10 ที่เที่ยวนาขั้นบันได หน้าฝนอย่างนี้ แพ็คกระเป๋าแล้วไปด้วยกันเลย…..
1. นาข้าวขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง
บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่รายล้อมด้วยนาขั้นบันได เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและบรรดาช่างภาพ หากมาในยามเช้าจะได้พบกับทะเลหมอกและสัมผัสไออุ่นจากแสงแดด และถ้าหากมาในยามเย็นสามารถชมพระอาทิตย์ตกดิน และแสงยามเย็นสวยๆ กระทบกับหุบเขาที่เรียงรายสลับซับซ้น เป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก ถ้าใครอยากเห็นข้าวเขียวขจีเต็มท้องนา แนะนำให้มาในเดือน ก.ย. – ต้น ต.ค. จะเป็นอะไรที่สวยที่สุด
ขอขอบคุณรูปภากจาก สามชิก gatay /doodiza.com
2. นาข้าวขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ
นาข้าวขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ ตั้งอยู่ใน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เป็นต้นแบบนำร่องดำเนินโครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ โดยแนวทาง ของโครงการ ก็คือ เริ่มต้นด้วยการลดการใช้พื้นที่ป่า แสวงหาวิธีปลูกข้าวแบบใหม่ โดยนำวิธีการทำนาขั้นบันไดบนพื้นที่ ภูเขา แทนข้าวไร่ นาข้าวขั้นบันได้ที่ได้ไปเยี่ยมชมครอบคลุมหลายหมู่บ้าน ตั้งแต่บ้านสะจุก สะเกี้ยง บ้านบวกอุ้ม บ้านเปียงซ้อ ตลอดเส้นทางที่นั่งรถเราจะได้พบเห็นกับ ความเขียวขจีของนาข้าวขั้นบันไดแซมด้วยพืชไร่อย่างข้าวโพด ท่ามกลางความความเขียวขจีของต้นไม้ และความอลังการของภูเขาที่สลับซับซ้อน เป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก การมาเที่ยวชมนาข้าวขั้นบันไดหากต้องการความเขียวขจี และความชุ่มชื้น สามารถมา ได้ในช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือน ก.ย. ส่วนในช่วงปลายต.ค. – พ.ย. ซึ่งเป็นหน้าหนาวก็จะได้สัมผัส อากาศหนาวและนาข้าวสีเหลือง ทองเริ่มออกรวง
ขอขอบคุณรูปภากจาก mypageblog.com
3. นาขั้นบันไดบ้านกองกาน
ตั้งอยู่ที่บ้านกองกาน ด้านเหนือของเมืองแม่แจ่ม นาขั้นบันไดบ้านกองกาน จะกระจายตัวอยู่บริเวณใกล้ๆ กับวัดกองกานนักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นไปชมนาขั้นบันไดมุมสูงหรือจะขับเข้าไปชมภายในนาก็ได้ ซึ่งมุมสูงของนาขั้นบันไดบ้านกองกานนี้เป็นมุมยอดนิยมของนักถ่ายภาพ โดยนาขั้นบันไดจะเขียวชอุ่มยามหน้าฝน ระหว่างเดือน ส.ค. ถึง ก.ย. หรือช่วงที่นาขั้นบันไดออกรวงกลายเป็นสีทองเหลืองอร่ามระหว่างเดือน ต.ค. ถึง พ.ย.
ขอขอบคุณรูปภากจาก zthailand.com
4. นาข้าวขั้นบันได แม่ปาน
นาขั้นบันไดบ้านแม่ปาน เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของการชมนาขั้นบันไดของอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ถึงแม้ตัวนาขั้นบันไดบ้านแม่ปานเองจะมีลักษณะค่อนข้างเตี้ยเมื่อเทียบกับนาขั้นไดที่จุดอื่น แต่ก็มีจุดเด่นคือ เป็นนาขั้นบันไดที่สามารถชมได้จากมุมสูง โดยจุดที่น่าสนใจในการชมอยู่บริเวณลงจากถนนสาย 1192 มายังบ้านกองกาน จะเป็นถนนที่ตัดเขาลงมาเผยให้เห็นผืนนาขั้นบันไดบ้านแม่ปานที่เบื้องล่าง นาขั้นบันไดบ้านแม่ปานจะเขียวชอุ่มยามหน้าฝน หากโชคดีจะพบสายหมอกฝนลอยอ้อยอิ่งเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม ส่วนระหว่างเดือน ต.ค. ถึง พ.ย. จะเป็นช่วงที่นาขั้นบันไดบ้านแม่ปานออกรวงกลายเป็นสีทองเหลืองอร่าม บางช่วงเวลา นาขั้นบันไดจะมีสีสลับสีเขียวแซมสีทองดูสวยแปลกตา
ขอขอบคุณรูปภากจาก zthailand.com
5. นาข้าวขั้นบันได แม่กลางหลวง
ตั้งอยู่ในเขตอ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอินทนนท์ มีชนเผ่ากระเหรี่ยงอาศัยซึ่งล้วน เป็นกลุ่มชาติ พันธุ์กระเหรี่ยงในกลุ่มสะกอ หรือยางขาวในภาษาราชการหรือที่รู้จักในชื่อ ปกาเกอะญอ หรือ คานยอ (Kanyaw) หมายถึง ผู้มีความสมถะและเรียบง่าย บริเวณลุ่มแม่น้ำแม่กลางประกอบด้วยชุมชนย่อย 4 แห่ง คือ ชุมชนบ้านอ่างกาน้อย ชุมชนบ้านแม่กลางหลวง ชุมชนบ้านหนองหล่ม และชุมชนบ้านผาหมอน นอกจากความงามของนาขั้นบันไดแล้ว ที่นี่ยังปลูกกาแฟ ซึ่งเราสามารถชิมกาแฟรสเลิศ ในบรรยากาศของกระท่อมปลายนาริมลำธารและนาข้าวเขียวขจีอีกด้วย สัมผัสนาข้าวขั้นบันได ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเดือน ก.ย. – กลางเดือน ต.ค. ช่วงหน้าฝนต้นข้าวจะเริ่มเขียวขจีชุ่มฉ่ำ เคล้าสายหมอกบางๆในฤดูฝน และช่วงปลายเดือน ต.ค. – ต้นเดือนพ.ย. เป็นช่วงที่ต้นข้าวออกรวงเป็นสีทองเต็มท้องทุ่งเหลืออร่ามงดงามยิ่งนัก
ขอขอบคุณรูปภากจาก คุณ Promote Soongkitboon
6. นาข้าวขั้นบันได โครงการหลวงแม่ลาน้อย
ตั้งอยู่ในตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ยังคงมี ความเป็นธรรมชาติ และบริสุทธิ์ อบอุ่นไปด้วยวิถีชีวิตที่งดงามของชาวเขา นักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของนาข้าวขั้นบันได ภายในพื้นที่ของโครงการตลอดสองข้างทาง รวมทั้งชมแปลงผักปลอดสารพิษ ที่ปลูกตลอดทั้งปี โครงการหลวงแม่ลาน้อยตั้งอยู่บนความสูง 900-1,100 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีประชากรในพื้นที่ประกอบด้วย 2 ชนเผ่าหลักๆ คือ ชาวละว้า(ลัวะ)และชาวปกาเกอะญอ(กะเหรี่ยง) ในช่วงฤดูฝนทุ่งนาขั้นบันไดที่นี่จะดูเขียวจีสดสวยสบายตา ขณะที่ในช่วงยามเช้าไปจนถึงช่วงสายๆ จะมีสายหมอกฝนลอยไต่ไล่เลี่ยปกคุลมยอดเขา เป็นฉากหลังประดับทุ่งนาดูสวยงามโรแมนติกชวนฝันเป็นยิ่งนัก ส่วนในช่วงฤดูหนาวราวเดือน พ.ย.-ธ.ค. ท้องทุ่งนาขั้นบันไดที่นี่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามรอวันเก็บเกี่ยว
ขอขอบคุณรูปภากจาก blong.unseentourthailand.com
7. นาข้าวขั้นบันได บ้านตีนผา
ตั้งอยู่ หมู่ 15 ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองอำเภอแม่แจ่มเพียง 8 กิโลเมตร ที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านขาวเขาชาวปกากญอ ซึ่งนอกจากเราจะได้ชมวิถีชีวิต วัฒนธรรม ของชนเผ่า ที่อาศัยอยู่อย่างเรียบง่ายแล้ว ยังได้พบกับธรรมชาติและ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของนาข้าวขั้นบันได และพืชทางเกษตรต่าง ๆ ที่ปลูกลดหลั่น กันไปบนภูเขาสูง สลับกันลูกแล้วลูกเล่า เป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก
ขอขอบคุณรูปภากจาก มาเรีย ณ ไกลบ้าน theTripPacker
8. นาข้าวขั้นบันได บ้านผาหมอน
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดเชียงใหม่ และตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของดอยอินทนนท์ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่โดยผ่าน อำเภอหางดง – สันป่าตอง – จอมทอง ระยะทางจากเชียงใหม่ ถึง บ้านผาหมอน 100 กิโลเมตร บ้านผาหมอนเป็นอีกหนึ่งที่ ที่มีนาขั้นบันไดสีเขียวขจี รวมถึง แปลงดอกไม้เมืองหนาวที่ปลูกอยู่ท่ามกลางนาข้าว หากต้องการมาชมนาข้าวขั้นบันได บ้านผาหมอนช่วงสีเขียว ควรเดินทางมาช่วงกลางเดือน ก.ย. – กลางเดือน ต.ค. และช่วงสีทองคือ ช่วง ปลายเดือน ต.ค. – ต้นเดือน พ.ย. หลังจากนั้นชาวบ้าน จะเก็บเกี่ยว
ขอขอบคุณรูปภากจาก theTripPacker
9. นาข้าวขั้นบันได โครงการหลวงขุนแปะ
ตั้งอยู่ในตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ไฮไลต์ของการมาเที่ยวโครงการหลวงขุนแปะ คือ การไปชมนาขั้นบันได ระหว่างทางและรอบโครงการหลวง ฯ เป็นพื้นที่กว้างลดหลั่นตามความสูงชันโดยนาข้าวจะเขียวขจีในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูทำนา ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. – กลางเดือน ต.ค. และเป็นสีทองในช่วงปลายเดือน ต.ค. ในหน้าหนาวสามารถชมแปลงลูกพลับ อะโวกาโด สมุนไพร และพืชไร่ รวมไปถึงการได้ชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยงในหมู่บ้าน โดยสามารถเที่ยวแบบวันเดียว หรือจะพักค้างคืนเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์รอบโครงการ
ขอขอบคุณรูปภากจาก thairoyalprojecttour.com
10. นาข้าวขั้นบันได อ.ปัว
อำเภอปัว เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากตัวเมืองน่านเพียง 60 กิโลเมตร ในช่วงฤดูฝนปัวจะเขียวขจีไปด้วยทุ่งนาข้าว ส่วนช่วงฤดูแล้งทุ่งนาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวยงามไปอีกแบบ ซึ่งสามารถขับรถเที่ยวชมทิวทัศน์นาข้าวได้ตลอดทาง การเที่ยวชมทุ่งนาข้าวในอำเภอปัวสามารถเที่ยวชมได้ไม่ยาก เพราะทุ่งนาข้าวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมทางหลวง จากตัวเมืองน่านใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 มาทางอำเภอท่าวังผา จากนั้นเข้าสู่ปัวด้วยทางหลวงหมายเลข 1256 เส้นทางนี้สามารถชมวิวทุ่งนาสีเขียวกันได้ตลอดทาง
ขอขอบคุณรูปภากจาก www.paiduaykan.com
เรียบเรียงโดย www.hotelandresortthailand.com