ บาร์บีคิว เลือกให้เชฟปรุงให้ตามใจชอบเลยค่ะ

 

17

 

เมนู A La Cart จากเชฟ สำหรับค่ำคืนนี้เป็น คุโรบุตะ สเต๊ก เนื้อนุ่ม รสชาติกลมกล่อม มาพร้อมการตกแต่งจานสวยๆ ฝีมือเชฟจากโรงแรม เมอร์เคียว กรุงเทพฯ สยาม

 

18

 

ขนมปัง เนย ชีส ซอสต่างๆ

 

23

 

พิซซ่าหน้าแซลมอน เนื้อแป้งบางกรอบ แซลมอนหอมนุ่ม เข้ากันสุดๆ

 

22

 

ลาซานญ่า

 

20

 

และอีกหลากเมนู คุ้มสุดๆไปเลย

 

21

 

29

 

31

 

28

30

 

ไลน์คนรักสุขภาพ สลัดผักสดๆ

 

24

 

19

 

ตบท้ายด้วยขนมหวาน ต้องยกนิ้วให้เลย อร่อยทุกอย่าง

 

 

27

25

 

มาการอง + ช็อกโกแลต มาการองหวานพอดี กรอบอร่อย จุ่มบน sponge chocolate ที่ฉุ่มฉ่ำไปด้วยช็อกโกแลตแท้หวานมัน ชิ้นเดียวไม่พอนะคะ ส่วนชีสเค้ก ท้อปปิ้งสตรอเบอรี่นั้นพลาดไม่ได้เลย รวมถึงพุดดื้งนมแก้วนั้นด้วยค่ะ

 

26

 

ชัดๆ

 

33

 

ขนมไทยก็มีค่ะ อร่อยไม่แพ้ขนมฝรั่ง

 

34

 

ไอศครีม

 

35

 

เครื่องดื่ม ราคารวมกับบุฟเฟต์แล้วค่ะ

 

36

 

ห้องอาหาร The Eight ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ในบรรยากาศน่านั่ง สบายๆ เหมาะสำหรับพบปะกันระหว่างครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคู่รัก ด้วยไลน์อาหารที่มากมาย กับราคานับว่าคุ้มมากๆ อาหารสดใหม่ ทั้งซีฟู้ด อาหารไทย อาหารฝรั่ง บาร์บีคิว และอาหารตามสั่งที่ปรุงโดยเชฟ รวมถึงขนมหวานหลากชนิด มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

 

 

ทะเลสวย น้ำใส มหัศจรรย์ความงดงามของธรรมชาติ ณ เกาะ พีพี

 

phi_phi_the_bea346_gallery3_6

 

ใช้ชีวิตในวันหยุดพักผ่อนของคุณด้วยการเปิดประสบการณ์กับการท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และสวยงาม เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับความเหนื่อยล้าจากวิถีชีวิตของการทำงานประจำ และเช่นเดียวกันในวันนี้เราจะมาแนะนำให้เพื่อนๆผู้อ่านได้รู้จักกับอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าพักผ่อนและแสนประทับใจ กับบทความนี้ทะเลสวย น้ำใส มหัศจรรย์ความงดงามของธรรมชาติ ณ เกาะ พีพี

 

ทะเลใต้ยังคงงดงามและคงความเป็นธรรมชาติอันแสนสดใส คือความมีชีวิตชีวาของระลอกคลื่นและหาดทรายสีน้ำตาลอ่อน สำหรับเกาะ พี พี นั้นเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อมาแล้ว แต่ก็อาจจะมีเพื่อนๆหลายคนที่ได้ยินแค่ชื่อไม่ทราบว่ามันอยู่ที่ไหนหรือเป็นอย่างไร วันนี้เราจึงมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ เกาะ พี พี หนึ่งในสุดยอดของเกาะในประเทศไทย หรืออาจจะในโลกเลยก็ได้ค่ะ

 

เกาะ พี พี นั้น ตั้งอยู่ที่ ตำบลอ่าวนาง จ.กระบี่ บนฟากฝั่งทะเลอันดามันอันยิ่งใหญ่โดยสามารถเดินทางสู่เกาะพี พี ได้ทั้งมาจากทางจังหวัดกระบี่เองหรือ จังหวัดภูเก็ต ผ่านเรือโดยสารที่มีให้บริการอยู่มากมาย โดยเกาะ พี พี นั้น ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธาราซึ่งเป็นอุทยานที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไว้ได้อย่างพรั่งพร้อม และหมูเกาะพีพี นั้นแท้จริงยังประกอบด้วยเกาะเล็กๆต่างๆมากมาย ตัวอย่างเช่น เกาะไผ่ เกาะยูง เกาะพีพีดิน เป็นต้น

 

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวในหมูเกาะพีพี คือช่วงต้นปี เนื่องจากในช่วงปลายปี บริเวณของเกาะพีพี จะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตก ทำให้มีคลื่นลมแรง ไม่เหมาะกับการท่องเที่ยว

 

นอกจากนี้แล้วหมู่เกาะพี พี ยังถือว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ ปะการังสีสันและลวดลาย สวยงามแปลกตา คงความงดงามและน่าประทับใจทุกครายามสัมผัส แหวกว่ายลงไปในท้องทะเลใส กลิ่นอายทะเลหอบเอาความบริสุทธิ์และงดงามของธรรมชาติมาจับตาผืนน้ำโอบล้อมกายให้ความรู้สึกสดชื่นและแจ่มใสเบิกบาน หรือถ้ายังไม่เคยดำน้ำมาก่อนก็มีบริการสอนการดำน้ำมากมายให้ได้เลือกลองกันค่ะ และรับรองว่ามักจะติดใจ

 

ความงดงามของหาดทรายสีน้ำตาลอ่อน เนื้อทรายละเอียดและสะอาดทำให้ได้ผ่อนคลายทุกย่างเก้าที่เดิน ไม่ว่าจะเดินเลียบริมชายหาด หรือเดินลงไปโต้คลื่นใสสะอาดตา กับชายทะเลที่ยังคงความงดงามของธรรมชาติไว้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อม คือความสุขในช่วงวันหยุดพักผ่อน คือเชื้อเพลิงอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ก้าวต่อไปในช่วงการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้า เมื่อได้มาพักผ่อนในสถานที่แห่งนี้กับ ทะเลสวย น้ำใส มหัศจรรย์ความงดงามของธรรมชาติ ณ เกาะ พีพี กันค่ะ

 

“เกาะยาว” ของขวัญของธรรมชาติอันสวยงามและน่าประทับใจ

 

 

 

1392559_10151635497852063_391290527_n

 

เกาะยาว”  ของขวัญของธรรมชาติอันสวยงามและน่าประทับใจ

 

ในวันหยุดพักผ่อนเช่นนี้ เพื่อนๆมีสถานที่ท่องเที่ยวในใจกันหรือยังคะสถานที่ที่จะทำให้เพื่อนๆได้พักผ่อนคลายอย่างเต็มที่ เติมชีวิตชีวาที่ขาดหายและสร้างความสุขอย่างสมดุลให้กับชีวิต

 

เพราะธรรมชาติคือผู้ให้ คือสัจธรรมที่เป็นดั่งคำตอบของสรรพสิ่ง สำหรับการท่องเที่ยวเองนั้นก็เช่นเดียวกันค่ะ การเลือกท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆที่คงความงดงามและอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไว้นั้น ก็จะเป็นความประทับใจในช่วงวันหยุดพักผ่อนได้ไม่น้อยเลย และหนึ่งสถานที่ที่เราจะได้นำมาแนะนำกับเพื่อนๆกันในวันนี้ก็คือ เกาะยาว”  ของขวัญของธรรมชาติอันสวยงามและน่าประทับใจ ค่ะ

 

หากพูดถึงเกาะยาวนั้น เพื่อนๆหลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อหรือรู้จัก แต่หากพูดถึงหมู่เกาะแถบทะเลใต้อย่างอันดามันนั้น เพื่อนๆหลายๆคนก็คงพอจะทราบถึงความงดงาม ความบริสุทธิ์และความสมบูรณ์ใช่ไหมล่ะคะ และเช่นเดียวกันค่ะ เกาะยาวเองก็มีคุณสมบัติเช่นที่เพื่อนๆกำลังนึกถึงกันอยู่เลย โดยตัว เกาะยาวนั้น เป็นหมู่เกาะบริเวณอ่าวพังงาของห้วงทะเลอันดามันนั่นเอง เกาะยาวประกอบด้วยเกาะล้อมรอบ กว่าสี่สิบเกาะ ครอบคลุมพื้นที่กว่าสิบตารางเมตร เกาะยาวประกอบด้วย2 เกาะหลักๆ คือ เกาะยาวน้อย และ เกาะยาวใหญ่ค่ะ

 

ในเรื่องของการเดินทางนั้น เกาะยาวห่างจากตัวจังหวัดพังงาประมาณ 40 กิโลเมตร โดยมีท่าเรือโดยสารให้บริการอยู่จำนวนหนึ่ง ชายหาดของเกาะยาวได้ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงามและความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นเกล็ดทรายสีเทาอ่อนที่มีเนื้อละเอียดบนหาดทรายยาว เกลียวคลื่นที่ยังคงความบริสุทธิ์ ไม่ค่อยมีตะกอนขยะหรือมลพิษทางน้ำ คราบน้ำมันต่างๆ

 

สำหรับเพื่อนๆที่ชื่นชอบการมองพระอาทิตย์ขึ้น หรือชมพระอาทิตย์ตกดินแล้วนั้น ท้องทะเลแห่ง เกาะยาวก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเช่นเดียวกันค่ะ แค่ลองจินตนาการภาพเส้นสีท้องตัดกับขอบฟ้าสีครามที่มาบรรจบกับห้วงทะเลลึกสีน้ำเงินเข้มเป็นมันระยับทอดตัวกับเกลียวคลื่นเป็นฟองสีขาวนุ่ม กับหาดทรายสีทองอ่อนระยิบระยับ….

h4

นอกจากนี้บนเกาะยาวเองก็ยังมีรีสอร์ทที่พักแบบเข้ากันกับธรรมชาติ มีกิจกรรมต่างๆให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการังอันแสนวิจิตรงดงาม และยังมีกิจกรรมการประมง ซึ่งชาวเกาะยาวยึดเป็นอาชีพมาช้านาน ให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้สัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตของคนประมงได้อีกด้วย

 

การใช้เวลาในวันหยุดพักผ่อนของคุณ กับการเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการท่องเที่ยวกับ เกาะยาว”  ของขวัญของธรรมชาติอันสวยงามและน่าประทับใจ คงเป็นคำตอบที่ลงตัวและน่าสนใจที่จะสร้างความสุขและความทรงจำที่งดงามไปได้ตราบนานเท่านานเลยทีเดียว

 

โปรแกรมเที่ยวเชียงใหม่ ไม่พลาด by Hotel and Resort

1--photo-tav (6)

เมืองเชียงใหม่ จุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆคน เมืองใหญ่ในภาคเหนือแห่งนี้รุ่มรวยด้วยศิลปะวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ วิถีชีวิตของผู้คนเรียบง่าย สงบ ทว่าเต็มไปด้วยสีสันน่าสัมผัส หลากหลายด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สอดแทรกความเจริญตามแบบฉบับเมืองใหญ่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นับเป็นเสน่ห์ของเชียงใหม่ที่ทำให้ใครหลายคนใฝ่ฝันมาเยือน

 

หากคุณกำลังมองหาสถานที่เที่ยวในวันหยุดไว้เติมพลังให้กับชีวิต หากคุณรักธรรมชาติ ชื่นชอบศิลปะ ประวัติศาสตร์ การผจญภัย แต่ในขณะเดียวกันชอบชีวิตในเมือง รักแสงสี ใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง เชียงใหม่ คือคำตอบที่พอดีสำหรับคุณ

 

หากจะท่องเที่ยวเชียงใหม่ให้ทั่วอาจจะใช้เวลาหลายวัน แต่หากคุณมีเวลาเพียง 3-5 วัน เราได้สร้างสรรค์โปรแกรมท่องเที่ยว ที่จะทำให้คุณไม่พลาดแหล่งท่องเที่ยวเด่นๆ สำคัญๆ ที่ขึ้นชื่อได้ว่ามาเชียงใหม่แล้วจะต้องไป ทริปที่จัดไว้นี้พูดได้เลยว่า ไม่มีคำว่า มาเชียงใหม่ เหมือนไม่ได้มา

 

2--mh1vLKnvY5

 

 

3--Red-11

 

หากคุณมาโดยเครื่องบิน สนามบินเชียงใหม่ อยู่ใกล้ตัวเมืองมาก ใช้เวลาเดินทางสู่ตัวเมืองเพียง 5 นาที คุณสามารถเช่ารถกับทางศูนย์บริการเช่ารถหลายเจ้า หรือศูนย์บริการเช่ารถท้องถิ่นก็ได้ ราคาประมาณวันละ 800-1300 สำหรับราคาเริ่มต้น ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และช่วงเทศกาล หรือเลือกที่จะเรียกรถสองแถว หรือ ที่ชาวเชียงใหม่เรียกว่า รถแดง ไปก็ได้ ราคาคนละไม่เกิน 50 บาท ขึ้นอยู่กับทักษะการต่อราคาของคุณเอง

 

4--v2Yps

 

หากคุณเดินทางโดยรถบัสโดยสาร สถานีรถทัวร์จะอยู่ห่างจากตัวเมืองพอควร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที สามารถเรียกรถรถแดง ราคาอยู่ที่ 50-80 บาท หากคุณมีอยู่กันหลายคนก็ต่อราคาได้

 

5--100858904

 

การเดินทางโดยรถไฟ มักได้รับความนิยมโดยชาวต่างชาติ ชาวไทยจะไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ เพราะถ้าคุณเดินทางโดยรถไฟอาจใช้ระยะเวลา เกือบ 15 ชั่วโมง จากสถานีรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที เช่นกัน สามารถเรียกรถแดงได้ ราคาประมาณ 50-80 บาทเช่นกัน

 

ทริปที่ทางเราเสนอให้กับคุณเป็นทางเลือกครั้งนี้

วันแรกที่เชียงใหม่ —– ขึ้นดอยสุเทพ เที่ยวพระตำหนักภูพิงค์ ดอยปุย

ทางเราแนะนำว่าวันแรกหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง วันแรกที่ถึงเชียงใหม่ควรหาที่พักบริเวณในเมือง แถวคูเมือง ไนท์บาร์ซ่า ถ.ท่าแพ หรือบริเวณ ถ. นิมมานห์ พลาดไม่ได้กับการมนัสการดอยสุเทพ พร้อมชมวิวเมืองเชียงใหม่ หากคุณไปในช่วงหน้าหนาว เวลาเช้าบรรยากาศที่นี่จะสวยเกินบรรยาย มีทั้งทะเลหมอก และละอองเมฆหมอกรายล้อมตัวคุณ ทั้งดอกไม้ป่านานาพรรณ ต่างแข่งกันเบ่งบานชู่ช่อสลอน

 

ขึ้นดอยสุเทพ

ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นไปได้ หรือเหมารถแดงขึ้นไป ระยะทางจากเชิงดอยถึงยอดดอยประมาณ 14 กิโลเมตร ระหว่างทางขึ้นดอยสุเทพคุณสามารถแวะมนัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญล้านนาผู้โด่งดัง หรือแวะพักถ่ายรูปตามจุดชมวิวได้

ใช้เวลาขับรถจากเชิงดอยถึงบริเวณพระธาตุดอยสุเทพประมาณ 20 นาที บนยอดดอยสุเทพ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นับเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณลานเจดีย์เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเชียงใหม่ได้ในมุมกว้าง

 

**ผู้เข้าชมควรแต่งตัวเรียบร้อย ผู้หญิงห้ามใส่กระโปรง หรือกางเกงขาสั้น ทางเจ้าหน้าที่ของทางวัดมีให้บริการผ้านุ่งสำหรับเปลี่ยน

 

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

จากดอยสุเทพแล้ว ขับรถไปประมาณ 4 กิโลเมตร คุณสามารถเข้าเยี่ยมชม พระตำหนังภูพิงคราชนิเวศ พระตำหนักประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์เปิดให้ประชาชนเข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ยกเว้นเมื่อมีการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมในช่วงเดือน มกราคม-มีนาคม เปิดทำการทุกวัน 8.30-16.30 น.

 

**ผู้เข้าชมควรแต่งตัวเรียบร้อย ผู้หญิงห้ามใส่กระโปรง หรือกางเกงขาสั้น งดส่งเสียงดัง

 

อุทยานแห่งชาติดอยปุย

อุทยานแห่งชาติดอยปุยตั้งอยู่ห่างจากพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ 7 กิโลเมตร ด้านบนอากาศเย็นสบายตลอดปี เหมาะสำหรับการดูนกหลากหลายพันธุ์ ใกล้ยอดดอยปุยให้บริการพื้นที่สำหรับกางเต้นท์สัมผัสความงามของธรรมชาติได้ นอกจากนี้ยังสามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้ง พิพิธภัณฑ์ม้ง และแหล่งขายของที่ระลึก

**ทางขึ้นอุทยานดอยปุยค่อนข้างลำบาก ไม่เหมาะกับรถเล็ก แนะนำให้เหมารถแดงขึ้นไปจะปลอดภัยกว่า เนื่องจากคนขับจะชำนาญทาง

 

ขุนช้างเคี่ยน ดอกนางพญาเสือโคร่ง

ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านม้ง ดอยปุย ขับเลยไปนิดหน่อย คุณจะพบกันดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระเมืองไทย บานในช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม-ต้นเดือนมกราคมเท่านั้น

**ทางไปค่อนข้างขรุขระลำบาก เล็ก และแคบ โปรดระมัดระวัง

 

สวนสัตว์เชียงใหม่

หากยังมีเวลาพอเหลือ หรือต้องการปรับเปลี่ยนแผนท่องเที่ยว อีกหนึ่งทางเลือกคือสวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งอยู่บริเวณติดกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก่อนขึ้นดอยสุเทพ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 8.00 น.-17.00 น.

 

มื้อเย็นแนะนำ

ตอนเย็นแวะรับประทานอาหารร้านอร่อย พร้อมวิวทิวทัศน์แสนสวย

กับร้าน ผาลาดตะวันรอน หรือ เฮือนกาแล ราคาจะค่อยข้างสูงทั้งสองที่ แต่วิวประทับใจมาก (หารูปสองร้านนี้ลงนะ วิวสวยมาก)

หรือหากยากหาของอร่อย ราคาย่อมเยาวน์ สามารถขับรถหาทานของอร่อยได้ตรงถนนหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ ขับไปอีกนิดเพียง 5 นาที ก็จะถึง ถ.นิมมาห์ ย่านฮิตของคนเชียงใหม่ เต็มไปด้วยร้านอาหารหลากสไตล์ให้คุณเลือกสรรค์ พร้อมแหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน

 

วันที่ 2 -อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งไม่เพียงเพราะว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย แต่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกสิริธาร เที่ยวชมโครงการหลวง หรือถ่ายรูปบริเวณจุดชมวิวสูงสุดในสยาม

การเดินทางสู่ยอดดอยอินทนนท์นั้นมีระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตรจากตัวเมืองเชียงใหม่ โดยแบ่งเป็นจากตัวเมืองถึงเชิงดอยประมาณ 50 กิโลเมตร และจากเชิงดอยอีกยอดดอยอีกประมาณ 50 กิโลเมตร ผู้ขับขึ้นดอยควรจะมีความเชี่ยวชาญในการขับประมาณหนึ่ง หากไม่แน่ใจควรใช้บริการเหมารถแดงขึ้นไป และเพื่อให้ได้บรรยากาศควรจะออกแต่เช้าหน่อย ส่วนช่วงที่สวยที่สุดของปีจะเป็นช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิประมาณ 0-4 องศาเซลเซียส คุณอาจจะได้พบกับแม่คะนิ้ง หรือน้ำค้างแข็ง รวมไปถึงสีสันสวยงามของดอกไม้นานาพรรณ ป่าผลัดใบ และพันธุ์ไม้งามที่ขึ้นอยู่ในแถบยอดเขาสูงทางภาคเหนือ

 

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดชมบนดอยอินทนนท์

1.พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
บริเวณกิโลเมตรที่ 41.5 ทางด้านซ้ายมือ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ล้อมด้วยระเบียงแก้วโดยรอบ 2 ระดับ สามารถมองเห็นทิวทัศน์์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างสวยงาม

 

2.ยอดดอยอินทนนท์
ยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย สูง 2,565 เมตร

 

3.น้ำตกแม่ยะ

น้ำตกที่ใหญ่ที่สุด กล่าวขานว่าสวยที่สุดของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ไหลลงจากผาสูงชันกว่า 280 เมตร ตกกระทบโขดหินที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ บรรยากาศร่มรื่น เย็นฉ่ำ เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือเล่นน้ำตก

 

4.โครงการหลวงดอยอินทนนท์

ศูนย์วิจัยไม้เมืองหนาว เช่น ไม้ดอก ไม้ประดับ และผลไม้เมืองหนาว เป็นศูนย์ส่งเสริมอาชีพของชาวกะเหรี่ยง และชาวม้ง ผลิตเครื่องดื่ม ผักสด และอาหาร ภายใต้แบรนด์ ดอยคำ รวมถึงเป็นแหล่งเพราะเลี้ยงพันธุ์ปลา และ ทดลองการทำนาข้าวบันไดอีกด้วย
5.ถ้ำบริจินดา 
ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 8-9 ของทางหลวงหมายเลข 1009 เป็นถ้ำทะลุ แสงสว่างสามารถลอดเข้ามาได้ ภายในถ้ำลึกหลายกิโลเมตร งามวิจิตรด้วยหินงอกหินย้อย นอกจากนี้ยังธารหินส่งแสงระยิบระยับเมื่อกระทบกันแสงแดด
** สำหรับผู้ที่ต้องการที่พักบนดอยอินทนนท์ สามาถสองถามได้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หรือติดต่อที่ เบอร์โทรศัพท์ 053 268 550

 

6.  วัดเจดีย์หลวง

วัดเจดีย์หลวง ตั้งอยู่บนถนนพระปกเกล้า วัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ในพ.ศ. 2088 เกิดพายุและแผ่นดินไหว ยอดพระเจดีย์หักพังทลายลงมา และได้มีการบูรณะเพิ่ม แต่เนื่องจากได้รับเสียงวิจารณ์คัดค้าน จึงยังคงสภาพเจดีย์ขนาดใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยพังทลาย วัดเจดีย์หลวงกลางเมืองเชียงใหม่ มีสิ่งสักการะหลากหลายได้แก่ เจดีย์หลวง อินทขีล ต้นยาง กุมภัณฑ์ พระฤๅษี ซึ่งสะท้อนพัฒนาการคติจักรวาลได้ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่แวดล้อมของเมือง

หากมีเชียงใหม่ควรไปสักการะสักครั้งเพื่อเป็นสิริมงคล หากคุณไปวันอาทิตย์จะมีถนนคนเดินอยู่ในบริเวณเดียวกัน จากวัดสามารถเดินไปยังเส้นถนนคนเดินได้เลย

 

7.  วัดพระสิงห์

วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของเมืองเชียงใหม่ วัดพระสิงห์ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงใหม่ที่ให้ความศรัทธาและจะเดินทาง มาเคารพ สักการะกันอย่างเนื่องแน่นเป็นประจำ สิ่งที่น่าสนใจในวัดพระสิงห์ได้แก่ โบสถ์แบบศิลปะล้านนาขนานแท้ หอไตร และ วิหารลายคำ สถาปัตกรรมอันงดงาม มีการวาดลวดลายปูนปั้นตามแบบศิลปกรรมภาคเหนือ

วัดพระสิงห์ อยู่ไม่ห่างจากวัดเจดีย์หลวง และถนนคนเดิน หากขยันเดินหน่อย สามารถเดินเชื่อมกันไปได้ทั่ว แต่หากเมื่อยไม่อยากเดินสามารถเรียกรถแดง หรือรถสองแถวที่วิ่งผ่านไปมาได้

 

ยามเย็น

หากเป็นวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ ที่เชียงใหม่จะมี ถนนคนเดิน แหล่งขายของพื้นเมือง เสื้อผ้า ของใช้ทันสมัย รวมไปถึงของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งยังมีอาหารรถเข็น อาหารพื้นเมืองเชียงใหม่ที่หาทานได้ยาก ขนม เครื่องดื่ม ตั้งโต๊ะเรียงรายเต็ม 2 ข้างทางให้คุณได้เลือกสรรค์

 

วันเสาร์ -ถนนคนเดินวัวลาย

ถนนคนเดินวัวลาย อยู่บริเวณประตูเชียงใหม่ ใกล้สนามบิน มีความคล้ายคลึงกับถนนคนเดินท่าแพมาก แต่อาหาร และของใช้ไม่หลากหลายเท่า แต่อย่างไรก็ตามคนก็ไม่แน่นเท่าเช่นกัน เดินกันสบายๆ ไม่เบียดมาก

 

วันอาทิตย์-ถนนคนเดินท่าแพ

ถนนคนเดินท่าแพตั้งอยู่บริเวณประตูท่าแพ เป็นถนนที่ปิดเฉพาะวันอาทิตย์สำหรับขายฝาก ของใช้ และอาหารหลากชนิด มีบริเวณกว้าง และยาวกว่าถนนคนเดินวัวลาย ของและอาหารเยอะกว่า แต่คนก็เยอะกว่ามากเช่นกัน

 

วันที่สาม

เที่ยวแม่ริม-ไร่สตรอเบอรี่-ม่อนแจ่ม

หากคุณมาเชียงใหม่ พลาดไม่ได้กับการไปเยือนแม่ริมสักครั้ง เพราะที่นี่คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติ เรือกสวนไร่นา และน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด

อำเภอแม่ริมนับเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอีกด้วย ด้วยระยะทางเพียง 20 กิโลเมตร หรือขับรถไม่เกิน 30 นาที คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติน่าประทับใจของเชียงใหม่

 

การเดินทางสู่แม่ริม

สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกโดยเลือกทางออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางสายแม่ริม ไปตามถนนหลวงหมายเลข 107 ไปประมาณ 15 กิโลเมตร จะเจอสามแยกเลี้ยวซ้าย ไปตามทางหลวงหมายเลข 1096 แม่ริม-สะเมิง เส้นทางนี้เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่คุณจะพบกับสถานที่ท่องเที่ยวมากมายของอำเภอแม่ริมให้เลือกเที่ยวได้ตามสบาย ได้แก่ น้ำตก โครงการหลวง สวนกล้วยไม้ ฟาร์มงู สวนเสือ ปางช้าง โรงเรียนลิง สวนผีเสื้อ และแมลง รวมถึงเนินเขาเล็กๆ ให้ชมเล่น ถ่ายรูป

 

ที่พัก

อำเภอแม่ริมมีรีสอร์ทมากมาย หากคุณอยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ลองเลือกพักที่แม่ริมดู เพราะมีที่พักน่ารักๆห

ลากสไตล์ให้คุณได้เลือกสรรค์ ทั้งแบบอยู่บนเนินเขา ใกล้ธารน้ำ ใกล้น้ำตก แล้วคุณจะพบว่าทริปพักผ่อนของคุณครั้งนี้คุ้มค่าจริงๆ

 

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดชมของแม่ริม

1.ปางช้างแม่สา

ปางช้างแม่สาใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 20 นาที่ ที่นี่คุณจะได้ชมการแสดงความสามารถของช้าง ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี เช่น ช้างวาดรูป ช้างเล่นบอล ช้างเต้น หากอยากลองประสบการณ์แปลกใหม่ ที่นี่มีให้บริการนั่งหลังช้างเข้าป่า หรือช่วยช้างอาบน้ำ ดูการอนุบาลลูกช้าง อัตราค่าเข้าชมอยู่ที่ท่านละ 200 บาท หากอยากนั่งหลังช้างเชือกละ 800 บาท นั่งได้ 2 ท่านใช้เวลา 30 นาที พิเศษนั่งหลังช้างไปที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวอัตราค่าบริการ 1600 บาท

 

2. เยี่ยมชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวโต้งหลวง

ตั้งอยู่ก่อนถึงปางช้างแม่สาเพียง 2 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางก่อนเลี้ยวเข้าไป ตรงไปอีก 1 กิโลเมตร คุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าที่นี่เป็นชุมชนกะเหรี่ยงคอยาวที่ใหญ่ที่สุดในแม่ริม พวกเขามีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม คุณจะได้ชมการทำนา ทำสวน และการดำเนินชีวิตของชาวกะเหรี่ยงอันมีเอกลักษณ์ ค่าเข้าชม 500 บาทต่อท่าน

 

3.ม่อนแจ่ม

ม่อนแจ่ม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 40 นาทีเท่านั้น โดยมาตามทางหลวง หมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ตรงไปถึงอำเภอแม่ริม บริเวณกิโลเมตรที่ 17 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 1096 สายแม่ริม-สะเมิง บริเวณกิโลเมตรที่ 15 ให้เลี้ยวขวาที่บ้านโป่งแยก ตรงไปอีก 6 กิโลเมตร ก็ถึงบน ม่อนแจ่ม

 

สำหรับผู้รักการนั่งเล่น นั่งดื่มกาแฟเพลินๆ พร้อมชมวิว ม่อนแจ่มอาจเป็นสวรรค์สำหรับคุณเลยที่เดียว ด้วยทิวทัศน์ที่ล้อมรอบไปด้วยทิวเขาลดหลั่นกันไปสุดสายตา คุณจะได้พักสายตาไปกับความเขียวชะอุ่มของธรรมชาติโดยรอบ ทั้งยังสามารถชมโครงการหลวงหนองหอย ที่ได้ทำไร่สตรอเบอรี่ องุ่น แปลงผัก และแปลงดอกไม้เมืองหนาว

 ช้อปปิ้งตามรายทาง

สองเส้นทางจากแม่ริมสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ จะเรียงรายไปด้วยแผงขายผลไม้อย่างสตรอเบอรี่ องุ่น และของแปรรูปอย่าง สตรอเบอรี่-องุ่นอบแห้ง น้ำผลไม้ ไวน์ และของป่า ของฝากอีกมากมาย ให้คุณได้ช้อปปิ้งอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ทัศนียภาพท้องทุ่งและขุนเขาตามรายทางจะทำให้คุณเพลิดเพลินตลอดทริป

 

มื้ออาหารแนะนำ

1.ร้านอาหารครัวคุณยายใหญ่ หรือ Grandma Kitchen

เสิร์ฟอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ ตั้งอยู่ในส่วนห้องอาหารของโรงแรมแม่ริมลากูน ภายใต้บรรยากาศร่มรื่นของสระน้ำ และหมู่ไม้นานาชนิด การเดินทางใช้เส้นแม่ริม จุดเด่นคือให้สังเกตุทางเลี้ยวแยกของโรงแรมโฟร์ซีซั่น ขับเลยโรงแรมไป
จะพบร้านอยู่ฝั่งขวามือ ใกล้กับร้าน wawee tita gellery

 

2.ร้านอาหารบ้านม่อนมวน

บรรยากาศดีล้อมรอบด้วยวิวเขาสวยๆของแม่ริม ตกแต่งร้านสไตล์เรือนไม้ทรงไทย เสิร์ฟเมนูอาหารไทย จุดเด่นคือใช้วัตถุดิบเช่นผัก และผลไม้สดๆ

 

ร้านกาแฟสำหรับนั่งเล่นพักผ่อน

แนะนำ บา บา แบล็ค คอฟฟี่ชอป

ร้านกาแฟรสชาติเยี่ยมจากเม็ดกาแฟคัดคุณภาพ และเครื่องดื่มอร่อยๆ หลากชนิด รวมถึงเบเกอรี่สดใหม่ และแซนด์วิช ภายใต้บรรยากาศร่มรื่น เหมาะำสำหรับวันพักผ่อน

 

ทริปภาคเหนือที่ทาง hotelandresortthailand.com ได้เขียนขึ้นนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่อาจมีเวลาไม่มากนัก หากคุณมีเวลาท่องเที่ยวมากกว่านี้เชียงใหม่ยังมีสถานที่น่าชม น่าท่องเที่ยวอีกมาก ซึ่งสามารถดูข้อมูลท่องเที่ยวได้ที่

http://hotelandresortthailand.com/att.php?i=73&p=1&lang=th

 

เรื่องราวท่องเที่ยว By Hotel&Resort