เรื่องทั้งหมดโดย admin

สถานที่ท่องเที่ยวทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่บนเขาธงชัยท้องที่บ้านกรูด ซึ่งแยกจากถนนเพชรเกษมเข้าไปทางซ้ายประมาณ 16 กิโลเมตร จะพบ ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สวยเด่นเป็นสง่าบนยอดเขาธงชัย หันหน้าออกสู่ทะเล บริเวณรอบ ๆ มีสวนไม้ดอก ไม้ประดับ และสำนักสงฆ์ซึ่งเชื่อกันว่ากรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์เคยเสด็จมาประทับ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อพักทอดสมอเรือรบ นอกจากนี้บนเขาธงชัยยังเป็นที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์เก้ายอด เป็นจุดชมวิวที่จะเห็นชายหาดที่ทอดตัวเป็นแนวตรงริมหาดชอุ่มเขียวด้วยสวน มะพร้าวกว้างใหญ่เป็นความงามที่ผสานผสมหาดทราย น้ำทะเลและทิวมะพร้าวรวมกันเป็นภาพที่สวยงามลงตัวมาก

 ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์1

พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ตั้งอยู่บนยอดเขาธงชัย สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกการครองราชย์ครบ50 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชการที่ 9

 ประมหาเจดีประกาศ

ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนบุษบกใต้โดม เจดีย์ที่สร้างล้อม 8 องค์ สร้าง 4 ทิศ ขององค์เจดีย์ประธานซึ่งเป็นเจดีย์ทรงลังกา ส่วนตัวอาคารนั้นเป็นสถาปัตยกรรมไทย ทั้งประตู หน้าต่าง และการตกแต่งภายใน หากท่านเคยเดินทางไปดูสถานที่สำคัญ ๆ ทางพุทธศาสนาหลาย ๆ แห่ง จะดูเหมือนแบบของพระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้ นำหลาย ๆ แห่งมาประยุกต์ และให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมไทยอย่างแนบเนียนงดงาม เหมือนเอาส่วนของพระมหาเจดีย์ บุโรพุทโธ จาก ยอรค์ยากาต้า ในอินโดนีเซีย เหมือนนำเอาส่วนของโลหะประสาทมาร่วม และเหมือนนำส่วนของหลังคาคลุมทางขึ้น และเจดีย์ล้อมของพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ของเมียนม่ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งงดงามมากจริง ๆ

น้ำตกไทรคู่

น้ำตำไทรคู่

ที่อำเภอบางสะพานมีน้ำตกชื่อดังอยู่แห่งหนึ่งนั่นคือ “น้ำตกไทรคู่” เป็นน้ำตกขนาดกลางที่สวยงาม น้ำตกไทรคู่แห่งนี้มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นจะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป โดยชั้นที่มีความงามมากที่สุดคือชั้นที่ 5 ซึ่ง น้ำตกในชั้นนี้จะมีลักษณะที่เป็นหน้าผาขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถพบสัตว์ป่าหลายชนิดที่บริเวณน้ำตกอีกด้วยมีน้ำไหลตลอดปี มีชั้นเชิงใหญ่ ๆ 3 ชั้น และชั้นอื่น ๆ อีกที่ลดหลั่นกันลงไปอีกหลายชั้น และที่น้ำตกไทรคู่ชั้นที่ 2,3,4, มีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่สามารถนั่งพักผ่อนและเล่นน้ำได้ อีกชั้นหนึ่งมีสายน้ำไหลทิ้งตัวลงมาจากหน้าผาที่สูงเกือบ 30 เมตร ลงมากระทบแผ่นหินและแอ่งน้ำก่อนจะไหลลงมาเป็นน้ำตกชั้นที่ 4 และน้ำตกแห่งนี้เองคือที่มาของชื่อน้ำตกไทรคู่ เพราะว่ามีต้นไทรขนาดใหญ่สองต้นขึ้นมาอยู่ด้านบนของหน้าผา ทำให้รอบ ๆ บริเวณนี้มีร่มเงาและมีบรรยากาศที่ดีเหมาะแก่การเล่นน้ำและพักผ่อน ส่วนน้ำตกชั้นที่6 ต้องขึ้นโดยการไต่ไปตามหน้าผาที่ค่อนข้างชันและชื้น แต่จะมีรากของต้นไม้ที่ห้อยลงมาเพื่อให้เพื่อให้ผู้ที่รักการท่องเที่ยวแนวผจญภัยสามารถปีนขึ้นไปได้ ด้านบนของหินผาน้ำตกชั้นที่ 5 นั้น มีลักษณะเป็นลานหินขนาดใหญ่มีสายน้ำไหลผ่านลงมาตามร่องหิน เป็นระยะทางประมาณ 50 เมตร ซึ่งลานหินและสายน้ำแห่งนี้คือน้ำตกชั้นที่ 6 ของน้ำตกไทรคู่ นอกจากนี้บริเวณลานหินแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวได้อีกด้วย ริมธารน้ำมีลานให้นั่งพักชมน้ำตก สามารถลงเล่นน้ำได้ บรรยากาศรอบๆ ร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาชนิด เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

อ่าวแม่รำพึง

อ่าวแม่รำพึง

เป็นอ่าวขนาดใหญ่ มีถนนเลียบชายทะเล ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการประมง นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวประมงที่กำลังตากหมึกตากปลาอยู่ทั้งสองฟากถนน มีที่พัก ร้านอาหารริมชายหาด ไว้บริการนักท่องเที่ยว

อ่าวมะนาว

อ่าวมะนาว

เป็นอ่าวที่สวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ และกิจกรรมชายหาดมากที่สุด อยู่ในความดูแลของ กองบิน 5 อยู่ไปทางตอนใต้ของอ่าวประจวบฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร สถานที่นี้เคยเป็นยุทธภูมิรบ ระหว่างกองทัพญี่ปุ่นและกองทัพไทยในสมัยสงราม โลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันมีสถนที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก ขึ้นเขาล้อมหมวกชมทัศนียภาพของอ่าวน้อย-อ่าวประจวบฯ-อ่าวมะนาว

เขาช่องกระจก

เขาช่องกระจก1

 

เป็นเขาลูกเล็กๆ ตั้งอยู่ริมอ่าวประจวบฯ มีบันได ขึ้นถึงยอดเขา 396 ชั้น เป็นจุดชมวิวที่สามารถ มองเห็นทัศนียภาพประจวบคีรีขันธ์มหัศจรรย์ เมืองสามอ่าว (อ่าวน้อย อ่าวประจวบฯ อ่าว มะนาว) นอกจากนี้บนเขายังเป็นที่ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาทจำลอง พระธาตุเจดีย์และพระศรี มหาโพธิ์

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร  

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร0

ชายหาดอันลือชื่อของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวลงไปในทะเลทิวทัศน์ที่เงียบ สงบบนฝั่งมีทิวสนทะเล และสนประดิพัทธ์เป็นแนวขนานกับทะเล มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 23,750 ไร่ หรือ 38 ตารางกิโลเมตร

เขาธงชัย 

เขาธงชัย

เป็นจุดชมวิวที่สำคัญของชายหาดบ้านกรูด จากจุดนี้จะมองเห็นเวิ้งอ่าวและทิวมะพร้าวสุด สายตา เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก

พระพุทธกิตติสิริชัย พระสีทอง) 

พระพุทธกิตติสิริชัย

เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 10  เมตร สูง 13.82 เมตร ฐานสูง 4.18 เมตร ตั้งอยู่ เขาธงชัย หันพระพักตร์ออกสู่ทะเล สร้างขึ้นเพื่อ น้อมเกล้าฯ ถวายสมด็จพระบรมราชินีนาถ เนื่อง ในวโรกาสที่พระองค์ทรงพระเจริญพระชนม์พรรษา ครบห้ารอบ

หาดบ้านกรูด  

หาดบ้านกรูด

เป็นชายหาดที่กว้างและสวยงาม แนวหาดยาวประมาณ 12 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอบางสะพานกับอำเภอทับสะแก

วัดเขาถ้ำม้าร้อง

วัดเขาถ้ำม้าร้อง1

 

จากตลาดบางสะพานใช้เส้นทาง no.3374 ลงไป ทางใต้ ประมาณ 3 กิโลเมตร วัดเขาถ้ำม้าร้อง เป็นวัดอยู่บนเนินเขา และมีถ้ำขนาดเล็ก ภายใน ถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่นับร้อยองค์

หาดฝั่งแดง  

หาดฝั่งแดง ใช้

ห่างจากตัวอำเภอบางสะพานน้อยประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงามแปลกตา มีหน้าผาสีแดง เลียบไปตามแนวชายหาด หากจากมองจากทะเลเข้ามาจะมองเห็นเป็นสีแดง สะดุดตา จึงเป็นที่มาของชื่อหาดฝั่งแดง น้ำทะเลใสสะอาด บรรยากาศเงียบสงบ

อุทยานวิทยาศาสตร์ พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ

อุทยานวิทยาศาสตร์ พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ

เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าอยู่หัวรัชการที่ 4 เคยเสด็จมาทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่ หว้ากอ ริมชายหาดหว้ากอที่ทอดยาวขนานไปกัน แนวสน บรรยากาศดี

ด่านสิงขร  

ด่านสิงขร1

เป็นทางที่พวกพ่อค้า และนักเดินทางทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศใช้เป็นทางลัด ระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับอ่าวไทย และจุดนี้เอง ที่ กม.331 บ้านหนองหิน ท้องที่ตำบลคลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือ จุดที่แคบที่สุดของประเทศไทย

น้ำตกห้วยยาง

น้ำตกห้วยยาง

มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอบางสะพาน อำเภอทับ สะแก ในพื้นที่ของอุทยานฯได้รวมจุดเด่นของน้ำ ตกที่สวยงามไว้หลายแห่ง เช่น น้ำตกห้วยยาง น้ำตกขาอ่อน น้ำตกเขาล้าน น้ำตกไทรคู่ เป็นต้น อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง เป็นน้ำตกที่มีขนาด 9 ชั้น มีความสวยงาม ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ1

ห่างจากตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ไปทางทิศใต้ 10 กิโลเมตร (ขับรถประมาณ 15 นาที) ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

อุทยานหลวงราชพฤกษ์

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ นำดอกทิวลิปกว่า 2,000 ต้น มาจัดแสดงบริเวณสวนประเทศเนเธอร์แลนด์ ในเทศกาลชมสวน 2014

02

04

06

เทศกาลชมสวน (Flora Festival 2014) ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ มีการนำดอกทิวลิป 2,250 ต้น จำนวน 5 สายพันธุ์ ได้แก่ Rambo/ Strong Gold/ Don Quichotte/ Ad rem และ Showbizz ออกมาจัดแสดง ซึ่งถือว่าเป็นการบานครั้งแรกของดอกทิวลิปในช่วงฤดูหนาวปีนี้ที่เชียงใหม่ โดยจะนำมาผลัดเปลี่ยนทุกๆ 10 วัน ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามตลอดการจัดงาน 3 เดือน ณ บริเวณสวนประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากดอกทิวลิปแล้วยังมีดอกลิลลี่ ไซคาเมน บีโกเนียกุหลาบ ฯลฯ ที่มีความสวยงามไม้แพ้กัน สำหรับในเทศกาลชมสวน มีการตกแต่งไม้ดอกเมืองหนาว

4 มุม

นานาพรรณอย่างสวยงาม พร้อมชม 9 จุดไฮไลท์ที่สามารถหาชมได้ในงานนี้งานเดียวเท่านั้น ได้แก่ นิทรรศการ “เทิดไท้องค์ราชัน กับการทรงงานในประเทศอาเซียน” “พระบารมีร่มเย็น ยังประโยชน์สุข ทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้าน” สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ “เรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียงตามรอยเบื้องพระยุคลบาท”

01

05

ศูนย์เรียนรู้มูลนิธิโครงการหลวง การแสดง แสง สี หอคำหลวง อุทยานกล้วยไม้ ตระการตากล้วยไม้นานาพันธุ์หลากสีสันกว่า 300 ชนิด โดมไม้เขตร้อนชื้น ซุ้มผักแฟนซี Flower Mosaic ดอกไม้อาเซียนรวมใจ สวนใหม่จากองค์กรชั้นนำของประเทศ สำหรับ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 หรือ วันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะจัดกิจกรรมส่งสุขปีใหม่ ภายใต้โครงการ “เกษตรกรได้รับ ประชาชนได้รู้ คืนความสุขสู่คนไทย จากใจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” โดยอุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้เป็นหนึ่งในโครงการและปิดให้ประชาชนเข้าชมงานฟรีตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ 08.00 – 01.00 น. โดยจะมีการแสดงพลุ จำนวน 2558 นัด สำหรับงาน “เทศกาลชมสวน (Flora Festival 2014)” นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 ระหว่างเวลา 08.00 – 20.00 น.

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

ปางอุ๋ง

1

ปางอุ๋ง มีลักษณะเป็นพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวสนที่ปลูกเรียงรายกัน ปางอุ๋ง ที่หลายๆ คนอาจยังไม่เข้าใจความหมาย คำว่า “ปาง” ซึ่งหมายถึงที่พักของคนทำงานในป่า ส่วน “อุ๋ง” นั้น เป็นภาษาเหนือหมายถึงที่ลุ่มต่ำ คล้ายกระทะใบใหญ่มีน้ำขังเฉอะแฉะ ก็น่าจะหมายถึงที่พักริมอ่างเก็บน้ำนี่เอง ภาพอันสวยงามของไอหมอกที่ลอยเหนือทะเลสาป กับบรรยากาศอันหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ปางอุ๋ง กลาย เป็น เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ยอดฮิตสุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของ แม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนาม ว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย” ยิ่งยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสนและไอหมอกบางๆ ยิ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับยากจะลืมเลือน แม้ในกระทั่งเวลาที่หมอกเลือนลางหายไปก็ยังคงความงาม

5

ที่ปางอุ๋งนอกจากชมบรรยากาศของสายหมอกในยามเช้าแล้ว กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้ คือ การนั่งแพ ชมทัศนียภาพและ บรรยากาศโดยรอบ รวมถึงชมนดาราแห่งปางอุ๋ง นั่นก็คือหงส์พระราชทานจากสมเด็จพระราชินี ซึ่งเป็นหงส์ดำและหงส์ขาวอย่างละ 1 คู่ด้วยกันและไม่ควรพลาดที่จะไปชมสวนปางอุ๋งใกล้กับ ที่ทำการของ โครงการพระราชดำริฯ ซึ่งจัดสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีพืชพรรณ ที่กลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศบนที่สูงทดแทนไร่ฝิ่น ร้างแต่ดั้งเดิมซึ่งไว้ลูกพืชที่ให้ประโยชน์ทางด้านอาหารและยาแพทย์แผนไทย และสร้างความกลมกลืนกับ ภูมิประเทศ เช่น อะโวคาโด พลับ สาลี่ บ๊วยอีกทั้งยังมีการตกแต่งด้วยสวนไม้ ดอกไม้ประดับเมืองหนาว เช่น กุหลาบ ไฮเดรนเยีย พวงแสด อีกทั้งยังมีการพยายามนำพืชและสัตว์ประจำถิ่นของพื้นที่ปางอุ๋งกลับมา เช่น เอื้องแซะและกล้วยไม้ต่างๆ และสัตว์อย่างเขียดแลน เป็นต้น

3

ระเบียบข้อปฏิบัติในพื้นที่โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทยตามพระราชดำริ (ปางอุ๋ง)
นักท่องเที่ยวประเภทพักค้างแรม
– ต้องลงทะเบียน ผ่านศูนย์ศิลปาชีพ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงจะสามารถนำรถเข้าปางอุ๋งได้
– โทรศัพท์ 053-611-244 มือถือ 085-618-3303 โทรสาร 053-611-649, 053-611-690
– การจองที่พัก ให้แจ้งชื่อและเบอร์ติดต่อกลับ แก่เจ้าหน้าที่ (พื้นที่รองรับได้ 500 คน/วัน)
– ถึงแม้จะมีบัตรค้างแรมแต่ก็นำรถเข้าออกพื้นที่ได้ระหว่างเวลา 09.00 – 18.00 น. เท่านั้น
.นักท่องเที่ยวประเภทไปกลับ
– ผู้ที่ไม่มีบัตรค้างแรม จะต้องนำรถไปจอดไว้ที่ โรงเรียนบ้านนาป่าแปก หรือ วัดนาป่าแปก
– โดยสารรถสองแถวของชุมชนเข้าไปที่ปางอุ๋งซึ่งให้บริการระหว่างเวลา 04.00 – 18.00 น.
– บัตรโดยสารคนละ 50 บาท (ใช้ได้ทั้งขาไปและกลับเหมือน Airport Link Express Line)
– รถออกทุก 20 นาที กรณีเหมาคัน (ผู้โดยสารไม่เกิน 6 คน) คิดค่าบริการต่ำสุด 300 บาท
รถที่เข้าปางอุ๋งได้
– รถรับจ้างประจำทางในพื้นที่
– รถของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
– รถของหน่วยงานราชการในพื้นที่โครงการ
– รถของหน่วยงานราชการที่ได้รับบัตรผ่านจากจังหวัด
– รถของนักท่องเที่ยวที่มีบัตรผ่านค้างแรม เข้าออกพื้นที่ได้ระหว่างเวลา 09.00 – 18.00 น.
.รถที่เข้าปางอุ๋งไม่ได้
– รถบัส รถบรรทุกขนาดใหญ่
– รถของนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ที่เดินทางไปกลับวันเดียว ไม่พักค้างแรมที่ปางอุ๋ง
– รถของนักท่องเที่ยวที่มีบัตรผ่านค้างแรม แต่ทว่า เดินทางมาถึงปางอุ๋งหลังเวลา 18.00 น.

ข้อมูลอื่นๆ
– ที่พักบนปางอุ๋ง จะมีเครื่องปั่นกระแสไฟให้ใช้เฉพาะช่วงเวลา 18.00 – 22.00 น. เท่านั้น เป็นอีกเหตุผลท ี่สั่งห้าม รถเข้า-ออกหลังเวลา 18.00 น. เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง นักท่องเที่ยว ควรเตรียมไฟฉาย ส่องสว่าง และแบตเตอรี สำรองให้เพียงพอต่อการใช้งาน

4

ที่พักปางอุ๋ง
1. รวมไทยเกสท์เฮ้าส์ที่พักติดทะเลสาป 053-611244 มี 4 แบบ
– บ้านหลังใหญ่  2 หลัง นอนได้ 4 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 600 บาท
– บ้านหลังกลาง 3 หลัง นอนได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 450 บาท
– บ้านชนเผ่า     4 หลัง นอนได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 450 บาท
– บ้านหลังเล็ก   4 หลัง นอนได้ 2 คน ห้องน้ำรวม     ราคา 350 บาท

2. บ้านพักร่วมโครงการฯ ในหมู่บ้าน
– บ้านพัก 69 หลัง นอนได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว ราคา 400 บาท
– พักเกินจำนวน คิดเพิ่มคนละ 100 บาท

กรณีพักค้างแรมด้วยเต็นท์
– เต็นท์ จะไม่มีการจองล่วงหน้า ให้ติดต่อศูนย์ศิลปาชีพฯ ด้วยตนเอง ก่อนเวลา 12.00 น.
– พื้นที่กางเต็นท์จำกัด 100 พื้นที่ต่อวัน และต้องเดินทางไปถึงปางอุ๋ง ก่อนเวลา 18.00 น.
– พื้นที่สำหรับกางเต็นท์ (นำเต็นท์มาเอง) 70 พื้นที่ ราคา 100 บาท ต่อ 1 หลัง
– พื้นที่สำหรับกางเต็นท์ (มาเช่าเต็นท์ที่นี่) 30 พื้นที่ ราคา 300 บาท ต่อ 1 หลัง
***บริการล่องแพชมบรรยากาศและหงส์ ราคา 150 บาท
***ช่วงเทศกาลที่พักจะเต็มเร็วมากหากใครจะไปเที่ยวต้องจองล่วงอย่างน้อย 1 เดือน

ระเบียบการจองบ้านพัก
– โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทยตามพระราชดำริ (ปางอุ๋ง) จะเก็บข้อมูลการจองเอาไว้ 7 วัน
– หากไม่โอนเงินภายใน 7 วัน ถือว่ายกเลิกการจอง และถูกตัดยอดไปให้ผู้อื่นต่อในทันที
– ส่งแฟกซ์ใบโอนเงินมาที่ 053-611-649, 053-611-690 ระบุชื่อผู้พัก/ผู้จอง วันที่เข้าพัก
– เงินที่โอนเข้าบัญชีแล้ว ไม่มีการคืน, สามารถเปลี่ยนวันเข้าพักได้ หากมีที่ว่างในเวลานั้น
– นำใบโอนเงินตัวจริงมาในวันเข้าพักด้วย
– รับจองบ้านพักเฉพาะวันและเวลาราชการ (จันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 8.30 – 16.00 น.)
– รับบัตรค้างแรมได้ทุกวัน เวลาราชการ (จันทร์ – อาทิตย์ ระหว่างเวลา 8.30 – 16.00 น.)

บ้านพักของโครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
โครงการพระราชดำริ ปางตอง ปางอุ๋ง  (ส่วนป่าไม้)   มีบ้านพักจำนวน 5 หลัง และพื้นที่กางเต็นท์ จำนวน  50  เต็นท์ ต่อวัน ไว้บริการให้แก่หน่วยงานราชการ-รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา สมาคม-ชมรม และนักท่องเที่ยว เข้าไปพักแรมและเยี่ยมชม   เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ติดต่อเจ้าหน้าที่ีี่ โครงการฯ  หมายเลขโทรศัพท์  080 847 8456 และ 087 661 8594

3. โฮมสเตย์ของชาวบ้าน
นอกจากที่พักของโครงการซึ่งตั้งอยู่ใกล้กะบทะเลสาปแล้ว ในบริเวณทางเข้าปางอุ๋งยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ ซึ่งเป็นของชาวบ้านเปิด ให้บริการหลายหลังชมภาพพร้อมข้อมูล

2

การเดินทางไปปางอุ๋ง

1.โดยรถส่วนตัว
เส้นทางที่1
– จากกรุงเทพ ถ้าขับรถไปเองอาจใช้เส้นทางกรุงเทพ-ฮอด ผ่านอยุธยา-นครสวรรค์-ตาก ถึง อำเภอลี้ แยกซ้ายเข้า อำเภอ แล้วเดินทางต่อไปตามเส้นทาง ลี้-บ้านโฮ่ง ก่อนถึง อำเภอบ้านโฮ่ง จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปทะเลสาบ ดอยเต่า ขับไปจนถึงฮอด จากนั้นใช้เส้นทาง ฮอด – แม่ฮ่องสอน ผ่าน อำเภอขุนยวม เข้าสู่ อำเภอเมือง แม่ฮ่องสอน – จากเมืองแม่ฮ่องสอนสู่ปางอุ๋ง ตามเส้นทางสู่ แม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้า-ปาย ขับไปเรื่อย ๆ ผ่านน้ำตก ผาเสื่อ ผ่านพระตำหนักปางตอง เข้าสู่บ้านหมอกจำแป๋ หมู่บ้านใหญ่เป็นจุดแยก ซ้ายไปปางอุ๋ง ขวาไปถ้ำปลา (ระยะทางไปถ้ำปลาแค่ 3 ก.ม.)เลี้ยวซ้ายจากนี้ไป หนทางคดโค้ง ไต่เขาชันขึ้นเรื่อยๆ มาถึง บ้านนาป่าแปก หมู่บ้านรวมมิตรที่จะเห็นชาวบ้านทั้งกระเหรี่ยงและไทยใหญ่ แต่งกายเป็นเอกลักษณ์ เลี้ยวซ้ายเข้า หมู่บ้านรวมไทย ผ่านหมู่บ้านรวมไทย ก็เข้าถึงจุดหมายโครงการสวนป่าในพระราชดำริปางตอง 2 “ปางอุ๋ง” ทะเลสาบสวย แต่ถ้าตรงไปเป็น หมู่บ้านรักไทย หมู่บ้านของชาวจีน จากกองพล 93

เส้นทางที่2
– มุ่งหน้าไปจังหวัดเชียงใหม่ แล้วค่อยต่อไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขาขึ้นจากเชียงใหม่แนะนำเส้นทางแม่มาลัย-ปาย-ปางมะผ้า มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ก่อนถึงแม่ฮ่องสอน จะถึงทางเข้าบ้านหมอกจำแป่ ให้เลี้ยวขวาเข้า ไปตามทางจะมีป้ายบอกทางไป บ้านรวมไทย น้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง บ้านรักไทย ซึ่งอยู่ทางเดียวกัน ประมาณ 25 กิโลเมตรมีทางแยกซ้าย ป้ายเล็กๆ เขียนว่า บ้านรวมไทย ให้เลี้ยวเข้าไปผ่านหมู่บ้านห้วยมะเขือส้ม ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึงบ้านรวมไทย หรือ ปางอุ๋ง

2.โดยสารรถประจำทาง
จากแม่ฮ่องสอน ให้ไปที่หน้าตลาดสายหยุด ถามหาคิวรถปางอุ๋ง จะมีรถสองแถวประจำทางขึ้นไปยังปางอุ๋ง (บ้านรวมไทย) เป็นสาย แม่ฮ่องสอน-ห้วยมะเขือส้ม เที่ยวไป 09.00 น. และ 14.00 น., เที่ยวกลับ 06.00 น. และ 11.00 น.หรืออาจจะเหมารถจากหน้าตลาดสายหยุดไปเลยก็ได้อัตรค่าโดยสารประมาณ 600 บาท
สำหรับคนที่ต้องการรถสองแถวนำเที่ยวปางอุ๋ง ติดต่อ โทร 081 784 5121, 086 115 2816 ราคาวันละ 1600 บาท โดยจะนำเที่ยวปางอุ๋ง บ้านรักไทย พระตำหนักปางตอง ภูโคลน โดยจะมารับเวลาตี 5 ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน หรือแล้วจะตกลงสถานที่

เรียบเรียงโดย www.HotelAndResortThailand.com

หมู่เกาะอินดี้  หมู่เกาะทะเลตราด

20131128_3_1385613312_777652

หมู่เกาะที่แต่ละเกาะมีความสวยงามเฉพาะตัวไม่เหมือนกัน  คือเสน่ห์ของทะเลตราดที่ชวนฝัน เป็นสวรรค์ของนักเดินทางทุกคน  

20131128_3_1385613355_460389

20131128_3_1385613282_28147

น้ำทะเลใสราวกระจก ตัดสลับท้องฟ้าสีฟ้าคราม เพลิดเพลินกับสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทร คือเสน่ห์ทะเลฝั่งตะวันออกในจังหวัดตราด เมืองเกาะครึ่งร้อยที่หลายคนอยากมาเยือน ไล่ตั้งแต่เกาะกูด เกาะที่ The New york Times จัดให้เป็น 1 ใน 31 สถานที่ควรไปเยือน โดยเฉพาะบริเวณหาดคลองเจ้า มีหาดทรายเนียนละเอียดที่สุดบนเกาะกูด รวมถึงป่าชายเลนเขียวครึ้มทอดเป็นแนวยาวสุดสายตา จากนั้นไปเกาะหมาก  เพื่อดำน้ำชมประติมากรรมช้างใต้ทะเลจากฝีมือของศิลปินแห่งชาติชื่อดัง ที่มีให้เลือกชมถึง 9 ตัว ต่อด้วยการสวมสน็อกเกิล เสื้อชูชีพ แล้วกระโดดลงไปดำผุดดำว่ายชมปะการังน้ำตื้น เห็นปลานานาชนิดว่ายไปมาอยู่รอบตัว ใต้ท้องทะเลอ่าวไทยสุดตื่นตาตื่นใจที่หมู่เกาะรัง นอกจากนี้ยังมีเกาะอื่นๆ อีกมากมาย เช่น เกาะกูด, เกาะผี, เกาะกระดาด ที่สร้างความประทับใจได้ไม่แพ้กัน

20131128_3_1385613324_448732

20131128_3_1385613342_539092

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี

Screenshot_1

เขื่อนรัชชประภา เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ที่สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง เกิดเป็นอ่างน้ำขนาดใหญ่ บนสันเขื่อนเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามของอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะยามดวงอาทิตย์ตก ภายในอ่างเก็บน้ำมีเกาะมากกว่า 100 เกาะ สามารถล่องเรือชมทัศนียภาพที่สวยงามมาก หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมมาก จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย คือเขาศก เป็นที่ตั้งของภูเขาหินปูนสูงตระหง่านโดดเด่น รายล้อมด้วยสายน้ำของเขื่อนเชี่ยวหลาน และ เกาะแก่งต่างฯ มีแพพักซึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก ไว้บริการ และยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเช่น พายเรือแคนู ตกปลา เที่ยวถ้ำซึ่งจะต้องเดินป่าเข้าไป ระหว่างทางจะได้สัมผัสกับธรรมชาติและความสมบูรณ์ของผืนป่าภาคใต้ ตัวเขื่อนซึ่งอยู่ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีสนามกอล์ฟมาตรฐาน 8 หลุม ท่าเรือสำหรับนั่งเรือชมบรรยากาศเหนือเขื่อน และบ้านพัก บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

ฤดูกาลท่องเที่ยวเขาศกที่เหมะสมจะอยู่ใช่ช่วงเดือนเมษายน – ธันวาคม

 

กิจกรรมน่าสนใจในเขาศก

1.การล่องเรือแคนูในแม่น้ำคลองศก

การล่องเรือแคนูในแม่น้ำคลองศก
การล่องเรือในแม่น้ำคลองศก เป็นกิจกรรมที่ท่านจะได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศของธรรมชาติ และวิถีชีวิตชาวบ้านคลองศก โดยใช้เวลาในการนั่งเรือ

2.การล่องแพไม้ไผ่

การล่องแพไม้ไผ่
การล่องแพไม้ไผ่ตามสายน้ำคลองศกไปตามหุบเขา และเพลิดเพลินความงามของทัศนียภาพตลอดสองฝั่งคลองศก

3.การขี่ช้าง

การขี่ช้าง
การขี่ช้างล่องไพร เป็นประสบการณ์ของชีวิตที่ท่านจะเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติของป่าดิบชื้นของเขาสก

4.การเดินป่า

การเดินป่า
เป็นกิจกรรมการเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งเป็นอุทยานที่ได้ขนานนามว่า ขุนเขาแห่งป่าฝน เป็นป่าดิบชื้นที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และมีน้ำตกต่างๆ มากมายให้ท่านได้เพลิดเพลิน และเล่นน้ำ

5.การเที่ยวเขื่อนรัชชประภา

การเที่ยวเขื่อนรัชชประภา
เขื่อนรัชชประภา ได้รับการขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย เป็นเขื่อนที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ และความมหัศจรรย์ยิ่งนัก ท่านจะได้นั่งเรือหางยาวชมความงามของทัศนียภาพ และเที่ยวชมความงามของถ้ำปะการัง และรับประทานอาหารบนแพกลางน้ำท่ามกลางวิวภูเขา

 

การเดินทางสู่เขาศก

ห่างจาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี …………… 85 km
ห่างจาก อ.เมืองพังงา ……………………. 100 km
ห่างจาก อ.เมืองภูเก็ต ……………………. 170 km
ห่างจาก อ.เมืองกระบี่ …………………… 150 km
ห่างจาก อ.พุนพิน (สถานีรถไฟ)………. 70 km
ห่างจาก ปากทางเข้าเขื่อน ………………. 13 km
ห่างจาก อช.เขาสก…………………………. 60 km

รายละเอียดการเดินทางดูได้จากเวบนี้เลยค่ะ http://www.chiewlarn.com/forum/index.php?topic=10.0

 

ขอบคุณรูปภาพจากคุณ Goy  Schwendener และ Khao Sok Discovery

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

094412pumr9c4cu5shsuru

094445hwa551cudh1atp5v

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีชื่อว่าทะเลหมอกที่งดงามยิ่ง มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมียอดดอยที่มีธรรมชาติงดงามอีกหลายแห่ง เช่น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รวมทั้งมีโป่งเดือดซึ่งเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ และกิจกรรมล่องแพ

094454azgxwd4bwl8ayk4b

094417uz7t72g7z07rxrmz

แหล่งท่องเที่ยว

จุดชมวิวดอยช้าง อยู่บนดอยช้างขึ้นไปทางเหนือของห้วยน้ำดัง มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,962 เมตร สามารถมองเห็นสภาพธรรมชาติของทิวเขาอันสลับซับซ้อน ทะเลหมอกในตอนเช้าตรู่ได้ชัดเจน
จุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) เป็นที่ตั้งของหน่วยพัฒนาต้นน้ำที่ 2 (ห้วยน้ำดัง) เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากที่สุดและมีชื่อเสียงมากในด้านการท่องเที่ยว ที่จะชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่และเป็นที่รู้จักของชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพื่อคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ไพศาลในช่วงฤดูหนาว สภาพธรรมชาติอันสวยงามของจุดชมวิวนี้เมื่อยืนอยู่ที่บ้านพักของห้วยน้ำดังแล้วมองไปทางทิศตะวันออก ทำให้มองเห็นสภาพธรรมชาติที่สวยงาม ทิวทัศน์ของทิวเขาอันสลับซับซ้อนซึ่งมีดอยหลวงเชียงดาวที่สูงที่สุดอยู่ใจกลาง และในช่วงเช้าตรู่ของฤดูหนาวจะเกิดทัศนียภาพของทะเลหมอกที่ สวยงาม ทางเข้าแยกจากถนนสายแม่มาลัย-ปายหลักกิโลเมตรที่ 65 – 66 เป็นทางลูกรังเข้าไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร
น้ำตกแม่เย็น เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยแม่เย็นหลวง ซึ่งจะไหลลงมาสู่แม่น้ำปายต่อไป สภาพน้ำตกเป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูง มีน้ำไหลตลอดปี
น้ำตกแม่ลาด ความสูงประมาณ 40-50 เมตร ตั้งอยู่ใน ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่
น้ำตกแม่หาด ความสูงประมาณ 40-50 เมตร มี 4 ชั้น ตั้งอยู่ใน ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่
น้ำตกห้วยน้ำดัง เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยน้ำดัง มีโขดหินมากมาย ความสูงประมาณ 50 เมตร กว้าง 10 เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมากความสูง 3 – 4 ชั้น และสภาพโดยทั่ว ๆ ไปชุ่มชื้นไปด้วยพันธุ์ไม้ป่าดิบชื้น
โป่งน้ำร้อนท่าปาย เป็นบ่อน้ำร้อนที่เปรียบเสมือนน้ำกำลังเดือดขึ้นเป็นพรายฟอง อุณหภูมิน้ำผิวดินประมาณ 80 องศาเซลเซียส น้ำร้อนจะไหลรวมกันเป็นธารน้ำร้อนขยายเป็นบริเวณกว้างมีหมอกควันปกคลุมพื้นที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 30 กม. ตั้งอยู่ใน ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
โป่งน้ำร้อนโป่งเดือด น้ำพุร้อนขนาดใหญ่ จำนวน 3-4 บ่อ และยังมีบ่อเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วไป อุณหภูมิน้ำผิวดินประมาณ 90-99 องศาเซลเซียส น้ำพุร้อนจะพุ่งจากใต้ดินตลอดเวลา บางครั้งพุ่งสูงถึง 2 เมตร บริเวณนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติโป่งเดือด ระยะทาง 1,550 เมตร และโป่งเดือดยังเป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวทัวร์ป่าที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
โป่งร้อน อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปายฝั่งซ้ายตอนบน ท้องที่ตำบลแม่อี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เส้นทางลูกรังเข้าไปโป่งร้อน โดยแยกเข้าทางบ้านแม่ปิง ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร สภาพ ธรรมชาติของโป่งร้อนเป็นบ่อน้ำร้อนที่น้ำกำลังเดือดเป็นฟองและมีหมอกควันปกคลุมพื้นที่ พร้อมทั้งมีน้ำร้อนไหลเรื่อย ๆ ทั่วบริเวณกว้าง บ่อน้ำร้อนแห่งนี้มีบ่อใหญ่ 2 บ่อ นอกจากนี้ลักษณะเป็น น้ำผุดบางจุด ความร้อนประมาณ 80 องศาเซลเซียส รอบ ๆ โป่งร้อนเป็นไม้สักที่สมบูรณ์มาก
ล่องแพลำน้ำแม่แตง สองฝั่งของลำน้ำแม่แตงยังคงอุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และนกนานาชนิด จัดว่าเป็นสายน้ำที่มีบรรยากาศของการท่องเที่ยวที่ตื่นเต้นเร้าใจเต็มไปด้วยเกาะแก่งและ โขดหิน โดยเดินทางตามเส้นทางทัวร์ป่าจากน้ำพุร้อนโป่งเดือดจนถึงบ้านปางป่าคา (7กม.) หรือบ้านป่าข้าวหลาม (9 กม.) จากนั้นเริ่มล่องแพใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง จะถึงบ้านสบก๋ายซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของการล่องแพ
บ้านพัก-บริการ บ้านพักทางการที่ตั้งในอุทยานฯ

huaynamdung-nationpark

ห้วยน้ำดัง

การเดินทาง

ไปยังอุทยานฯ จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ระยะทางประมาณ 37 กิโลเมตร ถึงตลาดแม่มาลัย อ.แม่แตง แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1095 สายเชียงใหม่-ปาย อีกประมาณ 65 กิโลเมตร ถึงด่านตรวจอุทยานฯ ซึ่งอยู่ด้านขวามือเข้าไปอีก 6 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ และหากเดินทางต่อไปอีก 1 กิโลเมตร ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือเดินทางโดยรถประจำทางจากสถานีขนส่งเชียงใหม่ สายเชียงใหม่-ปาย อัตราค่าโดยสาร 40 บาท/คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

 

ขอบคุณรูปภาพบางส่วนจากคุณ Luckyfarm6662

เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

สิมิลัน1

“หมู่เกาะสิมิลัน” คือสรวงสวรรค์ใต้สมุทรที่อุดมไปด้วยชีวิตน้อยใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปะการัง และหมู่ฝูงปลา มีน้ำใสราวแผ่นกระจกและมีหาดทรายที่ขาวสะอาดงดงาม สิมิลันมีชื่อเสียงทางด้านมีแหล่งน้ำลึกที่สวยงาม ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก และภาพหินเรือใบเป็นภาพสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ซิ่งตั้งอยู่ที่เกาะ8 (สิมิลัน) ที่มีความงดงามมาก และถือเป็นจุดเด่นของสิมิลัน

DSC_0179

สิมิลัน3

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อยู่ตำบลเกาะพระทอง ครอบคลุมพื้นที่ 80,000 ไร่ ประกาศเป็นเขตอุทยานฯ เกาะสิมิลัน  เมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2525 คำว่า สิมิลัน เป็นภาษายาวี หรือ มลายู แปลว่า เก้า หรือ หมู่เกาะเก้า หมู่เกาะสิมิลันเป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ในทะเลอันดามัน มีทั้งหมด 9 เกาะ เรียงลำดับจากเหนือมาใต้ ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี 2 เกาะติดกัน) เกาะปายู เกาะหัวกระโหลก ( เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู ที่ทำการอุทยานฯ เกาะสิมิลัน อยู่ที่เกาะเมี่ยงเพราะเป็นเกาะที่มีน้ำจืด หมู่เกาะเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความงามทั้งบนบกและใต้ น้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ของท้องทะเล เกาะสิมิลัน สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก มีปะการังที่มีสีสันสวยงามหลากชนิด ปลาหลากสีสันและหายาก เช่น กระเบนราหู ปลาวาฬ ปลาโลมา ปลาไหลมอนเร่ ปลาการ์ตูน เกาะสิมิลัน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด ส่วนเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน เป็นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีคลื่นลมแรงเป็นอันตรายต่อการเดินเรือและทางอุทยานฯ เกาะสิมิลัน จะประกาศปิดเกาะในเดือนพฤษภาคมเพื่อเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติ เกาะสิมิลัน ทุกปี

สิมิลัน2

ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 31 ตุลาคม ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 15 พฤษภาคม ของทุกปี

 

เรียบเรียงโดย www.HotelAndResortThailand.com

ประเพณียี่เป็ง 2557 จ.เชียงใหม่

ประเพณียี่เป็งได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณ  

 31008_B
ประเพณียี่เป็ง จะจัดขึ้นตรงกับวันที่ ตรงกับวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม  2557 , วันที่ 8 พ.ย. 57 
 โดยในพงศาวดารโยนกและจามเทวีมีบันทึกว่าครั้งหนึ่งได้เกิด อหิวาตกโรคขึ้นในแคว้นหริภุญไชย ทำให้ชาวเมืองต้องอพยพไปอยู่เมืองหงสาวดี นานถึง 6 ปี จึงจะเดินทางกลับ มายัง บ้านเมืองเดิมได้ เมื่อเวลาเวียนมาถึงวันที่จากบ้านจากเมืองไป จึงได้มีการทำกระถางใส่เครื่องสักการบูชา ธูปเทียนลอย ลอยตามน้ำ เพื่อให้ไปถึงญาติพี่น้องที่ล่วงลับไป เรียกว่า การลอยโขมด หรือลอยไฟ   
com1[1]
.
โคมลอยนิยมลอยกันในเทศกาลลอยกระทง ทางภาคเหนือเรียกว่าประเพณี
ยี่เป็ง เป็นประเพณีลอยกระทงของชาวล้านนา ซึ่งหมายถึงวันเพ็ญเดือน 2 เป็นการนับเดือนตามจันทรคติ โดยคำว่า ยี่เป็ง เป็นภาษาเหนือ ยี่ แปลว่า สอง และคำว่า เป็ง ตรงกับคำว่า เพ็ง หรือ เพ็ญ หมายถึงพระจันทร์เต็มดวง คือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 2 นั่นเอง ธรรมเนียมปฎิบัติของชาวล้านนาอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการลอยกระทงในแม่น้ำก็คือ การจุดประทีปโคมลอยขึ้นไปสว่างไสวบนท้องฟ้า โดยมีคติความเชื่อว่าเพื่อบูชาพระเกตุแก้วจุฬามณี บนสรวงสวรรค์ 
 s__10321981
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม :
 ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทรศัพท์.  053-302-500

เที่ยวงานภูเขาทอง ประจำปี 2557

ย้อนยุคเที่ยวงานวัดภูเขาทอง นมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และประเพณีห่มผ้าแดงถวายองค์บรมบรรพตภูเขาทอง (วันแห่ผ้าแดงตรงกับวันที่ 30 ตุลาคม 2557 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป)งานภูเขาทอง ประจำปี 2557″ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 8 พฤศจิกายน 2557  

3_33

วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ขอเชิญพุทธศาสนิกชน ร่วมสืบสานประเพณีห่มผ้าแดงถวายองค์บรมบรรพต ภูเขาทอง ใน งานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ หรือ งานภูเขาทอง ณ บริเวณพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) และลานพระวิหาร วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ สำหรับ งานภูเขาทอง” เป็นหนึ่งเทศกาลงานวัดที่ชาวกรุงเทพฯ หลายคนเฝ้ารอคอย เพราะที่นี่เปรียบเหมือนเป็นต้นกำเนิดของงานวัดในประเทศไทย ซึ่งนอกจากภายในงานจะมีกิจกรรมสนุกต่าง ๆ แล้วยังถือเป็นโอกาสดีที่พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสักการบูชาพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ที่เป็นมงคลพิธีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยกิจกรรมเริ่มต้นตั้งแต่การร่วมจารึก ชื่อสกุล ลงบนผ้าแดง สำหรับห่มถวายองค์บรมบรรพตภูเขาทอง ในงานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมร่วมการร่วมบุญ งานภูเขาทอง ร่วมขบวนอัญเชิญผ้าแดง ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

นอกจากนี้ ทางวัดจะเปิดให้ประชาชนขึ้นไปกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุในช่วงเวลาพิเศษ คือ ตอนกลางคืน พร้อมทั้งการขึ้นไปกราบนมัสการปิดทองพระบรมสารีริกธาตุ, ชมพระบรมบรรพตที่ชั้นบนสุด และการเข้าไปชมความงามของพระพุทธรูปและภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ รวมถึงเดินเที่ยวภายในเทศกาลงานสมโภชองค์พระบรมสารีริกธาตุพร้อมทั้งเวทีกิจกรรมการแสดงดนตรีไทย, บ้านผีสิง, ชิงช้าสรรค์, ปาเป้า, เป่าลูกโป่ง รวมถึงร้านค้าจากทั่วประเทศที่เอาสินค้าขึ้นชื่อมาจำหน่ายมากมาย ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

** กำหนดการจัดงานอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนเดินทาง **  

ติดต่อสอบถามโทร

02 621 2280

ไร่ชาบ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ไร่ชา1

บ้านรักไทย ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอดีต ทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๊ง” บ้านรักไทยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่ เหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกชาพันธุ์ดี และพืชเมืองหนาว ทิวทัศน์ของ หมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยทิวเขา แมกไม้ที่ อุดมสมบูรณ์ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของชาและขาหมู่หมั่นโถว คล้ายกับดอยแม่สลอง (กองพลเดียวกัน) นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่แห่งนี้เพื่อดื่มด่ำกับการชิมชา และ ทานขาหมูหมั่นโถว บ้างก็หลีกหนี ความวุ่นวายมาหาความเงียบสบาย ของบ้านรักไทยแห่งนี้ บ้านรักไทยยังมีกิจกรรมหลายอย่างไว้ให้นักท่องเที่ยว ได้สนุกสนาน เช่น พาเข้าไปชม “คุกดิน” การเดินป่าศึกษาเส้นทางโดยมัคคุเทศน์น้อย และการขี่ม้าพาข้ามแดนไป ฝั่งพม่า ที่บ้านรักไทยยังมีเกสถ์เฮาส์ริมน้ำ (บ้านดิน) ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องกับสัมผัสกับ ธรรมชาติแบบใกล้ ชิดอีกด้วย

ไร่ชา

การเดินทาง 

จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้เส้นทาง จากเมืองแม่ฮ่องสอน มุ่งสู่บ้านรักไทย โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 (ไปปาย)เส้นทางสายเหนือ แยกเข้าซ้ายประมาณ กิโลเมตรที่ 8 แยกเข้า หมู่บ้านกุงไม้สัก ใช้เส้นทางเดียวกับทางไป ภูโคลนคันทรี่คลับ น้ำตกผาเสื่อ และหมู่บ้านปางอุ๋ง เส้นทางเป็นเขาสูงชัน ต้องใช้ความชำนาญในการขับ รถต้องเติมน้ำมันให้พร้อม (ไม่มีปั๊มบนดอย) ระยะทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ไปบ้านรักไทย 44 ..

จากอำเภอปาย ผ่าน อ.ปางมะผ้า และจะผ่าน ถ้ำปลา โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 แยกเข้าขวาเลยถ้ำปลามาสัก 1 .. แยกเข้า หมู่บ้านหมอกจำแป่ ใช้เส้นทางเดียวกับทางไป ภูโคลนคันทรี่คลับ น้ำตกผาเสื่อ และหมู่บ้านปางอุ๋ง

รถโดยสาร ประจำทาง

หน้าตลาดสด เมืองแม่ฮ่องสอน มีรถปิคอัพสองแถว สีเหลือง สังเกตุป้าย จะเขียนว่าแม่ออ รักไทย รถออกวันละประมาณ 2 เที่ยว ค่าโดยสาร 150 บาท