วังเวียง ประเทศลาว

สัมผัสมนต์เสน่ห์เมืองแห่งขุนเขา ใช้ชีวิตให้ช้าลงที่วังเวียง ประเทศลาว วังเวียง เมืองแห่งขุนเขา สายน้ำ และไร่นาแบบขั้นบรรได อีกหนึ่งจุดหมายที่พลาดไม่ได้ในการเดินทางท่องเที่ยวมายังประเทศลาว พบกับทัศนียถาพงดงามตระการตาของทิวเขาที่สลับซับซ้อนเรียงรายโอบล้อมเมืองจนได้รับการขนานนามว่ากุ้ยหลินเมืองลาย ประทับใจไปกับทุ่งข้าวเขียวขจี และแม่น้ำซองอันมีเสน่ห์ สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาววังเวียงและหมู่บ้านชนพื้นเมืองหลากเผ่า

1

ตัวเมืองวังเวียง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซอง ห่างจากเมืองหลวงกรุงเวียงจันทน์ 154 กิโลเมตรและห่างจากเมืองหลวงพระบาง 210 กิโลเมตร ล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มองเห็นสายน้ำซองกว้างสลับเนินทรายโดยมีเทือกเขาหินปูนเป็นฉากหลัง นับเป็นภาพอันงดงามน่าประทับใจยิ่งนัก

สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมในวังเวียง

 

พายเรือคายักล่องแม่น้ำซอง

1.1

จุดเด่น กิจกรรมยอดนิยมที่คุณเองไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนวังเวียงคือ การพายเรือคายักชมความสวยงามของสายน้ำซอง จุดเริ่มต้นอยู่ที่บริเวณผาตั้ง ล่องเรือ ผ่านเวียงสมัยไปจนถึงเมืองวังเวียงมาขึ้นที่บริเวณถาวรสุข บังกะโล ใช้เวลา 6 ชั่วโมงระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เริ่มต้นจากบริเวณผาตั้ง เป็นภูเขาหินปูนตั้งเด่นกลางทุ่งนา สูงประมาณ 800 เมตร ลักษณะคล้ายกระโดงปลาฉลาม มีหน้าผาตัดเรียบ 1 ด้าน จากผาตั้งนี้เองที่ไกด์นำทางจะสาธิตการพายคายักให้ถูกวิธี พร้อมทั้งสอนการช่วยเหลือตนเองในขณะที่เรือพลิกคว่ำ การวอร์มอัพก่อนลงเรือ และบอกจุดแวะพักต่างๆ จากนั้นก็เริ่มลงเรือล่องสายน้ำซองในช่วงแรก เป็นช่วงที่น้ำไหลไม่แรงและไม่ยากจนเกินไปเหมาะเป็นจุดวอร์มการบังคับไปในตัว ล่องต่อไปจนถึงบริเวณถ้ำช้างเพื่อแวะพักรับประทานอาหารกลางวันและยังสามารถเที่ยวชมถ้ำใกล้เคียงโดยไม่ต้องเสียค่าอาหารและค่าเข้าชม เพราะทางไกด์เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว การมาพายคายักล่องแม่น้ำซองจึงเป็นกิจกรรมแบบ 2 อิน 1 ที่คุณเองจะได้สนุกสนานกับการพายเรือและแวะเที่ยวชมถ้ำไปด้วย หลังจากใช้เวลาช่วงนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อ เส้นทางของสายน้ำช่วงนี้เริ่มทวีความรุนแรงมีแก่งเล็กแก่งน้อยออกมาให้ท้าทายฝีมือกัน นอกจากจะสนุกสนานกับสายน้ำแล้วยังได้ชมความสวยงามของทิวทัศน์สองฟากฝั่งเป็นของแถม จากจุดแวะพักบริเวณถ้ำช้างมาถึงจุดแวะพักช่วงที่สองเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร มาถึงจุดแวะพัก ถ้ำนอน เป็นจุดที่คุณเองจะได้สนุกสนานกับชิงช้าลอยฟ้า เป็นชิงช้าที่อาศัยการดึงเชือกขื้นไปให้สูงตามความต้องการของผู้ที่ขึ้นไป จากนั้นก็แล้วแต่ลีลากระโดดน้ำซองแต่ละคน ที่จะเรียกเสียงโห่ร้องหรือเสียงปรบมือจากผู้ชมได้มากน้อยแค่ไหนนับเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมกันมากที่สุด นอกจากนี้บริเวณถ้ำนอนยังมีร้านขายเครื่องดื่มไว้คอยให้บริการ หลังจากสนุกสนานกันเต็มที่แล้ว ก็ถึงเวลาพายเรือกลับวังเวียง จากจุดแวะพักถ้ำนอนจะเหลือระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ช่วงนี้สายน้ำยังคงมีแก่งและน้ำไหลแรงในบางช่วงไปจนถึงตัวเมืองวังเวียง สายน้ำก็จะเรียบสงบคุณจะได้ชมธรรมชาติสองฟากฝั่งของแม่น้ำซองที่สวยงามเป็นการปิดท้าย จนกระทั่งไปถึงจุดสุดท้ายที่ถาวรสุข บังกะโล บริษัททัวร์จะมีรถมารับเรือคายัก จะเลือกเดินกลับหรือติดรถกลับไปด้วยก็ได้ การพายคายักล่องแม่น้ำซองจึงเป็นกิจกรรมสำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายไปพร้อมชมความงดงามของขุนเขา สายหมอก และวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวบ้าน

 

ล่องห่วงยาง

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

จุดเด่น หลังจากที่สนุกสนานกับการพายเรือคายักล่องแม่น้ำซองแล้ว อีกกิจกรรมที่คุณเองไม่ควรพลาดคือ กิจกรรมล่องห่วงยาง เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชื่นชอบกันมากเพราะมีเพียงห่วงยางอันเดียวก็ไปสนุกกับสายน้ำซองได้แล้วกิจกรรมล่องห่วงยางมีต้นกำเนิดมาจากเด็กๆ ชาววังเวียงที่ชอบนำห่วงยางรถออกมาเล่นที่แม่น้ำ เมื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาพบเข้าจึงเกิดความคิดสนุกๆ ลองนำห่วงยางไปล่องตามกระแสน้ำบ้าง จากนั้นจึงบอกต่อๆ กันไป จนกลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมจนถึงปัจจุบัน การล่องห่วงยางจะเริ่มต้นบริเวณร้านอาหารออร์แกนนิกฟาร์มระยะทางห่างจากตัวเมืองวังเวียงประมาณ 4 กิโลเมตร คุณสามารถเลือกใช้บริการจากเคาน์เตอร์ทัวร์ในเมืองวังเวียงมีรถไปส่งที่จุดเริ่มต้นเพียงอย่างเดียวขากลับต้องนำห่วงยางกลับมาคืนเอง เพราะกิจกรรมนี้ไม่มีไกด์นำทาง กิจรรมล่องห่วงยางเป็นกิจรรมสั้นๆ ที่ใช้เวลาไม่นานแต่ได้อารมณ์ความสนุกเหมือนย้อนเวลากลับไปตอนเป็นเด็กอีกครั้ง จะเลือกล่องคนเดียวนอนลอยคออยู่บนห่วงยางปล่อยอารมณ์ไปตามสายน้ำพร้อมชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำซอง หรือจะสนุกสนานกับหมู่เพื่อนฝูงก็ได้ กิจกรรมล่องห่วงยางมีจุดแวะพักเพียงแห่งเดียวคือ บริเวณถ้ำนอน จุดเดียวกับกิจกรรมพายคายักที่คุณจะได้สนุกสนานไปกับชิงช้าลอยฟ้าหรือจะแวะพักเหนื่อยสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มานั่งพูดคุยกับเพื่อนร่วมทางแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก็นับว่าน่าสนใจ จากจุดนี้ก็ตรงสู่ตัวเมืองวังเวียงเหมือนกิจกรรมพายคายัก โดยจะขื้นที่บริเวณท่าเรือถาวรสุข บังกะโล หรือขื้นก่อนจะถึงก็ได้หากไม่อยากเดินไกลเพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขึ้นเล็กน้อย

 

ล่องเรือชมธรรมชาติบนเขื่อนน้ำงึม

3.1

ที่ตั้ง: บ้านท่าเรือบริเวณตลาดท่าเรือ ห่างจากวังเวียงประมาณ 30 กิโลเมตร

จุดเด่น นอกจากกิจกรรมล่องแม่น้ำซองบริเวณเมืองวังเวียงแล้ว ก่อนถึงตัวเมืองวังเวียงยังสามารถแวะเที่ยวตลาดท่าเรือ เพื่อล่องเรือหางยาวไปเที่ยวชมธรรมชาติบนเขื่อนน้ำงึมได้ เมื่อคุณเดินทางมาถึงตลาดควรสอบถามหาเรือจากชาวบ้านละแวกนั้น หรือจะติดต่อบริษัททัวร์ที่ตัวเมืองวังเวียงเพื่อความสะดวก มีไกด์คอยนำทาง จากท่าเรือใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงมาถึงหมู่บ้านผากุบ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนดอนกลางเขื่อนน้ำงึม ตลอดเส้นทางคุณจะได้ชมทิวทัศน์ของดอนหรือเกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย บางดอนเป็นพื้นที่ของชาวบ้านนำวัวมาเลี้ยง บางดอนเป็นไร่นาของชาวม้ง ซึ่งใช้วิธีการปลูกแบบธรรมชาติไม่เหมือนนาดินบนที่ราบ นอกจากนี้จะพบซุ้มเล็กๆ กลางน้ำ สังเกตเห็นได้ตลอดทาง เป็นอุปกรณ์ที่ชาวประมงบ้านผากุบใช้ตั้งไฟเพื่อล่อปลาแก้วให้เข้ามาติดแหในยามค่ำคืน ภายในหมู่บ้านผากุบมีประชากรประมาณ 40 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ใช้ไฟปั่นและแผงโซล่าเซล มีโรงเรียนประถมตั้งอยู่แห่งหนึ่ง เด็กๆ บนเกาะนี้เมื่อเรียนจบแล้วจะขึ้นไปเรียนต่อบนฝั่ง เมื่อคุณมาถึงบ้านผากุบแล้วจะเลือกตกปลาในเขื่อน สนุกสนานกับการเล่นน้ำหรือเดินชมวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวบ้านก็ได้ตามสะดวก นอกจากนี้ยังสามารถมาค้างคืนแบบนำเต็นท์มาเองหรือพักแบบโฮมสเตย์กับชาวบ้านได้อีกด้วย เพียงแค่เตรียมข้าวของ อาหาร น้ำดื่ม มาให้พร้อมเท่านั้นเอง

 

ถ้ำจัง

4

ที่ตั้ง: ภายในถ้ำจังรีสอร์ท ห่างจากสนามบินเก่าประมาณ 500 เมตร เวลาเปิด 08.00-17.00 น.

จุดเด่น  มาเที่ยววังเวียงนอกจากจะได้สนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำหลากสไตล์แล้ว วังเวียงเองก็มีถ้ำหลายแห่งที่ไม่ควรพลาดชมเช่นกัน เริ่มต้นที่ถ้ำจัง ในอดีตเป็นถ้ำที่ไม่มีไฟฟ้าเพราะชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์หากใครไปทำสิ่งไม่ดีงามภายในถ้ำจะเกิดอาการจังงัง มือเท้าหงิกงอเหมือนเป็นง่อย แต่ภาษาลาว เรียกว่าอาการจัง ชาวบ้านจึงเรียกถ้ำแห่งนี้ว่าถ้ำจัง

4.2

 ถ้ำจังนับเป็นถ้ำที่สวยงามที่สุดในเมืองวังเวียงเพราะเป็นถ้ำเพียงแห่งเดียวที่มีไฟติดตั้งอยู่ภายใน คุณสามารนำรถมาจอดบริเวณถ้ำจังรีสอร์ท จากจุดนี้จะพบสะพานข้ามแม่น้ำซองสีส้มสดใสเหมือนสะพานข้ามแม่น้ำที่บ้านผาเทา ทางไปหมู่บ้านลับแลแต่มีความสวยงามกว่า สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของสายน้ำซอง นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่าพภาพเก็บเป็นที่ระลึกกัน เมื่อข้ามสะพานไปประมาณ 100 เมตรจะพบลำน้ำเล็กๆ สีเขียวมรกตไหลออกมาจากใต้ภูเขาไปนรรจบกับแม่น้ำชซอง เหมาะสำหรับเดินเล่นชมธรรมชาติ ด้านในสุดยังมีพระใหญ่ให้กราบไหว้ การขึ้นไปถ้ำจังด้านบน จะต้องเดินขึ้นบันได 147 ขั้น จะถืงปากทางเข้าถ้ำจัง บริเวณนี้ยังเป็น

จุดชมวิวที่มองเห็นแม่น้ำซอง ขุนเขา และตัวเมืองวังเวียงได้ย่างสวยงาม นับเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองวังเวียงอีกด้วย ภายในถ้ำจังมีหินงอกหินย้อยสวยงามมากมาย สามารถเดินชมได้สะดวกสบายเพราะมีไฟสว่างเพียงพอ พร้อมด้วยทางเดินอย่างดี หากเดินไปทางซ้ายจะพบจุดชมวิวเป็นช่องเขาริมหน้าผา สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงามไม่แพ้ปากทางเข้า ส่วนทางเดินขวามือจะพบหินรูปร่างแปลกตาต่างๆ มากมายจนไปสุดที่ทางตันไม่สามารถเดินเข้าไปได้อีก

 

ถ้ำช้าง

5

ที่ตั้ง: เส้นทางหลวงหมายเลข 13 เหนือ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 169

จุดเด่น หากคุณต้องการเดินทางมายังถ้ำช้างสามารถหารถ 3 ล้อจากในตัวเมืองวังเวียง ราคาต่อรองกันได้ แต่ถ้ารู้ที่ตั้งและมีแผนที่จะเลือกขี่จักรยานก็สะดวกเช่นกัน เริ่มจากตัวเมืองวังเวียงไปตามทางหลวงหมายเลข 13 เหนือขึ้นไปทางทิศเหนือในเส้นทางสู่หลวงพระบาง เมื่อถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 169 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 100 เมตร จะพบสายน้ำซอง จากนั้นจะต้องนั่งเรือข้ามฟากไปบริเวณหมู่บ้านถ้ำช้าง เมื่อข้ามฟาก บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านถ้ำช้าง ที่มาของชื่อมาจากถ้ำช้างที่อยู่บริเวณท่าเรือ ถ้ำช้างหรือถ้ำชางนับเป็นถ้ำแรกที่คุณจะได้พบ ภายใน เป็นที่ตั้งของพระธาตุที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2511 และหินธรรมชาติที่มีลักษณะรูปร่างคล้ายช้างตั้งเด่นอยู่ด้านขวาของถ้ำเป็นที่มาของชื่อถ้ำและหมู่บ้าน ทุกปีในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ บริเวณถ้ำช้างจะเป็นที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ร้านค้าและวงดนตรีจะมาตั้งร้านค้าขาย ร้องรำกันอย่างสนุกสนาน

 

ถ้ำหอย

6

ที่ตั้ง: บ้านถ้ำช้าง อยู่ห่างจากถ้ำช้างประมาณ 1 กิโลเมตร

จุดเด่น หลังจากชมถ้ำช้างแล้วคุณยังสามารถเดินทางไปชมถ้ำใกล้เคียงได้อีก 3 ถ้ำ ตั้งแต่ ถ้ำหอย ถ้ำหลุบ และถ้ำน้ำ จากถ้ำช้างต้องเดินผ่านทุ่งนาของชาวบ้านเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร แต่สามารถชมได้ถึง 3 ถ้ำ เดินตรงเข้าไปด้านขวามือจะพบ ถ้ำหอย ด้านหน้าถ้ำมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สังเกตเห็นได้ง่าย ชาวลาวเชื่อกันว่าถ้ำทุกถ้ำจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครอง ที่มาของชื่อถ้ำหอย มาจากลักษณะภายในของถ้ำที่คดเคี้ยวเหมือนหอยและยังเป็นถ้ำที่เดินค่อนข้างลำบากเนื่องจากมีน้ำขัง ภายในเป็นถ้ำมีดไม่มีไฟฟ้า คุณควรพกไฟฉายเข้าไปด้วย ถ้ำหอยมีความยาวประมาณ 1,400 เมตร ถูกสำรวจโดยนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส เหมาะแก่การเดินชมประมาณ 750 เมตร เท่านั้น เพราะหลังจากนี้จะพบแอ่งน้ำไม่สามารถเดินต่อไปได้

 

ผาตั้ง

7

ที่ตั้ง: ห่างจากเมืองวังเวียงประมาณ 20 กิโลเมตรบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 170

จุดเด่น  ผาตั้งเปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นของกิจกรรมพายเรือคายักในสายน้ำซอง ทุกๆ เช้าบริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง ผาตั้งมีลักษณะเป็นภูเขาโดดเดี่ยวท่ามกลางทุ่งนาสีเขียว มีหน้าตัดอยู่หนึ่งด้านหากมองไกลๆ จะคล้ายกระโดงปลาฉลาม สูงประมาณ 800 เมตร หากสังเกตบนยอดเขาจะพบหินรูปร่างคล้ายม้า ชาวบ้านในอดีตเชื่อกันว่าเป็นม้าศักดิ์สิทธิ์ มักจะบินลงมากินข้าวที่ชาวนาปลูกอยู่เสมอ ชาวบ้านจึงไม่นิยมปลูกข้าวบริเวณผาตั้งกัน แต่ปัจจุบันความเชื่อเหล่านั้นได้จางหายไปแล้ว แต่ในบางตำนานเล่าว่า หินบนยอดเป็นรูปสุนัขของชายผู้หนึ่ง ที่อาสายกเขาผาตั้งเพื่อกั้นน้ำไหลหลากไม่ให้มาท่วมเมืองวังเวียง แต่ไม่สามารถต้านทานได้นาน จึงถูกผาตั้งหล่นลงมาทับตายทั้งผู้เป็นเจ้าของและสุนัข เรื่องเล่าทั้งสองจึงเป็นเรื่องสนุกสนานที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับผาตั้งและเมืองวังเวียง ใครมาพบก็มักแวะลงมาถ่ายภาพทิวทัศน์และมองดูหินประหลาดที่ว่านี้เสมอ

 

ถ้ำปูคำ

8

ที่ตั้ง: บ้านนาทอง ห่างจากตัวเมืองวังเวียงประมาณ 6 กิโลเมตร

จุดเด่น ถ้ำปูคำเป็นอีกถ้ำหนึ่งที่นักท่องเทียวนิยมเดินทางเข้าไปชมกัน จุดเริ่มต้นอยู่ที่เมืองวังเวียง คุณต้องนั่งเรือหางยาวข้ามฟาก บริเวณถาวรสุข บังกะโล จากนั้นต้องต่อรถไถนาเข้าไป ราคาค่าโดยสารต้องต่อรองกับคนขับรถส่วนใหญ่จะรวมราคาไปและกลับเอาไว้แล้ว จากนั้นจะมาสุดทางที่สะพานข้ามแม่น้ำ เมื่อข้ามไปแล้วต้องนั่งรถไถนาเข้าไปอีก ในเรื่องของราคาต้องต่อรองกันเหมือนเดิม เส้นทางต่อจากนี้เป็นระยะทางไม่ไกลมากนักประมาณ 2 กิโลเมตร จะผ่านหมู่บ้านนาทอง และไปสุดทางที่สายน้ำกา จากนั้นเดินเข้าไปอีกประมาณ 700 เมตร จะพบด่านเสียค่าธรรมเนียมเข้าชมถ้ำ นักท่องเที่ยวต่างชาติคนละ 5,000 กีบต่อคน เมื่อเดินเข้าไปจะพบสายน้ำที่เรียกกันว่า บลูลากูน เป็นบ่อน้ำสีเขียวมรกต น้ำใสเย็นสบายสามารถโดดน้ำเล่นได้ เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวต่างชาติ บริเวณนี้ยังมีที่นั่งพัก ห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและร้านขายของคอยให้บริการ จากบริเวณบลูลากูน หากจะเดินทางไปถ้ำปูคำ ต้องเดินขึ้นเขาไปประมาณ 3 กิโลเมตร ควรใช้ความระมัดระวังในการปีนเพราะทางชันและลื่น ภายในถ้ำปูคำเป็นถ้ำตายไม่มีไฟฟ้าติดตั้งไว้ แต่มีแสงสว่าง จากช่องเขาด้านข้างคล้ายหน้าต่างส่องเข้ามาภายในถ้ำพอดี ลักษณะเป็นถ้ำวงกลม โปร่งสูง ลึกประมาณ 50 เมตร ไม่มีหินงอกหินย้อย มีเพียงพระนอนประดิษฐานตั้งอยู่ในกลางถ้ำ ซึ่งตรงกับช่องแสงที่สาดส่องเข้ามา จึงเรียกขานถ้ำแห่งนี้ว่า ถ้ำปูคำ แต่ปัจจุบันไม่มีให้พบเห็นแล้ว

 

ถ้ำน้ำ

9

ที่ตั้ง: บ้านถ้ำช้าง ห่างจากถ้ำหลุบและถ้ำช้างประมาณ 1 กิโลเมตร

จุดเด่น จากบริเวณถ้ำช้างมี 2 เส้นทางให้คุณเลือก หากอยากชมถ้ำหอยและถ้ำหลุบให้ไปทางด้านขวามือจากถ้ำช้าง  แต่หากจะลัดไปถ้ำน้ำเลย สามารถใช้เส้นทางซ้ายมือผ่านหมู่บ้านถ้ำช้างมีป้ายบอกตลอดทาง ถ้ำน้ำเป็นถ้ำที่ต้องใช้ห่วงยางและเกาะเชือกล่องเข้าไปโดยมีไกด์ส่องไฟนำทาง ภายในเป็นอุโมงค์สูงเหมือนถ้ำอื่นๆ  จึงปลอดโปร่ง หายใจสะดวก เมื่อเข้าประมาณ 4 กิโลเมตรจะพบทางแยกซ้ายและขวา หากไปทางซ้ายจะไปพบทางออกบริเวณถ้ำเมืองซางที่เมืองลับแลเป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เส้นทางนี้ไกด์ไม่นิยมให้ไปเพราะอันตราย หากเลี้ยวไปทางขวาจะพบพื้นเดินเล็กๆ ให้นั่งพัก และสามารถเดินทางต่อไปยังถ้ำหอยบริเวณแอ่งน้ำได้อีกด้วย หากไม่อยากเข้าไปบริเวณด้านหน้าถ้ำมีแอ่งน้ำสีเขียวมรกตขนาดเล็กให้เล่นน้ำ เหมาะสำหรับช่วงฤดูร้อนเพราะระดับน้ำไม่ลึกเย็นสบาย ลอดถ้ำได้สะดวกกว่า การเดินทางมาเที่ยวถ้ำน้ำ นักท่องเที่ยวจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้นค่าเช่าห่วงยาง

 

ผจญภัยแบบปีนป่าย

10

ที่ตั้ง: ทางตอนเหนือของเมืองวังเวียง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 12 กิโลเมตรบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 166

จุดเด่น โปรแกรมการเดินป่า ขึ้นเขาไปยังเมืองลับแลนับเป็นกิจกรรมแบบ One day tour ที่นักผจญภัยหลายคนชื่นชอบเมื่อได้มาเยือนวังเวียง เมืองลับแล ในอดีตเคยเป็นถิ่นฐานของชาวม้งมาช้านาน ต่อมาเมื่อเมืองวังเวียงเริ่มเจริญขื้นชาวม้งจืงย้ายออกมาตั้งถิ่นฐานใหม่บริเวณผาเทาเพราะสะดวกสะบายในการนำของป่าไปขายในเมืองวังเวียง ประกอบกับรัฐบาลลาวได้ให้พื้นที่ในการปลูกข้าวเหนียว ชาวม้งในปัจจุบันจืงมีอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากเมืองวังเวียงใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 13 ขื้นทางเหนือประมาณ 12 กิโลเมตร คุณจะพบ สะพานบ้านผาเทา สะพานเหล็กที่สร้างจากเงินทุนของสหประชาชาติเพื่อช่วยเหลือชาวม้ง ใกล้ๆ สะพานจะพบชุมชนชาวม้งอาศัยอยู่มาก และนับเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางเข้าไปยังหมู่บ้านลับแลอีกด้วย เมืองลับแลสมญานามนี้มาจากการเดินทางเข้าไปที่ยากลำบากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชันเปรียบเสมือนทะเลภูเขา มีที่ราบลุ่มเล็กน้อยตั้งอยู่ใจกลาง ชาววังเวียงจึงต่างพากันเรียกดินแดนที่ลึกลับแห่งนี้ว่า เมืองลับแล

จากบริเวณโรงเรียนปลายตีนผา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่เมืองลับแล ระยะทางแรกเป็นเส้นทางที่ยังไม่ลำบากมากนัก แต่ควรใช้ความระมัดระวังหากไปในช่วงฤดูฝนเพราะหินจะลื่นเป็นอันตราย เมื่อเดินขื้นไปประมาณ 20 นาที จะได้พบถ้ำห็ก ถือเป็นจุดพักเหนื่อยจุดแรกของการเดินทาง ถ้ำห็กเป็นถ้ำที่ชาวม้งใช้สำหรับพักแรม และดักจับเจียหรือค้างคาว ชื่อถ้ำห็กมาจากคำว่ารก ภายในถ้ำมืดสนิทอากาศเย็นสบาย มีหินหลากหลายลักษณะให้ชื่นชม และหากเดินเข้าไปในถ้ำประมาณ 4 เมตร และมองย้อนกลับมาที่ปากถ้ำจะเห็นหินรูปร่างคล้ายคนยืนคู่กันเป็นเงาดำ คุณจึงควรนำไฟฉายพกติดตัวมาด้วย

SAMSUNG DIGITAL CAMERA

ถัดจากถ้ำห็กเดินต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง จะถึงยอดเขาผาเทา จุดชมวิวของเมืองลับแล ที่มองออกไปเห็นผืนหญ้าสีเขียวขจีเบื้องล่าง ถูกโอบล้อมด้วยทิวเขาและสายหมอก เสมือนเป็นรางวัลจากธรรมชาติให้คุณได้ลืมความเหนื่อยล้า บริเวนนี้นับเป็นจุดพักแห่งที่สอง เมื่อเต็มอิ่มกับบรรยากาศแล้ว หลังจากนี้เป็นทางเดินลงเขาไปเมืองลับแลด้านล่างทางเดินช่วงนี้ควรใช้ความระมัดระวังเช่นกัน เพราะเส้นทางค่อนข้างลื่นและชัน เมื่อลงมาถึงด้านล่างเป็นอันสิ้นสุดจุดหมายปลายทางยังเมืองลับแล ปัจจุบันที่ราบบริเวณนี้ไม่มีบ้านเรือนของชาวม้งหลงเหลืออยู่ เป็นเพียงไร่ข้าวโพดที่ชาวม้งปลูกเพื่อนำไปขายในเมืองวังเวียงเท่านั้น จากจุดนี้เหมาะเป็นจุดแวะพักผ่อนและรับประทานอาหารเที่ยงแบบปิกนิกพร้อมชมบรรยากาศรอบด้าน หากโชคดีจะพบนกสาลิกา นกหาดูยากที่ชอบอาศัยอยู่ในโพรงถ้ำตามต้นไม้สูง และต้น ปอสก  ต้นไม้ที่ชาวม้งนำเปลือกมาทำกระดาษเพื่อสานเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านขายนักท่องเที่ยว

12

บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ วารีบำบัด คือสายน้ำซางที่ไหลมาจากทิศตะวันตกและไปออกสู่สายน้ำซอง ระดับน้ำไม่ลึก ใสสะอาด เย็นสบาย เหมาะแก่การเล่นน้ำคลายความเหน็ดเหนื่อยหลังจากเดินทางมาไกล ชาวม้งจึงเรียกการแช่น้ำที่สายน้ำแห่งนี้ว่า วารีบำบัด จากจุดนี้ควรใช้เวลาหยุดพักไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อคุณจะได้เดินทางกลับอย่างไม่เร่งรีบ เส้นทางจากเมืองลับแลสู่ผาเทาจะไม่กลับเส้นทางเดิม ตลอดทางเส้นใหม่เป็นการเดินขื้นเขาลงเขา ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อลงมาถึงด้านล่างจะต้องผ่าน หมู่บ้านถ้ำช้าง บริเวณนี้มีร้านขายน้ำดื่มไว้บริการ จากจุดนี้คุณต้องนั่งเรือข้ามสายน้ำซองเพื่อไปขื้นรถกลับวังเวียงเป็นอันสิ้นสุดการในผจญภัย

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com