หมวดหมู่ > สถานที่ท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา
วัดพระศรีสรรเพชญ์วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สุดในราชสำนักกรุงศรีอยุธยา อยู่ในเขตพระราชฐาน ใช้เป็นสถานประกอบศาสนกิจของพระมหากษัตริย์ ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์อยุธยาเกือบทุกพระองค์ หากเป็นสมัยนี้ก็เปรียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตรในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่ตั้งของวัดเดิมเป็นที่ตั้งพระราชมณเฑียรอันเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ เมื่อพระบรมไตรโลกนาถโปรดให้ย้ายบรรดาพระราชมณเฑียรเลยขึ้นไปทางทิศเหนือ ต่อจากเขตวัดไปจนจรดริมแม่น้ำลพบุรีในปัจจุบัน จึงได้ทรงยกพื้นที่นี้ให้เป็นเขตพุทธาวาส เมื่อปี พ.ศ.1991 บริเวณใจกลางของบริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์ มีพระเจดีย์ขนาดใหญ่ 3 องค์ ตั้งเรียงกัน สลับด้วยมณฑปอีก 3 หลัง ปลายทิศตะวันตกของพระเจดีย์องค์สุดท้ายมีฐานของพระวิหารจัตุรมุข โดยตรงกลางมีเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิ ส่วนมุขทั้งสี่ด้านเชื่อว่าเคยมีพระพุทธรูปนั่ง ยืน นอน และเดิน ด้านทิศตะวันออกต่อกับเจดีย์องค์แรกเป็นวิหารสำคัญที่สุด เพราะบริเวณด้านท้าย ซึ่งเรียกว่า "ท้ายจระนำ" เป็นซุ้มคูหาท้ายวิหารหรือท้ายโบสถ์มักเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป เรียกว่า"ซุ้มจระนํา"ใช้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์องค์ต่างๆ ในวิหารเคยมีพระพุทธรูปหุ้มทองคำหนัก 286 ชั่ง (หรือหนักเท่ากับ 12,880 บาท หรือประมาณ 171 กิโลกรัม) ประทับยืนสูงถึง 8 วา มีพระนามว่า “พระศรีสรรเพชญดาญาณ” ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญที่สุดในสมัยอยุธยา สถูปเจดีย์สามองค์ที่ปรากฏในวัดพระศรีสรรเพชญ์นั้น องค์ที่ตั้งทางตะวันออกและองค์กลาง สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2042 ในรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 โดยองค์ทางตะวันออกบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ซึ่งเป็นพระราชบิดา และองค์กลางเพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระเชษฐาของพระองค์ ส่วนองค์ทางด้านทิศตะวันตกเป็นเจดีย์บรรจุพระอัฐิ ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ซึ่งสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระหน่อพุทธางกูร) พระราชโอรสได้โปรดให้สร้างขึ้น เจดีย์สามองค์นี้เป็นเจดีย์แบบลังกา ระหว่างเจดีย์แต่ละองค์มีมณฑปก่อคั่นไว้ซึ่งคงจะมีการสร้างในราวรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และมีร่องรอยการบูรณะปฏิสังขรณ์หนึ่งครั้งในราวรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ส่วนที่มีการเรียกเจดีย์สามองค์นี้ว่าเจดีย์สามพี่น้อง อาจจะเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนของคนรุ่นหลังที่เรียกตามกันมา เมื่อคราวเสียกรุง ใน พ.ศ. 2310 วัดพระศรีสรรเพชญ์ ถูกพม่าเผาทำลายไปด้วย "พระศรีสรรเพชญ์ดาญาณ" ถูกเผาเพื่อลอกเอาทองคำไปหมด ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญชิ้นส่วนชำรุดของพระประธานองค์นี้ลงมากรุงเทพฯ และบรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้ไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นแล้วพระราชทานชื่อ เจดีย์ว่า “เจดีย์สรรเพชญดาญาณ”ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่าได้ดำเนิน การขุดสมบัติจากกรุภายในเจดีย์ พบพระพุทธรูป เครื่องทองคำมากมาย และในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้มีการบูรณะวัดนี้จนมีสภาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ข้อมูลจาก : siamfreestyle.com |