29 World Heritage มรดกโลกแห่งใหม่ล่าสุด ปี 2019

เริ่มประกาศแล้วสำหรับมรดกโลกแห่งใหม่ ในการประชุมคัดเลือกแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO) ครั้งที่ 43 ที่กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 10 กรกฎาคม 2562 ซึ่งในการพิจารณาครั้งนี้มีการเสนอรายชื่อเข้ามาทั้งหมด 35 แห่งทั่วโลก และระหว่างนี้ก็มีการประกาศรายชื่อออกมาแล้วถึง 29 แห่ง โดยรายชื่อของมรดกโลกมีดังต่อไปนี้

┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉

แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม

┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉

1. แหล่งผลิตเหล็ก ในประเทศบูร์กินาฟาโซ

หลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งบอกว่ามีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ก่อนสามัญศักราช แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการผลิตเหล็กในบูร์กินาฟาโซ โดยปัจจุบันยังคงเหลือให้เห็นเตาเผาเหล็กธรรมชาติ

2. เมืองโบราณเหลียงจู่ มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน

ตั้งอยู่ริมคุ้งแม่น้ำแยงซีเกียง ในเมืองหางโจว แสดงถึงอารายธรรมฝั่งแม่น้ำแยงซีตอนล่าง เมื่อสมัยกว่า 5,000 ปีก่อน (ปัจจุบันจีนมีมรดกโลกรวมถึง 55 แห่ง มากที่สุดในโลกเท่ากับประเทศอิตาลี)

 3. นครบาบิโลน ประเทศอิรัก

1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณอายุกว่า 4,000 ปี เป็นอาณาจักรสำคัญในยุคเมโสโปเตเมีย ซึ่งมีทั้งกำแพงเมือง ประตูเมือง พระราชวัง และสถานที่สำคัญทางศาสนา

 4. เมืองพุกาม ประเทศเมียนมาร์ (พม่า)

เมืองโบราณอายุนับ 1,000 ปี ในประเทศพม่า ที่โด่งดังไปทั่วโลก จากทะเลเจดีย์กว่า 4,000 องค์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและน่าศรัทธา

 5. แหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ Budj Bim รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย

พื้นที่ทางวัฒนธรรมของชาวอะบอริจิน ในพื้นที่ดังกล่าวก็มีทั้งภูเขาไฟ (Budj Bim Volcano) และทะเลสาบ (Tae Rak) และยังมีภูมิปัญญาที่น่ายกย่องอย่างเรื่องของการจัดการน้ำ และการสร้างที่ดักปลาไหล มีมามากกว่า 6,000 ปีแล้ว

 6. กลุ่มคริสตสถานโบราณ เมืองปัสคอฟ (Pskov) ประเทศรัสเซีย

ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศรัสเซีย อันประกอบด้วยโบสถ์ มหาวิหาร อาราม ป้อมปราการ และอาคาร ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรม ย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 12  โดยได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมของจักรวรรดิไบแซนไทน์และนอฟโกรอด

 7. เนินฝังศพของชาวดิลมัน (Dilmun) ประเทศบาห์เรน

สร้างขึ้นประมาณ 4,000 ปีก่อน ประกอบไปด้วยเนินดินเกือบ 12,000 เนิน ถือว่าเป็นหลุมฝังศพในยุคโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

 8. Erzgebirge/Krusnohori Mining Region ประเทศเช็กเกียและประเทศเยอรมนี

เขตเหมืองเก่าแอร์ซเกเบียร์เก้ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนี และตะวันตกเฉียงเหนือของเช็ก เป็นแหล่งแร่โลหะ มีความรุ่งเรืองอย่างมากในช่วงปี 1460-1560 จนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งผลิตยูเรเนียมรายใหญ่ของโลก ผู้มาเยือนก็จะได้เห็นภูมิทัศน์ของเหมืองแร่เก่าที่มีการสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12-20

 9. เมืองเชคีย์ (SHEKI) ประเทศอาเซอร์ไบจาน

เมืองโบราณสมัยศตวรรษที่ 18 บริเวณเทือกเขาคอเคซัส ที่ผสมผสานอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย ด้วยความที่เป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ และเป็นที่ตั้งของพระราชวังข่านเชคีอันงดงาม

 10. เมืองชัยปุระ หรือนครสีชมพู ประเทศอินเดีย

เมืองเอกของรัฐราชสถาน โดยเมื่อปี พ.ศ. 2419 มหาราชา สวาอี ราม สิงห์ ทรงมีพระบัญชาให้ทาสีอาคารบ้านเรือนเป็นสีชมพู เพื่อต้อนรับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด แห่งอังกฤษ หรือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ในเวลาต่อมา ซึ่งสีชมพูนั้นยังคงไว้จนถึงปัจจุบัน

 11. หอดูดาว Jodrell Bank ประเทศอังกฤษ

ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นหอดูดาวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก สร้างขึ้นเมื่อกว่า 70 ปีก่อน และยังคงใช้งานมาถึงปัจจุบัน การศึกษาผ่านกล้องโทรทัศน์วิทยุที่นี่นำไปสู่การค้นพบที่น่าสนใจทางดาราศาร์ตมากมาย

 12.เหมืองหินเหล็กไฟ จังหวัดชเวียงทอคชิสเกีย ประเทศโปแลนด์

ลักษณะเป็นเหมืองแร่โบราณในยุค Krzemionki หรือราว ๆ ช่วงยุคหินใหม่ถึงยุคสัมฤทธิ์ (ช่วง 3900-1600 ปีก่อนสามัญศักราช) แสดงให้เห็นถึงกระบวนการทำลายหินเหล็กไฟ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในการทำขวาน และยังมีโบราณวัตถุอีกกว่า 4,000 ชิ้นที่พบในบริเวณเดียวกัน

 13. ศูนย์เพาะพันธ์ และฝึกม้าหลวงสำหรับพระราชพิธีของราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค แห่งสาธารณรัฐเช็ก

ตั้งขึ้นเมื่อ 440 ปีก่อน บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเอลเบ ใช้เป็นสถานที่ฝึกม้าและผสมม้าพันธุ์ Kladruber ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เก่าแก่และหายากมากที่สุดในโลก

 14. พื้นที่ไร่องุ่น และบ่มไวน์โพรเซ็กโก้ ประเทศอิตาลี

ตั้งอยู่บนเนินเขาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี โดยคนที่นี่สืบทอดการผลิตไวน์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นพื้นที่ผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี ประกอบไปด้วย ไร่องุ่น, โรงบ่มไวน์, เนินเขา Hogback, ไร่องุ่นแบบนาขั้นบันไดที่เรียกว่า Ciglioni, หมู่บ้านเล็ก ๆ, ฟาร์ม และวิวทิวทัศน์ที่งดงาม

 15. ทุ่งไหหิน ประเทศลาว

แหล่งโบราณคดีที่ประกอบไปด้วยหินรูปทรงไหขนาดใหญ่ อายุราว 3,000 ปี ตั้งอยู่กระจัดกระจายบนที่ราบสูงในแขวงเชียงขวาง ประเทศลาว

 16. สุสานโบราณโมซุ-ฟูรูอิจิ จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

มรดกแห่งล่าสุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยเนินสุสาน 49 แห่ง ที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 4-5 มีหลายรูปร่างและขนาด เช่น รูปรูกุญแจ และรูปวงกลม เชื่อกันว่าสุสาน 29 แห่งนี้เป็นที่บรรจุพระศพของอดีตพระจักรพรรดิ พระจักรพรรดินี และสมาชิกพระราชวงศ์ญี่ปุ่น

 17. เหมืองถ่านหิน ประเทศอินโดนีเซีย

เหมืองถ่านหินอายุกว่า 100 ปี ในเมืองซาวาห์ลุนโต จังหวัดสุมาตราตะวันตก ของอินโดนีเซีย โดยเป็นเหมืองถ่านหินแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นสถานที่สำคัญในสมัยที่ตกเป็นเมืองขึ้นของเนเธอร์แลนด์

 18. แหล่งโบราณคดี Risco Caido ประเทศสเปน

เป็นวิหารและที่อยู่อาศัยในถ้ำ บนภูเขา ในหมู่เกาะแกรนด์คานารี (Gran Canaria) ดินแดนโพ้นทะเลของประเทศสเปน นอกชายฝั่งทวีปแอฟริกา แสดงให้เห็นถึงอารยธรรมของคนบนเกาะตอนที่สเปนจะเข้ายึดครอง

 19. พระราชวังในเมืองมาฟรา (Mafra) ประเทศโปรตุเกส

ตั้งยอยู่ใกล้กับกรุงลิสบอน สร้างในศตวรรษที่ 18 สมัยพระเจ้าจอห์นที่ 5 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โรมันผสมบาโรกแบบอิตาลี

 20. วิหารพระเยซู ประเทศโปรตุเกส

ตั้งอยู่ในเมืองบราก้าทางตอนเหนือ ประเทศโปรตุเกส สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมบาโรก ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 และพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นเวลา 600 ปี

 21. Seowon, Korean Neo-Confucian Academies ประเทศเกาหลีใต้

สถาบันโทซันโซลวอน ในจังหวัดคย็องซังเหนือ สถานที่สำคัญอายุกว่า 400 ปี ที่แสดงถึงอิทธิพลของลัทธิขงจื๊อ ที่มีต่อวัฒนธรรมชาวเกาหลี

 22. อาคาร 8 แห่งทั่วประเทศ ของสหรัฐอเมริกา

อาคารถูกออกแบบโดย แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ (Frank Lloyd Wright) สถาปนิกผู้ทรงอิทธิพลแห่งศตวรรษที่ 20 มีแนวทางการออกแบบที่โดดเด่น เน้นให้สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เข้ากับบริบทของสิ่งแวดล้อมโดยรอบ อาคารที่อยู่ในรายชื่อมรดกโลกมีทั้งหมด 8 แห่ง ได้แก่

  • Fallingwater รัฐเพนซิลเวเนีย
  • Solomon R. Guggenheim Museum รัฐนิวยอร์ก
  • Taliesin West รัฐแอริโซนา
  • Unity Temple รัฐอิลลินอยส์
  • Frederick C. Robie House รัฐอิลลินอยส์
  • Taliesin รัฐวิสคอนซิน
  • Hollyhock House รัฐแคลิฟอร์เนีย
  • Herbert and Katherine Jacobs House รัฐวิสคอนซิน

 23. ระบบบริหารจัดการน้ำของเมืองออกสบูร์ก ประเทศเยอรมนี

ระบบการจัดการน้ำของเมืองออกสบูร์ก ประเทศเยอรมนีที่พัฒนามาตั้งแต่ 700 ปีที่แล้ว ประกอบไปด้วยคลองต่าง ๆ, หอเครื่องจักรสูบน้ำ, ระบบน้ำพุ, สถานีไฟฟ้าพลังน้ำ และนวัตกรรมต่าง ๆ อันเกิดจากระบบการจัดการน้ำ

 24. ภาพเขียนและภาพสลักหินยุคโบราณ ในรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา

มีลักษณะเป็นหุบเขาหินทราย ใกล้แม่น้ำ Milk มีรูปร่างสวยงามแปลกตา ที่เรียกว่า Hoodoo โดยมีสิ่งสำคัญอยู่ก็คือ ภาพเขียนโบราณของชาวแบล็กฟุต (Blackfoot) อายุกว่า 3,000 ปี

┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉

แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ

┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉

 25. French Austral Lands and Seas ประเทศฝรั่งเศส

หมู่เกาะหลาย 10 แห่ง ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ที่เป็นดินแดนอาณานิคมของโพ้นทะเล ของฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในแหล่งอาศัยของนกทะเลที่หนาแน่นที่สุดในโลก รวมถึงเพนกวินจักรพรรดิ

 26. ป่าฮีร์คาเนียน ประเทศอิหร่าน

เป็นป่าโบราณที่มีอายุมากถึง 25-50 ล้านปี ตามแนวชายฝั่งทางใต้ของทะเลแคสเปียน และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายาก อย่าง เสือดาวเปอร์เซีย

 27. เขตรักษาพันธุ์นกอพยพในอ่าวปั๋วไห่ ประเทศจีน

ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลเหลืองในมณฑลเจียงซู ซึ่งเป็นระบบนิเวศน์แบบหาดเลนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งหนองน้ำและสันดอน เป็นแหล่งอนุบาลของปลาและสัตว์น้ำเปลือกแข็งหลากหลายชนิด และเป็นสถานที่ชุมนุมของนกขนาดใหญ่

 28. อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) ประเทศไอซ์แลนด์

ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไอซ์แลนด์ มีลักษณะเป็นพื้นที่ภูเขาไฟ มีภูเขาไฟท่ามกลางน้ำแข็งอยู่ 10 ลูก โดย 2 ลูกเป็นภูเขาไฟกึ่งธารน้ำแข็ง ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉

แหล่งมรดกโลกแบบผสมผสาน
ระหว่างวัฒนธรรม และธรรมชาติ

┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉

 

 29. Paraty and Ilha Grande-Culture and Biodiversity ประเทศบราซิล

Paraty เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลแอตแลนติกใต้ทางตะวันตกของเมืองริโอ เดอ จาเนโร ส่วน Ilha Grande เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่อยู่นอกชายฝั่งใกล้กับเมืองริโอ เดอ จาเนโร โดยเมือง Paratyนั้นเป็นเมืองที่มีอาคารบ้านเรือนสวยงามน่าเที่ยวพักผ่อน และ Ilha Grande ก็เป็นเกาะที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญครบถ้วนทั้ง 5 ประการ มีสัตว์ป่าหายาก เช่น เสือจากัวร์, แพกการีปากขาว และลิงขนแมงมุม

┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉┉

♥ ขอขอบคุณรูปภาพจาก CNN Travel
♥ ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.youtube.com/watch?v=BS_u2wGeb3c&feature=youtu.behttps://travel.kapook.com